ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    JOQ Online คนจริงลวงโลก <มี E-Book>

    ลำดับตอนที่ #75 : บทที่73: ซิลเวอร์ของทุกคน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 12.37K
      107
      22 ธ.ค. 54

    บทที่73 ซิลเวอร์ของทุกคน

    “พวกหนุ่มๆยังไม่กลับมาอีกเหรอเนี่ย เข้าป่าไปกันตั้งนานแล้ว” โรสถามขึ้นมาหลังจากที่ดูเวลาแล้วว่ามันผ่านไปสามชั่วโมงแล้วหลังจากที่พวกหนุ่มๆเข้าไปฝึกในป่า

    “งั้นลองมาซ้อมกันเองก่อนดีมั้ยหนูโรส” มาเจนต้าเสนอเมื่อสำเร็จไม้ตายกันแล้วทั้งคู่

    “เอาสิ” โรสก็เห็นด้วย ดีกว่านั่งรอเฉยๆ

    ฟิ้ว! ฟวับ! วูบ!

    โรสกับมาเจนต้าซ้อมมือกันโดยขยับตัวแบบช้าๆ เน้นท่าทางมากกว่ากำลัง

    “เอ๊ะ! หนูโรสเปลี่ยนวิธีจับดาบนี่นา” มาเจนต้าทักขึ้นมาเมื่อเห็นว่าหญิงสาวผมชมพูถือดาบแตกต่างจากที่เคย

    “อ๋อ ใบดาบเอาไว้ทางนิ้วก้อยนี่จะได้ปล่อยไม้ตายได้ตลอดเวลาน่ะ ก็เลยเปลี่ยนวิธีสู้ไปด้วยเลย” โรสตอบพร้อมกับเหวี่ยงดาบไปด้วย

    “มันจะดีเหรอหนูโรส เปลี่ยนวิธีต่อสู้ตอนนี้เนี่ย” มาเจนต้าเป็นห่วงเพราะมันก็จวนจะถึงงานประลองแล้วมาหัดของใหม่มันจะชำนาญพอที่จะสู้กับคนอื่นได้หรือ

    “ไม่ต้องเป็นห่วงมาเจนต้า โรสมีไม้ตายทดแทนแล้ว พี่มาตาร์บอกว่าพอมีไม้ตายแล้วสามารถใช้มันเป็นเคล็ดการเคลื่อนไหวตามปกติได้ด้วย” โรสพูดพร้อมกับจู่โจมโดยใช้ด้ามดาบ ซึ่งปกติเธอไม่เคยทำ

    ฟิ้ว! วูบ!

    ด้ามดาบทิ่มตรงเข้าโจมตีร่างของมาเจนต้า แต่แม่กะเทยสาวก็เอี้ยวตัวหลบได้ ทันใดนั้นโรสก็ขยับข้อมือเล็กน้อย ส่งใบดาบของเธอมาจ่อที่ลำคอของมาเจนต้าทันที

    “อ๊ะ! เดี๊ยนลืมไปว่าจับดาบแบบนี้มันพลิกแพลงมากในระยะประชิด” มาเจนต้ารู้สึกทึ่งขึ้นมาเมื่อเห็นว่าโรสเรียนรู้วิธีจับดาบแบบใหม่นี้ได้รวดเร็ว

    “อืม ระยะดาบเปลี่ยนไปจากการจับดาบแบบนี้ โจมตีได้แคบลงแต่ก็รัดกุมขึ้น” โรสอธิบายสิ่งที่เปลี่ยนไปในการใช้ดาบของเธอ

    “แล้วเกราะที่แขนซ้ายนี่ล่ะฮ้า” มาเจนต้าถามสิ่งที่เธอสงสัย เพราะยังไม่รู้เลยว่าโรสจะใส่มันให้หนักขึ้นทำไม

    “อันนี้เกี่ยวกับท่าไม้ตายใหม่น่ะ พอดีโรสยังไม่มั่นใจว่าจะสามารถใช้ได้ถ้าไม่มีอะไรมาป้องกันแขนเอาไว้ก่อน” โรสเฉลย

    “เอ๋? ท่าไม้ตายใหม่ของหนูโรสใช้แขนซ้ายเป็นตัวโจมตีเหรอฮ้า” มาเจนต้าสงสัย

    เพราะที่ผ่านมาโรสใช้แต่ดาบที่มือขวาในการต่อสู้ มือซ้ายก็เอาไว้ปล่อยเวทจากผลึกเวทเท่านั้น แต่ตอนนี้ผลึกเวทย้ายไปไว้ข้างขวาแล้ว แขนซ้ายก็มีเกราะคลุมตั้งแต่ไหล่จนถึงปลายนิ้วเลย

    “จริงเหรอโรสมีไม้ตายใหม่ด้วยเหรอเนี่ย อยากเห็นจัง” เสียงผู้ชายดังขึ้นมาจากทิศทางหนึ่ง

    “อ้าว! คริมซั่น อาเชอร์ กลับมาแล้วเหรอ ...พี่มาตาร์ล่ะ?” โรสทักขึ้นมาเมื่อเห็นทั้งสองหนุ่มเดินเข้ามา แต่กลับไม่เห็นมาตาร์เลย

    “พี่มาตาร์ให้มาตามเธอสองคนเข้าป่าน่ะ ถึงตาพวกเธอไปเก็บระดับแล้วก็ซ้อมกับพี่มาตาร์แล้ว” อาเชอร์รายงาน

    “คราวนี้จะซ้อมพร้อมกันทั้งทีมเลยเหรอ” มาเจนต้าสงสัย

    “เปล่า เดี๋ยวพวกเราต้องฝึกไม้ตายให้ได้กันซักท่าเหมือนกัน พี่มาตาร์เค้าสอนหลักการคิดมาแล้ว ที่จะเข้าป่าไปมีแต่พวกเธอสองคนเท่านั้นแหละ” คริมซั่นว่า

    “แล้วพี่เค้าไม่พักเหรอ หรือว่าพี่เค้าไม่ค่อยได้สู้ตอนอยู่ในป่า” โรสก็สงสัย

    “ไม่ค่อยได้สู้เหรอ ...ก็จริงอ่ะนะ แต่สิ่งที่พี่เค้าทำมันน่าจะเหนื่อยกว่าสู้เองอีกนะ” คริมซั่นพูดให้หนึ่งสาวและครึ่งสาวได้คิดอีก

    “เอ๋?” โรสอุทานออกมา เธอไม่เข้าใจว่าไม่สู้แล้วทำอะไรถึงได้เหนื่อยกว่าสู้

    “ไม่ต้องสงสัยมาก เดี๋ยวไปฝึกกับพี่เค้าก็รู้เอง รีบไปได้แล้ว เสียเวลา” คริมซั่นรีบๆไล่ให้ทั้งคู่ไปฝึกได้แล้ว

    “ไม่ต้องเร่งหรอกย่ะ ไปเดี๋ยวนี้แล้ว” มาเจนต้ากล่าวแล้วก็ออกเดินไปทางป่าฝูงนกทันที

    “สู้ๆนะทั้งสองหนุ่ม” โรสหันมาให้กำลังใจทั้งคู่ก่อนจะเดินตามมาเจนต้าไป

    “ที่ต้องสู้ๆน่ะมันเธอสองคนต่างหาก” คริมซั่นกล่าวออกมา แต่ทั้งสองสาวนั่นคงไม่ได้ยินแล้วล่ะ

    “งั้นเรามาลองสัมผัสแบบคู่ก่อนละกัน” อาเชอร์เสนอวิธีฝึกทันที

    “เอาสิ แล้วก็คิดไม้ตายไปด้วยเลยนะ” คริมซั่นอยากจะมีไม้ตายสักท่าเหมือนกัน

    “ถ้าไม้ตายล่ะก็ชั้นคิดเอาไว้แล้วท่านึง” อาเชอร์ตอบกลับเรียบๆ

    “ฮ้า! เอาเวลาตอนไหนมาคิดเนี่ย” คริมซั่นตกใจเพราะเขายังไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไงดีเลย การคิดท่าไม้ตายของตัวเองเนี่ย

    “ก็คิดเอาไว้ตั้งแต่ตอนสู้กับพวกห้าคนนั่นแล้วล่ะ” อาเชอร์เฉลย

    “หา?” คริมซั่นยังไม่เข้าใจอยู่ดี ว่าคิดออกมาได้อย่างไรในช่วงเวลาแบบนั้น

    “ลองดูละกัน เอ้า! โจมตีเข้ามาซิ” อาเชอร์บอกให้คริมซั่นโจมตีไปที่เขา

    “อ้าว? ถ้าไม่มีคนโจมตีก่อนแล้วใช้ไม่ได้เหรอ” คริมซั่นสงสัยในวิธีใช้ไม้ตายของอาเชอร์

    “อึ้ม มันเป็นท่าแบบนั้นน่ะ” อาเชอร์ตอบ “มาสิ แต่โจมตีแบบง่ายๆนะ ฟาดหอกลงมาตรงๆก็ดี”

    “โอเค” คริมซั่นเลิกสงสัย เห็นของจริงน่าจะเข้าใจได้เร็วกว่า

    หวืด ตูมม!

    คริมซั่นง้างหอกไปด้านหลังแล้วฟาดใส่อาเชอร์ตรงๆ อาเชอร์ก็เอาโซ่ของเขามารับเอาไว้

    เปรี๊ยะ!!

    แล้วทันใดนั้นก็เกิดรอยแตกร้าวบนพื้นบริเวณที่อาเชอร์ยืนอยู่

    “เอ๋?” คริมซั่นอุทานออกมาอย่างตกใจ เพราะเขาไม่ได้ฟาดแรงถึงขั้นพื้นแตกได้แน่ๆ แถมกำลังยังถูกลดทอนไปเยอะตั้งแต่ปะทะกับโซ่แล้วด้วย

    “อ่า โทษที พลาดน่ะ” อาเชอร์ตอบกลับแบบอายๆ เพราะเขาอุตส่าห์พูดเอาไว้ซะดิบดีว่าคิดท่าไม้ตายได้แล้ว

    “มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย ไม้ตายของนายคืออะไรกันแน่” คริมซั่นถามอย่างอดไม่ได้ เพราะผลลัพธ์มันแปลกเหลือเกิน

    “มันคือการถ่ายพลังน่ะ ชั้นว่าจะใช้วิธีถ่ายพลังลงพื้น แล้วก็ให้มันกระเด้งกลับไปแรงกว่าเดิม แต่พอดีว่ามันลงพื้นไปหมด ก็เลยไม่กระเด้งกลับ” อาเชอร์อธิบายในสิ่งที่เขาทำลงไป

    คริมซั่นนิ่งอึ้งไปในทันทีที่รู้ว่าอาเชอร์คิดจะทำอะไร ก็คิดมานานแล้วล่ะนะ แต่ไม่ค่อยแน่ใจ เจ้าอาเชอร์นี่มันต้องเป็นอัจฉริยะแหงเลย คริมซั่นคิดกับตัวเอง

    “มันเป็นท่าไม้ตายที่ใช้คู่กับปราณธาตุดินใช่มั้ยไอ้ท่านี้เนี่ย” คริมซั่นถามเพื่อนของเขา

    “อื้อ ก็ใช้ปราณแปลงคุณสมบัติพื้นดินที่เหยียบอยู่ให้มันเด้งได้ล่ะนะ เหมือนตอนที่ชั้นประลองไง คิดได้ตอนนั้นแหละ” อาเชอร์กล่าว

    “ถ้าอย่างนั้นก็ทำแบบนี้สิ...” คริมซั่นช่วยเสนอความคิดในการใช้ไม้ตายให้อาเชอร์หลังจากรู้หลักการ

     

    หลังจากผ่านไปอีกสามชั่วโมง

    ตูมม!!

    “ผู้เล่นอาเชอร์ปฏิบัติตามเงื่อนไข ได้รับท่าปราณ กรุณาตั้งชื่อด้วยค่ะ” เสียงจากระบบดังขึ้นในหัวอาเชอร์

    “เป็นไงบ้างอาเชอร์ สำเร็จมั้ย” คริมซั่นสงสัยที่เห็นอาเชอร์นิ่งไปหลังจากเห็นผลลัพธ์ของการฝึกซ้อมท่าไม้ตาย

    “ต้องตั้งชื่อท่าด้วยแฮะ เอาชื่ออะไรดีล่ะ” อาเชอร์ถามคริมซั่นกลับหลังจากที่รู้ว่าได้ท่าไม้ตายแล้วหนึ่งท่า

    “โอ้วว!! สำเร็จจนได้สินะ” คริมซั่นร่วมยินดีกับอาเชอร์เพราะเขาก็เหนื่อยมาด้วยกันตลอด

    “ชั้นให้นายตั้งชื่อละกัน คิดว่าชื่ออะไรถึงจะเหมาะล่ะ” อาเชอร์ถือว่ามันเป็นไม้ตายที่คิดร่วมกัน แต่เขากลับได้รับท่าไม้ตายคนเดียว ดังนั้นเขาจึงให้คริมซั่นเป็นคนตั้งชื่อ

    “เอ่ ให้ชั้นตั้งชื่อให้เหรอ ...จะว่าไปเคล็ดวิชานี้ใช้ได้ทั้งตั้งรับและจู่โจม” คริมซั่นครุ่นคิด

    “ชื่อหมัดดึ๋งดึ๋งค่า!!” คลาร่ารีบเสนอขึ้นมาเผื่อชื่อที่เธอคิดจะได้เอาไปตั้งชื่อท่าไม้ตายบ้าง

    “ไม่เอาๆ ให้โมเรน่าตั้งดีกว่า ตั้งชื่อว่าโยโย่เอฟเฟคดีกว่า” โมเรน่าก็เสนอเหมือนกันขนาดชื่อที่ยัยนกกระจอกเสนอยังเอาไปตั้งได้เลย

    “...” ส่วนบราวนี่นิ่งเงียบอยู่เฉยๆไม่พูดอะไร เหมือนกับจะบอกเป็นนัยๆว่า จะแย่งกันไปทำไม ไร้สาระน่า

    “หา? ดึ๋งคึ๋งกับโยโย่เหรอ จะว่าใกล้เคียงกับหลักการของไม้ตายนี้อยู่หรอกนะ แต่ไม่เห็นจำเป็นต้องตั้งชื่อที่บอกหลักการเลย ชื่อไม้ตายมันต้องยิ่งใหญ่อลังการสิ” คริมซั่นไม่รับชื่อที่คลาร่ากับโมเรน่าบอก เพราะมันฟังดูน่ารักเกินไป

    Spongy Bazooka (สพันจี้บาซูก้า)” บราวนี่เอ่ยออกมาในที่สุด

    “หืม!!?” คริมซั่นและอาเชอร์หันมามองบราวนี่ทันทีที่ได้ยินชื่อที่เธอพูดออกมา

    “สพันจี้ ...ฟองน้ำเหรอ อืมม” อาเชอร์ครุ่นคิด จะว่าไปมันเข้ากับหลักการมากกว่าโยโย่หรือดึ๋งดึ๋งเยอะเลย

    “บาซูก้าเหรอ ...ดูรุนแรงดีแฮะ” คริมซั่นติดใจตั้งแต่ใช้โซล่าร์ซิสฯแคนน่อนแล้ว ถ้ามีแคนน่อนแล้วมีบาซูก้าอีกอันมันน่าจะเข้ากันได้ดีนะเนี่ย

    ส่วนคลาร่ากับโมเรน่าหันมามองบราวนี่อย่างตกตะลึง ทำไมมีแต่ยัยนี่ที่คิดชื่อได้เหมาะสมนะ

    “เป็นชื่อที่เหมาะนะ แต่ว่าสพันจี้มันฟังดูอ่อนแอยังไงก็ไม่รู้แฮะ ...ใช้ชื่อย่อท่าจะดี อาเชอร์!!” คริมซั่นเรียกอาเชอร์มาเพื่อบอกการตัดสินใจครั้งสุดท้ายของเขากับชื่อท่าไม้ตายนี้

    “อึ้ม ว่ามาเลยคริมซั่น” อาเชอร์ขานรับ ไม่ว่าคริมซั่นอยากได้ชื่ออะไรเขาก็ตามใจทั้งนั้นแหละ

    “ต่อไปนี้ท่าไม้ตายนี้ของนายชื่อว่า เอสบาซูก้านะ ฟังดูเข้มแข็งดี” คริมซั่นตั้งชื่อในที่สุด

    แล้วอาเชอร์ก็จัดการตั้งชื่อท่าไม้ตายของเขาว่า เอสบาซูก้า ตามที่คริมซั่นต้องการ

    “โอเค ต่อไปเรามาซ้อมสัมผัสกันได้แล้ว” คริมซั่นบอกสิ่งที่จะทำต่อไป

    อันที่จริงแล้วที่ผ่านมาสามชั่วโมง ทั้งคู่ก็ฝึกสัมผัสมาตลอดแต่ไม่รู้ตัวเท่านั้นเอง เพราะการคิดท่าไม้ตายของอาเชอร์นั้นทำด้วยการให้คริมซั่นโจมตีใส่ ซึ่งเขาก็ส่งสัมผัสบอกให้อาเชอร์รู้ตลอด อาเชอร์ก็รับสัมผัสตลอดเหมือนกัน ทำให้มีความแม่นยำในทิศทางและจังหวะการใช้ท่า จึงได้สำเร็จท่าไม้ตายด้วยเวลาเพียงสามชั่วโมงทั้งๆที่ทั้งคู่ไม่ได้มีพื้นฐานเป็นนักศิลปะการต่อสู้ในชีวิตจริงเลย

    “แต่นี่ตั้งหกชั่วโมงมาแล้วนะ พักผ่อนซะหน่อยก็ดีนะพวกเรา” เสียงชายหนุ่มดังออกมาอีกทางหนึ่ง

    “มาตาร์กลับมาแล้ว!!” สามสาวได้ยินเสียงเจ้านายของพวกเธอก็ยินดีแล้วรีบวิ่งไปหาทันที

    “เป็นเด็กดีกันรึเปล่าสาวๆ ไม่ได้ไปรบกวนเวลาฝึกใครนะ” มาตาร์พูดพร้อมกับเอามือลูบหัวสาวๆด้วยความเอ็นดู

    “ไม่เลยค่า” คลาร่าตอบอย่างร่าเริง

    “เป็นไงบ้างโรสกับมาเจนต้า” คริมซั่นทักสาวหนึ่งกะเทยหนึ่งเมื่อเห็นพวกเธอเดินกลับมาด้วยท่าทางอิดโรย

    “เหนื่อยฮ่ะ” มาเจนต้าตอบออกมาด้วยท่าทีหมดแรง

    “แต่ก็รู้สึกว่าเก่งขึ้นเยอะเลย” โรสตอบออกมาอย่างสดใส

    “เดี๋ยวเราก็พักผ่อนกันนิดหน่อยละกันนะ แต่ละคนน่าจะเหนื่อยมากแล้วนะ” มาตาร์เสนอขึ้นมา

    “แต่ผมยังไม่มีท่าไม้ตายเลยนะครับพี่มาตาร์” คริมซั่นร้อนใจ เพราะในกลุ่มโซล่าร์ซิสฯมีเขาคนเดียวที่ยังไม่มีไม้ตายอะไรเลย

    “งั้นเดี๋ยวพวกเราก็มาช่วยกันฝึกสิ ฝึกหลายๆคนน่าจะทำสำเร็จได้รวดเร็วกว่าด้วยนะ” มาตาร์รู้ดีว่าคริ่มซั่นไม่อยากจะพักผ่อน แต่ถ้าฝืนฝึกตอนนี้ก็คงจะไม่มีอะไรคืบหน้าขึ้นมาได้ เหนื่อยแล้วก็ควรจะพักผ่อนสักหน่อย

    “อืม ก็ได้ครับ” คริมซั่นยอมรับในที่สุด

    ขณะนั้นเป็นเวลาตีหนึ่ง ท้องฟ้ามืดมิด มีเพียงแสงสลัวจากดวงดาวและแสงจากสนามต่อสู้ที่เปิดไฟเอาไว้

    กองไฟถูกจุดขึ้นโดยอักขระเวทของโมเรน่า เธอเขียนกับดักไฟที่พื้นโดยไม่ต้องใช้เชื้อเพลิงเลย

    ทุกคนหยิบขนมออกมากินกันแล้วนั่งล้อมรอบกองไฟ โดยรอบตัวมาตาร์มีสาวๆสามคนล้อมเขาเอาไว้

    “คริมซั่นอยากได้ท่าไม้ตายแบบไหนล่ะ”  มาตาร์ถามขึ้นมาเมื่อเห็นแต่ละคนผ่อนคลายกันเต็มที่แล้ว

    “เอ่อ แบบไหนเหรอครับ ...ไม่เคยคิดเลยแฮะ” ถึงคริมซั่นอยากจะมีไม้ตาย แต่เขาก็ไม่เคยคิดถึงมันมาก่อนเลย ไม่แปลกที่เขายังสร้างท่าไม้ตายของตัวเองไม่ได้ เพราะยังไม่มีเป้าหมายนั่นเอง

    “แบบว่า ตอนโรสคิดท่าไม้ตายคือ อยากเอาไว้ให้ศัตรูกระเด็นหรือเสียหลักน่ะ ก็เลยคิดออกมาได้ท่านึง” โรสแนะจากประสบการณ์ของคนที่สร้างไม้ตายได้เอง

    “ส่วนชั้นก็อยากจะสะท้อนพลังของศัตรูได้” อาเชอร์แนะบ้าง

    “เวลานายเจอศัตรูที่ร้ายกาจแล้วนายอยากจะทำอะไรกับมันล่ะฮ้า” มาเจนต้าแนะบ้างถึงแม้เธอจะยังไม่เคยคิดไม้ตายของตัวเองก็เถอะ

    “ก็อยากจะทำให้มันตายด้วยการโจมตีสุดเจ๋งน่ะสิ” คริมซั่นตอบออกมาซึ่งก็ยังช่วยอะไรไม่ได้ เพราะคำว่า เจ๋ง มันกว้างเกินไป

    “ขอคำจำกัดความที่แคบกว่านี้ได้มั้ยคริมซั่น” มาตาร์ค่อยๆตะล่อม เพื่อให้คริมซั่นคิดคอนเซ็ปต์ไม้ตายด้วยตัวเองให้ได้

    “ก็แบบว่า เร็วและแรงน่ะครับ ใช้ได้มั้ย” คริมซั่นจำกัดความไม้ตายของเขาออกมา

    “อืม ใช้ได้นะ เร็วและแรง แล้วถ้าพูดถึงเร็วและแรงแล้วคริมซั่นนึกถึงท่าทางแบบไหนล่ะ” มาตาร์ยังถามต่อไป

    “อืม พุ่งเข้าไป เสียบมัน ทะลวงมัน แล้วก็ท่าจบแบบเท่ๆไงครับ ประมาณว่าพอวิ่งผ่านศัตรูไปแล้วเก๊กท่าจบ แล้วพวกศัตรูก็ล้มลงสลายเป็นแสงไป อู้ยยย! แค่คิดก็เจ๋งแล้ว” คริมซั่นพูดไปก็คิดภาพตามไปด้วย

    “โอเคเยี่ยม ทีนี้ก็รู้แล้วใช่มั้ยว่าท่าไม้ตายมันมีท่าทางเป็นยังไง” มาตาร์กล่าวชมเพื่อให้กำลังใจ ทำไมต้องมีท่าจบด้วยล่ะเนี่ย เกิดศัตรูมันไม่ตายก็โดนเอาคืนน่ะสิ

    “โห! มีท่าจบด้วย เจ๋งสุดๆเลย” โรสพูดขึ้นมาอย่างตื่นเต้น

    ส่วนโซล่าร์ซิสฯที่เหลือก็มีตาเป็นประกาย เพราะทุกคนนึกภาพตามกันหมด และท่าไม้ตายของแต่ละคนไม่มีใครมีท่าจบเลยสักคนจึงรู้สึกว่าท่าของคริมซั่นนี่มันเจ๋งสุดๆไปเลย ส่วนมาตาร์ยิ้มด้วยหน้าปลงๆเพราะรู้ว่าพวกโซล่าร์ซิสคิดอะไรกันอยู่

    “ถ้างั้นเดี๋ยวคริมซั่นไปซ้อมก่อนละกัน เดี๋ยวพวกเราเสร็จธุระตรงนี้แล้วจะไปช่วยซ้อมนะ” มาตาร์ปล่อยให้คริมซั่นไปซ้อมคนเดียวด้วยสีหน้างงๆ เพราะไม่รู้ว่ามาตาร์จะทำอะไรกับพวกโซล่าร์ซิสฯที่เหลือ

    “พี่มาตาร์จะสอนอะไรพวกเราอีกเหรอฮ้า” มาเจนต้าถามขึ้นมาเมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้ให้พวกเธอไปซ้อมกับคริมซั่น

    “ตอนนี้คนที่มีองค์ประกอบครบมีคนเดียวคืออาเชอร์สินะ” มาตาร์พูดออกมาเป็นปริศนาทำให้พวกโซล่าร์ซิสฯยิ่งสงสัย มีองค์ประกอบครบคืออะไร

    “ตอนนี้มีคริมซั่นซึ่งเป็นธาตุไฟไม่อยู่ตรงนี้ อาเชอร์ซึ่งเป็นธาตุดินมีธาตุข้างเคียงครบไง” มาตาร์เฉลยทันทีที่ทุกคนมีสีหน้างงงวย

    “อ๋อ! จริงด้วยค่ะ ...แล้วทำไมเหรอคะ” โรสก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่ามาตาร์อยากจะทำอะไร

    “เดี๋ยวทุกคนที่อยู่ตรงนี้ช่วยกันถ่ายปราณให้อาเชอร์ก่อนนะ” มาตาร์บอกสิ่งที่เขาต้องการจะทำ

    “อ๋อ แล้วพวกเราก็จะได้ใช้ปราณธาตุข้างเคียงได้ใช่มัยฮ้า” มาเจนต้าเข้าใจในที่สุด

    “ใช่ ก่อนหน้านี้โรสเคยลองแล้วแต่ควบคุมไม่ได้ ตอนนี้น่าจะควบคุมปราณเก่งขึ้นบ้างแล้วใช่มั้ย เพราะพี่พาไปซ้อมในป่าฝูงนก” มาตาร์พาทุกคนเข้าป่าฝูงนกโดยให้สู้โดยเน้นที่อาวุธและปราณของตนโดยไม่พึ่งการโจมตีแบบวงกว้างเพื่อที่จะฝึกใช้งานจริงนี่แหละ

    โซล่าร์ซิสแต่ละคนเริ่มปะติดปะต่อคอนเซ็ปต์ที่มาตาร์วางเอาไว้แล้วก็รู้สึกว่าชายหนุ่มผมแดงผู้นี้ช่างวางตารางการฝึกได้รัดกุมดีเหลือเกิน ภายในเวลาไม่ถึงวัน ความก้าวหน้าที่เกิดขึ้นของแต่ละคนกลับมากมายมหาศาลยิ่งกว่าฝึกกันเองทั้งสัปดาห์เสียอีก

    “เข้าใจแล้วค่ะ งั้นโรสถ่ายปราณน้ำแข็งให้อาเชอร์ก่อนเลยนะ” เมื่อโรสปะติดปะต่อเรื่องราวทุกอย่างได้แล้วเธอก็อยากจะรีบทำสิ่งที่มาตาร์กำหนดไว้ให้เสร็จเร็วๆ จะได้ทำอย่างอื่นต่อ มันช่างน่าตื่นเต้นจริงๆที่ทำตามแผนการที่ผู้ชายคนนี้วางเอาไว้

    โรสเอามือทั้งสองข้างจับมืออาเชอร์ไว้ข้างหนึ่งแล้วถ่ายปราณทันที

    ความเย็นจากปราณของโรสทำให้อาเชอร์เริ่มง่วง ทันใดนั้นมาตาร์ก็ถ่ายปราณลมแฝงธาตุดินลงไปให้อาเชอร์ทันที

    “อาเชอร์ตามพลังธาตุดินที่พี่ส่งเข้าไปก่อน”

    มาตาร์ซึ่งควบคุมได้ทั้งห้าธาตุย่อมรู้ลักษณะเฉพาะของแต่ละธาตุดี อาเชอร์ที่มีปราณธาตุดินเป็นหลักย่อมไม่ต่อต้านปราณธาตุดินที่มาตาร์ใส่เข้าไป ซึ่งทำให้อาเชอร์ควบคุมปราณธาตุดินของตัวเองได้ดียิ่งขึ้น แล้วที่มาตาร์ใส่ธาตุลมลงไปด้วยเพราะธาตุลมช่วยให้รู้สึกเบาสบายนั่นเอง

    อาเชอร์ปฏิบัติตามคำแนะนำของมาตาร์ เขาจับพลังธาตุดินที่มาตาร์ส่งเข้าไปแล้วนำไปรวมกับธาตุน้ำแข็งที่โรสส่งเข้ามา จนในที่สุดที่มืออีกข้างของอาเชอร์ก็สามารถสร้างน้ำแข็งขึ้นมาเองได้

    “ทีนี้ลองปล่อยปราณน้ำแข็งออกมาเองซิ” มาตาร์บอกอาเชอร์หลังจากที่โรสและเขาปล่อยมือออกแล้ว

    อาเชอร์เอามือแตะดินที่พื้นแล้วเริ่มใช้พลังธาตุน้ำแข็งทันที ผ่านไปไม่นานพื้นที่อาเชอร์สัมผัสก็มีน้ำแข็งเกาะ

    “อ๊ะ! ทำได้จริงๆด้วย” อาเชอร์พูดออกมาอย่างดีใจ

    “โห! ทำให้พื้นเป็นน้ำแข็งได้ด้วย ขนาดพี่มาตาร์ยังสร้างน้ำแข็งไม่ได้เลยนะ” โรสก็แปลกใจเหมือนกันเพราะดูยังไงมาตาร์ก็น่าจะควบคุมปราณเก่งกว่าอาเชอร์แน่ๆ

    “ไม่แปลกหรอกโรส พื้นฐานปราณพี่เป็นธาตุลม แต่อาเชอร์เป็นธาตุดิน ความใกล้เคียงกันมีมากกว่า ระหว่างทำให้ลมเป็นน้ำแข็งกับดินเป็นน้ำแข็งมันก็ต้องต่างกันอยู่แล้ว” มาตาร์ไขข้อข้องใจให้โรส

    “โอเค งั้นต่อไปอาเชอร์ถ่ายปราณให้โรสบ้าง” มาตาร์ไม่เสียเวลา

    หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง โซล่าร์ซิสฯทั้งสามคนก็ใช้ปราณธาตุข้างเคียงได้กันหมดโดยมีมาตาร์คอยถ่ายปราณช่วยทุกคนให้ทำได้ง่ายขึ้น จะมีแต่โรสกับมาเจนต้าเท่านั้นที่ยังไม่มีธาตุไฟใช้เพราะคริมซั่นฝึกซ้อมท่าไม้ตายอยู่คนเดียว

    “โอเค ต่อไปเราไปช่วยคริมซั่นฝึกไม้ตายนะ” มาตาร์บอกทุกคนแล้วก็ลุกไปหาคริมซั่นทันที

    “พี่มาตาร์แกเป็นใครเนี่ย ทำไมเก่งขนาดนี้ได้ก็ไม่รู้เนอะ” อาเชอร์พูดออกมาลอยๆเมื่อมาตาร์เดินไปไกลแล้ว

    “พี่มาตาร์ก็เป็นซิลเวอร์ของพวกเราไง” โรสไม่สนใจว่ามาตาร์จะเป็นใคร แต่ตั้งแต่อยู่ใกล้ๆกับชายหนุ่มคนนี้เธอรู้สึกสนุกและมีความสุขมาก เพราะมันทำให้ทีมโซล่าร์ซิสฯสมบูรณ์แบบจริงๆ

    “แหมโรสฮ้า ซิลเวอร์ของพวกเราหรือของหนูโรสดีล่ะฮ้า” มาเจนต้าแซวแบบไม่คิดอะไร แต่กลับทำให้โรสหน้าแดงขึ้นมาทันที

    “มาเจนต้าก็ พวกเราออกจะโชคดีที่ได้เจอพี่มาตาร์นะ มาเจนต้าก็เก่งขึ้นไม่ใช่เหรอ” โรสพยายามเบี่ยงเบนประเด็น

    “โฮะๆๆ นั่นสินะฮ้า ซิลเวอร์ของพวกเราจริงๆด้วย ไม่ว่าพี่มาตาร์จะเป็นใครมันก็ไม่สำคัญหรอกเนอะ จริงมั้ยอาเชอร์” มาเจนต้ารับลูกของโรสเพราะกลัวเธอจะเขินออกมามากกว่านี้

    “แหม ชั้นก็ไม่ได้อยากได้คำตอบอะไรหรอก แค่รู้สึกว่าทำไมพวกเราถึงได้โชคดีขนาดนี้ต่างหาก” อาเชอร์ตอบแล้วก็เดินตามมาตาร์ไปอีกคน

    “แหมหนูโรส จะชอบพี่มาตาร์ก็ได้อยู่หรอกนะฮ้า แต่ดูให้ดีก่อนนะฮ้าว่าเค้ามีเจ้าของอยู่แล้วรึเปล่า โฮะๆๆ” มาเจนต้าเตือนโรสก่อนจะเดินหัวเราะตามอาเชอร์ไป

    “อะไรกัน แค่ชื่นชมเท่านั้นหรอกน่า ไม่ได้ชอบอะไรแบบนั้นซะหน่อย อย่าเข้าใจผิดนะมาเจนต้า” โรสแก้ตัวพร้อมกับเดินตามมาเจนต้าไป

     

    น่าจับเข้าฮาเร็มเหมือนกันแฮะ หนูโรสเนี่ย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×