ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    JOQ Online คนจริงลวงโลก <มี E-Book>

    ลำดับตอนที่ #167 : บทที่162: สายเวทมนตร์ที่ทำได้ทุกอย่าง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 8.47K
      101
      25 มี.ค. 55

    บทที่162 สายเวทมนตร์ที่ทำได้ทุกอย่าง

    เวลาสี่โมงเย็นที่พื้นที่พิเศษของแอตแลนติส ร่างของชายหนุ่มหัวฟูที่มีเต่าทองตัวเขื่องเกาะอยู่บนหัวก็ปรากฏตัวขึ้นมาในชุดกางเกงในตัวเดียว

    “โอเคเลดี้ เดี๋ยวเราไปลุยกันเหมือนเดิม ทีนี้ระวังตัวให้มากกว่าเดิมนะ” ชายหนุ่มหัวฟูพูดกับเต่าทองของเขาก่อนที่จะไปหยิบผ้าคุลมยกจกขึ้นมาห่มกันโป๊

     

    เวลาสี่โมงครึ่ง ชายหนุ่มหัวฟูและเด็กหญิงที่ใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยก็มายืนอยู่ตรงทางเข้าถ้ำของแอตแลนติสอีกครั้ง

    ตั้งแต่ชายหนุ่มอัพเกรดธนาคารให้จ่ายเงินโดยใช้การประทับมือได้เขาก็ไม่ค่อยจะพกเงินเยอะๆอีก ได้เงินจากสัตว์อสูรเมื่อไหร่เขาก็จะโอนมันไปเก็บในธนาคารทันที ทำให้ก่อนตายก็ยังคงมีเงินเหลือบ้าง ยิ่งสัตว์อสูรที่มีระดับถึงร้อยกว่าๆแบบนี้ แต่ละตัวให้เงินไม่ต่ำกว่าพันโกลด์อยู่แล้ว ถึงจะโดนหักไปสิบเปอร์เซนต์ทุกครั้งที่โอนเงินเข้าธนาคาร แต่ก็ยังมีเงินเป็นหมื่นอยู่ดี ซึ่งพอที่จะซื้อเสื้อผ้าถูกๆหรืออาวุธถูกๆได้

    “เลดี้เน้นใช้พลังให้สมดุลนะ ปราณ เวท พลังจิต” ชายหนุ่มหัวฟูบอกกับเด็กหญิงก่อนจะเปิดประตูเข้าถ้ำไปทันที

    “โอเคแอฟโร” เด็กหญิงผมแดงขานรับก่อนจะเดินตามชายหนุ่มเข้าไปเหมือนกัน

     

    ในถ้ำชั้นแรกยังคงเหมือนเดิม สัตว์อสูรเขี้ยวยาวๆตัวผอมๆระดับร้อยยี่สิบ ซึ่งตอนนี้มีไม่เยอะนัก เพราะดูท่าทางจะเพิ่งถูกฆ่าไปยกฝูง

    เนื่องจากแอตแลนติสมีพื้นที่สัตว์อสูรอยู่ที่เดียว ผู้เล่นที่อาศัยอยู่ที่นี่ถ้าอยากจะฆ่าสัตว์อสูรหรือหาเงินง่ายๆก็จะเข้ามาในถ้ำนี้ โดยผู้เล่นที่อยู่มานานนั้น ส่วนใหญ่ก็ระดับทะลุสามร้อยกันไปหมดแล้ว มีแต่ชายหนุ่มหัวฟูคนเดียวนี่แหละที่ระดับยังไม่ทะลุร้อยแล้วมาลุยเองคนเดียว

    “อืม มีไม่เยอะแฮะ อย่างนี้คงไม่ต้องกลัวว่าจะมีไอ้ตัวอย่างกูลกระโดดออกมาจากต่างมิติอีกสินะ” มาตาร์พูดขึ้นมาพร้อมกับชักทอนฟาจากเอวขึ้นมาถือเอาไว้ทันที

    ควับ! ควับ!

    ชายหนุ่มควงอาวุธแล้วพุ่งตัวเข้าหาสัตว์อสูรเขี้ยวยาวตัวหนึ่งทันที

    แวบ! ฟุบ! พล็อก!

    มาตาร์แวบหายไปแล้วมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเจ้าเขี้ยวลากดินก่อนจะสะบัดทอนฟาด้วยเคล็ดฟ้าแลบตัดเอาเขี้ยวยาวๆของสัตว์อสูรหลุดเป็นแถบๆ

    ก๊าซ~!!

    เจ้าอสูรร้องออกมาอย่างเจ็บปวดและสับสน เพราะจู่ๆเจ้ามนุษย์หัวฟูคนนี้ก็แวบมาอยู่ตรงหน้ามันแบบไม่ทันตั้งตัว แล้วยังโจมตีจนเขี้ยวมันหักออกไปแบบไม่ทันตอบโต้อีก

    ตูมม!

    แล้วคลื่นพลังที่เกิดจากการระเบิดของกำแพงอากาศก็เขย่าหัวของเจ้าสัตว์อสูรต่อเนื่องไปทันที

     

    ในห้องฝึกครั้งล่าสุดนั้นหลังจากที่มาตาร์สอนเพลงมวยของเขาให้เลดี้แล้ว เขาก็ฝึกอาวุธประกอบกับการใช้เคล็ดฟ้าแลบอีกด้วย

    โดยปกติแล้วตอนที่มาตาร์ใช้เคล็ดความเร่งกับทอนฟา เขาจะไม่ได้อัดปราณใส่อาวุธ แต่ครั้งนี้เขาฝึกการอัดปราณใส่อาวุธลงไปด้วย และไม่ใช่แค่นั้นเมื่อเขาอยากจะฝึกทั้งเวทและพลังจิตไปพร้อมๆกัน เขาจึงแบ่งพลังเป็นสามส่วนเสมอแล้วอัดใส่การโจมตีทุกรูปแบบ โดยการอัดปราณจะให้ความรุนแรงเป็นหลัก ถ้าอัดพลังจิตจะมีการโจมตีที่ไม่ใช่กายภาพเสริมเข้าไปและยังแผ่พุ่งได้ในระยะใกล้ๆอีกด้วย ส่วนการอัดพลังเวทลงไปนั้น ไม่ให้ผลลัพธ์ใดใด เว้นเสียแต่ว่าเขาจะมีอุปกรณ์เวทอยู่ด้วย

     

    พรึบบ!! กีซซซ!!

    แล้วไฟก็ลุกขึ้นมาที่หัวของเจ้าสัตว์อสูรเขี้ยวหักนั้น เนื่องจากที่มือขวาของชายหนุ่มนั้นสวมถุงมือที่มีผลึกเวทไฟอยู่ด้วย

     

    การแบ่งพลังเป็นสามส่วนนี้มีประโยชน์มากสำหรับร่างไรเดอร์ เมื่อพลังแต่ละอย่างฟื้นขึ้นมาด้วยความเร็วประมาณร้อยหน่วยต่อวินาที ซึ่งพลังแต่ละอย่างของชายหนุ่มหัวฟูก็มีแค่อย่างละสองร้อยเท่านั้นเอง ถ้าใช้พลังไม่ถึงร้อยหน่วยต่อวินาที ยังไงพลังก็ไม่ลด เพราะมันฟื้นเร็วมาก และเขาก็ไม่จำเป็นต้องอัดพลังลงไปเยอะแยะด้วยเมื่อค่าทักษะเสริมต่างๆของเขานั้นสูงมาก

    อืม การใช้ท่าทะลวงศูนย์นี่เปลืองทั้งค่าสมาธิและพลังจิตเลยแฮะ อย่างนี้ก็ใช้ต่อเนื่องไม่ได้ ไม่เหมือนตอนอยู่ในแมนชั่นฯ ชายหนุ่มคิดขึ้นมาเมื่อเขาดูค่าสถานะของตัวเอง

    ขณะที่ชายหนุ่มใช้ท่าทะลวงศูนย์ พลังสมาธิและพลังจิตจะถูกดูดออกไปอย่างรวดเร็วในขณะที่ระยะเคลื่อนที่ในความคิดก็ค่อยๆหดสั้นเข้ามา ซึ่งค่าสมาธิที่เสริมด้วยทักษะแล้วมีเกือบพันซึ่งไม่เป็นปัญหา แต่ค่าพลังจิตที่มีแค่สองร้อยนี่สิ ทำให้ระยะเคลื่อนที่ไกลที่สุดอยู่ที่ประมาณยี่สิบเมตรเท่านั้น ซึ่งหลังจากใช้ท่าทะลวงศูนย์เต็มกำลังแล้วก็ต้องพักประมาณสองวินาทีก่อนที่จะใช้ได้อีกครั้ง

    พล็อก!! ผัวะ!

    แล้วชายหนุ่มหัวฟูก็เตะเจ้าอสูรนั้นจนตัวลอยขึ้นมา ก่อนจะใช้ส้นเท้าเตะส่งมันมาทางเด็กหญิงผมแดงที่อยู่ไม่ไกลนัก

    ตุบบ!! ก๊าซซ!!

    เจ้าอสูรบาดเจ็บคำรามออกมาทีหนึ่งเมื่อตรงหน้าของมันเปลี่ยนเป็นเด็กหญิงตัวเล็กที่ดูอ่อนแอกว่าเจ้าผู้ชายคนเมื่อกี๊อยู่เยอะทีเดียว

    ฟิ้ว! ปึ้กก!! โอ๊กกก!!

    เด็กหญิงเข้าประชิดสีข้างของเจ้าอสูรบาดเจ็บนั้นอย่างรวดเร็วแล้วใช้สิ่งที่คาดว่าน่าจะเป็นหมัดต่อยเข้าไปที่สีข้างส่วนที่เป็นซี่โครงอย่างรวดเร็วจนเกิดรอยไหม้ดำๆขึ้นมา แล้วหลังจากนั้นเจ้าอสูรก็ถึงกับอาเจียนออกมาเป็นเลือดทันที

    ที่บอกว่าน่าจะเป็นหมัดเพราะว่ามันรวดเร็วจนมองไม่ทัน ทั้งจังหวะโจมตีและจังหวะชักกลับ ดูราวกับว่าเด็กหญิงเพียงแค่มายืนตั้งท่าต่อสู้เฉยๆโดยไม่โจมตีเท่านั้นเอง

    แต่จริงๆแล้ว เด็กหญิงผมแดงใช้หมัดของเธอโจมตีด้วยเคล็ดไร้เงาแบบสองจุด ส่งกำลังจากพื้นไปสู่ร่างของอสูรบาดเจ็บอย่างรวดเร็ว พลังที่แรกร่างเข้าไปนั้นนอกจากปราณแล้วยังมีเวทไฟจากผลึกเวทที่ทำให้เกิดรอยไหม้ขึ้นมา และพลังจิตที่ทะลวงอวัยวะภายในจนทำให้เจ้าสัตว์อสูรบอบช้ำจนกระอักเลือดออกมาด้วย

     

    หลังจากที่เลดี้เรียนเคล็ดเพลงมวยแล้วซ้อมท่าทางได้สองสามท่าแล้ว มาตาร์ก็ให้เธอฝึกใช้เคลื่อนของพลังจิตด้วยเลย ซึ่งเลดี้ดูจะมีจินตนาการที่ดีกว่ามาตาร์มาก เพราะไม่ติดกรอบมากมายเหมือนชายหนุ่ม การใช้พลังจิตจึงเป็นไปอย่างง่ายดายมาก เลดี้ฝึกยกหินหนึ่งก้อนให้บินไปมาได้ และหลังจากนั้นมาตาร์ก็ให้ฝึกหมัดพลังจิต

    และเมื่อเลดี้ใช้พลังพื้นฐานทั้งสามอย่างได้แล้ว มาตาร์ก็ให้เลดี้ฝึกหมัดสามพลังเหมือนที่เขาใช้ทันที ซึ่งการฝึกทั้งหลายก้าวหน้าอย่างรวดเร็วเพราะความช่วยเหลือของแมนชั่นแห่งความตาย โดยระหว่างที่ซ้อมมาตาร์ก็ให้เลดี้ใช้พลังสมาธิประกอบตลอดเวลาเพื่อผลลัพธ์ที่รวดเร็ว

    การฝึกในแมนชั่นแห่งความตายนี้มันเหนือกว่าการฝึกในเกมอย่างประมาณไม่ได้ เมื่อค่าสถานะทั้งหลายไม่ลด ทำให้ฝึกได้อย่างเต็มที่แบบไม่ต้องกลัวความผิดพลาด ซึ่งผู้ที่ฝึกในแมนชั่นแห่งความตายนี้จะมีเทคนิคเหนือกว่าผู้อื่นอย่างมากมาย แต่ถึงกระนั้น ชายหนุ่มผู้เดียวที่เป็นเจ้าของแมนชั่นแห่งความตายนี้ก็ยังตายได้บ่อยๆอยู่ดี

     

    ปึ้ก! ปึ้ก! ปึ้ก!! โอ๊กก!! ตุบบ!

    เลดี้รัวหมัดเข้าไปอีกสามหมัด เจ้าอสูรก็กระอักเลือดออกมาอีก แล้วก็ล้มแน่นิ่งไป

    “เย่!” เด็กหญิงตะโกนขึ้นมาอย่างยินดี ที่เธอสามารถฆ่าสัตว์อสูรได้ด้วยวิชาที่เธอเรียนมาใหม่

    เลดี้นั้นยังมีค่าสถานะน้อยอยู่ และพลังพิเศษก็ไม่ได้ฟื้นเร็วเหมือนกับชายหนุ่มหัวฟูด้วย แผนการแบ่งพลังพิเศษเป็นสามส่วนนั้นทำให้เธอปล่อยไม้ตายได้มากขึ้นโดยความรุนแรงยังคงเดิมหรือเหนือกว่าเดิมเล็กน้อย แต่เด็กหญิงก็ต้องมีช่วงเวลาพักเหมือนกัน ซึ่งใช้เวลานานมากกว่ามาตาร์เยอะทีเดียว

    ดังนั้นเธอจึงไม่เร่งรีบที่จะเข้าไปโจมตีสัตว์อสูรก่อน และเพราะเจ้านายของเธอก็สั่งเอาไว้ด้วยว่าให้จัดการเฉพาะตัวที่เขาส่งมาให้เท่านั้น เป็นการค่อยๆฝึกฝนค่าสถานะพื้นฐานทีละนิด

     

    กร็อบ! กร็อบ! ฉึกก! เปรี้ยง! ตุบบ!

    มาตาร์หักขาเขี้ยวลากดินโดยใช้เท้าถีบเข้าไปที่ข้อต่อของมัน ก่อนจะใช้ส่วนปลายของทอนฟาเจาะร่างของมันจนเป็นรู แล้วค่อยเตะมันส่งให้เด็กหญิงอีกตัว

    “ฮึบบ!” เด็กหญิงส่งเสียงปลุกใจก่อนจะตรงเข้าไปจัดการกับเหยื่ออีกตัวของเธอ

    หมับ! กร็อบบ! กร็อบบบ! โฮกก!!

    คราวนี้เลดี้เคลื่อนไหวด้วยเคล็ดเพลงมวยของมาตาร์ โดยใช้เคล็ดไร้เงาประกอบเข้าไปด้วย จนขาของสัตว์อสูรผู้โชคร้ายหักหมดเพราะการดึงขาแล้วฟันศอกของเด็กหญิง

    “แฮก แฮก โอย เหนื่อยเหมือนกันนะเนี่ย” เด็กหญิงต้องหอบออกมาเมื่อระดับของสัตว์อสูรนั้นสูงกว่าเธอเยอะจนเธอต้องออกแรงมาก กว่าจะทำให้มันบาดเจ็บได้

    และเมื่อเจ้าสัตว์อสูรขยับไปไหนไม่ได้เพราะขาหักหมดแล้ว เลดี้ก็พุ่งเข้าประชิดที่สีข้างของสัตว์อสูรเหมือนเดิม แล้วก็ใช้หมัดของเธอต่อยเจ้าสัตว์อสูรรัวๆ

    ตุบ! ตุบ! ตุบ! กี๊ซซซ!!

    หมัดแต่ละหมัดของเลดี้ในครั้งนี้เบากว่าปกติ เพราะเธอลดพลังที่ใช้ลงไปแต่เน้นการปล่อยถี่ๆขึ้น ในเมื่อเธอไม่ต้องกลัวว่าจะโดนสวน เธอจึงค่อยๆฆ่ามันอย่างช้าๆแทน ส่งผลให้เจ้าสัตว์อสูรร้องออกมาอย่างทรมานพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาด้วย

     

    การฆ่าสัตว์อสูรแบบซาดิสม์ของทั้งคู่ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง โดยช่วงหลังๆเลดี้ต้องพักรอให้พลังฟื้นแล้วค่อยมาฆ่าสัตว์อสูรที่บาดเจ็บจากฝีมือของชายหนุ่มหัวฟู

    “เป็นไงเลดี้สู้ง่ายขึ้นมั้ย” ชายหนุ่มหัวฟูถามเด็กหญิงขึ้นมาขณะที่เธออยู่ในช่วงพักรอฟื้นพลัง

    “ง่ายขึ้นเยอะเลยแอฟโร ยกเว้นตอนใช้มวยของแอฟโรนั่นแหละ ต้องออกแรงเยอะน่าดูเลย” เด็กหญิงตอบ

    “สงสัยเลดี้จะโจมตีผิดจุดล่ะมั้ง อย่างพี่อยากจะหักขาเจ้าพวกนี้ไม่เห็นต้องใช้แรงเยอะเลย แค่ใช้เท้ากระทืบที่ข้อต่อมันก็ได้แล้วนี่” ชายหนุ่มหัวฟูบอกวิธีการที่เขาใช้

    “อ้าว? ใช้เท้ากระทืบเหรอไม่ต้องจับตัวมันก่อนเหรอ” เด็กหญิงสงสัยขึ้นมา ไหนว่าล็อคแล้วซัดไง นี่ไม่เห็นต้องล็อคเลยนี่นา

    “ก็บอกแล้วไงว่าสภาพแวดล้อมก็ช่วยเราโจมตีได้ ในที่นี้พื้นดินนั่นแหละเป็นสิ่งที่ล็อคขาพวกมันเอาไว้ เพียงแต่ว่าถ้าโจมตีผิดทิศล็อคมันจะหลุดออกมาซะก่อน” ชายหนุ่มอธิบายเตล็ดวิชาเพิ่มเติม

    “คือถึงจะไม่ได้ใช้ตัวเราล็อคศัตรูเอาไว้ เราก็สามารถอุปมาว่ามันถูกล็อคโดยสิ่งแวดล้อมได้เหรอ” เลดี้ทวนเนื้อหาที่ชายหนุ่มพยายามบอกเธอ

    “ใช่แล้ว ในกรณีนี้พี่ก็ออกแรงกดข้อต่อของมันไปในทิศทางเดียวกับพื้นดินที่เป็นตัวล็อคพวกมันเอาไว้ เท่านี้มันก็ไม่หลุดออกจากล็อคของเราแล้วไง โดยพี่อาศัยน้ำหนักตัวส่วนหนึ่งเป็นตัวช่วยทำให้ไม่ต้องออกแรงเยอะ” มาตาร์อธิบายเคล็ดวิชาของเขา

    “แต่เลดี้ตัวเบานี่นา จะเอาน้ำหนักที่ไหนไปกดล่ะ” เด็กหญิงยังข้องใจอยู่

    “ถ้าอย่างนั้นก็เพิ่มน้ำหนักด้วยแรงเหวี่ยงละกัน ก็คงต้องออกแรงบ้างแหละนะ หรือไม่ก็ใช้การพุ่งกระโจนทั้งตัวดูสิ” มาตาร์เสนอ

    “ฮึ สุดท้ายก็ต้องออกแรงอยู่ดีนั่นแหละ” เด็กหญิงยังยืนยันคำเดิม

     

    “ฮ่าๆๆๆๆ” มาตาร์หัวเราะออกมาอย่างดัง ซึ่งมันก็ประสานกับอีกเสียงพอดีนั่นแหละ

    เลดี้ตกใจแล้วหันไปทางชายหนุ่มก็เห็นร่างวิญญาณของมาตาร์ที่เป็นเด็กตัวเล็กๆไว้ผมสีแดงทรงเดร็ดล็อค ขนาดตัวเท่าๆกับเลดี้เลย แต่ใส่หน้ากากวิญญาณเอาไว้

    “อ๊ะ!” เลดี้อุทานออกมาเมื่อเห็นชายหนุ่มแอฟโรเรียกร่างวิญญาณออกมา

    “ฮ่าๆๆๆ เดี๋ยวพี่จะแสดงให้ดูว่าตัวเล็กแค่นี้จะใช้เพลงมวยยังไง” มาตาร์พูดออกมาด้วยสำเนียงที่เหมือนตอนหัวเราะ คือฟังดูชั่วร้ายนั่นแหละ ไอ้บ้าเดียมอนเอ๊ย ไม่หัวเราะแล้วมันจะขาดใจตายหรือไงฟะ

    ตึก! ตึก!

    ชายหนุ่มเคลื่อนที่ไปพร้อมกับร่างวิญญาณของเขา จนเข้าประชิดกับอสูรเขี้ยวยาวที่บาดเจ็บตัวหนึ่ง

    พลัก! กร็อบบ! ฮูมมม!!

    ร่างวิญญาณของมาตาร์กระโดดพุ่งตัวไปที่ขาของสัตว์อสูรทันที แล้วใช้มือข้างหนึ่งคล้องขาของมันเอาไว้ ก่อนจะเหวี่ยงตัวทิ้งน้ำหนักจนขาของเจ้าสัตว์อสูรหักไป

    “ฮ่าๆๆๆ เป็นยังไงล่ะน้องสาว” มาตาร์พูดออกมาด้วยน้ำเสียงคึกคัก ก่อนที่จะสลายร่างวิญญาณไป

    เลดี้เห็นสิ่งที่มาตาร์ทำแล้วก็เกิดปิ๊งขึ้นมาทันที การล็อคศัตรูโดยใช้ตัวทั้งตัว ไม่ใช่แค่แขนหรือมือจับเท่านั้น

    “เข้าใจแล้วแอฟโร!” เลดี้ขานรับอย่างตื่นเต้นทันที

     

    “ย้ากกก!!

    ปึ้ก! ปึ้ก! กร็อบบ!

    แล้วสิ่งที่มาตาร์เห็นก็คือเด็กหญิงผมแดงกำลังใช้ท่าล็อคแบบมวยปล้ำกับสัตว์อสูร ไม่ว่าจะเป็นท่าล็อคกากบาทหักแขน หรือท่าลารีอัตที่ใช้ท่อนแขนฟาดเข้าไปที่ลำคอของสัตว์อสูรก่อนจะทิ้งน้ำหนักทั้งตัวหักคอของสัตว์อสูรออกมา ตกลงเคล็ดวิชาที่ตูคิดออกมามันคืออันเดียวกับมวยปล้ำเหรอเนี่ย

    “ผู้เล่นมาตาร์สังหารเขี้ยวลากดินระดับ 120 ได้รับค่าประสบการณ์ 525 เลื่อนระดับเป็น 100 ค่ะ” เสียงจากระบบดังขึ้นเมื่อเลดี้ฆ่าสัตว์อสูรได้อีกตัวหนึ่ง

    “เลดี้ เดี๋ยวเราไปรับภารกิจปลดจำกัดอีกครั้งแล้วค่อยกลับมาลุยต่อละกันนะ” มาตาร์พูดแล้วก็เริ่มเดินนำออกจากถ้ำ

     

    ที่ร้านเวทมนตร์หลังจากที่มาตาร์ไปรับภารกิจจากระบบแล้ว

    “เลดี้อยากได้สายเวทมั้ย” มาตาร์ถามแม่เต่าทองน้อย

    “อยากได้สิคะ” แม่เต่าทองน้อยตอบเสียงใส

    “น้าครับ ที่นี่มีสายเวทอะไรบ้างเหรอ” มาตาร์หันมาถามเจ้าของร้านที่เป็นชายวัยกลางคนร่างผอมเพรียว

    “ที่นี่ก็มีสายเวทพื้นฐานทั่วไปนั่นแหละครับ เวทธาตุธรรมชาติ ธาตุพิเศษ ธาตุเดี่ยว เวทดนตรี ระบำ แล้วก็มีเวทสายใหม่ๆอีกเจ็ดแปดสายน่ะครับ” เจ้าของร้านตัวผอมตอบ

    “เวทสายใหม่?” มาตาร์ไม่เข้าใจว่าทำไมเรียกแบบนั้น

    “อ้อ ...อืม คุณนี่ไม่ค่อยเหมือนคนที่อยู่แถวนี้เลยนี่นา ผู้เล่นใหม่บนแอตแลนติสเหรอเนี่ย” เจ้าของร้านเห็นชายหนุ่มหัวฟูสงสัยจึงค่อยสังเกตว่าลูกค้าคนนี้เป็นผู้เล่นที่มีระดับยังไม่เกินร้อยเลย

    “ครับ อยู่มาได้ยังไม่ถึงวันเลยเนี่ย” มาตาร์ตอบเจ้าของร้าน

    “ไม่เคยซื้อเวทในเมืองอื่นๆเลยเหรอครับ บนทวีปใหญ่อย่างเนี้ยะ” เจ้าของร้านถามข้อมูลชายหนุ่ม

    “ไม่เคยเลยครับ เคยซื้อแต่บนเกาะเริ่มต้น” มาตาร์ไม่บอกข้อมูลว่าเขาไม่เคยไปทวีปใหญ่ออกไป เพราะมันคงจะประหลาดมากที่ผู้เล่นที่ไม่เคยขึ้นทวีปใหญ่สามารถขึ้นมาอยู่บนแอตแลนติสได้ และพยายามซ่อนข้อมูลของเขาจากพวกแมงมุมด้วย

    “เวทสายใหม่ก็คือเวทบัญญัติเองของผู้เล่นนั่นแหละครับแต่เป็นเวทที่ผู้บัญญัติเพิ่งปล่อยออกมาให้ร้านเวทมนตร์” เจ้าของร้านเฉลย

    “เพิ่งปล่อย? หมายความว่าสายเวทนี่คิดแล้วเอามาขายให้ร้านเวทมนตร์ได้ด้วยเหรอ” มาตาร์สงสัยขึ้นมาอีก

    “โห แม้แต่เรื่องนี้ก็ไม่รู้เหรอเนี่ย เวททั้งหมดในเกมจ็อคออนไลน์นี่เป็นเวทที่บัญญัติโดยผู้เล่นทั้งนั้นแหละครับ เวทที่มีขายประจำก็คือสายเวทที่คนนิยมเล่นกัน เหมือนกับคุณมาซื้อนิยายที่ร้านขายหนังสือนั่นแหละ เรื่องไหนสนุกคนก็อุดหนุนเยอะ คนเขียนเรื่องก็ได้เงิน ในทำนองเดียวกัน เวทที่คุณซื้อไปก็เป็นผลงานของผู้เล่นที่เอามาปล่อย ถ้าคุณซื้อเวทนั้นไปเจ้าของหรือคนเอามาปล่อยก็ได้เงิน ผู้เล่นบางคนถึงขั้นเอาแต่คิดสายเวทใหม่ๆเป็นอาชีพเลยนะครับ” เจ้าของร้านให้ข้อมูลที่ทำให้มาตาร์ต้องทึ่ง

    “โอ้โห งั้นคนที่คิดสายเวทธรรมชาติออกมาก็รวยไม่รู้เรื่องเลยน่ะสิ” มาตาร์กล่าว

    “ใช่แล้วครับ เพราะมันเข้าใจง่ายและใช้ง่าย คนถึงนิยมกัน ถ้าคุณอยากจะคิดเวทมาขายก็คิดเรื่องนี้ด้วยละกัน ผมเห็นบางคนคิดออกมาแต่เวทแปลกๆ เข้าใจยาก ใช้ยาก ก็เข้าใจแหละครับว่าอยากแตกต่าง แต่คนเค้าก็ไม่ซื้อกันนะ” เจ้าของร้านกล่าวด้วยประสบการณ์นานปี

    “อย่างนี้สินะที่เค้าเรียกว่า Simple is the best. ธรรมดาดีที่สุด” มาตาร์กล่าว หมายความว่าสายเวทไม่ได้มีต่ำมีสูง แต่ขึ้นอยู่กับผู้ใช้อีกเหมือนกันสินะ

    “ใช่แล้วครับ ของที่ดูธรรมดานี่แหละ แปลว่าคนนิยม” เจ้าของร้านยิ้มตอบ

    “เลดี้มาเลือกสายเวทมั้ย” มาตาร์หันมาถามเด็กหญิงผมแดง

    “แอฟโรอยากให้เลดี้ใช้เวทสายอะไรล่ะ” เด็กหญิงถามกลับ

    “อะไรก็ได้เลดี้ เลดี้เป็นคนใช้นะไม่ใช่พี่ จะมาตามใจพี่ได้ยังไงล่ะ” มาตาร์ตอบกลับ

    “อืม ...มีเวทที่ใช้รักษา เพิ่มพลัง แก้พิษ โจมตี ช่วยเหลือ ...คือทำได้ทุกอย่างเลยมั้ยคะ” เลดี้หันมาถามเจ้าของร้านร่างผอม ทำเอามาตาร์ยิ้มแห้งๆออกมาทันที เวทที่ทำได้ทุกอย่างมันไม่โกงไปหน่อยเหรอ

    “อืม สายเวทอเนกประสงค์แบบนั้นก็มีอยู่หลายสายนะ” เจ้าของร้านตอบหน้าตาเฉย

    “เฮ่ย!! มีจริงๆเหรอน้า”มาตาร์ต้องตกใจขึ้นมาทันทีที่ได้ยินคำตอบของเจ้าของร้าน

    “มีสิครับ แต่วิธีใช้ก็ไม่ได้ง่ายๆเหมือนกัน อย่างเช่นเวทอักษรนี่ไงต้องเรียนกันเยอะทีเดียวล่ะ ต้องเรียนไปทีละตัวอักษรระดับเวทขึ้นครั้งนึงก็เรียนเพิ่มได้ทีละตัวอักษร กว่าจะทำได้ครบอย่างที่ต้องการอาจจะใช้เวลาเป็นร้อยปีก็ได้นะครับเป็นเวทที่มีคนนิยมระดับกลางๆ เพราะความหลากหลายของมัน แต่เพราะความยากของมันทำให้มีคนถอดใจเยอะเหมือนกัน อีกอันก็คือเวทอสูร สายนี้ก็ทำได้ทุกอย่าง เพียงแต่ว่าการตามหาอสูรเวทนั้นยากมาก ยิ่งอสูรเวทที่เก่งๆก็จะอยู่ตามสถานที่อันตราย แถมไม่สามารถคาดเดาได้ว่าผู้เล่นจะเก็บอสูรตัวไหนได้บ้าง บางทีอยากจะได้อสูรที่รักษาได้ แต่หาเจ้าอสูรเวทนั้นไม่เจอก็รักษาไม่ได้ ในกรณีนี้เวทอักษรจะดีกว่านะครับ แต่เวทอสูรนั้นขึ้นชื่อเรื่องประสิทธิภาพครับ เพราะต้องแลกกับการตามหามันนั่นแหละ เป็นสายเวทที่ไม่มีผู้บัญญัติด้วยนะครับ ถือว่าเป็นเวทแท้ของเกมเลย เพราะคงไม่มีใครสร้างอสูรเวทขึ้นมาได้” เจ้าของร้านร่างผอมให้ข้อมูล ซึ่งก็จุดไต้ตำตอมาโดนเวทอสูรของมาตาร์เข้าพอดี

    อ้อ เวทอสูรของเรามันทำได้ทุกอย่างเหรอเนี่ย ...ใช่สิ ทำได้แม้กระทั่งฆ่าเจ้าของเวท ชายหนุ่มหัวฟูได้ยินข้อมูลแล้วก็นึกถึงเวทอสูรที่ไม่สมประกอบของตัวเอง

    “งั้นเลดี้เรียนเวทอักษรละกัน เวทอสูรเดี๋ยวซ้ำกับแอฟโร” เด็กหญิงตอบกลับง่ายๆ

    “หืม? เอาจริงเหรอเลดี้” มาตาร์ถามเพื่อยืนยัน

    “จริงสิ พอใช้เวทอักษรได้ก็จะได้คอยรักษาให้แอฟโรได้ ช่วยแอฟโรปล่อยเวทโจมตีได้ด้วย” เด็กหญิงยิ้มตอบอย่างชื่นบาน เพราะเธออยากจะเป็นกำลังให้เจ้านายของเธอ

    ชายหนุ่มยิ้มกลับแล้วลูบหัวเด็กหญิงก่อนจะหันไปหาเจ้าของร้านเวทมนตร์ “มีเวทอักษรมั้ยครับ ขอให้น้องสาวผมหน่อย”

    “แน่นอนครับ” เจ้าของร้านยิ้มรับพร้อมกับหันไปหยิบม้วนกระดาษออกมาม้วนหนึ่ง

     

    เจ้าของร้านเวทมนตร์กางม้วนกระดาษออกมา บนนั้นมีอักษรโบราณอยู่เจ็ดตัว มันคืออักษรของธาตุทั้งเจ็ดนั่นเอง

    “ผู้เลือกสายเวทอักษรต้องเริ่มจากอักษรธาตุทั้งเจ็ดนะครับ ซึ่งเลือกได้แค่อักษรเดียวก่อน พอระดับเวทสูงขึ้นก็เรียนเพิ่มได้อีกตัว ซึ่งจะมีระดับขั้นของอักษรด้วยนะครับ ไม่ใช่ว่าอยากเรียนตัวไหนก็เรียนได้” เจ้าของร้านให้ข้อมูล

    “โห! ถ้างั้นอยากจะใช้ได้ทั้งเจ็ดธาตุก็ต้องขึ้นระดับถึงขั้นเจ็ดเป็นอย่างน้อยน่ะสิ” มาตาร์ได้ยินข้อมูลแล้วรู้สึกทึ่งขึ้นมาทันที เขานึกถึงดันเต้ผู้เล่นเผ่ามารชุดแดง หนึ่งในแก๊งแม่สีที่ใช้เวทอักษรเหมือนกัน เพราะดูจากบุคลิคแล้วไม่น่าจะเป็นคนขยันเรียนเท่าไหร่เลย แต่กลับเลือกเวทอักษรแถมใช้ได้เก่งซะด้วย ไม่รู้ว่าต้องขึ้นถึงระดับไหนถึงจะใช้อักษรยากๆหรือผสมตัวอักษรได้แบบนั้นบ้าง

    “ให้คุณหนูเลือกอักษรได้เลยครับ พออ่านอักษรแล้วสายเวทก็จะปรากฏขึ้นทันที” เจ้าของร้านกล่าว

    “งั้นเอาไฟก่อนละกัน” เด็กหญิงเลือกอักษรตัวแรกของเธอ

    “ทำไมเลือกไฟก่อนเหรอเลดี้” ชายหนุ่มสงสัยถึงตัวเลือกของแม่เต่าทองน้อย

    “ก็ไฟมันเข้าใจง่ายสุดนี่นา เลดี้เคยใช้แต่ผลึกเวทไฟด้วย” เด็กหญิงตอบ

    “อ้อ” ชายหนุ่มเลิกสงสัย

     

    แล้วเลดี้ก็อ่านอักษรไฟบนม้วนกระดาษนั้น แต่ว่า สายเวทกลับไม่ปรากฏขึ้นมา

    “เอ๋? หรือว่าคุณหนูคนนี้จะเป็นสัตว์อสูรชั้นสูงครับ” เจ้าของร้านเอ่ยขึ้นมาพร้อมกับทำหน้าตาตื่น

    “เอ่อ ...ก็แค่สัตว์อสูรธรรมดาๆแหละน้า ทำไมเหรอ?” มาตาร์เข้าใจมาตั้งแต่แรกว่าเลดี้ที่เกิดจากไข่กระจอกๆนั้นเป็นแมลงที่แสนจะธรรมดา แต่ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงใช้ปราณ เวท และพลังจิตได้อยู่แล้ว บางทีอาจจะเป็นเรื่องปกติของแมลงก็ได้ เขาคิดแค่นั้นเอง

    “เพราะว่าจะมีสัตว์อสูรบางตัวที่เปลี่ยนสายเวทไม่ได้ คือบังคับให้ใช้เวทที่ติดตัวมานั่นแหละครับ โดยส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นเวทลับทั้งนั้น” เจ้าของร้านกล่าว

    “หา? ...หมายความว่าเลดี้รับเวทไม่ได้เพราะว่ามีสายเวทที่เปลี่ยนไม่ได้อยู่แล้วงั้นเหรอ” มาตาร์สรุปความจากคำกล่าวของเจ้าของร้านเวทมนตร์

    “ใช่ครับ คุณหนูคนนี้คงจะมีสายเวทลับอยู่แล้ว” เจ้าของร้านยืนยัน

    “...” มาตาร์เงียบแล้วหันมามองแม่เต่าทองน้อย

    “...” เลดี้ก็เงียบแล้วจ้องกลับแบบงงๆเหมือนกัน

    “งั้นขอดูอุปกรณ์เวทหน่อยละกัน” ชายหนุ่มเปลี่ยนเรื่องทันที เพราะไม่รู้จะคุยอะไรกับเจ้าของร้านต่อไป จะคุยเรื่องสายเวทลับไปก็คงจะไม่รู้อะไรไปมากกว่านี้

    ส่วนเลดี้ก็งงไปเพราะว่าเธอใช้ได้แต่พลังเวทบริสุทธิ์ สายเวทลับอะไรไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย โดยหารู้ไม่ว่าที่จริงแล้วเงื่อนไขการใช้เวทลับของเธอยังไม่สมบูรณ์เท่านั้นเอง

    เวทลับนี้ถ้ายกตัวอย่างแล้วก็เหมือนกับเวทให้ชีวิตของแองเจล่านางฟ้าติงต๊องนั่นเอง ซึ่งแม่นางฟ้าผมทองก็ไม่สามารถเปลี่ยนสายเวทได้เหมือนกัน

     

    แล้วชายหนุ่มหัวฟูกับเด็กหญิงก็ออกมาจากร้านเวทมนตร์พร้อมกับอุปกรณ์เวทใหม่ที่เอาไว้ลุยในถ้ำ

     

    แล้วจะอธิบายเรื่องเวทอักษรทำไม ...เนอะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×