ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ลิขิตรักราชามังกร

    ลำดับตอนที่ #17 : ป่วนวังมังกร

    • อัปเดตล่าสุด 14 ก.ย. 63





    ตูมมมมมม.....



    เสียงของหนักตกลงไปในน้ำ เป็นเหตุให้น้ำแตกกระจายกลายเป็นระลอกคลื่นเล็กๆ ซัดเข้าริมสระน้ำ เป็นร่างสูงเองที่เสียหลักถูกร่างเล็กผลักตกลงไปในสระน้ำ ที่มีระดับน้ำสูงเทียบเทียมกับหน้าอกของร่างสูง



    "นี่เจ้า!



    "อยากอาบมากนัก ก็อาบเอาเองเลยไอ้เฒ่าหัวงู เเบร่ "



    ร่างเล็กเเลบลิ้นปลิ้นตาใส่ร่างสูง ก่อนจะรีบวิ่งออกจากตรงนั้นไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้ร่างสูงโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยูในสระน้ำแห่งนั้น



    "ร้ายนักนะเจ้า ฝากไว้ก่อนเถิด"



    พูดจบก็รีบขึ้นจากน้ำทันทีตรงกลับตำหนักตนเอง ส่วนร่างเล็กก็ตรงไปยังตำหนักพี่ชายตน



    "ชิ คิดจะเเอ้มกู เร็วไปร้อยปีโว้ยไอ้งูบ้า"



    "ฮ่า ๆ ๆ ช่างสมน้ำสมเนื้อเสียจริงท่าทางพระชายาจะร้ายไม่เบา ท่านจะเอาอยู่รึพะยาค่ะองค์ชาย"



    เสียงองครักษประจำกายพูดขึ้น พลางหัวเราะอย่างขบขันกับสภาพดูไม่ได้ของเจ้านาย เขาไม่ได้เสียมารยาทแอบดูหรอกนะ เเต่มาเห็นเข้าโดยบังเอิญจึงได้เห็นการกระทำทุกอย่างของร่างเล็ก



    "นี่เจ้าบังอาจหัวเราะเยาะข้ารึ คอยดูข้าจะส่งเจ้าไปรับใช้ท่านพี"



    เขาข่มขู่อีกฝ่ายออกมา



    "กระหม่อมเลิกกลัวองค์รัชทายาทไปนานแล้วเเล้วพระยาค่ะ ตั้งแต่ที่พระชายาเย่วซินเสด็จมาที่นี่ ต่อให้องค์ชายลากกระหม่อมไปจริงๆ องค์รัชทายาทก็ไม่กล้าเเตะต้องกระหม่อมหรอกพะยาค่ะ"



    "เจ้าฉลาดขึ้นเเล้วหนิ ซือจิ้น"

    เขาว่าพลางมองคนของตนเขม็งด้วยสายตาที่ไม่ค่อยจะพอใจนัก ที่อีกฝ่ายรู้ทันเขา



    "ก็มันควรจะเป็นเช่นนั้นพระยาค่ะองค์ชาย"



    "หลิงซาน เจ้าเป็นอะไรทำไมลุกลี้ลุกลนชอบกลนัก"



    เย่วซินเอ่ยถามน้องชายออกไป เพาะเขาสังเกตุเห็นท่าทีเเปลกๆ ของน้องชายตนตั้งแต่เข้ามาที่นี่เเล้ว



    "ปล๊าว ไม่มีอะไรเลยท่านพี่ ข้าไม่ได้เเกล้งเจ้างูนั่นเลยจริงจริ๊งงง" (เสียงสูง)



    ร่างเล็กตอบออกไป เเต่ไม่กล้ามองหน้าพี่ชายตน



    "ท่าทางของเจ้าช่างน่าสงสัยยิ่งนัก มีอะไรจะสารภาพรึเปล่า"



    "มะ ไม่มีเลย ไม่มีจริงๆ "



    "หลิงซาน เจ้าคิดว่าข้ามองเจ้าไม่ออกหรือไร ไปก่อเหตุอันใดเอาไว้"



    "กะ ก็มีนิดหน่อย นิดเดียวเอง จริงๆ "



    ร่างเล็กตอบพี่ชายตนเสียงเบาๆ พลางยกมือขึ้นมาทำท่าประกอบไปด้วย ก่อนที่จะสารภาพออกมา



    "เจ้านี่มัน ถ้าเป็นข้าละก็ จะกระโดดตามลงไปจับกดน้ำให้ตายไปแล้ว เจ้าคนปากเสียนั่น"



    ร่างเล็กเเหงนหน้ามองพี่ชายตนอย่างอึ้งๆ เหมือนเขาจะตาฝาด เห็นเขา เเละเขี้ยว งอกออกมาจากร่างบางตรงหน้า



    "เหวอ พี่ชายกูเห็นนิ่งๆ แบบนี้ มารชัดๆ ลำบากท่านเเล้วพี่เขย"



    "เจ้าว่าอย่างไรนะหลิงซานข้าได้ยินนะ!!! ร่างบางตะคอกถามร่างเล็ก



    "ปะ เปล่านะท่านพี่"เขาตอบด้วยอาการเลิกลัก



    "นินทาข้ารึเดี๋ยวจะโดนดี"



    (พี่ชายกูเปลี๊ยนไป๋) สงสัยกินยาผิดเเฮะ



    เช้าวันต่อมา (วังมังกร)



    "ปล่อยข้านะเจ้าพวกบ้า พวกเจ้าจะพาข้าไปไหน"



    เสียงเอะอะโวยวายของหลิงซานดังขึ้นเพราะอยู่ดีๆ ก็ถูกทหารตัวโตยังกับควาย มาลากเขา จะพาไปไหนก็ไม่รู้



    "องค์ชายอี้เฟย ทรงมีรับสั่งให้พวกกระหม่อมมารับ (ลาก) ตัวพระชายาไปยังสระบัวข้างตำหนักองค์ชายพะยาค่ะ"



    ทหารคนหนึ่งใด้ตอบออกไปให้ร่างเล็กหายสงสัย



    "เเต่ข้าไม่ไป ปล่อยนะไม่อย่างนั้นจะหาว่าข้าไม่เตือน"ร่างเล็กขู่ฟ่อ



    "ไม่ได้ เป็นรับสั่ง กระหม่อมขัดมิได้พะยาค่ะ"

    "ไม่ไปโว้ย ไอ้พวกบ้าฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องใช่มั๊ย ได้วันนี้ข้าไม่กระทืบพวกเจ้าให้เละเป็นโจ๊ก อย่ามาเรียกข้าหลิงซานอีก"

    พูดจบ ร่างบางของไป๋หลิงซานที่ขืนตัวเอาไว้ ก็พร้อมปล่อยหมัดหนักๆ ใส่เบ้าหน้าคนตัวโตที่ลากเขาอยู่ เลยทำไห้อีกฝ่ายปล่อยมือจากร่างเล็กทันที่ เพราะความเจ็บปวด หลังจากนั้นก็เกิดการชุลมุลขึ้น



    ตุ๊บ ตับ ผั๊วะ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ หมัดเข่าศอกบาทาทุกอย่างประเคนออกไปไม่ยั้งสุดท้ายก็

    "อ๊ากกกก!! โอ๊ย ๆ ๆ ๆ พระชายากระหม่อมยอมเเล้วโอยยยย"



    "พวกเจ้าไม่ได้เรื่อง เลี้ยงเสียข้าวสุกเสียจริง เเค่กับคนตัวเล็กๆ แค่นี้ พวกเจ้ายังเอาไม่อยู่!!!



    เสียงของอี้เฟยดังมาจากด้านหลัง ทำไห้พวกทหารเหล่านั้นหมอบลงทันที



    "ทูลองค์ชาย พระชายาใช้วิชาต่อสู้ที่แปลกมากพะยาค่ะ กระหม่อมไม่เคยเห็นมาก่อน เลยจับทางไม่ได้"



    ทหารตอบออกไป เขาเลยหันไปมองร่างบาง ก่อนจะพูดบางอย่างออกมา



    "เจ้ามาสู้กับข้า ถ้าสามารถเอาชนะข้าได้ ข้าจะละเว้นโทษที่เจ้าสร้างเอาไว้เมื่อวานนี้ เจ้าจะว่าอย่างไร"



    "ก็ได้ เเต่ท่านต้องรับปากกับข้าก่อน ว่าท่านห้ามใช้กำลังภายในหรือพลังเวทเป็นอันขาด"



    ร่างเล็กต่อรอง เพราะเขาคิดว่าหากสู้ด้วยกำลังเเละไหวพริบ ไม่ใช้กำลังภายในหรือพลังเวทมาช่วย เขาก็น่าจะสู้อีกฝ่ายได้อยู่



    "ข้ารับปากเจ้า"



    "ยังมีอีกข้อ ถ้าหากข้าชนะท่านได้ ท่านห้ามถือโทษข้าเป็นอันขาด"



    "ย่อมใด้"



    เเละเเล้วการปะลองฝีมือของทั้งคู่ก็เกิดขึ้น โดยผลัดกันรุก ผลัดกันรับ (เขาต่อสู้กันอย่าคิดมาก) อี้เฟยพยายามจับทางการต่อสู้ของร่างเล็กอย่างสุดกำลัง เเต่ก็ไม่สามารถจับทางวิชาที่ร่างเล็กใช้ใด้เลย เขาพลาดพลั้งโดนอีกฝ่ายใช้ทั้งหมัดเข่า ศอก ที่ประเคนเข้ามาอย่างยากจะหลบหลีก จนสภาพเขาตอนนี้ดูไม่ได้เบ้าตาดำช้ำเพราะโดนหมัดตามเนื้อตัวก็แดงเถือกไปหมด ปากก็เเตกไหนจะเข่าอีกที่กระเเทกมาที่หน้าท้อง จังหวะนั้นหลิงซานได้โอกาส เตะก้านคออีกฝ่ายลงไปนอนนับดาวอย่างไม่เป็นท่า ก่อนที่อีกฝ่ายหมดสติก็ยกมือขึ้นมาชี้หน้าคนตัวเล็ก



    "เจ้า ฝะ ฝากไว้ก่อนเถิด"



    กล่าวจบร่างสูงก็สลบเหมือด

    "ข้าฝากทักทายองค์เง๊กเชียนด้วยละกัน ฮะ ๆ ๆ "



    (ไปเข้าเฝ้าเง๊กเซียนเรียบร้อย)

    ร่างบางหันไปทางพวกทหาร ก็เห็นพวกเขาตาค้างอ้าปากหว๋อพงาบๆ ทำอะไรไม่ถูก ไม่คิดว่าตัวเล็กๆ บอบบางเช่นนี้จะสามารถล้มนายเหนือหัวของพวกเขาลงได้ โดยที่ตนเองไม่มีเเม้เเต่รอยขีดข่วน มันน่าหลือเชื่ออะไรเช่นนี้



    "อ้าวพวกเจ้า ยืนทำบื้ออะไรอยู่ รีบพานายของพวกเจ้ากลับตำหนักไปเซ่ เดี๋ยวก็ได้กลายเป็นปุ๋ยหรอก"



    "พะ พะยาค่าพระชายา กระหม่อมจะรีบไปเดี๋ยวนี้ อูยยย ดุจริงๆ ดุอย่างกับ"



    "ข้าได้ยินนะ อยากตายรึไง"



    "ไม่อยากพะยาค่ะ กระหม่อมทูลลา ไปพวกเรากลับ ถ้ายังอยากมีชีวิตอยู่"



    พรวดดด เสียงถอนใจออกมาอย่างโล่งใจ ที่สามาถชนะคนตัวโตได้ เขาก็เกือบจะเเย่เหมือนกัน ถ้าหากไม่ใช้วิชามวยไทยที่เเม่เขาคะยั้นคะยอให้เรียนมาคงเอาชนะอีกฝ่ายไม่ใด้ ต้องขอบคุณแม่จริงๆ ไม่นึกว่ามันจะเป็นประโยชน์อย่างมาก สำหรับที่นี่ แล้วหลังจากนี้ล่ะ เขาจะทำยังไง ร่างสูงคงไม่ปล่อยเขาไปง่ายๆ เเน่



    "เวรเเล้ว หาเรื่องซวยใส่ตัวอีกแล้วนะไอ้ซาน ทีนี้จะเอาไงต่อวะ"

    "ฮ่าๆๆๆ เจ้าทำได้ดีจริงๆ น้องรัก ครานี้เจ้าคนปากเสียนั่น คงได้อับอายทั่วทั้งอาณาจักรเป็นแน่"



    เย่วซินที่ได้ยินข่าวลือเรื่องของน้องชายเข้า ก็หัวเราะอย่างถูกใจ นี่สิสมเเล้วที่เป็นน้องชายเขา

    ข่าวลือเรื่องของร่างบางดังไปทั่วอาณาจักรมังกร ต่างก็เล่าลือต่อๆ กันไปจนไปเข้าหูองค์รัชทายาทของเผ่ามารเข้าเป็นเหตุให้เขาลักลอบเข้ามาในวังมังกรเพื่อจะดูหน้าบุรุษที่มีคนพูดถึงความสามารถว่าล้มอี้เฟยได้ โดยที่ตนไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่รอยขีดข่วนก็ไม่มี เขาเลยเกิดความสนใจขึ้นเป็นพิเศษ เเละตัดสินใจลักลอบเข้ามาที่นี่ เเล้วได้เห็นคนที่อยากเห็นก็วันนี้นี่เอง เเต่ร่างบางสองคนใครคือคนที่ตนอยากเห็นกัน หากเเต่ได้มองมาจากที่ใกล้ๆ ก็เกิดถูกใจคนโตมากกว่าคนเล็กเพราะรูปงามเหลือเกิน



    "คนนี้สินะคู่ของเจ้าเฟยหลง ช่างงดงามยิ่งนักข้ามิเเปลกใจเลย หากว่ามันจะหวงแหนถึงเพียงนี้"







    หลังจากเหตุการวันนั้น หลิงซานก็ไม่กล้ากลับไปนอนตำหนักตนเองอีกเลย เพราะรู้ว่าอี้เฟยจ้องจะเอาคืนเขาอยู่ ที่ทำไห้ต้องอับอายเขาเลยต้องพึ่งใบบุญพี่ชายตนอ้อนขอมานอนด้วย ซึ่งเย่วซินก็ไม่ขัดข้องกลับช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ขนาดเฟยหลงมาพูดขอร้องไห้ส่งหลิงซานกลับตำหนักตนเอง เเต่ก็ไม่ได้ผลเขาสะใจยิ่งนักที่หลิงซานเล่นงานคนปากเสียอย่างอี้เฟยจนสลบเเบบนั้น



    "ท่านพี่ช่วยข้าสักเรื่องจะได้หรือไม่"



    อี้เฟยทนต่อไปไม่ไหวอีเเล้ว เลยเข้ามาขอร้องให้เฟยหลงช่วย



    "ว่ามาสิ"



    "ท่านทำอย่างไรก็ได้ ให้พี่สะใภ้ยอมปล่อยเสี่ยวไป๋กลับตำหนักเสียที นี่ก็ผ่านมาหลายวันแล้วข้าไม่ได้เห็นหน้าเขาเลย"



    "ข้าจะช่วยพูดให้ เเต่ไม่รับปากหรอกนะว่าจะสำเหร็จหรือไม่"



    "แค่นี้ก็ดีมากแล้ว ขอบคุณท่านพี่มากทีช่วยเหลือข้า"



    อี้เฟยยิ้มออกมาอย่างดีใจ หากพี่ชายตนสามารถเกลี้ยกล่อมพี่สะใภ้ให้ส่งร่างเล็กกลับมายังตำหนักได้ เขาก็มีโอกาสเอาคืนอีกฝ่ายใด้ง่ายขึ้น คิดแล้วยังเคืองไม่หาย ตัวก็เล็กนิดเดียวเเต่สามารถล้มทหารเป็นสิบได้ เเละที่สำคัญทำเอาเขาสลบจนต้องถูกหามกลับมา ขายหน้ายังไม่เท่าเจ็บใจตนที่สู้คนตัวเล็กไม่ได้



    "ท่านพี่ เขาใช้วิชาอะไรกันช่างร้ายกาจนัก ข้าไม่สามาถเดาทางเขาได้เลยเเม้เเต่น้อย"



    อี้เฟยได้กล่าวกับพี่ชายตน

    "ถือว่าไม่เลวเลยที่สามารถล้มเจ้าใด้ด้วยมือเปล่าข้านับถือ"



    "ท่านพี่ไม่ได้เข้าข้างข้าเลยรึ"น้องชายประท้วงเข้า



    "ข้าก็พูดไปอย่างนั้นเองเจ้าอย่าได้คิดมากไปเลย เอาล่ะข้าจะไปพบเย่วเอ๋อร์เสียหน่อย"



    "ท่านอย่าลืมที่ข้าขอท่านเอาไว้ล่ะท่านพี่ เเล้วข้าจะรอฟังข่าวดี"



    พูดไม่ทันจบร่างสูงของพี่ชายก็หายไปแล้วเขาเลยได้แต่ถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายออกมา



    "เจ้าทำข้าเจ็บเเสบนักเสี่ยวไป๋ ทำข้าอับอายไปทั่วทั้งอาณาจักร เจ้าต้องรับผิดชอบกับการกระทำในครั้งนี้"

    ตกดึกที่ตำหนักของเย่วซิน



    "ท่านพี่ มันจะดีหรือเดี๋ยวพี่สะใภ้เล่นงานข้าท่านต้องช่วยข้านะ"



    "ไม่หรอกเย่วเอ๋อร์ไม่ได้ใจร้ายอย่างที่เจ้าคิดหรอกนะ เลิกกังวลเเล้วทำตามที่ข้าบอก"



    เสียงคุยกันดังอยู่ในตำหนักที่มีร่างงามของสองพี่น้องนอนหลับสนิทอยู่ เฟยหลงทนการรบเร้าของน้องชายไม่ได้อีกต่อไปเเล้ว จึงคิดทาวิธีที่จะเเยกทั้งสองออกจากกัน เเละมันก็เป็นความต้องการของเขาด้วย



    "อี้เฟยเจ้ารีบอุ้มเขาไปสิ จะรอช้าอยู่ใย"



    "ได้ท่านพี่"



    พูดจบอี้เฟยก็ตรงเข้ามาอุ้มพาร่างบางออกจากตำหนักของเย่วซินทันที คนถูกอุ้มเพี่ยงเเค่ขยับตัวเล็กน้อยเเล้วก็หลับต่อ



    "เสี่ยวไป๋ครานี้เจ้าหนีข้าไม่พ้นหรอกหึหึ"

    ร่างสูงว่าพลางก็หัวเราะในลำคออย่างสมใจ ก่อนจะเร่งฝีเท้าตรงไปยังตำหนักของร่างเล็กอย่างรวดเร็ว เพียงชั่วครู่ก็ถึงที่หมาย เขาค่อยๆ วางร่างบางลงบนที่นอนนุ่มอย่างเบามือ กลัวว่าตนจะทำให้ร่างเล็กตื่นเอาได้เขาล้มตัวลงนอนเคียงข้าง มือหนาเอื้อมไปคว้าคนตัวเล็กเข้ามากอดเอาไว้ พร้อมก้มลงจุมพิหน้าผากมลก่อนที่จะหลับไปด้วยกัน

    ตอนเช้าที่ตำหนักของเย่วซิน

    ร่างบางค่อยๆ ขยับเปลือกตาก่อนจะลืมขึ้น สิ่งเเรกที่ตนสัมผัสได้คือความรู้สึกหนักๆ ตรงช่วงเอว จึงคิดว่าเป็นมือของน้องชายที่เผลอกอดเขาตอนนอนหลับเช่นนี้ร่างบางนอนหันหลังไห้อีกฝ่าย จึงไม่เห็นว่าที่เเท้แล้วคนที่กอดตนไว้ ไม่ใช่น้องชาย

    "หลิงซาน เอามือของเจ้าออกจากเอวข้าได้แล้ว มันหนัก"



    "ขอกอดอีกสักประเดี๋ยวเถิดเย่วเอ๋อร์ข้ายังอยากจะนอนต่ออีกหน่อย"



    ร่างบางเบิกตาโต ก่อนจะรีบหันกลับมามองคนพูดอย่างตกใจปนสงสัย



    "ท่านมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร แล้วหลิงซานหายไปไหน ท่านพาเขาไปใช่ไหมเฟยหลง!!

    ถามออกมาอย่าโกรธเคือง



    "ข้าไม่ได้พาเขาไปไหนหรอก อี้เฟยต่างหากที่พาน้องชายเจ้าไป"



    "ท่านจะบอกข้าว่าท่านไม่มีส่วนรู้เห็นใช่หรือไม่ เจ้าเล่ห์ทั้งพี่ทั้งน้องข้าไม่ชื่อท่านหรอก เอาน้องชายข้าคืนมานะ ไม่เช่นนั้นข้าจะฆ่าพวกท่านทั้งคู่ ไอ้คนเจ้าเล่ห์"



    เย่วซินพูดออกมาด้วยความเดือดดาลก่อนจะรีบลุกตรงไปคว้าดาบมาถือเอาไว้ในมืออย่างมั่นคง ดวงตาสวยมองจ้องดวงตาคมอย่างเอาเรื่อง ตอนนี้เฟยหลงคิดว่าคนตรงหน้า ดุยิ่งกว่าเสือแม่ลูกอ่อนเสียอีก ร่างบางรีบออกจากตำหนักเเต่ก็ถูกเฟยหลงขวางเอาไว้



    "นั่นเจ้าจะไปไหนกันเย่วเอ๋อร์"



    "หลีกไปไห้พ้นนะ ถ้าท่านไม่อยากเจ็บตัว"



    ร่างบางชักเอาดาบออกมาเเละชี้ตรงไปยังร่างใหญ่ตรงหน้า สายตาที่มองมาทางเขาบอกว่าเอาจริง



    "ร้ายนักนะเจ้า อย่าเผลอก็แล้วกัน ข้านี่เเหละจะจับเจ้าถอดเขี้ยวถอดเล็บ เสียให้สิ้นแมวน้อยของข้า"



    "ท่านอยากตายนักใช่ไหม ข้าจะฆ่าท่านให้หายเเค้น!!!



    ร่างบางพูดจบก็ตรงมาหาร่างใหญ่ ใช้ดาบฟาดฟันอีกฝ่ายอย่างแค้นเคือง เฟยหลงทำได้เพียงแค่คอยรับ เเละหลบหลีกเท่านั้น ทำให้ร่างบางโกรธเคืองยิ่งกว่าก่อนหลายเท่านัก






    ในขณะที่ตำหนักพี่ชายใด้เกิดสงครามขึ้นอย่างดุเดือด คนเป็นน้องยังนอนหลับอย่างสบายอยู่ในอ้อมกอดของอี้เฟยอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว อี้เฟยนอนมองใบหน้างามยามหลับของอีกฝ่ายอย่างไม่รู้จักเบื่อ สักพักร่างเล็กที่นอนหลับอยู่ก็ขยับตัว เป็นสัณญานว่ากำลังจะตื่น เปลือกตาบางขยับเปิดขึ้น ก็เห็นใบหน้าหล่อเหลาของอี้เฟยมองเขาพร้อมส่งรอยยิ้มมาให้



    "เหี้ยยย!!



    ร่างเล็กอุทานออกมาด้วยความตกใจก่อนจะเด้งตัวรีบกระโดดลงจากที่นอนทันที เขานอนอยู่กับพี่ชายไหงตื่นมาที่ห้องตัวเองได้ล่ะ หรือเจ้างูบ้าเป็นคนพาเขามา



    "ข้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร หรือท่านเป็นคนพาข้ามา"

    ร่างบางถามออกไป

    "ใช่ข้าพาเจ้ามาเอง ครานี้ก็ถึงทีข้าบ้าง เจ้าทำข้าเอาไว้เจ็บเเสบยิ่งนัก"



    "อ้าว ขี้แพ้ชวนตีนี่หว่า ก็ท่านเป็นคนท้าข้าเองนี่ จะมาโทษข้าใด้เช่นไรกัน แพ้เเล้วพาลใม่ใช่นิสัยนักเลง"



    ร่างเล็กพูดแย้งออกไป เเต่เขาก็หาใด้สนใจแต่อย่างใด พลางก้าวเท้าเข้ามาหาคนตัวเล็กเรื่อยๆ



    "ข้าไม่สน เจ้าต้องชดใช้"



    "ชดใช้อะไร ข้าไม่ผิดเสียหน่อย ท่านมันขี้โกง"



    ร่างสูงเดินเข้าหาร่างเล็กอย่างคุกคามสายตาเจ้าเล่ห์ที่มองมายังคนตรงหน้า เป็นเหตุให้ร่างเล็กรีบถอยหนีเพื่อเอาตัวรอด เเต่ช้ากว่าคนตรงหน้าซึ่งตอนนี้คว้าร่างเล็กเข้ามากอดเอาไว้เเน่น ก่อนที่จะใช้จมูกซุกไซร้ที่ลำคอขาวผ่องของร่างเล็กหลิงซานตกใจกับการกระทำของอี้เฟย



    "เดี๋ยว ไหนท่านเคยบอกข้าว่า หากผูกพันธะเเล้ว จะไกล้ชิดกันเกินควรไม่ได้เเล้วนี่"



    ร่างเล็กเอ่ยท้วงขึ้นมาเมื่อนีกบางอย่างออก เเต่คำตอบที่ได้พาเอาเสียวสันหลังวาบ



    "ทุกอย่างย่อมมีวิธี หรือข้อยกเว้น"



    อี้เฟยโกหกร่างเล็กเสียคำโต จริงๆ เเล้วหากผูกชะตากันเเล้วไม่ว่าจะอย่างไร ห้ามสัมผัสลึกซึ้งเป็นอันขาด เพื่อหลีกเลี่ยงความสัมพันลึกซึ้งที่อาจจะเกิดขึ้นก่อนที่จะเข้าพิธีอภิเษก เพราะเลือดบริสุทธิ์ของคู่พันธะเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องทำพิธีเรียกสัตว์เทพของคู่ชะตาให้ปรากฎขึ้นในคืนส่งตัว มันจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เขาทั้งคู่ต้องปฏิบัตอย่างเคร่งครัด



    "ท่าน จะไม่ทำเช่นนั้น ใช่หรือไม่"



    ร่างเล็กเริ่มจะรู้สึกหวาดกลัวคนตรงหน้าเข้าจริงๆ เสียเเล้ว จากสายตาคุกคามที่มองเขาอยู่



    "เจ้ามันดื้อดึงนัก"เขาพูดช้าๆ มองหน้าอีกฝ่าย



    "ข้าจะไม่ดื้อ จะเป็นเด็กดี"

    ร่างเล็กรีบพูดออกมาหวังเอาตัวรอด



    "ข้าจะเชื่อเจ้าดีหรือไม่เสี่ยวไป๋"



    "ดีสิดีๆ " ร่างบางตอบอย่างร้อนรนพยายามทำตัวให้ว่าง่ายเข้าไว้เเต่เเล้ว

    "เจ้า ไอ้คนเจ้าเล่ห์ ไอ้หัวโขมยบังอาจไปโขมยน้องข้ามา ข้าจะฆ่าเจ้า!!!



    เย่วซินผลุนผลันเข้ามา ใช้ดาบจ่อที่ลำคอของอี้เฟยอย่างโกรธจัด อี้เฟยเห็นดังนั้นก็หน้าซีดลงสายตามองไปยังพีชายเพื่อขอความช่วยเหลือ ก็เพิ่งจะเคยเห็นพี่สะใภ้โกรธจริงๆ ก็ครานี้ไหนพี่ชายบอกเขาว่า พี่สะใภ้ใจด ีแล้วนี่มันอะไรกัน ดุอย่างกับจงอางหวงไข่อย่างไรก็อย่างนั้น



    "ท่านพี่ช่วยข้าด้วย พี่สะใภ้เอาดาบออกจากลำคอข้าเถิด มันคม"



    "ใครก็ช่วยเจ้าไม่ได้หรอก"



    เย่วซิยตอบออกไปสายตาวาววับมองหน้าอี้เฟยอย่างเอาเรื่อง



    "เสี่ยวไป๋ เจ้าช่วยข้าด้วย" เขาขอความช่วยหลือจากร่างเล็ก



    "ไม่มีทาง สมน้ำหน้าไอ้งูลามก"



    "นี่เจ้า!! ท่านพี่เหตุใดท่านปล่อยพี่สะใภ้ออกมาใด้"



    "ถ้าข้ายังขืนรั้งเขาไว้ละก็ มีหวังเขาพังตำหนักไม่เหลือชิ้นดีเป็นแน่"



    เฟยหลงพูดขึ้น พลางคิดย้อนกลับไปเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา ร่างบางเกือบจะเผาตำหนักของตนเองเสียแล้ว ข้าวของกระจัดกระจายเกลื่อนทั้งตำหนัก จนเขาต้องยอมปล่อยออกมา



    "ท่านพี่ ท่านพาพี่สะใภ้กลับตำหนักก่อนเถิด" อี้เฟยกระซิบกับพี่ชายตน



    "คงไม่ได้ ตอนนี้นางกำนันกำลังช่วยกันเก็บกวาดคงต้องรออีกสักพัก"



    เฟยหลงตอบออกไป

    "ถ้าเช่นนั้น ท่านพี่ก็พาไปไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ที่นี่ คนอะไรดุอย่างกับเสือ น่ากลัวยิ่กนัก ท่านพี่คงต้องเหนื่อยเพิ่มขึ้นเเล้ว"



    "เล็กน้อย ปล่อยเขาไปก่อน เอาละเดี๋ยวข้าจะพาเขาออกไปเอง เจ้าจะทำเช่นไรก็รีบเข้าล่ะ เเต่เจ้ารู้ใช่หรือไม่ว่าห้ามเกินขอบเขต ไม่เช่นนั้นคราหน้าข้าจะไม่ช่วยเจ้า"



    "ข้ารู้" อี้เฟยตอบเฟยหลงเลยพยักหน้ารับรู้



    "เอาล่ะเย่วเอ๋อร์เจ้าไปกับข้า"



    ร่างสูงพูดจบก็คว้าร่างบางให้เดินมาด้วยกัน แต่ร่างบางขัดขืนหนักเข้าเฟยหลงเลยจับเย่วซินขึ้นพาดเอาไว้บนบ่าหนาเเล้วพาออกไป



    "ครานี้ก็เหลือเเต่เจ้ากับข้า ข้าว่าใด้เวลาอาบน้ำแล้ว"



    พูดจบก้มลงช้อนเอาร่างเล็กมาไว้ในวงเเขนมุ่งหน้าไปยังสระน้ำทันที



    "เจ้าบ้าปล่อยข้านะท่านจะทำอะไร!!



    "อาบน้ำอย่งไรล่ะ อาบด้วยกัน"



    "ไม่เอาไม่อาบปล่อยข้าไอ้งูโรคจิตร"



    "หยุดดิ้นได้เเล้วเสี่ยวไป๋ เจ้ากำลังปลุกมังกรของข้าให้ตื่นขึ้นมานะ"



    ร่างเล็กหยุดดิ้นทันทีรับรู้ถึงความเเข็งขึง ที่กำลังดุนดันสะโพกของตนเองอยู่ แค่นี้ก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายกำลังเกิดอารมณ์เข้าเเล้ว ยิ่งตอนเช้าๆ เเบบนี้ด้วยแล้วยิ่งเกิดขึ้นง่าย ร่างเล็กเลยไม่อยากเสี่ยงกับอะไรทั้งสิ้น



    "อยู่นิ่งๆ ซักประเดี๋ยวเถิด เดี๋ยวมันก็สงบลงเอง"



    อี้เฟยพูดออกมาชิดใบหูเล็กด้วยน้ำเสียงเเหบพร่า เล่นเอาหลิงซานหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันทีที่เห็นสายตาของคนตรงหน้า เเม้จะรับรู้ถึงความเจ้าเล่ห์ของอี้เฟยดีเเต่สายตาที่มองเขาอยู่ มันทำให้ร่างเล็กคิดเป็นอื่นไปไม่ใด้เลย



    สระน้ำ



    ถึงตอนนี้ทั้งคู่ก็ลงมาอยู่ในสระเป็นที่เรียบร้อย โดยที่อี้เฟยใช้อ้อมเเขนตนกอดรัดหลิงซานเอาไว้



    "ท่านปล่อยข้าไปเถิดนะ"



    ร่างบางอ้อนออกไป เอาเข้าจริงเขาคงไม่เอาชะนะอี้เฟยเป็นครั้งที่สองได้อีกแน่ๆ



    "ไม่ เจ้าทำข้าไว้เจ็บนัก วันนี้ข้าจะเอาคืน"



    เขาขู่ให้ร่างเล็กกลัวไปอย่างนั้นเอง เเต่มันก็ได้ผลร่างเล็กกลัวเขาจริงๆ เขาเลยเลิกเเกล้ง



    "ข้าจะไม่ทำอะไรเจ้าถ้าเจ้าเลิกดื้อดึงกับข้า"



    "ข้าจะไม่ดื้ออีกเเล้ว"



    (ตอบไปอย่างนั้นเอาตัวรอดไว้ก่อน)



    ร่างเล็กเดิมที่ก็ชอบน้ำป็นชีวิตอยู่เเล้วพอมาเจอน้ำเย็นสดชื่นของสระน้ำที่เต็มไปด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้ กลิ่นหอมชื่นใจก็พาให้ร่างเล็กยิ้มสดใสออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ โดยลืมไปเลยว่าตนไม่ได้อยู่คนเดียว อี้เฟยมองปฏิกิริยาของร่างเล็กอย่างเผลอไผล ความน่ารักสดใสเป็นธรรมชาติเเบบนี้ ไม่เคยเห็นจากร่างเล็กตรงหน้าเลยสักครั้ง ร่างเล็กใช้มือสบัดตีน้ำเล่นเป็นจังหวะเดียวกับสายน้ำที่โดนฝ่ามือน้อยๆ ปัดผ่าน ก็เกิดปฏิกิยาก่อตัวขึ้นเป็นกลุ่มน้ำเล็กๆ ไหลวนรอบๆ ตัวร่างบางอย่างน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก หลิงซานมองอย่างตื่นเต้นเเละระคนสงสัย ว่าสิ่งที่ตนเห็นมันคืออะไร อี้เฟยที่ยืนมองเหตุการณ์อย่างเงียบๆ ก็รู้ได้ในทันที ร่างเล็กหันไปถามร่างใหญ่ให้หายสงสัย



    "นี่ท่าน พอจะรู้หรือไม่ว่ามันคืออะไร"



    "เรียกข้าว่า ท่านพี่ ก่อนสิเเล้วจะบอก"ร่างสูงต่อรอง



    "ไม่มีทางหรอกงูโรคจิตร"



    "โรคจิตรมันคืออะไร"



    "ท่านอย่ารู้เลย เอาเป็นว่าเป็นคำชมเชย เเละมันก็เหมาะสมสำหรับตัวท่านที่สุด"



    "ถ้าเจ้าว่าดี ข้าก็ว่าดีเช่นกัน"


    อี้เฟยตอบอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร หลิงซานแอบหัวเราะอีกฝ่ายที่โดนเขาหลอกด่า



    "ครานี้บอกข้าได้หรือยัง"



    ร่างเล็กทวงถามเรื่องที่ตัวเองติดใจสงสัย


    "ข้าจะบอกเจ้าก็ได้เป็นรางวัลที่เจ้าชมเชยข้า"



    "อึม ดีมากเเล้วข้าจะชมเชยท่านอีกบ่อยๆ หึ หึ"



    (หลอกง่ายชิบหาย)



    ร่างเล็กคิดพร้อมส่งรอยยิ้มไปให้ เล่นเอาคนมองถึงกับตาพร่าไปชั่วขณะ



    "เจ้ารู้ตัวหรือไม่ ว่าตัวเจ้านะมีธาตุอะไร"



    "ไม่หนิธาตุ มันคืออะไรข้าไม่เข้าใจ"



    "เจ้าไม่รู้จริงๆ หรือ เจ้าไม่ใช่คนของเผ่าหงส์ไฟหรอกรึ"



    "ไม่หรอก ข้าเป็นคนต่างถิ่นพลัดหลงมา ดีที่มีท่านพี่คอยช่วยหลือมาตลอด"



    ร่างเล็กเล่าความจริงให้ร่างใหญ่ฟังคร่าวๆ เท่านั้น ร่างใหญ่พยักหน้ารับรู้เเต่ก็อดสงสัยไม่ใด้ว่าหากไม่เกี่ยวข้องอันใดกับเผ่าหงส์ไฟล่ะก็ คงจะไม่มีสัญลักษ์ปรากฎขึ้นกับร่างเล็กได้เป็นแน่



    "เจ้ามีธาตุประจำกายคือน้ำ เวลาเจ้าอยู่กับน้ำเจ้าจะสดใสเเละมีความสุขใช่หรือไม่เสี่ยวไป๋"



    "ก็ใช่เเต่มัน ไม่เข้าใจอยู่ดี"



    "ธาตุน้ำคือธาตุประจำกายของเจ้า มันจะมีพลังอยู่ในตัว เพียงเเต่เจ้าต้องฝึกฝนเพื่อจะดึงพลังส่วนนั้นออกมาใช้ หากเมื่อไรที่เจ้าฝึกจนชำนาน เจ้าก็จะสามารถควบคุมมันได้อย่างข้า"



    เขาพูดจบก็เเสดงไห้ร่างเล็กเห็นว่ามันเป็นเช่นไร หลิงซานมองอย่างตื่นเต้นที่เห็นร่างใหญ่ใช้ฝ่ามือบังคับสายน้ำ ไห้เป็นไปอย่างที่ตนต้องการ



    "ถ้าเช่นนั้นท่านพี่ของข้า ก็มีธาตุไฟประจำกายนะซิ ข้าเคยเห็นท่านพี่ใช้มันป้องกันตัว หมายความว่าน้ำก็สามารถป้องกันตัวใด้ซิ"



    "ใช่มันใช้ใด้ทั้งป้องกันเเละทำร้ายอีกฝ่ายในคราเดียวกัน เเต่เจ้ายังต้องฝึกฝนอีกมาก กว่าจะเรียกใช้พลังของธาตุน้ำได้"



    "ท่านฝึกให้ข้าซิ" ร่างเล็กใช้ไม่ตายร้องขอจากร่างใหญ่ด้วยเสียงออดอ้อน อี้เฟยเเพ้ทางร่างเล็กไปนานเเล้ว เเต่ทำใจแข็ง



    "เรียกท่านพี่ก่อนซิ"



    "ไม่" ร่างเล็กปฏิเศษ



    "ถ้าเช่นนั้น เจ้าคงต้องหาคนอื่น"



    "ข้าให้ท่านพี่ฝึกให้ก็ได้"

    ร่างเล็กทำหน้าหงิกหน้างอตอบออกไป

    "เเต่พี่เจ้าธาตุไฟมิใช่รึ คงยากสักหน่อยล่ะที่ต้องมาฝึกคนธาตุน้ำ"



    "ถ้าเช่นนั้น ท่านก็ฝึกให้ข้านะ"

    (จ้องอีกฝ่ายตาเเป๋ว)



    - _ - เงียบ



    (ก็ได้ จะเล่นกันอย่างนี้ใช่ไหม พ่อจะเอาไห้กลับบ้านไม่ถูกเลยคอยดู)



    หมับ มือบางจับแขนคนตัวโต เอียงหน้าซบลงมาที่ไหล่เเกร่ง ช้อนสายตาหวานขึ้นมามองอีกฝ่ายอย่างออดอ้อน อี้เฟยเห็นเช่นนี้ ถึงกับทำอะไรไม่ถูกหน้าเเดงก่ำอย่างเขินอาย



    "ท่านพี่" ร่างเล็กพูดเสียงอ่อนเสียงหวานอย่างสุดกำลัง

    0_0

    (แย่เเล้ว หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ ข้าคงตายเข้าสักวัน)



    "ก็ได้ข้ายอมเจ้าเเล้วเสี่ยวไป๋ เเต่เจ้าอย่าได้ไปทำเช่นนี้กับใครเป็นอันขาด ถ้าไม่อยากให้คนผู้นั้นตาย"



    ร่างเล็กยิ้มออกมาด้วยความดีใจ เเต่ก็อดค่อนเเคะในใจไม่ได้



    (คนบ้าอำนาจ ชิ)



    หลังจากนั้น การสอนขั้นพื้นฐานก็เริ่มขึ้น (ตัวเปื่อยกันหมดก็ครานี้)



    ++++++++++++++++++++++



    #เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ไรท์แต่งนะคะอาจมีบางอย่างไม่สมเหตุสมผลอยู่บ้าง ก็ต้องขออภัยนะที่นี้ด้วย????????????

    ช่วงนี้คู่รองมาแรงเเซงโค้ง ให้คู่รองเขานำไปก่อนเนอะ เพราะไรท์แพ้ความน่ารักสดใสของเสี่ยวไป๋ ส่วนคู่เอกค่อยตีโค้งขึ้นมา เเละเเซงคู่รองไปในที่สุด ฮะ ฮะ ฮะ

    เป็นยังงัยกันบ้างคะ สนุกหรือเปล่าหรือว่าน่าเบื่อก็เม้นมาบอกกล่าวได้นะจ๊ะ

    ไรท์ก็ขอฝากเสี่ยวไป๋ กับเย่วเอ๋อร์เเละพ่อมังกรรูปหล่ออีกสองคนด้วยนะคะ

    กดติดตาม และเม้นมาเยอะๆ นะคะทุกคน????????????
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×