ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ลิขิตรักราชามังกร

    ลำดับตอนที่ #26 : ซุกซนจนได้เรื่อง

    • อัปเดตล่าสุด 16 ก.ค. 65


    เนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมา เย่วซินต้องรับมือกับคนหื่นที่ตักตวงเอาจากเขาจนเกือบสว่าง วันนี้เลยตื่นสายกว่าปกติ ร่างงามค่อยๆ กะพริบตาปรับระยะการมองเห็น เพราะแสงสว่างที่มันส่องเข้ามาในตำหนัก

    ดวงตาหวานกวาดมองไปทั่วหวังเจอใครอีกคน ที่โอบกอดเขาตลอดทุกค่ำคืนหลังจากผ่านพ้นคืนวิวาห์มาอย่างทุลักทุเล สายตากวาดมองหาร่างสูงแต่ก็ไร้วี่แวว ร่างงามค่อยๆ ดันกายลุกจากที่นอนอย่างยากลำบาก เพราะเมื่อยขบไปทั้งตัว แถมอาการปวดร้าวตั้งแต่บั้นเอวลงไปถึงช่องทางที่ถูกรุกราน และถูกใช้งานอย่างหนักเมื่อคืนที่ผ่านมา ขาเรียวย่างก้าวลงจากเตียงนอนหลังใหญ่

    "โอ๊ย... อึก อื้อ... ปวดจัง"

    เพียงแค่ฝ่าท้าวแตะลงบนพื้น ร่างบางที่ทิ้งน้ำหนักตัวหวังพยุงกายลุกขึ้น แต่ขาเจ้ากรรมมันล้าเกินไปพาให้สั่นจนทรงตัวไม่อยู่ ทรุดกายลงนั่งบนพื้นห้อง ใบหน้างามเหยเกปากบางขบเม้มเข้าหากัน ก่อนจะดันกายพยายามลุกอีกครั้ง หากแต่ไม่ทันไรร่างบางก็ลอยหวือขึ้นจากพื้น มาอยู่ในอ้อมแขนของสวามี ที่กำลังจ้องใบหน้างาม ปากหนายกยิ้มขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์ส่งมาให้คนในอ้อมแขน

    "เจ้าจะไปไหนกัน ยังเจ็บอยู่ไม่ใช่หรือไร" เอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

    "ข้าอยากอาบน้ำ นี่ก็สายมากแล้วทำไมท่านไม่ปลุกข้า"ร่างบางมองหน้าสวามี

    "เห็นเจ้าหลับอยู่ไม่อยากรบกวน เมื่อคืนข้าก็กวนเจ้าทั้งคืนเสียด้วย เจ้าคงจะเหนื่อยและต้องการพักผ่อน"

    ร่างสูงเผยรอยยิ้มออกมาอีกครั้ง สีหน้าดูมีความสุขเสียจนร่างบางพาลให้หมั่นไส้ ก็กวนเขาทั้งคืนคงจะอิ่มแปล้เชียว เช้านี้หน้าเลยบานเท่ากะละมัง

    "เย่วเอ๋อร์เจ้าจะอาบน้ำใช่หรือไม่ ถ้าเช่นนั้นข้าจะอาบให้เจ้าเอง"

    "ไม่ต้องข้าอาบเองได้ ท่านไม่ต้องลำบากหรอกนะ"

    "ไม่ลำบากเลยสักนิด เพื่อเจ้าแล้วข้ายินดี"

    พูดพลางอุ้มคนที่ทำสีหน้ามองไม่ออก ว่าเขินอายหรือโกรธเคืองกันแน่ มุ่งตรงไปยังสระน้ำอีกด้าน

    ทางด้านหลิงซาน

    เรียวขางามกำลังย่างก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่รีบร้อนจนเกินไป จุดหมายของเขาคือตำหนักใหญ่อีกหลังที่พี่ชายตนพักอยู่ นี่ก็สายมากแล้วทำไมพี่ชายเขายังไม่ออกมารับมื้อเช้ากันนะ หรือว่าจะไม่สบายหลิงซานคิดได้ดังนั้น ก็เร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นกว่าเดิม ด้วยความร้อนใจ

    ในตำหนักไม่มีใครอยู่สักคน ร่างเล็กขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ว่าพี่ชายตนหายไปไหนกัน

    "เอะ ? ไม่อยู่ ท่านพี่ไปไหนกันหรือว่าจะไปกับพี่เขย"

    ขาเรียวกำลังจะก้าวออกจากตำหนักหากก็ต้องหยุดชะงักลง เพราะหูเจ้ากรรมมันดีเกินไปดันไปได้ยินเสียงประหลาดๆ ดังออกมาจากห้องอาบน้ำอีกด้านในตำหนัก

    "เสียงอะไรน่ะ มันเกิดอะไรขึ้น หรือท่านพี่กำลังตกอยู่ในอันตราย"

    ไม่รอช้าร่างเล็กพุ่งตัวไปยังที่มาของเสียงทันที

    "ท่าน พะ-พี่... "

    แต่ภาพที่เห็นทำให้ขาที่รีบก้าวเดินต้องหยุดชะงักทันที ดวงตาโตเบิกกว้างแทบถลนออกมาจากเบ้า ปากบางอ้าค้างไว้อย่างนั้น ด้วยความตกตะลึงกับภาพที่พี่ชายเขา กับพี่เขยกลายเป็นชีเปลือย กำลังเล่นมวยปล้ำกันอย่างเมามันไม่รับรู้ถึงการมาเยือนของอีกคน ร่างเล็กก็รู้ได้ทันทีว่าเสียงที่ตนได้ยินนั้นมันมาจากที่ไหน

    ใบหน้างามแดงก่ำ และร้อนผ่าวราวโดนไฟรน อาการลุกลี้ลุกลนอย่างทำอะไรไม่ถูก ร่างเล็กยืนแข็งทื่อเป็นหินเสียอย่างนั้น นานเท่าไรก็ไม่รู้ได้ มือบางยกขึ้นมาปิดใบหน้าร้อนผ่าวของตน ขาเรียวก้าวถอยหลังอย่างช้าๆ จนชนเข้ากับอะไรบางอย่าง เหงื่อกาฬผุดซึมทั่วร่างงามขนตั้งชันไปทั่วกาย เพราะรู้สึกถึงลมหายใจร้อนผ่าวที่เป่ารดต้นคอตนในตอนนี้ ก่อนจะรับรู้ได้ว่าร่างของตนถูกมือปริศนา ยื่นมารวบไปไว้ในอ้อมแขนแกร่ง พาไห้ตกใจหันกลับไปมองคนที่กระทำอุกอาจกับตัวเอง

    "อะ-อี้เฟยคือข้า... เอ่อ... "

    ร่างเล็กหน้าเสีย ไปไม่เป็นก็คราวนี้ เมื่อถูกสวามีจับได้ว่าตนกำลังทำอะไร ได้แต่อึกๆ อักๆ พูดไม่ออก

    "ชูว์... อย่าเสียงดังไป เดี๋ยวท่านพี่จับได้ว่ามีเด็กแอบมาเล่นซุกซนแถวนี้"

    "คะ-คือข้าไม่"

    จะเถียงแต่ร่างสูงไม่เปิดโอกาสให้เลย ร่างเล็กถูกอุ้มออกมาจากตำหนักพี่ชาย ตรงไปยังตำหนักตนเอง ใบหน้างามแดงก่ำซุกอกร่างสูงเอาไว้ ซ่อนความอับอาย อี้เฟยยิ้มอย่างขบขันกับท่าทีของคนในอ้อมแขน

    "หึ หึ หึ "

    เสียงหัวเราะในลำคอที่หลิงซานได้ยินแล้ว อยากจะร้องไห้ขึ้นมาให้ได้ กับความอับอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน

    ตำหนักอี้เฟย

    "หัดเป็นเด็กนิสัยไม่ดี เที่ยวแอบมองคนอื่นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน... เสี่ยวไป๋"

    "ข้าเปล่านะ ข้าแค่จะมาหาท่านพี่ ตะ-แต่ว่า... "

    "แต่เกิดอยากรู้อยากเห็น แล้วเจ้าเห็นอะไรบ้าง พอจะเล่าให้ข้าฟังได้ไหม"

    ร่างสูงพูดพลางยกยิ้มร้ายกาจส่งมายังร่างเล็ก ที่ตอนนี้ใบหน้างามแดงก่ำ หลิงซานทำหน้าเหลอหลา ลนลาน พยายามหลบหน้าอีกฝ่าย ที่เอาแต่จ้องเขาอย่างล้อเลียน

    "ข้าไม่ได้อยากรู้อยากเห็นเสียหน่อย กะ-ก็ข้าได้ยินเสียงแปลกๆ ดังมาจากในนั้นนี่ คิดว่าจะเกิดอันตรายกับท่านพี่ ไม่คิดว่า เอ่อ... "

    "คงไม่คิดละซิว่าจะเห็นพวกเขากำลัง... "

    อี้เฟยพูดเพียงแค่นั้น ตาคมเอาแต่จ้องใบหน้างามที่ขึ้นสีแดงระเรื่ออย่างไม่วางตา

    "นี่ท่านจะจ้องให้ข้าท้องเลยหรือไร" เปลี่ยนเรื่องอย่างแนบเนียน

    "หึ หึ จ้องอย่างเดียว เจ้าไม่อาจตั้งครรภ์ได้หรอก มันต้องลงมือทำด้วยถึงจะสำเร็จ จะว่าไปข้าชักอยากจะมีลูกกับเจ้าขึ้นมาเสียแล้วสิ ข้าว่า... เรามาทำให้เขาเกิดกันดีกว่า"

    ไม่ว่าเปล่าขาแกร่งก้าวมาหาร่างเล็กอย่างช้าๆ อีกคนถอยหนีทันที ยังเข็ดขยาดไม่หาย ยังไงก็ไม่ยอมให้เกิดขึ้นเป็นครั้งที่สองอีแน่ ถึงจะรู้ว่าอาจหลีกเลี่ยงได้ไม่นาน เพราะคำว่าเมียเเละสถานะของเขา ยังงัยร่างกายเขา ก็เป็นของผู้ชายตรงหน้าอย่างสมบูรณ์ไปแล้ว ถึงจะหลีกไม่ใด ้แต่อย่างน้อยก็ไม่ใช่ตอนนี้ ดวงตางามสอดส่ายมองหาทางรอด จากคนหื่นที่กำลังกดดันเขา ร่างเล็กถอยหนีจนแผ่นหลังบางติดผนังห้อง วงแขนแกร่งค้ำยันผนัง กักคนตัวเล็กให้อยู่ในอ้อมแขน หมดหนทางหนีได้

    "ออกไปนะอี้เฟย มะ-ไม่ ไม่เอา"

    "แต่ข้าจะเอา จนกว่า... เจ้าจะตั้งท้องลูกของข้า"

    ใบหน้าคมโน้มลงมาหาร่างเล็ก ตาจ้องตากัน หลิงซานคิดว่าคนตรงหน้า ท่าจะเพี้ยนไปแล้วที่คิดว่าผู้ชายอย่างเขา จะท้องขึ้นมาได้ช่างน่าขันสิ้นดี

    "ข้ามีลูกไม่ได้ ข้าไม่ใช่สตรีนะ ท่านเป็นอะไรมากไหมเนี่ย"

    "ได้สิ เจ้าคอยดูข้าจะทำให้เจ้าตั้งครรภ์ลูกข้าให้ได้"

    ตาจ้องตาไม่มีใครหลบ

    "ฮ่า ๆ ๆ ถ้าข้าท้องได้จริงๆ ลิงคงได้ออกลูกเป็นแมวก็คราวนี้"

    ร่างเล็กแสร้งหัวเราะกลบเกลื่อนอาการหวาดวิตก

    "หึ..ขำไปเถิด..หากตั้งท้องขึ้นมาเมื่อไรเจ้าจะขำไม่ออก"

    พูดจบก็ช้อนร่างบางขึ้นมา ขาแกร่งก้าวไปยังสระในห้องอาบน้ำ ร่างเล็กตกใจกับการกระทำของอีกฝ่าย

    "ท่านจะทำอะไร จะพาข้าไปไหนปล่อยข้าลงนะ!"

    ร่างสูงยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนตอบออกไปให้คนในอ้อมแขนหายสงสัย

    "อยากได้แบบท่านพี่กับพี่สะใภ้บ้าง"

    ร่างเล็กถึงกับหน้าม้านอึ้งจนหาเสียงตัวเองไม่เจอ กว่าสติที่เตลิดไปหาทางกลับเข้าร่างได้ ก็ถูกร่างสูงพามาถึงสระน้ำขนาดใหญ่เสียแล้ว

    "อี้เฟย... ท่านปล่อยข้าเถิดนะข้ายังไม่พร้อมเลย ถ้าข้าพร้อมเมื่อไรข้าจะไม่ขัดขืนท่านเลยนะ ปล่อยข้าเถิด" ร่างเล็กพยายามต่อรอง

    "ไม่! ข้าจะไม่อดทนอีกต่อไป หลังจากคืนร่วมหอเจ้าก็ไม่ยอมให้ข้าแตะต้องอีกเลย ข้าล่ะอิจฉาท่านพี่มากแค่ไหนเจ้ารู่หรือไม่"

    "ข้าจะไปรู้เรอะ! "

    "พี่สะใภ้ให้ความสุขกับท่านพี่อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง แล้วเจ้าล่ะ ละเลยมันมาตลอด"

    "ข้าไม่ต้องการทำหน้าที่บ้าๆ นี้เสียหน่อย ท่านก็รู้ข้าถูกบังคับ ข้าไม่ได้เต็มใจ! "

    "จะยังไงก็ช่างข้าไม่สน อย่างไรเสียวันนี้เจ้าต้องทำหน้าของเจ้า ข้าไม่ยอมใจอ่อนให้เจ้าเด็ดขาดเสี่ยวไป๋!!

    "ท่านมันบ้า! จะบังคับข้าอีกใช่ไหม ข้าไม่ยอมหรอก ไอ้ตาแก่บ้ากามปล่อยข้าลงนะ! "

    "ได้ถ้าเจ้าต้องการอย่างนั้น"

    ตูม!! ตูม!!

    ร่างสูงปล่อยร่างเล็กลงสระทันทีก่อนที่ตนจะกระโจนตามลงไป

    เสียงไอสำลักน้ำดังขรมไปทั้งห้อง ร่างเล็กสำลักกลืนน้ำลงไปหลายอึก ใบหน้างามบึ้งตึงบ่งบอกว่าโกรธร่างสูงเอามากๆ อีเฟยไม่ได้สนใจอาการโกรธของคนตรงหน้าเลย เขาสนใจอย่างอื่นมากกว่า ภาพพี่ชายกับพี่สะใภ้ยังติดตาเขาอยู่เลย ถึงตอนนี้ก็ยังไม่ยอมออกไปจากหัว อยากให้รางวัลร่างเล็กเหลือเกิน ที่ซุกซนจนได้ไปเห็นอะไรดีๆ ภาพพี่ชายเขากำลังควบเจ้ามังกรยักษ์ใส่บั้นท้ายงามของพี่สะใภ้ที่แอ่นรับ การรุกรานอย่างฮึกเหิม เสียงครางดังระงมไปทั่วห้อง น้ำแตกกระจายเป็นระลอก เพราะแรงที่ร่างสูงส่งมายังร่างบาง มันหนักหน่วงและรุนแรงไม่น้อย ซัดกระหน่ำใส่ร่างบางอย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย คนทั้งคู่ช่างร้อนแรงนัก เขาอยากได้แบบนั้นบ้าง และวันนี้เขาต้องได้

    ตำหนักเฟยหลง

    "อึก เฟยหลงข้าไม่ไหวแล้ว"

    "เรียกข้าว่าท่านพี่ซิเย่วเอ๋อร์"

    "ทะ-ท่านพี่ ข้าไม่ไหวแล้วหยุดเถิด"

    "ได้ แต่ขอจบรอบนี้ก่อน"

    เย่วซินล้าไปหมดทั้งกายและใจ ห้ามอย่างไรคนเอาแต่ใจก็ไม่ฟัง เป็นมังกรหรือเป็นม้ากันถึงได้คึกคักถึงเพียงนี้ เขานี่หมดแรงแม้จะยืนก็ยังยืนไม่ไหว เมื่อคืนที่ผ่านมาก็หนักหนามากอยู่แล้ว วันนี้ยังมาโดนซ้ำอีกถ้าจะหมดแรงอ่อนล้าคงไม่แปลก ช่องทางของร่างบางมันทั้งบวมและเจ็บจนชาไปแล้ว บอกเขาว่าจะอาบน้ำให้แต่สุดท้าย สุดท้ายคนเจ้าเล่ห์ก็จับเขากินจนสิ้นแรง 

    "เย่วเอ๋อร์... มีลูกให้ข้า ตั้งท้องลูกของข้าจะได้หรือไม่ ข้าอยากมีลูกกับเจ้า"

    "ท่านพี่ ข้าจะมีลูกให้ท่าน"

    ร่างบางพูดได้เพียงเท่านั้นก็ลื่นไถลลงไปใต้น้ำ ร่างสูงได้สติรีบคว้าร่างบางที่จมอยู่ใต้น้ำขึ้นมาและรับรู้ว่า อีกคนสลบไปแล้วด้วยร่างกายอ่อนเพลียเกินจะรับไหว ร่างสูงรีบพาร่างบางขึ้นจากสระน้ำทันที

    เฟยหลงวางคนหมดสติลงบนที่นอนหนานุ่มอย่างเบามือ หลังจากผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าให้อีกคนเสร็จแล้ว นี่เขาทำกับคนตรงหน้าถึงขนาดนี้เลยหรือ แม้จะตักตวงจากกายงามเท่าไรแต่มันกลับไม่เพียงพอ เขาไม่อาจหยุดความต้องการของตนเองได้ มันต้องการคนตรงหน้ามากขึ้นเรื่อยๆ แค่คนคนนี้คนเดียวเท่านั้น หรืออาจจะเป็นเพราะพันธะที่มีต่อกันก็ได้

    ทางฝั่งอี้เฟย

    ปึก!!

    "โอ๊ย... เสี่ยวไป๋เจ้า! "

    เสียงร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด เพราะถูกร่างเล็กของเมียรัก เสยเข่ามาที่มังกรยักษ์เข้าอย่างจัง มันแข็งขึงพร้อมที่จะกระโจนเข้าใส่ร่างบางตลอดเวลา แต่ตอนนี้เจ้ามังกรยักษ์ได้แปลงร่าง กลายมาเป็นหนอนชาเขียวเสียแล้ว สิ้นฤทธิ์อย่างไม่เป็นท่า เพราะเข่าเล็กๆ แสนร้ายกาจ ทำเอาเขาหน้าเขียว จุกอย่างพูดไม่ออก มือใหญ่กำกล่องดวงใจเอาไว้ สายตาจ้องร่างเล็กอย่างเอาเรื่อง

    "ก็... ข้าบอกแล้วว่ายังไม่พร้อมยังจะมาหื่นใส่อีก ท่านจะมาว่าข้าไม่ได้ก็ข้าเตือนท่านแล้ว"

    "ฝากไว้ก่อน ถึงทีข้าเมื่อไรเตรียมตัวไว้เลย ข้าจะเอาคืนให้สาสมเชียว"

    "คิดว่าจะขู่ข้าได้รึ ตอนนี้แค่เดินให้ปกติก็ถือว่าเก่งแล้ว"

    "นี่เจ้า! "

    ร่างเล็กรีบขึ้นจากน้ำตรงไปเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที ปล่อยร่างสูงของสวามีมองตามอย่างอาฆาต ที่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะยังจุกไม่หาย ได้แต่คาดโทษคนตัวเล็กออกไป ร่างบางหันรีหันขวางไม่รู้ว่าจะเอาตัวเองไปอยู่ที่ไหนดี อยู่ในตำหนักก็ไม่ได้ ไปหาพี่ชายก็ไม่ได้อีก

    "เชี่ย!! เเล้วจะไปไหนดีวะไอ้ซาน ซวยจริงๆ เลย"

    ร่างเล็กเดินมาเรื่อยๆ ไปๆ มาๆ ไม่รู้ทำไมมาโผล่ที่ครัวหลวงเสียได้ โรงครัวที่นี่ใหญ่โตนักคนครัวก็มีอยู่มากมาย ต่างก็ทำหน้าที่อย่างขะมักเขม้น ร่างเล็กเดินเข้าไปดูอย่างอยากรู้อยากเห็น ทุกคนรีบคุกเข่าก้มหน้า ทำความเคารพทันทีที่เห็นราชินีน้อยเสด็จมาถึงที่นี่

    "องค์ราชินีน้อยต้องการอะไรหรือเพคะ ถึงเสด็จมาด้วยองค์เองแบบนี้"

    หญิงวัยกลางคนที่มีตำแหน่งเป็นแม่ครัวใหญ่แห่งนี้เอ่ยขึ้น

    "เปล่าหรอกข้าแค่ผ่านมาทางนี้ เลยแวะมาดูพวกเจ้ามีอะไรทำก็ไปทำ ข้าขอดูอะไรนิดหน่อย"

    "เพคะหากพระองค์ต้องการอะไร บอกหม่อมฉันนะเพคะ"

    ร่างท้วมของแม่ครัวใหญ่เอ่ยขึ้น ร่างเล็กพยักหน้ารับก่อนจะเดินดูนั่นดูนี่ไปสักพัก ก็นึกอะไรขึ้นมาได้

    "เอ่อท่านป้า... คือข้าอยากรบกวนท่านสักเรื่องจะได้หรือไม่"

    "รับสั่งมาเลยเพคะหม่อมฉันยินดี"

    "ข้าอยากทำขนมให้ฝ่าบาท ท่านช่วยสอนข้าหน่อยจะได้หรือไม่"

    ฝ่าบาทที่ร่างเล็กพูดถึงไม่ใช่ใครอื่น ก็คนที่ได้ตัวของเขาไปนั่นเอง อยู่ต่อหน้าผู้คนต้องให้เกียรติร่างสูงหน่อย. เพราะอีกฝ่ายก็เป็นองค์ราชา เทียบเท่ากับเฟยหลงเขาจะมาทำตัวแข็งกระด้างต่อหน้าผู้อื่นก็ไม่ได้ ตอนนี้ร่างสูงน่าจะยังไม่หายโกรธเขา เขาจะทำขนมไปเอาใจเสียหน่อย เขามั่นใจว่าวิธีนี้น่าจะได้ผล ก็เขาไม่อยากมีศัตรูโดยเฉพาะจอมหื่นอย่างอี้เฟยเพราะมันไม่ปลอดภัยสำหรับตัวเอง

    "ได้สิเพคะ..หม่อมฉันยินดีจะสอนพระองค์"

    ร่างบางเลยลงมือทำตามที่แม่ครัวใหญ่สอน โดยไม่ลืมที่จะเรียกเหยียนจื่อมาร่วมกันพังครัวหลวง จะว่าพังก็ไม่น่าจะเกินความจริงไปได้ เพราะตอนนี้ ทั้งคนทั้งเจ้าหงส์น้อยมอมแมมเหมือนไปตกถังแป้งมาก็ว่าได้ ทั่วทั้งบริเวณที่ร่างเล็กใช้ กระจัดกระจายไปด้วยอุปกรณ์ทำขนม และฝุ่นแป้งที่หกกระเด็นไปทั่ว ทุกคนที่อยู่ในโรงครัวต่างพากันมองราชินีน้อยอย่างเอ็นดู ท่าทางขะมักเขม้น จริงจังเหลือเกินกับขนมที่ตั้งใจจะทำให้พระสวามี

    "เป็นยังไงบ้างเหยียนจื่อ"

    ดวงตาหวานจ้องมองหน้าน้องชายหมาดๆ อย่างลุ้นระทึก กับคนที่อาสาเป็นคนชิมขนมที่ตนทำ

    "เค็มไปขอรับท่านพี่"

    "อีกแล้วเหรอ... ไม่ได้อีกแล้วทำไมมันยากแบบนี้นะ โอ๊ย... ข้าเหนื่อยแล้ว"

    "ใจเย็นเย็นซิเพคะ...ของอย่างนี้จะรีบร้อนไม่ได้ ค่อยๆ ทำเดี๋ยวก็สำเร็จเอง พยายามต่อไปเพคะ"

    และขนมชุดต่อไปก็เริ่มทำขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากเททิ้งไปไม่รู้กี่รอบ ต่อกี่รอบ

    "พวกเจ้า... ทำอะไรกัน"

    อี้เฟยเอ่ยทักขึ้นหลังจากตามหาร่างเล็กเสียทั่ว หวังจะลากกลับตำหนักสำเร็จโทษ ที่อีกฝ่ายทำกับเขาไว้ได้เจ็บแสบมาก แต่พอมาเห็นสภาพของคนตัวเล็ก กับเจ้าหงส์น้อยและครัวที่เละไม่เป็นท่า ก็อดสงสัยไม่ได้ว่า เมียรักมาเล่นซนอะไรแถวนี้อีก ทุกคนในครัวหลวงต่างก้มหน้าคุกเข่าลงทำความเคารพ ยกเว้นร่างเล็กที่ก้มหน้ายืนทื่อไม่ขยับไปไหน

    "ข้าแค่อยากทำขนมให้ท่านเท่านั้น แต่มันคงจะยากเกินไปสำหรับข้า ทำกี่ครั้งก็ไม่สำเร็จสักที" ร่างเล็กก้มหน้าเอ่ยด้วยความผิดหวัง ใบหน้าหมองเศร้า ฟังน้ำเสียงแล้วคงจะท้อแท้น่าดู จนร่างสูงใจอ่อนยวบทันที

    สายตาคมกวาดมองใบหน้างาม ที่ก้มหน้างุดไม่ยอมมองสบตาเขา มือหนายกขึ้นมาเช็ดคราบแป้งที่ติดอยู่ที่แก้มนวลออกให้ ก่อนจะดันคางเรียวให้เงยขึ้นมาสบตาเขา ตาคมจ้องลึกลงไปในตาหวาน อยากจะโกรธก็โกรธไม่ลงจริงๆ เมื่อรู้ว่าคนตัวเล็กตั้งใจทำขนมให้เขา ถึงจะเป็นการไถ่โทษก็เถิด เขารู้จุดประสงค์ของคนตรงหน้าดี

    "เจ้าไม่ต้องทำถึงขนาดนี้หรอกเสี่ยวไป๋ แค่เจ้ายิ้มให้ข้า ข้าก็หายโกรธเจ้าแล้ว"

    (แหน่ะดันรู้ทันอีก) ร่างเล็กคิดในใจ

    "นี่ขนมที่เจ้าทำใช่หรือไม่"

    ร่างสูงหยิบขนมที่ร่างเล็กทำขึ้นมาใหม่อีกรอบ เอาเข้าปากทันที ร่างเล็กอ้าปากค้าง จะห้ามก็ห้ามไม่ทัน

    "อื้ม... มันก็อร่อยดีนี่"

    พูดจบก็ยัดอีกครึ่งที่เหลือเข้าปากเคี้ยวตุ่ยๆ หลิงซานงงกับคำพูดของอีกคน หันไปมองหน้าเหยียนจื่อเหมือนจะถามอะไร แต่เหยียนจื่อส่ายหน้าไปมา ก่อนที่มือเรียวของเหยียนจื่อจะหยิบขนมอีกชิ้น ขึ้นมากัดกินอย่ากล้าๆ กลัวๆ เพราะเข็ดขยาดกับรสชาติก่อนหน้านี้ แต่ตาคู่สวยก็ขยายกว้างขึ้น ปากบางยิ้มออกมาอย่างดีใจ

    "อร่อย... อร่อยแล้ว ท่านพี่ท่านทำสำเร็จแล้ว"

    ร่างเล็กไม่รอช้ารีบหยิบขึ้นมากัดชิมทันที

    "อร่อยจริงๆ ด้วย เหยียนจื่อข้าทำได้แล้ว"

    ร่างบางกระโดดกอดร่างเล็กของน้องชายทันที เล่นเอาอี้เฟยชักจะร้อนๆ ขึ้นมา เลยส่งกระแสจิต

    (หนิงเฟิ่งเจ้ามารับคนของเจ้ากลับไปเดี๋ยวนี้ ไม่เช่นนั้นข้าจะยุให้คนทั้งครัวหลวง แย่งเหยียนจื่อไปจากเจ้าเสีย)

    จบคำขู่ไม่กี่อึดใจ หนิงเฟิ่งก็ปรากฏตัวขึ้น และพาร่างบางของเหยียนจื่อกลับไปทันที อี้เฟยยิ้มอย่างพอใจก่อนจะหุบฉับลงทันทีเช่นกัน เพราะหนิงเฟิ่งได้ทิ้งระเบิดสังหารไว้ให้เขาลูกใหญ่

    "ฝ่าบาท ถ้าท่านทำเช่นนั้น ข้าก็จะยุให้ราชินีน้อย ไล่ท่านให้ออกไปนอนที่ตำหนักรับรอง หึ หึ ท่านก็รู้ว่าข้าทำได้"

    "เจ้าขู่ข้ารึ"

    "ข้าไม่ได้ขู่ แต่จะทำจริงๆ "

    "เจ้าบ้า!! "

    หากเขาต้องนอนเดียวดายไร้ร่างเล็กเคียงข้าง เขาคงได้ขาดใจตายเสียก่อน เขาไม่ยอมหรอกถึงแม้ว่าจะทำได้แค่นอนกอดเฉยๆ ก็เถิด เพราะร่างเล็กไม่ยอมให้รุกล้ำก็เถอะ แต่ก็ดีกว่านอนหนาวอยู่เพียงลำพัง เพราะรักจึงยอมมาตลอด

    หลังจากไปรับตัวเหยียนจื่อกลับเรือนพัก หนิงเฟิ่งก็ไล่อีกคนให้ไปอาบน้ำ เพราะมอมแมมเหลือเกิน

    "เจ้าไปอาบน้ำเสีย มอมแมมนักเชียว"

    "อืม... อาบก็ได้ แต่... เอ้ารับไปสิข้าเอามาฝากท่าน"

    ขนมชิ้นเล็กๆ ประมาณห้าชิ้นถูกห่อด้วยผ้าขาวอย่างดี ส่งมาให้ร่างสูงยื่นมือไปรับอย่างงงๆ

    "ขนมที่ราชินีน้อยทำรึ"ถามอย่างสงสัย

    "เปล่าสักหน่อย... ขนมนี้ข้าตั้งใจทำมาฝากท่านนะลองชิมดูสิ ว่ามันอร่อยหรือไม่"

    ร่างสูงฉีกยิ้มกว้างขึ้นมาทันทีที่รับรู้ว่า ร่างเล็กตั้งใจทำให้เขา ช่างน่ารักน่าชังอะไรเช่นนี้ (มีอาการหลงมาก) ก่อนจะหยิบขนมขึ้นมากัดกินอย่างมีความสุข เหยียนจื่อรินน้ำชาให้อีกฝ่ายแก้กระหาย มือหนายกขึ้นจิบกินไปพร้อมขนม

    "อร่อยหรือไม่" ตาโตจ้องแป๋วอย่างลุ้นคำตอบ

    "อื้ม... อร่อยมากเชียวล่ะ เจ้าเก่งมากเหยียนจื่อ"

    พูดพร้อมส่งยิ้มอบอุ่นมาให้ ร่างเล็กยิ้มอย่างดีใจก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นจริงจังขึ้น

    "เอ่อข้ามีเรื่องจะปรึกษากับท่านสักหน่อยคือ... เอ่อคือ... "

    "เจ้ามีอะไรจะถามข้ารึ"

    ร่างสูงมองใบหน้างามเห็นท่าทีอึกๆ อักๆ ของคนตรงหน้า ก็เอ่ยถามออกไป

    "เจ้ามีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าเหยียนจื่อ บอกข้าได้"

    "ข้าคิดว่า... ข้าป่วย"

    "เจ้าป่วยรึ แล้วป่วยเป็นอะไร"

    ร่างสูงตกใจจับร่างเล็กหมุนไปมาดูว่าเจ็บป่วยตรงไหน จนร่างเล็กท้วงขึ้นมา

    "ข้าไม่ได้เจ็บตรงไหนหรอกแต่มัน... "

    หนิงเฟิ่งจับร่างเล็กให้นั่งลง ก่อนจะรินน้ำชาให้ร่างเล็กและตนเอง

    "เจ้าดื่มชาเสียหน่อยจะได้ใจเย็น เอาล่ะคราวนี้จะบอกข้าได้หรือยังว่าเจ้าเป็นอะไร"

    เหยียนจื่อยกชาขึ้นดื่มพร้อมกับเขา ก่อนจะตัดสินใจแหวกอกเสื้อให้กว้างขึ้น เพื่อร่างสูงจะได้เห็นร่องรอยบนตัวเขา ที่สร้างความกังวลให้กับร่างเล็กมาตลอดหลายวันมานี้

    พรวด... แค้ก!!

    "ท่านเป็นอะไรมากหรือเปล่า"

    ร่างเล็กรีบปรี่เข้าไปลูบหน้าลูบหลัง ให้คนตัวโตที่ไอหน้าดำหน้าแดง เพราะสำลักน้ำชาทันทีที่ร่างเล็กเปิดอกเสื้อให้ตนดู

    รอยแดงเป็นจ้ำเต็มไปหมดทั่วทั้งแผ่นอกขาว จนไม่เหลือพื้นที่ว่าง โดยเฉพาะบริเวณฐานอก ที่มีเม็ดทับทิมสีสวยประดับอยู่ ร่างสูงทำหน้านิ่งเก็บอาการพิรุธเต็มที่

    "เจ้าไม่รู้รึ ว่ามันเกิดขึ้นมา... เพราะอะไร"

    "ข้าไม่รู้เมื่อก่อนไม่เห็นจะมี..มันเพิ่งมีมาได้ประมาณห้าวันแล้ว เมื่อก่อนมันก็มีไม่มาก แต่ตอนนี้ดูสิ ตัวข้าลายพร้อยอย่างกับตุ๊กแก ท่านว่าข้าจะตายไหม"

    "ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก... อย่ากลัวเกินกว่าเหตุไปเลย"

    ร่างสูงพูดปลอบร่างเล็ก ตามองคนไร้เดียงสาอย่างเอ็นดู นี่หลับไม่รู้เรื่องอะไรเลยหรือ ไอ้ร่องรอยบนตัวร่างเล็กเป็นฝีมือเขา ทีแรกก็ทิ้งรอยไว้นิดหน่อย เพราะกลัวร่างเล็กจะจับได้หลังๆ มานี้ ทิ้งไว้เต็มทั่วทั้งแผ่นอกขาว เพราะห้ามใจไม่อยู่ ทุกครั้งที่ปลายลิ้นสัมผัสลงบนกายงาม โดยเฉพาะทับทิมสองเม็ดที่เขาขบกัดดูดดุน ปากบางก็เปล่งเสียงครวญครางออกมาอย่างไม่รู้ตัว ยิ่งกระตุ้นอารมณ์เขาจนเกือบหยุดตัวเองไม่ได้ก็หลายครั้ง

    "ท่านรู้รึไม่ ว่าข้าเป็นอะไร"

    ร่างเล็กถามอย่างกลัดกลุ้ม กับอาการของตน ที่ไม่มีทีท่าว่าจะหาย แต่มันกลับหนักขึ้นทุกวัน ที่น่าแปลกใจช่วงนี้เขาฝันแปลกๆ ว่าไม่รู้ใครเขาเห็นหน้าไม่ชัด มาทำอะไรกับร่างกายตนก็ไม่รู้ แต่มีความรู้สึกแปลกๆ ตลอดเวลาที่ถูกสัมผัส

    "มันไม่มีอะไรร้ายแรงหรอกวางใจได้ เจ้าก็แค่กำลังจะมีคู่เท่านั้น"

    โกหกคนตัวเล็กเสียคำโต เพื่อกลบเกลื่อนการกระทำของตน และเริ่มจะปูทางสะดวกขึ้นอีกทาง สำหรับตนเองและร่างเล็กในวันข้างหน้า

    "มีคู่คืออะไร"ร่างเล็กถาม

    "ก็ครอบครัวอย่างไรเล่า"

    "ก็ข้ามีอยู่แล้วนี่... ท่านพี่หลิงซานกับท่านพี่เย่วซินก็เป็นครอบครัวข้า รวมถึงท่านด้วย"

    "ไม่ได้ ครอบครัวเจ้าต้องมีแต่ข้าผู้เดียวเท่านั้น"

    "อ้าว... ทำไมกันล่ะ"

    "เจ้ารับรู้แค่นี้ก็พอ ต่อไปเจ้าก็เรียกข้าว่าพี่ เหมือนที่เรียกองค์ราชินีทั้งสองพระองค์เถิด อย่างไรข้าก็คนในครอบครัวเจ้า"

    "อืม... ก็ได้ แล้วรอยบนตัวข้ามันจะหายเมื่อไรนะ"

    "ไม่หายหรอก"

    "หะ!! ถ้าไม่หาย แล้วข้าไม่ต้องตัวลายอย่างนี้ตลอดไปหรอกหรือ ไม่เอาข้าไม่อยากเป็นตุ๊กแกนะ"

    อาณาจักรมาร

    หลังจากจบงานอภิเษกมาเจ็ดวัน เขาก็พาน้องชายทั้งสองกลับอาณาจักรโดยที่ไม่มีโอกาสเจอร่างงามของราชินีคนพี่อีกเลย ก็เฟยหลงหวงเสียขนาด ไม่ยอมให้ราชินีตนห่างกายจนหมดหนทางเข้าหาอย่างที่ใจต้องการ ก็เข้าใจอยู่หรอกที่ราชามังกรจะหวงราชินีของตนมากมายนัก ก็ร่างบางช่างงดงามเหลือเกินแม้แต่เขายังห้ามใจได้ยาก ถึงตอนนี้ก็ยังคิดอยากได้ร่างงามมาครอบครองอยู่ดี เคยได้ยินมาว่า หากผู้ใดได้ครอบครองคนของเผ่าหงส์ไฟ จะนำพาความยิ่งใหญ่มาให้ แถมเจ้าสัตว์เทพประจำกายร่างบางอีก แค่มองก็รู้แล้วว่าแข็งแกร่งแค่ไหน แต่แล้วอย่างไรเล่า ในเมื่อเขาอยากได้ก็ต้องได้ ต่อให้ต้องใช้วิธีต่ำช้าแย่งชิงมาเขาก็จะทำ

    เขาผิดด้วยหรือ เพียงเพราะปักใจรักตั้งแต่แรกพบจนอยากครอบครอง หากจะผิดก็ผิดที่คนคนนั้นมีเจ้าของแล้ว ต่อให้ถูกตราหน้าว่าชั่วช้าเพียงใดก็ยอม หากมันจะทำให้เขาสมหวังในรักครั้งนี้ ความรักความลุ่มหลงทำให้ไร้สติยั้งคิด ผิดชอบชั่วดีไม่ได้ผ่านเข้ามาในสมองของเขาเลย

    "อาเฉา"

    ปากหนาเอ่ยเรียกชื่อใครคนหนึ่ง ไม่ช้าก็ปรากฏกลุ่มควันสีดำขึ้น และสลายไปทันทีที่ร่างสูงของอีกคนแจ่มชัดขึ้นมาแทนที่ ร่างสูงของเฉาเหว่ยคุกเข่าทำความเคารพนายตนทันที

    "นายท่านมีอะไรจะใช้ข้า โปรดสั่งมาเถิด"

    "เจ้าจงไปสืบดูว่าเฟยหลงมันทำอะไร และหาจังหวะเหมาะ นำตัวราชินีแสนงามของมันมาให้ข้า"

    "พ่ะย่ะค่ะ"

    จบคำพูด ร่างตรงหน้าก็กลับกลายไปเป็นกลุ่มควันสีดำดั่งเช่นที่ผ่านมา แล้วค่อยๆ สลายหายไป เหลือไว้เพียงเจ้าของตำหนักที่ยังคงยืนนิ่งอยู่ไม่ยอมขยับไปที่ใด

    "พระองค์จะทำเช่นนี้จริงๆ หรือพ่ะย่ะค่ะ" องครักษ์ประจำกายเอ่ยขึ้น

    "อืม... ข้าตัดสินใจแล้ว" ร่างสูงตอบ

    "แต่มันจะเป็นเหตุให้เกิดสงคราม ระหว่างสองเผ่าขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ"

    "ข้ารู้ดี แต่ข้าคิดว่าข้าพอจะรับมือไหว"

    "ท่านพี่ท่านเห็นเซียวเอ๋อร์บ้างหรือไม่ ข้าตามหาน้องไม่เจอ ไม่รู้ไปเล่นซุกซนที่ไหนอีก"

    องค์ชายรองอี้จินฟู่ เอ่ยถามพี่ชายด้วยความร้อนใจที่หาน้องเล็กไม่เจอ

    "เจ้าหาทั่วแล้วรึจินฟู่ ข้าไม่เห็นเซียวเอ๋อร์มาเล่นซนที่นี่เลยวันนี้"

    "เจ้าเด็กดื้อหนีไปเล่นซนที่ไหนอีก เจอตัวข้าจะฟาดให้ก้นลายเชียว"

    องค์ชายรองเอ่ยคาดโทษน้องเล็กด้วยความเป็นห่วง

    "ใจเย็นๆ เซียวเอ๋อร์ยังเด็กนัก เจ้าลองคิดดูดีๆ ว่าเชียวเอ๋อร์ชอบไปเที่ยวเล่นที่ไหนบ้าง"

    ร่างสูงของพี่ชายพูดขึ้นทำให้จินฟู่คิดทบทวนอีกครั้ง ผ่านไปสักพักก็นึกขึ้นได้ดวงตาโตเบิกกว้างขึ้นมาทันทีอย่างวิตก ร่างสูงของพี่ชายเห็นท่าไม่ดี เลยถามออกไปอย่างร้อนรนใจ

    "มีอะไร"

    "เมื่อเช้านี้ เซียวเอ๋อร์ชวนข้าไปเล่นน้ำที่น้ำตกชิงหลิง แต่ตอนนั้นข้าไม่ว่าง"

    ได้ยินเพียงเท่านั้น ร่างสูงของพี่ใหญ่ก็นั่งไม่ติดอีกต่อไป

    "เจ้าเด็กบ้า แอบหนีไปอีกแล้ว เดี๋ยวเถิดข้าจะฟาดเสียให้เข็ด ชอบทำให้เป็นห่วงอยู่เรี่อย จินฟู่เจ้ารอข้าที่นี่หรือไม่ก็ตามหาแถวนี้ไปก่อน เผื่อเขาจะอยู่แถวนี้เดี๋ยวข้าจะไปตามที่ชิงหลิงเอง"

    พูดจบร่างสูงก็ใช้ปราณในตัวขับเคลื่อนตนเองไปยังที่หมาย เพียงในพริบตาก็ยายืนอยู่ที่ริมน้ำตก และมันก็เป็นอย่างที่เขาคิดตอนนี้เจ้าน้องชายจอมซนกำลังว่ายน้ำเล่นอย่างสบายอกสบายใจ โดยไม่รับรู้ว่าตนไม่ได้อยู่ที่นี่เพียงลำพังอีกแล้ว ร่างสูงรีๆ รอๆ ไม่รู้จะเข้าไปหรือจะรออยู่ตรงนี้ดี เรื่องแค่นี้มันคงไม่ยากเย็นในการตัดสินใจเลยแม้แต่น้อย ถ้าหากว่าตอนนี้ ร่างบางที่อยู่ในน้ำไม่ได้เปลื้องผ้าล่อนจ้อนลงเล่นน้ำอย่างนี้



    สายตาคมจ้องมองเรือนร่างอรชรขาวผ่องตรงหน้าไม่วางตา ตั้งแต่เรือนผมยาวสยายถึงเอวคอด บั้นท้ายอวบอัด งอนงามเหนือสตรีบางคน หน้าอกแบนราบแต่ที่น่าสนใจที่สุดคือเม็ดทับทิมสีชมพูสองเม็ดที่ประดับอยู่บนฐานอกขาวนี่ซิ พาลให้กลืนน้ำลายเสียอึกใหญ่ สายตาคมเลื่อนลงมายังจุดลับ ที่มีแท่งหยกแท่งน้อยสีชมพูอ่อนประดับอยู่ รอบบริเวณมีเส้นขนเล็กๆ ขึ้นประปราย ดูนุ่มลื่นน่าสัมผัสราวแพรไหมชวนให้ใจเตลิด เซียวเอ๋อร์โตแล้วจริงๆ ร่างสูงคิดเช่นนั้น ก่อนสะบัดศีรษะไล่ความฟุ้งซ่านออกจากหัว ในขณะเดียวกันร่างบางที่ไม่รู้ตัวเลยว่า ตนนั้นตกอยู่ในสายตาของพวกถ้ำมอง ที่คอยละเลียดความงดงามจากร่างกายตนเอง

    ตูม!!

    เล่นน้ำอยู่เพลินๆ ก็ต้องตกใจกับระลอกน้ำที่แตกกระจาย เพราะมีของหนักตกลงมาร่างเล็กรีบว่ายน้ำกลับขึ้นฝั่งทันที แต่ก็ไม่ทันถึงไหนร่างบางโดนฉุดลงใต้น้ำทันที ใบหน้างามตกใจสุดขีด ดวงตาหวานพยายามมองสิ่งที่ลากตนลงมา เรียวขางามพยายามถีบตนเองขึ้นจากน้ำ แต่มันยากเย็นเหลือเกินเพราะร่างบางถูกพันธนาการไว้แน่นหนา ก่อนที่ทุกอย่างจะแย่ลงไปมากกว่านี้

    ตูม!!

    เสียงน้ำแตกกระจายอีกระลอก เพราะร่างสูงของใครบางคนกระโดดลงมา และตรงมายังร่างบาง ก่อนกระชากอีกร่างที่พยายามกอดรัดล่วงเกินร่างบางออกไป และซัดฝ่ามือที่มีไอมารสีดำแผ่กระจายเต็มฝ่ามือหนาเข้าใส่อีกร่างจนมันหลุดกระเด็นจากร่างเล็กไปอีกทาง

    "ไอ้มารกระจอก ริอ่านกำแหง คิดจะข่มเหงน้องชายข้ารึ ตายซะ!! "

    ซัดใส่อีกรอบจนอีกฝ่ายกระอักเลือดออกมา และถูกไอมารของร่างสูง ที่กำลังโมโหอย่างหนัก บีบรัดจนแตกกระจายสลายไปในที่สุด

    "ทะ-ท่านพี่"

    ใบหน้าคมหันไปตามเสียง เมื่อได้สติก็รีบตรงดิ่งไปยังร่างบางของน้องชายทันที มือหนาคว้าร่างบางที่จมลงไปในน้ำ เพราะหมดสติตั้งแต่เอ่ยเรียกพี่ชายจบ

    "เซียวเอ๋อร์"

    ร่างสูงเขย่าเรียกแต่ก็ไร้การตอบสนอง มือหนาปลดผ้าคลุมไหล่ผืนใหญ่ของตนออกมาคลุมบนกายเล็ก เพื่อปกปิดความงดงาม ที่เขาเพิ่งจะเคยเห็นเป็นครั้งแรกเมื่อสักครู่ที่ผ่านมาถึงจะพยายามเลี่ยงไม่สัมผัสกายโดยตรง แต่ก็เลี่ยงไม่ได้เสียทั้งหมด มือหนายังคงสัมผัสผิวนุ่มลื่นมืออย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะบางจุดที่ผ้าไม่สามารถปกปิดได้หมด พาให้ใจสั่นแปลกๆ

    "น้องเว้ยจำใส่หัวเจ้าสิวะ" (ถึงจะไม่ใช่น้องแท้ๆ ก็เถิด)

    สลัดความคิดฟุ้งซ่านในหัวออก แล้วพาร่างบางกลับวังของตนทันที คราวนี้คงเป็นบทเรียนให้คนตัวเล็กในอ้อมกอด ไม่คิดทำอะไรวู่วามอีกแล้ว

    ร่างเล็กขององค์ชายรองกำลังเดินไปเดินมาอย่างลนลาน ที่หาคนตัวเล็กไม่เจอแต่ทุกอย่างก็หายไป เมื่อพี่ชายคนโตปรากฏขึ้นพร้อมกับคนที่ตามหามาครึ่งค่อนวัน แต่พอมองเห็นสภาพของคนตัวเล็กก็มองพี่ชายอย่างตั้งคำถาม

    "ท่านพี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมเซียวเอ๋อร์ถึงมีสภาพเช่นนี้"

    แล้วเรื่องราวทุกอย่างก็ถูกถ่ายทอดสู่คนฟัง

    "ช่างโชคดีเหลือเกินที่ท่านพี่ไปทัน..ไม่เช่นนั้นแล้ว..ข้าไม่อยากจะคิดถึงเรื่องที่จะเกิดขึ้นกับเด็กดื้อเลยจริงๆ "

    สายตาคมของทั้งคู่มองร่างที่หลับใหลบนที่นอนนุ่ม ต่างคนต่างความคิด คำพูดของน้องชายไม่ได้เข้าไปอยู่ในหัวเขาเลยในตอนนี้ เพราะสมองไม่อาจจะสลัดภาพร่างกายที่งดงามน่าสัมผัสไปได้เลย แม้ในใจจะต่อต้านตักเตือนสถานะตนกับคนตัวเล็กเพียงใด

    ร่างสูงรีบสลัดความคิดยุ่งยากออกไปจากสมองของตนทันที พร้อมคิดถึงใครอีกคนที่ตนต้องการ ใช่สิคนที่ตนต้องการมีเพียงเย่วซินเท่านั้น

    "เจ้าให้คนไปตามหมอหลวงมา ข้าจะดูแลทางนี้เอง"

    "ถ้าเช่นนั้น เดี๋ยวข้าจะไปตามเองก็ได้"น้องชายคนรองเป็นคนอาสาไปตามหมอด้วยตนเอง"

    ร่างสูงพยักหน้ารับรู้ ก่อนที่น้องชายจะออกไป สายตาคมหันกลับมามองหน้าคนที่ยังคงหลับใหล มือหนาเอื้อมไปลูบศีรษะเล็กอย่างเบามือ เขายังจำได้วันที่เสด็จพ่อพาน้องชายคนนี้กลับมา หลังจากหายไปหลายวันเพราะถูกลอบทำร้าย ครั้งแรกที่เห็นหน้าตาน่ารักของเด็กคนนี้ เขากับจินฟู่ก็เต็มใจรับเป็นน้องชายอีกคนทันทีโดยไม่ลังเล ดูแลห่วงใยไม่ต่างจากสายเลือดเดียวกัน แต่มาวันนี้ สายตาที่มองอีกฝ่ายมันได้เปลี่ยนไป เขาไม่อาจมองร่างเล็กตรงหน้า ได้เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว

    ++++++++++++++++++++++++++++++++


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×