คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : บทที่18: เวทอสูร
บทที่18 เวทอสูร
เวท, เวท- : ถ้อยคำศักดิ์สิทธิ์ที่ผูกขึ้นเป็นมนตร์หรือคาถาอาคม เมื่อนำมาเป่าหรือบริกรรมตามลัทธิวิธีที่มีกำหนดไว้ สามารถให้ร้ายหรือดี หรือป้องกันอันตรายต่างๆตามคติไสยศาสตร์ได้ |
ด้วยนิยามอันนี้ มาตาร์จึงไม่ค่อยชอบเวทมนตร์เท่าไหร่ เพราะมันเชื่องช้า ตายตัว และที่สำคัญ มันไม่เท่!
‘ระหว่างสู้กันให้มานั่งเสกนั่งเป่านั่งท่องมนตร์เรอะ ใช้หมัดอัดกันเร็วกว่ามั้ยอ้ะ’ ด้วยความคิดแบบนี้มาตาร์จึงไม่ค่อยให้ความสำคัญกับเวทมนตร์มากนัก
จนกระทั่งได้เห็นเจ้ามารเสื้อแดงคนนั้น!! ...ดันเต้แห่งกิลด์มารครวญได้เปิดมุมมองใหม่ๆให้มาตาร์
‘ใช้เวทมนตร์ก็ยังเท่ได้!!’ แถมการปล่อยเวทมนตร์ของดันเต้ยังรวดเร็วมากอีกด้วย ‘หลักในการใช้เวทของเกมนี้แตกต่างจากเกมอื่นๆขนาดไหนนะ’
มาตาร์ยังคงนั่งแกว่งเท้าจ้องมองสายน้ำในลำธารเล็กๆนี้ไหลไปเรื่อยๆ
ผ่านไปสองชั่วโมง มาตาร์ก็ยังไม่รู้สึกถึงอะไรทั้งนั้น
‘นี่มันง่ายกว่าปราณตรงไหนเนี่ย แค่ไม่ตายเท่านั้นเอง แต่เสียเวลาชะมัดยาด’
“เฮ้~อ” มาตาร์ถอนหายใจแล้วก็หงายตัวนอนลง
“ว้าย!”
“อุ้ย!”
หัวของมาตาร์นอนลงบนตักของหญิงสาวนัยน์ตาสีมรกตพอดี ทำเอาหญิงสาวอุทานออกมาด้วยความตกใจ มาตาร์ก็ตกใจเหมือนกันเลยสะดุ้งตัวขึ้นทันที
“เมโลดี้มานั่งทำอะไรตรงนี้!?” มาตาร์ยันตัวขึ้นนั่งแล้วเอี้ยวตัวมาทางหญิงสาว
“ก็หนูทำภารกิจเสร็จแล้วก็เลยมานั่งรอพี่ตรงนี้อ่ะค่ะ เห็นพี่มาตาร์กำลังตั้งใจก็เลยไม่กล้ารบกวน” หญิงสาวตอบ ตอนนี้หน้าเธอแดงถึงใบหูเลย
“เอ๋!?” มาตาร์ตกตะลึง ‘นั่งเฉยๆมันสำเร็จภารกิจเสริมเวทนี้ได้จริงๆด้วยเหรอเนี่ย’
“เมลทำสำเร็จตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ?” มาตาร์ย่อชื่อหญิงสาวให้สั้นลงเพื่อความสะดวก
“เอ่อ ทำสำเร็จตั้งแต่สิบนาทีแรกที่เข้ามาแล้วล่ะค่ะ” หญิงสาวหน้าแดงขึ้นไปอีกที่ได้ยินชายหนุ่มเรียกเธออย่างสนิทสนม
ชายหนุ่มตกตะลึงอีกครั้ง “ทำไมทำเสร็จแล้วไม่เรียกพี่อ้ะ จะได้ให้ช่วยสอนมั่ง”
หญิงสาวเงียบไป ก้มหน้าก้มตาไม่ตอบ ซึ่งจริงๆเธอก็บอกไปแต่แรกแล้วว่าทำไมถึงไม่เรียก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็มีความสุขที่ได้นั่งรอชายหนุ่ม
มาตาร์เห็นหญิงสาวนิ่งเงียบไปก็ไม่ได้คะยั้นคะยออะไร
“แล้วมันทำยังไงอ้ะ พอจะสอนพี่มั่งได้มะ” มาตาร์ถามวิธีที่จะทำให้สำเร็จภารกิจนี้ ถ้าหญิงสาวคนนี้ทำสำเร็จได้ในสิบนาที หมายความว่าเธอน่าจะมีความเชี่ยวชาญพอที่จะบอกเขาได้
หญิงสาวมองตาชายหนุ่มตาแป๋ว แล้วก็กระพริบตาปริบๆ เหมือนกับจะบอกว่า ‘ทำไมถึงทำไม่ได้มันง่ายจะตาย’
“เอ่อ ...ทำไมเหรอเมล?” ชายหนุ่มสงสัยว่าทำไมหญิงสาวถึงทำหน้าอย่างนั้น
“แบบนี้ไงคะ” หญิงสาวตอบหน้าเรียบๆแล้วหงายมือออกมา พลันมีลูกบอลแสงกลมๆลอยขึ้นมา
มาตาร์มองแล้วก็รู้สึกทึ่ง แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ‘มันต้องบอกว่าทำยังไงถึงจะทำได้ตะหาก ไม่ใช่ทำให้คูสิ’
“เอ่อ ...แบบนี้?” มาตาร์ลองหงายมือดูบ้าง แต่ก็ไม่มีอะไรออกมา ‘ก็แน่ล่ะสิ ตูยังไม่รู้สึกถึงอะไรซักอย่าง’
“พี่มาตาร์ไม่รู้สึกหรอกเหรอคะ?” หญิงสาวถามชายหนุ่มด้วยสีหน้างงๆ เหมือนกับจะบอกว่า‘รู้สึก’ของเธอมันเป็นเรื่องธรรมดาสามัญที่ใครๆก็มีกัน
“ไม่เลยซักนิด ‘รู้สึก’อะไรล่ะ?” มาตาร์ก็ยังงงอยู่ดี ‘จะคุยกันรู้เรื่องมั้ยเนี่ย’
“อืมมันอธิบายยากนะคะ แบบว่า ...กระแสน่ะค่ะ” หญิงสาวพยายามอธิบาย
“อืม ...กระแส...?” มาตาร์พยายามทำความเข้าใจกับคำอธิบายของหญิงสาว
ในเวลานี้เขานึกถึงพนักงานสาวทั้งหลายที่เคยอธิบายให้เขาเข้าใจระบบของเกมซะเหลือเกิน เพราะสาวๆพวกนั้นสามารถอธิบายสิ่งที่เขาไม่เข้าใจได้เป็นอย่างดี พอมาเจอแบบนี้แล้วมัน...
“เวลาต่อสู้พี่ไม่รู้สึกเหรอคะ มันก็มีตลอดเวลานี่คะ” หญิงสาวพยายามยกตัวอย่าง เผื่อพี่ชายคนนี้จะเข้าใจ
“เวลาต่อสู้เมลรู้สึกถึงกระแสอะไรนั่นด้วยเหรอ” มาตาร์เริ่มเอะใจในคำตอบของหญิงสาว ‘มีอะไรรำไรๆให้เห็นแล้ว’
“มันคล้ายๆกันน่ะค่ะ แต่ไม่ใช่แบบเดียวกันนะคะ” เมโลดี้เริ่มทำหน้าครุ่นคิดเหมือนกับจะพยายามอธิบายถึงคำพูดที่ถูกต้อง
“แล้วเวลาต่อสู้ ของเมโลดี้มันเป็นแบบไหนล่ะ” มาตาร์คิดว่าการยิงคำถามที่ถูกต้องอาจจะทำให้คำตอบที่เขาต้องการออกมาจากหญิงสาวคนนี้ก็ได้
“ก็เวลาต่อสู้ ก็มีกระแสพลังของศัตรูไงคะ” เมโลดี้ตอบ
“โห เวลาต่อสู้เมโลดี้รู้สึกถึงพลังของศัตรูด้วยเหรอ” มาตาร์ชักเริ่มสนใจเรื่องนี้มากกว่าเวทมนตร์แล้ว
“ก็เวลาที่หนูมองศัตรูเคลื่อนไหว มันก็จะมีกระแสบอกว่า เขาจะเข้ามาทางไหน จะโจมตียังไง” เมโลดี้ตอบเหมือนกับมันเป็นเรื่องปกติ
“รู้ว่าจะโจมตียังไงเลยเหรอ อย่างนี้ก็หลบได้หมดเลยสิ” มาตาร์รู้สึกทึ่ง ‘อย่างนี้ไม่ไร้เทียมทานแล้วเหรอเนี่ย’
“ปกติจะหลบก็ได้ค่ะ แต่อาจารย์ของหนูบอกว่าให้ย้อนกระแสนั้นกลับไปโจมตีเจ้าของจะเหมาะกว่า” คำตอบนี้ของหญิงสาวทำเอามาตาร์ยิ่งตกตะลึง
‘เฮ้ย ถ้างั้นยิ่งโจมตีแรงๆใส่แม่นี่ ก็ยิ่งโดนแรงๆตอบกลับสิ เหมือนต่อยตัวเองยังไงยังงั้น’ มาตาร์เริ่มนึกถึงการต่อสู้ของหญิงสาวคนนี้ได้รางๆ เมื่อบ่ายมานี้ เมโลดี้ทำให้โจรที่มีระดับมากกว่าเธอมาก สลายกลายเป็นแสงไปหลายคนทั้งๆที่ตัวเธอมีระดับแค่หนึ่ง
‘มันคือการย้อนกระแสที่ว่าเองเหรอเนี่ย ใช้พลังของคนอื่น ไม่ใช้พลังของตัวเอง หืม?...คนอื่น!!’ มาตาร์เหมือนจะนึกอะไรบางอย่างได้จากกระแสที่ว่านี้
มาตาร์กลับมานั่งครุ่นคิดกับตัวเอง
‘ถ้ากระแสที่เมโลดี้ว่ามันมาจากคู่ต่อสู้ แล้วขณะที่อยู่ในห้องนี้มันมีกระแสของอะไรล่ะ?’ มาตาร์เริ่มเห็นเค้ารางๆ
‘เวทมันต้องต่างจากจิตกับปราณแน่นอน ไอ้จิตนี่เรายังไม่รู้ แต่ปราณนี่มันมาจากกำลังภายในร่างกายเราเอง ...หรือว่า!!’
มาตาร์หงายมือขึ้นข้างหนึ่ง โคจรลมปราณใส่มือออกมาตามความเคยชิน เส้นแสงสีขาวบางๆไหลไปตามแขน แล้วมารวมกันที่มือ หลังจากนั้นเขาก็สลายพลังจนหมดสิ้น รับรู้ถึงพลังอีกอย่างที่เข้ามาแทนที่ ‘นี่ไง! ไอ้นี่แหละ!’
เมโลดี้ไม่แม้จะไม่เข้าใจว่าชายหนุ่มจะทำอะไรแต่ก็มองดูด้วยความสนใจ
มาตาร์ลองทำแบบเดิมอีกครั้ง คราวนี้เขาโคจรพลังปราณเต็มที่ แสงสีขาววิ่งหมุนไปตามมืออย่างรวดเร็ว แล้วพอเขาสลายพลังอย่างทันที
ฟู่วว!
ก้อนแสงสีขาวผุดขึ้นมาในมือของเขา
“ผู้เล่นมาตาร์ปฎิบัติตามเงื่อนไข สามารถใช้เวทมนตร์ได้ค่ะ” เสียงจากระบบดังขึ้นมา
มาตาร์รู้สึกเหนื่อยมากจากการโคจรลมปราณอย่างหนัก แต่เขาก็รู้แล้วว่าเวทมนตร์คืออะไร
“แฮกๆ โอยเหนื่อยเว่ย” มาตาร์บ่นออกมา
“พี่มาตาร์ทำอะไรเหรอคะ หนูไม่เห็นเข้าใจเลย” หญิงสาวที่เห็นการกระทำของมาตาร์ยังต้องแปลกใจ ทั้งๆที่เธอใช้เวทมนตร์ได้ก่อนแล้ว
“มันคือพลังธรรมชาติ พลังภายนอกไงล่ะ” มาตาร์พูดขึ้นมา
“ค่ะ” เมโลดี้ขานรับเหมือนกับรู้อยู่แล้วว่าเวทมนตร์คือก็สิ่งที่ชายหนุ่มพูดนั่นแหละ
“ฮ่าๆๆๆ”
มาตาร์มองหน้าเมโลดี้แล้วก็ต้องหัวเราะออกมา เพราะคำอธิบายของเธอมันไม่ได้เรื่องเลย ปล่อยให้เขาคิดจนสำเร็จออกมาได้ ทั้งๆที่มันไม่น่าจะอธิบายยากอย่างนั้นเลยแท้ๆ แต่ก็เป็นเพราะเธออีกนั่นแหละ ที่ทำห้เขาคิดได้ ถ้าเมโลดี้ไม่ได้อยู่กับเขาตอนทำภารกิจนี้ ไม่รู้ว่าจะทำสำเร็จหรือเปล่า
“พี่มาตาร์ขำอะไรเนี่ย” เมโลดี้ทำหน้าแหย มองหน้าชายหนุ่ม เธอไม่เข้าใจความรู้สึกของเขาเลย จู่ๆก็หัวเราะออกมา
ที่มาตาร์ทำลงไปนั้นคือการใช้กำลังภายในแน่นอนไม่ใช่พลังเวท แต่มาตาร์เร่งกำลังภายในออกมาให้สูงสุด แล้วปลดมันออก เพื่อรับรู้‘สัมผัส’หรือ‘กระแส’จากภายนอกนั่นเอง
มันจะเป็นห้วงเล็กๆเหมือนการเคลื่อนที่ของอากาศ เมื่อกำลังภายในหายไป กำลังภายนอกก็เข้ามาแทนที่ และเมื่อเขาจับกระแสกำลังภายนอกนั้นได้ เขาก็เข้าใจหลักการดึงกำลังภายนอกหรือพลังธรรมชาติมาใช้นั่นเอง และนี่คือหลักเวทมนตร์ของเกมจ็อคออนไลน์
“ไม่มีอะไรหรอก ออกจากที่นี่กันเถอะ” มาตาร์เปลี่ยนเรื่อง ชวนหญิงสาวออกจากห้องที่มีแต่ต้นไม้และธรรมชาตินี่
“ยินดีด้วยค่ะ คุณมาตาร์กับคุณเมโลดี้” แม่มดสาวเจ้าของภารกิจเห็นทั้งสองเดินออกมาก็รู้ว่าคนคู่นี้ทำสำเร็จแล้ว
“ตอนนี้ผมสามารถใช้เวทอะไรก็ได้แล้วใช่มั้ยครับ อย่างเวทอักษรอะไรเงี้ยะ” ท่าทางมาตาร์จะประทับใจเวทอักษรของดันเต้มาก
“ไม่ใช่ค่ะที่คุณมาตาร์มีตอนนี้เค้าเรียกกันว่าพื้นฐานเวทมนตร์ มันเป็นเพียงพลังธรรมชาติที่ถูกคุณเหนี่ยวนำมาใช้ในรูปบริสุทธิ์เท่านั้น ถ้าคุณไม่มีสายเวทมนตร์มันก็เป็นได้แค่ก้อนพลังแบบนั้นแหละค่ะ” แม่มดสาวให้รายละเอียด
“แล้วผมจะหาไอ้ที่เรียกว่า‘สาย’เวทมนตร์ได้จากไหนล่ะครับ” มาตาร์ถามแม่มดสาวด้วยความสงสัย
“คุณมาตาร์ต้องหาเอาเองค่ะ หรือจะสร้างมันขึ้นมาเองก็ได้ เกมนี้ไม่มีกรอบหรอกค่ะ แต่จำไว้นะคะ คุณมาตาร์จะมีเวทมนตร์ได้แค่หนึ่งสายเท่านั้น ถ้าคุณมาตาร์เรียนรู้สายที่สองได้ ระบบจะให้คุณมาตาร์เลือกเพียงหนึ่งค่ะ มันจะทำให้เกมนี้สนุกขึ้น เว้นเสียแต่ว่าคุณมาตาร์จะเป็นเผ่ามาร ซึ่งสามารถรับเวทได้สองสาย” แม่มดสาวให้ข้อมูล
“ฮ้า!? เผ่ามารรับได้สองสาย ในขณะที่เผ่าอื่นๆรับได้สายเดียวเนี่ยนะ อย่างนี้คนอื่นก็เล่นกันแต่เผ่ามารน่ะสิ” มาตาร์ตกใจที่เผ่ามารดูเหมือนจะโกงเผ่าอื่นอยู่พอสมควร
“คุณมาตาร์ลืมอะไรไปรึเปล่าคะ เผ่ามารใช้พลังจิตไม่ได้ ในขณะที่เผ่าอื่นใช้พลังจิตได้นะคะ” แม่มดสาวเตือนเรื่องความสามารถอีกชนิดหนึ่ง
“อืม ...หรือว่าพลังจิตมันมีความสามารถเทียบได้กับเวทอีกสายนึงเลยเหรอ ได้ยินมาว่ามันแค่ช่วยเรื่องการเคลื่อนที่เล็กๆน้อยๆเองไม่ใช่เหรอครับ” มาตาร์ทบทวนถึงเรื่องที่เขาได้ฟังมาจากนาตาลี NPC สาวจากอาคารรับรองที่ถนนทางเลือก ซึ่งเรื่องเผ่ามังกรที่ใช้ไม่ได้ทั้งเวททั้งพลังจิตไม่มีอะไรข้องใจ เพราะแค่ปราณมังกรที่แปลงธาตุได้ห้าธาตุก็ถือว่าเหนือล้ำกว่าเผ่าอื่นๆไปไกลแล้ว ‘ตอนนั้นที่คุณนาตาลีบอกว่าเผ่ามารมีความหลากหลายในการใช้เวทที่ช่วยชดเชยเรื่องใช้พลังจิตไม่ได้ พอมาตอนนี้กลับรู้สึกว่า พลังจิตมันจะเทียบกับเวทสองสายได้เหรอเนี่ย’
“คุณมาตาร์ต้องลองสัมผัสด้วยตัวเองค่ะ ดิชั้นมีหน้าที่แค่แนะนำในเรื่องที่เกี่ยวกับเวทมนตร์เท่านั้น” แม่มดสาวเปลี่ยนหัวข้อ
“อืม งั้นคุณสามารถแนะนำได้มั้ยครับว่าไอ้สายเวทมนตร์นี่มันมีอะไรบ้าง” มาตาร์ยังต้องการข้อมูลมากกว่านี้
“ถ้าอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม ลองไปที่ร้านเวทมนตร์ดูสิคะ ที่นั่นมีทั้งอุปกรณ์และคัมภีร์เวทด้วย” แม่มดสาวแนะนำ
หลังจากที่มาตาร์ได้แหล่งข้อมูลแล้ว เขาก็ไปดูแผนที่ที่ลานกลางเมือง เพื่อหาว่าร้านเวทมนตร์อยู่ที่ไหน
‘เพิ่งรู้นี่แหละว่ามีร้านเวทมนตร์ในเมืองด้วย’ มาตาร์ยืนอยู่กับเมโลดี้ กำลังหาว่าไอ้ร้านนั้นมันอยู่ที่ไหน
“เมล!!” เสียงหญิงสาวคนหนึ่งร้องขึ้นมาทางทั้งคู่
มาตาร์หันไปตามเสียงเห็นหญิงสาวคนหนึ่ง ผิวสีน้ำผึ้ง ทรงผมสั้นสีขาวดำ นัยน์ตาสีดำ รูปตาคมโตเป็นประกาย รูปหน้าสมส่วน ใส่ชุดผู้เล่นใหม่
ราตรี | ระดับ1 |
มาตาร์ยังคงแอบส่องตามนิสัย
“รัต!! มาได้ไงเนี่ย ไหนว่าไม่ว่างไง” เมโลดี้หันไปตามเสียงก็ร้องขึ้นมาอย่างตกใจเหมือนกัน
“โชคดีจริงๆที่ชั้นเจอแก แล้วเล่นไปถึงไหนแล้วล่ะ” หญิงสาวผิวเข้มเหมือนไม่สนใจในสิ่งที่เพื่อนสาวพูดเลย
“เพิ่งทำภารกิจเวทมนตร์ได้น่ะ กำลังจะไปร้านเวทมนตร์” เมโลดี้ตอบกลับ
“แล้วแกอยู่กับใครน่ะ” สาวผิวเข้มหรี่เสียงทำท่ากระซิบ
“อ้อ!! ลืมไปเลย พี่มาตาร์คะ นี่เพื่อนหนู‘ราตรี’ค่ะ แล้วก็รัต นี่พี่มาตาร์” เมโลดี้แนะนำชื่อให้ทั้งสองฝ่ายรู้จักกัน
มาตาร์พยักหน้ารับ ส่วนแม่สาวกลางคืนก็ยิ้มกลับพยักหน้าแล้วลากเพื่อนสาวออกไปกระซิบ
“แกไปรู้จักเค้าได้ยังไงน่ะ เค้ามาหลอกจีบแกป่าว?” ราตรีกระซิบทำท่าพยักพเยิดมองมาทางมาตาร์
“ไม่ใช่หรอกน่า ชั้นเป็นคนทักเค้าก่อนนะ” เมโลดี้แก้ความเข้าใจผิดของเพื่อนสาว
“อะไร!! แกไปทักเค้าก่อนเหรอ แล้วคุณมัลโก้ล่ะ แกเอาเค้าไปไว้ไหน” ราตรีเตือนเพื่อนสาว
“ไม่ใช่นะรัต ชั้นมาเล่นเกมเฉยๆนะ นี่เพื่อนที่เจอในเกมเท่านั้นเอง” เมโลดี้พูดแบบนั้นแต่ก็มีน้ำเสียงกระอักกระอ่วน
“ระวังไว้เถอะแก ถ้าคุณมัลโก้รู้ได้ตามมาเฉ่งแกแน่” ราตรีน้ำเสียงออกสดใสเหมือนต้องการจะแกล้งเพื่อนสาวให้ร้อนใจ
“เอ้อ เมโลดี้ พี่จะไปร้านเวทมนตร์ก่อนละนะ ไหนๆก็เจอเพื่อนแล้วนี่” มาตาร์เห็นสองสาวคุยกันท่าจะนาน เขาเลยอยากจะไปร้านเวทมนตร์ก่อน
“เดี๋ยวค่ะพี่มาตาร์ให้หนูไปด้วย หนูก็อยากมีเวทมนตร์ใช้เหมือนกัน” เมโลดี้ได้ยินชายหนุ่มเปลี่ยนวิธีเรียกชื่อตัวเองไปก็แอบสลดนิดหน่อย แล้วก็ฉุดเพื่อนสาวเดินไปด้วยกัน
ทั้งสามจึงเดินมาด้วยกันจนถึงร้านเวทมนตร์ โดยระหว่างทางไม่ได้คุยอะไรกันเลย
“สวัสดีครับ เชิญครับ” เจ้าของร้านตัวอ้วนไว้หนวดเคราขาวโพลนหน้าตาใจดีเอ่ยทักทายผู้มาเยือนทั้งสาม
“เอ่อ ผมเพิ่งสำเร็จภารกิจเสริมเวทน่ะครับ จะมาหาเวทมนตร์ใช้ซักหน่อย” มาตาร์เอ่ย
“อืม อยากได้เวทสายไหนเป็นพิเศษรึเปล่าครับ” เจ้าของร้านถาม
ขณะนั้นหญิงสาวอีกสองคนก็เดินไปรอบๆเพื่อดูอุปกรณ์เวทมนตร์รูปร่างแปลกตาหลายอย่าง
“เวทอักษรครับ มีมั้ยครับ” มาตาร์บอกความต้องการของตนเอง
“อืม ที่เมืองเริ่มต้นนี่คงไม่มีหรอกครับ หลักๆก็มีเวทสายธาตุธรรมชาติ เวทสายวงกับดัก เวทดนตรี เวทรักษา” เจ้าของร้านให้ข้อมูล
“อ๊ะ!อันนี้อะไรคะ” เมโลดี้เห็นหินรูปร่างแปลกตาที่ดูเหมือนมีชีวิตจึงถามขึ้นมา
“อ้อ อันนั้นเป็นหนึ่งในเวทอสูรครับ มีนักล่าจากทวีปอื่นเอามาขายให้” เจ้าของร้านตอบ
“เวทอสูร? แบบที่ใช้เรียกสัตว์อสูรมาช่วยสู้แบบนั้นรึเปล่าครับ” มาตาร์ถามคามความเข้าใจจากชื่อของสายเวท
“มันก็คล้ายๆแบบนั้นแหละครับ มันจะมีเวทอัญเชิญกับเวทอสูรนี่แหละครับที่คล้ายๆกัน แต่มันก็ต่างกันนะครับ” เจ้าของร้านให้ข้อมูล
“เวทอัญเชิญเวลาใช้จะเสียพลังวิญญาณตามเวลาที่ใช้ ยิ่งเรียกออกมานานก็จะยิ่งเสียพลังเยอะขึ้นเรื่อยๆ ส่วนใหญ่มีแต่เผ่ามารแหละครับที่มีพลังวิญญาณสูงพอที่จะใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนเวทอสูรจะเสียเป็นครั้งๆไปต่อการเรียก ส่วนใหญ่ก็จะออกมาแป๊บเดียวเหมือนออกมาโจมตีให้ครั้งนึงแล้วก็กลับไปน่ะครับ” เจ้าของร้านตัวอ้วนอธิบาย
“อืม...” โดยส่วนตัวแล้วมาตาร์อยากได้เวทอักษรมากกว่า แต่เวทแปลกๆแบบนี้เขาก็ชอบ ที่เจ้าของร้านบอกว่ามีคนเอามาขายแปลว่าแถวๆนี้ไม่น่าจะมีใครใช้อีกแล้ว
“คุณลองเวทไปเรื่อยๆจนกว่าจะหาสายที่ถูกใจได้ก็ได้นี่ครับ ถ้าออกจากเมืองเริ่มต้นนี่ไปแล้วจะมีอีกหลายสายให้เลือก คุณก็ค่อยเปลี่ยนสายตอนนั้นก็ได้ครับ เพียงแต่เวทแต่ละสายจะมีระดับด้วยนะครับ ถ้าเปลี่ยนสายใหม่ตอนหลังของเก่าก็จะหายหมดเลย แล้วถ้าอยากได้สายเดิมก็ต้องมาฝึกกันใหม่” เจ้าของร้านให้ข้อมูลอีกเพื่อการตัดสินใจ
“...งั้นผมซื้อเจ้าตัวนี้ละกัน ...เอ้อ มันจะกินค่าประสบการณ์ผมมั้ยครับเนี่ย” มาตาร์เห็นว่ามันก็เป็นสัตว์อสูรชนิดหนึ่งจึงถามถึงความน่าจะเป็น
“เวทอสูรคือเวทมนตร์ครับ ไม่ใช่สัตว์อสูร ดังนั้นไม่กินค่าประสบการณ์ครับ” เจ้าของร้านตอบ
“ตกลงราคาเท่าไหร่ครับเนี่ย” มาตาร์ถาม
“100,000โกลด์ครับ” เจ้าของร้านตอบ
มาตาร์ตกใจในราคาอันแสนแพง เงินในธนาคารของเขาก็ไม่มีสักโกลด์เดียว แต่แล้วเขาก็นึกได้ว่ามีเงินค่าหัวที่ยังไม่ได้ไปรับอีก เขาจึงลองเชคเมนูนักล่าก็พบว่ามีค่าหัวค้างจ่ายอยู่114,000โกลด์ มาตาร์จึงไปรับเงินค่าหัวทั้งหมดมาแล้วก็ซื้อเจ้าเวทอสูรตนนี้
“เอ่อ ...แล้วมันใช้ยังไงล่ะครับ” มาตาร์สงสัยหลังจากจ่ายเงินให้เจ้าของร้านแล้ว
อสรพิษตาเดียว -
มาตาร์พบว่าเขาสามารถใช้คำสั่งสำรวจมันได้ด้วย โดยมันมีสภาพเหมือนสัตว์อสูร เพียงแต่ไม่มีระดับขั้นเท่านั้น
“อสรพิษตาเดียวเหรอ?” มาตาร์เอ่ยชื่อมันออกมา
“โอ้ คุณมีความสามารถสำรวจสัตว์อสูรแล้วเหรอครับ ถ้าอย่างนั้นก็ง่าย” เจ้าของร้านบอก
“ยังไงครับ” มาตาร์สงสัย
“วิธีใช้ก่อนอื่นก็ทำพันธสัญญาก่อนนะครับ โดยเอ่ยชื่อคุณแล้วก็บอกว่าคุณเป็นเจ้านายของมันโดยต้องเอ่ยชื่อมันด้วยนะครับลองดูสิครับ” เจ้าของร้านบอก
“พันธสัญญา? ที่ต้องกรีดเลือดก่อนน่ะเหรอครับ” มาตาร์อยากรู้ว่าใช่แบบเดียวกับที่ทำกับไข่อสูรสัตว์เลี้ยงของเขาหรือไม่
“ใช่แล้วครับ แบบนั้นแหละ” เจ้าของร้านยืนยัน
มาตาร์หันไปหาเมโลดี้
“เมลพี่ขอยืมมีดหน่อยสิ” มาตาร์ต้องกรีดเลือด แต่เขาไม่มีมีดจึงต้องหันไปขอยืมเธอ
“ค่ะ” เมโลดี้ได้ยินชายหนุ่มเรียกชื่อเธอแบบเดิมก็แอบดีใจแล้วหยิบมีดสั้นส่งให้เขา
มาตาร์ยังคงเอามีดจิ้มนิ้วเบาๆพอให้เลือดไหลออกมาเป็นจุดเล็กๆเหมือนเดิม แล้วเขาก็เอาไปป้ายใส่เจ้าอสูรเวทตนนั้น
“ผมมาตาร์ขอทำพันธสัญญาเป็นเจ้านายของอสรพิษตาเดียว” มาตาร์กล่าวคำพันธสัญญาแบบง่ายๆที่คิดขึ้นเองเหมือนเดิม
แล้วก้อนหินที่เป็นสัตว์อสูรก็สลายไปกลายรูปร่างเป็นงูตัวหนึ่ง มีเกล็ดสีขาวทั่วลำตัวขนาดท่อนแขนของมาตาร์ลำตัวยาวกว่าสิบเมตร ส่วนหัวมีแผงคอคล้ายเป็นมังกร มีตาอยู่ตรงกลางหัวแค่ตาเดียว กำลังขดเป็นวงอยู่
มาตาร์และสองสาวมองมันด้วยความตื่นตกใจ แต่สักพักร่างมันก็เลือนหายไป
“เรียบร้อยแล้วครับ เชคที่เมนูดูได้เลย” เจ้าของร้านตัวอ้วนบอก
มาตาร์เปิดเมนูดู เขาพบว่าที่ด้านซ้ายของเมนู มีหน้าต่างเวทมนตร์เพิ่มขึ้นมาใหม่ต่อลงมาจากหน้าต่างท่าไม้ตาย
ชายหนุ่มลองกดเข้าไปดูก็พบว่า มันขึ้นสายเวทขึ้นมาว่าเวทอสูรระดับ1 และมีรายชื่ออยู่เวทเดียวคืออสรพิษตาเดียว
“แล้ววิธีใช้ล่ะครับ” มาตาร์ถามถึงวิธีปล่อยเจ้างูขาวออกมาโจมตี
“ก็ใช้พลังเวทครับ โดยการคิดพลังโจมตีก็ขึ้นอยู่กับค่าสถานะจิตใจ ส่วนระยะเวลาก็ขึ้นอยู่กับพลังวิญญาณ แต่อย่าเพิ่งเรียกในร้านผมนะครับ เดี๋ยวจะวอดวายหมด” เจ้าของร้านรีบเตือนก่อนที่จะสายเกินไป
‘อืม พลังเวทเหรอ’ มาตาร์ทบทวนการใช้พลังเวทที่ได้เรียนรู้มาจากห้องป่า
เขาเดินออกจากร้าน แล้วเริ่มทดลองการปล่อยเวทอสูรครั้งแรก
Rewrite tag: จัดบรรทัดใหม่ แก้คำผิด เพิ่มข้อมูลเรื่องเผ่ามารใช้เวทได้สองสาย
ความคิดเห็น