ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    JOQ Online คนจริงลวงโลก <มี E-Book>

    ลำดับตอนที่ #137 : บทที่133: แอฟโรแท้ต้องสีดำ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 11.36K
      105
      20 ม.ค. 55

    บทที่133 แอฟโรแท้ต้องสีดำ

    “เฮ้~!” มาตาร์ถอนหายใจออกมาขณะที่อยู่ในถ้ำไรเดอร์

    “มีอะไรน่าหนักใจหรือไอ้หนุ่ม” ชายชราถามขึ้นมา

    “ก็เจ้าทาเคโซนั่นดันฝ่าถ้ำออกไปได้จริงๆน่ะสิ” มาตาร์บอกสาเหตุที่เขากลุ้มใจ

    “อิจฉาล่ะสิ” ชายชรากล่าวอย่างอารมณ์ดี ดูท่าชายหนุ่มผมแดงที่อยู่กับเขามานานจะอยากเป็นไรเดอร์บ้างแล้ว

    “บ้าเหรอลุง เข็มขัดไรเดอร์ที่ทำให้ตัวเองอ่อนแอลงเนี่ยนะ จะเอาไปทำไม แถมยังมีกำหนดเวลาในการคืนร่างอีก เทียบกับคนที่ขยันและทุ่มเทฝึกจนเก่งแล้วก็พอๆกันนั่นแหละ แถมคนที่ไม่มีเข็มขัดไรเดอร์ยังไม่มีจำกัดเวลาในการคืนร่างด้วย” มาตาร์ยังมองไม่เห็นข้อดีของเข็มขัดไรเดอร์เท่าไหร่เลย เพราะเทียบกับทักษะแมนชั่นแห่งความตายของเขาแล้ว เข็มขัดไรเดอร์ออกจะด้อยกว่าด้วยซ้ำ

    “ถ้างั้นแล้วจะกลุ้มใจทำไมล่ะ เจ้าเองก็ไม่ได้อยากได้เข็มขัดไรเดอร์นั่นเท่าไหร่นี่” ชายชราถามถึงเหตุผลที่เขากลุ้มใจ

    “เพราะเจ้าบ้านั่นดันใช้ชื่อมาตาร์ แล้วทำผมทรงเดรดล็อกสีแดงกับดวงตาสีเงินน่ะสิ” มาตาร์ให้ความกระจ่างกับชายชรา

    “อ๋อ ไม่ชอบซ้ำกับใครสินะ” ชายชรายังไม่เข้าใจ คิดแค่ว่ามาตาร์ไม่อยากมีภาพลักษณ์ซ้ำกับคนอื่นเท่านั้น

    “ไอ้นั่นก็ส่วนนึง แต่มันดันเป็นเจ้าทาเคโซน่ะสิ ถ้ามันเป็นคนอื่นจะไม่กลุ้มใจแบบนี้หรอก” มาตาร์กล่าว

    “ก็ถ้าเป็นไอ้หนุ่มนั่นแล้วมันน่าหนักใจตรงไหนเรอะ” ชายชราก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี

    “ลุงไม่ได้เป็นผู้เล่นนี่นะ งั้นลองคิดดูนะว่าคนที่มีค่าหัวสูงที่สุดในเกมจะก่อเรื่องวุ่นวายได้ขนาดไหน” มาตาร์เริ่มอธิบายด้วยคำถามชี้นำ

    “ก็คงจะวุ่นวายสุดๆเลยล่ะ ไม่อย่างนั้นคงไม่มีค่าหัวสูงสุดในเกมหรอก” ชายชราตอบ

    “แล้วถ้าไอ้คนนั้นดันมีชื่อว่ามาตาร์แล้วมีผมเดรดล็อคสีแดงกับตาสีเงินล่ะ” มาตาร์ถามอีก

    “หมายถึงเจ้าน่ะเหรอ” ชายชราถามอย่างไม่แน่ใจ

    “ไม่ว่าจะหมายถึงใคร แต่คนที่ชื่อมาตาร์มีผมทรงเดรดล็อกสีแดงกับตาสีเงินมันก็ต้องโดนเพ่งเล็งทั้งนั้นแหละลุง” มาตาร์เฉลยให้ชายชราที่ไม่ได้เข้าใจหัวจิตหัวใจของผู้เล่นเลยได้รับรู้

    “อืม ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็คงจะโดนรังควานตลอดเวลาถ้าออกจากเกาะนี้ล่ะสิเนี่ย” ชายชราเข้าใจในที่สุด

    “ถึงต้องกลุ้มใจไงล่ะ” มาตาร์กล่าวอย่างละเหี่ยใจ

    “งั้นก็เป็นไรเดอร์ซะสิ เปลี่ยนชื่อเปลี่ยนหน้าเปลี่ยนทรงผมซะ” ชายชราเสนอทางออกทันที

    “ก็กำลังคิดอยู่แหละ แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไงถึงจะฝ่าไอ้ถ้ำนั่นออกไปได้ แถมถ้าไปหาอุปกรณ์เสริมสวยธรรมดาๆมาใส่ก็โอเคแล้วมั้ง” มาตาร์กำลังชั่งน้ำหนักความคุ้มค่าอยู่

    “จะยากอะไรเล่า เจ้าก็พัฒนาท่าไม้ตายให้ได้ระหว่างฝ่าถ้ำนั่นไปสิ” ชายชราพยายามยุยงเต็มแรง

    “ลุง ผมไม่ใช่เจ้าทาเคโซนะ จะได้พัฒนาท่าไม้ตายได้ระหว่างสู้น่ะ มันคนละประเภทกัน” มาตาร์ตอบกลับ เขาไม่ใช่ผู้เล่นประเภทอัจฉริยะไร้เทียมทานแบบทาเคโซแน่นอน แต่เป็นประเภทฝึกจนตายกว่าจะได้ท่าไม้ตายสักท่าต่างหาก (อันที่จริงจะบอกว่าตายจนได้ฝึกจะเหมาะกว่า)

    “งั้น ไม้ตายของเจ้าไง ท่านั้นของเจ้าเป็นท่าที่ฝีมือต่อสู้แทบไม่มีผลเลยนะ” ชายชราช่วยหาทางออกให้อีก

    “หมายถึงท่าไหนลุง” มาตาร์สงสัยขึ้นมา

    “ก็ท่าลูกกลมๆสลายสสารของเจ้าไง” ชายชราหมายถึงท่ากระสุนพรากสังขารนั่นเอง

    “...” มาตาร์ได้ฟังแล้วก็เริ่มพิจารณาถึงความหมายในคำพูดของชายชรา

    กระสุนพรากสังขาร ถ้าใช้ในที่แคบแบบโพรงถ้ำนั่น ปล่อยออกไปก็หลบได้ยากมาก แถมถ้าโดนแม้แต่นิดเดียวก็ตัดสินผลได้แล้ว แถมการที่มีตัวก็อปปี้หลายตัวก็เท่ากับเพิ่มเป้าโจมตีให้อีก ถ้าโชคดีหน่อยปล่อยออกไปลูกเดียวอาจจะสอยได้พร้อมๆกันสามตัวเลยด้วย แล้วถ้าพวกตัวก็อปปี้นั่นจะปล่อยกระสุนพรากสังขารกลับมาบ้างก็มีสิทธิ์โดนพวกเดียวกันมากกว่า จัดว่าเป็นท่าไม้ตายที่เหมาะกับการสู้แบบโดนรุมมาก ถึงจะต้องอาศัยโชคช่วยเยอะหน่อย แต่ก็พอจะเห็นทางเป็นไปได้ ไม่ใช่ไร้หนทางเสียทีเดียว

    “เออ จริงด้วยแฮะ กระสุนพรากสังขารนี่มันพอจะใช้ฝ่าถ้ำนั่นได้นี่หว่า” มาตาร์คิดได้แล้วก็โล่งขึ้นมาเยอะทีเดียว

    “ว่าไงล่ะไอ้หนุ่ม อยากจะเป็นไรเดอร์รึยัง?” ชายชราถามอย่างอารมณ์ดี

    “โอเคลุง จัดให้ผมเส้นนึงซิ” มาตาร์ตัดสินใจรับภารกิจเข็มขัดไรเดอร์ทันที

    “ฮ่าๆๆๆ ได้เลยไอ้หนุ่ม” ชายชราหัวเราะออกมาพร้อมกับรับแผ่นโลหะวงกลมมาจากมาตาร์ทันที

     

    ชายชราใช้เวลาสักครู่กระกอบเข็มขัดไรเดอร์ของมาตาร์ขึ้นมาในขณะที่มาตาร์ก็ได้รับสัญญาณภารกิจเข็มขัดไรเดอร์ขึ้นมาที่เมนู

    ภารกิจ: เข็มขัดไรเดอร์

    ระดับ: A+

    นำโมโนไบค์ที่ท่านมีสร้างเป็นเข็มขัดไรเดอร์ที่มีความสามารถในการเพิ่มทักษะได้เร็วกว่าปกติสิบเท่า

     

    “หืม ...เอบวก? สิบเท่า?” มาตาร์ไม่เคยรู้เรื่องระดับความยากของภารกิจมาก่อนย่อมไม่เข้าใจ แต่การที่ภารกิจเตือนว่าสิบเท่า มันก็หมายความว่าเขาต้องเจอตัวก็อปปี้สิบตัวน่ะสิ แถมสถานะทั้งหมดยังถูกลดลงเหลือหนึ่งในสิบขณะที่ไม่ได้คืนร่างด้วย

    “อืม โมโนไบค์นี่ออกจะพิเศษทีเดียวนะ ไม่ใช่สิบเท่าธรรมดาซะด้วย งั้นต้องเพิ่มส่วนประกอบลงไปหน่อย” ชายชราพูดพร้อมกับประกอบชิ้นส่วนเพิ่มขึ้นอีกชิ้นใส่เข็มขัดไรเดอร์ของมาตาร์

    “เอ่อ ...ไม่ใช่สิบเท่าธรรมดา หวังว่ามันคงจะทำให้เก่งขึ้นมากเป็นพิเศษนะลุง” มาตาร์กล่าวอย่างหวั่นใจ เพราะเขารู้สึกว่าตัวเองมักจะดวงซวยเสมอๆ

    “เอ้า! เสร็จแล้ว ทีนี้ก็สร้างไรเดอร์เลยไอ้หนุ่ม รู้เงื่อนไขหมดแล้วนี่นะ เคยเห็นมาหลายครั้งแล้วนี่” ชายชราพูดพร้อมกับคลำไปที่หลังหัวเข็มขัด

    แวบ!

    แล้วจอภาพสามมิติปรากฏขึ้นมาตรงหน้ามาตาร์ทันที

    “อืม ...ทรงผมที่เจ๋ง นอกจากเดรดล็อคแล้วก็ต้องเป็น ...นี่เลย!!” มาตาร์เริ่มจากการเลือกทรงผมก่อน

    ทรงผมที่มาตาร์เลือกคือผมทรงแอฟโรฟูๆสีดำ

    “หืม เลือกสีดำเหรอ” ชายชราสงสัยเพราะเห็นว่ามาตาร์ชอบสีฉูดฉาดมากกว่า อย่างของเดิมยังแต่งซะแดงโร่อย่างนั้น

    “ลุงนี่ไม่รู้อะไรซะบ้างเลยนะ แอฟโรแท้มันต้องสีดำเซ่ สีอื่นมันดูเป็นของปลอมทั้งนั้นแหละ” มาตาร์กล่าวพร้อมกับเริ่มปรับใบหน้าต่อไป

    หน้าที่มาตาร์ปรับ ไม่เชิงว่าเปลี่ยนหน้า แต่แค่ทำให้มันดูอ่อนวัยลงเท่านั้นเอง จากปกติที่ดูหน้าตาเหมือนคนอายุสามสิบ กลายเป็นคนที่ดูเหมือนอายุยี่สิบแทน ซึ่งหลักการปรับหน้า 10% นี้ เลือกปรับจากหน้าตัวละครเดิมไม่ใช่เลือกปรับจากหน้าตาที่แท้จริง ดังนั้นหน้าตาของไรเดอร์นี้ จึงยิ่งห่างไกลกับใบหน้าที่แท้จริงมากขึ้นไปอีก

    มาตาร์เลือกสีตาเป็นสีฟ้าเพราะจะได้ต่างจากของเดิม หลังจากนั้นจึงกดปุ่มยืนยันรูปร่างของไรเดอร์

    “อืม ต่อไปก็ตั้งชื่อไรเดอร์นะ” ชายชราบอกขั้นตอนต่อไป

    “ฮึๆๆ ไว้ผมทรงนี้มันก็ต้องชื่อนี้ซี่ ...สกา!!” มาตาร์ประกาศชื่อที่ต้องการทันที

    “ซ้ำโว้ยย!! ตั้งอะไรที่มันสร้างสรรค์หน่อยซิวะ” ชายชราตวาดกลับทันที

    “โธ่เว้ย ชื่อสกานี่ออกจะเท่ ถ้าเป็นไรเดอร์ก็จะได้กลายเป็นสกาไรเดอร์แท้ๆ” มาตาร์บ่นออกมาเบาๆเพราะดันมีคนตั้งชื่อที่เขาต้องการไปแล้ว

    “เอ้า ตั้งชื่ออื่น” ชายชรากล่าว

    “ถ้างั้นก็ ...เร็กเก้!!” มาตาร์เสนออีกชื่อทันที

    “ซ้ำ!!” ชายชราก็ตะโกนกลับอีกครั้ง

    “อะไรกัน!! ไม่ว่าสกาหรือเร็กเก้ก็มีคนตั้งแล้วเหรอเนี่ย นี่มันอะไรกัน ตูไม่เข้าใจโว้ย!!” มาตาร์บ่นออกมาอีกครั้ง

    “สร้างสรรค์หน่อยสิฟะไอ้หนุ่ม” ชายชรากล่าวด้วยน้ำเสียงดุๆ

    “ชิ! ชื่อที่อยากได้ก็ไม่เหลือแล้ว หมดอารมณ์เลย ...แอฟโรละกัน ง่ายๆ” มาตาร์พูดออกไปโดยไม่ได้หวังอะไรมาก เพราะคิดว่าชื่อนี้ก็น่าจะซ้ำแล้ว

    “โอเค ตกลงชื่อแอฟโรนะ ใช้ได้นี่นา” ชายชราตอบกลับอย่างยินดีเพราะชื่อนี้มันไม่ซ้ำกับใคร

    “หา? ตกลงชื่อแอฟโรยังไม่มีคนตั้งเหรอ” มาตาร์สงสัยขึ้นมา

    “จะสงสัยอะไรมากมายเล่า ไม่มีก็ไม่มีสิ ถ้ามีใครตั้งแล้วข้าไม่อนุญาตให้ตั้งซ้ำหรอก” ชายชรากล่าวพร้อมกับให้ดูการสะกดชื่อว่าถูกต้องตามต้องการหรือไม่

    “เออ ชื่อนี้ก็ได้” มาตาร์อ่านชื่อแอฟโรแล้วก็กดปุ่มยืนยันไป

    “ต่อไปก็ตั้งชื่อโมโนไบค์” ชายชราบอกขึ้นตอนต่อไปทันที

    “สไลปนีร์” มาตาร์ตั้งชื่อนี้เพราะโมโนไบค์ของเขามีสีเทา โดยคิดว่าชื่อนี้ก็อาจจะซ้ำแล้วก็ได้

    “โอเค สไลปนีร์นะ” ชายชราให้มาตาร์กดปุ่มยืนยันอีกครั้ง

    “เอ๋? ได้หรอกเหรอเนี่ย” มาตาร์อ่านชื่อแล้วกดปุ่มยืนยันไปแบบงงๆ

    ชื่อสไลปนี่ร์นั้นก็เป็นกรณีเดียวกับเพกาซัสของทาเคโซ เพราะโมโนไบค์ที่ชื่อเดียวกันนี้ถูกชายชราและบราวนี่แกะชิ้นส่วนเล่นกันจนพังไปแล้วนั่นเอง จึงได้ตั้งชื่อนี้ได้อีกครั้ง

    “โอเค เสร็จแล้ว ลองคาดดูได้เลย” ชายชรายื่นเข็มขัดไรเดอร์ให้มาตาร์หลังจากขั้นตอนการสร้างตัวละครเสร็จสิ้นแล้ว

    “อืม” มาตาร์รับเข็มขัดมาแล้วลองคาดดูทันที หน้าตาของเขาก็เปลี่ยนไปเป็นชายหนุ่มที่ดูเด็กลงและหัวฟูขึ้นทันที

    แกร็ก!

    แล้วมาตาร์ก็ต้องตกใจสุดขีด ที่สถานะของเขาไม่ได้ลดลงไปแค่หนึ่งในสิบ

    แอฟโร

    ระดับ 100

    ประสบการณ์ 1000/1000

    พลังชีวิต 100/100

    พลังวิญญาณ 100/100

    โจมตี 120

    ป้องกัน 120

    สะท้อน 120

    พลังกาย

    120/100+20

    สมาธิ

    112/94+18

    ความคล่องตัว

    120/100+20

    จิตใจ

    120/100+20

    ความอึด

    120/100+20

    โชค

    54/45+9

    ปราณ

    100/100

    พลังจิต

    100/100

     

    “เฮ่ยย!!!” มาตาร์อุทานออกมาเมื่อเห็นค่าสถานะพื้นฐานของตัวเองที่ลดต่ำกว่าตัวละครสร้างใหม่เสียอีก

    “อะไรเหรอไอ้หนุ่ม” ชายชราถามออกมาอย่างสงสัยเมื่อเห็นปฏิกิริยาของชายหนุ่ม

    “ไหนว่าลดลงเหลือหนึ่งในสิบไง แล้วทำไมบางค่ามันถึงต่ำกว่านั้นล่ะ ...ที่สำคัญ ทำไมไม่มีค่าอะไรเกินร้อยเลยล่ะเนี่ย” มาตาร์จำได้ว่าค่าปราณกับพลังวิญญาณของเขาขึ้นไปถึงสามหมื่นแล้วด้วยซ้ำ ถ้าลดลงเหลือหนึ่งในสิบมันก็ต้องมีถึงสามพันเป็นอย่างน้อย แต่นี่เหลือแค่ร้อยเดียว

    “อ๋อ ก็เข็มขัดระดับสิบพิเศษก็แบบนี้แหละ” ชายชราพูดเหมือนมันเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่ไม่น่าหนักใจแต่อย่างใด

    “ยังไงเนี่ยลุง อธิบายให้ผมเข้าใจหน่อย ไอ้ พิเศษ เนี่ย” มาตาร์รู้สึกว่าไอ้คำว่าพิเศษนี่คือกระจอกเป็นพิเศษแน่ๆเลย

    “ระดับสิบพิเศษนี้นอกจากฝึกทักษะได้เร็วเป็นสิบเท่าแล้ว ค่าสถานะก็ขึ้นเร็วด้วยน่ะสิ แถมไม่ต้องใส่อุปกรณ์ฝึกฝนต่างๆให้หนัก เพราะฉะนั้นเพื่อไม่ให้ง่ายเกินไปก็เลยต้องถูกจำกัดค่าสถานะเอาไว้” ชายชรากล่าว

    “ถูกจำกัดไว้ที่หนึ่งร้อยเนี่ยนะ ถ้าอย่างนั้นชาตินี้ผมก็ไม่ต้องไปสู้กับใครแล้วน่ะสิ” มาตาร์กล่าวอย่างโกรธๆ

    “ข้าก็ติดอุปกรณ์เสริมไว้ให้แล้วนั่นไงล่ะ” ชายชราชี้ไปที่ด้านข้างของเข็มขัดซึ่งมีลักษณะเหมือนช่องใส่อะไรสักอย่าง

    “แล้วนี่มันอะไรล่ะเนี่ย” มาตาร์ถามเสียงแข็ง

    “ซองใส่การ์ดไงล่ะ ถ้าเจ้าเอาการ์ดสอดเข้าไปในนั้นค่าสถานะที่ถูกจำกัดก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แถมถ้าได้การ์ดที่มีความสามารถพิเศษก็จะใช้ความสามารถของการ์ดนั้นได้ด้วยนะ” ชายชรากล่าวเรียบๆ

    “การ์ดเหรอ? ตั้งแต่ผมเล่นเกมนี้มายังไม่เคยเห็นการ์ดซักใบ มันหาง่ายอย่างนั้นเลยเหรอไง” มาตาร์ยังไม่พอใจอยู่ดี ถึงจะดูว่ามันเพิ่มความสามารถให้ไรเดอร์ได้ผิดกับของคนอื่นก่อนหน้านี้ก็เถอะ

    “ก็อุปกรณ์ชิ้นนั้นช่วยให้สัตว์อสูรตกการ์ดได้ง่ายขึ้นด้วยถ้าเจ้ากำจัดมันได้ในร่างไรเดอร์ไงล่ะ” ชายชรากล่าวอีก

    “แล้วถ้าผมคืนร่างล่ะ สถานะของผมจะเป็นยังไงเนี่ย จะเท่ากับก่อนที่ได้เข็มขัดไรเดอร์นี้มารึเปล่า” มาตาร์ถามก่อนเพื่อความแน่ใจ เพราะสถานะบางอย่างของเขาลดลงมาเกินหนึ่งในสิบ ถ้าตอนคืนร่างมันจะเพิ่มขึ้นไปเหมือนเดิมหรือเพิ่มขึ้นไปสิบเท่าแทน

    “ตอนนี้สถานะพื้นฐานของเจ้าถูกเปลี่ยนให้สอดคล้องกับเข็มขัดไรเดอร์ไปหมดแล้วล่ะถ้าคืนร่างเดิมก็มีสถานะไม่เหมือนเดิมหรอก” ชายชราตอบกลับเรียบๆ

    นั่นเท่ากับว่าค่าสถานะที่มาตาร์ฝึกมาหายไปทั้งหมดกลายเป็นหนึ่งพันถ้วนๆหมดแล้วนั่นเองถ้าคืนร่าง

    “โอย~ย” มาตาร์ถึงขั้นทรุดลงแล้วเอามืดกุมขมับทันที ถึงตอนนี้จะเปลี่ยนใจไม่ทำภารกิจก็สายไปเสียแล้ว

    “เป็นอะไรไปล่ะไอ้หนุ่ม เข็มขัดของเจ้าออกจะเจ๋ง ถือว่าเจ๋งที่สุดเท่าที่ข้าเคยสร้างเลยนะ” ชายชรากล่าวอย่างยินดี

    “...” มาตาร์พูดไม่ออก ตาแก่คนนี้ดูท่าจะสนแต่ความเจ๋งของเข็มขัดเท่านั้นเอง ไม่ได้สนความเจ๋งของคนคาดเข็มขัดเลย

    “จะลองฝึกค่าสถานะก่อนไปลุยในป่าแมลงมั้ยล่ะ เจ้าจะได้รู้ว่าค่าสถานะมันขึ้นเร็วขนาดไหน” ชายชราเห็นท่าทางของชายหนุ่มก็พูดจาปลอบใจยกข้อดีของเข็มขัดขึ้นมา

    “อือ ลองดูก็ได้” มาตาร์ทำใจอย่างรวดเร็ว เขามักจะเป็นอย่างนี้อยู่แล้ว เรื่องผิดหวังหรือเสียใจไม่ควรจะปล่อยให้มันคลอบงำตัวเองนานๆ เพราะมันจะขาดทุน ในเมื่อเสียใจหรือดีใจก็มีทางเลือกเหมือนกัน ก็ควรเลือกที่จะดีใจอยู่แล้ว

    แต่แล้วมาตาร์ก็ต้องตกใจอีกครั้ง เมื่อเขาลองใช้ปราณ เวท และพลังจิต

    “อะไรเนี่ย!!” มาตาร์คิดจะปล่อยกงจักรลม แต่มันไม่ออกมา

    ตุบ!

    “เฮ่ย!” ชายหนุ่มหัวฟูลองใช้หัตถ์พระเจ้า แต่มันกลับกลายเป็นแค่หมัดพลังจิตเฉยๆ

    “เขี้ยวธรณี!” แม้แต่เวทมนตร์ก็ใช้ไม่ออก มีแค่พลังเวทออกมาเท่านั้นเอง

    “ลุง!! นี่มันอะไรอีกล่ะเนี่ย! ทำไมผมใช้พลังอะไรไม่ได้เลยล่ะ!” มาตาร์ตวาดขึ้นมาอย่างอารมณ์เสียอีกครั้ง

    “อ้าว? เจ้าไม่ได้รู้อยู่แล้วหรอกเรอะ” ชายชราถามขึ้นมาอย่างสงสัย

    “รู้อะไรลุง! ผมไม่เห็นรู้อะไรเลย ช่วยอธิบายมาหน่อยเถอะ” มาตาร์ร้อนใจสุดๆ ใช้พลังไม่ได้แบบนี้มันไม่ใช่เรื่องปกติแล้ว

    “ข้าเห็นเจ้าไปล่าแมลงกับเจ้าสองคนนั่นก็นึกว่ารู้อยู่แล้วซะอีก เข็มขัดไรเดอร์ทุกเส้นจะจำกัดการแปลงปราณธาตุ จำกัดสายเวท แล้วก็จำกัดไม้ตายพลังจิตน่ะสิ” ชายชรากล่าวออกมาเรียบๆเหมือนเคย

    “หมายความว่าผมใช้ได้แต่ปราณบริสุทธิ์ที่ไม่มีธาตุ เวทบริสุทธิ์ที่ไม่มีสาย และพื้นฐานพลังจิตเท่านั้นเองใช่มั้ย” มาตาร์ทวนอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ จะได้ไม่เข้าใจผิดไป

    “ใช่แล้ว เจ้าไม่ได้สังเกตหรอกเหรอว่าสองคนที่เจ้าช่วยจับแมลงก็ไม่ใช้พลังธาตุหรือสายเวทอื่นๆเลยนะ” ชายชรากล่าว

    “...” มาตาร์พูดไม่ออกอีกครั้ง แล้วนึกย้อนไปถึงทั้งสองกรณี

    บรันโด้นั้นไม่ใช้ปราณธาตุ เวทมนตร์หรือพลังจิต เพราะว่าชายหนุ่มผมดำคนนั้นมันใช้ไม่ได้อยู่แล้ว ปราณความมืดก็ใช้ได้หลังจากจับแมลงแล้วเท่านั้นเอง ซึ่งต้องมีแมลงอยู่ด้วยถึงจะใช้ปราณความมืดในร่างไรเดอร์ได้

    ส่วนทาเคโซ เจ้าตัวก็บอกเองว่าเป็นเผ่ามังกรที่ไม่เคยใช้การแปลงธาตุต่อสู้มาก่อน ดังนั้นจึงไม่เห็นว่าจะแตกต่างไปจากปกติเท่าไหร่ จะมีอยู่ครั้งหนึ่งตอนที่หมอนั่นคิดจะแปลงปราณธาตุลมแต่ดันออกมาเป็นปราณมังกรเฉยๆ ตอนนั้นคิดว่าเพราะไม่เคยทำมาก่อนก็เลยทำไม่ได้ ซึ่งมาคิดอีกทีก็ไม่น่าเป็นไปได้เพราะตอนได้เจ้าด้วงสองเขามาแล้วกลับแปลงปราณธาตุได้คล่องแคล่วสุดๆ หมายความว่าตอนนั้นถูกจำกัดด้วยความสามารถของเข็มขัดจริงๆถึงแปลงธาตุปราณไม่ได้

    ซึ่งในที่สุดมาตาร์ก็เข้าใจถึงความสำคัญของแมลงประจำเข็มขัดไรเดอร์ขึ้นมาแล้ว เพราะไรเดอร์มันไม่มีความสามารถพิเศษอะไรเลย จะมีความสามารถได้ก็ต่อเมื่อมีแมลงช่วยเหลือเท่านั้น ซึ่งทั้งบรันโด้และทาเคโซต่างก็หาแมลงที่เหมาะสมกับตัวเองได้ทั้งคู่ ด้วยความช่วยเหลือของเขาเอง

    “เข้าใจล่ะ ถึงต้องหาแมลงสินะ” มาตาร์พูดออกมาอย่างละเหี่ยใจ

    “ใช่แล้วล่ะ แมลงมีไว้เพื่อใช้กับเข็มขัดไรเดอร์โดยเฉพาะเลยล่ะ” ชายชรากล่าว

    “งั้นขอเวลาผมซ้อมในร่างนี้หน่อยนะ” มาตาร์กล่าวแล้วก็ถอดเข็มขัดวางเอาไว้ในถ้ำ ก่อนจะเดินออกไปข้างนอกอย่างเซ็งๆ

     

    มาตาร์เข้าป่าไปแล้วลองสู้กับพวกสัตว์อสูรในป่าดูทันที

    ผัวะ! ผัวะ!

    มาตาร์พบว่าท่าไม้ตายบางท่ายังใช้ได้ อย่างเช่นเท้าไร้เงากับหมัดความเร่ง เพราะมันเป็นท่าปราณที่ไม่ใช้พลังธาตุ แต่ระเบิดวายุหรือกงจักรลม ทำอย่างไรก็ปล่อยไม่ออก เท่ากับว่าเขาสูญเสียการเคลื่อนไหวขั้นพื้นฐานตามปกติไปเลย เพราะชายหนุ่มมักจะพึ่งพาการเคลื่อนที่ด้วยกงจักรลมเป็นหลัก

    และแล้วหลังจากที่เดินเล่นในป่าสักพัก กำจัดสัตว์อสูรไปเล็กน้อย มาตาร์ก็ลองเปิดค่าสถานะของตัวเองดูอีกครั้ง

    แอฟโร

    ระดับ 100

    ประสบการณ์ 1000/1000

    พลังชีวิต 100/100

    พลังวิญญาณ 100/100

    โจมตี 120

    ป้องกัน 120

    สะท้อน 120

    พลังกาย

    120/100+20

    สมาธิ

    120/100+20

    ความคล่องตัว

    120/100+20

    จิตใจ

    120/100+20

    ความอึด

    120/100+20

    โชค

    120/100+20

    ปราณ

    100/100

    พลังจิต

    100/100

     

    โห ค่าสมาธิกับโชคขึ้นมาเต็มร้อยแล้ว แป๊บเดียวเอง มาตาร์ต้องรู้สึกทึ่ง โดยเฉพาะค่าสถานะโชค ซึ่งจัดเป็นค่าสถานะที่ขึ้นยากมาก แต่นี่ขึ้นจากสี่สิบกว่าๆมาเป็นหนึ่งร้อยในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง สมควรแล้วที่จะถูกจำกัดค่าสถานะเอาไว้ เพราะถ้าเขาคืนร่างขึ้นมา ค่าโชคจะขึ้นไปถึงหนึ่งพันทันที

    แต่ก็ยังมีปัญหาอยู่ดี เพราะเขาไม่คิดว่าตัวเองจะจับแมลงได้ด้วยค่าสถานะแบบนี้ ถ้าไม่มีคนช่วย จะให้เข้าไปลุยกับแมลงพวกนั้นก็เหมือนเดินแก้ผ้าเข้าไปลุยกลางพายุหิมะก็ไม่ปาน

    หรือว่าจะลองขอร้องยัยนั่นดี มาตาร์คิดขึ้นมาแล้วก็กลุ้มใจ

     

    “แกเป็นใครน่ะ?” เรย์น่าพูดออกมาทันทีที่เห็นชายหนุ่มหัวฟูเข้ามาหาเธอกลางป่า

    “อะไรกันยัยงูพิษ หน้าตาชั้นเปลี่ยนไปนิดเดียวทำเป็นจำไม่ได้นะ” ชายหนุ่มหัวฟูกล่าว

    ชื่อเล่น ยัยงูพิษ แบบนี้ มีอยู่คนเดียวเท่านั้นแหละที่เรียกเธอ

    “นายมาตาร์...เหรอ?” หญิงสาวผมขาวยังไม่แน่ใจ เพราะหน้าตาและทรงผมที่มันไม่เหมือนเดิมนี่แหละ

    “บนเกาะนี้เหลือผู้เล่นแค่เธอกับชั้น แล้วมันจะมีใครอีกเล่า” มาตาร์ตอบกลับหญิงสาว

    “นายไปรับภารกิจเข็มขัดปัญญาอ่อนนั่นเข้าแล้วล่ะสิเนี่ย” เรย์น่าย่อมรู้ดีเพราะเคยเห็นคนมารับภารกิจหลายคนแล้ว

    “ใช่สิ ...เธอพอจะช่วยชั้นทำภารกิจได้มั้ย” มาตาร์กลั้นใจเอ่ยคำขอร้องออกมา

    “ช่วยนายเหรอ? ทำไมชั้นต้องช่วยนายทำภารกิจด้วยล่ะ ฮ่าๆๆ” เรย์น่าเอ่ยอย่างอารมณ์ดี เธอรู้ตัวว่ากำไพ่เหนือกว่ามาตาร์แล้ว ชายหนุ่มคนนี้ย่อมไม่มาขอร้องเธอแน่ถ้าไม่อับจนหนทางจริงๆ

    “...” มาตาร์พูดไม่ออก มันก็ไม่มีเหตุผลจริงๆนั่นแหละ เขาเคยแกล้งเธอถึงขั้นร้องไห้จะเป็นจะตายมาแล้วด้วย จู่ๆจะมาขอร้องให้เธอช่วยเหลือ มันจะเป็นไปได้อย่างไร

    “ถ้านายร้องไห้ฟูมฟายมาหาชั้นอีก ชั้นอาจจะยอมก็ได้นะ ฮ่าๆๆๆ” เรย์น่านึกถึงตอนที่มาตาร์ร้องไห้เพราะสามสาวถูกลักพาตัวไป

    “ก็ได้!! ชั้นไม่ขอร้องเธอแล้วยัยงูพิษ! จำเอาไว้เลย! ชั้นสำเร็จภารกิจเมื่อไหร่ชั้นจะออกจากเกาะนี้ไปคนเดียว!” มาตาร์พูดเสียงดังใส่เรย์น่า

    “ไม่มีทาง! นายจะไม่มีวันสำเร็จภารกิจ! แล้วจะต้องอยู่กับชั้นบนเกาะนี้ตลอดไป!!” เรย์น่าขึ้นเสียงใส่บ้าง แล้วก็เดินหนีไปทันที

    มาตาร์ถึงกับอึ้งในประโยคสุดท้ายของเรย์น่านั่น มันคือการสารภาพรักหรืออะไรนั่นน่ะ อยู่ด้วยกันตลอดไปเนี่ย

     

    ภารกิจเข็มขัดไรเดอร์ของมาตาร์ ช่างโหดหินยิ่งนัก คิดไม่ออกเลยว่าจะผ่านไปได้ยังไง ...ล่ะสิ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×