ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ลิขิตรักราชามังกร

    ลำดับตอนที่ #6 : สหายรัก

    • อัปเดตล่าสุด 5 ก.ค. 63





    "เย่วซินเจ้ามีเรื่องอันไดไห้ไม่สบายใจหรือเปล่าข้าเห็นเจ้าเอาแต่นั่งถอนใจอยู่นานเเล้ว"


    "เปล่า " เย่วซินตอบออกมาแค่นั้น

    "แต่ข้าว่า เจ้าต้องมีเรื่องอะไรที่ไม่สบายใจอยู่เป็นแน่ เจ้าอย่าได้ปิดบังข้าเลยเย่วซิน มีอะไรบอกข้าได้อย่างไรเสียเราก็สหายกัน"

    " ข้าว่าวันนี้เจ้าจะพูดมากไปรึเปล่า หยางหลิว "

    "คนรึอุตส่าหวังดีไม่บอกก็เก็บเอาไว้คนเดียวให้อกแตกตายไปซะเลย"

    หยางหลิวมองค้อนสหายตนเสียวงใหญ่ ด้วยใบหน้าที่งอง้ำ หยางหลิวเป็นบุรุษอีกคนที่มีใบหน้าหมดจด แต่ออกไปทางคมคายเสียมากกว่า ไม่เหมือนเย่วซิน รายนั้นออกจะติดไปทางหวานเสียส่วนใหญ่

    "เจ้าอย่าทำหน้าอย่างนั้นสิหยางหลิว"

    "ทำไมรึ หรือว่าข้าหล่อเหลากว่าเจ้า เย่วซิน"

    "เอาเถิด ข้ายกให้เจ้า ถึงข้าจะไม่หล่อเหลาเท่าเจ้า แต่ข้ากำลังจะมีเมีย เเล้วเมื่อไรเจ้าจะหาเจอ คนที่เจ้ารัก"

    "ไม่รู้ซิ เนื้อคู่ข้ายังไม่เกิดกระมังฮะๆๆ เเต่ข้าก็ไม่คาดคิดมาก่อนเลยจริงๆ ว่าเจ้าจะมีเมียได้"

    " อะ ....อ้าวเจ้าพูดอย่างนี้มันหมายความว่าอย่างไรกัน ทำไมข้าจะมีเมียไม่ได้ตอบข้ามาดีๆไม่อย่างนั้นเจ้าได้เจ็บตัวแน่"

    เย่วซินโวยวายออกมา รู้สึกชักจะไม่ค่อยมั่นใจขึ้นมาเสียอย่างนั้น หยางหลิวชอบพูดจาแปลกๆแต่ถ้าคิดตาม สิ่งที่เขาพูดมักจะถูกต้องเสมอ ครั้งนี้ก็เช่นกันเขาชักจะเสียวสันหลังเเปลกๆพิกลอย่างไรไม่รู้

    "ก็ข้าพูดความจริง หัดดูหน้าตาตนเสียบ้าง แล้วคิดสิว่า ชาตินี้เจ้ายังคิดที่จะมีเมียอยู่อีกรึ ถึงผู้คนที่นี่จะดูงดงาม แต่ก็ยังน้อยไปถ้าให้เทียบกับเจ้า"

    หยางหลิวพูดพลางหัวเราะ ก็เขารุ่นราวคราวเดียวกับเย่วซิน เย่วซินกำลังจะมีครอบครัว แต่เขายังหาคนที่ถูกใจไม่เจอเลย

    "เรื่องนั้นมันไม่สำคัญหรอก เจ้าอย่าอิจฉาข้าเลย"

    "ข้านะรึอิจฉาเจ้า เปล่าเลย ข้าเพียงแต่สงสัยว่า หลิงอันเอาตาข้างใดมองเจ้า ถึงได้คิดที่จะตบเเต่งกับเจ้า เป็นข้าไม่มีทางเด็ดขาด"

    "อ้าว ไอ้สหายบ้า พูดอย่างนี้ได้อย่างไร ข้ามันไม่ดีตรงไหนฮะ"

    "ไม่ใช่ว่าเจ้าไม่ดี เเต่เจ้างามกว่านางเสียอีก เป็นข้าคงจะอับอายที่สามี งดงามกว่าตนเอง หึหึ ถ้าเป็นบุรุษก็ว่าไปอย่างคงเหมาะสมดีพิลึกฮ่าๆๆๆๆ"

    หยางหลิวพูดจบ ก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังลั่นเย่วซินเลือดขึ้นหน้าทันที

    "เจ้าหยามข้าหยางหลิว ไอ้สหายเลวปากดีนัก มาให้ข้าเลาะฟันออกจากปากเจ้าเสียเดี๋ยวนี้"

    เย่วซินกล่าวออกมา พร้อมย่างสามขุมมาหาหยางหลิวด้วยแววตาวาววับ หยางหลิวเห็นท่าไม่ดีเลยรีบหนีเอาตัวรอด

    "ไม่โว้ย อยู่ให้เจ้ากระทืบข้ารึ ไม่มีทาง ถ้าอยากกระทืบข้าก็เข้ามาสิ ข้าไปก่อนล่ะฮ่าาาา"

    พอพูดจบก็โกยอ้าวทันที เย่วซินก็ไม่ยอม รีบไล่ตามทันทีต่างคนต่างห้ำหั่นกัน อย่างเอาเป็นเอาตาย พวกเขาสองคนชอบเล่นอะไรรุนเเรงแบบนี้เสมอถึงเย่วซินจะดูบอบบาง ร่างกายจะเล็กกว่าหยาหลิวมาก แต่มือเท้าก็หนักเอาการเลย พวกเขาปะทะกันบ่อยๆ สุดท้ายแล้ว ผลที่ออกมาก็......

    "
    "
    "
    "
    "
    "
    "
    "
    "
    "
    ในขณะเดียวกันที่บ้านของเย่วซิน

    " ซินหลี่ เย่วเอ๋อร์ไปไหนรึ"

    "เห็นบอกว่าจะไปหาหยางหลิว ท่านพี่มีอะไรรึเปล่าเจ้าคะ"

    "ไม่มีอะไรมากนักหรอก เพียงแต่ท่านผู้นำเรียกหารือ ข้าอยากไห้เย่วเอ๋อร์ ไปร่วมด้วยเพราะอีกไม่นาน เย่วเอ๋อร์ก็ต้องรับช่วงต่อจากท่านผู้นำ ให้เป็นผู้นำคนต่อไป ข้าเลยคิดว่าสมควรแล้วที่ลูกชายของเราน่าจะไปดูๆเอาไว้เสียบ้างคงดีมิน้อย"

    " แล้วท่านผู้นำ หารือด้วยเรื่องอันใดรึเจ้าคะ สำคัญมากน้อยอย่างไรเจ้าคะท่านพี่ ให้ข้าไปตามหรือไม่"

    "สำคัญอยู่ใช่น้อย เเต่เจ้าไม่ต้องไปตามหรอก ไว้คราวหน้าก็ได้ วันนี้เห็นท่านผู้นำเเจ้งมาว่า จะหารือกันเรื่องคู่พันธะ เจ้าสาวของราชามังกร นี่ก็ยืดเยื้อมานานเเล้วแต่ยังไร้วี่แววของผู้ถูกเลือก เลย
    ข้าล่ะกลุ้มใจแทนท่านผู้นำจริงๆ"

    "จะเป็นเช่นไรหากหาคนผู้นั้นไม่เจอล่ะท่านพี่"

    "ข้าก็ไม่รู้จริงๆ แต่ถึงอย่างไรข้าก็เชื่อว่าจะต้องเจออย่างแน่นอน เอาล่ะข้าคงต้องไปแล้วเดี๋ยวจะสายเอาได้"

    เขาพูดจบก็รีบไปเพราะกลัวสายอย่างที่พูดเอาไว้

    "
    "
    "
    "
    "
    "
    "
    "
    "
    "
    ที่บ้านของหยางหลิว

    "โอ๊ยยยยย เบาๆหน่อยสิเย่วซิน นี่เจ้าใช้มือหรือเท้ากันแน่ฮะ!!

    หยางหลิวร้องโวยวายออกมา เพราะถูกเย่วซินเเกล้งเอาลูกประคบ กดลงบน
    รอยแผลฟกช้ำที่มุมปากเสียเต็มแรง เพราะความหมั่นใส้
    เย่วซินก้มหน้าก้มตา ทำแผลต่อจนเสร็จ

    "เจ้าจะร้องโวยวายไปทำไม ตัวยังกับควายเเผลแค่นี้เล็กน้อย"

    เย่วซินพูดพลางมองหน้าสหายรัก ต่างคนก็ต่างจ้องหน้ากันก่อนที่จะ.....

    "ฮ่าาาาาาา " (หัวเราะพร้อมกัน)

    "เจ้าหัวเราะอะไรรึ เย่วซิน"

    "ก็หน้าเจ้ามันตลกนี่"

    เย่วซินตอบ หยางหลิวมองหน้าเย่วซินก่อนจะเปล่งเสียงหัวเราะออกมาบ้าง

    "ฮ่าาาาาา หน้าเจ้าก็ตลกมิใช่น้อย"

    เพราะเห็นสภาพของกันและกัน ไม่ว่าจะรอยฟกช้ำตามร่างกาย รวมทั้งใบหน้าที่มีสภาพไม่แตกต่างกันอีก

    "เป็นอย่างไรล่ะ อารมณ์ดีขึ้นมาแล้วมิใช่รึ ครานี้ก็เล่าให้ข้าฟังใด้แล้ว"

    "เล่าอะไรรึ"

    "เย่วซินนนน!! (พูดเสียงลอดไรฟันพร้อมส่งสายตาข่มขู่ออกมา)

    "ก็ได้ เรื่องแค่นี้ ต้องดุด้วย"

    แล้วเรื่องราวทุกอย่าง ที่เป็นต้นเหตุ ก็ถูกถ่ายทอดออกมาจากปากเย่วซิน ไห้หยางหลิวฟัง ทั้งคู่สนิทกันมาก เรียกได้ว่าเหมือนเพื่อนตายก็ว่าได้
    ตอนเด็กๆชอบชวนกันเล่นซุกซนกันไปเรื่อย ได้แผลกลับบ้านไป จึงถูกมารดาตีเอา แต่ก็ไม่จำเสียทีจนโตมา ก็ยังจะหาเรื่องเจ็บตัวได้ตลอด

    "ฮะ....เจ้าจะบอกข้าว่าไอ้อาการเบื่อโลกของเจ้า สาเหตุมันมาจากความฝัน!!

    "อึม....ก็มันน่ากลัวนี่หน่า"

    "โอ๊ยยยยย ข้าอยากจะบ้ามันก็แค่ความฝัน เย่วซินเจ้ารู้จักแยกเเยะบ้างเถิด"

    พอได้รู้ถึงสาเหตุ ก็เล่นเอาหยางหลิวเกือบจะหงายหลังทันทีทันใด หลังจากนั้นก็คิดย้อนกลับไปนึกถึง เรื่องความฝันของสหาย หยางหลิวเเหงนหน้าพลาง ยกนิ้วขึ้นมาเคาะที่ขมับเบาๆ สักพักก็ต้องยกมือขึ้นมาปิดปาก เพื่อกลั้นหัวเราะจนหน้าดำหน้าแดง

    "เจ้าทำหน้าอย่างนี้มันหมายความว่าอย่างไรฮะหยางหลิว เจ้าอยากตายนักใช่ไหม!!

    เย่วซินถามด้วยน้ำเสียงลอดไรฟันหน้าตาดุดัน พลางย่างเข้ามาคว้าต้นคอ ของหยางหลิวไว้อย่างรวดเร็ว โดยที่อีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัว พร้อมบีบลงไปเสียเต็มเเรง ก่อนจะคลายออกเล็กน้อย เเต่ก็ไม่ยอมปล่อยมือออกเสียทีเดียว เล่นเอาหยางหลิวหน้าดำหน้าเเดง ยกมือตนขึ้นมาฟาดมืออีกฝ่าย เย่วซินยกยิ้มอย่างสะใจก่อนจะยอมคลายมือออก

    "แค๊กๆๆเจ้าบ้า เจ้าจะฆ่าข้ารึไรฮะ เย่วซิน บีบมาได้เกิดข้าตายขึ้นมา เจ้าจะทำเช่นไรฮะ!!!!

    หยางหลิวกล่าวออกมาด้วยความโกรธ เย่วซินเล่นบีบคอเขาเสียเต็มมือแบบ นี้เขาไม่ตายก็ถือว่าเป็นบุญแล้ว แต่คำตอบที่ได้รับจากสหายรัก เล่นเอาเขาไปไม่เป็นเอาเลยจริงๆ

    "ฝัง" (คือคำตอบของเย่วซิน)

    " ToT " (หยางหลิว)

    "เย่วซิน" (หยางหลิว)

    " -_- " (เย่วซิน)

    " มันก็แค่ความฝัน "


    หยางหลิวพูกกับสหายตน เมื่อรับรู้ได้ถึงความกังวลที่ยังคงมีอยู่

    " แต่มันเหมือนความจริงมากเลยนะหยางหลิว มิเช่นนั้นข้าคงมิต้องมานั่งกลุ้มใจอย่างนี้หรอกนะ"

    เย่วซินพูดขึ้นพร้อมกับถอนหายใจพรืดๆ

    " ถ้ามันเป็นเรื่องจริงล่ะก็ อึ๋ยยยย"

    " มีอะไรรึ "

    " เจ้าเตรียมตัวไว้เถิดเย่วซิน "

    หย่างหลิวว่าพร้อมทำท่าทางพิลึกพิลั่น จนเย่วซินอดสงสัยไม่ได้

    " เตรียมตัว....เตียมตัวอะไรของเจ้า พูดออกมาให้มันกระจ่าง "

    " หึ หึ หึ ก็เตรียมตัวเเต่งสามีเข้าบ้านอย่างไรเล่า ฟังจากความฝัน บอกแน่ชัดเเล้วมิใช่รึ ที่เจ้าเล่ามามันก็ชัดเจนอยู่มาก"

    " ชัดเจนอย่างไรกันเจ้าพูดออกมาดีๆ!

    "แค่ถูกเจ้ามังกรตัวนั้นรัดเอา อย่างกับอยากจะกลืนเจ้าลงท้องไป เช่นนั้นแล้วจะไห้ข้าพูดเช่นไรได้อีก"

    " เจ้าพูดผิดเเล้วล่ะ ข้าต้องเเต่งเมียเข้าบ้านสิ"

    " สามีนะถูกแล้ว หน้าตาอย่างนี้มีสามีน่ะดีแล้ว ฮ่าาาาา"

    หยางหลิวพูดจบก็เผ่นหนีทันที ไม่อยู่รอให้ใครมากระทืบเขาหรอกนะ

    "เจ้าบ้าขอให้ทุกคคำที่เจ้าพูดย้อนกลับมาหาตัวเจ้าเอง คอยดูพ่อจะจับใส่พานถวายถึงที่เลย"

    ..…

    ......................................................................................




    เย่วซินพึมพำกับตนเองก่อนจะมุ่งหน้ากลับบ้านตน มาถึงก็เจอมารดานั่งอยู่ที่ ระเบียง พอหันมาเห็นเขาเข้าเท่านั้น

    "เย่วเอ๋อร ์นั่นเจ้าไปฟัดกับหมาที่ไหนมา!!

    มารดาถามออกมาด้วยความโมโห ตรงดิ่งมาทางเขา มือบางของมารดาหยิกหมับที่สีข้างของบุตรชายทันที เล่นเอาคนถูกกระทำ ร้องเสียงหลงออกมาด้วยความเจ็บปวด คงได้มีรอยช้ำเพิ่มขึ้นมาอีกเป็นแน่

    "โอ๊ยยยย ท่านแม่หยิกข้าทำไม ข้าเจ็บนะโอยยยยเบาๆๆ"

    "เจ็บสิดี เจ้าจะได้จำใส่หัวเอาไว้ คราหน้า เจ้าจะหาเรื่องเจ็บตัวอีกหรือไม่ ฮะเย่วเอ๋อร์!!

    มารดาที่ยังไม่ยอมปล่อยมือออกจากบุตรชาย ก็ใช้มือบิดซ้ำลงไปอีกเรียก เสียงร้องของบุตรชายออกมาอีกครั้ง

    " โอ๊ยยยยย ท่านเเม่พอเถิดข้าเข็ดเเล้ว จะไม่ทำอีกแล้วสาบานเลยเอ้า "

    พูดพร้อมยกมือขึ้นทำท่าประกอบ จนถูกฟาดซ้ำไปอีกครั้ง ซินหลี่มองหน้าบุตรชายพลางส่ายหน้าไปมาอย่างระอาใจ

    "ทำเป็นพูดดีไป ข้าบอกกับเจ้ากี่ครั้งแล้ว ว่าอย่าไปมีเรื่องกับใคร แล้วครานี้ ไปตีกับใครมาอีกเย่วเอ๋อร์"

    " หยางหลิว"

    "ทะเลาะอะไรกัน ถึงกับต้องลงไม้ลงมือแบบนี้"

    "ก็เจ้านั่น มันยั่วโมโหข้าก่อนนี่หน่า ท่านแม่ ข้าเลย...."

    "นี่เเสดงว่าเจ้าเป็นฝ่ายเริ่มก่อนใช่หรือไม่เย่วเอ๋อร์"

    "เปล่านะท่านแม่ หยางหลิวเริ่มก่อนต่างหากเล่า อย่าได้มองข้าอย่างนั้นเลย"

    เย่วซินรีบโยนความผิดไปไห้สหายรักทันทีอย่างร้อนรน เมื่อถูกสายตา ของมารดาจ้องมาอย่างกดดัน ซินหลี่จ้องมองบุตรชายของตน พลางส่ายหน้าระอากับความใจร้อนของเย่วซิน นี่หยางหลิวคงจะพูดอะไรไม่เข้าหูอีกละสิ ถึงได้กลับมาในสภาพนี้ เหตุการเเบบนี้มักจะเกิดขึ้นบ่อย จนนางชินไปเเล้ว

    "ท่านแม่ เเล้วท่านพ่อไปไหนรึ"

    "พ่อของเจ้า คงกำลังหารืออยู่กับท่านผู้นำ นี่ก็เป็นอีกเรื่อง คราหน้าพ่อเจ้า
    อยากให้เจ้าไปร่วมด้วย อีกหน่อยเจ้าก็ต้องรับหน้าที่ต่อจากท่านผู้นำแล้ว
    เตรียมพร้อมไว้ ก็จะดีไม่น้อย"

    "ก็ได้ท่านแม่ คราหน้าข้าไปกับท่านพ่อด้วย"

    "ดีแล้วล่ะเย่วเอ๋อร์ รู้จักโตเสียที อีกไม่นานเจ้าก็จะเป็นหัวหน้าครอบครัว
    ต้องดูแลรับผิดชอบคนของเจ้าอีกมาก จะมัวมาเล่นซุกซนอย่างนี้อีกไม่ได้"

    "ข้อนี้ข้ารู้ดี ท่านแม่ไม่ต้องเป็นกังวลไปหรอก ถึงเวลานั้นข้าจะทำให้ดีที่สุด"

    "แม่ภูมิใจในตัวเจ้านักเย่วเอ๋อร์ "

    นางพูดพร้อมส่งรอยยิ้มที่แสนอบอุ่นมาให้ พลางคว้าร่างบุตรชายมากอดไว้ เย่วซินยกเมือเรียวขึ้นมากอดตอบมารดา เขาค่อยๆเเหงนใบหน้าขึ้นพรอมกล่าว....

    "ข้ารักท่านแม่ที่สุด" มารดาส่งยิ้มกลับมา

    "แม่กับพ่อก็รักเจ้าที่สุดเช่นกัน เอาล่ะ ไหนลองบอกมาสิว่า ทะเลาะกับหยางหลิวด้วยเรื่องอันไดกัน ต้องลงไม้ลงมือกันถึงเพียงนี้"

    "ก็เจ้าบ้านั่นมันว่าข้า เอ่อคือ มันบอกว่าข้าสวยกว่าหลิงอัน ถ้ามันเป็นหลิงอัน คงไม่แต่งกับคนที่สวยกว่าตนหรอก"

    "ฮ่าาาาา นี่หยางหลิวพูดเเบบนี้รึ มิน่า ถึงทำไห้เจ้าเดือดได้ขนาดนี้"

    นางพูดพลางหัวเราะออกมา เลยเรียกใบหน้างอง้ำของบุตรชายได้เป็นอย่งดี

    " ไม่เอาดีกว่า ข้าไม่พูดกับท่านเรื่องนี้เเล้ว......เเล้วท่านพ่อไปหารือกับท่าน ผู้นำด้วยเรื่องอันใดรึท่านแม่"

    "ก็เรื่องเดิมนั่นเหละ ตอนนี้ท่านผู้นำกำลังร้อนใจเป็นอย่างมาก จนป่านนี้เเล้ว ผู้ถูกเลือกยังไม่ปรากฎตัวเลย นี่ก็เหลือเวลาไม่มากเเล้วเสียด้วยสิ"

    "มันเป็นเรื่องจริงรึท่านแม่ ราชามังกรนะ มันไม่ใช่มีเเต่ในตำนานหรอกรึ"
    "เจ้านะไม่รู้อะไร ไม่ชื่อก็อย่าได้ลบหลู่ไป ตำนานของหมู่บ้านเรา เจ้าก็รู้ดีมิใช่หรือ "

    มารดากล่าวเตือนบุตรชายออกไป มันไม่ใช่เรื่องแปลกหรอก ที่เย่วซินมีทีท่าว่า ไม่ค่อยจะเชื่อซักเท่าไรเพราะครั้งสุดท้ายที่ราชามังกรมาปรากฎตัว ที่หมู่บ้านแห่งนี้นางยังเด็กนัก

    "ข้ารู้...... เเล้วท่านแม่เคยเห็นรึเปล่า ราชามังกรเเละผู้ถูกเลือก"

    เย่วซิน ถามมารดาออกมาด้วยความสงสัย เขาเคยได้ยินผ่านหูมาบ้าง แต่ ช่วงหลังมานี้ชักจะวุ่นวายขึ้นทุกที เมื่อไกล้จะถึงช่วงเวลาส่งตัว
    เจ้าสาวราชา มังกร ทุกคนก็ต่างรอคอยที่จะได้เห็น เหตุการที่เป็นเรื่องราวเล่าขานต่อกันมา คนที่เคยพบ

    เห็นมาแล้ว ก็ยังจำภาพนั้น อย่างฝังใจเเละรอคอยที่จะพบเห็นอีกครั้ง ส่วนคนที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน
    ก็ตั้งหน้าตั้งตารอคอยแต่ปัณหามันอยู่ที่ว่า ยังหาคู่พันธะ ของราชามังกรไม่เจอ

    "เคยเห็นสิ มันนานมากแล้ว ตอนนั้นข้ายังเด็กนัก แต่ก็จำเหตุการครั้งนั้นได้ ไม่เคยลืม "

    นางบอกกับบุตรชาย พลางนึกย้อนกลับไปในตอนนั้น นางเห็นมังกรตัวใหญ่มากมาปรากฎตัวที่หมู่แห่งนี้ พลันร่างมังกรยักษ์ก็ แปลเปลี่ยน เป็นบุรุษรูปงาม เเล้วตรงดิ่งไปยังคู่ของตนทันที ถ้าจำไม่ผิด
    คู่พันธะของราชามังกรผู้นั้น เป็นบุตรสาวของผู้นำเผ่าหงส์ไฟคนก่อน หลังจากนั้นพิธีผูกพันธะก็เริ่มขึ้น และจบลงอย่างราบรื่น ราชามังกรจึงพาเจ้าสาว ของตนกลับอณาจักรมังกรทันที หลังจากวันนั้นนางก็ไม่เห็นสตรีผู้นั้นอีกเลย นางจำได้เพียงแค่นั้น เคยถามพวกผู้เฒ่าเหมือนกันว่า ทำไมคู่ของราชามังกรทุกคน ถึงไม่ได้กลับมาเยี่ยมเยียนบ้านบ้าง คำตอบที่ได้รับ
    กลับไม่ให้ความกระจ่างเเก่ผู้ไดได้ เพียงแค่บอกว่าเป็น
    กฎของทั้งสองเผ่าที่ต้องการป้องกัน มิให้ผู้ล่วงล้ำมายังเผ่าหงส์ไฟได้ ถึงแม้ว่าจะผ่านมานานมากแล้ว แต่ก็ยังมีคนที่ต้องการตัว
    ของชาวเผ่าหงส์ไฟอยู่ มิใช่น้อย ชาวเผ่าหงส์ไฟอยู่กันมาอย่างสงบสุขได้ ด้วยการตัดขาดจากโลกภายนอก ออกไป และเก็บตัวอยู่เเต่ใน ค่ายกลเวท เเห่งนี้มาตลอด

    "เจ้าคงไม่รู้หรอกว่า ราชามังกรมีความสามารถปล่อยดวงจิตของตน หรือจะเรียกให้ถูกคือ ญาณทิพย์ไปเข้านิมิตคู่ของตน หลังจากนั้นก็จะเกิดสัญลักษ์ คู่พันธะขึ้นกับคนผู้นั้น"

    "แล้วราชามังกรรู้ได้อย่างไรว่าผู้ใดคือคู่ของตนล่ะท่านแม่"

    เย่วซินถามด้วยวามสงสัยมารดาจึงเล่าให้ฟังต่อไปอีกว่า

    "รู้สิ ก็ดวงจิตมังกร มีหน้าที่ค้นหาคนที่มีชะตาร่วมกัน จากนั้นก็ได้ทำการ
    ผูกดวงจิตของทั้งสองเข้าด้วยกัน เปรียบเสมือนทั้งคู่มีหัวใจดวงเดียวกัน"

    เย่วซินฟังที่มารดาเล่าก็ชักใจไม่ดี ช่วงนี้เขาชอบฝันเห็นอะไรแปลกๆ เสียด้วยสิ

    "ท่านแม่เเล้วคู่ชะตา ....คู่พันธะน่ะ จะมีความฝันออกมาในรูปเเบบไดบ้าง"

    "ข้าก็รู้มาไม่มากนักหรอก รู้แค่เพียงว่าส่วนใหญ่จะมาในรูปเเบบ บุรุษรูปงาม หรือไม่ก็ มาปรากฎตัวเป็นพยามังกรตัวโตๆ น่าเกรงขามยิ่งนัก"

    "น่ากลัวนะสิไม่ว่า"

    เย่วซินพึมพำออกมาเบาๆ เเต่ก็ไม่รอดพ้นหูพ้นตามารดาไปได้ มารดากลับใด้ยินจึงถามขึ้น

    "เมื่อครู่เจ้าพูดว่าอย่างไรข้าฟังไม่ถนัด"

    "ไม่มีอะไรหรอกท่านแม่"

    เขาบอกมารดาพลางหลบตา เเต่มีหรือที่มารดาจะเชื่อที่เขาบอก นางเลี้ยงเขามาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย นางดูออกว่า เย่วซินมีอะไรปิดบังนางอยู่

    "เย่วเอ๋อร์ เจ้ามีอะไรปิดบังอยู่ก็พูดออกมาเถิด ข้าเห็นสีหน้าเจ้าเหมือนมี อะไรในใจ พอจะเล่าให้ข้าฟังได้หรือไม่เย่วเอ๋อร์"

    เย่วซินมองหน้ามารดาก็เห็นสายตาที่ส่งมามันมีทั้งความรัก ความอบอุ่น เเละความห่วงใยอย่างไม่อาจปฏิเสธความหวังดีนี้ได้เลยจริงๆ จึงตัดสินใจเล่าความฝันของตนให้มารดาฟัง เพราะเขาทนเก็บไว้ไม่ไหวอีกแล้วมันอึดอัด ตอนเเรกที่เล่าให้หยางหลิวฟังก็ไม่ได้คิดมากอย่างนี้ พอมาได้ยินเรื่องคู่พันธะที่ท่านเเม่เล่าก็แอบเอามาคิดมากเสียไม่ได้...





    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++











    มาแล้วจ้าหายไปหลายวันเลย มีใครรออ่านบ้างน้าาาา ผิดพล
    าดยังไงก็ติชมมาได้นะคะ เเล้วจะรีบลงตอนต่อไปนะยังไงก็ฝาก
    กดติดตามและเม้นมาด้วยนะคะ คำผิดอาจจะเยอะหน่อย ขออภัยด้วย????????
    ( แล้วจะรีบแก้ไขไห้น้าาา )
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×