ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ลิขิตรักราชามังกร

    ลำดับตอนที่ #7 : คำทำนาย

    • อัปเดตล่าสุด 20 ส.ค. 63




    อีกด้านหนึ่งของโลกใบเดียวกัน




       หรือจะเรียกอีกอย่างก็คืออีกมิติหนึ่งก็ได้  ตอนนี้เวลาประมาณเที่ยงคืนเห็นจะได้

    ในผับดังกลางเมืองเซยงไฮ้ที่เต็มไปด้วย เเสง สี เสียง เหมือนทุกๆผับที่อยู่รอบบริเวรนั้น ภายในผับมีนักท่องราตรีมากมายที่เข้ามาหาความสำราญให้กับตัวเอง อีกมุมหนึ่งของผับแห่งนี้ มีเครื่องดื่มแอลกอฮอหลายชนิด ตั้งเรียงรายอยู่บนโต๊ะ พร้อมกับเจ้าของเครื่องดื่มเหล่านั้นที่ชวนกันมาหาความสำราญให้กับตัวเองพวกเขาก็เช่นกัน แต่ไม่ได้หาความสำราญเเต่อย่างใด มีใครคนหนึ่งต้องการดื่มเพื่อดับทุกข์ให้กับตัวเอง ไป๋หลิงซาน ชายหนุ่มอายุ19ปีรูปร่างสูงโปร่งผิวขาวอมชมพูละเอียด หน้าหล่อเหลาออกไปทางหวานเล็กน้อย โดยรวมก็ถือว่าสเปคสาวๆเลยทีเดียวใบหน้าหล่อปนหวาน กำลังนั่งมองเเก้วเหล้าที่อยู่ในมือตนก่อนจะยกขึ้นดื่มรวดเดียวหมดแก้ว เล่นเอาเพื่อนๆทีมาด้วยกันรีบตะครุบเอาไว้ก่อนที่เเอลกอฮอเเก้วต่อไปจะถูกเจ้าตัวกระดกลงกระเพาะอีกครั้ง

    "เฮ้ยยยยเบาๆหน่อยโว้ยไอ้ซาน มึงเป็นไรวะ เเดกยังกับพ่อเป็นเจ้าของโรงงานผลิตเหล้าอย่งนั้นเเหละ"

    หมิงซือถามหลิงซานออกมาด้วยความสงสัย ก็จะไม่ให้สงสัยได้ยังงัย หลิงซานกระดกเหล้าเข้าปากไม่หยุดตั้งแต่มาถึงที่นี่แล้ว 

    "อกหัก"

    "ฮะฮะฮะ" เพื่อนเขาอุทานออกมาพร้อมกันทั้งสามคน หลังจากได้รับคำตอบจากเขา

    "มึงล้อพวกกูเล่นใช่มั๊ยไอ้ห่าพูดบ้าอะไรของมึงออกมาวะ!!

    เทียนซื่อเอ่ยเสียงเครียดออกมา เขารู้ว่าหลิงซานรักเหมยอิงมาก ก็ทั้งสองคบกันมาหลายปีเเล้ว เเละมีโปรเเกรมที่จะแต่งงานกันในเร็วๆนี้ด้วย แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้น จู่ๆเพื่อนเขาก็มานั่งกินเหล้าเมามายอย่างนี้เเถมยังจะบอกว่าเลิกกับเเฟนแล้วอีกด้วย

    "กูพูดจริง เรื่องแบบนี้กูไม่เอามาพูดเล่นหรอก กูกับเหมยอิงจบกันแล้วจริงๆ"

    "ไอ้ซานมึงโอเคมั๊ยวะ"

    ลู่ฟางเอ่ยถามเพื่อนออกมาด้วยความเป็นห่วง

    "กูโอเค เจ็บแค่นี้ไม่ตายหรอกโว้ย เห็นมั๊ยกูไม่ได้เป็นอะไรซักหน่อย ไม่เป็นอะไรหรอก ฮึก....ฮือๆๆๆ กูไม่ได้เป็นไรนะมึง"

    หลิงซานพูดออกมาพร้อมเสียงสะอื้นเล็กน้อย เขาเจ็บ...เจ็บมากเสียด้วยสิ พวกเพื่อนๆถึงกับพูดไม่ออกเลยทีเดียว เพราะไม่เคยเห็นหลิงซานร้องให้กับเรื่องอะไรมาก่อนเลย นี่คงจะเหลือทนจริงๆ พวก เพื่อนๆต่างก็โอบไหล่เขาไว้อย่าง
    ต้องการปลอบใจอีกฝ่าย

    "ในเมื่อมันเจ็บ มึงก็ร้องออกมา เอาความเจ็บปวดออกมาไห้หมด พวกกูอยู่ข้างมึงเสมอว่ะเพื่อน"

    เทียนซื่อพูดปลอบใจหลิงซาน เขาไม่รู้ว่าจะปลอบยังงัย เกิดมายังไม่เคยปลอบใจใครเสียด้วยสิ

    "มึงพอจะเล่าไห้พวกกูฟังได้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น"

    เป็นเทียนซื่อทีถามออกมาหลิงซานเลยยอมเปิดปากเล่าให้พวกเขาฟัง

    "เหมยอิงท้อง"

    "ฮะ ท้องงงง" พวกเขาต่างพร้อมใจอุทานออกมาพร้อมกันอีกครั้ง

    "อึม พวกมึงคงไม่คิดว่าเขาท้องกับกูหรอกนะ"

    "หึ ถ้าท้องกับมึง มึงคงไม่มานั่งทำหน้าเหมือนคนไกล้ตายแบบนี้หรอก"

    "เขายอมบอกกับกูว่า เขาแอบคบอยูกับแฟนเก่ามาได้สักพักเเล้ว ตอนนี้พลาดท่าท้องขึ้นมาเลยต้องเเต่งงานกับมัน มึงดูสิเหมยอิงสวมเขาให้กูได้ไงวะ ทำกับกูอย่างนี้ได้ไงวะไอ้สัตว์ กูอยากจะฆ่าทั้งคู่ไห้ตายคามือจริงๆ"

    หลิงซานพูดออกมาด้วยความแค้น ที่ถูกคนรักสวมเขาเเละหักหลังกันอย่างเลือดเย็นแบบนี้ พวกเพื่อนๆเห็นท่าไม่ดีเลยรีบพาอีกฝายกลับบ้านทันที
    "
    "
    "
    "
    "
    ที่บ้านของหลิงซาน หรือจะเรียกคฤหาสนน์ถึงจะถูก เพราะพ่อของหลิงซาน เป็นเศรษฐีติดอันดับหนึ่งในห้าของประเทศเลยก็ว่าได้ พ่อของเขาคือเจ้าสัวไป๋หารฟง เเละไป๋หลิงซานก็เป็นลูกชายหัวเเก้วหัวเเหวนคนเดียวของเจ้าสัวไป๋เสียด้วย ส่วนแม่ของเขาได้เสียชีวิตไปนานเเล้ว แม่ของเขาเป็นคนไทยหน้าตาสะสวย เขาเลยได้หน้าตาหวานคมมาจากแม่ เเต่ผิวขาวละเอียดอมชมพูนี่ได้มาจากพ่อเต็มๆเลยก็ว่าได้ พ่อของเขาเป็นชาวจีนแท้ๆเลยมีผิวที่ขาวละเอียด

    ในบ้านหลังใหญ่มีชายวัยกลางคนนั่งอยู่บนโซฟารับแขก เพื่อรอคอยใครบางคนเเละไม่นานคนที่รอคอยก็มาถึงเขารีบลุกไปรับทันที

    "อาซานลูกเป็นยังไงบ้าง"

    เอ่ยถามลูกชายด้วยตวามเป็นห่วงทันทีที่เห็นเพื่อนๆพยุงเข้ามา เขาเมาเเต่ก็ยังมีสติดีอยู่เลยหันไปตอบผู้เป็นพ่อให้หายเป็นห่วง ไป๋หารฟงรักเขามากตั้งแต่แม่จากไปอีกฝ่ายก็ไม่คิดที่จะแต่งงานไหม่กลัวว่าเขาจะเข้ากับเเม่เลี้ยงไม่ได้กลัวจะโดนรังแกอะไรสารพัด เลยตัดปัณหาก่อนที่จะเกิด

    "ซานไม่เป็นไรหรอกป๊าอย่าห่วงเลย"

    "จะไม่ไห้ป๊าห่วงได้ไง เเกเป็นลูกชายคนเดียวของป๊านะอาซาน"

    "เอ่อพวกกูกลับก่อนนะมึงพวกผมขอตัวก่อนนะครับป๊า"

    " อึม. พวกมึงกลับกันดีๆนะดึกมากแล้ว"

    เขาหันไปบออกกับเพื่อนก่อนจะขอตัวขึ้นห้องไป หารฟงมองตามลูกชายจนลับสายตา เขาเป็นห่วงหลิงซานไม่น้อย เมื่อได้รับรู้เรื่องที่ทำไห้หลิงซานทุกข์ใจ จนต้องออกไปดื่มเหล้าแบบนี้ ก่อนจะกลับเข้าห้องของตัวเองบ้าง



    ______________________________




    ตอนเช้าของวันไหม่

    "ตี๊ดๆๆๆๆ ตี๊ดๆๆๆๆ"

    เสียงโทรศัพดังขึ้น ทำลายความสุขของคนที่กำหลับสบายอยู่บนเตียงนอนหนานุ่ม มือบางควานหาต้นเหตุของเสียงดังที่รบกวนการนอนของตนได้ ก็กดรับสายอย่างหงุดหงิดที่ถูกอีกฝ่ายโทรมารบกวนตอนเช้าแบบนี้

    "มีไรว่ามา ถ้าไม่สำคัญระดับประเทศ มึงตาย!!

    "อะไรวะ จะไปสมัคส.ส.หรือไงมึง"

    "กูให้เวลาพูดสองนาที"

    หลิงซานพูดออกมาด้วยความหงุดหงิดเมื่อเทียนซื่อไม่ยอมพูดธุระของตัวเองออกมาซักที

    "ใจเย็นๆซิวะเพื่อน ไปกินรังเเตนที่ไหนมาวะดุยังกับหมา"


    "ไอ้เทียน ถ้ามึงไม่พูดกูจะวางเเล้ว"

    "เดี๋ยวซิวะใจร้อนจริงนะมึงอีก5นาที กูจะถึงบ้านมึงเเล้ว รีบเเต่งตัวละกูจะพาออกไปทำธุระข้างนอกหน่อย ไห้ไวนะมึงไม่งั้นกูบุกถึงห้อง"

    "เดี๋ยวซิวะ "

    ตู๊ดๆๆๆๆ สายถูกตัดทั้งที่ยังคุยกันไม่รู้เรื่อง ทำให้หลิงซานหัวเสียเข้าไปใหญ่เขาเลยล้มตัวลงนอนต่อ ไม่สนใจว่าเทียนซื่อสั่งอะไรไว้

    รถสปอร์ตหรูแล่นเข้ามาจอดที่ โรงรถของบ้านเจ้าสัวไป๋ เทียนซื่อก้าวลงจากรถยนต์คันหรู มุ่งหน้าเข้ามาในบ้านเพื่อนพอดีเเม่บ้านเดินผ่านมา

    "อ้าวคุณเทียนมาหาคุณหนูหรือคะ"

    "ใช่ครับ พอดีนัดกันไว้นะครับแล้วคุณหนูของป้ายังไม่ลงมาอีกหรือครับป้า"

    "ไม่เห็นนี่คะคงจะเเต่งตัวอยู่มั้งคะ"

    เทียนซื่อนั่งรออยู่ครึ่งชั่วโมงก็ไม่เห็นวี่เเววของอีกคน เลยขอกุญเเจสำรองจากเเม่บ้าน ตามขึ้นไปบนห้องนอนของอีกฝ่าย พอไขประตูเข้าไปก็เห็นไอ้เพื่อนตัวดียังหลับสบายอยู่บนเตียงนอน จึงลงมือปลุกอีกฝ่ายด้วยการจับเขย่าจนหัวแทบหลุด คนถูกปลุกต้องจำใจตื่นเพราะทนนอนต่อไม่ไหว

    "ไอ้ซานตื่นโว้ยๆๆๆไอ้เพื่อนบ้า ปล่อยให้กูรออยู่เกือบชั่วโมง มึงเสือกนอนหลับสบายเเบบนี้เดี๋ยวพ่อกระทืบเลยดีไหม"

    "โอ๊ยเชี่ย กูไม่ใช่ยาธาตุน้ำขาวนะมึงจะเขย่าหาไรวะ แล้วเข้าห้องกูได้ยังไง"

    แทนคำตอบ เทียนซื่อยกกุญแจให้เพื่อนดู เลยหมดข้อสงสัยหลิงซานนั่งพิงหัวเตียงด้วยอาการหงุดหงิด

    "มันไม่เกินความสามารถกูหรอก มึงรีบอาบน้ำแต่งตัวเลยให้ไวกูขี้เกียจรอ"

    "มึงจะพากูไปไหนก็บอกกูด้วยซิวะ"

    "วันนี้วันอะไรมึงลืมไปแล้วหรือไง"

    เทียนซื่อหันไปคุยกับเพื่อนเเตหลิงซานกลับนึกไม่ออกจริงๆเทียนซื่อเลยบอกออกไป

    "สัตว์ มีไรไรพูดมา อย่าลีลามากนะมึงเดียวกูถีบเเม่ง"

    เขาพูดพร้อมยกฝ่าเท้าทำท่าจะถีบอีกฝ่ายเข้าจริงๆ เทียนซื่อเห็นแบบนั้นก็รีบร้องห้ามทันที ด้วยรู้นิสัยอีกฝ่ายดีว่าเป็นคนอารมณ์ร้อน ขี้หงุดหงิดขนาดไหน

    "เฮ้ยมึงใจเย็นดิวะ เเม่งมันน่าจับไปปล่อยขั้วโลกเหนือให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยเผื่อความเย็นจะช่วยให้หายบ้าได้"

    " -_- "

    "ก็วันนี้วันอะไร ไม่ไปหาเเม่หรือไง"

    หลิงซานนิ่งคิดอยู่ครู่เดียว ก็ยิ้มออกมาเมื่อนึกขึ้นมาได้ เลยหันไปขอบใจเพื่อนที่เตือน

    "ใช่จริงด้วย วันสำคัญแบบนี้กูลืมได้งัยนะ ไปซิไปหาเเม่กัน ขอบใจมึงว่ะเพื่อน กูรักมึงว่ะมาม๊ะมาให้จุ๊บที"

    หลิงซานพูดพลางกระโจนเข้าหาเทียนซื่อทันที มือบางคว้าหมับเข้าที่เส้นผมเพื่อนพร้อมกระชากไว้เต็มกำมือกันเพื่อนหนี พลางโน้มหน้าทำปากจู๋เข้าหาอีกฝ่ายเทียนซื่อทำหน้าสยอง ทั้งผลัก ทั้งดันอีกฝ่ายให้พ้นตัว เเต่มือตุ๊กเเกของหลิงซานไม่ยอมปล่อยเทียนซื่อเอาง่ายๆ ยังคงเดินหน้าเเกล้งเพื่อนต่อไป

    "เฮ้ยยยยย มึงแล่นอะไรของมึงไอ้ซาน ปล่อยกูนะโว้ยเดี๋ยวกูต่อยตาแตกเลยมึง"

    เทียนซื่อขู่ออกมาแต่มีหรือที่หลิงซานจะกลัว ยังคงเดินหน้าแกล้งเพื่อนต่อไปโดยไม่รู้ว่าอีกไม่นาน เขาจะโดนอีกฝ่ายเอาคืนเข้าบ้าง เทียนซื่อหยุดผลักดันหลิงซาน เเต่มือหนากลับตวัดคว้ารวบเอวของอีกฝ่ายเอาไว้แน่น พร้อมยื่นหน้ามาที่ข้างหูของหลิงซาน พลางกระซิบเบาๆข้างใบหูเล็ก

    "ใครว่าพ่อมึงต่างหากที่ขอให้กูมารับมึงไปหาแม่ไม่ใช่กูสักหน่อย"

    เทียนซื่อกระซิบบอกความจริงให้อีกฝ่ายรับรู้ เเต่เหมือนสถาณการตอนนี้มันจะพลิกผัน เพราะคนที่ทั้งผลักทั้งดันอีกฝ่ายกลับเป็นหลิงซานเสียเอง เทียนซื่อมาอาการตกใจจนหน้าซีดตาค้างของอีกฝ่ายด้วยความรู้สึกอยากแกล้งให้หนักขึ้นไปอีก

    "ทำหน้าแบบนี้......มาเป็นเมียกูดีกว่า"

    เทียนซื่อพูดจบก็จับร่างโปร่งกดลงบนที่นอนทันที ก่อนจะขึ้นคร่อมอีกฝ่ายเอาไว้ทั้งตัว หลิงซานตกใจกับการกระทำของเพื่อน ดวงตาโตเบิกกว้างมองอีกฝ่ายอย่างหวาดๆ ก่อนจะใช้เท้ายันอีกคนเอาไว้

    "ไอ้เทียนมึงเล่นเชี้ยอะไรของมึงวะออกไปจากตัวกูเดี๋ยวนี้เลยนะมึง ก่อนที่กูจะถีบมึงลงไปเเทน"

    "กูไม่ลง มึงจะทำไม อยากเล่นนักไม่ใช่หรือ นี่งัยกูจะเล่นกับมึงแล้วเป็นงัยล่ะมึง"

    เทียนซื่อยกยิ้มอย่างเจ้าเลห์ออกมาเล่นเอาหลิงซานถึงกับเหงื่อตก หน้าซีดก่อนที่จะตัดสินใจทำอย่างที่พูดเพราะอึดอัดกับสภาพล่อแหลมแบบนี้

    ผั๊วะ........ ตุ๊บ

    "โอ๊ยยยย เชี่ย ถีบมาได้เจ็บนะโว้ย "

    เทียนซื่อพูดยังไม่ทันขาดคำ ก็ต้องมีอันกระเด็นตกลงมาหัวทิ้มอยู่บนพื้น พร้อมร่างโปร่งที่ตามลงมากระชากคอเสื้อเงื้อมหมัดหมายจะซัดใบหน้าอีกฝ่ายให้ยับเพราะความโมโหจนอีกฝ่ายรีบร้องห้าม

    "เฮ้ย ไอ้ซานใจเย็นๆกูเเค่ล้อมึงเล่น"

    "ไอ้สัตว์ มึงล้อเล่นเชี่ยไรวะกูไม่ขำนะ!!

    หลิงซานตะคอกใส่เพื่อน เพราะยังโมโหไม่หายกับการเล่นพิเรนของเพื่อน

    "เออ กูขอโทษ ก็มึงเล่นกูก่อนมั๊ยวะพอกูเอาคืนเข้าบ้างเป็นงัยละมึง"

    "คราวหน้าถ้ามึงทำแบบนี้อีกมึงตาย!!!

    หลิงซานขู่ฟ่อออกมา ยังรู้สึกเสียวสันหลังอยู่เลย ไอ้เวรตะไลสบทด่าโขมงโฉงเฉงอยู่ในใจ

    "เออๆๆมึงรีบไปอาบน้ำสิ มันสายแล้วเร็วกูจะรอ"

    หลิงซานอาบน้ำเสร็จ ก็เดินออกมาเห็นเทียนซื่อยังนั่รอเขาอยู่ อีกฝ่ายเหลือบตามามองนิดนึง ก็ไม่ได้สนใจอะไรเขาอีกหลิงซานชักจะระเเวงแปลกๆ หรือเขาจะหลอนไปเองจึงคิดเลยเถิด เหมือนเทียนซื่อจะรู้ว่าอีกฝ่ายคิดยังไง เลยรีบพูดดักทางขึ้นมา

    "ไอ้ซานมึงไม่ต้องมาระแวงกูเลย มึงไม่ใช่สเปคกู เพราะงั้นมึงสบายใจได้ กูไม่หน้ามืดจับมึงข่มขืนหรอก เลิกทำท่าเหมือ
    สาวน้อยจะโดนปล้ำได้แล้วกูจะอ๊วก"

    "เออไอ้เ-ี้ย"

    "อ้าวด่ากูอีกเดี๋ยวพ่อจับปล้ำจริงๆเสียเลย"

    "เข้ามาสิ รับรองว่าเหลือ เเต่ตอ หมดโอกาสสืบพันธ์เลยนะมึงจะลองมั๊ยล่ะ"

    หลิงซานพูดพลางถลึงตาใส่อีกฝ่ายก่อนจะจ้องเขม็งไห้อีกฝ่ายรู้ว่า กูเอาจริง
    หลิงซานแต่งตัวเสร็จก็รีลงมาจากห้องกลัวจะเสียเวลามากไปกว่านี้ แต่ดันลืมโทรศัพท์ไว้บนห้อง

    "ไอ้เทียนรอกูแป๊บ เดี๋ยวกูมา"

    "รีบนะมึงไม่งั้นกูขึ้นไปตาม"

    เทียนซื่อพูดพลางยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา

    "สัตว์ เดี๋ยวกูถีบตกกะไดเลยมึง กวนตีนกูดีนักนะ"

    พอได้ของที่ต้องการก็พากันออกไปทันที




    ________________________________






    ตอนนี้ ทั้งสองคนก็ได้มานั่งอยู่หน้าหลุมศพมารดาของหลิงซาน ซึ่งเวลานี้ท่านได้นอนอย่างสงบอยู่ในสุสานเเห่งนี้หลิงซานวางดอกไม้ ที่มารดาเขาชอบไว้ตรงหน้าป้ายชื่อ เทียนซื่อก็เช่นกันเขามาไหว้มารดาของเพื่อนทุกๆปี ในบรรดาเพื่อนๆทั้งหมด หลิงซานจะสนิทกับเทียนซื่อมากที่สุด ทั้งสองนั่งอยู่พักนึงก็กลับออกมา ก่อนจะกลับก็เเวะที่ศาลเจ้าเพื่อขอพร เขาก็ทำแบบนี้ทุกปี และปีนี้ก็เช่นกัน เเต่ปีนี้หลิงซานไม่รู้นึกยังไงขึ้นมา ถึงอยากจะดูการทำนายดวงชะตา ปกติเขาไม่ได้สนใจกับเรื่องเเบบนี้เลย แต่วันนี้ไม่รู้มีอะไรดลใจให้เขา ย่างเดินไปยังสถานที่ ที่เขาจัดไว้ให้ผู้ที่ต้อ งการจะดูดวงชะตา มาใช้บริการได้ตามสดวก หลิงซานยกมือขึ้นหลับตาลง อธิฐานขอพรจากสิ่งที่ตนนับถือ เสร็จก็ลืมตาขึ้นมาช้าๆก่อนจะยื่นมือลงไปในกระบอกที่มีใบคำทำนายอยู่ในนั้น เเล้วก็สุ่มเลือกหยิบขึ้นมาหนึ่งใบศาลเจ้าที่อื่นส่วนใหญ่จะทำนายด้วยเซียมซีแต่ที่นี่ไม่ใช่ หลิงซานค่อยๆเปิดใบคำทำนายออกมาอย่าง
    ช้าๆ ในใจก็อยากรู้ว่าข้างในเขียนว่าอะไร เทียนซื่อก็ลุ้นกับเพื่อนไม่แพ้กันเขาไม่ได้หยิบคำทำนายด้วยเพระไม่ได้อยากรู้อะไรเกี่ยวกับตัวเอง เทียนซื่อเเละหลิงซานไล่สายตาอ่านข้อความในใบทำนายในนั้นมีข้อความที่เขียนเอาไว้ว่า


    หนึ่งชะตาผูกไว้ได้ลิขิต หนึ่งชีวิตแปลผันวันพานพบ

    หนึ่งดวงใจเฝ้ารอมาบรรจบ ถึงกำหนดโชคชตาจะพาไป

    ให้เคียงคู่อยู่ชิดไกล้ดั่งใจหมาย ไม่เสื่อมคลายหมายมั่นไม่หวั่นไหว

    แม้วันคืนผันผ่านเนิ่นนานไป คงรักไว้นิจนิรันดร์ไม่ผันเเปล


    พอหลิงซานอ่านจบก็ขมวดคิ้วมุ่นขึ้มาทันที หัวใจเจ้ากรรมมันเต้นไม่เป็นจังหวะ รู้สึกแปลกๆในใจกับความรู้สึกที่บอกไม่ถูกมันมีทั้งไหวหวั่น โหยหา และเหมือนเฝ้ารออะไรบางอย่าง ซึ่งเขาก็ไม่เข้าใจกับความรู้สึกนี้เอาเสียเลย

    "ไห้ตายสิความรู้สึกแบบนี้มันคืออะไรวะ"

    เขาบ่นพึมพำกับตัวเองก่อนจะหันไปถามเพื่อน

    "มึงรู้ความหมายมั๊ยวะ กูงงมากอะ ทำไมคำทำนายมันดูเเปลกๆยังไงไม่รู้

    "กูก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน มันก็แค่กระดาษเเผ่นหนึ่งป่ะวะ จะเก็บมาใส่ใจไรมากเพื่อน เลิกสนใจแล้วไปหาไรกินกันดีกว่าไปเดี๋ยวมื้อนี้ ป๋าเลี้ยงเองตามมาเลย อีหนู"

    "ถีบแม่งอีหนูบ้านป๊าแกนะสิ"

    ที่ร้านอาหารดังร้านหนึ่ง สาวๆที่เดินผ่านร้านอาหารแห่งนี้ จำต้องหันไปมองสองหนุ่มหล่อเสียจนคอเเทบเคล็ด เพราะความหล่อมันทิ่มตาจนตาลายไปหมด คนหนึ่งหล่อคม อีกคนหนึ่งก็หล่อหวานๆใสๆเห็นแล้วมันชุ่มฉ่ำหัวใจคนที่พบเห็นจริงๆ

    "เป็นไงบ้างมึง ดีขึ้นหรือยังวะ"

    เทียนซื่อเป็นฝ่ายเปิดปากถามอีกฝ่ายเพระยังรู้สึกเป็นห่วงหลิงซานอยู่มากกับเรื่องที่เป็นสาเหตุให้เพื่อนกินเหล้าเมามายเมื่อคืน

    "จะว่าไงดีวะ แย่ก็ไม่ใช่ ดีก็ไม่เชิงเอาเป็นว่ากูจะพยายามลืมมันโอเคมั๊ยวะ"

    เทียนซื่อไม่ตอบอะไรได้แต่ส่งยิ้มมาเล็กน้อย เขารู้ว่าหลิงซานพยายามพูดปลอบใจตัวเอง เเละเขาไปด้วยเขาเชื่อว่าสักวันเพื่อนเขาจะต้องลืมเหมยอิงได้








    .......ที่บ้านตระกูลไป๋......

    "อาซาน มะรืนนี้ป๊ามีงานด่วน ต้องไปดูงานที่นั้นด้วยตัวเอง เเกจะไปกับป๊ามั๊ยถือซะว่าไปพักผ่อนก็ได้ เผื่อเเกจะได้สบายใจขึ้นว่างัยจะไปมั๊ย"

    ไป๋หารฟงถามลูกชาย อยากจะพาอีกฝ่ายไปพักผ่อนเสียหน่อย เพราะเพิ่งผ่านเรื่องหนักๆมาคงจะดีไม่น้อย ถ้าลูกชายจะลืมผู้หญิงคนนั้นได้ หลิงซานนิ่งคิดอยู่สักพักก็ให้คำตอบผู้เป็นพ่อ

    "ก็ดีเหมือนกัน เเต่ผมจะพาไอ้เทียนไปด้วยจะได้มั๊ยป๊า"

    "ก็แล้วแต่เเกเถิดอาซาน อาเทียนก็เหมือนลูกป๊าอีกคน"

    "ได้ข่าวว่าป๊ามีลูกคนเดียวไม่ใช่เหรอ"

    หลิงซานพูดกวนผู้เป็นพ่อเพราะรู้ว่าพ่อตัวเองรักเทียนซื่อเหมือนลูกอย่างที่ว่าจริงๆ"

    "อ้าวไอ้ลูกคนนี้ อิจฉาเพื่อน"

    "ผมเปล่าน้าาา"

    "
    "
    "
    "
    "
    ถึงกำหนดเดินทาง
    เทียนซื่อก็มารอเพื่อเดินทางพร้อมกันอยู่ที่บ้านเพื่อน พอทุกคนพร้อมแล้วก็รีบออกเดินทางทันที ผ่านมาไม่กี่ชั่วโมงก็ถึงที่หมาย ที่นี้เป็นรีสอทชื่อดังทางใต้ของจีน เป็นที่ท่องเที่ยวที่สวยงามที่สุด ด้านหลังเป็นธรรชาติมีน้ำตกที่สวยมาก และสามารถลงไปเล่นได้ด้วย หลิงซานดูผ่อนคลายขึ้นมากเขาคาดหวังไว้ว่าพรุ่งนี้จะมาเล่นน้ำที่นี่ เขาเป็นคนที่ชอบน้ำเป็นชีวิตจิตรใจเห็นน้ำตกใสๆสวยๆน่าอาบเเบบนี้เลยอดใจไว้ไม่ได้ เเต่วันนี้เหนื่อยมามากแล้วขอนอนเอาแรงก่อนเถิดเดี๋ยวพรุ่งนี้จะลงเล่นให้หนำใจเลย เขาหมายมาดเอาไว้ในใจ



    _____________________________










    ทางด้านของเย่วซิน

    เมื่อเล่าทุกอย่างที่ตนฝันให้มารดาฟังก็เห็นสีหน้าไม่สู้ดีนักของมารดา เลยอดที่จะถามไม่ได้

    "ท่านเเม่ ท่านเป็นอะไรไปรึเห็นสีหน้าท่านไม่ค่อยจะสู้ดีนัก"

    "ข้าหวังว่าที่เจ้าฝัน มันจะไม่ใช่นิมิตรมังกรนะเย่วเอ๋อร์"

    "ไม่หรอกท่านแม่ท่านอย่าลืมสิว่าข้าเป็นบุรุษนะ ท่านเคยเห็นคูพันธะเป็นบุรุษรึท่านเเม่"

    "เคยเห็นซิ" มารดาตอบออกไปเล่นเอาคนถามถึงกับชงักงัน"

    "ท่านเเม่พูดริงหรือ"

    "ข้าจะปดเจ้าไห้ได้อะไรคู่พันธะที่เป็นบุรุษก็มีอยู่หลายคน"

    "แล้วถ้าเป็นบุรุษจะสามารถมีบุตรไวัสืบบัลลังได้รึท่านแม่"

    เย่วซินถามด้วยความสงสัย เป็นบุรุษไม่อาจมีบุตรได้แล้วจะสืบทอดบัลลังได้อย่างไรกัน

    "อันนั้นข้าเองก็ไม่รู้เช่นกัน เอาเป็นว่าพรุ่งนี้เราไปที่บ่อน้ำศักสิทธ์กัน"

    "ไปทำอะไรหรือท่านแม่ ที่บ่อน้ำศักสิทธิ์มีไว้ทำพิธีสำคัญมิใช่หรือ"

    เย่วซินเอ่ยถามมารดาออกมาด้วยความสงสัย ซินหลี่เลยให้ความกระจ่างเเก่บุตรชายของนาง

    "ใช่มีไว้เพื่อทำพิธีสำคัญ แต่เจ้าอย่าลืมสิว่าที่นั่นมีรูปปั้นเทพอัคคี ที่ทุกคนเคารพบูชาอยู่ ข้าจะพาเจ้าไปขอพรจากองค์เทพให้ปัดเป่าสิ่งที่ไม่ดีออกไปจากตัวเจ้า ภัยใดก็อย่าได้กล้ำกลายเข้ามาไกล้เจ้าเลยเย่วเอ๋อร์"

    มารดาเอ่ยพลางเอื้อมมือมาลูบศรีษะบุตรชายอย่างแสนรัก



    ______________________________

    "
    "
    "
    "
    "
    "
    "
    "
    "
    "
    มาแล้วจ้าาาาใครรออ่านอยู่บ้างเอ่ยตอนนี้เริ่มมีตัวลครเพิ่มขึ้มาอีกแล้วน้าาาเรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไปพอจะเดากันถูกมั๊ยเอ่ยรอลุ้นกันตอนหน้านะ

    #ฝากกดติดตาม กดเม้นเพื่อเป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยนะคะ????????????



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×