คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : แผ่นล่ม
เเผนล่ม (สัตว์เทพปรากฎ )
"ไม่!! มันเกี่ยวอะไรกับข้าด้วย...อย่าเข้ามาใกล้ข้านะไอ้งูโรคจิต..นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันวะเนี่ย" ร่างเล็กเอ่ยออกมาอย่างหวาดผวาคนตรงหน้า
"มันเกี่ยวกับเจ้าโดยตรงเลยล่ะ มานี่เลิกหนีได้เเล้วเจ้าหนีข้าไม่พ้นหรอก"
พูดจบมือหนาก็คว้าข้อเท้าคนตรงหน้าไว้อย่างมั่นคง ก่อนจะลากร่างเล็กเข้ามาหาตนเอง กายหนาขยับขึ้นคร่อมกายเล็กไว้ภายใต้ร่างใหญ่ ร่างเล็กดิ้นหนีด้วยด้วยความตกใจแต่ดิ้นเท่าไรก็ไม่หลุด หมดแล้วหนทางรอดของตน
มือหนาเลื่อนมากระตุกผ้าคาดเอวที่มันหลุดจากปม เพราะร่างสูงเคยพยายามกระตุกมาแล้วครั้งก่อนหน้า เป็นเหตุให้คนใต้ร่างยิ่งดิ้นรนอย่างเอาเป็นเอาตาย ด้วยใบหน้าซีดเผือดไร้สีเลือด ร่างสูงที่อยู่หนือร่างเล็กมองใบหน้างาม เขารู้ว่าคนใต้ร่างกำลังกลัวเขาเป็นอย่างมาก รู้ได้จากกายที่สั่นเทา เเต่มือหนาก็ยังไม่ยอมหยุดด้วยความอยากเอาชนะคนดื้อรั้น อยากปราบพยศคนมากเล่ห์ให้สิ้นฤทธิ์
"ท่านทำอะไรน่ะ หยุดนะ! "
"หึ หึ หึ กลัวข้าหรือ ทำไมไม่ปากเก่งเหมือนที่ผ่านมาล่ะ เสี่ยวไป๋"
เสียงแหบพร่าเอ่ยถาม ปากหนาก็คลอเคลียวนเวียนจูบซับไปตามติ่งหู ขบเม้มจนพอใจก่อนจะเลื่อนลงมาที่ซอกคอคลอเคลียไม่ห่าง เรียกอาการขนลุกขนชันจากคนตรงหน้าได้เป็นอย่างดี มือใหญ่ก็ไม่ปล่อยให้ว่างเฉย กระตุกผ้าคาดเอวใด้ก็นำมามัดข้อมือของร่างเล็ก หากแต่ร่างเล็กดิ้นไม่ยอมไห้ความร่วมมือแต่โดยดี หวังเพียงไห้หลุดพ้นจากพันธนาการ ดวงตาสวยจ้องคนที่คร่อมกายตนเอาไว้อย่างเดือดดาลมือหนาพยายามจะจับมือเล็กมัดด้วยผ้าคาดเอวที่อยู่ในมือ
"ท่านจะมัดข้าไม่ได้ ข้าไม่ใช่วัวใช่ควายนะ! "
"ข้าก็ไม่ได้คิดว่าเจ้าเป็นวัวเป็นควายเสียหน่อยนี่" ร่างสูงตอบกลับเเบบคนฟังถึงกับควันออกหู
"ทนไม่ไหวแล้วโว้ย... ไอ้คนบ้ากาม"
ร่างเล็กสบัดมือที่ถูกเกาะกุมหลุด ก็ซัดหน้าอีกฝ่ายด้วยความรวดเร็วซ้ำรอยเดิมอีกครั้ง มือหนายกขึ้นมาลูบบาดแผลด้วยความเจ็บ ร่างเล็กไม่รอช้าซัดซ้ำไปอีกหมัดแต่อี้เฟยรู้ทางจึงรับได้ทัน ก่อนจะบิดข้อมือเล็กโดยยั้งแรงเอาไว้ หากแต่ก็ได้ยินเสียงลั่นกราวของกระดูก ดีที่ร่างสูงยังยั้งเเรงไว้ไม่เช่นนั้น มือเล็กเป็นได้หักคามือใหญ่เป็นแน่ แค่นี้ร่างเล็กก็เจ็บจนน้ำตาร่วงแล้ว
"โอ๊ย... ปล่อยข้านะเจ้าบ้า ข้าเจ็บ อย่าให้ข้าหลุดไปได้นะข้าจะฆ่าเจ้า!"
"ฤทธิ์มากนักนะคราวนี้อย่าหวังว่าข้าจะออมมือไห้เจ้า"
มือหนาจับข้อมือเล็กมัดเอาไว้อย่างแน่นหนา ก่อนค่อยๆล้วงเข้าไปในอกเสื้อลูบคลำควานหาสิ่งที่ต้องการ ร่างเล็กสะดุ้งเฮือกสุดตัว เมื่อรับรู้ว่ามีสิ่งแปลกปลอมล่วงล้ำเข้ามา
"หยุดลวนลามข้าสักที หยุดซิวะไอ้เหี้ย! "
ร่างสูงหาได้สนใจกับเสียงที่ก่นด่าของคนไต้ร่างตน มือหนาค่อยๆ แหวกสาบเสื้อตรงหน้าอกให้แยกออกจากกัน เผยให้เห็นเม็ดทับทิมสีชมพูสวย ที่ประดับอยู่บนอกขาวทั้งสองข้าง ช่างล่อตาล่อใจเขาเหลือเกิน สายตาหื่นกระหายที่แสดงออกมาทำไห้อีกคนไม่อาจนิ่งเฉยได้อีกแล้ว
(ฉิบ-หาย-แล้ว)
"หยุดความคิดหื่นๆ ของท่านเดี๋วยนี้! "
โมโหจนเเทบกระอักเลือดก็คราวนี้ ร้องห้ามด่าทอไปเท่าไร แต่ไอ้คนหน้าหนายังไม่ยอมหยุด หนาขนาดนี้ต้องใช้กระดาษทรายเบอร์ไหนเนี่ย ถึงจะขัดเอาความหน้าด้านหน้าทนออกไปได้
มือหนาเอื้อมไปลูบไล้ฟอนเฟ้นอย่างเมามัน ไม่ฟังที่อีกคนเอ่ยทัดทานปากร้อนก้มลงไปครอบครองเม็ดทับทิมสีสวยดูดดึงขบกัดอย่างหลงไหล ลิ้นร้ายดูดดึงตวัดขึ้นลงอย่างชำนาญ เป็นเหตุไห้ร่างเล็กขนลุกเกรียว กายบางอ่อนปวกเปียกระทวยอย่างกับขี้ผึ้งโดนไฟ
"อ๊ะ อะ-ไอ้บ้าปล่อยกูนะเว้ย! "
"ยอมข้าซะ ข้าไม่อยากบังคับเจ้า"
"ไม่ ไม่โว้ย!! ตอบเเบบไม่ต้องคิดให้เสียเวลา
"มาจนขนาดนี้เเล้ว เจ้ายังจะปฏิเศษข้าได้อีก ใจเจ้าไม่ยอมแต่ร่างกายเจ้ายินยอมให้ข้ามานานเเล้ว เจ้าจะฝืนไปทำไมดูสิเจ้าจะทนได้อีกนานแค่ไหน"
ร่างสูงพูดด้วยอารมณ์กรุ่นโกรธ แต่ก็ไม่มากนักอดทนรออย่างใจเย็น แต่มือหนาก็ไม่หยุดลูบคลำไปทั่วร่างงาม เน้นหนักเบาตามจังหวะมือ เพื่อกระตุ้นอารมณ์คนใต้ร่างเเละมันก็ได้ผลเสียด้วย
ใช่ร่างสูงพูดถูกร่างกายเขามันไม่รักดีไม่ว่าอี้เฟยจะจับต้องตรงไหนตรงนั้นก็ร้อนรุ่มเหมือนโดนไฟแผดเผา ร่างกายเขากำลังต้องการเติมเต็มจากร่างสูงตรงหน้า เหมือนอี้เฟยจะรับรู้ความอ่อนไหวของคนใต้ร่าง มือหนาเลยลูบคลำนวดคลึงเบาๆไปทั่วทุกตารางนิ้วเพื่อปลุกอารมณ์คนใต้ร่าง
"เอามือออกไปจากตัวข้านะ อ่า... "
ร่างเล็กชักทนไม่ไหวกับการปลุกปั่นอย่างชำนาญของร่างสูง ไม่ว่าจับตรงไหนก็ตอบสนองไปเสียหมดจนต้องหลุดเสียงอันน่าอายออกมา
"ครานี้เจ้าจะยอมข้าได้หรือยังเสี่ยวไป๋"
น้ำเสียงที่เอ่ยออกมาข้างใบหูเล็ก มันช่างอ่อนโยนเหลือเกินในความรู้สึกของร่างเล็ก แต่มันแฝงความต้องการ เเละเรียกจากคนตรงหน้ามากมายเหลือเกิน
ร่างสูงไม่ละความพยายาม เขาจะทำให้ร่างเล็กยอมจำนนภายใต้ร่างเขา เเต่ดูจากอาการเเล้วคงไม่นานเกินรอ เเละคงไม่ต้องบังคับกันเเล้วกระมัง ตาคมจ้องมองใบหน้าสวยที่ตอนนี้เเดงก่ำ เหงื่อผุดขึ้นมาเต็มไปหมด หายใจหอบถี่ติดขัดอย่างทรมาน ฟันขบกัดเข้ากันแน่นอย่างข่มอารมณ์ ร่างสูงคิดว่าตัวเขาเองก็คงทนได้อีกไม่นาน กับร่างกายที่มันเรียกร้องที่จะปลดปล่อยความทรมานไห้หมดสิ้นเสียที
มือหนาค่อยๆเปลื้องชุดเจ้าสาวแสนสวยออกจากร่างคนตรงหน้า เผยให้เห็นผิวขาวอมชมพูเนียนละเอียดน่าลูบไล้ ยิ่งอยู่ภายใต้อาภรและเครื่องนอนสีแดงเข้มแบบนี้ มันยิ่งขับผิวขาวให้ดูเปล่งปลั่งขึ้นไปอีกเป็นเท่าตัว เอวที่บางกว่าบุรุษทั่วไปมาก ส่งผลไห้ร่างบางดูอ้อนเเอ้นน่าถนุถนอม ผิวขาวอมชมพูบัดนี้เริ่มจะเเดงขึ้นเรื่อยๆตามอารมณ์ของเจ้าตัว อี้เฟยมองกายงามตรงหน้าด้วยสายตาหลงไหล กลืนน้ำลายเหนียวลงคออย่างยากลำบาก หายใจติดขัดหอบถี่ เอ่ยเสียงเเหบพร่าชิดใบหูเล็ก ทำเอาร่างเล็กขนลุกขนชันเย็นยะเยือกราวกับถูกแช่แข็ง
"ข้าไม่สนเเล้วว่าเจ้าจะยอมหรือไม่เพราะตอนนี้ข้าต้องการเจ้าเหลือเกินเสี่ยวไป๋"
ใบหน้าคมค่อยๆโน้มลงมาหาร่างคนที่นอนหายใจหอบถี่ ดวงตาหวานจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคม ก่อนที่ปากหนาจะประกบลงมาบนกลีบปากบางก็ต้องชะงักไปชั่วครู่ เพราะตอนนี้คนใต้ร่างไม่ใด้ขัดขืนหรือต่อต้านอีกเเล้ว ดวงตาหวานที่เคยดื้อรั้น จ้องมองคนตรงหน้าก่อนจะปิดลงอย่างช้าๆ ยอมแล้ว เขายอมเเพ้อย่างหมดท่า ยอมรับชะตาที่ถูกขีดเขียนเอาไว้ตั้งเเต่ต้นโดยไม่มีข้อแม้
อี้เฟยยิ้มอย่างยินดี ในที่สุดเขาก็ทำให้ร่างเล็กยอมรับเขาจนใด้ ไม่มีอะไรที่น่ายินดีไปมากกว่านี้เเล้ว
ริมฝีปากหนาทาบลงมาประกบเข้ากับริมฝีปากบางอย่างโหยหา ไม่นานก็มีลำแสงสีทองปรากฎขึ้นโอบอุ้มคนทั้งคู่เอาไว้ หลังจากนั้นสัญลักษ์บนตัวของหลิงซานก็พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า พร้อมกับของอี้เฟยที่พุ่งตามไปติดๆ ก่อนที่ทั้งสองร่างจะเกี่ยวกวัดรัดรึงว่ายวนหยอกล้อกันไปมาอยู่บนท้องฟ้ายามราตรี แต่ตอนนี้ร่างสองร่างที่กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่บนที่นอนไม่เหลือสติรับรู้อะไรอีกแล้ว คงเป็นเพราะเสน่ห์หาแห่งคู่ชะตากำลังเล่นงานเขาทั้งคู่ ให้ตกอยู่ในห้วงอารมณ์ของความต้องการซึ่งกันเเละกัน
ร่างสูงจูบซับไปทั่วใบหน้าเเละลำคอขาวผ่องของร่างเล็ก เน้นย้ำแอ่งชีพจรที่เป็นจุดอ่อนที่สุด เรียกเสียงครางกระเส่าจากคนตรงหน้าทุกครั้งที่เขาสัมผัส กลิ่นกายหอมเย้ายวนของร่างเล็ก มันได้ปลุกอารมณ์ดิบในกายเขา เรียกร้องอยากปลดปล่อยความทรมาน ความอึดอัดที่มันกำลังเล่นงานร่างสูงอย่างหนัก ไม่ต่างอะไรกับร่างเล็กเลย ความรู้สึกยากจะบรรณยายในหัวขาวโพลนไปหมด สมองเบลอเสียจนจับต้นชนปลายไม่ถูก รับรู้แต่เพียงความรู้สึกทรมารแทบขาดใจ
"อะ-อี้เฟย อึก มะ ไม่อย่ากัด อ๊ะ"
ยังไม่หายจากอาการอกสั่นขวัญหาย ที่ถูกคนตัวโตทำมิดีมิร้าย ก็ต้องหวีดร้องออกมาอีกครั้ง ขวัญเสียยิ่งกว่ามื่อครู่ที่ผ่านมาเสียอีก เมื่อร่างสูงพยายามแยกเรียวขางามให้เออกจากกัน เเค่นั้นก็ทำให้ร่างเล็กตกใจทำอะไรไม่ถูก หวาดผวาอย่างหนัก
"จะทำอะไร ปล่อยข้านะ! "
"อยู่นิ่งๆ" ร่างสูงเอ่ยดุร่างเล็ก
"ไม่ ข้ายังไม่พร้อม"
"แต่ข้ามั่นใจ ว่าเจ้าพร้อมแล้ว"
"ไม่ ๆ ๆ ๆ ไม่พร้อมเลยสักนิด"
ส่ายหน้าไปมาจนผมสวยกระจายพร้อมเอ่ยอย่างตระหนก จะให้พร้อมยังไงเขาเป็นผู้ชาย จะมานอนให้ผู้ชายด้วยกันทำเรื่องอย่างว่ามันเกินจะรับ กลัว เขายอมรับว่ากลัวความสัมพันธ์ลึกซึ้ง กลัวเจ็บปวด ก็เป็นฝ่ายทำเขามาตลอด หากตัวเองเป็นฝ่ายถูกกระทำจะกลัวขึ้นมามันก็ไม่แปลก คนที่เขาเคยนอนด้วยเป็นผู้หญิงทั้งนั้น
พอสติกลับมาเต็มร้อย สมองก็สั่งการให้ต่อต้านอย่างหวาดกลัว อี้เฟยมองใบหน้างามที่มีหยาดน้ำตาเอ่อล้นพร้อมจะไหลลงมาทุกเมื่อ อยากจะใจอ่อนหลือเกินเเต่เขาทำไม่ได้ ทำได้เพียงเอ่ยปลอบให้ร่างเล็กสงบลง ทั้งๆที่ตัวตนของเขาปวดหนึบทรมาณเสียจนแทบขาดใจตาย
"อย่าได้หวาดกลัวไปเลย... เชื่อใจข้า ข้าไม่มีวันทำร้ายเจ้า"
ร่างสูงพูดปลอบออกไป ทั้งที่ในใจรู้อยู่เต็มอกว่า ร่างเล็กไม่สามาถรอดพ้นความเจ็บปวดไปได้ เขาดูเหมือนตนเองเป็นตาแก่ที่หลอกเด็กน้อยให้หลงเชื่อ
"ฮึก สัญญานะ"
ร่างเล็กมองหน้าร่างสูงอย่างอ้อนขอ ในเมื่อหนีไม่รอดก็ออดอ้อนอีกฝ่ายให้เมตตา รู้สึกว่าตนเองชักจะเหมือนสาวน้อยที่ต้องเสียพรหมจรรย์ ในคืนแต่งงานเข้าไปทุกที อีกฝ่ายพยักหน้ารับอย่างเสียไม่ได้ เพราะถึงอย่างไรเขาคงต้องผิดสัญญากับร่างเล็กเสียแล้ว ร่างเล็กจะต้องผเชิญหน้ากับความเจ็บปวดอย่างเลี่ยงไม่ได้
"ข้าสัญญา" คำสัญญาหลอกเด็กออกมาจากปากร่างสู
แค่ได้ยินน้ำเสียงอ่อนนุ่มที่เอ่ยคำปลอบโยนออกมาจากปากคนตรงหน้า ก็ทำให้ร่างเล็กหยุดดิ้นรนขัดขืน ยอมปล่อยวางความรู้สึกขลาดกลัวทั้งหลายทิ้งไปปล่อยตัวปล่อยใจไห้ร่างสูงเป็นคนชักนำและเขาก็พร้อมที่จะเดินตามอีกฝ่าย ไม่ว่าคนๆนี้จะพาเขาไปที่ใด เขาก็พร้อมจะเดินเคียงข้างเสมอ
อี้เฟยถึงกับกัดฟันกรอดเพื่อข่มอารมณ์พลุ่งพล่าน
ดวงตาคมมองคนที่อยู่ใต้ร่างตน ใบหน้างามที่เเสดงออกมามันมีเเต่ความปวดร้าว น้ำตาไหลอาบเเก้มสวยเขารู้ว่ามันสาหัสพอดู เพราะตัวตนของเขามันไม่ได้น้อยเลยทีเดียว
ร่างเล็กสะอื้นให้อย่างน่าเวทนา กายงามอ่อนแรงลงมาก ความเจ็บปวดสาหัสนัก มันบั่นทอนกำลังเขาจนเกือบหมด ร่างบางจึงมีสภาพไม่ต่างจากคนป่วยหนัก เหงื่อไหลท่วมกายขาว ดวงตาสวยมีหยดน้ำตาที่ไหลลงมาอาบแก้ม หน้าซีดกายสั่นเทิ้ม ร้องขอคนตรงหน้าให้หยุดการกระทำลง แต่ก็ไร้ผล เพราะร่างสูงไม่อาจจะให้สิ่งที่ร่างเล็กร้องขอได้ ถึงแม้ว่าจะสงสารคนตรงหน้าตนเพียงใด
"ขอร้องหยุดเถิด ข้าเจ็บไปหมดแล้ว ฮือ... "
"ข้าขอโทษ... ที่ไม่อาจให้เจ้าได้"
ร่างสูงบอกออกไปพร้อมจูบซับน้ำตาบนใบหน้าอย่างปลอบโยน ก่อนตัดสินใจบังคับอีกฝ่าย ที่ตั้งท่าว่าจะไม่ยอมเอาง่ายๆอีกแล้ว จะว่าเขาเอาแต่ใจก็ยอม ร่างหนากดร่างเล็กกับที่นอนเอาไว้มั่น ตัดสินใจทำในสิ่งที่ตนต้องการ
"ไม่นะ...อ๊าก!!"
หลิงซานผวาเฮือก กรีดร้องออกมาสุดเสียงอย่างเจ็บปวดทรมาน จะดิ้นหนีก็ดิ้นไม่ได้ เพราะร่างใหญ่จับตัวเขากดล๊อคเอาไว้อย่างเเน่นหนา เขาไม่คิดเลยว่าการเป็นฝ่ายรับมันจะทรมานได้ขนาดนี้ มือเรียวยกขึ้นทุบตีผลักไสคนตัวโตอย่างบ้าคลั่ง หวังเพียงให้หลุดพ้นไปจากความทรมาร หากก็ไร้หนทางเพราะร่างสูงรวบตัวร่างเล็กเอาไว้มั่น
เเม้ว่าร่างเล็กจะร้องโวยวาย ดุด่าเขาอย่างไร ร่างสูงก็จำต้องเมินคำพูดเหล่านั้นไป เดินหน้าต่อจนสุดทาง
ตอนนี้บนท้องฟ้าเหนือตำหนักตน หงส์ไฟและมังกรที่ทะยานขึ้นมาเกี่ยวรัดกัน ก็เกิดปรากฎการบางอย่าง ร่างทั้งสองร่างได้หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว กลายสภาพมาเป็นหงส์ฟ้าตัวโต ขนสีขาวบริสุทธิ์แซมสีทองงามจับตา แปล่งประกาย เเวววาวระยิบระยับไปทั้งตัว มันเเผ่สยายปีกโบยบินอยู่บนท้องฟ้ายามราตรี ประกายเเสงสีทองอร่ามที่เปล่งออกมาจากร่าง ทำให้สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน เเม้ว่าท้องฟ้าจะมืดมิดเพียงใดก็ตาม รอยยิ้มยินดีเเละพึงใจ ของอดีดองค์ราชาเเละราชินีปรากฎอยู่บนใบหน้าของคนทั้งคู่
"เจ้าเก่งมากอี้เฟย ท่านพี่ดูสิหงส์ฟ้าเชียวนะเพคะช่างน่ายินดีเหลือเกิน"
"ข้าก็คิดเช่นนั้น เห็นไม่ได้เรื่องอย่างนี้ร้ายใช่เล่น นี่ล่ะที่โบราณเขาว่า ลูกไม้ย่อมหล่มไม่ไกลต้น..เจ้าว่าเช่นไรล่ะ ชายารัก"
พูดพลางก้มลงมาหอมแก้มนวลเสียฟอดใหญ่ เรียกความเขินอายของชายารักได้เป็นอย่างดี
"เเหมพระองค์ก็แก่ๆกันแล้ว ยังจะเล่นอีกนะเพคะ"
"ใครว่าข้าเเก่ เตะปี๊บยังดังเปรี๊ยงๆอยู่นะ หรือเจ้าไม่ชื่อ เช่นนั้นต้องพิสูตร"
พูดจบก็รีบช้อนร่างบางของชายาตรงกลับตำหนักตนทันที เขายังเเข็งเเกร่งอยู่มากคำว่าเเก่ไม่มีผลกับอดีดองค์ราชาเลยแม้แต่น้อย เเละคนตรงหน้าเขาก็ยังคงงดงามเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนจากเมื่อก่อนมากนัก
"ปล่อยเพคะ พระองค์เล่นอะไรเป็นเด็กไปได้" นางดุสวามี
"ข้าไม่ได้เล่นนะ แต่ข้าเอาจริง" ร่างสูงกระตุกยิ้มร้ายกาจออกมา รอยยิ้มนี้ช่างเหมือนบุตรชายคนโตยิ่งนัก
"ท...ท่านพี่..ย อื้อ.."
พูดไม่ทันจบก็ถูกผู้เป็นสวามีปิดปากช่างเจรจาทันที เเละทุกอย่างก็เป็นไปตามทางที่ควรมันจะเป็น ไม่ใช่เเต่ผู้สูงศักดิ์ทั้งคู่ที่รอดูปรากฎการในครั้งนี้ ทุกคนที่ได้เห็นต่างก็พากันตื่นเต้นยินดีกับหงส์ฟ้าที่งดงามเหนือสัตว์ทั้งปวง
หลิงซานสลบไปทันทีที่ปลดปล่อยออกมา เพราะถูกอีกฝ่ายเขี้ยวกรำมาหลายชั่วยาม ถึงแม้อีกฝ่ายจะตักตวงจากร่างเล็กแค่ครั้งเดียว เเต่มันเป็นครั้งแรกที่ยาวนานมากมันมีทั้งความสุขสมเเละแสนทรมารเจียนตาย อี้เฟยค่อยๆปลดผ้าที่มัดมือร่างเล็กออก แรงมัดที่เเน่นหนาได้ทิ้งร่องรอยสีเเดงช้ำไว้รอบข้อมือสวย อี้เฟยรีบเช็ดตัวทำความสะอาจให้คนที่สลบไป กลัวว่าหากทิ้งไว้นานจะทำให้ไม่สบาย ตาคมจ้องมองดูผลงานของตนที่ทำเอาไว้ ช่องทางของร่างเล็กตอนนี้มันฉีกขาดมีเลือดไหลซึมออกมาเปรอะเปื้อนที่นอน และมีอาการบวมเสียจนน่ากลัว คงจะลุกไม่ขึ้นจริงๆอย่างที่เขาได้ข่มขู่เอาไว้ ตื่นขึ้นมาคงได้อาละวาดน่าดู หรือไม่ก็หวาดกลัวเขาไปเลยก็เป็นได้
"ตื่นขึ้นมาเจ้าจะดุด่าทุบตีข้าอย่างไรข้าก็ยอม..เพราะครานี้เจ้าคงเจ็บหนัก..เเต่ข้าขอเพียงอย่าหวาดกลัว..อย่าผลักไสข้าก็พอ..หากเจ้าไม่ดื้อดึงข้าก็คงไม่ต้องการเอาชนะเจ้าถึงเพียงนี้"
พูดจบก็สวมใส่เสื้อผ้าให้ร่างเล็กที่นอนไม่ได้สติอย่างสิ้นรฤธิ์ เพื่อร่างกายจะได้อบอุ่น ถึงเขาจะบังคับเอาแต่ใจกับคนตรงหน้า ด้วยอ้างเหตุผลเพราะความจำเป็นก็จริง แต่ลึกๆในใจมันคือความต้องการ ต้องการครอบครอง ต้องการปราบพยศ ดวงตาคมจ้องมองสัญลักษ์ที่มันเคยอยู่ด้านของหลังร่างเล็ก แต่มาบัดนี้มันกลับย้ายมาอยู่ที่อกซ้ายเเทน นั่นก็หมายความว่าทุกอย่างลุล่วงไปด้วยดี
ป่านนี้สัตว์เทพของร่างเล็กคงปรากฎเเล้ว ก็เหลือแค่เพียงตั้งชื่อรับขวัญเท่านั้น ปากหนาก้มลงมาจุมพิตบนปานรูบหงส์ ที่หน้าอกด้านซ้ายของคนที่หลับไหลพลางถอนหายใจ กว่าจะจบลงได้เขาก็เเทบแย่เหมือนกัน กับความเจ้าเลห์ของราชินีตัวน้อยที่ตอนนี้สิ้นรฤธิ์อยู่ในอ้อมกอดของตน ริมฝีปากหนาเลื่อนขึ้นมาจรดลงบนหน้าผากมลครู่หนึ่ง ก็เลื่อนลงมาที่กลีบปากบางอย่างแผ่วเบาก่อนจะผละออก แล้วท่านพี่ของเขาล่ะ จะเป็นเช่นไรบ้าง เขาคิดไปถึงผู้เป็นพี่ชายที่ตอนนี้กำลังคลุ้มคลั่งเพราะ เมียหาย...
ย้อนกลับไปที่ตำหนักของเฟยหลง หลังจากออกไปพบปะผู้คนที่มาร่วมงานมงคลในครั้งนี้ เขาก็หาโอกาสหลบออกมาจากงานกลับตำหนักตน แต่พอเปิดประตูเข้าไปก็พบแต่ความว่างเปล่า คนที่เขาอยากเจอไม่ได้อยู่ในนี้ ราชินีของเขาหายไปไหน เขากระวลกระวายใจเป็นอย่างมาก
"นี่มันอะไรกัน เกิดอะไรขึ้นกับเจ้ากันแน่ ก็ข้าร่ายเวทย์ขังเจ้าเอาไว้เเล้วนี่เย่วเอ๋อร์ แล้วเจ้าหายไปไหน"
เขาค้นหาตรวจดูจนทั่วทุกซอกมุมเวทย์ที่ร่ายเอาไว้ก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม เขาใช้ดวงจิตรมังกรตรวจดู แต่ก็พบกับความว่างเปล่า ไม่เห็นอะไรเลยยิ่งทวีโทษะของร่างสูงให้เพิ่งขึ้นเป็นเท่าตัว
"วิชาพรางกายรึ..หึร้ายจริงๆนะเจ้า..ข้าจะคอยดูว่าเจ้าจะทนได้แค่ไหน"
เขาพูดอย่างใจเย็น เคยได้ยินชื่อของวิชานี้ของชาวเผ่าหงส์ไฟมาเช่นกัน แต่คิดไม่ถึงจริงๆว่าร่างบางจะเอามาใช้ปกป้องตัวเองในคืนร่วมหอเช่นนี้ ร่างสูงรอคอยอย่างอดทนแม้ว่าสีหน้าจะเรียบเฉยหากแต่ภายในอกมันร้อนรุ่มดั่งไฟ ผ่านไปหลายชั่วยามแล้วร่างบางยังไม่ปรากฎตัว จนเขาชักจะนั่งไม่ติดเสียแล้วขืนยังใจเย็นแบบนี้คงไม่ได้อีกต่อไป มันกินเวลาเดินควรชักช้าจะไม่ทันการ
"เย่วเอ๋อร์... เจ้าออกมาเดี๋ยวนี้"
"_" เงียบไม่มีเสียงตอบรับ
"ข้าบอกไห้เจ้าออกมา!! อย่าให้ข้าจับเจ้าได้เเล้วกัน"
ร่างสูงตะโกนออกไปด้วยความเกรี้ยวกราด คำตอบคือความเงียบ เงียบเสียจนน่าโมโห เขาชักจะหวั่นใจร่างสูงเดินไปมาในตำหนักอย่างกระวนกระวายราวหนูติดจั่น
มุมหนึ่งของตำหนัก
ร่างบางนั่งซ่อนตัวอย่างเงียบกริบภายในใจมันเต้นกระหน่ำอย่างบ้าคลั่ง กลัวเหลือเกินว่าร่างสูงจะจับได้ หากว่าอีกฝ่ายไม่ร่ายเวทกันประตูเอาไว้เขาคงไม่เสี่ยงหลบซ่อนตัวอยู่ในนี้หรอกร่างบางมองคนตรงหน้าเดินไปมาอย่างโมโห ใบหน้าหล่อเหลาคมคายดำทมึนแผ่รังสีอำมหิต ให้ความรู้สึกเย็นยะเยือกออกมาอย่างน่าหวาดกลัว ปากหนาร้องเรียกหาเขาเเต่พอนานเข้า ปากร้ายก็เอ่ยคุกคามข่มขู่ออกมาเเทน เขายอมรับว่ากลัวมากร่างบางนั่งตัวสั่นงันงกอย่างข่มอาการไม่อยู่
"เย่วเอ๋อร์...เจ้าจะออกมาดีๆหรือจะให้ข้าลากตัวเจ้าออกมา...ข้าจะให้โอกาสเจ้าอีกครั้ง..ออกมาซะ!!
"_"
"เจ้าจะลองดีกับข้ารึ!! เจ้าหนีข้าไม่พ้นหรอก"
เขาเดินไปมาอย่างเก็บกลั้นโทษะเอาไว้ไม่อยู่อีกต่อไป
"จะหลบข้าอีกนานแค่ไหน..คิดว่าจะหนีได้ตลอดไปหรือไร..ออกมาเดี๋ยวนี้!"
พูดอยู่คนเดียวเหมือนคนบ้า โมโหจนหน้าดำหน้าเเดงไปหมด
"อย่าให้ข้าหาตัวเจ้าเจอเ
อย่าให้ข้าหาตัวเจ้าเจอเเล้วกัน..จะเอาให้หนักเลย"
ร่างสูงคาดโทษร่างบางออกมาอย่างฉุนเฉียว นี่ก็กินเวลามานานมากแล้าที่ร่างบางมัวเเต่เล่นซ่อนแอบกับเขา เขาเดินหาไปทั่วไม่ว่าซอกไหนมุมไหนก็ไร้วี่แววของร่างบาง วิชาที่ร่างบางใช้มันช่างร้ายนักแม้แต่ดวงจิตมังกรยังใช้ไม่ได้ หากคืนนี้หาตัวไม่เจอพรุ่งนี้เขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ร่างบางทำได้เจ็บแสบนัก
ส่วนคนที่ถูกคาดโทษเอาไว้ก็รับรู้ได้ถึงสิ่งผิดปกติบางอย่าง ที่เกิดขึ้นกับร่างกายตนเอง
( แย่แล้วนี่ข้าเป็นอะไรไป มันเกิดอะไรขึ้น)
อาการผิดปกติของร่างกาย มันทำไห้เขาเริ่มอ่อนแรงลง อาการครั่นนื้อครั่นตัวและที่น่าตกใจก็คืออาการกำหนัดที่ค่อยๆเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ มันทรมารเขาจนแทบสิ้นสติอยากปลดปล่อยความอึดอัดนี้ออกมาเหลือเกิน
ใบหน้างามเริ่มซีดเผือดเหงื่อผุดขึ้นเต็มใบหน้าสวย ร่างกายอ่อนแรงจนทรงตัวไม่อยู่ทรุดนั่งบิดกายไปมาอย่างทรมาร แก่นกายที่เคยนิ่งสงบมาบัดนี้มันกลับตื่นตัวขึ้นมาอย่างน่าวิตก
อาการปวดหนึบเพราะต้องการปลดปล่อยกำลังเล่นงานร่างบางจนเริ่มเสียสมาธิ ขาเรียวงามบดเบียดเข้าหาเสียดสีกันไปมาเพื่อบรรเทาอาการปวดร้าว หากเเต่ก็ไม่ใด้ช่วยให้ดีขึ้นมาเลยเเม้เเต่น้อย แต่มันกลับแย่ลงเข้าไปอีก
( อ่าาา...อึก...แย่เเน่ๆหากเป็นเช่นนี้ข้าคงทนได้อีกไม่นาน )
ร่างบางทำได้เพียงแค่คิดในใจ เฟยหลงโมโหจนอยากจะอาละวาด มองอะไรก็ขวางหูขวางตาไปเสียหมด ตาคมจ้องมองลำแสงสีทองที่ลอดผ่านบานหน้าต่างเข้ามาในตำหนักตน มือหนาเลื่อนไปเปิดออกดูสายตาคมจ้องมองขึ้นไปบนท้องฟ้า ซึ่งบัดนี้ได้มีการปรากฎตัวของหงส์ฟ้าสีขาวนวล ปลายปีกเเละหางแซมสีทอง เส้นขนทุกเส้นเปล่งประกายเงางามดังไข่มุกยามต้องแสงจันทร์ มองกี่คราก็มิอาจละสายตากับความงดงามตรงหน้าได้เลย
"ช่างงดงามยิ่งนัก..พวกเจ้าเก่งมาก"
น้องชายตนประสบความสำเหร็จเเล้วจริงๆ แต่เขาล่ะยังหาตัวร่างบางไม่เจอ เลยพาให้ยิ่งโมโหอย่างหนัก
"อย่าให้ข้าจับตัวเจ้าได้ก็แล้วกัน"
ฟันคมบดเข้าหากันเเน่นจนขึ้นเป็นสันนูน ร่างบางมองลำแสงสีทองอร่ามอย่างตกใจ นี่น้องชายเขาก็หนีไม่พ้นเช่นนั้นหรือ ทำไมเขาจะไม่รู้ล่ะกับสิ่งทีเกิดขึ้น ลำแสงสีทองมันมาจากที่ไดเขาย่อมรู้ดี
ดวงตาคู่งามจ้องมองสัตว์เทพของน้องชายตน ที่บินวนเวียนอยู่เหนือตำหนักที่ร่างเล็กของน้องชายเขาพักอยู่ สายตาวานแสดงความกังวลออกมาทางสายตา เป็นห่วงทั้งน้องชายเเละตนเองด้วย ในเวลาเดียวกันร่างกายก็ชักจะอ่อนล้า จวนเจียนจะไม่ไหวแล้วกับอาการพลุ่งพล่านในกาย จึงตัดสินใจเดินโซเซอย่างหมดเรี่ยวแรง มุ่งตรงไปยังห้องอาบน้ำ เป้าหมายของร่างบางคือ สระน้ำขนาดใหญ่ที่อยู่กลางห้อง เขาต้องการน้ำเย็นๆเพื่อช่วยดับอาการรุ่มร้อนในกาย
ร่างบางปลดผ้าคลุมหน้าออก โยนทิ้งไปมุมใดมุมหนึ่งอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะค่อยๆหย่อนกายลงไปในน้ำอย่างระมัดระวัง ไม่ให้คนที่อยู่ด้านนอกจับสังเกตุใด้ หากเเต่มันก็ไม่พ้นสายตาคมของร่างสูงทีจับสังเกตุระลอกน้ำที่มันกระเพื่อมเพียงเล็กน้อย ก็ไม่อาจรอดพ้นสายตาคมดุจพยาเหยี่ยวของเขาไปได้
ขาแกร่งเลยก้าวตรงไปยังที่หมาย หางตาก็เหลือบไปเห็นผ้าคลุมหน้าของคนที่เป็นต้นเหตุให้เขากระวลกระวายนั่งไม่ติด ตกอยู่มุมหนึ่ง ปากหนายกยิ้มขึ้นมาอย่างร้ายกาจทันทีที่เเน่ใจ ว่าคนที่ตนตามหาอยู่ที่ใด
"หึ หึ หึ ..คิดว่าจะหนีข้าพ้นรึเย่วเอ๋อร์"
ร่างบางมองเห็นทุกกิริยาที่ร่างสูงเเสดงออกมาดวงตาคมแผ่รังสีรังสีอำมหิตเพื่อข่มขวัญร่างบาง เขาไม่เคยเห็นมุมนี้ของคนตรงหน้าเลยสักครั้ง มองปราดเดียวก็รับรู้ได้ในทันทีว่าคนตรงหน้าเจ้าเล่ห์เเละร้ายกาจเพียงใด ร่างสูงเผยแต่ด้านความอบอุ่นอ่อนโยนที่มีให้ร่างบางเห็นเท่านั้น อีกด้านที่ปกปิดเอาไว้เพิ่งจะเปิดเผยออกมาก็เพราะถูกบีบบังคับจากร่างบาง เลยได้เห็นเข้าเต็มตาก็วันนี้เอง บอกได้คำเดียวว่ามันน่ากลัว เเละเขาก็กลัวอย่างที่ร่างสูงต้องการ
สายตาคมกวาดมองไปทั่วทั้งสระน้ำเพื่อหาตำแหน่งที่ร่างบางแอบซ่อนอยู่ จนแน่ใจแล้วว่าใช่ ก็ร่ายเวทย์บางอย่างลงบนฝ่ามือพร้อมก้าวเดินมายังที่ร่างบางแอบซ่อนตัวอยู่ ลำแสงสีทองปรากฎขึ้นบนฝ่ามือหนาร่างบางมองอย่างเสียขวัญไม่กล้าขยับหนีไปทางไหน จนร่างสูงมายืนอยู่ตรงหน้า ร่างบางมองหน้าร่างสูงเหมือนคนไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ได้เเต่เอ่ยขออยู่ในใจขอให้ตนรอดพ้นจากภัยคุกคามของคนตรงหน้าสักครั้งเถิด
"จับตัวได้เเล้ว" น้ำเสียงที่ร่างสูงเปล่งออกมามันช่างเย็นยะเยือกชวนขนหัวลุก คำขอของเขาไม่เกิดผลเลยสักนิดมือหนาคว้าหมับไปที่ร่างบางทันที พอมือหนาสัมผัสกายงามเท่านั้น เวทย์ที่ร่างบางใช้ก็คลายตัวลงทันที แต่คนที่ระวังตัวอยู่เเล้วกระโดดหนีไม่ยอมไห้อีกฝ่ายจับตัวเอาง่ายๆ
"เจ้ากล้ามากนะเย่วเอ๋อร์...หนีได้หนีไปข้าจับได้เมื่อไหร่เจ้าได้เจ็บตัวเเน่"
ร่างสูงพูดจบก็พุ่งตัวเข้าหาอีกครั้ง แต่ก็คว้าน้ำเหลว ร่างบางดีดตัวหนีทันทีที่ร่างสูงดระโจนเข้ามา เย่วซินดีขึ้นมากหลังจากที่เเช่น้ำเย็นๆอยู่นาน
"เจ้ากลับมาเดี๋ยวนี้นะเย่วเอ๋อร์...เจ้าจะให้ข้าไล่จับเจ้าไปถึงไหน...ข้าไม่มีเวลามากพอที่จะมาเล่นกับเจ้าหรอกนะ"
"ใครว่าข้าเล่นข้าเอาจริง...ท่านอย่าเข้ามานะข้าขอสู้ตาย"
"จะเอาเเบบนี้ก็ได้"
ร่างสูงพูดจบก็กระโจนเข้าไปยังเป้าหมายอีกครั้ง มือหนาคว้าเอวเล็กไว้ได้อย่างหวุดหวิด เพราะชุดเจ้าสาวที่คนในอ้อมกอดของตนใส่ พอมันโดนน้ำก็หนักเกินไปทำไห้ขยับตัวไม่สดวก สุดท้ายกายงามก็ตกมาอยู่ในอ้มกอดของอีกฝ่ายอย่างเลี่ยงไม่ได้
"ปล่อยข้านะ!!
ร่างบางดิ้นรนผลักไสอีกฝ่ายอย่างเอาเป็นเอาตายจนร่างสูงสุดจะทน
"ทำไม..หรือเจ้ารังเกียจข้า!!
ถามออกไปเพราะโทษะ แต่คำตอบที่ได้รับ มันบั่นทอนจิตรใจเขาไม่น้อย
"ใช่..ข้ารังเกียจท่าน..ท่านมันน่ารังเกียจ!! วาจาร้ายกาจออกมาจากปากสวยดวงตาหวานดุดันฉายแววพยศ
"ดี..ถ้าเช่นนั้น..ข้าจะทำให้เจ้าเกลียดข้าจนลืมไม่ลงเชียวล่ะ"
พูดจบมือหนาก็ฉีกกระชากชุดเจ้าสาวออกจากกายงาม เเต่มันก็ไม่ง่ายอย่างที่ใจต้องการ
"นี่ท่านจะทำอะไร...ปล่อยข้านะคนบ้าข้าบอกว่าให้ปล่อย!!
ร่างบางยื้อหยุดฉุดกระชากกับร่างสูงจนเห็นท่าไม่ดี เพราะร่างสูงตรงหน้าปล้ำถอดชุดที่เขาสวมใส่ออก จนคอเสื้อมันร่อนหลุดมากองที่ไหล่บาง เฟยหลงจ้องมองไหล่เปลือยเปล่าขาวนวลเนียนที่โผล่ออกมานอกร่มผ้าด้วยฝีมือตน พลางกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น
เย่วซินได้จังหวะ ผลักคนตรงหน้าให้ออกไปจากกายตน เเต่มือหนาไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆ ร่างบางเห็นท่าไม่ดี เลยปล่อยหมัดซัดเปรี้ยงเข้าไปที่ใบหน้าหล่อหมัดหนักๆซัดเข้าไปครึ่งปากครึ่งจมูก เลือดสีเเดงสดค่อยๆไหลออกมาจากจมูกเเละริมฝีปาก มือหนาค่อยๆยกขึ้นเช็ดมันออก
ตาคมจ้องมองคนตรงหน้าเขม็ง สันกรามนูนขึ้นจากเเรงบดกัดของร่างสูงอย่างโกรธจัด ตอนนี้เขาโกรธคนตรงหน้ามากจนควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ ร่างบางเองก็ตกใจไม่น้อยกับการกระทำของตนเอง มองอีกฝ่ายด้วยใบหน้าซีดเผือด
"ข..ข้า..เอ่อคือ"
"พูดกันดีๆไม่ชอบ ชอบให้ข้าใช้ความรุนเเรงใช่ไหม"
พูดเสียงลอดไรฟันออกมา ร่างบางไม่รอช้าขยับตัวหนีทันทีที่เห็นเปลวไฟที่มันลุกโชนอยู่ในดวงตาเขา แต่ร่างสูงไม่เปิดโอกาสให้ร่างเล็กทำได้ดั่งใจ
"ท..ท่านจะทำ..อ"
พูดได้แค่นั้น มือหนาคว้ากระชากร่างบางกดลงไปในน้ำทันที เพียงเพื่อต้องการกำหราบอีกฝ่ายไห้สิ้นฤทธิ์เท่านั้น
ร่างบางดิ้นพล่านเพราะขาดอากาศ มือบางทุบตีจิกทึ้งมือหนา ที่ใช้กดศรีษะของตนอย่างบ้าคลั่ง ตอนนี้เฟยหลงหมดสิ้นความอ่อนโยนกับคนตรงหน้าที่เเสนดื้อรั้นไปชั่วขณะ เพราะต้องการกำหราบจึงใจเเข็งทำร้ายอีกฝ่ายเพื่อให้หลาบจำ
แรงดิ้นค่อยๆลดลงเรื่อยๆ ร่างบางรู้สึกอึดอัดสมองมึนงงไปหมด รู้สึกว่าตัวเองกำลังจะตาย ได้แต่ตัดพ้อคนใจร้ายอยู่ในใจ ก่อนที่ทุกอย่างจะแย่ไปมากกว่านี้ ร่างบางก็ถูกดึงขึ้นมาเหนือน้ำ มือหนาคว้ากายงามที่อ่อนปวกเปียก เข้ามากอดเอาไว้เเน่น เพราะตอนนี้คนในอ้อมกอดตนไม่มีเเรงแม้แต่จะยืน
...เฮือก...
"แค้กๆๆ..ท่านจะฆ่าข้า..คนบ้าคนใจร้าย..ฮือๆๆ"
ร่างบางไอหน้าดำหน้าแดงออกมาสะอื้นไห้ในอ้อมกอดของร่างสูง จมูกน้อยๆพยายามกอบโกยอากาศเข้าปอดอย่างน่าสงสาร มือบางกำเสื้อคนตรงหน้าไว้แน่น อย่างต้องการที่ยึดเหนี่ยว ร่างสูงรับรู้ได้ถึงอาการสั่นของคนในอ้อมกอด ที่สะอื้นไห้อย่างหวาดกลัวและเสียขวัญดังออกมาจากปากบาง ทำไห้เขารู้สึกผิด หากไม่ทำเช่นนี้ มีหรือจะกำหราบคนในอ้อมกอดลงได้ ร่างบางคงไม่ยอมสิ้นฤทธิ์ลงง่ายๆอย่างเช่นตอนนี้เป็นเเน่นอน
เฟยหลงมองหน้าคนที่ตนกอดไว้ ที่ร่ำให้ด้วยความกลัว ใช่ตอนนี้ร่างบางกลัวจริงๆ หากเป็นเมื่อก่อนเขาไม่มีทางกลัวกับเรื่องแค่นี้หรอก เเต่ตอนนี้เขามีน้องชายที่จะต้องคอยปกป้องดูแล เเละเขาก็รับปากอีกฝ่ายเอาไว้เเล้วว่าจะไม่ทอดทิ้งไปไหนอีก มือหนากอดกระชับร่างบางให้เเน่นขึ้น พลางลูบเเผ่นหลังบางเบาๆอย่างปลอบโยน ผ่านไปสักพักคนตรงหน้าก็สงบลง ตาคมจ้องมองอีกฝ่ายที่เเหงนขึ้นมามองเขาพอดีก่อนจะเอ่ย
"ครานี้...เจ้าจะเลิกดื้อดึงกับข้าได้หรือยัง...เย่วเอ๋อร์..ความอดทนข้ามันมีขีดจำกัด"
ร่างเล็กไม่เอ่ยอะไรออกมา ยังคงมีเสียงสะอื้นออกมาเบาๆ เฟยหลงมองดวงตาสวยที่ตอนนี้มันทั้งแดงและบวมเป่ง น้ำตายังคงซึมออกมาจากดวงตางามเล็กน้อย ภาพร่างบางตรงหน้า มันทำไห้อารมณ์เขาพลุ่งพล่านขึ้นมาอีกครั้ง ปากเเดงๆ ตาเเดงๆ มีหยดน้ำเกาะอยู่พร้อมเสียงสะอื้นเล็กน้อยเเบบนี้ มันทำไห้เขารู้สึกอยากจะรังเเกคนตรงหน้า ไห้ร้องหนักขึ้นไปอีก เขาเองก็ตกใจกับความคิดตนอยู่ไม่น้อย
เฟยหลงช้อนตัวคนในอ้อมกอดตนมาไว้ในวงเเขนแข็งเเกร่ง ก้าวเดินขึ้นจากสระน้ำโดยที่ร่างบางนิ่งเงียบไม่ได้โวยวายอะไรอีก พามายังห้องแต่งตัว เพื่อผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เปียกชื้น มือหนาค่อยๆวางคนในอ้อมแขนอย่างทะนุถนอม มือเเกร่งเลื่อนมาปลดผ้าคาดเอวของคนตรงหน้า ชุดวิวาห์ถูกมือหนาเปลื้องออกทีละชิ้น ร่างบางได้แต่ยืนนิ่งปล่อยให้ร่างสูงทำตามใจตน จนเหลือชิ้นสุดท้ายมือบางก็จับมือหนาเอาไว้เเน่น เพื่อหยุดการกระทำ
"ข้าจะจัดการเอง..ท่านออกไปก่อน"
พูดพลางรีบคว้าชุดนอนตัวยาวมาสวม เนื้อผ้าบางเบาใส่สบายตัว ชายชุดยาวกรวมข้อเท้า มองดูก็คล้ายชุดนอนของสตรีไม่น้อย มันงดงามสมฐานะราชินีแห่งวังมังกรยิ่งมาอยู่บนร่างงามด้วยแล้ว มันช่างงดงามจนไร้ที่ติ เฟยหลงไม่ได้ออกไปอย่างที่คนตรงหน้าต้องการ เเต่กลับยืนหันหลังให้แล้วจัดการผลัดเปลี่ยนให้ตนเองบ้าง เสร็จแล้วจึงหันกายกลับมาช้อนเอาร่างนุ่มนิ่มหอมกรุ่นขึ้นมา ตรงดิ่งไปยังเป้าหมายคือเตียงนอนหลังใหญ่
"ได้เวลาเข้าหอแล้วราชินีของข้า...เจ้ามัวแต่เล่นซ่อนแอบกับข้า...จนเลยเวลามานานมากแล้ว" ร่างบางตกใจเริ่มจะดิ้นหนีอีกครั้ง
"แต่..ข..ข้ายังไม่พร้อม"
"เจ้าก็รู้มิใช่รึ...ว่าการร่วมหอมันสำคัญเพียงใด..ไม่ใช่เฉพาะตัวข้า..แต่หากมันสำคัญกับเจ้ามาก...สัตว์เทพถูกกำหนดเอาไว้เเล้วว่ะจำเป็นต้องปรากฎในคืนนี้เท่านั้นเพราะหากพ้นคืนนี้ไป...ทุกอย่างมันจะคลาดเคลื่อนไปหมด...เจ้า...โปรดเข้าใจข้าด้วย"
ร่างบางได้เเต่นิ่งเงียบ เพราะอับจนกับเหตุผลของคนตรงหน้า ที่ยกขึ้นมาอธิบายให้คนดื้อดึงอย่างเขาฟัง ปากบางเม้มเข้าหากันเเน่น สีหน้าเครียดขรึมสับสนอยาางที่สุด ใจหนึ่งก็บอกว่าไม่ยอมรับ หากอีกใจหนึ่งก็ยอมรับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ร่างสูงได้เเต่มองสีหน้าสับสนของอีกฝ่าย ไม่รีบเร่งเร้าจนเกินไป ให้เวลาคนตัวเล็กตัดสินใจ ก็รอมานาน จะรอต่ออีกสักนิดจะเป็นไรไป ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นเช่นไร เขามีทางเลือกให้คนตรงหน้าแค่เพียงทางเดียวเท่านั้น อย่างไรเสียคืนนี้ ร่างกายนี้ จะต้องตกเป็นของเขาเท่านั้น.......
ให้ตัดสินใจอย่างไร้อิสระในการตัดสินใจ
อย่างไรร่างบางก็เลือกได้เพียงหนทางเดียว ทางที่อีกคนขีดเอาไว้เท่านั้น......
+++++++++++++++++++++++++
# หลิงซานกับเย่วซินท่าจะเป็นใบโพล่าเดี๋ยวก็ยอมเดี๋ยวก็ไม่ อารมณ์เปลี่ยนจริ้งงง
ฉาก nc ไรท์แต่งเองแบบงงๆเพราะไม่เคยแต่ง แต่ก็พยายามที่สุดแล้วถ้าไม่สนุกก็ขออภัยอย่างสูง เเนะนำได้ แต่อย่าด่ากันนะคะ อยากให้มันออกมาแบบละมุล มากกว่าดุเดือด ขนาดไม่ดุเดือดอิน้องก็ยังสลบเหมือดเสียอย่างนั้น
เรียบร้อยโรงเรียนอี้เฟยไปเเล้ว หลิงซานถูกคุณพี่จับกินซะเรียบ
ความคิดเห็น