ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    JOQ Online คนจริงลวงโลก <มี E-Book>

    ลำดับตอนที่ #77 : บทที่75: โซล่าร์ซิสฯในป่าฝูงนก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 12.38K
      105
      23 ธ.ค. 54

    บทที่75 โซล่าร์ซิสฯในป่าฝูงนก

    “เรย์น่าเธอไม่ต้องมายุพวกเราเลย”

    “เธอมันหมาหัวเน่า ไม่มีใครสนใจแล้ว”

    “โดนไล่ออกจากกิลด์ตัวเองแล้วยังไม่สำนึกอีกเหรอ”

    เสียงผู้คนจากกิลด์อื่นๆที่ดูถูกเรย์น่าดังก้องอยู่ในหัวของเธอ

    ไอ้พวกกลับกลอกเอ๊ย!’ หญิงสาวผมยาวตาสีฟ้าน้ำทะเลคิดขึ้นมาอย่างเจ็บใจ เพราะตอนที่เธอยังมีอำนาจในกิลด์หมาป่าสวรรค์ ผู้คนทั้งหลายล้วนแต่เกรงใจเธอ แต่หลังจากเหตุการณ์ที่เธอไปรวบรวมผู้คนจากกิลด์ต่างๆมาลอบทำร้ายมาตาร์และมัลโก้จนตายไปหมด คนของกิลด์กว่าสิบกิลด์ไปร้องเรียนที่ต้นสังกัดของเธอ เป็นเหตุให้กิลด์ต้องจ่ายค่าเสียหายและมาตามล้างตามเช็ดเรื่องที่เธอทำ สุดท้ายแล้วเธอก็ถูกเฉดหัวออกจากกิลด์เพื่อตัดปัญหา ผู้คนจากกิลด์อื่นๆต่างก็ดูถูกเธอ

    ตอนนี้เรย์น่ามีสภาพเป็นผู้เล่นอิสระที่ไม่ขึ้นอยู่กับใครแล้ว เป็นผู้เล่นระดับสูงที่มาติดอยู่ในเกาะเริ่มต้น และเธอกำลังหาทางแก้แค้น จากคนที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เธอตกอับแบบนี้

    เจ้ามาตาร์ แกต้องตายจนกว่าชั้นจะสาแก่ใจ!’ หญิงสาวคิดขึ้นมาอย่างเจ็บใจขณะที่สะกดรอยตามพวกเมโลดี้เข้าสู่ป่าฝูงนก

     

    “โอเค วันนี้เราจะเข้าป่าฝูงนกกันทั้งหมดนี่แหละ สามสาวอยู่ตรงกลางคอยเก็บเงินที่หล่นให้หน่อยนะ” มาตาร์บอกแผนการ

    “อ้าว แล้วการประสานปราณล่ะคะ” โรสถามขึ้นมา

    “ก็สู้ไปฝึกไปนั่นแหละ การประสานที่ใช้จริงไม่ได้เราไม่ต้องการ ดังนั้นคิดถึงสิ่งที่ทำได้ง่ายๆเร็วๆก่อนนะ” มาตาร์ก็เห็นแล้วว่าไม้ตายประสานนั้นรุนแรงมาก แต่มันยังใช้ออกมาได้ช้าอยู่ จึงต้องการจะใช้สถานการณ์จริงในการฝึก เพื่อที่จะสร้างไม้ตายประสานที่เหมาะสม ใช้ออกได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

    “ทุกคนเชื่อมสัมผัสกันให้หมด ไหวมั้ย?” มาตาร์สั่งการพวกโซล่าร์ซิสฯ

    “ทำเหมือนที่เข้าป่าเมื่อวานน่ะเหรอคะ” โรสถามเพื่อความแน่ใจ

    “ใช่ ก่อนอื่นก็เชื่อมสัมผัสกับพี่ให้ได้ก่อน แล้วถ้ามีกำลังพอก็เชื่อมกับคนอื่นในทีมด้วย” มาตาร์ตอบ

    การฝึกเมื่อวานที่ป่าฝูงนก มาตาร์พาโซล่าร์ซิสฯฝึกทีละสองคน เพื่อฝึกใช้สัมผัสร่วมกัน โดยมีมาตาร์เป็นศูนย์กลาง คอยควบคุมการเคลื่อนไหว โดยเน้นให้พวกโซล่าร์ซิสฯเป็นผู้โจมตี ส่วนตัวเขาคอยสั่งการและสนับสนุน เหมือนกับมาตาร์เป็นหัว แล้วมีพวกโซล่าร์ซิสฯเป็นแขนขานั่นเอง

    มาตาร์จะคอยใช้ลมเพื่อควบคุมฝูงนก โซล่าร์ซิสฯคอยโจมตีนกที่มารวมกลุ่มกันโดยให้ใช้แต่ปราณและอาวุธ ถ้าใครเสียท่ามาตาร์ก็จะใช้พลังจิตดึงตัวออกมา จึงจัดว่ามาตาร์ต้องเหนื่อยตลอดเวลาเพราะต้องคอยควบคุมทั้งฝูงนกและโซล่าร์ซิสฯไปพร้อมๆกัน

    “พี่มาตาร์จะเชื่อมสัมผัสกับพวกเราทั้งสี่คนเลยเหรอคะ?” โรสถามขึ้นมาเพราะเมื่อวานมาตาร์เชื่อมแค่ทีละสองคนก็เห็นว่ามันยากแล้ว นี่จะคุมทีเดียวสี่คน

    “ใช่ เคยฝึกมาก่อนแล้วน่ะ ไม่ต้องห่วงรับรองทุกคนจะปลอดภัยไม่มีปัญหา” มาตาร์เคยฝึกที่แมนชั่นมาแล้วโดยควมคุมสามสาว แต่สี่คนนี่ยังไม่เคยจริงๆ ซึ่งแผนการต่อสู้นี้เป็นรูปแบบในฝันที่มาตาร์ต้องการหลังจากที่เห็นการประสานงานของพวกโซล่าร์ซิสฯที่ตะลุยป่าฝูงนกด้วยเวลาเพียงชั่วโมงเดียว

    “ไม่ได้ห่วงตัวเองหรอกค่ะ กลัวพี่มาตาร์จะเหนื่อยเกินไปน่ะ” โรสพูดออกมาตรงๆ

    “ถ้าอย่างนั้นก็รับสัมผัสของพี่ให้ดีๆละกัน พี่จะได้ไม่เหนื่อยมากเกินไป” มาตาร์ยิ้มรับพร้อมกับลูบหัวของโรสอย่างเอ็นดู

    “ค่ะ” โรสขานรับพร้อมกับหน้าแดงขึ้นมาเพราะโดนลูบหัว

     

    ฟูววว!! เปรี๊รรยะ!!!

    กระสุนสายฟ้าลูกกลมๆขนาดไม่ใหญ่ไปกว่าฝ่ามือพุ่งออกไปเป็นเส้นตรงพร้อมกับแผ่รัศมีออกมารอบๆส่งผลให้นกที่อยู่ในรัศมีร่วงลงมาตายเป็นร้อยตัวด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว

    เมโลดี้และราตรีมองผลลัพธ์ด้วยความตื่นตะลึง

    “เป็นไงล่ะรัต เห็นรึยังว่าชั้นทำอะไรได้บ้าง” เทียร์พูดขึ้นพร้อมกับลอยกลับมาหาราตรีอีกครั้ง

    ความสามารถของเทียร์นั้นไม่ได้แหวกแนวหรือพิศดารอะไร เทียร์สามารถรับปราณจากราตรีแล้วสะสมเอาไว้ เมื่อสะสมปราณจนพอใจแล้ว ก็ปลดปล่อยออกมา โดยเทียร์ใช้ตัวเองเป็นกระสุนปราณพุ่งใส่ศัตรู หรือจะใช้เทียร์เป็นตัวประสานปราณก็ได้ โดยหลักการแล้วราตรีสามารถใช้บอลไฟแบบที่โซล่าร์ซิสฯปล่อยออกมาได้ด้วยตัวคนเดียว โดยไม่ต้องอาศัยปราณลมควบคุมด้วยเพราะเทียร์ซึ่งเป็นแกนกลางของบอลขยับได้ดั่งใจคิด

    “แล้วเธอไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเหรอ?” ราตรีสงสัยว่าในเมื่อเอาตัวเองเป็นกระสุนแล้วทำไมยังปลอดภัยดีอยู่

    “ชั้นเป็นวิญญาณอมตะ เป็นผู้ติดตามที่ไม่มีวันตาย แต่จะตายพร้อมๆกับเธอเท่านั้น” เทียร์ตอบ

    หมายความว่าราตรีมีกระสุนไม้ตายที่ไม่มีวันหมดอยู่กับตัวตลอดเวลานั่นเอง และนี่คือประสิทธิภาพของภูติติดตามลับ น้ำตาราตรี

    ราตรีก็เพิ่งรู้สึกเดี๋ยวนี้เองว่าผู้ติดตามของเธอนั้นมีประสิทธิภาพเหนือล้ำเพียงใด สมแล้วที่เกิดออกมาด้วยวิธีแปลกๆ

    “ชั้นทำแบบนี้ได้ด้วยนะ” เทียร์พูดจบก็แยกออกเป็นห้าร่าง ซึ่งมีขนาดเล็กลงอีก

    “เอ๋? แยกร่างได้ด้วยเหรอ” ราตรียิ่งรู้สึกทึ่งเข้าไปอีก

    “แยกร่างแล้วอาจจะอัดปราณได้น้อยลง แต่ยิงแบบต่อเนื่องหรือยิงแบบหลายธาตุก็ได้นะ” เทียร์ให้ข้อมูลเพิ่ม

    “หรือจะทำแบบนี้” เทียร์พูดพร้อมกับใช้ร่างทั้งห้าหมุนวนรอบราตรีเหมือนเป็นบาเรีย

    “มันมีประโยชน์ยังไงเหรอเนี่ย” ราตรีสงสัย

    “ชั้นโจมตีแทนเธอแบบอัตโนมัติก็ได้นะ ลองไปอยู่กลางฝูงนกสิ” เทียร์บอก

    แล้วเมื่อราตรีเดินเข้าไปกลางฝูงนก ร่างของเทียร์ที่วนรอบราตรีก็เข้าโจมตีพวกนกที่บินเข้าใกล้จากทุกทิศทาง เหล่านกร่วงลงมาตายโดยราตรีไม่ต้องขยับตัวเลย

    “แต่แบบนี้เธอจะไม่ได้ฝึกทักษะอะไรนะ ได้แต่ประสบการณ์” เทียร์เตือนให้ราตรีรับรู้

    ราตรีก็เงียบไปแล้วเพราะเธอไม่เคยคิดเลยว่าผู้ติดตามของเธอจะเป็นสายต่อสู้เต็มขั้นแบบนี้ ถ้าพูดถึงความสามารถในการต่อสู้ เหนือล้ำกว่านางฟ้าแองเจล่าเสียอีก ส่วนเมโลดี้กับแองเจล่าก็รู้สึกทึ่งไปตามๆกันเหมือนกัน

    “แล้วมีความสามารถอะไรอีกมั้ยเนี่ย อย่าบอกว่าประสานร่างได้ด้วยนะ” ราตรีถาม

    “ประสานร่างไม่ได้หรอก แต่ถ้าควบคุมร่างเธอตอนหลับอาจจะทำได้นะ ฮิฮิ” เทียร์บอกพร้อมกับหัวเราะร้าย

    “เอ๊!! อย่าบอกนะว่าเธอเคยสิงร่างชั้นไปทำอะไรแปลกๆมาแล้ว” ราตรีตื่นตกใจขึ้นมาเมื่อรู้ว่าเทียร์ควบคุมร่างเธอได้ด้วย

    “ล้อเล่นหรอกน่า” เทียร์ตอบกลับ แต่ราตรีก็ยังทำสีหน้าเหมือนไม่เชื่ออยู่ดี

    ด้านเมโลดี้ก็หันมาฝึกยิงนกอยู่กับแองเจล่า โดยเมโลดี้กางเวทเกราะเอาไว้แล้วค่อยๆยิงนกด้วยลูกธนูที่สร้างด้วยพลังจิตของเธอ ส่วนแองเจล่าก็อยู่ในเกราะของเมโลดี้แล้วค่อยๆใช้มีดที่ติดแขนของเธอฟันนกทีละตัวโดยใช้พลังจิตบังคับนกให้มาอยู่ตรงหน้าเธอ

    “แองจี้ลองหัดต่อสู้แบบราตรีดูสิจ๊ะ” เมโลดี้ทักขึ้นเมื่อเห็นวิธีต่อสู้แบบสบายเกินไปของนางฟ้าผมทอง

    “แต่เราทำไม่เป็นนี่นา พวกนกบินเร็วเกินไป” แองเจล่าบอก ดูท่าทางนางฟ้าคนนี้จะเป็นสายเวทแบบเต็มตัว ถึงจะใช้ปราณได้ก็เถอะแต่ดูเหมือนไม่เคยฝึกต่อสู้เลย

    “สงสัยมีเวลาว่างต้องสอนวิชาต่อสู้ให้แองจี้บ้างแล้วล่ะ” เมโลดี้พูดออกมาลอยๆ

    “แล้วท่านเมโลดี้ไม่สร้างไม้ตายพลังจิตหรือไม้ตายปราณเหรอ” แองเจล่าทักขึ้นมาเมื่อเห็นเมโลดี้ใช้พลังจิตแค่สร้างลูกธนูขึ้นมา ซึ่งยังถือว่าเป็นไม้ตายไม่ได้หรอก

    “ชั้นจะลองธนูแบบปกตินี้ให้ชำนาญก่อนจ้ะ เดี๋ยวจะสร้างลูกธนูออกมาอีกหลายๆแบบ เอาแบบที่โจมตีเป็นวงกว้างได้ด้วย ดีมั้ย” เมโลดี้ก็คิดไม้ตายในแบบของเธอเอาไว้แล้ว

    การสร้างลูกธนูออกมาหลายแบบถือว่าเป็นไม้ตายที่เรียบง่ายแต่ทรงประสิทธิภาพเหมือนกัน เมื่อการตั้งท่าออกมาเหมือนกันแต่ผลลัพธ์กลับออกมาไม่เหมือนกัน ทำให้คู่ต่อสู้สับสนได้

    “ท่านเมโลดี้นี่ก็ช่างคิดจัง” แองเจล่าเอ่ยชมเจ้านายของเธอ

    ฮึ ยัยสองคนนี่ก็ฝีมือใช้ได้นี่ แต่ยังไม่เท่าไหร่หรอก ...เมื่อไหร่เจ้ามาตาร์จะออกมาซักทีนะ หญิงสาวในเงามืดแอบมองราตรีกับเมโลดี้อยู่ห่างๆ

    “รัต! คุณมัลโก้ติดต่อมาล่ะ” เมโลดี้พูดขึ้นมาขณะกำลังยิงธนูไม่หยุด

    “เหรอ แล้วคุณมัลโก้ว่ายังไงล่ะ” ราตรีถามโดยมือเธอที่ใช้เทพสายฟ้าก็ฟันดาบออกไปเองเรื่อยๆ

    “คุณมัลโก้เค้าว่าเค้าคุยกับพี่มาตาร์แล้วเรื่องวันออกเดินทาง” เมโลดี้ตอบ

    “สองคนนั่นเค้าสนิทกันขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย แอบไปคุยกันเองได้เนี่ย แล้วจะไปกันเมื่อไหร่ล่ะ” ราตรีถามอีก

    “มะรืนนี้” เมโลดี้ตอบ

    “เหรอ งั้นก็ยังมีเวลาเที่ยวเล่นที่นี่อีกสองวันสินะ ...แต่ก็น่าเบื่อออก เกาะนี้มันไม่มีอะไรท้าทายแล้วน่ะ ไม่รู้รออะไรอยู่” ราตรีพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆ เธอแทบจะหลับตาฟันนกได้ทั้งฝูงเลย ยิ่งมีเทียร์คอยคุ้มกันให้อีกถึงจะนอนอยู่ก็ยังฆ่านกได้ทั้งฝูงอยู่ดี

    ฮึ ยัยพวกนี้มันโง่จริงๆ โดนเจ้ามาตาร์หลอกแล้วยังไม่รู้ตัวอีก แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องของเราล่ะนะ หญิงสาวในเงามืดคิดขึ้นอีกเมื่อได้ยินสิ่งที่ทั้งคู่พูดคุยกัน อ๊ะ! หรือว่าจะไปขัดแผนการของมันดี มันจะได้ผิดหวัง ฮึๆๆ

    “งั้นเดี๋ยวกำจัดนกฝูงนี้หมดแล้วไปสอนการต่อสู้ให้แองจี้กัน” เมโลดี้เอ่ยชวนราตรีออกจากป่า เพราะอยู่ที่นี่มันก็บรรยากาศเดิมๆ แถมมีแต่นกตัวเล็กๆ จะเอาไว้ซ้อมกับแองเจล่าก็ไม่ได้

    “อือ เอาสิ ไปอัดนางฟ้าเล่นคงสนุกกว่าฟันนกล่ะนะ ฮิฮิ” ราตรีพูดขู่แกล้งนางฟ้าผมทอง

    “งื้~! ท่านเมโลดี้ช่วยด้วย” แองเจล่าถอยกลับไปแอบอยู่หลังเมโลดี้ทันที เมโลดี้กับราตรีเห็นแล้วก็อดขำความไร้เดียงสาปนติงต๊องของนางฟ้าผมทองไม่ได้

     

    ฟิ้ว! เปรี๊ยะ! ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ!

    เสียงต่อสู้อันสับสนดังออกมาจากป่าอีกด้านหนึ่ง คนแปดคนกำลังอยู่กลางฝูงนก มีคนสี่คนคอยออกอาวุธตลอดเวลา ส่วนอีกสี่คนที่อยู่ตรงกลางเหมือนจะยืนอยู่เฉยๆ แต่จริงๆแล้วชายคนเดียวที่เหมือนจะยืนเฉยๆกลางวง กำลังใช้พลังจิตอย่างหนักเพื่อรับสัมผัสจากทุกคนและควบคุมกลุ่มให้ต่อสู้ได้อย่างสอดคล้องกัน

    ฟิ้ว! ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ!

    มาเจนต้าควงมีดคู่ในมือแฝงด้วยปราณสายฟ้าฟันนกร่วงลงมา แล้วเคลื่อนตัววูบวาบไปทั่วพร้อมกับประกายสายฟ้าและเสียงนกถูกฟันไม่มีหยุด

    ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ!

    อีกด้านหนึ่งโรสใช้ดาบในมือขวาแฝงธาตุน้ำแข็งและลมสะบัดออกจนเกิดคลื่นดาบสีขาวที่แฝงไอเย็น เหล่านกที่ถูกคลื่นดาบนี้เข้าไปต่างตัวขาดและแข็งค้างตกลงมาตายไม่หยุด

    ฟูว! ฟูว! ฟูว!

    คริมซั่นควงหอกเป็นวงกลมพร้อมกับเพลิงที่ลุกไหม้ ดูราวกับชายหนุ่มชุดแดงกำลังถือกงจักรไฟอันใหญ่ แล้วเมื่อมันเฉียดเข้าใกล้นกตัวไหน นกตัวนั้นก็จะมอดไหม้ส่งกลิ่นหอมกลางอากาศก่อนจะตกลงมาตาย

    ตูม! ตูม! ตูม! ตูม!

    อาเชอร์ยิงลูกตุ้มเหล็กด้วยมือทั้งสองข้าง เสมือนใช้ตัวเองเป็นปืนใหญ่แล้วยิงลูกเหล็กออกไป อากาศโดยรอบที่ลูกตุ้มเหล็กเคลื่อนผ่านเกิดการแตกกระจาย เหล่านกที่อยู่ในวิถีกระสุนลูกเหล็กต่างก็เหมือนถูกบีบอัดจนร่างแหลกก่อนจะร่วงลงมาตาย

    ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!

    แล้วมาเจนต้าก็ชิ่งต้นไม้กระโดดขึ้นสูง ในขณะที่อีกสามคนประสานปราณลมเป็นลมหมุนอ่อนๆ รวบเหล่านกที่เหลือเอาไว้ แล้วทันใดนั้นลมหมุนก็แรงขึ้นจนเหมือนพายุอีกแล้วบีบฝูงนกกว่าร้อยตัวเอาไว้ตรงใจกลาง

    เปรี๊ยะ!! ตุบ ตุบ ตุบ ตุบ ตุบ

    แล้วสายฟ้าสีบานเย็นก็ผ่าลงตรงกลางฝูงนกจนมันเกรียมไปพร้อมๆกันทั้งฝูง พร้อมกับพายุที่สลายไป แล้วกะเทยชุดบานเย็นก็ถูกล้อมเอาไว้ด้วยคนอีกสามคนที่สร้างพายุขึ้นมา

    “ไม้ตาย พายุสายฟ้า!!” ทั้งสี่คนประสานเสียงขึ้นมาพร้อมกัน แล้วเก๊กท่าจบอันสวยงาม

    มาตาร์มองด้วยความรู้สึกปลงตก ตอนแรกมันยังสู้กันปกติอยู่เลย พอปล่อยท่าประสานตอนจบทีไรดันต้องมีท่าจบทุกครั้ง แถมยังตั้งชื่อท่ามันทุกครั้งอีกด้วย ที่ผ่านมาทั้งห้าฝูงก็จบด้วยไม้ตายที่ไม่ซ้ำกันเลย

    “สุดยอดเลยเนอะเวลาสัมผัสกันได้เนี่ย” คริมซั่นเอ่ยออกมาอย่างตื่นเต้น

    “นั่นสิรู้หมดเลยว่ากำลังจะทำอะไรต่อไป” อาเชอร์ก็ชอบใจเหมือนกัน

    “ประสานปราณก็ตรงจังหวะกันด้วยเนอะ” โรสชื่นชอบสัมผัสนี้มาก

    “ท่าจบอันสวยงามก็ไม่ใช่ความฝันอีกต่อไป โฮะๆๆ” มาเจนต้ารู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก

    พวกโซล่าร์ซิสฯสามารถใช้สัมผัสได้เป็นอย่างดีเพราะโดยปกติก็ประสานงานกันได้ดีอยู่แล้ว ยิ่งมีสัมผัสที่ทำให้รู้การเคลื่อนไหวหรือส่งสัญญาณด้วยความรวดเร็ว ยิ่งทำให้เข้าขากันมากขึ้น ซึ่งมาตาร์ก็ยังถือเป็นจุดบอดของกลุ่มอยู่ดี ถึงเขาจะมีหน้าที่เป็นตัวกลางก็ตาม

    “พี่มาตาร์น่าจะมาร่วมแจมด้วยนะเนี่ย จะได้มีท่าไม้ตายประสานห้าคน” คริมซั่นเอ่ยออกมาอย่างเสียดาย

    “เอาไว้คราวหน้าพี่จะพยายามละกันนะ” มาตาร์พูดออกมาพร้อมกับยิ้มแหยๆ

    จริงๆแล้วมาตาร์สามารถเข้าร่วมได้อย่างปกติ ถ้าบังเอิญมันจะไม่มีท่าจบหรือประกาศชื่อท่าตอนจบล่ะก็ เพราะการประสานของโซล่าร์ซิสฯถือว่าเป็นท่าที่มีประสิทธิภาพจริงๆ แต่เขาก็รู้ตัวเหมือนกันว่าถ้ายังมัวแต่ถือทิฐิอยู่ล่ะก็ การประสานงานอันยอดเยี่ยมก็จะไม่เกิดขึ้น ดังนั้นสิ่งที่มาตาร์ต้องทำมีอยู่อย่างเดียวเท่านั้นคือ ทำใจ

     

    ฮึฮึฮึ ช่างบังเอิญอะไรอย่างนี้ เจ้ามาตาร์มันอยู่ที่นี่จริงๆด้วย หญิงสาวในความมืดคิดขึ้นเมื่อเห็นชายหนุ่มผมแดงในกลุ่มพวกโซล่าร์ซิสฯ เนื่องจากเธอได้ยินเสียงการต่อสู้จึงได้ละจากการติดตามพวกสองสาวนั้นมาทางนี้แทน

     

    ครืดด!!

    ทันใดนั้นพื้นดินตรงหน้ากลุ่มโซล่าร์ซิสก็เกิดรอยปริแตกขึ้นมา

    ทั้งแปดคนรู้สึกถึงความผิดปกติทันที เพราะในป่าฝูงนกไม่น่าจะมีศัตรูที่มีความสามารถแบบนี้

    “คลาร่า โมเรน่า บราวนี่ ถอยไปอยู่ด้านหลัง” มาตาร์ร้องบอกสามสาวทันที

    ตูมม!!

    แล้วพื้นดินที่เป็นรอยปริแตกก็เกิดระเบิดขึ้นมา ปรากฏสัตว์อสูรรูปร่างคล้ายเสือตัวใหญ่ผสมกับคนยืนด้วยสองขา มีเขาคู่โง้งไปด้านหลัง และดวงตาสีแดงฉานกับบรรยากาศที่มีแต่ความร้อนน่าอึดอัดแผ่ออกมา

    อิฟรีท

    -

     

    ไอ้ตัวนี้มัน...เวทอัญเชิญ!!’ มาตาร์รู้ดีเมื่อเห็นว่ามันเป็นสัตว์อสูรไม่มีระดับ แถมรูปร่างคุ้นๆเหมือนเคยเห็น

    “ตัวอะไรน่ะ” คริมซั่นเอ่ยออกมาก่อน

    “พวกเราใช้สัมผัสเร็ว!!” มาตาร์ไม่เสียเวลาเพราะนี่เป็นศัตรูที่ร้ายกาจแน่นอน

    จริงๆแล้วมีวิธีอยู่วิธีหนึ่งที่สามารถรอดพ้นจากอันตรายนี้โดยง่าย นั่นคือการหนี เพราะเวทอัญเชิญก็มีขอบเขตเหมือนกัน คือต้องอยู่ในรัศมีพลังของผู้ร่ายเวท เพียงแค่หนีออกไปนอกเขตพลังก็หนีพ้นจากเวทอัญเชิญนี้แล้ว เพียงแต่ว่าผู้ที่หนีต้องมีความเร็วที่เหนือกว่าผู้ร่ายเวทเท่านั้น แต่มาตาร์ตัดสินใจไม่หนี ไม่ใช่เพราะคิดไม่ทันหรือว่าทีมโซล่ารืซิสวิ่งช้า แต่เห็นว่าเป็นโอกาสดีในการฝึกซ้อมต่างหาก

    “ศัตรูของเราเป็นคนที่มีฝีมือระดับนี้ทั้งนั้น ถ้าแค่นี้ยังเอาชนะไม่ได้ก็ชนะเลิศการประลองไม่ได้หรอก” มาตาร์ปลุกใจทีมโซล่าร์ซิส

    “โอ้วว!!” ทีมโซล่าร์ซิสฯทั้งสี่ขานรับ

    ฮูมม! ฟู่ววว!!

    เจ้าอสูรไฟคำรามออกมาทีหนึ่ง เกิดแรงสั่นสะเทือนไปทั่วป่า แล้วมันก็ปล่อยไฟออกมาจากปากทันที

    ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!

    กลุ่มโซล่าร์ซิสฯไม่ยืนรอความตาย พวกเขากระโดดกระจายออกจากกันไปคนละทิศ

    ฟิ้ว! ฉึก! เปรี๊ยะ!!

    มาเจนต้าปามีดแฝงปราณสายฟ้าเข้าไปปักที่ร่างเจ้าอสูรไฟได้ แต่ดูเหมือนมันจะไม่รู้สึกอะไรเลย

    ฟู่วว!!

    ไฟลูกใหญ่ถูกปล่อยออกมาจากมือของอสูรไฟ พุ่งตรงเข้าไปหามาเจนต้าด้วยความรวดเร็ว

    ตู้ม!!

    ลูกไฟปะทะเข้ากับลูกเหล็กของอาเชอร์ที่เข้ามาขวางไว้พอดี และถ้าสังเกตให้ดีพื้นบริเวณที่อาเชอร์ยืนเหมือนจะเกิดระลอกคลื่นด้วย

    “เอสบาซูก้า!!” อาเชอร์ตะโกนชื่อไม้ตายออกมา

    ฟิ้ว! ปึ้ก! ฮูมมม!!

    ลูกเหล็กพุ่งออกจากมือของอาเชอร์ด้วยแรงสะท้อนจากพื้นดินพุ่งเข้ากระแทกอสูรไฟเข้าเต็มๆจนมันส่งเสียงคำรามออกมาอีกครั้ง แต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้รับบาดเจ็บเท่าไหร่

    “โรส! มานี่” มาตาร์ร้องเรียกหญิงสาวผมชมพูทันที อสูรไฟตัวนี้ต้องใช้พลังน้ำแข็งจัดการกับมัน

    “ค่ะ” โรสวิ่งมาหาชายหนุ่มผมแดงทันที

    “เกาะหลังพี่เอาไว้แล้วถ่ายปราณน้ำแข็งมา” พลังธาตุน้ำแข็งของมาตาร์ยังไม่แรงพอเพราะฉะนั้นเขาคิดจะใช้วิธีขยายปราณน้ำแข็งของโรสแทน ซึ่งต้องพึ่งเธอเท่านั้นแล้ว แล้วเขาก็ไม่มีท่าโจมตีระยะไกล ก็ต้องเข้าประชิดเจ้าอสูรไฟตัวนั้นโดยมีโรสเกาะหลังเอาไว้นี่แหละ

    “หา?” โรสอุทานออกมาพร้อมกับหน้าแดงขึ้นทันที

    “ด่วนโรส! เดี๋ยวก็ตายกันหมดหรอก” มาตาร์เร่ง

    “ค่ะ! ค่ะ!” โรสไม่มีเวลาลังเลอีก เธอกระโดดขึ้นเกาะหลังชายหนุ่มแล้วเอามือคล้องคอเขาไว้ แล้วเอาขาโอบเอว เหมือนหมีโคอาล่าเกาะต้นยูคาลิปตัส

    “เกาะแน่นๆ แล้วรับสัมผัสให้ดีนะ” มาตาร์เตือนเธออีกครั้งหนึ่ง

    แล้วยังไม่ทันที่หญิงสาวจะขานรับ มาตาร์ก็ใช้เคล็ดเท้าไร้เงาเสริมด้วยกงจักรลมที่เท้า พุ่งตัวออกไปทันที

    โรสตกใจมาก เธอถูกกระชากจนเกือบจะตกลงมา ไม่เคยเลยที่จะเคลื่อนไหวได้เร็วขนาดนี้ตั้งแต่เล่นเกมมา ชายหนุ่มผมแดงคนนี้เป็นม้าที่เร็วที่สุดที่เธอเคยเห็น

    แล้วทันใดนั้นหญิงสาวก็รับสัมผัสได้ โรสถ่ายปราณลงไปให้ชายหนุ่มที่เธอกอดอยู่ทันที

    เกิดลูกกลมๆสีขาวสองลูกขึ้นที่มือของมาตาร์แต่ละข้าง มันคือระเบิดวายุเหมันต์ที่เย็นยะเยือกสำหรับเจ้าอสูรไฟโดยเฉพาะ

    ตูมม!! ตูมม!!

    เกิดเสียงปะทะขึ้นสองครั้ง เมื่อชายหนุ่มผมแดงและอสูรไฟเผชิญหน้ากัน

    ครืดดด!!

    โรสกระเด็นออกมาแล้วไถลไปตามพื้น เธอไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก แต่เป็นความรุนแรงของการปะทะที่ดีดเธอให้กระเด็นออกมา

    เลือดไหลนองออกมาระหว่างเจ้าอสูรไฟนั่นและชายหนุ่มผมแดง

    “พี่มาตาร์!!!!” โรสยันกายลุกขึ้นยืนทันทีแล้วร้องเรียกชายหนุ่มอย่างเป็นห่วง

     

    ตายมั้ย? ...ทุกครั้งที่ถามแบบนี้ก็ไม่เคยตายหรอก ฮิฮิ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×