[SF:Exo] I want to hear your heart....100% - [SF:Exo] I want to hear your heart....100% นิยาย [SF:Exo] I want to hear your heart....100% : Dek-D.com - Writer

    [SF:Exo] I want to hear your heart....100%

    อยากให้เธอได้ยิน เสียงในหัวใจ ว่ามัน "รักเธอ"แค่ไหน แต่ก็ไม่รู้ต้องทำยังไง ให้เธอได้รับฟัง...

    ผู้เข้าชมรวม

    994

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    7

    ผู้เข้าชมรวม


    994

    ความคิดเห็น


    8

    คนติดตาม


    6
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  14 เม.ย. 56 / 12:28 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    I want to hear your heart....








    "ฉันขอโทษ...ได้โปรด...ฉันรักนาย นะ...อี้ชิง"
    "ได้ยินเสียงหัวใจของผมบ้างรึป่าว?..."
    "ฉันจะดูแลนายด้วยความรู้สึกทั้งหมดของฉัน... ให้โอกาสฉันน่ะ เลย์"






     
    WITCHERY HOUSE
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

       

       


      Title: I want to hear your heart....

      Couple: Kris x Lay x Luhan

      Note: อยากให้เธอได้ยิน เสียงในหัวใจ ว่ามัน "รักเธอ"แค่ไหน แต่ก็ไม่รู้ต้องทำยังไง ให้เธอได้รับฟัง...


      “สวัสดีฮะ ผมชื่อ จางอี้ชิง”

      “อะ อื้ม หวัดดี "

             จากวันนั้นถึงวันนี้ถึงก็ผ่านมา 3 ปีแล้วที่ผมได้เจอกับ เด็กผู้ชายคนหนึ่งที่มีความฝันอันยิ่งใหญ่ เขามักจะทุ่มเทให้กับความฝันของเขาอย่างเต็มที่ มันเหมือนเป็นแรงผลักดันของผมเหมือนกัน เพราะเมื่อผมเหนื่อยหรือท้อ แค่ได้เห็นเขา ผมก็รู้สึกเหมือนมีพลังบางอย่างมาผลักดันผมให้เดินไปพร้อมกับเขา


      ...ผลัก!...

       
      “เอ้า! ทุกคนพักก่อนๆ วันนี้เรามีเทรนนี่คนใหม่ด้วย เขาเป็นคนจีนนะ” พี่สตาฟของต้นสังกัดชื่อดังเดินมาบอกข่าวให้กับพวกเด็กเทรนคนอื่นร่วมถึงผมด้วย

       

          ครั้งแรกที่เห็นผมคงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าเด็กใหม่นั้นน่ารักมากๆ ตากลมโต จมูกรั้งปลายนิดๆ ริมฝีปากเรียวได้รูปผิวที่ขาวเนียนภาพลักษณ์ดูแล้วออกแนวคุณหนูนิดๆ แต่นั้นก็ไม่สามารถดึงดูดสายตาผมออกจาก จาง อี้ชิง ที่นั่งข้างๆผมได้ แววตาเป็นประกาย ผิวขาวดุดน้ำนม ดูแล้วจะขาวกว่าเด็กใหม่นั้นอีก มีเหงื่อซึมออกมาเป็นผลจากการซ้อมที่เจ้าตัวทุ่มเท

      “ช่วยดูแลกันด้วยนะ” เมื่อบอกข่าวเสร็จก็พาเด็กเทรนคนใหม่ไปสำรวจสถานที่และบอกลายละเอียดเกี่ยวกับการเทรน กว่าเด็กใหม่จะมาทำความรู้จักกับเด็กเทรนคนอื่นอีกทีก็ได้เวลากลับกันแล้ว

       

      “อ๊ะ!

      “นี่เป็นไรไหม?”

      ผมหันไปตามเสียงของอี้ชิงแต่ก็ต้องชาวาบไปทั้งตัวกับภาพตรงหน้า อี้ชิงถูกเด็กใหม่โอบเอว ผมรีบหันหน้ากลับมา ไม่อยากเห็นภาพนั้น หยุดเต้นสิ ไอ่หัวใจบ้า ตอนนี้หัวใจผมมันเต้นแรง ไม่ใช่เพราะตื่นเต้น แต่มันเจ็บ อาการแบบนี้มันคืออะไรกัน...

      .

      .

      .

      ผมเดินเข้ามาในห้องซ้อมเดิมที่พี่สตาฟได้เคยพาเข้ามาแนะนำตัวกับคนอื่นๆ ตอนนี้มันเป็นเวลากลับบ้านแล้วแหละ แต่ผมก็ยังอยากไปที่ห้องซ้อมอีกครั้ง   

      ผมเปิดประตูมาพอดีก็เห็นเด็กผู้ชาย ใบหน้าที่หวานสวยไม่แพ้กับผู้หญิง แววตาที่มุ่งมั่น ปากอวบอิ่มสีเชอร์รี่ที่ขยับฮึมฮัมตามเพลง แขน ขา วาดลวดลายการเต้นที่ยอดเยี่ยม ร่างบอบบางกำลังขยับตามจังหวะเพลงอย่างคุ้นเคย ดูเหมือนเป็นภาพวาดที่สวยงาม “อ๊ะ!” ร่างบางนั้นสะดุดกับเท้าตัวเองผมเลยรีบไปพยุงเขาไว้เพื่อไม่ให้เจ็บตัว ตอนนี้หน้าผมกับเขาใกล้กันไม่ถึงคืบ มันทำให้ผมเห็นหน้าของเขาได้ชัดเจนเหมือนมีอะไรอย่างสะกดให้ผมไม่สามารถละสายตาไปได้

       

      “นี่เป็นไรไหม?”  ผมเอ่ยถามเขาที่หลับตาปี๋ก่อนเขาจะค่อยๆลืมตามามองแล้วทำหน้าอึนๆ ใส่ผม


      น่ารัก...


      “มะ ไม่เป็นไรฮะ เอ่อ...ผม จาง อี้ชิงนะฮะ^^” อ่า...ชื่อเพราะจังแถมยิ้มก็น่ารักขึ้นไปอีก ผมนึกในใจก่อนจะตื่นจากภวังค์ เพราะอี้ชิงยื่นมือมา ผมไม่ลังเลเลยที่จะจับตอบ มือเขามีความสากนิดๆแต่ก็ยังคงความนุ่มกว่าผู้ชายทั่วไป

      “ฉะ ฉัน ลู่หาน... เสี่ยว ลู่หาน”

      “ลู่หาน มาจากจีนหรอ?”

      “อื้ม” เขาเอี้ยงคอถาม แววตาของเขาเหมือนเด็กไร้เดียงสาที่ขี้สงสัย นี่ถ้าผมสนิมกับเขาผมคงจะสั่งห้ามทำท่าน่ารักๆแบบนี้กับใครเด็ดขาด

      “ไม่เหมือนคนจีนเลย เหมือนคนเกาหลีมากกว่าแถมสำเนียงยังดีอีกตั้งหาก”  

      “หรอ?”

      “อื้ม อ๊ะ!ลู่หานมานี่สิ” อี้ชิงจับมือผมแล้วลาก?ผมไปตรงมุมห้อง ยอมรับเลยว่าวินาทีที่เขาจับมือมือผมใจก็เต้นแรงเหมือนกับจะหลุดออกจากอกให้ได้

      “นี่พี่อี้ฟาน คนจีนเหมือนกัน” ผมเสียดายที่เขาปล่อยจากผมแต่มันก็ดีแล้วล่ะ ไม่งั้นใจผมคงหลุดจากอกแน่

      “สวัสดี ผมลู่หาน เสี่ยวลู่หาน ”

      “อืม...ฉัน อู๋อี้ฟาน” ว้าว เขาสูมากๆ แถมหน้าตายังหล่ออีกด้วย ตาคม จมูกเป็นสัน ริมฝีปากได้รูป เหมือนเขาเป็นพระเอกนิยายที่เพื่อนผมเคยเล่าให้ฟัง

      “พวกเราเป็นเพื่อนกันแล้วนะ ^^” อี้ชิงยิ้มแล้วเขย่งกอดคอผมกับอู๋ฟาน

        อ่า...จากวันนั้นพวกเราก็เป็นเพื่อนสนิทกันมาจนถึงวันนี้...
      .
      .
      .

          ตอนนี้ทั้ง12คนที่มีความฝันเดียวกัน ได้เดบิวต์มา7-8เดือนแล้ว พวกเขาจะได้มารวมตัวกันอีกครั้งหลังจากแยกกันไปโปรโมตตามประเทศที่ทางบริษัทได้วางแผนไว้ และวันนี้ทุกคนจะต้องไปร่วมงานประกาศรางวัลMAMA ทุกคนต่างตื่นเต้นที่ได้มาเจอกันอีกครั้งและตัวเองได้มีชื่อในงานประกาศรับรางวัลถือว่าประสบความสำเร็จอีกขั้นที่ทุกคนตั้งเป้าไว้

      "เฮ้ย~" 

      "เป็นอะไร?เสี่ยวลู่?" เลย์หันไปถามเพื่อนรุ่นพี่ที่ทำหน้าบอกบุญไม่รับ มือเรียวยกขึ้นไปแตะระหว่างคิ้วให้คนหน้าหวานคลายมันออก แต่ก็ไร้ผลคนหน้าหวานไม่มีทางทีว่าจะหายเครียด

      "แฟนคลับเยอะอ่ะ"

      "หือ? ก็ดีนิ เเฟนคลับเยอะ" คนหน้าหวานหันมาทางร่างบางที่ดูไม่รู้ร้อนไม่รู้หนาวอะไรเลย เเฟนคลับเยอะการเดินเข้าไปก็ลำบาก เเถมคนตรงหน้าร่างกายก็ยังไม่สมบูรณ์เต็มร้อย ล้มไปมีหวังอาการเจ็บเอวกำเริบแน่

      "ทุกคน คือว่า... เราต้องมีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งการเดินใหม่นะ" เสียงพี่เมนเนเจอร์เป็นอะไรที่คริสและลู่หานไม่อยากได้ยินในตอนนี้ พวกเขารู้อยู่แล้วหล่ะว่าต้องมีแฟนเซอร์วิดแต่พวกเขาก็อยากดูแลร่างบางที่ตอนนี้ดูท่าทางเฉยๆกับเหตุการณ์"คริส...นายเดินคู่ชานยอล ลู่หานนายกับเซฮุน เฉินกับซิ่วหมิน ส่วนเทากับเลย์พวกนายเดินกับซูโฮ ไค ดีโอ และเเบคฮยอน เข้าใจไหม? เอาล่ะเตรียมตัว" 

      "เลย์..." ร่างสูงเดินมาหาร่างบางที่กำลังเช็คความเรียบร้อยตัวเองอยู่ ร่างบางเงยหน้าส่งสายตาสังสัยเป็นเชิงถามว่า'มีอะไรหรอ?'

      "นายต้องอยู่กับจงอินตลอดน่ะห้ามอยู่คนเดียวเด็ดขาด" ในฐานะตุ้ยจางคริสเลือกให้น้ำเสียงเรียบในการออกคำสั่ง ถึงแม้เขาอยากจะดูแลร่างบางเเค่ไหนแต่มันก็ทำไม่ได้เพราะ เขาเป็นตุ้ยจางต้องดูแลกันอย่างเท่าเทียมและด้วยหน้าที่ที่ต้องอยู่กับอีกคนที่ไม่ใช่ร่างบาง เขาจึงเลือกคนที่จะสามารถดูแลร่างบางได้มาดูแลเเทนเขา

      "อืม..." เลย์ตอบไปอย่างแผวเบาแล้วใส่เฮดโฟนเปิดเพลงฟัง เขาอยากอยู่กับโลกส่วนตัวไม่อยากเผชิญกับโลกแห่งความจริงที่แสนเหนื่อย 

      เหนื่อยที่จะต้องโดนผลักไสให้ไปอยู่กับคนอื่นทั้งๆที่ใจอยากอยู่กับอีกคนมากแค่ไหน
      เหนื่อยที่จะต้องเห็นเขาจับมือ หัวเราะ กับคนอื่น
      เหนื่อยที่จะต้องพยายามข่มความรู้สึกเจ็บเอาไว้คนดียว
      เหนื่อยที่จะต้องลืมตาขึ้นมาอย่างโดดเดี่ยวทั้งๆที่เมื่อก่อน มีใครอีกคนคอยให้กำลังใจและเผชิญเรื่องต่างๆมากมายมาด้วยกัน

      "เลย์..." ลู่หานที่เห็นใบหน้าที่แสนเศร้าของเลย์ก็พาลให้ใจกระตุกวูบ ทำไมเขาจะไม่รู้ล่ะว่าเลย์เป็นอะไร เขาคอยแอบมองเลย์มานานนานจนรู้ว่าเลย์นั้นชอบคริส และคริสก็ชอบเลย์แต่ยังไงล่ะ? เมื่อไม่มีใครจะผูกมัดเลย์เขาก็ยังมีสิทธิ์ ไม่ใช่หรอ? สักวันเขาจะเปลี่ยนใจของเลย์ให้ได้...

       

      .

      .

      .

      "ทำไมเป็นคนแบบนี้ ห๊ะ!! รู้ไหม?คนอื่นเขาเดือดร้อนกันหมด!!" เสียงที่เต็มไปด้วยแรงอารมณ์ของหัวหน้าฝั่งเอม ดังขึ้นกลางห้องโถงที่เต็มไปด้วยสมาชิกฝั่งเอมและเค


      "คริส! นายพูดกับเลย์ดีๆสิ แค่นี้น้องมันก็เสียขวัญหมดแล้ว!" อีกเสียงหนึ่งค้านออกมา เมื่อเห็นแววตาตกใจกับคำพูดของคนตัวสูงก่อนหน้า ถึงแม้ใบหน้าจะนิ่งเหมือนไม่รู้สึกอะไรแต่ในใจอาจจะร้องไห้ออกมาก็ได้


      "หึ! ก็มันจริงนิ ฟืนตัวเอง คิดแต่ว่าไม่อยากทำตัวเป็นภาระให้กับคนอื่น แต่เป็นไง? พอร่างกายทนไม่ไหว อาการกับทรุดจนงานต้องถูกยกเลิก ยังงี้มันคงไม่เป็นภาระของคนอื่นยังงั้นสิ!"

      ร่างบางเม้มปาก พยายามอย่างมากที่จะสะกดความรู้สึกที่ปะปนกันมั่วไปหมด ทั้งเสียใจ ทั้งโกรธกับคำพูด ทั้งๆที่อยากจะได้ยินคำปลอบโยนจากคนตัวสูง

       

      ผลัก!

       

      "คริส! พอ!นายจะใช้อารมณ์มากไปแล้วนะ!!" คนหน้าหวานเริ่มทนกับพฤติกรรมที่คนคนตัวสูงทำกับคนที่ตนรักไม่ไหว จึงเดินไปผลักร่างสูงที่กำลังบีบแขนร่างบาง


      "มีคนให้ท้ายยังงี้เลยได้ใจละสิ! เมื่อก่อนไม่เห็นจะดื้อขนาดนี้ สงสัยจะมีคนมาคอยเอาใจ!!" การกระทำของคนหน้าหวานทำให้ อารมณ์ของคริสใกล้ถึงขีดสุด คำพูดที่ดูถูกร่างบางพรั่งพรูออกมาจากปากโดยไม่รู้ตัว

       

      ลู่หานกระชากคอเสื้อของคริส ถึงแม้อุปสักความสูงที่ค่อนข้างต่างกันพอสมควร ก็ไม่ทำให้อารมณ์ของคนหน้าหวานลดลง มือเรียวและมือหนากำแน่นถ้าอารมณ์ถึงขีดสุดเมื่อไหร่ก็พร้อมจะไปกระทบกับใบหน้าของอีกคนในทันที


      "พอ... " เสียงหวานที่ติดแหบพร่าเพราะไม่ได้พูดเป็นเวลานานเอ่ยอย่างแผ่วเบา สายตาเหม่อลอยออกไป จนคนทั้งสองที่ต่างฝ่ายต่างจ้องหน้ากันหันมามองร่างบาง


      "หยุดสักที..." เป็นอีกครั้งที่ร่างบางพูดออกมาคำพูดที่แสนธรรมดาแต่เต็มไปด้วยอารมณ์คนพูดทั้งเจ็บ ทั้งเสียใจ ทั้งโกรธ แต่ด้วยนิสัยที่ไม่ใช่คนโวยวายจนไม่ถึงขีดสุดของอารมณ์จึงพูดออกมาได้แค่นี้

      คนทั้งสองปล่อยมือออกจากปกเสื้อของแต่ละคนแล้วหันมามองคนที่เอาแต่พูดกับท้องฟ้าอย่างแผวเบา

       

      "ถ้าฉันผิดฉันขอโทษ...ฉันจะรับผิดชอบเอง..." พูดเสร็จร่างบางตั้งท่าจะเดินออกไปแต่ต้องชะงักเพราะเเขนแกร่งของรุ่นน้องสีผิวเข้ม

      "พี่จะทำอะไร?" ไคพูดออกมาด้วยหน้าตาเรียบเฉยแต่แฝงไปด้วยความกังวลและความห่วงใย

      ร่างบางไม่ตอบแต่กลับยิ้มบางๆและจับมือของรุ่นน้องที่พยายามรั้งไว้ออก

      .

      .

      .

      "ทุกคนจะทำกิจกรรมเหมือนเดิม" เสียงผู้จัดการฝั่งเคเอ่ยขึ้นหลังที่เลย์ได้ไปคุยกับทางตนสังกัดเมื่อคืนหลังจากเกิดเรื่อง


      "โดยที่ไม่มีเลย์ และเราจะส่งตัวเลย์ไปพักรักษาที่จีนสักเดือนหนึ่ง ดีที่ช่วงนี้ไม่มีงาน" เสียงผู้จัดการฝั่งเอมเอ่ยต่อ ทำสมาชิกทุกคนแตกตื่นมีแต่ร่างสูงที่นั่งเงียบปล่อยให้ความคิดและความรู้สึกมากมายถาถ่มเข้ามา


      "แล้วเลย์ไปไหนละครับ ผมไม่เห็นเขาเลย" หลังที่ร่างบางออกไปลู่หานก็เอาแต่ติดต่อกับร่างบางแต่ก็ไม่ติด จนตั้งใจจะออกไปตามหาข้างนอกแต่ก็ไม่ได้ออกไปเพราะข้อความจากคนที่กำลังเป็นห่วงส่งเข้ามา

      'พี่ลู่หาน...ตอนนี้ฉันอยู่ที่บริษัท ไม่ต้องเป็นห่วง

      ฉันไม่เป็นไร อย่าหวงเลย...เดี่ยวฉันจะกลับมานะ...เลย์'

      ถึงแม้จะแปลกใจกับคำพูดที่ส่งมาแต่ก็โล่งใจที่ร่างบางอยู่ที่บริษัท


      "เลย์ กลับจีนไปแล้วล่ะ"

      "ไปตอนไหนครับ ผมไม่เห็นเลย?" เสียงพี่คนโตที่สุดเอ่ยออกมา ถึงแม้จะไม่ใช่รูมเมทแต่ถ้าร่างบางออกไปตอนเช้าก็น่าจะได้เจอกับเขา เพราะเขาตื่นเช้าที่สุด


      "เมื่อคืน หลังจากที่คุยกับท่านประธานและหมอเสร็จ ก็มาเก็บของแล้วฉันก็ไปส่งที่สนามบิน" เมื่อหมดข่าวที่จะมาบอกกับสมาชิกคนอื่นๆพี่ผู้จักการก็ออกไป คริสและลู่หานเดินกลับเข้าห้องตัวเองและเอาแต่อยู่ในห้อง ไม่มีใครกล้าที่จะไปยุ่งในตอนนี้และให้ทั้งสองคิดทบทวนกับตัวเอง

      .

      .

      "พี่อี้ฟาน ฮึก พี่ได้ยินเสียงหัวใจของผมรึเปล่า ฮึก" เสียงหวานสะอื้นแผ่วเบาแววตาเศร้าจองไปยังโทรศัพท์ ที่โชว์รูปคนที่ทำร้ายความรู้สึกของเขามาโดยตลอด

      จาง อี้ชิงคนนี้รักอี้ฟานมานานตั้งแต่เป็นเทรนนี่ เขาไม่รู้หรอกว่าความรู้สึกนี้เกิดขึ้นตอนไหนแต่มันมันชัดเจน ตอนที่ได้เดบิวต์ จากที่เคยตัวติดกันเกือบ24ชม.ก็ห่างเหินกัน เมื่อก่อนตอนป่วยมีร่างสูงมาคอยดูแลแต่ตอนนี้ไม่มีแม้เงา จากที่เคยใช้เวลาอยู่ด้วยกันมันก็ไม่มีเหลือ ยังดีที่เขามีลู่หานคอยปลอบใจไม่ให้คิดฟุ้งซ่าน แต่ตอนนี้เขาคงจะเห็นแก่ตัวอีกไม่ได้เพราะอี้ฟานต้องรับหน้าที่เป็นตุ้ยจาง ที่ต้องคอยดูแลทุกคนอย่างเท่าเทียมและด้วยหน้าที่ที่เป็นตอนนี้เขาควรไม่มีเรื่อง'ความรัก'ให้ส่งผลกระทบกับงาน

      "ผมจะลืมพี่ให้ได้ เพื่อทุกคนและตัวผมเอง"

       


      ---------------------------------------I want to hear your heart--------------------------------------------

       

      หนึ่งเดือนแล้ว...ที่ใครคนหนึ่งจากไปเพราะการกระทำของตัวเอง

      หนึ่งเดือนแล้ว...ที่เขาทำผิดสัญญากับหัวใจของตัวเอง

      หนึ่งเดือนแล้ว...ที่เขาเพิ่งรู้ใจตัวเอง

       

      อี้ชิง...ฉันขอโทษ...ฉันรักนาย...

       

         ตอนนี้คริสและลู่หานพูดคุยกันเหมือนเดิม และได้รู้ความรู้สึกของกันและกัน พวกเขาเฝ้ารอคอยการกลับมาของใครบางคน ที่จริงคริสและลู่หานอยากจะไปรับร่างบางที่สนามบินด้วยซ้ำแต่เพราะกลัวว่าแฟนคลับจะตามไปและพวกเขาติดประชุมเรื่องอัลบัมใหม่กับบริษัท เลยทำได้แต่รอร่างบางที่บริษัท

       

      "คริสนายรักเลย์ใช่ไหม" คำพูดของเพื่อนทำให้ร่างสูงชะงักทันที ใช่ว่าเค้าจะไม่รู้สึก เขาเพิ่งรู้ตัวเมื่อขาดเลย์ไปแค่หนึ่งอาทิตย์ ทุกวันตื่นมาเขาจะกินข้าวฝีมือคนตัวเล็ก ได้เห็นรอยยิ้มแสนหวาน ได้เห็นแววตาใสที่มีประกาย แต่ทุกอย่างกลับว่างเปล่า เขาเฝ้าถามตัวเองมาตลอดว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นตั้งแต่ได้รู้จักร่างบางมันคืออะไร จนในที่สุดเขาก็ยอมรับว่ามันคือ'ความรัก'

      "ใช่...ฉันรักเลย์..." นี่คงเป็นครั้งแรกที่เขาซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกที่เขามีให้ร่างบาง

      "ตั้งแต่เมื่อไหร่?..." ร่างเพียวถามไปทั้งๆที่รู้อยู่แกใจแต่มันก็อยากฟังจากปาก'เพื่อน'ให้แน่ใจ

      มันไม่ใช่ว่าเขาจะยอมแพ้ แต่แค่อยากรู้ว่า'ความรัก'ของเขาที่มีให้ร่างบางตั้งแต่เเรกพบมันเทียบได้กับร่างสูงรึเปล่า

      "ครั้งแรก...ที่เจอ"

      "..." ไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมา เพราะต่างคนต่างตกอยู่ในภวังค์ที่ตัวเองสร้าง "ลู่หาน...นายก็รักเลย์สินะ" สุดท้ายคำถามที่คาใจมานานก็หลุดออกไปจากปากร่างสูง

      "อืม...รักตั้งแต่แรกเห็น ตอนนั้นน่ะ 'อี้ชิง' เหมือนยูนิคอนจริงๆนะ"ร่างเพียวเผยยิ้มอ่อนโยนขณะพูดถึงร่างบาง รอยยิ้มที่เห็นได้ยาก จริงอยู่ที่เขาได้ฉายาว่า 'นางฟ้า' มีรอยยิ้มที่อ่อนหวาน แต่ถ้าดูจริงๆเขาเทียบไม่ได้เลยกับร้อยยิ้มของ จาง อี้ชิง รอยยิ้มที่มาจากใจ

      "ยูนิคอน?"

      "อื้ม...ก็ลักษณะภายนอกดูเย็นชาแต่ภายในอ่อนโยน อบอุ่น เข้มแข็ง ร่าเริง สดใส เห็นครั้งแรกฉันก็ตกหลุมรัก อี้ชิง เลยล่ะ"

      "อี้ชิง...จาง อี้ชิง อ่า...ไม่ได้เรียกชื่อนี้มานานเท่าไหร่แล้วนะ" ตั้งแต่ได้ชื่อเล่นกันไหมพวกเขาก็ตัดสินใจว่าจะเรียกแต่ชื่อเล่น เพื่อไม่ให้ลืมและหลุดตอนไปถ่ายรายการต่างๆ

      "นั่นสิ...คริส" ร่างสูงที่กำลังนึกถึงใบหน้าหวานของร่างบางอยู่ หันไปตามเสียงเรียกของร่างเพียว

      "หือ?"

      "ฉันไม่ยอมแพ้นายหรอกนะ ฉันจะดูแลอี้ชิง ด้วยความรู้สึกทั้งหมดของฉัน" ร่างเพียวพูดอย่างมุ่งมั่นเขาจะดูแลร่างบางเอง จะคอยอยู่ข้างๆในยามเศร้าหรือเหงาถึงแม้ร่างบางจะไม่รู้สึกเช่นเดียวกับเขาก็ไม่เป็นไรแค่ขอให้ร่างบางมีความสุขก็เพียงพอแล้ว

      "หึ! คิดว่าฉันจะยอมแพ้นายหรอลู่หาน ตอนนี้ฉันกล้าที่จะเผชิญกับทุกอย่างแล้วและฉันไม่มีวันปล่อยอี้ชิงแน่" ทั้งสองคนจับมือกับด้วยความมุ่งมั่นที่ตนมีและพร้อมที่จะพิชิตใจร่าบาง
       

      .
      .

       

      "อ๊ะ! พี่เลย์!" มักเน่ฝั่งเอมวิ่งเข้าไปกอดร่างบางที่แทบจะไม่ได้ติดต่อกับเป็นเดือน พร้อมกับร่างของสามชิกต่างวิ่งเข้ามาหาร่างบ่างเช่นเดียวกัน


      "ทำตัวเป็นเด็กๆไปได้เทา อ๊ะ! เซฮุนอ่า..." ระหว่างที่มักเน่ฝั่งเอมเอาแต่กอดร่างบางไม่เผื่อแผ่ให้ใคร จนมักเน่ตัวจริงหมั่นใสเลยเข้าไปสวมกอดด้านหลังของร่างบาง


      "ผมคิดถึงพี่อี้ชิงมาก~" ไม่ว่าเปล่าก็จัดท่าแอ็บแบ้วสุดน่ารักใส่คนเป็นพี่ทันที เรียกเสียงฮาจากสมาชิกทั้งหลายพฤติกรรมทั้งหมดของร่างบางอยู่ในสายตาของทั้งสองคน


      "พี่เลย์ ผอมไปรึเปล่าเนี้ยก่อนไป ผมว่ากอดหลวมแล้วนะ ตอนนี้หลวมกว่าเดิมอีก" ทั้งสองมักเน่ผละจากอ้อมกอดก่อนจะหมุนร่างบางไปมาเพื่อดูให้แน่ชัด


      "ก็นิดหน่อยนะ กลับไปก็เข้ารักษาตัวเลย...ได้ยาตัวใหม่มาแล้วมันมีผลข้างเคียงนิดหน่อยนะ"


      "ผลข้างเคียงอะไร?เลย์" เสียงอบอุ่นของคนน่าหวานเอ่ยทันที เมื่อได้ยินเกี่ยวกับอาการเจ็บป่วยของคนที่ตอนแอบรัก


      "ก็แค่ไม่ค่อยอยากอาหารแค่นั้นแหละ ลู่หาน"คนตัวเล็กทำเสียงน่ารักๆใส่ร่างเพียวหวังจะให้คลายเครียดลงบ้าง เขาก็รู้ว่าลู่หานน่ะ เป็นเขามากแค่ไหน


      "เอาล่ะๆ ไปประชุมก่อนเดียวค่อยมาดีใจกันใหม่" เสียงผู้จัดการเอ่ยขัด

      ทั้ง12ได้เสร็จประชุมเกี่ยวกับอัลบัมใหม่ที่มีขึ้นในไม่ช้า

      .

      .

      "เลย์ ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย" ร่างสูงเดินมาอยู่ข้างหลังก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนจนคนฟังใจสั่น ร่างสูงส่งสายตาไปทางเพื่อนหน้าหวานเป็นการเอ่ยชวนว่า'นายก็ไปด้วยนะ'


      "อะ อื้ม" ทั้งสามเดินไปบนดาดฟ้าของตึก เมื่อก่อนทั้งสามชอบมานั่งเล่นกันที่นี่แต่หลังจากเดบิวต์ก็ไม่เคยมาเหยียบที่นี่อีกเลย


      "อี้ชิง..." คนตัวเล็กมองหน้าคริสอย่างหวั่นๆไม่ใช่เพราะกลัวแต่เป็นเพราะคำเรียกที่ไม่ได้ยินมานาน


      "ฉันขอโทษที่ทำให้นายเสียใจ ฉันเข้าใจไปว่าตุ้ยจาง จะต้องดูแลทุกคนอย่างเท่าเทียม มันเลยทำให้เวลาของเรามันไม่มีเหลือและฉันก็ห่างเหินละเลยนายไป แต่สิ่งที่ฉันทำมันกลับทำร้ายตัวของฉันเอง นายเจ็บฉันเจ็บกว่า นายเศร้าฉันเศร้ากว่า ฉันไม่มีความสุขเลยหลังจากที่ฉันทำมันลงไป"    เสียงของร่างสูงที่สั่นเครือหยุดลง ร่างสูงหายใจเข้าลึกๆก่อนจะบอกคำที่อยากให้ร่างบางฟังมากที่สุด


       "สิ่งที่ทำให้ฉันได้มีความฝันก็คือนาย จากนี้ฉันจะไม่ทำให้นายเสียใจ... อี้ชิง พี่รักนาย"

      ไม่มีเสียงอะไรออกมาจากปากของร่างบาง ไม่มีแม้น้ำตา แต่หัวใจของร่างบางตอนนี้เต้นเร็วและรัวจนมันจะระเบิดออกมา


      "พี่ว่าลู่หานก็มีอะไรที่จะบอกนาย" ลู่หานรู้สึกงงเล็กน้อยเขานึกว่าคริสจะพาเข้ามาฟังคำสารภาพ แต่ไม่ใช่ที่คริสพาเขาด้วย เพราะอยากให้เขาได้บอกความรู้สึกเหมือนกัน

      ร่างบางหันมาทางลู่หาน ใบหน้าหวานสวยเหมือนผู้หญิง ดวงตาเป็นประกายกำลังจ้องเขาอยู่


      "อี้ชิง...ฉัน...รักนาย" สั้นๆได้ใจความ ดวงตาใสเบิกกว้าง ปากบางได้รูปเผยอเล็กน้อย เขาไม่คิดว่าจะโดนสารภาพรักในเวลาเดียวกัน สถานที่เดียวกัน ทั้งยังเป็นคนที่สนืททั้งสองอีก


      "พี่รักนายตั้งแต่แรกพบ พี่ขอ...ขอ...ได้ดูแลนาย ถึงแม้นายจะไม่ได้เลือกพี่ก็ตาม"

      แววตาที่ประกายสักครู่กับเป็นเศร้าแทน เพราะเค้าเลือกแล้ว เพราะสถานะภาพที่เป็นอยู่ตอนนี้และเขาไม่ควรเห็นแก่ตัว เขาตัดสินใจแล้วว่าควรจะทุ่มเทให้กับงาน
       

      "พี่ลู่หาน พี่อี้ฝาน ผม...ผม ขอโทษ เรามาไกลจนเกินไป สถานะภาพตอนนี้มันไม่ควร พี่เข้าใจผมใช่ไหม? พี่ไม่เกลียดผมนะ" เสียงสั่นเครือที่ร่างเล็กพยายามควบคุมหยุดลง น้ำใสไหลกลิ้งตัวลงมาจากตาใส เขาเลือกทางที่ดีที่สุดสำหรับทุกคนแล้ว
       

      "ไม่เป็นไรพี่เข้าใจ แต่พี่ไม่มีวันเลิกรักนาย วันไหนที่ทุกอย่างพร้อม วันนั้นพี่จะขอนายอีกทีนะ"อี้ฝานยิ้มอย่างอ่อนโยนเข้าไปสวมกอดร่างบางที่ปล่อยโฮออกมา
       

      "พะ พี่ลู่หาน" ร่างบางผละจากออมกอดของอี้ฝาน หันหน้าไปทางอีกคนที่เงียบจนคนรอคำตอบใจหาย น้ำตามากมายไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
       

      "อี้ชิง อย่างร้องไห้สิ พี่เข้าใจพี่ขอแค่ดูแลนายอย่างนี้ไปตลอด ความรู้สึกที่พี่มีให้นายมันไม่เปลี่ยนแปลง และอย่างที่อี้ฝานบอกวันไหนทุกอย่างพร้อมพี่จะมาขอนายอีกครั้ง"

      ลู่หานดึงร่างบางมากอดแล้วผละออกใช้มือเรียวปาดน้ำตาออกจากใบหน้าสวย


      "พวกเราจะดูแลนายเองนะ จาง อี้ชิง" ทั้งสามกอดกัน ปล่อยให้ซึมซับความรู้สึกที่มีให้ต่อกันและกัน ไม่มีใครรู้ว่าวันนั้นที่ทุกอย่างพร้อมจะเป็นวันไหน แต่ตอนนี้ของแค่ให้อู๋ อี้ฝาน และ เสี่ยว ลู่หาน ได้ดูแลหัวใจตัวเองที่ชื่อ จาง อี้ชิง ไปจนกว่าจะถึงวันนั้นละกัน...


      End...




      **อ่า...จบแล้ว แอบงง555 เรื่องนี้อยากแต่งดราม่าเล็กๆ แต่แต่งออกมาแบบแปลกๆ แอบน้อยใจนิดๆนะเนี่ย55 ไม่ค่อยมีใครเม้น
      สามารถเข้ามาคุยกันได้นะ #IWHH ค่ะ



       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×