ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ลิขิตรักราชามังกร

    ลำดับตอนที่ #20 : แผนการ

    • อัปเดตล่าสุด 12 ก.ค. 65


    เยียวยา (วิวาห์)



    "อย่านะเย่วเอ๋อร์...มะ...ไม่ไม่อย่าาาา"

    ร่างสูงตะโกนห้ามร่างบางเอาไว้ ก่อนที่จะกระโจนเข้าไป หวังเพียงจะคว้าร่างบางเอาไว้ หากเเต่มันไม่ทันเสียเเล้วร่างสูงมองร่างบางทิ้งตัวลงจากหน้าผาไปต่อหน้าต่อตาของตน ซึ่งเบื้องล่างมีสายน้ำที่ไหลอย่างเชี่ยวกราดรอรับ ไม่ว่าใครหากตกลงไปเเล้วโอกาศรอดน้อยเหลือเกิน หากเเต่ไม่ใช่กับมังกรเช่นเขา ร่างสูงรีบกระโจนตามร่างเล็กลงไป หมายจะคว้าตัวคนที่ตนรักเอาไว้ให้รอดพ้นจากความตายที่รออยู่เบื้องล่าง ไม่ เขาจะไม่ยอมเสียคนตรงหน้าไปเป็นอันขาด ร่างเเข็งเเกร่งหล่อเหลาในตอนนี้ ใด้กลับกลายมาเป็นมังกรตัวใหญ่โต พุ่งไปรวบมัดรัดร่างบางเอาไว้ทั้งตัว เพื่อกันการตกลงไปกระเเทกสิ่งที่รออยู่เบื้องล่าง

    .....ตูมมมมม.....

    เสียงน้ำเเตกกระจาย ทันทีที่ร่างสองร่างร่วงลงมากระเเทกกับผืนน้ำเข้าอย่างรุนแรง และรวดเร็ว เย่วซินรับรู้ได้ในทันทีว่า อีกคนรองรับเเรงกระเเทกเเทนเขา หากเเต่เขาไม่ได้ยินดีกับการกระทำของร่างสูงเลย ความรู้สึกของร่างบางในตอนนี้

    คือความเหน็บหนาว จากสายน้ำที่ห่อหุ้มร่างตนเอาไว้ ร่างสองร่างถูกสายน้ำที่เชี่ยวกราดพัดพาไปเบื้องหน้า โดยไม่มีใครรู้ว่ามันจะสิ้นสุดที่ใด เฟยหลงกอดกระชับร่างบางเอาไว้เเน่น ตอนนี้เขาคืนร่างเป็นคนธรรมดาเเล้ว เย่วซินดิ้นรนหวังเพียงให้ตนหลุดพ้นจากจากอ้อมกอดนี้ไปร่างกายรู้สึกไร้เรี่ยวเเรง ความท้อเเท้สิ้นหวัง ทำไห้ไม่อยากลืมตามารับรู้อะไรอีกเเล้ว อยากจะหลับ ไม่อยากตื่นมาเผชิญหน้ากับความจริง ที่มันมีแต่ความปวดร้าวหัวใจดวงน้อยบอบช้ำเกินจะทน มันบีบรัดเสียจนหายใจไม่ออก ได้เเต่ปล่อยให้ร่างสูงโอบกอดเอาไว้ เขาไม่มีเรี่ยวแรงจะต่อต้านอีกแล้ว ไม่มีอีกแล้ว...

    "เย่วเอ๋อร์ ทำไมเจ้าทำเช่นนี้ ทำไม!!

    เฟยหลงตะโกนใส่ร่างบางออกไปอย่างโกรธเคือง คนตรงหน้าจะรับรู้ควารู้สึกของเขาหรือไม่ ตอนที่ร่างบางทิ้งตัวลงจากหน้าผา เหมือนมือเล็กๆ คู่นั้น ได้กระชากดวงใจจากอกซ้ายของเขา เอาติดมือไปด้วย หากร่างบางตายไป เขาจะใช้ชีวิตอยู่อย่างไร ในสมองคิดเพียงว่า อย่างไรเสียคนที่อยู่ในอ้อมกอดเขา จะต้องรอด ถึงร่างบางจะมีวิชาเเละพลังเวทย์ติดตัวอยู่บ้าง หากแต่ในภาวะเช่นนี้มันไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก เพราะร่างบางไม่คิดเเม้เเต่จะมีลมหายใจอีกต่อไป ความเจ็บปวดรวดร้าว ทำให้ลืมสิ้นเเล้วเเม้กระทั่งครอบครัวที่รอเขาอยู่ เฟยหลงรวบร่างบางที่หมดสติมาได้สักพัก ไว้ในอ้อมกอดตนก่อนจะพาขึ้นจากสายน้ำที่ไหลอย่างกราดเกรี้ยว มุ่งหน้ากลับวังมังกรทันที



    ..ย้อนกลับไปทางด้านหลิงซาน..



    หลังจากที่พี่ชายตนพบเห็น เเละรับรู้เรื่องราวที่เเสนจะเจ็บปวด จนยากจะตั้งรับมันได้ ก็ออกเดินไปอย่างไร้จุดหมายเขารีบตามออกไปแต่ก็ช้ากว่ามังกรผู้พี่ ที่รีบตามไปติดติด เเละภาพที่ร่างเล็กเห็นเหมือนกับดึงลมหายใจของเขาไปจนหมดสิ้น อกด้านซ้ายมันบีบรัดจนเจ็บร้าวไปทั้งอก กลัวหลือเกินที่จะต้องสูญเสียพี่ชายที่มีอยู่เพียงคนเดียวไป

    "ท่านพี่...ท่านจะทำอะไร..กลับมาเถิดขอร้อง...ฮึก...ท่านยังมีข้าอยู่นะใด้โปรด...อย่างทิ้งให้ข้าอยู่คนเดียว"

    แม้จะพูดอย่างไร ร่างบางของพี่ชายก็ไม่แม้เเต่จะหันมา

    "ท่านพี่ได้โปรดกลับมาอย่าทิ้งข้าไว้คนเดียวเเบบนี้ได้โปรด...ฮึก...ฮือออ"

    ร่างเล็กกดดันเหลือเกิน จนกลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้ไม่อยู่ อี้เฟยคว้าร่างเล็กเข้ามาในอ้อมกอดตน มองพี่ชายกับพี่สะใภ้อย่างยากจะบรรยายความรู้สึก หลิงซานสะอื้นไห้อย่างน่าสงสาร ร่างเล็กผลักไสร่างสูงที่กอดรัดตนอยู่

    "ปล่อยข้า!! ..ข้าจะไปช่วยท่านพี่...ท่านพี่ท่านอย่าทำร้ายตัวเองนะ"

    ร่างเล็กพูดไม่ทันจบ ก็ต้องผวากระโจนไปด้านหน้าอย่างลืมตน เมื่อเห็นร่างบางของพี่ชาย ทิ้งตัวลงไปเบื้องล่างที่สูงชัน สู่เเม่น้ำอันหนาวเหน็บ

    "ไม่ท่านพี่!!! ..อย่าทิ้งข้าไป...อย่าทิ้งข้าฮึก..ฮือๆๆ ...ข้าไม่เหลือใครเเล้ว...ไม่เหลือเเล้ว...ฮือๆๆ "

    อี้เฟยกระโจนตามหลังร่างเล็กมาติดๆ ก่อนจะว้าตัวเข้ามากอดเอาไว้อย่างเเน่นหนา ร่างเล็กสะอื้นให้อย่างน่าสงสารเกือบไปเเล้ว หากเขาชักช้ากว่านี้เพียงนิดร่างเล็กในอ้อมกอดเขา คงดิ่งตามพี่สะใภ้ตนไปเหมือนพี่ชายเขา ที่ตอนนี้พุ่งตัวตามร่างบางของเย่วซินไปเเล้ว

    "เสี่ยวไป๋เจ้าใจเย็นเสียก่อน...ท่านพีของข้าจะช่วยพี่ชายเจ้าให้รอดปลอดภัยเชื่อข้าเถิด...ท่านพีไม่ปล่อยไห้อันตรายไดๆ ...มากล้ำกลายพี่สะใภ้ได้เป็นแน่"

    อี้เฟยปลอบใจคนในอ้อมกอด ที่ตอนนี้ซบหน้าร้องให้สะอึกสะอื้น บนอกเเกร่งของเขา ร่างสูงกอดกระชับพลางลูบหลังลูบหัวอย่างปลอบโยน โดยที่ร่างเล็กไม่ได้ขัดขืน กลับทิ้งน้ำหนักตัวมาที่เขาทั้งหมดอย่างต้องการที่พึ่งพิง ยามที่ตนอ่อนแอเช่นนี้

    "พี่ชายท่าน...จะช่วยพี่ชายข้าได้จริงๆ ใช่ไหม"

    "ได้ซิ...ข้ารับรอง...ตอนนี้เจ้าดูจะเหนื่อยมากแล้ว...กลับวังเถิดจะได้พักผ่อน"

    "แต่ข้า...ยังอยากรอท่านพี่อยู่ที่นี่"

    ร่างเล็กไม่อยากกลับไป โดยที่ไม่มีพีชายไปด้วย เลยต่อรองกับอีกฝ่าย

    "ขอข้ารอท่านพี่อยู่ที่นี้เถิดนะ...ข้าไม่อยากกลับไป โดยไม่มีท่านพี่กลับไปด้วย"

    "เจ้าเหนื่อยมากเเล้ว...เสี่ยวไป๋...กลับวังเถิดข้าชื่อว่าอีกไม่นาน...ท่านพี่ของข้าจะพาพี่สะใภ้กลับไปอย่างปลอดภัย...เจ้ากับข้ากลับไปรอพวกเขาที่วังเถิด...เจ้าจะได้พักผ่อนด้วย"

    ร่างเล็กไม่พูดอะไรอีก เพียงเเต่พยักหน้ารับ เพราะเขาจนมุมกันเห็ตผลของอีกคนจริงๆ อี้เฟยจึงพร่างเล็กกลับวังมังกรทันที



    อี้เฟยค่อยๆ วางร่างเล็ก ที่หลับซุกใบหน้างาม กับอกเขาอยู่อย่างเบามือ กลัวว่าตนจะทำไห้ร่างเล็กตื่นขึ้นมาได้ ด้วยร่างกายที่มีความอ่อนเพลียสระสมบวกกับหัวใจที่อ่อนล้าเต็มที กับความกดดันเรื่องของพี่ชาย ร่างกายจึงรับไม่ได้เรียกร้องการพักผ่อนจากเจ้าของ ที่พยายามฝืนอย่างสุดกำลัง สุดท้ายดวงตาโตค่อยๆ ปิดลงช้าๆ อย่างยอมแพ้ อี้เฟยนั่งอยู่ข้างๆ คนที่ตนรัก มือหนาค่อยๆ ยื่นออกมา ลูบกลุ่มผมนุ่มสลวยของคนที่หลับไหลอย่างไม่รับรู้สิ่งใด

    "ข้าจะทำเช่นไรกับเจ้าดี...เสี่ยวไป๋เจ้าถึงจะเลิกดื้อดึง...เเละยอมรับข้า"

    เขาได้เเต่เอ่ยออกมาด้วยความอัดอั้นในใจ ร่างเล็กจะรู้หรือไม่ว่าเขารักเเละเป็นห่วงเเค่ใหน ตอนรู้ว่าคนตรงหน้าหนีไปพร้อมพี่สะใภ้ ทั้งๆ ที่จะมีพิธีมงคลขึ้นในอีกสองวันข้างหน้า เขาร้อนใจไม่เเพ้พี่ชายเลย แค่นี้ก็รู้แล้วว่าคนทั้งคู่ไม่พร้อมที่จะอยู่ที่นี่ เเต่จะไห้ทำอย่างไรได้ ไห้ปล่อยไปรึ ไม่มีทาง เขาไม่อาจจะปล่อยมือจากคนผู้นี้ไปอย่างเด็ดขาด

    สุดท้ายเฟยหลงก็พาเย่วซินกลับมาที่อาณาจักรของเขาอีกจนได้ โดยปิดเรื่องนี้ไว้ไม่ให้ใครรับรู้ เกรงจะเกิดปัณหาในภายหลังเอาได้ เขานั่งมองใบหน้างามที่หลับไหลไม่ได้สติ ของคนดื้อรั้นอย่างคิดไม่ตกคิ้วหนาขมวดเข้าหากันจนเป็นปม บ่งบอกว่าเจ้าของมันกำลังมีเรื่องที่ทำไห้ต้องครุ่นคิดอย่างหนัก

    "เย่วเอ๋อร์...เจ้าจะให้ข้าทำเช่นไร...ข้ายอมสิ้นทุกอย่าง...หากว่ามันจะทำให้เจ้ายอมเปิดใจรับข้า"

    ...ตกเย็น...

    เปลือกตาบางค่อยๆ ลืมขึ้นมาอย่างอ่อนล้า ดวงตาสวยมองไปรอบๆ ก็รู้ในทันทีว่าตนกลับมาที่เดิม หนีเท่าไรก็หนีไม่พ้นจริงๆ ก้มหน้ามองสภาพตนเองตอนนี้เขาอยู่ในชุดนอนสิ่งแรกที่ผุดขึ้นมาในหัว ใครเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เขากัน คงไม่ คิดได้แค่นี้เจ้าคนต้นเห็ตก็เดินเข้ามา มีนางกำนัลถือถาดอาหารตามหลังร่างสูงมาด้วย ร่างบางเลยปัดความคิดนั้นออกไป

    "เจ้าฟื้นแล้ว...กินอะไรเสียหน่อยเถิดคงหิวแย่เเล้ว"

    ร่างสูงสบัดมือไล่นางกำนัลออกไป ก่อนจะเปิดฝาที่ปิดอาหารเอาไว้ ร่างบางมองโจ๊กร้อนๆ ในถ้วยใบสวย พากลืนน้ำลายลงคอ อย่างรู้สึกหิวขึ้นมาทันควันสายตาหวานมองเลยถ้วยโจ๊กไปเห็นถ้วยใบเล็กที่คุ้นตาตั้งข้างๆ มาด้วย ดูก็รู้แล้วไม่ต้องเดาไห้เสียเวลา

    "ข้าไม่กินยา...เพราะข้าไม่ได้ป่วย"

    "ยานี้เจ้าต้องดื่มทุกวัน...ขาดไม่ได้เเม้เเต่วันเดียว"

    "แต่มันขมเกินไป" ร่างบางเริ่มจะงอแงเสียแล้ว เพราะมีไข้จึงไม่สบายเนื้อตัว อาการแบบนี้มักจะเกิดขึ้น เวลาที่เจ้าตัวไม่สบายชอบออดอ้อนมารดาอยู่เสมอ เเต่ตอนนี้ไม่มีมารดา ร่างสูงเลยกลายเป็นเป้าหมายของร่างบาง

    "อดทนเอาหน่อยเถิด...เเค่ไม่กี่วันเจ้าก็ไม่ต้องดื่มมันเเล้ว"

    เขาพูดกับร่างบาง มองใบหน้างามด้วยสายตารักใคร่

    "ท่านบอกข้าได้หรือไม่...ว่ามันคือยาอะไร"

    "ถึงเวลาเจ้าก็จะรู้เอง...เอาละรีบทานเถิด...เดี๋ยวมันจะเย็นหมด...จะเสียรสชาติเอาได้"

    ร่างสูงมองใบหน้าซีดๆ ของอีกฝ่าย เขาอยากจะพูด อยากจะถาม เเต่กลัวจะไปสะกิดเเผลในใจ ทียังคงมีเลือดไหลซิบ เพราะมันยังสดอยู่มาก ของคนตรงหน้าให้ยิ่งเจ็บ เขารู้ว่าร่างบางพยายามเข้มเเข็งอย่างที่สุด เเต่ก็ทำได้ไม่ดีพอ ร่างบางกินอาหารที่เขาป้อนไห้จนอิ่ม ไม่คิดว่าจะยอมอ้าปากรับอาหารที่เขาป้อนให้ คราเเรกคิดว่าร่างบางจะอาลวาดเขาเสียอีก เเต่ผิดคาด ไม่อาละวาดเเละยอมอ่อนให้เขาลงมาก แค่นี้ก็ดีมากเเล้ว ร่างสูงหยิบถ้วยยาใบเล็กมาจ่อที่ปากของเย่วซิน เเต่ร่างบางก็ไม่ยอมเปิดปากรับยาซักที ปากบางขบเม้มเข้าหากันแน่น

    "ถ้าเจ้าไม่ดื่ม...ข้าจะใช้วิธีเดิมป้อนเจ้ารับรองว่ามันจะไม่จบลงเพียงเเค่...ป้อนยาเข้าปากเจ้าเท่านั้นเเน่นอน...เย่วเอ๋อร์"

    ร่างสูงข่มขู่ออกไป เป็นเหตุให้ร่างบางตาโตขึ้นมาทันทีที่นึกได้ว่า วันนั้นคนตัวสูงใช้วิธีไหนป้อนเขา ปากเล็กค่อยๆ อ้าออก เพื่อรับน้ำสีดำๆ ขมๆ ที่ร่างสูงป้อนให้อย่างจำใจ เฟยหลงยกยิ้มที่มุมปากอย่างพอใจ ที่อีกฝ่ายยอมลงให้เขาเล็กน้อย ด้วยเพราะคำขู่หรืออะไรก็ช่าง เขาไม่สนใจเหตุผลอยู่เเล้ว ร่างบางนั่งหน้างอง้ำ เพราะโดนขัดใจ เฟยหลงมองพลางคว้าร่างคนตรงหน้า ยกมานั่งบนตักเเกร่งของตน เย่วซินตกใจอ้าปากหว๋อตาโตเบิกกว้างอย่างตระหนก ทำอะไรไม่ถูกทำใด้เพียงเเค่นั่งตัวแข็งทื่อเป็นหินในตักคนตัวโต เฟยหลงกอดรัดรอบเอวเล็ก วางคางเเกร่งของตนไว้ บนไหล่บางของคนในอ้อมเเขน ความไกล้ชิดทำให้ก้อนเนื้อในอกด้านซ้ายของเย่วซิน เต้นกระหน่ำอย่างรุนเเรง ใบหน้างามเเดงกล่ำไปจนถึงใบหู

    "ท่าน...ปล่อยข้าได้เเล้ว"

    "ขอข้าอยู่เเบบนี้สักครู่เถิด...เย่วเอ๋อร์"

    ร่างบางไม่ได้ผลักไสอีกฝ่าย ปล่อยให้ร่างสูงกอดจนพอใจ

    "เจ้ารับปากกับข้าได้หรือไม่...อย่าทำร้ายตนเองเช่นนี้อีก...เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้ากลัวเเค่ไหน...กลัวที่จะสูญเสียเจ้าไปรับปากข้าสิ"

    ร่างบางไม่พูดอะไร เพียงเเต่พยักหน้ารับ เลยเห็นรอยยิ้มยินดีของร่างสูงที่สงมาให้เขา



    "...ท่านพี่..."

    ร่างบางหันไปตามเสียงที่เรียกตน ก็เห็นหลิงซานเดินมาโดยมีร่างใหญ่ของอี้เฟยโอบประคองเอาไว้ ดูเหมือนหลิงซานจะอ่อนเเรงลงไปมาก เดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเขา ร่างบางมองหน้าน้องชายอย่างใจหาย เพราะใบหน้าเล็กตรงหน้า มีหยดน้ำเล็กๆ เกาะอยู่ เเต่เพียงไม่นานมันก็ไหลลงมาพร้อมเสียงสะอื้นของน้องชายเย่วซินดิ้นลงจากตักของเฟยหลง ร่างสูงจำต้องปล่อยเอวบางที่ตนกอดเอาไว้อย่างเเสนเสียดาย เย่วซินอ้าเเขนออกรับร่างเล็กที่กระโจนเข้าหาพร้อมเสียงร้องให้อย่างหนัก นี่เขาลืมหลิงซานไปได้เช่นไรกัน เขาทิ้งน้องชายคนเดียวไว้ไห้เผชิญกับความเจ็บปวดได้เช่นไร

    "ข้าขอโทษ...ข้าขอโทษ" พูดเพียงเท่านี้ น้ำตาก็ไหลลงมาอาบเเก้มสวยเสียเเล้ว

    "ฮึก...ฮือออออ....ท่านพี่ใจร้ายเหลือเกิน...ทิ้งข้าไว้คนเดียว...ท่านรู้หรือไม่ข้าโกรธท่านเพียงใด...ข้านึกว่าจะเสียท่านไปเเล้ว"

    "ข้าขอโทษ...ฮึก...ฮือออ.." ตอนนี้ร่างบางไม่สามารถพูดคำไหนที่ดีมากไปกว่าคำว่า ขอโทษอีกแล้ว

    "สัญญากับข้าได้หรือไม่...ว่าท่านจะไม่ทำเช่นนี้อีก...สัญญาซิท่านพี่...สัญญาเดี๋ยวนี้.."

    ร่างเล็กพูดพลางเขย่าร่างของพี่ชายอย่างรอคอยคำตอบจากอีกฝ่าย ด้วยความหวัง จนร่างบางของพี่ชายพยักหน้ารับคำ

    "ข้าให้สัญญา...ข้าจะไม่ทำเช่นนี้อีกแล้ว...ข้าขอโทษเจ้าจริงๆ ...เจ้าจะยกโทษให้พี่ชายที่โง่เขลาของเจ้าได้หรือไม่หลิงซาน...ข้าจะไม่ทอดทิ้งเจ้าเช่นนี้อีกเเล้ว"

    "ข้ากลัวเหลือเกิน...ข้ากลัวจะเสียท่านพี่ไปจริงๆ ...หากไม่มีท่านแล้วข้าจะอยู่ได้อย่างไร...ท่านพี่ก็รู้ว่าข้าไม่เหลือใครอีกเเล้ว"

    "เเต่เจ้ายังมีข้าอยู่เคียงข้างกายเจ้านะเสี่ยวไป๋...เจ้าลืมไปเเล้วหรือไร"

    อี้เฟยเเทรกขึ้นมาทันที เพื่อเตือนให้คนตัวเล็กรู้ว่า ยังมีเขาที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างตลอดไป หลิงซานไม่ได้ตอบโต้อะไรเพียงเเค่หันมาสบตาของอีกฝ่าย คงต้องยอมรับความจริงเสียที ว่าอี้เฟยจริงใจกับเขาแค่ไหน เพียงเเค่มองเข้าไปในดวงตาคมคู่นั้น ก็เห็นความอ่อนโยน ความรักความจริงใจที่ส่งมายังเขาอย่างท่วมท้น

    เฟยหลงเเละอี้เฟยมองสองพี่น้อง ที่พากันร้องให้กอดกันกลม ก็รู้สึกเบาใจลงใด้บ้างที่เย่วซิน สามารถผ่านช่วงเวลาที่เจ็บปวดมาได้ หลังจากนี้ก็เป็นหน้าที่เขาที่จะรักษาบาดเเผลภายในใจของอีกฝ่ายให้หายสนิท ขอแค่เวลาเท่านั้น

    หลังจากผ่านพ้นวันที่แสนเจ็บปวดทรมารมาได้ เย่วซินก็เข้มเเข็งขึ้นมาก จนเฟยหลงรู้สึกได้ เเต่ก็มีบางครั้งที่เห็นร่างบางเเอบมานั่งคนเดียว สายตามองไปข้างหน้า อย่างเคว้งคว้าง เลื่อนลอยจนคนที่เเอบดูรู้สึกใจหาย กลัวว่าความสุขที่หายไป ร่างบางจะไม่สามารถเอากลับคืนมาได้หากเเต่เขา จะพยายามเติมเต็มมันให้กับคนตรงหน้าเอง

    หลังจากเกิดเรื่องก็ผ่านมาสองวันเเล้ววันนี้จึงเป็นวันที่ทุกคนรอคอย งานอภิเษกถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ เพราะวันนี้องค์ราชาจะประกาศ สละราชบัลลังก์เเละเเต่งตั้งองค์ราชาคนไหม่เพิ่มขึ้นมาอีกอย่าง เย่วซินเเละหลิงซานถูกปลุกให้ลุกมาอาบน้ำ เพื่อจะเเต่งองค์ทรงเครื่องตั้งเเต่ยังไม่สว่าง ทั้งคู่เลยต้องมานั่งเป็นตุ๊กตา ให้พวกนางกำนัลปู้ยี่ปู้ยำตามอำเภอใจ ใบหน้างามของทั้งคู่งอง้ำ เพราะอดนอนเลยพาลให้อารมณ์เสียไปด้วย

    "นี่พวกเจ้าจะถูให้หวยขึ้นรึ...ผิวหนังข้าแสบร้อนจนจะหลุดอยู่เเล้วนะ!!

    ร่างเล็กของหลิงซานทนไม่ได้อีกแล้วจึงตวาดพวกนางกำนัลออกไป

    "จะเสร็จเเล้ว อดทนหน่อยนะเพคะพระชายา วันนี้เป็นวันสำคัญของพระองค์นะเพคะ..เพราะฉะนั้นต้องสวยที่สุด"

    "ข้าน่ะหล่อเหอะ"

    ร่างเล็กพูดพลางมองบนอย่างเบื่อหน่าย เขาเป็นผู้ชายมาชมว่าสวยแบบนี้มันครั่นเนื้อครั่นตัว อยากกระทืบคนยังงัยชอบกล

    สุดท้ายคนหล่อก็ถูกจับเเต่งองค์ทรงเครื่อง ด้วยชุดเจ้าสาวสีเเดงเเสนงดงามทีเเรกตั้งท่าจะอาละวาด เเต่เจอเหล่านางกำนัลขู่เอาไว้ว่า เป็นชุดที่องค์ราชาประทานมาให้ ขัดไม่ได้เลยยอมสวมมันอย่างสุดกล้ำกลืน

    "หมดเเล้วชีวิตกู...จะมีสาวที่ไหนกล้ามองอีกวะนี่...บัดซบจริงๆ เลย"

    ใช่อย่างทีร่างเล็กคิด ไม่มีหญิงงามคนไหนกล้ามองเขาหรอก ในเมื่อเขาสวยกว่าพวกนางเสียนี่

    ตำหนักเย่วซิน

    เหล่านางกำนัลทั้งหลาย ช่วยกันเเต่งตัวให้เจ้าสาวขององค์รัชทายาท อย่างขยันขันเเข็ง จนสุดท้ายผ้าผืนบางก็ค่อยๆ เลื่อนลงมาปิดใบหน้างามของเจ้าสาวเเสนสวย

    "งามมากเพคะพระชายา องค์รัชทายาทเห็นเป็นได้ตะลึงงันอย่างเเน่นอนเพคะ" 

    เหล่านางกำนัลเอ่ยชื่นชมไม่ขาดปากกับความงดงามตรงหน้า เย่วชินเพียงยิ้มรับเล็กน้อย หากวันนี้เป็นวันมงคลของเขากับหนิงอัน คงจะดีไม่น้อยเขาคงจะมีความสุขกว่านี้ ในเมื่อต่อต้านไปก็เท่านั้น ในเมื่อมันไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ก็คอยหลบหลีกเอาก็เเล้วกัน อย่างไรเขาก็ยังไม่พร้อมอยู่ดี

    ตอนนี้ทุกคนก็มารวมตัวกันที่อาณาจักรมังกร แขกเหรื่อในงานมงคลครั้งนี้มาร่วมยินดีกันอย่างเนืองเเน่น เพราะเป็นงานอภิเษกของรัชทายาทเผ่ามังกรทั้งคู่ แขกเหรื่อมากันทั่วทิศ รวมทั้งสามพี่น้องแห่งอาณาจักรมาร องค์ชายองค์โตซึ่งมีตำแหน่งเป็นองค์รัชทายาทเผ่ามาร ที่มาเพราะอยากจะเห็นร่างงามของเจ้าสาวคนโต เขามาพร้อมกับน้องค์ชายคนรอง เเละน้องคนเล็กที่ขอติดสอยห้อยตามมาด้วย 

     

    และยังมีอีกสองเผ่าที่ยิ่งใหญ่ไม่เเพ้สองเผ่านี้เลย ก็คือเผ่าจิ้งจอกเงิน ที่เรียกกันเช่นนี้ ก็เพราะร่างจริงของคนเผ่านี้เป็นจิ้งจอกที่มีเส้นขนนุ่มนิ่มสีเงินยวงยามต้องเเสงจันทร์ทรา จะเเปล่งประกายวิบวับรับเเสงจันทร์ที่สะท้อน เส้นขนเงางามเสียจนผู้ที่ได้พบเห็น จะหลงไหลจนไม่สามาถถอนสายตาได้เลย ส่วนอีกเผ่าคือเผ่าวิหกเหมันห์ ชาวเผ่าวิหกเหมันห์จะดูองอาจน่าเกรงขามไม่น้อย ร่างจริงของชาวเผ่าคือพยาอินทรีจ้าวแห่งนก ถิ่นอาศัยก็คือดินเเดนเหมันที่เยือกเย็นที่สุดบุรุษของเผ่านี้จึงอดทนเเละเเข็งเเกร่งร่างกายสูงใหญ่น่าเกรงขาม


    ทุกเผ่าได้รับเทียบเชิญกันมาถ้วนทั่ว ซึ่งไม่มีเผ่าไหนจะปฏิเสธเลย ต่างก็อยากมาเห็นเจ้าสาวในครั้งนี้ ที่เลื่องลืออกันว่างามล่มเมืองแม้นความจริงเเล้ว ไม่อาจเห็นใบหน้างามอย่างใจหวัง เเต่พวกเขาจะไม่รีบกลับดินแดนของตนในเร็ววัน จะหาโอกาสไห้ได้เห็นใบหน้างามของสองราชินีคนต่อไปให้จงได้

    หลังจากนั้นก็ได้เวลาฤกษ์มงคล เจ้าสาวถูกเหล่านางกำนัลเชิญตัวออกจากตำหนัก เพื่อมาเข้าพิธีเจ้าบ่าวถึงกับยิ้มแย้มเเทบไม่หุบแาก ที่เห็นเจ้าสาวแสนงามของตนสวมชุดมงคลสีเเดงสด มันยิ่งขับผิวที่ขาวสวยอยู่เเล้วให้สวยใสยิ่งขึ้น วันนี้สองบุรุษรูปงามสวมใส่อาภรประจำกาย สีดำขริบทองปักลายมังกรด้วยเส้นไหมทองคำ ขับให้คนดูดีอยู่แล้วยิ่งมีสง่าราศรีของผู้ที่อยู่เหนือผู้ใดในอาณาจักรเเห่งนี้ อี้เฟยเเละเฟยหลงสังเกตุได้ว่า ช่วงหลังมานี้เจ้าสาวของตน งดงามเอิบอิ่มขนาดที่ตนเห็นแล้ว ไม่กล้าเข้าใกล้ กลัวว่าจะยั้งใจไม่อยู่ หลังจากวันนี้ไปพวกเขาจะไม่ต้องอดทนอีกต่อไปแล้ว เขาจะกกจะกอดให้หนำใจเชียว

    "วันนี้เจ้างามมาก...เสี่ยวไป๋"

    อี้เฟยกล่าวชื่นชมคู่ของตนด้วยรอยยิ้ม

    "พ่อง" คนตัวเล็กพูดเเค่นั้น เพราะหมดคำพูด พาเอาคนฟังทำสีหน้าสงสัย

    "อะไรของเจ้าเสี่ยวไป๋...ข้าไม่เข้าใจคำพูดแปลกหูชอบกลนัก"

    "มันเป็นคำพูดที่บ้านข้า...ท่านอย่าได้ใส่ใจเลย"

    ร่างเล็กพูดพลางขยับเข้าไปไกล้พี่ชาย

    "ท่านพี่...ท่านคิดออกรึยัง...ว่าเราจะเอาตัวให้รอดจากคืนนี้ได้อย่างไร...ข้าไม่อยากเข้าหอกับเจ้าคนโรคจิตรนั่น" ร่างเล็กเอ่ยถามพี่ขายตน

    "ขืนเข้าไปมีหวังเสร็จเจ้าคนลามกนั่นเเน่ๆ ยี๋คิดเเล้วขนลุก"

    "เจ้าใจเย็นๆ ก่อนหลิงซาน...อย่าโวยวายไป...ข้ามีวิธี"

    พูดจบก็แอบยื่นห่ออะไรบางอย่างขนาดก็เล็กนิดเดียว ส่งไปให้น้องชาย

    "รีบรับไปซิ...ชักช้าเดี๋ยวใครมาเห็นเข้า"

    ร่างเล็กมองหน้าพี่ชายอย่างไม่เข้าใจแต่มือบางก็รีบยื่นออกมารับของที่พี่ชายตนส่งมา อย่างรวดเร็วเเละระมัดระวัง เเล้วรีบยัดใส่อกเสื้ออย่างรวดเร็ว พร้อมถามออกไป

    "มันคืออะไรหรือท่านพี่"

    "มันเป็นยาที่ทำไห้คนที่กินเข้าไป...อ่อนเเรงไม่สามารถขยับ...หรือออกแรงได้เท่าที่ควร...มันเป็นสูตรยาประจำเผ่าของข้าเอง"

    สูตรยานี้ชาวเผ่าเอาไว้ล่าสัตว์เป็นสูตรประจำเผ่าหงส์ไฟ ใช้กินก็ได้เเต่ส่วนมากมักจะใช่ทาหัวธนู

    "ดีจริง...เเล้วมันใช้ยังงัยรึท่านพี่"

    "ผสมของกิน...หรือหากจวนตัวเจ้าก็ใช้เข็มจุ่มยา...เเล้วปักเข้าไปตรงไหนก็ได้รับรอง...เจ้าจะปลอดภัยจนถึงรุ่งเช้า"

    พี่ชายตอบออกมา พร้อมรอยยิ้มร้ายกาจปรากฎขึ้น หลิงซานยิ้มดีใจที่สามารถหาทางออกได้

    "ละ...เเล้ว...คืนพรุ่งนี้ล่ะท่านพี่"

    "ค่อยคิด"

    "เอาวะ...แค่ให้รอดจากคืนนี้ไปได้ก่อนเเล้วกัน"

    สองพี่น้องรีบพยามยามทำตัวให้ปรกติที่สุด ยอมทำตามทุกขั้นตอนอย่างไม่อิดออด จนมาถึงพิธีสุดท้ายที่ทั้งคู่ต้องให้คำสัตย์สาบาลซึ่งกันเเละกัน

    "ข้าขอให้คำสัตย์ จะรักเเละชื่อใจเจ้าจะดูเเล..เคียงข้างเจ้าเเต่เพียงผู้เดียว..ตราบสิ้นลม"

    เฟยหลงเอ่ยออกมา สายตาคมหนักเเน่น จ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่งาม ยืนยันสิ่งที่พูดออกไปทางสายตา ร่างบางมองเห็นถึงความจริงใจ และความรู้สึกที่อีกฝ่ายมีต่อตนเอง มันส่งออกมาทางสายตาร่างสูงเลยใด้รับสายตาเชื่อใจของร่างบางตอบเเทนกลับไป ส่งผลให้ปากหนาของร่างสูงปรากฎรอยยิ้มยินดีออกมา

    "ข้าขอให้คำสัตย์...แก่บุรุษผู้ที่ข้าจะวางชีวิต...และหัวใจไว้ในมือเขา...ข้าจะรักซื่อสัตย์...เเละจะอยู่เคียงข้างท่าน...จนหมดลมหายใจ"

    เพียงแค่จบคำที่ร่างบางพูด ใบหน้าคมก็มีเพียงรอยยิ้มยินดีตลอดเวลา เขาหมดคำพูดมีเเต่ความปิติ ที่เเสงออกมาทางสีหน้า เพียงแค่นี้ทุกคนที่ได้เห็น ก็รู้เเล้วว่าร่างสูงมีความสุขเพียงใด

    ส่วนอี้เหยเเละหลิงซาน ก็ลุล่วงผ่านไปด้วยดี ร่างเล็กไม่ดื้อดึงหรือพยศเลยเเม้แต่น้อย ถึงจะซุกซนดื้อดึงเพียงไร เเต่ร่างเล็กก็รู้ว่าอะไรควร หรือไม่ควรนี่จึงเป็นอีกอย่าง ที่อี้เฟยภูมิใจคนตรงหน้าเขานัก

    มาถึงเวลาที่องค์ราชาประกาศสละบัลลังค์ เเละแต่งตั้งเฟยหลงเเละอี้เฟย เป็นองค์ราชาครองบัลลังคู่กัน เย่วซินเเละหลิงซานเลยต้องรับตำแหน่งองค์ราชินีอย่างเลี่ยงไม่ได้ สร้อยคอประจำตำเเหน่ง สตรีที่เป็นรองเเค่เพียงสวามี ถูกผู้ที่เป็นสวามีสวมใส่ลงมาบนลำคองามระหงส์ บ่งบอกสถาณะของตนเป็นอย่างดี ส่วงหลิงซานอี้เฟยเป็นผู้สวมใส่ให้ เขาขอคืนตั้งเเต่ร่างเล็กมาถึงที่นี่ ตอนเเรกร่างเล็กจะไม่ไห้เพราะของๆ เขา เเต่เพราะเห็ตผลร้อยเเป็ด ร่างเล็กจึงยอมถอด พร้อมกริชเล่มเล็กที่ตนเอาติดตัวมา เพราะของสองสิ่งนี้ย่อมต้องอยู่คู่กัน วันนี้เขาจึงได้คืนมาพร้อมกันส่วนเส้นที่สั่งทำขึ้นมาไหม่ก็เก็บมันไว้ดังเดิม

    เเขกเหรื่อต่างก็มอบของขวัญล้ำค่า เท่าที่จะสรรญหามาได้ เเก่คู่บ่าวสาวทั้งสี่มากมายเสียจนหลิงซานชักจะตาลาย

    "ข้าอี้เทียนหลง...รัชทายาทเผ่ามาร...ข้ามีของขวัญเล็กน้อย...จะมอบให้องค์ราชินีทั้งสองโปรดรับไว้ด้วย"

    "เกรงใจท่านเเล้ว" เสียงคนพี่เอ่ยกับแขก

    แค่ได้ยินเสียงหวานของเย่วซินเท่านั้นก็ทำไห้ ลุ่มหลงได้ในทันทีถึงจะไม่ได้เห็นหน้าชัดเจนนัก เเต่ก็ไม่เป็นไรเพราะเขาเคยเห็นมาครั้งหนึ่งแล้ว

    "ไม่หรอกพะยาค่ะ...อย่าได้เกรงใจข้าเลยคนกันเองทั้งนั้น"

    เย่วซินไม่ทันได้พูดอะไรต่อ ก็มีมือหนาของเฟยหลงมารวบตัวเอาไว้ ก่อนจะเอ่ยกับอีกฝ่ายด้วยสายตาเอาเรื่อง

    "ต้องขออภัยองค์รัชทายาท...ตอนนี้ข้าขอตัวราชินีของข้า...ไปพบปะผู้อาวุโสทางนั้นก่อน...หากท่านว่างนักละก็...หาอะไรทำเสียหน่อยก็ดี...จะได้ไม่คิดฟุ้งซ่าน"

    เฟยหลงกล่าวจบก็โอบร่างบางไห้เดินไปพร้อมกับตน เย่วซินเดินไปโดยไม่ลืมที่จะดึงน้องชายของตนตามมาด้วย เเละไม่เข้าใจกับอาการหงุดหงิดของคนตรงหน้านั้น

    "คราหน้าหากหลีกได้...จงหลีก"

    "ข้าไม่เข้าใจ" ร่างบางมองหน้าร่างสูงอย่างขอคำอธิบาย เฟยหลงมองหน้างามของร่างบาง ผ่านผ้าปิดหน้าผืนบางตาคมจ้องลึกลงไปในดวงตากลมอยู่ชั่วครู่ จึงเอ่ย

    "ข้าไม่ไว้ใจเจ้านั่นเลย...เขากับข้ามิได้เป็นมิตร...หรือศัตรูกันก็จริง...เเต่ก็ไม่ค่อยจะลงรอยมาเเต่ไหนเเต่ไรแล้ว"

    ร่างสูงอธิบาย

    "ท่านคิดมากไปหรือเปล่า"

    "ข้าไม่รู้...แต่เจ้าห้ามไกลชิดกับมันมากนัก...ข้าหวง"

    ร่างสูดพูดออกไปแบบนี้ ทำเอาคนตรงหน้าถึงกับพูดไม่ออก ใบหน้างามเเดงก่ำไปถึงใบหู มองเขาเลิ่กลั่ก เฟยหลงมองเเล้วหัวเราะออกมา ด้วยความขบขันระคนเอ็นดู ร่างบางทำตัวไม่ถูก ถ้ามุดดินได้ก็คงมุดไปแล้ว

    "ไอ้หมาบ้าเฟยหลง...หวงดีนักคอยดูเถิด...ข้าจะเเย่งของรักของเจ้ามาไห้ใด้...ระวังเอาไว้ให้ดีล่ะ...อย่าได้เผลอเชียว"

    รัชทายาทเเห่งเผ่ามารหมายมั่นปั้นมือเอาไว้ในใจ



    ++++++++++++++++++++++



    เอาเเล้วไงจะเปิดศึกชิงนางกันหรือไม่ติดตามตอนต่อไปนะคะ????????????

    สองพี่น้องเจ้าแผนการกำลังคิดจะทำอะไรนะ ตอนหน้ารับรองสนุกเเน่

    เม้นมาให้กำลังใจคนเเต่งเยอะๆ นะ จะได้รีบลงโดยไวๆ


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×