คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #83 : บทที่81: ปราณธาตุกับอุปกรณ์เวทมนตร์
บทที่81 ปราณธาตุกับอุปกรณ์เวทมนตร์
“มาตาร์เป็นยังไงบ้างคะ” คลาร่าถามขึ้นมาทันทีที่มาตาร์ฟื้นขึ้นมาบนโซฟาในห้องสีขาว
หมับ!
“พี่ขอโทษ” มาตาร์ดึงตัวคลาร่ามากอดทันที จนเธอหน้าแดงขึ้นมา
“มาตาร์ขอโทษทำไมคะ” คลาร่าถามกลับพร้อมกับลูบหัวมาตาร์ไปด้วย
“พี่ไม่น่าตัดสินใจแบบนั้นลงไปเลย” มาตาร์ยังไม่เจาะลงไปชัดเจนว่าเรื่องอะไร
“มาตาร์ทำอะไรไปเหรอ” โมเรน่าเดินมาแยกคลาร่าออกจากมาตาร์แล้วมานั่งกอดเขาเอาไว้แทน
“หรือว่าเรื่องที่มาตาร์ไม่จัดการผู้หญิงคนนั้นก่อนที่เธอจะแปลงร่างคะ” คลาร่านึกถึงตอนที่มาตาร์วิ่งมาถึงเรย์น่าเป็นคนแรกแต่กลับไม่ลงมือ ซึ่งผิดวิสัยของชายหนุ่ม
“ไม่ใช่หรอก เรื่องนั้นพี่จงใจอยู่แล้ว แล้วมันก็ไม่ได้ผิดพลาดอะไร” คำตอบของมาตาร์เล่นเอาคลาร่ากับโมเรน่างงไปตามๆกัน ...หมายความว่าเขาจงใจให้เรย์น่าแปลงร่างได้อย่างนั้นหรือ?
“เรื่องโซล่าร์ซิสฯ” บราวนี่โพล่งออกมาก่อนที่จะเดินมานั่งอีกข้างของชายหนุ่ม
“...” มาตาร์เงียบไปพร้อมกับทำหน้าเศร้า เหมือนกับยอมรับว่าเรื่องนี้แหละที่พลาดไป
“มาตาร์ทำผิดเรื่องโซล่าร์ซิสฯเหรอ” โมเรน่าถามขึ้นมาเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มเงียบไป
“ผิดยังไงเหรอคะ” คลาร่าก็สงสัยเหมือนกัน
“พี่ไม่น่าไปประลองกับพวกโซล่าร์ซิสฯเลยน่ะสิ คิดยังไงไปท้าพวกนั้นประลองถึงตาย เฮ้อ~อ!” มาตาร์พูดเสร็จก็ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน
“โมเรน่ายังไม่เข้าใจอยู่ดี ว่าประลองกับพวกโซล่าร์ซิสฯแล้วมันผิดยังไง” แม่เสือสาวยังไม่เข้าใจ
“เพราะยังไงพวกนั้นก็ไม่มีทางเอาจริงกับพี่ได้น่ะสิ มีแต่สูญเสียกำลังไปเปล่าๆด้วย” มาตาร์พูดออกมา
“หมายความว่าการประลองกับโซล่าร์ซิสฯไม่มีประโยชน์เหรอคะ” คลาร่าถามขึ้นมา
“ใช่ ไม่ได้อะไรเลย บาดเจ็บไปเปล่าๆ ถ้าตายก็คือตายเปล่าด้วย โชคยังดีที่ยังไม่มีใครตาย” มาตาร์กุมขมับ
“...” ทั้งสามสาวเงียบไป เพราะจริงๆพวกเธอก็ไม่ได้อยากสู้กับพวกโซล่าร์ซิสฯเหมือนกัน แต่ตามใจมาตาร์มากกว่า
“แล้วเรื่องผู้หญิงคนนั้นล่ะคะ ทำไมมาตาร์จงใจให้เธอแปลงร่างล่ะคะ” คลาร่าถามข้อสงสัยอันต่อไป
“ก็ไม่ได้รู้ว่าแปลงร่างได้หรอก แค่อยากจะให้ยัยงูพิษได้สู้เต็มฝีมือเท่านั้นเอง” มาตาร์เฉลย เล่นเอาคลาร่ากับโมเรน่างงกันไปอีกรอบ
“เอ๋? ทำไมล่ะมาตาร์ อย่างนั้นก็สู้ยากขึ้นน่ะสิ” โมเรน่าข้องใจ
“ก็เพราะยัยงูพิษคือเป้าซ้อมของพวกเราต่อจากนี้ไปน่ะสิ” มาตาร์พูดสิ่งที่เขาวางแผนออกมาในที่สุด
“หา!!?” คลาร่ากับโมเรน่าอุทานออกมาพร้อมๆกัน
“เพราะว่าถ้าเป็นยัยงูพิษ พวกโซล่าร์ซิสฯสามารถสู้ได้เต็มที่ไม่มีลังเล ตอนประสานกันก็ทำได้ดีกว่าตอนสู้กับพี่เยอะเลย เห็นแค่นั้นก็เสียใจแล้วที่ว่าไม่น่าไปท้าประลองพวกโซล่าร์ซิสฯให้บาดเจ็บไปก่อนเลย” มาตาร์คิดเรื่องนี้ตั้งแต่เห็นพวกโซล่าร์ซิสฯสู้กับอิฟรีทแล้ว ถ้าพวกนั้นไม่บาดเจ็บอยู่ก่อนแล้ว อาจจะชนะได้เลยด้วยซ้ำ แถมศัตรูยังมีฝีมือกำลังดีด้วย ไม่อ่อนเกินไป และไม่ห่างชั้นกันเกินไป แต่เป็นพวกเหนือกว่าเล็กน้อย
“หมายความว่า ถ้าฟื้นแล้วจะไปสู้กับผู้หญิงคนนั้นอีกเหรอคะ” คลาร่าถามขึ้นมา
“ก็ใช่น่ะสิ ดีออก ไม่ต้องไปหาที่ไหนด้วย ยิ่งหน้ามืดตามัวสู้เต็มกำลังแบบนี้ เราก็ไม่ต้องเกรงใจด้วย” มาตาร์พูดออกมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“มาตาร์ไม่กลัวโดนฆ่าอีกเหรอ” โมเรน่าถาม เพราะดูๆไปแล้วเรย์น่าตอนรวมร่างนี่ไร้เทียมทานชัดๆ
“แต่พี่กำลังอยากจะได้คู่ต่อสู้แบบนี้อยู่พอดีเลยนี่นา ถือว่าโชคดีมากกว่าโชคร้ายละกัน ถ้าตายอีกก็ฟื้นไปสู้ใหม่อีกสิ” มาตาร์ยังคงมั่นใจในตัวเลือกนี้
“แล้วถ้าระดับเราลดลงไปเรื่อยๆเพราะตายบ่อยๆแล้วจะไปประลองวันจริงไหวได้ยังไงล่ะคะ” คลาร่าสงสัย
“มันก็เหมือนตอนที่สู้กับโลกอสนั่นแหละ ยัยนั่นคงไม่ได้ตื่นอยู่ตลอดเวลาหรอกมั้ง ช่วงนั้นเราก็ไปเก็บระดับคืนสิ” มาตาร์เหมือนวางแผนเอาไว้หมดแล้ว “อีกอย่างนึงนะ ถึงเราจะไม่อยากสู้ด้วย แต่ยัยนั่นก็จะมาหาเราทุกครั้งอยู่ดีแหละ มันเลี่ยงไม่ได้หรอกสาวๆ”
“ถ้าอย่างนั้นคราวนี้จะฝึกอะไรดีล่ะครับ” พ่อบ้านผู้รู้งานกะจังหวะพร้อมนำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟ
“คราวนี้ก็ต้องฝึกเอาใจพวกโซล่าร์ซิสฯกันหน่อยล่ะ” มาตาร์พูดขึ้นพร้อมกับหยิบเครื่องดื่มมาดื่ม
“รับทราบครับ” พ่อบ้านเหมือนรู้ว่ามาตาร์จะฝึกอะไรแล้วเดินนำเข้าไปในห้องฝึกทันที
แล้วมาตาร์ก็แยกไปฝึกคนเดียว ส่วนสามสาวยังคงฝึกกับตัวก็อปปี้ของตัวเอง โดยพวกเธอเลือกความยากที่ยากขึ้นมาหน่อย แล้วก็พบว่าพวกเธอสู้ร่างก็อปปี้ไม่ได้เลย
“จะปรับลดความยากมาหน่อยดีมั้ยครับ” พ่อบ้านหน้ายิ้มเสนอหลังจากเห็นผลลัพธ์การซ้อมของทั้งสามสาว
“ไม่ต้องค่ะโฆเซ่ จะได้เรียนรู้จากตัวก็อปปี้ด้วย จริงๆพวกนี้ทำสิ่งที่พวกเราทำได้กันอยู่แล้วใช่มั้ยคะ” คลาร่ารู้สึกตัวว่าเธอควรจะพัฒนาตัวเองให้ช่วยเหลือมาตาร์ให้ได้ จะได้ไม่เป็นตัวถ่วงอีก
“สู้แบบนี้แหละดีแล้ว” โมเรน่าก็เห็นด้วยกับคลาร่า
“...” ส่วนบราวนี่ไม่ว่าอะไร แต่เดินเข้าไปสู้กับตัวก็อปปี้อีกครั้ง
“รับทราบครับ” พ่อบ้านหน้ายิ้มรับคำ
และแล้วเวลาหนึ่งชั่วโมงแห่งการฝึกก็จบลงอีกครั้ง
“โชคดีนะครับคุณมาตาร์ หวังว่าคุณเรย์น่าจะไม่ได้เฝ้าอยู่ที่จุดเกิด ไม่อย่างนั้นคงเหนื่อยหน่อย” พ่อบ้านพูดส่งท้ายก่อนที่มาตาร์จะเดินออกจากแมนชั่นแห่งความตาย
“ถ้าตายอีกก็มาฝึกเพิ่มซะเลยสิ ฮ่าๆๆๆ” มาตาร์เหมือนไม่กังวลว่าเขาจะตายอีกเร็วๆนี้เลย ส่วนพ่อบ้านก็ยิ้มรับ
เวลาบ่ายสามโมงครึ่ง มาตาร์และสามสาวในร่างสัตว์เลี้ยงก็ปรากฏตัวขึ้นที่หน้าสนามต่อสู้
“คราวนี้ไม่มีพวกโซล่าร์ซิสฯมารอแฮะ ยัยงูพิษยังอยู่แถวนี้รึเปล่าหว่า?” มาตาร์มองไปรอบๆทันทีก็เห็นว่าไม่มีความผิดปกติใดใด
‘พวกโซล่าร์ซิสฯ พี่มีเรื่องจะปรึกษา’ มาตาร์ส่งข้อความไปหาคริมซั่นทันที
‘พวกผมอยู่ที่ลานกลางเมืองครับ’ คริมซั่นตอบกลับมาเหมือนกัน
ในใจมาตาร์นั้นรู้สึกกังวลเป็นอย่างมากถึงความสัมพันธ์ที่อาจจะเปลี่ยนไประหว่างเขากับพวกโซล่าร์ซิสฯ เนื่องจากเรย์น่านั้นตามมาราวีเขา เป็นเหตุทำให้พวกโซล่าร์ซิสฯตายไป แถมเขายังเป็นคนที่ทำให้พวกนั้นบาดเจ็บจนสู้แทบไม่ไหวอีกด้วย จะว่าไปเขาคือต้นเหตุจริงๆที่ทำให้พวกโซล่าร์ซิสฯตายทั้งกลุ่มก็ไม่ผิดเลย
มาตาร์วาร์ปไปปรากฏร่างที่ลานกลางเมืองทันที พวกโซล่าร์ซิสฯแต่ละคนยังอยู่ในชุดผ้าคลุมยาจกกันอยู่เลย
พอทั้งสี่คนเห็นมาตาร์ต่างก็เดินมาหาเขา
“พี่ขอโทษนะ!” มาตาร์ก้มหัวแล้วชิงเอ่ยคำขอโทษออกมาก่อนที่จะมีใครพูดอะไร เพราะมันเป็นเรื่องที่เขากลุ้มใจที่สุดตั้งแต่ตอนตายแล้ว
พวกโซล่าร์ซิสฯแต่ละคนมองหน้ากันอย่างงงๆ
“ขอโทษเรื่องอะไรครับพี่มาตาร์” คริมซั่นเอ่ยถาม
“ก็ที่พี่ฝึกซ้อมจนพวกเราบาดเจ็บ แล้วยัยงูพิษก็มาตามฆ่าพี่จนทำให้พวกเราตายหมดไงล่ะ” มาตาร์ยังไม่เงยหน้าขึ้นมา
“ก็ไหนว่าถึงตายก็ไม่มีปัญหาไงคะ?” โรสนั่งยองๆแล้วเงยหน้ามาพูดกับมาตาร์ หน้าของทั้งคู่ห่างกันเพียงแค่คืบเท่านั้น
“ใช่ฮ่ะ พี่มาตาร์เป็นคนพูดเองว่าไม่มีปัญหาแล้วไหงถึงได้มาขอโทษพวกเราล่ะฮ้า” มาเจนต้าพูดบ้าง
โรสยืนขึ้นแล้วก็จับหน้ามาตาร์เงยขึ้นมา
“หรือว่าพี่มาตาร์ไม่ได้หมายความตามที่พูดจริงๆคะ” โรสพูดพร้อมกับส่งสายตามองตรงมาที่เขา
มาตาร์จ้องตาโรสกลับ เวลาอย่างนี้ห้ามหลบตาเด็ดขาด
“อืม งั้นพี่ก็ไม่มีอะไรจะต้องขอโทษสินะ” มาตาร์พูดออกมาอย่างหนักแน่น ‘พวกโซล่าร์ซิสฯนี่มันเข้มขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย เรานี่ก็ดูถูกพวกนี้มากเกินไปซะแล้วสิ’
“เข้าใจกันก็ดีแล้ว ฮ่ะ แล้วจะจ้องตากันจนท้องป่องเลยมั้ยล่ะฮ้า” มาเจนต้าแซวขึ้นมาเมื่อเห็นทั้งคู่จ้องกันไม่วางตา
“ไม่ใช่ปลากัดนะมาเจนต้า!!” ทำเอาโรสหน้าแดงแล้วหลบสายตาทันที
“แล้วเรื่องที่พี่มาตาร์บอกว่าอยากจะปรึกษาล่ะครับ คงไม่ใช่เรื่องนี้นะ” อาเชอร์ถามขึ้นมา
“ไม่ใช่หรอก แต่เป็นเรื่องยัยงูพิษนั่นแหละ” มาตาร์เริ่มคุยเรื่องที่เขาคิดเอาไว้ทันที
“เข้าใจแล้วครับ พวกเราเห็นด้วยนะ ในเมื่อมีผู้ช่วยที่ดีขนาดนี้ก็ขอใช้งานให้เต็มที่หน่อยล่ะ” คริมซั่นพูดขึ้นหลังจากได้ฟังสิ่งที่มาตาร์เสนอแล้ว
“ถ้างั้นเดี๋ยวพวกเราไปเตรียมตัวให้พร้อมก่อนละกันนะครับ” อาเชอร์พูดขึ้นแล้วก็แยกย้ายกันไปทันที เพราะแต่ละคนยังอยู่ในชุดผ้าคลุมยาจกกันอยู่เลย
มาตาร์ก็จะเดินออกไปร้านฝากของเหมือนกัน แต่แล้ว...
‘อะไรเนี่ย นี่ยัยนี่กะจะไม่ให้เราไปไหนเลยเหรอเนี่ย’ มาตาร์คิดขึ้นเมื่อเห็นหญิงสาวผมยาวสีขาวตาสีฟ้าน้ำทะเลจ้องมาที่เขาแบบไม่วางตา
“ชั้นบอกแล้วไง ว่ามันไม่มีวันจบ ชั้นจะตามมาฆ่าแกอีกเรื่อยๆ ไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ตาม!” เรย์น่าขึ้นเสียงใส่มาตาร์
“เอ้อ คุณเรย์น่าจะไม่ให้โอกาสผมเตรียมตัวหน่อยเหรอครับ” มาตาร์ตอบกลับอย่างยิ้มแย้ม เพราะเขายังอยู่ในเขตพิเศษอยู่ มันแทบจะไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่ผู้เล่นหนึ่งคนจะฆ่าผู้เล่นอีกคนที่อยู่ใกล้เขตพิเศษได้
“ตายแล้วก็ไม่เหลืออะไรอีกอยู่ดีแหละ จะเตรียมตัวไปทำไม” เรย์น่าตอบกลับห้วนๆ
“คุณเรย์น่าน่าจะฉลาดกว่านี้นะ ถ้าให้ผมออกจากเขตพิเศษก่อนแล้วค่อยปรากฏตัวก็ฆ่าผมได้แล้ว นี่เล่นโผล่ออกมาก่อนแบบนี้ผมก็หนีง่ายน่ะสิ” มาตาร์พูดเสร็จก็วาร์ปหายไปทันที
“แก!!” เรย์น่ารู้ตัวว่าคราวนี้พลาดไปจริงๆเหมือนที่มาตาร์บอก เธอรีบร้อนเกินไปหน่อย แต่หญิงสาวก็รีบวิ่งเข้าเขตพิเศษแล้ววาร์ปตามไปทันที
แวบ!
ร่างของมาตาร์ปรากฏขึ้นที่พื้นที่พิเศษหน้าสนามต่อสู้ แล้วกระโดดพุ่งตัวขึ้นทางเหนือสู่ป่าฝูงนกทันที
แวบ!
ร่างของหญิงสาวผมขาวก็ปรากฏตามออกมา เธอมองไปรอบๆ ก่อนที่จะเห็นเงาร่างของชายผมแดงอยู่ไกลๆ เธอจึงวิ่งตามไปทันที
ความจริงแล้วถ้าเทียบความเร็วจากค่าสถานะแล้วเรย์น่าจะเร็วกว่า แต่มาตาร์เคลื่อนที่โดยการเสริมปราณและเคล็ดวิชาเข้าไปด้วย ทำให้ความเร็วของมาตาร์นั้นเหนือกว่าเรย์น่าที่มีค่าสถานะเหนือกว่า แต่มาตาร์จะวิ่งจนทิ้งห่างจากเรย์น่ามากไม่ได้ เพราะเขาวางแผนการต่อสู้กับเธอเอาไว้แล้ว ระหว่างที่สามสาวของเขาไปเอาของที่ฝากเอาไว้ในเมือง
ครั้งที่มาตาร์ได้เงินค่าหัวจากเรย์น่าเป็นล้าน เขาซื้อของตุนเอาไว้เยอะมากแล้วก็นำมันไปฝากไว้ที่ร้านรับฝากของในเมือง
“ถ้าตอนมาเอาของคืนนี่ ผมไม่ต้องมาเองได้รึเปล่าครับ” มาตาร์ถามพนักงานที่ร้านรับฝากของ
“ไม่ได้ค่ะ ผู้เล่นที่ฝากต้องมารับของด้วยตัวเองเพราะเราจะใช้ระบบประทับมือยืนยันตัวบุคคล” พนักงานสาวตอบ
“ไม่มีวิธีที่น้องสาวของผมจะมาเอาของแทนผมได้เลยเหรอ” มาตาร์ยังไม่ยอมแพ้
“กรณีผู้ติดตามของผู้เล่นจะมาเอาของก็ต้องเป็นของที่ฝากด้วยผู้ติดตามคนนั้นๆเองค่ะ” พนักงานสาวตอบ
“เอ๋? อย่างนี้ผู้ติดตามก็เหมือนผู้เล่นคนนึงเลยน่ะสิ” มาตาร์ตกใจที่จู่ๆมันก็ง่ายกว่าที่คิดซะงั้น
“เพราะผู้เล่นชอบฝากของรวมกันเป็นกระเป๋านี่คะ ถ้าอยากได้เงินเพิ่มเราก็ต้องใช้วิธีแบบนี้แหละ” พนักงานสาวพูดวิธีที่จะเพิ่มจำนวนลูกค้าอย่างไม่มีปิดบัง
“อ๋อ ...อย่างนี้นี่เอง” มาตาร์เข้าใจในที่สุด เพราะถ้าคิดผู้ติดตามเหมือนผู้เล่นคนหนึ่ง ก็ต้องแยกของที่จะฝาก แล้วก็สามารถเก็บเงินเพิ่มได้นั่นเอง แต่ถ้าแลกกับความสะดวกแล้วก็ถือว่าไม่มากเท่าไหร่
ดังนั้นมาตาร์จึงแบ่งของออกเป็นสี่ส่วนแล้วฝากแยกเป็นสี่คน ถ้าเกิดเหตุอะไรขึ้นมา ใครคนใดคนหนึ่งก็สามารถมาเอาของที่รับฝากได้ไม่มีปัญหา
“เผาไหม้ ลุกลาม วอ..!!”
ผัวะ! ผัวะ! ผัวะ!
ขณะที่เรย์น่ากำลังจะร่ายเวทอัญเชิญมาตาร์ก็พุ่งตัวกลับมาประชิดตัวหญิงสาวแล้วเตะใส่เธอทันที จนหญิงสาวต้องเลิกร่ายเวทแล้วหันมารับมือชายหนุ่มแทน
“เวทอัญเชิญจุดอ่อนใหญ่โตขนาดนี้ ยังอุตส่าห์ออกมาให้ผมเห็นตัวก่อน ถือว่าพลาดไปนะครับ” มาตาร์บอกจุดอ่อนให้กับเรย์น่าอีก ซึ่งเธอก็ทำพลาดไปจริงๆ ที่ผ่านมาเธอมักจะร่ายเวทอยู่ที่ไกลๆเสมอ มีครั้งนี้นี่แหละที่เธอหน้ามืดตามัวจนลืมทุกอย่างไปหมด คิดแต่ว่าจะมาฆ่ามาตาร์ให้ได้อีกครั้งอย่างเร็วที่สุดเท่านั้น
การที่มาตาร์ไม่ทิ้งห่างเรย์น่าไปไกลก็เพราะเหตุนี้แหละ ถ้าหญิงสาวจะร่ายเวทเมื่อไหร่ เขาก็จะเข้ามาขัดขวางทันที ดังนั้นจึงต้องอยู่ในระยะที่พอจะจู่โจมถึงในเวลาอันรวดเร็ว
เปรี๊ยะ!!
“เฮ่ยย!!” มาตาร์อุทานออกมาอย่างตกใจ
ประกายสายฟ้าแลบออกมาจากแขนซ้ายของเรย์น่า เกือบช็อตโดนมาตาร์เข้าแล้ว
เปรี๊ยะ!! เปรี๊ยะ!!
แล้วสายฟ้าห่าใหญ่ก็แผ่กว้างออกมาจนมาตาร์ต้องกระโดดถอยไปกว่าสิบห้าเมตร
มันเป็นแค่ผลึกสายฟ้าธรรมดาจริงๆ เพียงแต่ความแตกฉานและพลังเวทในการใช้ของเรย์น่านั้นเหนือกว่าใครๆที่มาตาร์เคยพบ
“ไม่เข้ามาอีกล่ะ เจ้ามาตาร์ เข้ามาซี่!!” เรย์น่าตะโกนท้าทาย
ฟู่วว!! ตูมม!!
ทันใดนั้นลูกไฟกลมๆก็พุ่งเข้าใส่เรย์น่าแล้วระเบิดออกมาเป็นวงกว้าง แต่หญิงสาวก็ยังหลบทัน แต่ก็ยังแตกตื่นกับผลลัพธ์ของมันอยู่ดี
‘อะไรเนี่ย? เวทบอลเพลิงเหรอ? เจ้ามาตาร์มันเล่นเวทสายธาตุธรรมชาติเหรอ?’ เรย์น่าคิดขึ้นมาอย่างตกใจ เพราะผู้เล่นตัวเปล่าอย่างมาตาร์ถ้าไม่ได้ใช้ผลึกไฟหรืออุปกรณ์พิเศษก็ไม่มีทางปล่อยไฟออกมาเป็นลูกได้เด็ดขาด นอกจากจะเล่นเวทสายธาตุธรรมชาติซึ่งคนส่วนใหญ่ไม่เล่นกันเพราะมันหาผลึกเวทมาทดแทนได้อยู่แล้ว หรือไม่งั้นมันก็คือปราณ!
“สาวๆเป็นยังไงกันบ้าง” มาตาร์ถามขึ้นหลังจากการฝึกส่วนตัวในห้องฝึกเสร็จสิ้นลง
“เก่งขึ้นอีกนิดหน่อยค่ะ” คลาร่าขานรับอย่างสดใส
“แล้วมาตาร์ล่ะ เป็นยังไง” โมเรน่าถามกลับบ้าง
“ทำขั้นตอนแรกได้แล้วล่ะ แต่ยังทำให้สมบูรณ์ไม่ได้”
มาตาร์กล่าวพร้อมกับชูมือที่มีไฟลุกท่วมมาให้ดู แล้วก็เปลี่ยนเป็นสายฟ้าวิ่งพล่านไปทั่ว แล้วก็กลายเป็นก้อนน้ำอยู่บนมือ สุดท้ายแล้วก็กลายเป็นก้อนน้ำแข็ง
“โอ้โห! มาตาร์เก่งจังเลยค่ะ” คลาร่าร้องชม ส่วนมาตาร์ก็ยิ้มรับ
ใช่แล้ว ชั่วโมงที่ผ่านมาในห้องฝึกนี้ มาตาร์ฝึกปราณธาตุทั้งสี่
การฝึกโดยปกติอาจจะต้องฝึกไปพักไปเพราะการแปลงปราณธาตุข้างเคียงนั้นสิ้นเปลืองปราณมากและเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บจากการแปลงธาตุผิดพลาด แต่มาตาร์อาศัยคุณสมบัติของแมนชั่นแห่งความตาย เร่งปราณที่ไม่มีที่สิ้นสุดออกมาโดยไม่ต้องพักเลย แล้วก็บังคับฝืนเปลี่ยนสภาพ แล้วจับจังหวะและหลักการใช้งานนั้น จนกระทั่งเขาสามารถจับจังหวะได้อย่างสมบูรณ์
จากที่แต่เดิมพลังธาตุทั้งสี่ของมาตาร์ยังไม่สามารถแสดงสภาพออกมาได้ แต่ตอนนี้เขาทำให้มันเปลี่ยนสภาพได้แล้วทั้งสี่ธาตุ!
“แต่ก้อนน้ำนั่นมันอะไรเหรอมาตาร์” โมเรน่าสงสัยขึ้นมา จริงๆมันควรจะเป็นอากาศแข็งๆไม่ใช่เหรอเพราะมันคือธาตุดิน
“ปราณดินไง ดึงน้ำในอากาศมา” มาตาร์ไม่ได้บอกหมด จริงๆแล้วมันคือปราณธาตุดินเสริมด้วยธาตุลมต่างหาก ใช้ปราณธาตุลมดึงอากาศเข้ามาแล้วใช้ปราณธาตุดินเหนี่ยวไอน้ำในอากาศเอาไว้จนเกิดเป็นก้อนน้ำขึ้นมา
“แต่ยังทำท่านั้นไม่ได้นะ ชั่วโมงนี้ทำได้แค่นี้ก็เต็มที่แล้วล่ะ” มาตาร์พูดออกมาอีก ส่วนสามสาวพยักหน้ารับ
สิ่งที่มาตาร์ปล่อยออกมานั้นคือบอลไฟที่เกิดจากปราณจริงๆ เขาสามารถใช้บอลไฟได้ด้วยตัวคนเดียว อาจจะไม่รุนแรงเหมือนการประสานของคริมซั่นกับโรส แต่ถ้ารูปร่างที่สมบูรณ์เขาสามารถสร้างมันออกมาได้ โดยใช้สองมือ
มือข้างขวาของมาตาร์เป็นปราณไฟเสริมด้วยลมทำให้ไฟไม่กระจาย มือซ้ายเป็นปราณน้ำแข็งล้อมรอบลูกไฟเอาไว้จนมันกลายเป็นลูกบอล แล้วเมื่อเขาเร่งปราณไฟขึ้น ก็บีบอัดปราณน้ำแข็งจนลูกบอลมีขนาดเล็กลงและเข้มข้นขึ้น ก่อนจะปล่อยมันออกมาด้วยการควบคุมของปราณลม
ตูมม!!
บอลไฟของมาตาร์พุ่งเข้าใส่เรย์น่าแล้วระเบิดขึ้นมาอีก จนเธอต้องหลบเป็นพัลวัน
‘ไม่ใช่เวทสายธาตุธรรมชาติ นี่มันปราณจริงๆด้วย!!’ เรย์น่าตื่นตกใจมากเมื่อเห็นว่าสิ่งที่มาตาร์ใช้ออกมานั้นมันคือปราณ เพราะผู้เล่นที่ไม่ใช่เผ่ามังกรที่แตกฉานการใช้ปราณถึงขั้นนี้ต้องฝึกกันเลือดตาแทบกระเด็น ส่วนใหญ่จะแสดงผลของธาตุข้างเคียงได้แค่ธาตุเดียวด้วยซ้ำ ถ้าแสดงผลของธาตุข้างเคียงได้สองธาตุก็ถือว่าเป็นอัจฉริยะคนหนึ่งที่ทุ่มเทเวลามหาศาลแล้ว แต่นี่ผู้เล่นใหม่ที่เกาะเริ่มต้น ใช้บอลไฟได้อย่างสมบูรณ์ ดูอย่างไรก็ต้องแสดงสภาพของธาตุได้สามธาตุแน่นอน ‘ถ้ามีธาตุประจำตัวอยู่หนึ่งแล้วก็หมายความว่าเจ้ามาตาร์นี้แสดงสภาพของธาตุได้ถึงสองแล้วเหรอ ไม่จริง เป็นไปไม่ได้!’
“แกเป็นเผ่ามังกรสินะ?” เรย์น่าถามสิ่งที่คาใจเธอทันทีขณะที่หลบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง ถ้าเป็นเผ่ามังกรแค่ปล่อยบอลไฟได้ยังไม่น่าทึ่งเท่าไหร่
“แล้วคุณเรย์น่าว่าไอ้จอมเขมือบของผมเป็นปราณสายไหนล่ะ” มาตาร์รู้ดีว่าคำถามของเรย์น่ามีความหมายว่าอย่างไร เขาจึงเตือนเธอให้นึกถึงจอมเขมือบที่เธอเคยเจอมาแล้วสองครั้ง
“เป็นไปไม่ได้!!” เรย์น่ารู้ดีว่ามันหมายความว่าอย่างไร มาตาร์เป็นเผ่ามนุษย์จริงๆ เพราะการใช้ปราณสายธรรมชาติได้มีแค่เผ่ามังกรกับเผ่ามนุษย์ แต่ถ้าใช้เวทมนตร์ได้อีก มันก็มีแค่มนุษย์เท่านั้น แล้วมนุษย์ที่แสดงสภาพปราณได้ถึงสามธาตุมันมีไม่เยอะนักหรอกยิ่งแค่อยู่บนเกาะเริ่มต้นยิ่งยากจะเชื่อว่ามีคนทำได้ แต่เธอยังไม่รู้ว่ามาตาร์แสดงสภาพปราณได้ทั้งห้าธาตุนั่นแหละ
“ปล่อยผมไปก่อนแล้วค่อยมาต่อวันหลังมั้ยครับ อีกสองชั่วโมงก็ได้นะ ผมจะรออยู่แถวๆสนามต่อสู้พร้อมๆกับพรรคพวก สะดวกคุณเรย์น่าดีออกพื้นที่กว้างขวาง แถมมีเวลาร่ายเวทก่อนด้วยนา” มาตาร์ต่อรอง
เรย์น่าไม่เข้าใจจริงๆว่าเจ้ามาตาร์คนนี้ต้องการอะไร แต่ข้อเสนอของชายหนุ่มมันก็ดีกับเธอจริงๆ ถ้าเธอคิดจะตามไปราวีเขา เพราะผลลัพธ์มันก็คงจะเหมือนกับที่เธอฆ่าพวกเขาไปรอบที่แล้ว แต่มีเหรอที่เธอจะยอมรับข้อเสนอของศัตรู ‘มีอะไรรับประกันว่าพวกมันจะไปอยู่ตรงนั้นจริงๆ เชื่อถือไม่ได้!’
แซดด!!
“หยุดพูดนะ!” เรย์น่ากระโดดออกมาจากหลังต้นไม้ แล้วยิงสายฟ้าออกเป็นเส้นตรงทันที
เปรี๊ยยะ!!!
สายฟ้าพุ่งเฉี่ยวหัวมาตาร์ไปเล็กน้อยและปะทะเข้ากับต้นไม้ข้างหลังเขาจนมันเป็นรอยกรีดไหม้ๆ อาจจะเพราะเรย์น่ารีบกระโดดออกมานั่นแหละ มันถึงไม่เข้าไปกลางหัวเขาจังๆ
‘อะไรเนี่ย!? สายฟ้าเป็นเส้นตรง พุ่งออกมาเร็วอย่างกับแสงเลเซอร์’ มาตาร์คิดอย่างตื่นตกใจพร้อมกับหลบไปหลังต้นไม้ทันที ถ้ายิงมาตรงตัวเขา เขาไม่มั่นใจว่าจะหลบสายฟ้าที่มีความเร็วขนาดนี้ได้
มันคืออุปกรณ์เวทมนตร์นอกเกาะเริ่มต้น ถุงมือสายฟ้า ที่เสริมอุปกรณ์ที่เรียกว่าเรลกัน สายฟ้าจะวิ่งไปตามรางเหล็กที่ขนานกัน แล้วปล่อยเป็นลำแสงออกมา
‘แค่อุปกรณ์เวทมนตร์เราก็แทบจะสู้ไม่ได้แล้วนี่หว่า’ มาตาร์คิดออกมาอย่างตื่นตระหนก
แล้วสงครามหลังต้นไม้ของทั้งคู่ก็เริ่มต้นขึ้น
เปิดเพลงอินเดียประกอบด้วยนะ โอ้วว! เข้าบรรยากาศ
ความคิดเห็น