ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ลิขิตรักราชามังกร

    ลำดับตอนที่ #15 : ดื้อดึง

    • อัปเดตล่าสุด 30 ส.ค. 63



            ตอนที่15 ดื้อดึง



    "ฮึก ฮือๆๆๆ ท่านพ่อ ข้าไม่ยอมหรอกนะ เย่วซินเป็นคู่หมายของข้า ข้าไม่ยอมยกเขาให้ใครหรอกนะ ข้าไม่ยอม"



    หนิงอันร้องให้ฟูมฟายเสียยกใหญ่เพราะยังหาทางออกไม่ได้



    "เจ้าตัดใจเสียเถิดหนิงอัน แก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้วล่ะมันเป็นชตาของเขา

    ข้าก็คิดไม่ถึงเช่นเจ้า เย่วซินเป็นถึงคู่ชะตาขององค์ราชามังกร มันคงจะเป็นกรรมของพวกเจ้าสองคน ที่มิอาจสมหวังดั่งที่ตั้งใจไว้"



    "ไม่จริงข้าไม่ยอมรับ มันต้องมีวิธีซิเจ้าคะ หรือพวกเราจะ"



    "หยุดเพ้อเจ้อได้เเล้วหนิงอัน ข้าบอกว่ามันสายเกินจะเเก้ไขเเล้ว เจ้ายังมิรู้ความอยู่อีกรึ!!!



    หญิงสาวยกมือปิดหน้าร้องไห้วิ่งตรงกลับบ้านเพราะไม่อยากอยู่รับรู้อะไรอีกแล้ว เพราะแค่นี้หัวใจนางก็รวดร้าวเกินจะทน หลวนคุณได้เเต่มองบุตรสาวของตนด้วยความสงสารที่ครั้งนี้ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย มันคงจะจบเเล้วจริงๆ หนิงอันกับเย่วซิน ทั้งคู่คงไร้วาสนาต่อกันจริงๆ เรื่องมันถึงได้เป็นเช่นนี้ อีกฝ่ายกลายเป็นบุคคลต้องห้ามเป็นดวงใจของมังกรตนนั้นแค่มองการกระทำ สายตาที่ห่วงหา และอาการยินดีที่คู่ชะตาของตนเป็นคนที่ตนหมายปองและคาดหวังเอาไว้ เเค่นี้ก็รู้เเล้วว่ามังกรตนนั้นรักเเละหวงคู่ของตนเองมากขนาดไหน เเล้วใครล่ะจะกล้าเอาชีวิตเข้าไปเสี่ยง



    ทางด้านเย่วซินเฟยหลงวางร่างบางที่ไร้สติในอ้อมเเขนลงอย่างนุ่มนวล ร่างบางยังคงหลับไหลอยู่ในอ้อมกอดของคนตัวโตโดยที่ไม่รับรู้เลยว่ามือหนากำลังเปลื้องผ้าตนออกอย่างช้าๆ จนเหลือชิ้นสุดท้ายที่ร่างสูงปล่อยให้มันทำหน้าที่ปกปิดท่อนล่างเอาไว้ ก่อนที่จะอุ้มร่างบางขึ้นอีกครั้งมุ่งตรงไปยังเป้าหมายนั่นก็คือกลางบ่อน้ำที่ดูเเล้วไม่ได้ใหญ่โตมากนัก เขาวางร่างบางลงโดยให้อีกฝ่ายหันแผ่นหลังบางมาพิงกับหน้าอกเเกร่งของตน ศรีษะของคนตัวเล็กซบลงกับไหล่กว้างของเขา มือข้างหนึ่งโอบกอดร่งบางเอาไว้ อีกข้างที่เหลือใช้ตักน้ำราดรดร่างกายคนตรงหน้าขัดถูจนเกลี้ยงเกลา สายตาคมจ้องมองสัญลักษ์ที่ตนเรียกขึ้นมา ก่อนจะยกยิ้มขึ้นอย่างสมดั่งใจ



    "สุดท้ายเเล้วเจ้าก็หนีข้าไม่พ้นจริงๆ ข้าดีใจยิ่งนักชายาข้า"



    "อือๆ นะหนาว ท่ายเเม่ข้าหนาว"



    ร่างบางเริ่มจะได้สติขึ้นมาบ้างเเล้วเเต่ยังไม่สมบูรณ์เสียทีดียว เฟยหลงเห็นอาการหนาวสั่นของคนตรงหน้าก็รีบพูดเพื่อปลอบอีกฝ่าย



    "เจ้าอดทนสักหน่อยประเดี๋ยวก็เสร็จเเล้ว"



    เหมือนเย่วซินจะได้สติมากขึ้น ร่างบางเลยฝืนเปิดเปลือกตาที่หนักอึ้งของตน ภาพเเรกที่ตนเห็นคือใบหน้าคมที่ตนจำได้ว่าเขาคือคนที่เกือบจะจับตนแก้ผ้าในตอนนั้น เเต่เอะทำไมมันรู้สึกเเปลกๆ อย่างนี้นะหนาวๆ พิกลพอสติมาครบเท่านั้น



    "ทะ ท่านทำอะไรกับข้าแล้วเสื้อผ้าล่ะเสื้อผ้าข้าหายไปไหน"



    ร่างเล็กทะลึ่งลุกพรวดพราดเป็นเหตุให้ร่างกายซวนเซเพราะยังปรับสภาพไม่ได้เท่าที่ควร เฟยหลงรีบรวบร่างเล็กเข้ามาในอ้อมกอดทันที



    "นี่เจ้าจำอะไรไม่ได้เลยหรืออย่างไรเย่วเอ๋อร์"



    เขาก้มลงไปพูดกับร่างบางซึ่งตอนนี้ยืนตะลึงไปแล้วหลังจากที่ได้ยินคำพูดที่คิดว่าเคยได้ยินจากปากของใครคนนึง ที่เคยใช้เรียกตนเองแบบนี้ เเละเขาจำได้ไม่เคยลืมเพราะเคยถูกอีกคนบังคับล่วงเกินมาก่อน



    "ท่าน ท่าน"



    "จำข้าได้เเล้วใช่หรือไม่เย่วเอ๋อร์"



    ใช่ร่างบางจำได้ขึ้นใจเลยทีเดียว เจ้าเเมวหัวขโมย เเต่ที่เขาจำได้อีกอย่างคือบุรุษผู้นี้คือราชามังกรที่มาเข้าพิธิผูกพันธะนี่หน่า เเล้วทำไมเวลานี้ถึงได้มาอยูกับเขาที่บ่อน้ำศักสิทธิ์ได้ (เอ๋บ่อน้ำศักสิทธ์หรือหรือว่า) เเละเเล้วเรื่องราวที่เกิดขึ้นทุกอย่างก่อนที่เขาจะหมดสติ ก็ค่อยๆ ไหลเข้ามาในสมองอย่างช้าๆ จนร่างบางสุดที่จะรับได้



    "อ๊ากกก ออกไปไห้พ้นอย่าได้มาจับตัวข้า!!!



    "เจ้าเป็นอะไรเจ็บตรงไหนบอกข้ามา"



    เฟยหลงถามอีกฝ่ายออกมา เพราะเป็นห่วงเอามากๆ ร่างบางเเหงนหน้าขึ้นไปมองก่อนจะตอบออกไป



    "เจ็บซิ เจ็บมากเสียด้วย"



    "เจ็บตรงไหนบอกข้ามาเถิด"



    "มันจะมีประโยชน์อะไร ท่านช่วยข้าไม่ได้หรอก ไม่มีใครช่วยข้าได้ทั้งนั้น"



    "เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าชวยเจ้าไม่ได้ไหนลองบอกข้ามาเถิดเย่วเอ๋อร์"



    เฟยหลงเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เย่วซินเเหงนหน้ามามองคนตรงหน้าอีกครั้งพร้อมกับเอ่ยคำที่ทำไห้คนฟังถึงกับนิ่งงันไป



    "ข้าเจ็บตรงนี้ ท่านช่วยข้าได้หรือไม่มันเจ็บมาก เจ็บเจียนตายอย่างที่ท่านเคยเตือนข้าไว้จริงๆ "



    เย่วซินมองหน้าเฟยหลง พลางใช้นิ้วชี้มาที่อกด้านซ้าย ตรงตำแหน่งหัวใจพลันดวงตาหวานก็มีหยดน้ำใสๆ ไหลหยดลงมาที่เเก้มนวล เล่นเอาเฟยหลงถึงกับหน้าซีดพูดอะไรไม่ออก ด้วยความเสียใจเเละความผิดหวัง ทำไห้เย่วซินเก็บน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ ร่างบางสะอื้นให้อย่างหนัก หมดสิ้นแล้วจริงๆ เขากลายมาเป็นคู่ชะตาได้อย่างไรกัน ชีวิตเขากำลังจะมีความสุขมีครอบครัวที่อบอุ่นกับหญิงคนรัก เเต่ตอนนี้มันคงจะเป็นเพียงเเค่ความฝันเท่านั้น เขาคงต้องจากที่นี่ไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไปในที่ๆ ไม่รู้จักเขาเพิ่งจะเข้าใจความรู้สึกของหลิงซานอย่างถ่องแท้ ก็ตอนนี้นี่เองเมื่อมาเจอเข้ากับตนเอง



    "ท่านรู้มาก่อนใช่หรือไม่ถึงได้กล้าทำเช่นนั้นกับข้า!!!



    เฟยหลงพยักหน้าตอบไม่มีประโยชน์อันไดที่จะต้องปกปิดอีกเเล้ว



    "ท่านมันเลวที่สุด ออกไปไห้พ้นนะ ข้าเกลียดท่าน ฮึก ฮือๆๆๆ!!!



    เย่วซินผลักอีกฝ่ายไห้ออกไปพ้นตัวเเต่เเรงอันน้อยนิดที่เหลืออยู่ไม่สามารถทำไห้ร่างใหญ่ขยับไปไหนได้ เฟยหลงรวบร่างบางที่ตอนนี้ทั้งร้องไห้ ทั้งดิ้นรนผลักไสเขาเข้ามากอดเอาไว้เเน่น ผ่านไปสักพักร่างบางจึงสงบลง เย่วซินยอมอยู่ในอ้อมกอดเขาอย่างหมดเเรงมาสักพักนึงแล้ว เฟยหลงไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาเพียงเเต่กระชับอ้อมแขนกอดคนตัวเล็กไว้ไห้เเน่นขึ้นไปอีก ปล่อยให้อีกฝ่ายร้องไห้ออกมาเผื่อความเจ็บปวดทรมารใจจะได้คลายลงไปบ้าง ถึงจะไม่มากก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย เขาเข้าใจความรู้สึกของร่างบางดีว่าคงยากจะทำใจยอมรับเรื่องนี้ในเร็ววันเพราะต้องทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลัง รวมทั้งความรักที่กำลังเบ่งบานกับสตรีเเสนงามผู้นั้นอีก กลับต้องมาจบลงเพราะเขา นี่เขาคงจะถูกร่างบางเกลียดชังไปเสียเเล้ว เขาคงต้องให้เวลาอีกฝ่ายค่อยๆ ปรับตัวเเละยอมรับมันให้ได้



    "ถ้าข้าสามารถเเบกรับความทุกจากเจ้าใด้ ข้าก็ยินดีที่จะรับมันไว้เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้ายินดีเพียงใดที่มีเจ้าเป็นคู่ชะตา ตั้งเเต่นิมิตรเห็นเจ้า ข้าก็เฝ้ารอวันนี้มาตลอด เราไปกันเถิดป่านนี้พวกเขาคงรอนานเเล้ว"



    เฟยหลงพูดจบก็ช้อนร่างบางขึ้นจากน้ำนำผ้ามาปกปิดร่างกายขาวนวลเเล้วมุ่งหน้า ตรงไปยังลานพิธี ขาเเกร่งก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงโดยคนตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมกอดไม่ได้พูดอะไรอีก ไม่ต่อต้านหรือขัดขืนแต่อย่างใด ร่างเล็กเหนื่อยล้าทั้งร่างกายเเละจิตรใจจนไม่อยากที่จะต่อต้านอีกฝ่าย ปล่อยให้คนตัวโตกว่าอุ้มไปยังลานพิธีความรู้สึกในตอนนี้เมือนกับว่าตนเองกำลังก้าวสู่ลานประหารอย่างช้าๆ เพื่อรอเวลาถูกเชือดโดยคนตรงหน้า พอไปถึงก็เป็นจริงอย่างที่คาดคิดเอาไว้ ทุกคนเฝ้ารอเขาทั้งคู่อย่างกระวลกระวายใจโดยเฉพาะหลวนคุณ ที่ตอนี้ถึงกับนั่งไม่ติดกลัวเหลือเกินเขารู้จักนิสัยใจคอของเย่วซินเป็นอย่างดี ว่าอีกฝ่ายดื้อดึงขนาดไหนเรื่องนี้คงไม่จบง่ายๆ เป็นแน่ อย่างไรเสียก็ขอให้ราชามังกรเป็นฝ่ายกำหราบคู่ของตนได้สำเหร็จ เพราะทางนี้ไม่อยากมีปัญหากับทางเผ่ามังกร แต่พอเห็นว่าคนที่ตนกำลังนึกถึงกำลังอุ้มคนตัวเล็กก้าวมาทางนี้ โดยคนตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมกอดของคู่ชะตาไม่ได้ต่อต้านแต่อย่างใด ก็พาให้เบาใจขึ้นมามาก มารดาของร่างบางรีบปรี่เข้ามาหาบุตรชายของตนทันทีพร้อมน้ำตาที่ไหลอาบเเก้ม เเต่เเล้วหัวใจของคนเป็นเเม่ก็แทบสลาย ทันทีที่เห็นน้ำตาบนเเก้มนวล เเละในตาที่เเดงก่ำบ่งบอกว่าผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก ร่างบางดิ้นไห้อีกฝ่ายปล่อยตนลง ก่อนจะโผเข้าสู่อ้อมกอดที่แสนจะอบอุ่นของมารดาทันที



    "ฮึก ฮือๆๆ ท่านแม่"



    "เย่วเอ๋อเจ้าเป็นเช่นไรบ้าง โถ่ตาช้ำหมดแล้วหยุดร้องเสียเถิดแม่อยู่นี่เเล้ว"



    นางกอดบุตรชายเอาไว้เเนบอก มือบางยกขึ้นเช็ดน้ำตาให้อีกฝ่ายอย่างอ่อนโยนก่อนจะพาเขามายังฉากกั้นด้านหลังเพื่อจะเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ท่านผู้นำให้คนไปเอามาเตรียมไว้ไห้ ส่วนเฟยหลงก็กลับออกมายังลานพิธีเพื่อรออีกคน



    "ท่านแม่ หนิงอันล่ะนางอยู่ไหน"



    เย่วซินถามหาคนรักทันทีเป็นเวลาเดียวกันกับที่หลิงซานเดินเข้ามาพอดี เขาเลยตอบคำถามพี่ชายเเทนมารดา หลิงซานดีใจอยู่ไม่น้อย ที่ไม่ต้องไปอยู่ที่โน่นโดยลำพัง อย่างน้อยมีพี่ชายไปอยู่เป็นเพื่อน ขอเห็นเเก่ตัวหน่อยเถิด ที่ตนเองดีใจท่ามกลางความเสียใจของพี่ชายตน



    "ท่านพี่ตอนนี้พี่หนิงอันกลับบ้านไปเเล้ว"



    "หนิงอันไม่คิดที่จะอยู่เพื่อส่งข้าเลยหรือ ข้าอยากพบนางอีกสักครั้งก่อนไป"



    "ท่านพี่นางคงจะทำใจยากข้าเห็นนางวิ่งร้องไห้กลับบ้านไปแล้ว ท่านพี่ล่ะดีขึ้นเเล้วใช่หรือไม่



    "ข้าดีขึ้นมากเเล้วล่ะหลิงซาน เเล้วเจ้าล่ะวิ่งเตลิดไปอยู่เสียที่ไดล่ะข้าถึงตามไม่เจอ"



    "ก็ข้าตกใจหนิท่านพี่ มีอย่างที่ไหนอยู่ดีๆ ก็มีไอ้งูยักษ์ ที่ทุกคนต่างก็ยัดเยียดไห้เป็นผัวข้าโผล่มาตรงหน้าแบบนี้ ไม่ช๊อคตายห่าก็บุญเท่าไรแล้ว"



    "หลิงซานให้เกียรติเขาด้วย เขาเป็นถึงราชามังกร เจ้าอย่าได้พูดจาเเบบนี้ให้ใครใด้ยินเชียว"



    "ดูเหมือนท่านพี่จะทำใจยอมรับได้เเล้ว เเต่ข้าขอบอกว่าไม่มีทาง"



    หลิงซานบอกคนตรงหน้าไปแบบนี้เเละเขาก็เป็นจริงดังที่พูดเอาไว้ ตอนนี้จะยอมๆ ไปก่อน เพราะคงสู้อีกฝ่ายไม่ได้ค่อยหาวิธเอาหลังจากไปอยู่ที่วังมังกรก็เเล้วกัน (แต่เอ๋ไอ้วังมังกรนั่นมันอยู่ที่ไหนกันวะ) เขาคิดในใจ



    "ข้าก็ไม่ยินยอมหรอก เจ้าก็รู้ว่าข้ามีหนิงอันอยู่เเล้ว"



    "แล้วท่านพี่จะทำเช่นไรต่อไปล่ะ"



    "ข้าก็ยังไม่รู้เลยคงต้องนิ่งเงียบไว้ก่อนกระมัง ค่อยหาหนทางเอาทีหลัง"



    เขาตอบน้องชายออกไปเเบบนี้เพราะยังหาทางออกไม่ได้เลยในตอนนี้



    หลังจากที่เฟยหลงนั่งลงท่านผู้นำก็ได้กล่าวกับเขา



    "ข้าไม่คิดว่าครานี้จะมีคู่ชะตาถึงสองคน ข้าต้องขออภัยท่านจริงๆ ที่หาคู่ชะตาของท่านไม่เจอ"



    "ไม่เป็นไรอย่างไรเสียเรื่องก็ผ่านไปแล้ว คู่ของข้าก็หาเจอเเล้วด้วย"



    เขาตอบออกไปไม่คิดที่จะถือสาหาความเอากับอีกฝ่าย ในเมื่อเขาก็เจอคนที่ต้องการเเล้วเเต่ท่านผูนำยังเอ่ยขึ้นมาอีก



    "แต่ข้าอดสงสัยไม่ได้ ว่าเพราะเหตุใดสัญลักษ์ถึงไม่ยอมปรากฎขึ้นมา"



    "ข้าก็ข้องใจไม่น้อยกับเรื่องนี้ เย่วเอ๋อร์มีคู่หมายเเล้วอย่างนั้นใช่หรือไม่ท่านผู้นำ"

    เฟยหลงถามเรื่องที่ตนสงสัยกับท่านผู้นำออกไป



    "ใช่แล้วเขารักใคร่อยู่กับบุตรสาวข้าเอง จะมีพิธีมงคลกันในอีกไม่ช้า แต่มันจบลงเเล้วเขาสองคนรักกันมาก บุตรสาวข้าเสียใจร้องให้กลับบ้านไปแล้ว"



    "หึ หึ เป็นเช่นนี้แล้ว คงจะไม่เกลียดข้าเข้ากระดูกไปแล้วรึ"



    ตอนนี้เย่วซินอยู่ในชุดเจ้าสาวแสนงดงาม ใบหน้างามหยดมีสีหน้าเศร้าหมองเป็นอย่างมาก มารดาเห็นเช่นนี้เเล้วจึงเอ่ยปลอบร่างบาง



    "ดูทำหน้าเข้าสิ เจ้าเป็นผู้ที่ถูกเลือกทำใจยอมรับมันไห้ได้นะเย่วเอ๋อร์ เจ้าจะได้คลายทุกลงไปบ้าง"



    "ท่านเเม่ไม่รักข้าเเล้วรึ ถึงได้ผลักไสข้าไห้ไปอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้"



    พลันน้ำตาหยดน้อย ก็ไหลลงมาบนแก้มนวลอีกครั้งทั้งๆ ที่มันได้หยุดไหลไปสักพักนึงเเล้ว



    "แม่รักเจ้าที่สุด เย่วเอ๋อร์เจ้ายังจำครั้งนั้นได้หรือไม่ ตอนนั้นเจ้ายังเด็กนักข้าไม่สบายเจ้ากลัวว่าข้าจะหิว เจ้าจึงเข้าครัวเพื่อทำอะไรไห้ข้ากิน แล้วมันเกิดอะไรขึ้น"

    ร่างบางย้อนไปนึกถึงตอนตนยังเล็กนัก



    "ข้าจำได้ว่าในตอนนั้น ข้าได้เผาครัวของท่านแม่เสียมอดเป็นจุนเลย เพราะข้าติดไฟไม่เป็นเลยเผลอใช้พลังติดไฟ เเต่ข้าคงเผลอไปหน่อยมันเลยไม่ได้ติดแต่ในเตาเท่านั้น ยังเผื่อแผ่ออกมาในครัวเสียด้วยสิ"



    "ใช่วันนั้นชาวบ้านช่วยกันดับไฟเสียยกใหญ่ บ้านเกือบจะมอดทั้งหลัง"



    มารดาเขาเอ่ยเรื่องราวแต่หนหลัง ถึงวีรกรรมครั้งเมื่อตอนเป็นเด็กของร่างบาง



    "ข้ายังจำได้วันนั้นท่านแม่ฟาดข้าเสียน่วมเลย เเละห้ามข้าเข้าครัวอีกเด็ดขาดฮ่าๆๆ ตอนนั้นท่านเเม่ตีข้า แต่ท่านกลับร้องไห้เสียเองตอนที่เอายามาทาให้ข้านะก้นข้าระบมไปหลายวันเลยกว่าจะหายดี"



    เฟยหลงที่แอบฟังอยู่หลังฉากกั้น ยกยิ้มขึ้นที่มุมปากหลังจากแอบได้ยินวีรกรรมตอนเด็กของร่างบาง เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะแอบฟังหรอก ก็แค่จะออกมารับร่างบางเท่านั้น เห็นว่ามันใด้เวลาทำพิธีผูกชะตาเเล้ว เเต่ยังไม่เห็นคนที่ตนรอคอยออกมาเสียที



    เเละไม่คิดว่าจะมาได้ยินที่สองเเม่ลูกย้อนความหลังที่แสนจะซุกซนของร่างบางเข้า



    "ครานี้เจ้าก็รู้เเล้วใช่หรือไม่ว่าข้ารักเจ้าเพียงไดเย่วเอ๋อร์"



    "ข้ารู้มาตลอด ว่าท่านแม่เเละท่านพ่อรักข้าที่สุด ข้าก็รักท่านทั้งคู่ที่สุดเช่นกัน "



    เขาพูดปนสะอื้นมันทำใจยากเหลือเกินที่จะยอมรับเรื่องนี้ได้ มารดาโอบกอดร่างบุตรชายไว้เเนบอก



    "เจ้าไปอยู่ที่โน่นเเล้วรักษาตัวด้วย เลิกนิสัยดื้อดึงของเจ้าลงเสียบ้างเถิดนะเย่วเอ๋อร์ อยู่ด้วยกันเเล้วรู้จักปรับตัวเข้าหากันเเละความเชื่อใจกันคือสิ่งสำคัญที่สุดที่ชีวิตคู่จะอยู่ได้ยืนยาว มองข้ามสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ไปเสียอย่าได้เอามาคิดให้รกสมองเท่านี้เจ้ากับเขา ก็จะอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขแล้วล่ะ"



    "ท่านแม่ท่านกับท่านพ่อรักษาตัวด้วยข้าคงไม่ได้อยู่ดูแลท่านทั้งสองอีกเเล้ว ไม่รู้ว่าจะยังมีโอกาสเจอกันอีกหรือไม่"



    "ไปเถิดเย่วเอ๋อร์พ่อเจ้าเเละทุกคนรอเจ้าอยู่"



    เฟยหลงรีบออกมาจากหลังฉากทันทีที่สองเเม่ลูกออกมา ส่วนหลิงซานออกมาก่อนแล้วเย่วซินชงักฝีเท้าทันที่เห็นว่าใครยืนอยู่ตรงหน้าเขาในตอนนี้ เฟยหลงถึงกับตกตะลึงเมื่อเย่วซินก้าวมายืนอยู่ตรงหน้าเขา ใบหน้าหวานถูกเเต่งแต้มออกมาอย่างเบาบาง ใบหน้ารูปไข่งดงามรับกับจมูกโดงรั้นดวงตาหวานฉ่ำจ้องมองเขาสายตาของร่างสูงไล่สำหรวจไปเรื่อย เเละมาหยุดอยู่ที่ริมฝีปากอวบอิ่มเเดงระเรื่อ มันช่างเย้ายวนยิ่งนักเเละเขารู้ว่ามันหวานปานใด เฟยหลงมองร่างบางอย่างหลงไหลอยู่สักพักก็รู้สึกตัว เพราะเสียงกระเเอมไอของมารดาร่างบาง ก่อนที่จะยื่นมือตรางมาทางร่างบาง เเละเเบออกเพื่อให้อีกคนวางมือลง มันเป็นธรรมเนียมร่วมกันของทั้งสองเผ่า



    "ข้ามารับเจ้าเย่วเอ๋อร์"



    ร่างบางวางเมือเล็กลงบนมือใหญ่ของคนที่ได้ชื่อว่าจะเป็นสวามีในอีกไม่นานก่อนที่จะก้าวเดินเคียงคู่กันไปยังที่หมายมารดาของร่างบางมองพลางยกยิ้มขึ้นอย่างน้อยคู่ของบุตรชายตนคงจะรักบุตรชายตนอยู่ไม่น้อย มองจากสายตาเเละการกระทำที่ตอนนี้ร่างสูงไม่ได้เพียงเเค่จับมือบุตรชายเท่านั้น หากเเต่โอบกอดร่างบางของเย่วซินเอาไว้ให้เดินไปพร้อมกัน ถึงบุตรชายตนจะพยายามผลักใสเพียงใดเเต่สุดท้ายแล้วก็ยอมให้คนร่างสูงโอบกอดไปยังลานพิธีอยู่ดี สงสัยครานี้เย่วซินจะเจอคนที่เหนือกว่าเข้าเสียแล้ว ความพยศวามดื้อดึงคงได้ถูกกำหราบก็ครานี้



    หน้าลานพิธี

    "เย่วเอ๋อร์"



    เสียงเรียกของบิดาดังขึ้นมาทันทีที่เห็นร่างบางเดินมาพร้อมกับมารดาเเละอีกคน ที่เรียกได้ว่ากำลังจะเป็นบุตรเขยตนซึ่งตอนนี้ได้โอบกอดร่างบางเอาไว้ไม่ห่าง



    "ท่านพ่อ ฮึก ฮือๆๆ ปล่อยข้า ข้าจะไปหาท่านพ่อ"



    ร่างบางดิ้นรนออกจากอ้อมเเขนของคนตัวโตทันที่ได้ยินเสียงบิดา ร่างสูงเลยจำใจปล่อยอีกฝ่ายไปหาบิดา ร่างบางวิ่งไปหาบิดาทันทีเขาสวมกอดบุตรชายด้วยความรู้สึกที่ยากเกินจะบรรยายเลยจริงๆ ตอนนี้มันสับสนไม่คิดว่าคู่ชะตาจะเป็นบุตรชายของตน



    "นิ่งซะคนเก่งของพ่อ เจ้ากลายเป็นคนขี้เเยอย่างนี้ตั้งเเต่เมื่อไรกันเย่วเอ๋อร์ ต่อจากนี้ไปพ่อไม่ได้อยู่ข้างกายคอยปกป้องเจ้าได้อีกเเล้ว เจ้ากับหลิงซานมีกันอยู่เเค่สองคน ช่วยกันดูเเลซึ่งกันเเละกันให้ดี พ่อขอให้เจ้าสองคนพบเจอเเต่สิ่งดีๆ เข้ามา เเละเเคล้วคลาดจากภัยทั้งปวงเจ้าสองคนรักษาตัวด้วย"



    หลังจากนั้นพิธีผูกพันธะก็เกิดขึ้น เย่วซินนั่งเคียงข้างเฟยหลงเเละหลิงซานก็ถูกอี้เฟยดึงให้มานั่งไกล้ๆ ตน โดยใช้ลำเเขนแกร่งโอบอีกคนเอาไว้ ทุกคนมองภาพที่เห็นก็พูดได้คำเดียวว่า ราชามังกรคู่นี้รักเเละหวงหลิงซานกับเย่วซินเอามากๆ เรียกว่าหลงเลยก็ว่าได้ พิธีเริ่มขึ้นโดยผู้เฒ่าเผ่าหงส์ไฟเเละท่านผู้นำใช้เวทมนต์ผูกชะตาของสองคนไว้ด้วยกัน จนมาถึงขั้นตอนสุดท้ายที่คู่ชะตาจะต้องดื่มน้ำศักสิทธิ์ เพื่อให้สัตย์สาบานว่า จะรักเเละซื่อสัตย์ต่อกันก็จะเสร็จสิ้นพิธี



    คู่ของอี้เฟยเเละหลิงซานได้ผ่านไปอย่างราบรื่นเพราะหลิงซานไม่ได้ชื่ออะไรเสียเท่าที่ควร เลยรีบทำตามให้มันผ่านๆ ไปเเต่มาคู่ของเฟยหลงกับเย่วซินนี่ซิ เป็นอันต้องหยุดชงักชั่วคราว หลังจากที่เฟยหลงได้ดื่มน้ำในถ้วยใบเล็กๆ ไปแล้ว เเต่เย่วซินกลับไม่ยอมดื่มถึงใครจะเกลี้ยกล่อมอย่างไรก็ไม่ยอม เพราะเขารู้ว่าหากเขาดื่มน้ำในถ้วยใบนี้ เขาจะต้องตกเป็นคนของเผ่ามังกรอย่างสมบูณร์โดยไม่อาจปฏิเศษได้เลย เฟยหลงเลยพูดเกลี้ยกล่อมร่างบางด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน



    "เย่วเอ๋อร์ เจ้าดื่มน้ำในถ้วยใบนี้เสียเถิดจะ ได้เสร็จพิธีนี่ก็เลยเวลามามากเเล้ว"



    เย่วซินดื้อเพ่งไม่ยอมดื่มท่าเดียว ทำเอาเฟยหลงถึงกับเลือดขึ้นหน้ากับความดื้อดึงของร่างบาง เขาไม่คิดว่าร่างบางจะดื้อได้ถึงเพียงนี้ คิดว่าจะทำใจยอมรับได้บ้างแล้ว แต่ที่เห็นอยู่ในตอนนี้ดูท่าทางจะร้ายใช่เล่น ดูจากสายตาหวานที่ตวัดมามองเขาอย่างดุดันเเละไม่ยอมลงให้เขาแม้เพียงนิด จนคิดว่าใช้ไม้อ่อนคงจะไม่ได้ผลเสียเเล้ว พอหายจากอาการบาดเจ็บที่โดนดวงจิตรมังกรเล่นงานเอา จากเเมวเชื่องๆ ก็เปลี่ยนมาเป็นเสือร้ายภายในพริบตา



    "ข้าจะบอกเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย จงดื่มมันซะ!!



    "ก็ข้าบอกไปเเล้วว่าไม่ดื่ม หูหนวกหรือไร"



    ทุกคนต่างตกตะลึงที่คนตรงหน้ากล้าเเผลงริทธิ์ออกมา ทุกคนพากันขยาดกับเหตุการที่เกิดขึ้น ต่างก็รู้จักริทธิ์เดชของร่างบางดีเเต่ตอนนี้ต้องรอดูกันไปก่อน ในเมื่อร่างใหญ่ก็ร้ายไม่เบาเลยเหมือนกัน



    "นี่เจ้าจะเอาเช่นนี้ใช่หรือไม่เย่วเอ๋อร์ ได้ถ้าเจ้าต้องการอย่างนั้น"



    หลังจากที่ร่างสูงพูดจบทุกคนก็ต้องตกตะลึงตาค้างอีกหลายๆ ครั้ง อย่างไม่คาดคิดเฟยหลงยกถ้วยใบเล็กที่มีน้ำอยู่กรอกเข้าปากตนเอง แล้วหันไปคว้าต้นคอของคนตรงหน้ามาจับไว้อย่างหนาแน่น เย่วซินตกใจเผลออ้าปากเพื่อที่จะต่อว่าอีกฝ่ายเป็นจังหวะเดียวกับที่ริมฝีปากของคนตัวโตประกบเข้ากับริมฝีปากบางของคนตัวเล็กเเละเเล้วน้ำในปากของคนตัวโตก็ค่อยๆ ไหลผ่านปากบางเข้ามา เฟยหลงใช้ฝ่ามือเเข็งเเกร่งของตนบีบคางของคนตัวเล็กเพื่อบังคับให้อีกฝ่ายกลืนลงลำคอไป จนคนตัวเล็กกว่าทนฝืนเอาไว้ไม่ไหวปล่อยไห้มันไหลผ่านลำคอลงไป น้ำตาเม็ดเล็กๆ ค่อยๆ ไหลออกมา



    "ท่านพี่ พอเถิดเดี๋ยวก็เป็นเรื่องใหญ่หรอก"



    เสียงเรียกเพื่อเตือนสติของอี้เฟยดังออกมา แต่เฟยหลงไม่มีทีท่าว่าจะถอนริมฝีปากออกไป เขากลับส่งปลายลิ้นร้อนชื้นเข้าไปควานหาความหอมหวานจากอีกฝ่ายอย่าเผลอไผล ทันใดนั้นก็เกิดปรากฎการประหลาดขึ้น ได้มีลำแสงสีทองห่อหุ้มรอบกายคนทั้งคู่เอาไว้ ตามมาด้วยสัญลักษ์หงส์ไฟที่ปรากฎอยู่ด้านหลังของเย่วซินส่องประกายขึ้น ก่อนที่จะพุ่งออกมาจากที่ๆ มันเคยอยู่ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าตามมาด้วยลำเเสงสีทองที่ดูอย่างไรก็คือมังกรมันคือสัญลักษ์ของเฟยหลงได้ทะยานตามไปติดๆ



    "ท่านพี่ ท่านหยุดเดี๋ยวนี้นะ ท่านพี่ข้าบอกว่าไห้หยุดไม่ได้ยินรึ!!!



    อี้เฟยเห็นท่าไม่ดีเลยเอ่ยเตือนพี่ชายก่อนที่เรื่องยุ่งๆ จะตามมา เพราะตอนนี้เฟยหลงได้ถูกเสน่ห์เเห่งคู่ชะตาเเล่นงานเอาเสียเเล้ว รวมทั้งเย่วซินก็ด้วยดูได้จากสัญลักษ์ของเขาทั้งคู่ที่พุ่งสู่ท้องฟ้าเกี่ยวกะวัดรัดรึงกันอยู่ในตอนนี้ เขาเลยต้องรีบเตือนสติพี่ชายตนก่อนที่เรื่องราวมันจะบานปลายไปมากกว่านี้



    "ท่าพี่ ถ้าท่านไม่หยุดข้าคงต้องทำร้ายท่าน ทุกคนช่วยกันหน่อย"

    เขาหันไปหาคนช่วยเเต่ทุกคนกลับตกตะลึงตาค้างกับภาพที่เห็นบนท้องฟ้าเขาเลยหันไปหาพี่ชายตนก่อนจะ เผั๊วะ



    "ข้าขออภัย"



    อี้เฟยไม่มีทางเลือกหันมากระชากพี่ชายตน เเล้วปล่อยหมัดใส่ใบหน้าเสียเต็มรัก เฟยหลงถึงกับคืนสติในหมัดเดียว เขาสบัดหัวเพื่อไล่ความมึนงงเเล้วหันมามองหน้าร่างบางในอ้อมเเขนตน ใบหน้างามเเดงก่ำดวงตาหวานหลับพริ้มร่างกายก็อ่อนปวกเปียกซุกอยู่ที่เเผงอกกว้างของเขา เฟยหลงหันมามองหน้าน้องชายฝาแฝดของตน



    "อภัยให้ข้าเถิดท่านพี่ ข้าไม่มีทางเลือกจริงๆ ข้าต้องหยุดท่านก่อนที่จะ"



    อี้เฟยพูดได้เพียงเท่านั้นเฟยหลงก็ยกมือขึ้นห้าม เพราะรู้ว่าหากน้องชายหยุดเขาเอาไว้ไม่ได้อะไรมันจะเกิดขึ้น เขาเเหงนหน้าขึ้นไปมองบนท้องฟ้าซึ่งตอนนี้กลับมาเป็นปกติเหมือนเดิมเเล้ว



    "กลับกันเถิดอี้เฟย นี่ก็เลยเวลามามากเเล้ว ป่านนี้เสด็จพ่อเเละเสด็จเเม่คงจะรอพวกเราอยู่"



    "เฟยหลงกระชับร่างบางที่หมดสติอยู่ในอ้อมเเขนตนไห้เเน่นขึ้น เพราะตนจะใช้พลังเวทย์พาร่างบางกลับวังมังกร โดยมีชาวบ้านทุกคนมายืนส่งกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา บิดาเเละมารดารวมทั้งหยางหลิวก็ด้วยเดินมายืนตรงหน้าร่างสูง ที่กำลังอุ้มคนที่หลับไม่ได้สติเอาไว้ ก่อนที่มารดาของคนในอ้อมกอดเอ่ยขึ้นกับเขา



    "ท่านให้สัญญากับข้าได้หรือไม่"



    นางจ้องตาคนตรงหน้าอย่างขอร้อง



    "ท่านว่ามาเถิด" เขามองตอบมารดาของร่างบางเเละเอ่ย



    "ท่านจะรักเเละดูเเลเขาให้ดีเช่นข้า ถ้าวันใดหากท่านไม่ต้องการเขาเเล้ว โปรดส่งเขาคืนมาไห้ข้าด้วย ข้าขอร้องท่านอย่าได้ทิ้งขว้างไม่ใจดีไห้เขาต้องช้ำใจ"



    มารดาของร่างบางพูดขึ้นพร้อมน้ำตานางไม่ต้องการให้บุตรชายต้องห่างจากอกของนางเลย



    "มันจะไม่มีวันนั้นหรอกเพราะเขาคือดวงใจของข้า ท่านพ่อท่านแม่โปรดวางใจเถิดอย่าได้กังวนสิ่งใด หากเย่วเอ๋อร์รู้เข้าจะทุกข์ใจเอาได้ ข้าขอสัญญาว่าจะรักเขาไห้ได้เท่ากับพวกท่านทั้งสองคน"



    "แค่นี้ข้าก็เบาใจได้บ้างเเล้ว"



    "ข้าลาท่านทั้งสองก่อน โปรดรักษาตัวด้วย"



    เฟยหลงรับปากอีกฝ่ายพร้อมค้อมศรีษะต่ำลงอย่างให้ความเคารพมารดาของชายาตน ก่อนจะหมุนกายเเล้วหายไปจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว มารดาของร่างบางร้องให้ปริ่มจะขาดใจ ข้างกายซ้ายขวามีหยางหลิวกับสามีประคองเอาไว้หยางหลิวไม่รู้ว่าจะรู้สึกอย่างไรกับสหายของตนดี แต่ก็อดที่จะรู้สึกใจหายเสียไม่ได้สงสารร่างบางเหลือเกิน ที่เรื่องราวมันเกิดขึ้นกะทันหันเเละไปโดยไม่ทันได้ล่ำลาใครเลย เเม้เเต่ครอบครัวตื่นขึ้นมาจะตกใจเพียงใดที่ตนไม่ได้อยู่กับครอบครัวอีกตลอดไป



    +++++++++++++++++++++++++++



    เป็นยังงัยกันบ้างคะ ระหว่างคู่ของอี้เฟยกับคู่ของเฟยหลงใครชอบคู่ไหนกันบ้างบ้าง (พวกเขายังไม่ได้เเต่งงานกันนะ แค่ผูกชะตากันเท่านั้น) ใครสงสัยอะไรถามได้นะ มารอลุ้นกันต่อนะคะ ขอฝากพระนายของเราทั้งสี่คนนี้ด้วยนะคะ......





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×