“จักรยานเสียซ่อมได้ครับ!  ยางหน้ายางในจักรยานเปลี่ยนได้ครับ!  เบรกหน้าเบรกหลังหรือเปลี่ยนเบาะเราทำให้ท่านได้ครับ!”   
      บ่ายแก่ๆของวันอาทิตย์มักจะมีรถกระบะคันสีแดงติดหลังคาผ้าใบกับประตูกรงเหล็กข้างหลังที่มาพร้อมกับเสียงของอาแป๊ะที่ดังออกมาจากลำโพงที่ติดอยู่บนหลังคารถดังก้องไปทั่วหมู่บ้านของผม  เป็นที่รู้กันของชาวบ้านว่า รถซ่อมจักรยานได้มาให้บริการแล้วอีกเช่นเคย  รถซ่อมจักรยานจะเข้ามาที่หมู่บ้านของผมทุกวันอาทิตย์  ชาวบ้านบ้านไหนที่มีจักรยานเสียเมื่อได้ยินเสียงอาแป๊ะก็จะพากันจูงจักรยานที่เสียออกมา
รอหน้าบ้านเพื่อจะให้แกซ่อม  หมู่บ้านของผมนั้นมีจักรยานกันทุกบ้านเลยก็ว่าได้แถมยังจะไม่ได้มีแค่คันเดียวต่อหลังซะด้วยซิ เพราะถ้าบ้านหลังไหนที่มีเด็กก็จะซื้อจักรยานให้ลูกไว้ขี่เล่นกับเพื่อนในหมู่บ้านด้วย  พวกแม่บ้านก็จะมีจักรยานนี่แหละเป็นพาหนะหลักในการไปมาหาสู่กันเองในหมู่บ้านหรือไม่ก็ใช้ขี่ไปจ่ายตลาดซึ่งอยู่ไม่ไกลกับหมู่บ้านของผมเอง 
    เมื่อชาวบ้านออกมาโบกมือเรียกให้รถอาแป๊ะจอด  อาแป๊ะก็จะลงมาจากรถพร้อมเดินไปที่หลังกระบะเปิดกรงเอาเครื่องไม้เครื่องมือที่อยู่หลังรถออกมาให้บริการชาวบ้านได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง  เพราะหลังกระบะรถของอาแป๊ะนั้นมีอุปกรณ์และอะไหล่ทุกอย่างครบถ้วนที่ชาวบ้านต้องการ  ไม่ว่าจะยางนอกยางใน หรือบางคนอยากจะเปลี่ยนเบาะรถจักรยาน  เปลี่ยนบันได เปลี่ยนโซ่ เปลี่ยนแฮนด์ เปลี่ยนล้อ เปลี่ยนเบรก เปลี่ยนตะกร้า  หรือว่าจะเปลี่ยนทั้งคันก็สามารถทำได้  แถมยังมีบริการรับสั่งทำจักรยานแต่งแบบที่เด็กๆชอบ  จึงเป็นรถซ่อมจักรยานที่มีบริการครบวงจร และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือราคาค่าบริการของอาแป๊ะนั้นถูก  จึงสามารถมัดใจชาวบ้านให้ใช้บริการของแกได้ เพราะแกจะคิดราคาของอะไหล่ที่เปลี่ยนเท่ากับราคาร้านที่ขายในตลาดส่วนค่าบริการค่าแรงก็นิดหน่อยเท่านั้นสมเหตุผล  ยิ่งถ้าพวกเด็กเห็นอาแป๊ะมาด้วยแล้ว พวกเด็กก็จะขี่จักรยานมาให้อาแป๊ะช่วยดูจักรยานให้  ตั้งเบรกให้หรือเติมลมปรับโน่นปรับนี่ให้จักรยานของพวกเด็กๆฟรีๆ  บางทีแกก็ใจดีเอาอะไหล่เล็กๆน้อยแถมให้เด็กๆอีกต่างหากจึงเป็นที่ชื่นชอบของชาวบ้านและพวกเด็กๆที่ใช้จักรยานในหมู่บ้านของผมเพราะความใจดีของแก ถึงขนาดที่ว่าชาวบ้านบ้านไหนที่จักรยานเสีย ก็จะไม่ยอมไปซื้ออะไหล่จากตลาดที่อยู่ใกล้มาทำมาซ่อมเอง จะรอแต่รถของอาแป๊ะมาทำให้เพื่ออุดหนุนแกเพราะราคาก็ไม่ต่างกันเท่าไรเลยเมื่อรวมค่าแรงของอาแป๊ะแล้ว  แถมยังไม่ต้องเหนื่อยอีกต่างหาก   
    อาแป๊ะแกจะขี่รถซ่อมจักรยานของแกไปตามหมู่บ้านและซอยต่างๆไม่ใช่เพียงหมู่บ้านของผมเท่านั้น ก็เพื่อเลี้ยงชีพตนเองกับเมียของแก  ส่วนแกมีลูกสาวอยู่หนึ่งคนแต่แต่งงานไปแล้ว    พอลูกสาวบอกว่าให้เลิกทำจะหาเลี้ยงพ่อกับแม่เอง อาแป๊ะแกก็ไม่ยอมเพราะแกบอกว่าแกรักที่จะทำแบบนี้แกทำอาชีพนี้มาหลายสิบปีแกเลิกไม่ได้แล้ว  ถ้าเลิกแกก็ไม่รู้จะทำอะไรอยู่เฉยๆไม่เป็น  อย่างว่าล่ะครับคนเคยทำงานที่ตนเองรักมานานอยู่ดีๆจะให้เลิกแล้วอยู่บ้านเฉยๆก็ไม่ได้ ลูกสาวจึงต้องยอมปล่อยให้พ่อทำงานนี้ต่อไป  และนี่ก็คืออีกเหตุผลที่ทำให้อาแป๊ะคิดราคาค่าแรงและค่าบริการถูก  เพราะแกไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินทองแต่ทำด้วยใจรัก   
    แต่ถ้าชาวบ้านจะลองคิดดูกันดีๆ  มันก็อาจจะแปลกใจซักหน่อยนะครับว่าทำไมหมู่บ้านของผมถึงได้มีรถจักรยานให้แกซ่อมได้ทุกอาทิตย์ไป และอาทิตย์ละหลายคันซะด้วยซิ  ชาวบ้านคงไม่ทันนึกถึงและอาแป๊ะเองก็คงไม่ได้นึกถึงเหมือนกัน  แต่อย่างว่าละครับทุกอย่างมันต้องมีสาเหตุ 
    ก็ในเมื่ออาแป๊ะอยากที่จะทำตามใจของแก โดยการที่ยังคงขี่รถรับซ่อมจักรยานตามหมู่บ้าน  ผมเองก็ไม่อยากให้แกต้องผิดหวังเดี๋ยวจะหาว่าผมไม่เอาใจพ่อตา  ผมก็เลยมักที่จะแอบเอาตะปูตัวเล็กๆ พอที่จะทำให้ยางจักรยานเสียหายได้เท่านั้น  ไปโยนตามถนนหนทางของหมู่บ้านบ่อยๆ โดยเฉพาะทางที่จะไปตลาดซึ่งเป็นทางที่จะมีจักรยานในหมู่บ้านขี่กันเยอะที่สุด 
เฮ้อ!!! ทำไงได้ล่ะครับก็ผมอยากเอาใจพ่อตาบ้าง  แต่ก็กลัวเหมือนกันว่าถ้าแกรู้จะทำให้เกลียดลูกเขยอย่างผมไป
..
........จบ...........
ยังมีเรื่องสั้นให้อ่านอีกหลายเรื่องพิมพ์คำว่า
เชือกผูกลม ลงในช่องค้นหานักเขียนเท่านั้น
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น