Special Rock
เมื่อความรักของนายตูนกับยัยภัทรลงเอยด้วยดี มาติดตามความเป็นไปของคนทั้งสองก่อนจะไปติดตาม Rock Star ภาค 2
ผู้เข้าชมรวม
283
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
******************************
Special Chapter 1
นับจากวันแรกที่คนทั้งสองพบกันจนถึงวันนี้ก็เป็นเวลาราว ๆ สองปี
หลังจากที่ผ่านอุปสรรคต่าง ๆ มาทำให้ทั้งสองคนมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันและผูกพันกันมาก แต่แล้ววันนี้จะมีใครรู้บ้างว่าจะเกิดเหตุการณ์สำคัญที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดแต่มันก็จะต้องเกิดขึ้นจนได้นั่นแหละ
รถมอเตอร์ไซด์สีน้ำเงินคันงามขับมาจอดอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่ง คนขับบีบแตรสองครั้งเป็นสัญญาณที่รู้กันให้คนในบ้านได้รู้ หญิงสาวเดินออกมาพลางส่งยิ้มให้กับชายหนุ่มที่นั่งยิ้มแป้นอยู่บนเบาะรถมอเตอร์ไซด์คันเก่งของเขา
วันนี้เรานัดกันไปเที่ยวทะเล หลังจากที่ฉันขอลาพักร้อนได้สามวัน
นายตูนชวนฉันซ้อนท้ายรถของเขาไปหัวหิน แต่ฉันคิดว่าถ้าเรานั่งรถประจำทางไปจะสะดวกและปลอดภัยกว่า แต่นายตูนกลับเถียงว่า ซ้อนรถเขาสะดวกที่สุด เลยส่งผลให้กำหนดการณ์ไปเที่ยวของเราช้าไปกว่าชั่วโมงเพราะมัวแต่นั่งเถียงกันเรื่องการเดินทาง
ในที่สุด ฉันต้องเป็นฝ่ายแพ้เพราะนายตูนขู่ว่าจะกลับหากฉันจะไปรถประจำทาง ด้วยประการฉะนี้ ฉันจึงจำต้องซ้อนรถนายตูนพร้อมกับแบกเป้ใบมหึมาไว้ที่หลังด้วยใบหน้าแสนบึ้งตึงของฉันและใบหน้าอันแสนสุดจะสดชื่นของนายตูนนั่นเอง
เกือบสามชั่วโมงกว่าที่เราจะมาถึงที่พัก ฉันเป็นคนจัดการเรื่องที่พัก ฉันเลือกรีสอร์ทแห่งหนึ่งมีหาดส่วนตัวไม่มีผู้คนมากนัก เพราะไม่ใช่หน้าเทศกาลหรือวันหยุดยาว ดูท่านายตูนจะถูกใจไม่น้อย เห็นยืนยิ้มหน้าบานอยู่คนเดียว แต่ฉันก็ดีใจที่เห็นเขาชอบ
เมื่อเช็คอินที่พักเรียบร้อย พนักงานยกกระเป๋าก็มาพาเราไปที่พัก
ที่พักของเรา เป็นบ้านหลังเล็ก ๆ ชั้นเดียว มีสองห้องนอน แต่ละห้องมีห้องน้ำในตัว ห้องนอนอยู่ทางขวาของประตูทางเข้า มีครัวเล็ก ๆ อยู่ฝั่งซ้าย ตรงกลางเป็นส่วนสำหรับนั่งเล่น มีโซฟาตัวใหญ่วางอยู่กลางห้องหนึ่งตัวและมีเก้าอี้ข้างอีกฝั่งละตัว ทีวีวางไว้ด้านตรงข้าม
ซึ่งติดกับประตูที่ฉันกำลังยืนอยู่นั่นเอง
หลังจากพนักงานอธิบายส่วนต่าง ๆ ของห้องพักและกฎระเบียบที่ผู้เข้าพักควรทราบเรียบร้อยแล้วก็ยื่นกุญแจห้องส่งให้ฉัน ฉันล้วงกระเป๋าหยิบเงินส่งให้เขาตามธรรมเนียม พนักงานคนนั้นจึงขอตัวออกไป
ฉันหันไปหานายตูนเพื่อจะถามว่าหิวข้าวหรือไม่ คำถามของฉันต้องหยุดชะงักเพราะสีหน้าของเขานั้นราวกับได้รับซองผ้าป่าสักยี่สิบซองเห็นจะได้
"เป็นอะไรเหรอ" ฉันถาม เพราะงงจริง ๆ ว่าเขาไม่พอใจอะไร
"ทำไมมีสองห้อง" เขาถามกลับ ส่งสายตาพิฆาตไปทางห้องนอน
"เอ้า ก็ภัทรห้องนึง ตูนห้องนึง ไม่ถูกรึไง หรือตูนอยากได้สามห้องนอนสี่ห้องน้ำ ไม่เอาหรอกเอาไปทำไมเยอะแยะ มากันแค่สองคนเองแค่นี้ก็ดีแล้วไง"
"ตลกตายล่ะ"
"เอ๊ะ! แล้วนายจะเอายังไง อยากจะทำอะไรก็เชิญเถอะย่ะ เรื่องมาก ฉันจะไปเก็บของก่อนล่ะ อ้อ...ฉันจองห้องในนะ ส่วนนายเอาห้องด้านนอกไปแล้วกัน ประสาทจริง ๆ" ฉันส่ายหน้าระอา
"ก็ได้ ผมจะไปบอกให้เขาเปลี่ยนบ้านใหม่ให้ ผมไม่ชอบที่นี่"
ฉันหยุดกึก ไม่ชอบที่นี่ ไม่ชอบตรงไหน ที่นี่ออกจะน่ารัก สวยงาม
แต่นายกลับบอกว่าไม่ชอบที่นี่งั้นเหรอ มันจะมากเรื่องเกินไปแล้วนะ ตอนจะออกจากบ้านก็ทีนึงแล้ว พอมาถึงนี่ก็จะเริ่มอีกแล้วใช่มั๊ย...ฮึ่ม...
ฉันสูดหายใจลึก ๆ ก่อนจะถามคำถามกับเขา
"ไม่ชอบที่นี่ ทำไมล่ะ บ้านนี้น่ารักดีจะตาย ภัทรยังชอบเลย ตูนไม่ชอบตรงไหนเหรอ" ฉันพยายามข่มใจไว้เพราะไม่อยากให้เสียบรรยากาศ เพราะถ้าขืนมัวแต่นั่งทะเลาะกัน ก็เป็นอันหมดสนุกพอดี เวลายิ่งมีน้อย ๆ อยู่ด้วย ก็กว่าคุณชายตูนจะจัดคิวให้ว่างได้ตั้งสามวันเนี่ย มันยากขนาดไหนรู้บ้างมั๊ยเนี่ย ฉันต้องจองคิวมาเกือบสามเดือนเชียวนะ เดี๋ยวก็ไม่ว่างต้องเข้าห้องอัด ห้องซ้อม เดี๋ยวก็ไม่ว่างต้องไปถ่ายหนังรับเชิญ อะไรกันนักกันหนา ฉะนั้นจงสูดหายใจให้ลึก ๆ เข้าไว้ หายใจเข้า หายใจออก
"ไม่ชอบตรงที่มันมีสองห้องนอนเนี่ยแหละ เยอะเกินไป"
นายตูนบอก ขณะที่ฉันกำลังกำหนดลมหายใจเข้าออกทำสมาธิ และคำตอบของเขาก็ทำเอาสมาธิของฉันแตกซ่านทันที
"เยอะเกินไป !!! หมายความว่าไงที่ว่า ..เยอะเกินไป..น่ะหา"
"ก็หมายความอย่างที่พูดนั่นแหละ ห้องเดียวก็พอแล้ว อีกห้องไม่ได้ใช้จะมีทำไมให้มันเปลืองพื้นที่เปล่า ๆ"
"บ้า!!! ใครจะไปนอนห้องเดียวกับนาย ถ้าอยากได้ห้องเดียวก็เชิญไปเลย ฉันจะอยู่ที่นี่ส่วนนายอยากจะได้แบบไหนก็เชิญไปที่เคาเตอร์โน่นเลย ดีเหมือนกันนอนคนละหลัง จะเอายังไงก็เชิญแล้วช่วยรีบ ๆ ด้วย...ฉันหิว
"
ในที่สุดความอดทนของฉันก็หมดลง อีตานี่ช่างเป็นคนที่กวนประสาทเก่งที่สุดในโลก หลังจากพูดจบฉันก็หันหลังเดินลากเป้เข้าห้องไป
ปล่อยให้คนเรื่องมากยืนหน้าบึ้งอยู่คนเดียว ฉันใส่อารมณ์กับประตูห้องนิดหน่อย เสียงโวยวายดังขึ้นนอกห้องบ่นโน่นบ่นนี่ วุ่นวายไปหมดแต่ก็ยังไม่มีวี่แววที่เขาจะออกไปจัดการกับเรื่องที่พักอย่างที่พูดไว้แต่อย่างใด
หลังจากจัดการกับสิ่งของที่อยู่ในกระเป๋าเสร็จแล้ว ฉันจัดการยัดกระเป๋าเป้ใส่ในตู้เสื้อผ้าปิดตู้เรียบร้อย จึงเดินมาหยุดที่หน้ากระจกส่องดูความเรียบร้อยของตัวเอง ฉันหยิบหวีขึ้นมาสางซึ่งมันต้องใช้เวลาอยู่พอสมควร ก็แหมหลังจากต้องซ้อนรถมอเตอร์ไซด์มาไกลขนาดนี้ผมฉันมันก็เลยพันกันยุ่งเหยิงไปหมด เสียงนายตูนเงียบไปได้สักพักนึงแล้วฉันไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ ฉันวางหวีลงแล้วตรงไปที่ประตู ฉันคิดเอาเองว่าถ้าเปิดประตูออกไปคงจะได้เห็นนายตูนยังคงทำหน้าบอกบุญไม่รับ แล้วคงจะเริ่มโวยวายใส่ฉันอีกเป็นรอบสอง กริ๊ก... เสียงลูกบิดประตูดังขึ้นแผ่วเบา ฉันค่อย ๆ บิดประตูเปิดแง้มออกแล้วส่องดูสถานการณ์ภายนอก จากเปิดส่องเห็นแค่ตาข้างเดียว เปลี่ยนเป็นโผล่หัวออกมาดูก็ไม่เห็นวี่แววของนายตูน สงสัยจะโกรธจริง ๆ ฉันออกมาจากห้องด้วยความโมโหนิด ๆ ทำไมเขาต้องทำให้มันเสียบรรยากาศด้วยนะ งี่เง่าที่สุด คนบ้า บ้าที่สุด ฉันอยากจะบีบคอนายให้ตาเหล่ไปเลยจริง ๆ
ฉันเดินปึงปังไปที่โซฟาแล้วทิ้งตัวลงนั่งอย่างแรง
"อึ๊ก
โอ๊ย"
เฮือก!!! โซฟาผีสิง เปลี่ยนบ้าน เปลี่ยนบ้าน ฉันกระโดดดึ๋งจากโซฟาทันที สายตามุ่งมั่นอยู่ที่ประตูบ้าน
"โอย...จะฆ่ากันหรือไงเนี่ย เอาอะไรมาทับผมเนี่ยหนักหยั่งกะช้างแน่ะ โอ๊ย...ไม่รู้กระดูกกระเดี้ยวจะหักหรือเปล่าเนี่ย คิดจะพาผมมาฆาตกรรมรึไงกัน" ดู...ว่าเข้าไปนั่น
"อะ...อ้าว ตูนนอนอยู่เหรอ ขอโทษภัทร ไม่ได้มองน่ะ ก็...ก็ภัทรคิดว่าตูนออกไปข้างนอกแล้ว คิดว่าออกไปหาห้องอื่นอยู่แล้วก็เลยมัวแต่โกรธอยู่ไม่ทันได้มอง ขอโทษนะ"
อ๊ะ! เดี๋ยวซิ ฉันเพิ่งนึกอะไรออก
"นี่..."
"อะไรอีกล่ะ อูย....เจ็บ"
"หมายความว่าไง"
"อะไรล่ะ"
"ก็ที่ว่าช้างทับนายน่ะ หมายความว่าไง"
"ก็ไม่ได้หมายความว่าไงนี่"
"นี่นายหาว่าฉันตัวใหญ่ อ้วน เหมือนช้างงั้นเหรอ"
"ป่าวซะหน่อย ผมหมายถึงไอ้ที่ทับผมนั่นต่างหาก ไม่ได้หมายถึงภัทรซักกะหน่อย"
"ก็ไอ้ที่ทับนายน่ะ มันตัวฉันนี่ไง"
"อ้าว....เหรอ งั้นภัทรก็คงเป็นช้างได้แล้วล่ะ"
********************************************************
Special Chapter 2
ภัทรเดินงอนตุ๊บป่องออกไปโน่นแล้ว คิดดูสิคนอะไรก็ไม่รู้เป็นแฟนกันแท้ ๆ แต่แค่เดินจูงมือยังยากเลย บอกแต่ว่ากลัวเสียภาพพจน์ (ของใครก็ยังไม่รู้) ผมล่ะอยากจะบ้าตาย แล้วคิดดูนะมาเที่ยวคราวนี้ผมกะว่า เราคงได้สวีทกันมั่งเหมือนคู่รักคู่อื่น ๆ เขา ไอ้เรื่องห้องอะไรนั่นผมก็แค่แหย่เล่นเท่านั้นแหละแต่คุณนายภัทรสิดันโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ กระแทกประตูปิดเสียงดังเชียว แล้วพอผมจะของีบซักหน่อยเพราะขี่รถมาตั้งไกลยังจะมาแกล้งผมอีก แถมยังมางอนใส่ผมซะงั้น มาเที่ยวคราวนี้ไม่รู้จะสนุกอย่างที่ใจอยากให้เป็นหรือเปล่านะ
ผมลุกเดินตามยัยขี้งอนออกมาทันที คว้าข้อมือเธอได้ก็พาเดินตรงไปที่รถคู่ใจ
"โอ๊ย! เจ็บนะ จะทำอะไรน่ะ ปล่อยสิ ปล่อยมือก่อน ตูน..."
ปึ๊ก.....
"โอ๊ย! จะหยุดทำไมไม่บอกก่อนเล่า จมูกหักกันพอดี"
"ทำไมต้องทำอารมณ์เสียด้วย ถ้ามาแล้วเป็นอย่างนี้กลับดีกว่ามั๊ย"
"ใครกันแน่ที่ทำอารมณ์เสีย เรื่องมากด้วย"
"ไอ้เรื่องมากน่ะยอมรับ แต่ผมไปอารมณ์เสียใส่คุณตอนไหนไม่ทราบคุณภัทร"
"ก็....ก็....."
"เอ้า...นึกให้ออก"
"...ขอโทษ..."
เธอกล่าวมาในที่สุด หลังจากทำท่านึกอยู่ซะตั้งนาน ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนพูด
"ผมก็ขอโทษภัทรเหมือนกัน จริง ๆ แล้วผมแค่แหย่เล่นเท่านั้นเอง ไม่นึกว่าภัทรจะโกรธจริง"
"แหย่เล่นหรอกเหรอ แต่ทีหลังไม่แหย่อย่างนี้จะดีกว่านะ ประสาทจะกิน"
"ก็ได้ ไปกันเถอะ"
"ไปไหนล่ะ"
"หาข้าวกิน หิวไม่ใช่เหรอ"
"อืม....หิวมาก ๆ ด้วย ว่าแต่ไปกินที่ไหนกันดีล่ะ"
ผมแอบขโมยจูบเธอไปทีนึงก่อนจะเดินไปที่รถ
"ว้าย..ตูนนี่"
แล้วเธอก็วิ่งตามมาตีที่ต้นแขนผมเบา ๆ ด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ แล้วดึงแขนผมเอาไว้ ผมหันไปมองหน้าเธออย่างเอ็นดู
"จะขออีกทีเหรอ ได้สิมาม๊ะ"
"บ้า ไม่เอาแล้ว ภัทรแค่จะบอกว่า ไม่ต้องไปหากินที่อื่นหรอก กินที่นี่แหละ ขี่รถมาเหนื่อยพอแล้ว"
"อืม...ก็ดีเหมือนกันนะ แต่ว่ากินที่ห้องมันยังไง ๆ อยู่นะ"
"เอาน่า เดี๋ยวภัทรจัดการเอง ไปที่ห้องก่อน ไปจัดข้าวของให้เสร็จก่อนเถอะ"
"จะเอางั้นเหรอ"
"เอางี้แหละ ไปเร็ว ๆ"
แล้วเธอก็ดุนหลังผม เร่งให้กลับไปที่บ้านพัก เมื่อถึงบ้านพัก ภัทรจัดการส่งเป้ให้ผมแล้วชี้ไปทางห้องที่ยังว่างอยู่ ผมรับเป้มาอย่างว่าง่ายแล้วเดินไปทางที่เธอชี้บอก ภัทรยิ้มพยักหน้าให้ผมแล้วหันไปยกหูโทรศัพท์ขึ้นมา ผมยังรีรอที่จะเข้าไปเก็บของเพราะอยากรู้ว่าเธอจะทำอะไร
"สวัสดีค่ะ...." ภัทรหันกลับมาทางผม ผมจึงแกล้งเดินเลยไปทางห้องเธอ
"ตูน.....เอ่อ ขอโทษค่ะ"
เธอชี้โบ๊ชี้เบ๊ไปที่ห้องว่าง ผมหัวเราะขำไปกับท่าทางของเธอ ไม่อยากให้รู้ ไม่รู้ก็ได้ มีอะไรเซอร์ไพรซ์บ้างก็ดีเหมือนกัน แล้วจึงเดินกลับมาเข้าห้องไป ผมเดินสำรวจห้อง ก่อนที่จะใช้เวลาไม่นานนักจัดการกับสิ่งของต่าง ๆ เพียงครู่เดียวผมก็เดินออกมาจากห้อง
ภัทรนั่งยิ้มแป้นอยู่ที่โซฟา เมื่อเห็นผมเดินมาเธอจึงตรงมาจูงมือผม แล้วพาเดินออกไปจากบ้านพัก
มาแปลกแฮะ แต่ก็ดีอย่างนี้ผมชอบ ค่อยดูเหมือนแฟนกันหน่อย
เธอเดินพาผมมาที่ริมทะเล มีซุ้มเล็ก ๆ อยู่หลังหนึ่ง ในซุ้มนั้นมีโต๊ะ เก้าอี้สองตัว บนโต๊ะมีอาหารอยู่สองสามอย่าง น่ารักจริง ๆ แฟนผมนี่อย่างนี้ต้องให้รางวัลสักจุ๊บจริงมั๊ย ว่าแล้วผมก็หันไปจุ๊บหน้าผากเธอซะหนึ่งที ภัทรยิ้มอาย ๆ แต่ก็ไม่เห็นโวยวายอย่างเคย อาหารมื้อนี้ของเราอร่อยมาก บรรยากาศก็ดี คนก็น่ารัก อาหารก็อร่อย ....นี่แหละคือชีวิตที่ต้องการ แค่ได้ทำสิ่งนั้นที่ใจฝัน.....
หลังจากกินข้าวเสร็จและนั่งดื่มด่ำกับบรรยากาศริมทะเลได้สักพัก ภัทรจึงชวนผมไปเดินเล่นตามชายหาด นั่งดูพระอาทิตย์ตกน้ำด้วยกัน อาจเพราะเป็นหาดส่วนตัวจึงทำให้ไม่มีใครเลยทั้งหาดนอกจากเราสองคน หลังจากนั่งดูพระอาทิตย์จนลับขอบฟ้าไปแล้ว เราจึงพากันกลับบ้านพัก
ถึงบ้านพักเราต่างก็แยกกันเข้าห้องอาบน้ำ
ผมนั่งดูทีวีอยู่นาน ผมอาบน้ำเสร็จนานแล้วแต่ยังไม่เห็นภัทรออกมาซักที ไม่ได้เป็นลมอยู่ในห้องน้ำหรอกนะ นั่งหมุนไปหมุนมาอยู่พักนึง ผมจึงตัดสินใจลุกขึ้นไปเคาะประตูห้องเธอ ก๊อก....ก๊อก.....ก๊อก.....
"ภัทร ทำอะไรอยู่น่ะ อาบน้ำยังไม่เสร็จอีกเหรอ"
เงียบ--- ก๊อก....ก๊อก.....ก๊อก.....ผมใช้ไม้ตายทันที
"ภัทร อย่าเงียบสิ ถ้าไม่ตอบผมจะเข้าไปนะ"
เงียบ--- มันผิดปกติแล้วนะ หรือว่าเธอจะเป็นอะไรจริง ๆ ผมเอื้อมมือไปบิดลูกบิดประตู กึก กึก
ประตูล็อค รอบคอบเป็นที่หนึ่ง ผมจะไม่ว่าอะไรสักนิดถ้าเธอจะโวยวายขึ้นมา แต่นี่กลับมีแต่ความเงียบ ทำเอาใจคอผมไม่ดีเลย ผมตัดสินใจเรียกเธออีกครั้งแล้วถ้าเธอยังไม่ยอมตอบผมอีกผมคงต้องตัดสินใจทำอะไรสักอย่างแล้วล่ะ
"ภัทร เป็นอะไรรึเปล่า ตอบหน่อยสิ ผมเป็นห่วงนะ"
มีแต่ความเงียบตอบกลับมา และผมก็ตัดสินใจจะพังประตูเข้าไป เอ๊ะ! หรือว่าจะวิ่งไปตามพนักงานมาให้ช่วยเปิดประตูดี กรุ๊งกริ๊ง...เสียงหนึ่งดังขึ้นทำให้ผมนึกขึ้นได้ว่า กุญแจห้องพักอยู่กับผมและตอนนี้มันก็ส่งเสียงบอกผมว่า มันพร้อมที่จะให้บริการผมอยู่ ผมจึงเอื้อมมือล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบพวงกุญแจมาแล้วไข
พอเข้าไปในห้องของเธอได้ ผมก็ตรงรี่ไปที่ห้องน้ำทันทีเพราะกลัวว่าเธอจะเป็นลมหัวเธออาจฟาดพื้นจนหมดสติ แต่ผมกลับเจอแต่ความว่างเปล่าไม่มีใครอยู่ในห้องน้ำ พื้นห้องน้ำบ่งบอกว่ามีคนใช้แต่ก็คงจะใช้เสร็จนานพอควรแล้ว เพราะพื้นเกือบแห้งสนิทแล้ว
แล้วเธอหายไปไหน เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะอาบน้ำเสร็จเร็วกว่าผม ผมเดินออกจากห้องน้ำ แล้วผมก็เจอเธอจนได้ ยัยตัวการที่ทำผมป่วนนอนหลับปุ๋ยอยู่บนเตียงอย่างมีความสุข รู้มั๊ยว่าผมจะเป็นบ้าเพราะเธอจริง ๆ สงสัยคงเหนื่อยจัดเลยหลับเป็นตายได้ขนาดนี้ ผมถอนใจอย่างโล่งอก เดินไปที่เตียงของเธอแล้วจึงดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มให้เรียบร้อย ผมก็ก้มลงจูบแก้มเธออย่างแผ่วเบา
ผมเดินออกมาจากห้องของภัทรไปปิดทีวี แล้วเดินเข้าห้องตัวเองไป ผมก็ควรต้องนอนเหมือนกันจะได้มีแรงไปกอบโกยความสุขในวันพรุ่งนี้ต่อ วันนี้ถึงแม้มันจะมีปัญหาติดขัดบ้างเล็กน้อยแต่ก็ต้องยอมรับล่ะว่าเป็นวันที่ผมมีความสุขมากจริง ๆ ผมยิ้มให้กับตัวเอง ก่อนที่สติของผมจะล่องลอยไปกับห้วงแห่งความฝัน
*******************************
ผลงานอื่นๆ ของ นิปโปะ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ นิปโปะ
ความคิดเห็น