คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #204 : บทที่ 197 มังกรอหังการ
บทที่ 197 มังกรอหังการ
เฮ~~~!! เฮ~~~!! เฮ~~~!!
เสียงเชียร์ดังกระหึ่มขึ้นมาที่สนามต่อสู้แห่งหนึ่ง ซึ่งมีการประลองเกิดขึ้นอยู่ขณะนี้
“เอาแล้วครับ ถึงคราวที่แชมป์ของเราจะพ่ายแพ้รึเปล่า!!” พิธีกรประจำสนามเอ่ยขึ้นมาอย่างตื่นเต้น
โฮก!! แฮ่~~!!
เสือเขี้ยวดาบร้องคำรามออกมาสลับกับเสียงขู่แยกเขี้ยวของหมาป่าสีขาวที่ลำตัวเต็มไปด้วยบาดแผล
ผัวะ!!
เจ้าเสือเขี้ยวดาบพุ่งเข้าไปแล้วใช้อุ้งเท้าของมันตบเข้าไปที่ลำตัวของเจ้าหมาป่าอย่างแรงจนตัวของเจ้าหมาป่าบิดไปทีเดียว แต่ในจังหวะเดียวกันนั่นเอง เจ้าหมาป่าก็ฝืนความเจ็บปวดแล้วแยกเขี้ยวแล้วเสือกตัวเองเข้าขย้ำคอหอยของเจ้าเสือเขี้ยวดาบทันที
งั่ม!!!
เจ้าเสือเขี้ยวดาบดิ้นพล่านเมื่อมันถูกโจมตีจุดตาย มันพยายามจะเหวี่ยงร่างของเจ้าหมาป่าไปกระแทกพื้นเป็นการโจมตีกลับด้วย
ปึ้ก! ปึ้ก! ปึ้ก!
เจ้าหมาป่าถูกกระแทกไม่ยั้งจนมันกระอักเลือดออกมาพร้อมกับเลือดที่ซึมออกมาจากบาดแผลทั่วตัว แต่มันก็ไม่ยอมผ่อนแรงที่ขากรรไกรของมัน เพราะมันรู้ดีว่านี่เป็นโอกาสเดียวที่มันเหลืออยู่ ถ้าไม่สามารถฆ่าศัตรูในการกัดครั้งนี้ได้มันคงต้องตายแน่นอน
กรึก!! ค่อกก!
เจ้าหมาป่าเพิ่มแรงงับสุดตัว แล้วในที่สุดเจ้าเสือเขี้ยวดาบก็ตาเหลือกขึ้นมาแล้วล้มลงไปกระตุก กระดูกคอของมันถูกป่นจนแหลกพร้อมกับเลือดที่ไหลโกรกออกมาราวกับสายน้ำ แต่ถึงกระนั้นเจ้าหมาป่าก็ยังไม่ยอมปล่อยขากรรไกรของมัน
ฉูด~~!!!
เจ้าหมาป่าสะบัดคอของมันครั้งหนึ่งแล้วดึงเอาเนื้อและกระดูกส่วนที่มันงับออกมาทั้งยวง จนเลือดของเจ้าเสือเขี้ยวดาบพุ่งออกมาเป็นน้ำพุ แล้วเจ้าเสือเขี้ยวดาบก็แน่นิ่งไปที่สุดพร้อมกับฉากจบอันสยดสยอง
“เราได้ผู้ชนะแล้วครับ ผู้ชนะยังคงเป็นแชมป์เก่าของเรา เดอะไวท์วูล์ฟครับ!!” พิธีกรประกาศผู้ชนะออกมาพร้อมกับเสียงผู้คนรอบอัฒจันทร์ที่ส่งเสียงเฮ
“เย่!! ชนะแล้วโว้ย รอบนี้ได้กำไรมาหลายเลย”
“โอ๊ย! นึกว่ารอบนี้จะชนะแล้วเชียว เสียดายอีกนิดเดียวเอง แชมป์เองก็สะบักสะบอมเต็มที่แล้ว”
“แกเพิ่งเคยมาดูการประลองของเดอะไวท์วูล์ฟล่ะสิ ถึงจะตัวเล็กแบบนั้นแต่ก็ไม่เคยแพ้ใครเลยนะ”
“ไม่น่าเชื่อจริง ๆ ว่าหมาป่าตัวแค่นั้นจะชนะเสือเขี้ยวดาบที่ตัวใหญ่กว่าเกือบเท่าตัวได้”
“ถึงจะตัวเล็กแต่ก็ใจสู้น่าดู ตั้งแต่ครั้งแรก ๆ ที่ประลองก็เจอแบบนี้มาตลอดแหละ”
“หมายความว่าไง สู้ทุกครั้งเลือดสาดแบบนี้ตลอดเลยเหรอ”
“ใช่ ทุกครั้งเจ้าหมาป่าก็โดนโจมตีได้รับบาดเจ็บตลอด แต่ถ้าโดนกัดเข้าไปเมื่อไหร่นี่มันจะไม่ยอมปล่อยจนกว่าศัตรูจะตายเลยล่ะแม้ว่าจะโดนอัดกลับแรงขนาดไหน”
ผู้คนในลานประลองแห่งนี้ต่างคุยถึงการประลองของเจ้าหมาป่าสีขาวกันอย่างออกรส
ที่นี่คือโคลอสเซี่ยมสำหรับประลองสัตว์ทั้งหลายเพื่อให้ผู้เล่นมาพนันขันต่อกัน โดยผู้เล่นสามารถส่งผู้ติดตามของตัวเองมาต่อสู้ หรือจะดูสัตว์ที่ทางสนามจัดมาให้เฉย ๆ ก็ได้ โดยที่นั่งทุกที่กำหนดให้ต้องมีการเดิมพันขั้นต่ำเอาไว้ด้วย เพื่อความตื่นเต้นเร้าใจ
และหมาป่าสีขาวที่ได้ชื่อว่าเป็นแชมป์นั้นก็คือสัตว์ของทางสนามประลองเอง
“และต่อไปจะเป็นรอบแบทเทิลรอยัลครับ มีผู้เล่นส่งผู้ติดตามมาเดิมพันถึงสิบคน รอบนี้ใครจะชนะมาลุ้นกันได้เลยครับ” พิธีกรพูดต่อไปพร้อมกับสัตว์อสูรที่เพิ่มขึ้นมาอีกสิบตัว โดยที่เจ้าหมาป่าสีขาวที่มีสภาพทรุดโทรมยังยืนอยู่ในสนาม
“เอ๋? ไม่เอาเดอะไวท์วูล์ฟออกไปก่อนเหรอ”
“อย่าบอกนะว่าจะให้แชมป์ประลองต่อ โทรมออกอย่างนั้นแล้วเนี่ยนะ”
“แบบนี้ได้ตายแน่ ๆ นะนั่น”
เสียงเซ็งแซ่ดังขึ้นในหมู่ผู้ชมถึงความผิดปกติที่ผู้ชนะในรอบที่แล้วยังไม่ออกไปจากเวทีทั้ง ๆ ที่การต่อสู้รอบใหม่เริ่มแล้ว ราวกับจะทรมานให้เจ้าหมาป่าสีขาวตายคาเวทีไปให้ได้
“หึ ๆ ๆ ๆ เจ้าหมานั่นต้องตายซักพันครั้ง ถึงจะสะใจชั้น” ชายหนุ่มคนหนึ่งพูดขึ้นมาพร้อมกับแสยะยิ้มอย่างชั่วร้าย
ชายคนนั้นมีฉายาว่ามังกรดำโลกอส หัวหน้าของกิลด์มังกรคู่นั่นเอง เขาจ่ายเงินให้กับสนามประลองเพื่อจัดการประลองรอบนี้ขึ้นมาเป็นพิเศษ พร้อมกับให้ลูกกิลด์ของเขาส่งผู้ติดตามลงไปประลองด้วย
ที่โลกอสทำแบบนี้เพราะเขาจำเจ้าหมาป่าตัวนั้นได้ มันคือผู้ติดตามของชายที่เขารังเกียจ นึกขึ้นมากี่ครั้งก็แค้นขึ้นมาเสมอ ...ใช่แล้ว หมาป่าสีขาวตัวนั้นคือคลาร่านั่นเอง เธอถูกจับมาและกลายเป็นสัตว์ที่ใช้ประลองในโคลอสเซียมแห่งนี้โดยไม่มีทางหนีไปไหนได้
คลาร่าต้องลงประลองเกือบทุกวันในร่างหมาป่าและได้รับบาดเจ็บจนร่างกายสะบักสะบอมกลับมาทุกครั้ง ถึงเธอจะเคยตายเพราะความอ่อนเพลีย แต่ก็ฟื้นกลับมาทุกครั้งและถูกให้ประลองต่อไปอย่างไม่มีวันจบสิ้น
“เจน ยกเลิกแผนการทั้งหมด” หญิงสาวคนหนึ่งที่สวมหมวกปิดบังครึ่งหนึ่งของใบหน้ากล่าว เธออยู่ไม่ห่างจากโลกอสนักบนที่นั่งพิเศษของอัฒจันทร์
“อ้าว ทำไมล่ะ? เกิดกลัวขึ้นมาเหรอยัยสาลี่” หญิงสาวแว่นเหลี่ยมที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ สงสัยขึ้นมา เพราะเธอวางแผนในการจัดการสร้างความแค้นจนถึงขั้นต้องขู่ฆ่ากับชายผู้เป็นเป้าหมายเอาไว้แล้ว
“ไม่ใช่ เราต้องช่วยหมาป่าตัวนั้นก่อน เรื่องจัดการหมอนั่นช่างหัวมันเถอะ” หญิงสาวผู้สวมหมวกขยับหมวกให้เห็นใบหน้าของเธออย่างชัดเจนพร้อมกับจ้องไปที่หมาป่าสีขาวที่อยู่กลางลานประลองด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“ทำไมล่ะซารีน่า? นี่มันการประลองของสนามประลองเฉย ๆ ไม่ใช่เหรอ ทำไมต้องช่วยด้วยล่ะ” หญิงสาวผมสั้นผิวสีน้ำผึ้งที่อยู่ใกล้ ๆ ถามขึ้นมา ที่แท้หญิงสาวที่สวมหมวกเอาไว้ก็คือซารีน่านั่นเอง
“นั่นสิ เราอุตส่าห์วางแผนมาตั้งนาน เดินทางมาก็ตั้งไกลนะ” เจนนิเฟอร์หญิงสาวแว่นเหลี่ยมยังไม่เข้าใจ
“หมาป่านั่นคือคลาร่า เป็นผู้ติดตามของคุณมาตาร์” ซารีน่าเฉลยให้เพื่อนสาวของเธอฟัง
“ของคุณมาตาร์?” เจนนิเฟอร์มีสีหน้าตกใจขึ้นมาทันที ‘ของศิวะเหรอ’
“เราต้องพาคลาร่าออกจากโคลอสเซียมนี้ แล้วก็ไม่ให้เจ้าโลกอสตามมาได้ด้วย เจนวางแผนทีซิ” ซารีน่าเอ่ยกับเพื่อนสาวของเธอราวกับเป็นเรื่องที่เธอทำเสมอ ๆ ‘การวางแผนการ’ เนี่ย
“ริวเน่ เดี๋ยวพอชั้นให้สัญญาณแล้วคืนร่างเป็นไวเวิร์นแล้วบินไปรอบ ๆ โคลอสเซียมดึงดูดความสนใจทีนะ ถ้ามีการโจมตีเกิดขึ้นให้บินหลบเป็นหลัก ถ้าจะตอบโต้ก็เอาการโจมตีแบบเป็นวงกว้าง สร้างความวุ่นวายให้ได้มากที่สุด พอเราพาหมาป่าออกไปได้แล้วเธอค่อยถอนตัว เข้าใจนะ” เจนนิเฟอร์ให้ความร่วมมืออย่างดีโดยไม่มีการโต้แย้งใด ๆ เลย เธอเอ่ยสิ่งที่ต้องการกับหญิงสาวผิวสีน้ำผึ้งที่เป็นผู้ติดตามของเธอทันที
“หืม? แกไม่แย้งอะไรชั้นเลยเหรอ แปลก ๆ แฮะ” ซารีน่าสงสัยขึ้นมา เพราะตามปกติเหตุการณ์ที่พลิกผันไม่เป็นไปตามแผนขนาดนี้เพื่อนเธอไม่น่าจะยอมตามใจเธอง่าย ๆ
“ตกลงแกอยากให้ชั้นแย้ง?” เจนนิเฟอร์ถามกลับพร้อมกับมองด้วยสายตากวน ๆ
“เปล่าหรอก แล้วเราสองคนต้องทำอะไรบ้างล่ะ” ซารีน่าถามถึงแผนการต่อไป
“เดี๋ยวชั้นจะทำเป็นเดินไปทักคุณโลกอสเองเพื่อดึงดูดความสนใจ เค้ายังไม่รู้ว่าชั้นเป็นเพื่อนแกคงไม่ระแวงอะไร แล้วแกก็จัดการลานประลองให้เรียบร้อยนะ” เจนนิเฟอร์กล่าว
“หา!? จัดการลานประลองให้เรียบร้อย?” ซารีน่าไม่เข้าใจความหมาย จัดการให้เรียบร้อยนี่คือกำจัดพวกสัตว์ที่ใช้ประลองตัวอื่น ๆ แล้วช่วยคลาร่าออกมาด้วยอย่างนั้นน่ะเหรอ
“ทำให้เร็วที่สุด แกถนัดเล่นทีเผลอไม่ใช่เหรอ อย่าลืมปิดหน้าปิดตาให้เรียบร้อยด้วยล่ะ” เจนนิเฟอร์พูดพร้อมกับขยับแว่นแล้วแสดงสีหน้าแบบเป็นทางการของเลขาฯ สาวของบริษัทยักษ์ใหญ่ทันที เธอพร้อมที่จะเข้าไปดึงดูดความสนใจจากเป้าหมายแล้ว
“เดี๋ยว ๆ เจน ชั้นยังไม่ได้เตรียมตัวเลย” ซารีน่าเอ่ยพร้อมกับหยิบผ้าผืนหนึ่งขึ้นมาพันใบหน้า ดูเหมือนเพื่อนของเธอจะไม่ยอมให้เสียเวลาอีกแล้ว ไม่รู้เหมือนกันว่าจะรีบไปไหน
ตูมม!!!
ทันใดนั้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหวก็ดังขึ้นมากลางลานประลองทันที ชายคนหนึ่งทำลายเกราะที่ป้องกันสนามประลองเอาไว้แล้วกระโดดลงไป ก่อนที่ทั้งสามสาวจะทันเคลื่อนไหวอะไรไปมากกว่านี้ ซึ่งทำเอาคนทั้งสนามประลองหันไปสนใจทันที
เกราะที่ป้องกันสนามประลองไม่ใช่สิ่งที่ทำลายกันได้ง่าย ๆ เพราะเป็นสิ่งที่ใช้ป้องกันอันตรายที่เกิดจากการประลองไม่ให้ไปสู่ผู้ชม และเป็นการป้องกันการแทรกแซงจากผู้ชมที่อยู่โดยรอบไปในตัวด้วย แต่ชายคนที่กระโดดลงไปนั่นกลับทำลายมันด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
“หยุดการประลองที่ไม่ยุติธรรมนี่เดี๋ยวนี้” ชายคนนั้นเอ่ยขึ้นมา เขาเป็นชายหนุ่มที่มีรูปร่างกำยำ หน้าตาแบบชาวเอเชีย ผิวค่อนข้างขาว ผมสั้นสีดำ สวมเสื้อแขนกุดสีเหลืองเผยให้เห็นกล้ามแขนที่สมส่วน สวมผ้าคลุมไหล่ข้างเดียวที่มีส่วนชายผ้าสีดำยื่นยาวออกมา กางเกงขายาวสีดำและรองเท้าบูทสีดำที่ยาวครึ่งแข้ง
“นั่นมัน” ซารีน่าอุทานออกมา เธอมองผู้เล่นที่อยู่ในสนามประลองตอนนี้ ถึงเธอจะไม่เคยเจอตัวจริงของเขาแต่แค่เห็นลักษณะก็พอจะรู้ว่าชายคนนั้นคือใคร
พรึ่บ~
ชายคนนั้นปลดผ้าคลุมไหล่ออกมาแล้วคลุมไปที่ร่างแม่หมาป่าสีขาวด้วยความทะนุถนอมราวกับว่าเขามาเพื่อปกป้องเธอ
“ไม่เป็นอะไรแล้วคลาร่า เดี๋ยวชั้นจะพาเธอออกไปจากที่นี่” ชายคนนั้นเอ่ยเบา ๆ กับหมาป่าสาวที่มีท่าทางอ่อนแรง
“แกมายุ่งอะไรด้วย!!” โลกอสแผดเสียงขึ้นมาทันที เขากำลังสำราญกับการทรมานเจ้าสัตว์ตัวนั้นอยู่ แต่แล้วกลับมาคนมาขวางเสียได้
“ใครมีปัญหาลงมาเจอกับชั้นที่นี่ เดี๋ยวนี้!” ชายเสื้อเหลืองที่ยืนอยู่กลางลานประลองเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่ก้องดัง
“เฮ้ย ชั้นจำได้ ไอ้หมอนั่นมันเคนริวใช่มั้ย”
“เคนริวไหน?”
“ก็หัวหน้ากิลด์มังกรอหังการที่เริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมาช่วงนี้ไง”
ผู้คนรอบข้างเริ่มพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้นกลางลานประลอง
“โอ้! น่าตื่นเต้นจริง ๆ ครับ รอบนี้กลายเป็นรอบพิเศษไปแล้ว ใครที่อยากจะประลองกับคุณเคนริวสามารถร่วมประลองได้เลยครับ” พิธีกรบรรยายออกมาอย่างตื่นเต้น
แล้วการเดิมพันก็เริ่มขึ้นทันที ตั้งแต่ให้ทายจำนวนผู้ที่จะเข้ามาประลอง จนถึงจำนวนคนที่เคนริวจะชนะได้
“แกตาย!!”
ทันใดนั้น ชายคนหนึ่งก็กระโดดออกมาจากอัฒจันทร์แล้วพุ่งตัวเข้าใส่เคนริวพร้อมกับง้างหมัดเข้าโจมตีด้วยความรวดเร็ว แต่ว่านักสู้เผ่ามังกรชุดเหลืองก็เตรียมรับมืออยู่แล้ว เขากระโดดสวนเข้าไปด้วยความเร็วที่มากกว่าผู้ที่พุ่งเข้ามาพร้อมกับยื่นจมูกเท้าเข้าปะทะเข้ากับใบหน้าของฝ่ายตรงข้าม
ปึ้ก! กร๊อบบ!!
เกิดแสงสว่างวาบขึ้นมาที่จุดปะทะ การเคลื่อนที่ของเคนริวนั้นเร็วเกินไปจนผู้ที่เข้ามาจู่โจมไม่ทันตั้งรับ หน้าผากของมันถูกแรงดันของเท้าดันให้ถอยไปอย่างแรงจนหน้าหงายไปด้านหลังพร้อมกับกระดูกคอที่หัก
ตุบ!
แล้วร่างของผู้ที่กระโดดเข้ามาก็ร่วงลงสู่พื้นแน่นิ่งไป ใบหน้าบริเวณที่ถูกกระแทกยุบเข้าไปดูสยดสยอง พร้อมกับคอที่หักแล้วยืดยาวออกมาเล็กน้อย ก่อนที่จะกลายเป็นแสงแล้วหายไปด้วยความรวดเร็ว
“พวกแกเข้าไปรุมมันให้หมดเซ่!!” โลกอสแผดเสียงสั่งลูกกิลด์ที่อยู่ตามจุดต่าง ๆ ของสนามประลอง ดูเหมือนคนที่พุ่งเข้าไปคนแรกนั่นก็เป็นคนของกิลด์มังกรคู่ด้วย
แล้วกลุ่มคนสิบกว่าคนก็พุ่งพรวดเข้าไปในลานประลองจากที่นั่งของคนดูโดยรอบ
แต่ยังไม่ทันที่ผู้โจมตีสามคนที่อยู่ใกล้ ๆ กันจะได้เอาเท้าสัมผัสพื้นลานประลอง ชายหนุ่มชุดเหลืองก็พุ่งตัวเข้าไปหาแล้ว
“กรงเล็บมังกร!!” เคนริวแผดเสียงออกมาพร้อมกับง้างฝ่ามือที่มีนิ้วงองุ้มอยู่เหมือนจะตะปบเป้าหมายทั้งสามจากด้านข้าง
เกิดเงาปราณเป็นรูปมังกรเลื้อยพันไปตามแขนของเคนริวโดยปากมังกรนั้นอยู่ตำแหน่งตรงกับฝ่ามือ เจ้ามังกรกำลังอ้าปากเตรียมจะงับเหยื่อของมันให้แหลกอยู่
ฮูมม!! ฉัวะ!!!
และเมื่อนักสู้มังกรวาดแขนออกมา เงามังกรก็พุ่งทะลุร่างชายทั้งสามไปพร้อมกับฉีกมันนั้นออกเป็นชิ้น ๆ ก่อนที่จะร่วงลงมาเป็นเศษเนื้อกองหนึ่งแล้วสลายไป
ผู้ชมทั้งหลายต่างมองอย่างตกตะลึง พวกเขาไม่คิดว่าผู้เล่นคนหนึ่งจะสามารถสยบผู้เล่นคนอื่นได้ง่ายแบบนี้ ถึงจะเก่งอย่างไรแต่ก็น่าจะมีความสูสีกันมากกว่านี้ นี่เล่นฆ่าคนไม่กระพริบตาแบบง่าย ๆ ไปสี่คนรวด ดูน่าเหลือเชื่อจนเกินไป
“รวมร่าง!!” เสียงคนกลุ่มหนึ่งที่อยู่อีกด้านตะโกนขึ้นมา พร้อมกับการสวมเกราะผู้ติดตาม สัตว์อสูรที่เป็นคู่ต่อสู้ของคลาร่าในตอนแรกเปลี่ยนเป็นเกราะแล้วรวมเข้ากับคนอีกสิบคน กลายเป็นผู้เล่นที่สวมชุดเกราะรูปสัตว์อสูรต่าง ๆ
คนทั้งสิบคนกระจายกันออกไปแล้วล้อมเคนริวเอาไว้ทันที
แต่ยังไม่ทันที่คนทั้งสิบจะเข้าล้อมได้เรียบร้อย เคนริวกลับพุ่งสวนออกมาแล้วเตะเข้าใส่ลำคอศัตรูที่สวมชุดเกราะรูปงู เท้าของนักสู้มังกรเกี่ยวแล้วกระชากคอของคู่ต่อสู้ลงพื้นทันที
ปั้ก!! อ๊ากกก!!
แล้วเคนริวก็หมุนตัวครึ่งรอบใช้เท้าข้างที่ดึงศัตรูลงมาป่นคอของมันก่อนจะส่งเท้าอีกข้างลงกระทืบหัวของนักสู้ชุดงูจนแหลกเหลวไป
โพละ!!
กระโหลกแตก ของเหลวสีเทาปนเลือดสีแดงสาดกระจายเต็มพื้น ก่อนที่ร่างของนักสู้ชุดงูจะสลายไป
“แก!! ดีแต่เล่นทีเผลอชัด ๆ แน่จริงก็...อั้ก!!”
ขณะที่นักสู้ในชุดเกราะรูปหมีสีน้ำตาลจะพูดอะไรออกมา กำปั้นของนักสู้มังกรก็กระแทกเข้าไปที่ลิ้นปี่ของมันจนกระอักเลือดออกมาแล้ว
ปึ้ก!! ปึ้ก!! ปึ้ก!! ปึ้ก!!
แล้วเคนริวก็ส่งหมัดรัวเข้าไปที่ร่างของนักสู้ชุดหมีสีน้ำตาลจนร่างของมันกระตุกไปทั้งตัวแบบไม่สามารถตอบโต้ออกมาได้อีก
“อัตต๊า!!”
เคนริวส่งเสียงออกมาพร้อมกับส่งหมัดสุดท้ายออกมา ก่อนจะยืนนิ่งเป็นท่าจบหมัดชุด ซึ่งช่วงเวลาที่เขายืนนิ่งนั้นเป็นจังหวะเพียงพริบตาเดียวเท่านั้น
ปึ้ก!!
ร่างของนักสู้ชุดหมีสีน้ำตาลลอยถอยไปเพียงหนึ่งเมตรแล้วก็ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ก่อนที่นักสู้ในชุดสิงสาราสัตว์คนอื่น ๆ จะพุ่งเข้ามาโจมตีเคนริว
แต่ในจังหวะที่ทุกคนเข้าโจมตีร่างของนักสู้มังกร เคนริวก็ถีบตัวไปข้างหน้าด้วยความรวดเร็ว ร่างของเขาเหมือนหายไปแวบหนึ่งแล้วไปปรากฏอยู่ที่ด้านหลังของนักสู้ชุดหมีในท่าหลังชนกัน แล้วเคนริวก็ส่งพลังกระแทกกลับหลัง ส่งร่างของนักสู้ชุดหมีสีน้ำตาลที่ยืนค้างอยู่เข้ามาตรงกลางวงของนักสู้คนอื่น ๆ ทันที ก่อนที่เขาจะพุ่งไปข้างหน้าเพื่อทิ้งระยะออกมาจากการโจมตีของเขาเอง
ปึ้ก!! ตูมม!!
แล้วร่างของนักสู้ชุดหมีก็ระเบิดออกมาทันที แรงระเบิดรุนแรงจนกระทั่งร่างนักสู้อื่น ๆ กระเด็นออกมาราวกับเศษกระดาษที่ถูกลมเป่าให้กระจายออกมา
ร่างของแต่ละคนปลิวไปกระแทกกับพื้น บางคนแขนขาด บางคนขาขาด บางคนก็กลายเป็นแสงหายไปเลย สุดท้ายจึงเหลือร่างของนักสู้ที่ไม่สมประกอบนอนกับพื้นร้องโอดโอยอยู่สามคนเท่านั้นเอง โดยที่เคนริวยังไม่ถูกโจมตีเลยแม่แต่น้อย
เฮ~~!!!
เสียงผู้ชมโดยรอบเฮลั่นออกมาทันที เขาไม่เคยเห็นนักสู้คนไหนสู้ด้วยลีลาสวยงามและรุนแรงแบบนี้มาก่อนเลย มันเป็นความประทับใจที่ทำให้หัวใจสูบฉีดด้วยความตื่นเต้น
“สุดยอดเลย ข้าไม่เคยเห็นใครเก่งขนาดนี้มาก่อน ชักอยากจะเข้าไปร่วมประลองด้วยซะแล้วสิ” ริวเน่เอ่ยออกมาพร้อมกับมองด้วยสายตาที่ตื่นเต้น
“จะบ้าเหรอริวเน่ ประลองไปก็ตายเปล่าน่า เธอสู้เค้าไม่ได้หรอก” เจนนิเฟอร์เอ่ยห้ามทัพผู้ติดตามของเธอ
พริบตานั้นชายผู้เป็นหัวหน้ากิลด์มังกรคู่ก็เคลื่อนไหว
โลกอสชักดาบคู่กายของเขาแล้วกระโดดพุ่งออกไปพร้อมกับยกแขนทั้งคู่ง้างพร้อมฟันทันทีที่เป้าหมายอยู่ในระยะ ดาบของโลกอสเป็นดาบตรงมีคมสองด้าน ใบดาบกว้างและหนาแบบดาบของอัศวินในยุคกลาง ซึ่งให้ภาพลักษณ์ของอัศวินผู้กล้า
แต่นักสู้มังกรก็ไม่ได้ยืนเฉย ๆ เขาพุ่งเข้าไปหวังว่าจะทำลายระยะและเปิดฉากโจมตีก่อนเหมือนที่ผ่าน ๆ มา
ฟิ้ว!! ตูมม!!
แต่แล้วเมื่อเคนริวเข้าสู่ระยะโจมตี มันกลับไม่เป็นเหมือนที่ผ่าน ๆ มา เมื่อดาบของโลกอสตวัดลงมาราวกับเครื่องประหารที่จะตัดร่างของนักโทษให้แยกออกจากกันอย่างได้จังหวะ คมดาบพุ่งกระแทกลงพื้นเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวพร้อมกับฝุ่นดินที่กระจายออกมา
ร่างของนักสู้มังกรกระโดดถอยออกมา ที่แขนทั้งคู่ของเขามีบาดแผลที่เกิดจากดาบอยู่ด้วย บ่งบอกว่าดาบของโลกอสเข้าเป้า แต่ร่างของหัวหน้ากิลด์มังกรคู่ก็พุ่งตามออกมาด้วยความเร็วที่ไม่ได้ต่างกันมากนัก ดาบของโลกอสง้างไปด้านข้างเตรียมตัวที่ฟาดฟันอีกครั้งเมื่อได้ระยะ
ฉัวะ!! ปึ้ก!!
คมดาบของโลกอสกวาดไปตามขวาง ตั้งใจที่จะตัดร่างของนักสู้มังกรออกเป็นสองส่วน แต่นักสู้มังกรกลับเกร็งปราณต้านรับเอาไว้ได้ ส่งผลให้ดาบของโลกอสในครั้งนี้ไม่ตัดเขาออกเป็นสองเสี่ยง แต่ก็ทำให้ร่างของเขากระเด็นออกมาจนไปกระแทกกำแพงของลานประลองที่อยู่ห่างกว่ายี่สิบเมตรทีเดียว
ตูมม!!
แรงกระแทกทำให้กำแพงของลานประลองพังลงมาทีเดียว ฝุ่นควันยังคงฟุ้งออกมาจนคลุมร่างของนักสู้มังกร แต่โลกอสก็ไม่ได้รอช้า เขาถีบตัวแล้วโจมตีต่อเนื่องไปทันที มันเป็นโอกาสของเขาแล้วที่จะจบการประลองอันไร้สาระนี้
“โลกอสคะ!!”
ในจังหวะนั้นเอง หญิงสาวบนที่นั่งคนดูก็ตะโกนขึ้นมาทันที เธอคือซารีน่านั่นเอง โลกอสจำเสียงของเธอได้ เขาเสียสมาธิไปเพียงวูบเดียวเพื่อมองไปยังต้นเสียงที่เรียกชื่อเขา
ปึ้ก!!
เพียงพริบตาเดียว ท่อนกระบองก็ฟาดเข้าไปกลางกระหม่อมของโลกอส มันคือกระบองสองท่อนของเคนริวนั่นเอง นักสู้มังกรควักอาวุธก้นหีบของเขาออกมาเมื่อเห็นว่ามือเปล่าสู้โลกอสไม่ได้ เพียงแต่ไม่มีใครคาดคิดว่าโลกอสจะมาเสียสมาธิในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ ร่างของนักดาบมังกรนิ่งค้างไปทันทีเมื่อโดนกระแทกจุดสำคัญ
“อ๊า! ต๊ะ! ต๊ะ! ต๊ะ! ต๊ะ! ต๊ะ!”
เคนริวแผดเสียงออกมาพร้อมกับรัวกระบองสองท่อนออกมาไม่หยุด กระบองร้อยโซ่ถูกเหวี่ยงออกมาในมุมต่าง ๆ กันด้วยความรวดเร็วเกินกว่าที่จะตั้งตัวได้ เคนริวควงกระบองอย่างชำนาญฟาดเข้าไปที่ใบหน้า แขน ขา ลำตัวของคู่ต่อสู้ไม่หยุด
ปึ้ก! ปึ้ก! ปึ้ก! ปึ้ก! ปึ้ก! ปึ้ก!
แล้วจังหวะสุดท้ายเคนริวก็รวบกระบองสองท่อนเข้าด้วยกันแล้วหันปลายกระบองทั้งคู่พุ่งเข้ากระแทกไปที่ลิ้นปี่ของโลกอสอย่างรุนแรง ร่างของโลกอสเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำยืนนิ่งไม่ไหวติง มีเพียงเลือดที่ออกมาตามจมูก หู และปากเท่านั้นที่ยังเคลื่อนไหวอยู่
“อัตต๊า!!!”
เท้าของเคนริวก็ถูกเหวี่ยงออกมากวาดเอาร่างของโลกอสให้ปลิวออกไปตามแรงเตะทันที
ปึ้ก!!
แล้วร่างของโลกอสก็สลายไปขณะที่ลอยไปในอากาศนั่นเอง
“ไปตายซะเถอะเจ้าโง่”
ซารีน่าเอ่ยออกมาเหมือนกับจะบอกว่า ที่เธอเรียกโลกอสเอาไว้เพื่อจะพูดประโยคนี้ใส่เขานั่นแหละ
คอมโบร้องทักของซารีน่า ช่างร้ายกาจ
ความคิดเห็น