คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : บทที่17: เมโลดี้
บทที่17 เมโลดี้
เกมจ็อคออนไลน์เป็นเกมที่ตัวละครของผู้เล่นจะพัฒนาจากการฝึกฝนมากๆ โดยผู้เล่นทุกคนเริ่มต้นมาจะมีสภาพร่างกายที่เสมอกันหมด ถ้าผู้เล่นเริ่มต้นสองคนมาต่อสู้กัน การแพ้หรือชนะจะอยู่ที่วิธีเคลื่อนไหว ไม่ใช่ประสิทธิภาพของการเคลื่อนไหว แต่ที่ว่าพัฒนาจากการฝึกฝนมากๆนั้นที่เพิ่มขึ้นกลับเป็นประสิทธิภาพร่างกาย ไม่ใช่วิธีเคลื่อนไหวร่างกาย ดังนั้นถึงแม้จะมีสถานะตัวละครดี แต่กลับเคลื่อนไหวโง่ๆบางครั้งก็สู้คนที่มีสถานะต่ำแต่เคลื่อนไหวดีๆไม่ได้
และสิ่งที่ทำให้วิธีเคลื่อนไหวต่างกัน นั่นก็คือประสบการณ์ของผู้เล่น ถ้าผู้เล่นบางคนฝึกศิลปะการต่อสู้มาจะทำให้เคลื่อนไหวได้ดีกว่าผู้เล่นที่ไม่เคยฝึกอะไรมาเลยแน่นอน ยิ่งถ้ามีศาสตร์ประเภทอ่อนสยบแข็ง ใช้แรงน้อยสยบแรงมากที่ไม่ต้องพึ่งประสิทธิภาพร่างกายมาก ผู้เล่นคนนั้นก็จะเก่งได้เลยทันที
ซึ่งต่างจากชายที่มีทรงผมอันเด่นสะดุดตาคนนี้ เพราะเขาไม่เคยฝึกศิลปะการต่อสู้อะไรมาเลย การเคลื่อนไหวทั้งหมดก็เอาแต่แรงเข้าว่า ท่าไม้ตายที่มีก็เป็นประเภทพึ่งพิงพลังร่างกายล้วนๆ ถ้าจะให้เปรียบก็คงจะเหมือนวัวกระทิงที่มีแต่แรงแล้วเอาแต่ไล่ขวิดนั่นแหละ และชายคนนั้นก็คือ มาตาร์นั่นเอง
เวลาประมาณบ่ายโมง ร่างของมาตาร์ในชุดกางเกงในลายม้าลายปรากฏขึ้นที่ลานกลางเมือง พร้อมกับหมา แมว และนกกระจอกอย่างละตัว ‘คราวหน้าจะใส่ลายอะไรดีนะ’ มาตาร์เริ่มสนุกกับการเปลี่ยนลายกางเกงใน
มาตาร์วิ่งไปเอาผ้าคลุมยาจกมาแต่งตัว เดี๋ยวนี้เขาทำได้คล่องแคล่วมาก เพราะเขาตายมาแล้วไม่ต่ำกว่าสิบครั้ง
ชายหนุ่มผมแดงมองไปรอบๆลานกลางเมือง เขาไม่เคยได้สังเกตผู้คนที่อยู่รอบๆนี้มากนัก ส่วนใหญ่เขาก็จะออกไปทำภารกิจของตัวเองคนเดียว และก็ไม่ค่อยสุงสิงกับใครเพราะเขาไม่ค่อยชอบเรื่องยุ่งยากเวลาเจอคนเยอะๆ แต่ว่าคราวนี้
“พี่คะ” เสียงหญิงสาวคนหนึ่งเอ่ยขึ้นข้างหลังของมาตาร์
มาตาร์ได้ยินแต่ก็ไม่ได้สนใจ เพราะคิดว่าเจ้าของเสียงนั้นคงจะเรียกคนอื่น และเขากำลังจัดผ้าคลุมยาจกให้เนี้ยบอยู่
“พี่คะ” เสียงหญิงสาวนั้นดังขึ้นอีก
คราวนี้มาตาร์หันกลับไปมอง เห็นหญิงสาวคนหนี่งอายุดูแล้วยังน่าจะวัยรุ่นอยู่เลยมั้ง เธอใส่ชุดที่ดูเหมือนจะเป็นเสื้อผ้าของคนที่เพิ่งออนไลน์วันแรก
เมโลดี้ | ระดับ 1 |
มาตาร์สำรวจด้วยความเคยชิน แล้วก็มองไปรอบๆว่าบริเวณนั้นไม่ได้มีใครให้เรียกอีกแล้วใช่หรือไม่ เพื่อป้องกันการเข้าใจผิด แต่แล้วเขาก็ไม่เห็นว่าบริเวณใกล้ๆนั้นจะมีใครคนอื่น
“เรียกพี่เหรอ?” มาตาร์ถามกลับงงๆ
“ค่ะ” หญิงสาวตอบกลับ
“มีอะไรเหรอครับ?” มาตาร์สงสัยว่าเธอเรียกเขาทำไม ไม่ได้รู้จักกันสักหน่อย
“คือ ...ออกไปล่าด้วยกันมั้ยคะ” หญิงสาวตอบกลับอย่างประหม่า
‘หา? คนไม่รู้จัก อยู่ๆชวนออกไปล่า?’ มาตาร์ก็ไม่อยากจะคิดหรอกว่าตัวเองก็ดูดีถึงขั้นสาวจะมาขอเบอร์ถึงจะปรับหน้าให้ดูดีกว่าตัวจริงอยู่บ้างก็เถอะ แต่ตั้งแต่เล่นเกมมาก็เพิ่งเคยเจอคนที่ขอกันตรงๆแบบนี้นี่แหละ
“เอ่อ ...ก็ได้ ...มั้งครับ” มาตาร์ยังคงงงๆอยู่
“ขอบคุณมากค่ะ หนูชื่อเมโลดี้นะคะ” หญิงสาวยิ้มรับอย่างร่าเริง
เมโลดี้คนนี้เท่าที่มาตาร์สังเกต เธอเป็นหญิงสาวอายุประมาณยี่สิบปีหรือไม่ก็น้อยกว่านั้นเล็กน้อย ผิวขาว ผมยาวสีดำ ดวงตาสีเขียวเห็นเด่นชัดที่สุดบนใบหน้า จมูกกับปากดูรวมๆแล้วก็คงจัดว่าดูดี แต่มาตาร์ไม่อยากจะสนใจมาก ในเมื่อเกมนี้เขาให้ปรับหน้าตาได้10% ทรงผมกับสีตานั่นอาจจะแต่งสีเอา รูปร่างนี่ใครๆก็คงปรับให้ดูดีทั้งนั้น ขนาดเขายังปรับให้ตัวเองดูดีเลย
“พี่ชื่อมาตาร์ครับ แต่ขอพี่ไปซื้อเสื้อผ้าก่อนได้มั้ยล่ะ เดี๋ยวค่อยออกไปด้วยกัน” มาตาร์จำได้ว่ายังมีเงินค่าหัวที่เขายังไม่ได้ไปรับ เพราะตอนนั้นตัวเขาเองก็มีค่าหัว ไม่อยากเจอล่าตั้งแต่อยู่ในอาคารนักล่า
“ได้ค่ะ หนูตามพี่ไปด้วยนะ เพราะอยากดูในเมืองบ้างเหมือนกัน” หญิงสาวหน้าตาจิ้มลิ้มว่า
“เมโลดี้เพิ่งเล่นเกมเหรอครับ” มาตาร์ก็พอจะมองออก มีเข็มขัดกับมีดสั้นแล้ว บางทีอาจจะเพิ่งไปรับของจากอาคารเริ่มต้นมา แล้วก็มาเจอเขาที่เพิ่งเกิดใหม่พอดี
“ใช่ค่ะ วันแรกเลยเนี่ย” เมโลดี้ยิ้มตอบอย่างสดใส
มาตาร์ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเขาถึงโดนหญิงสาวคนนี้ทัก ทำไมไม่เป็นคนอื่น แต่เขาก็ไม่อยากจะถามอะไร บางทีมันอาจจะบังเอิญจริงๆก็ได้ มือใหม่เล่นคนเดียวก็อยากจะมีเพื่อนบ้างเป็นธรรมดา
แต่จริงๆแล้วเมโลดี้เห็นมาตาร์อยู่กับสัตว์เลี้ยงน่ารักทั้งสามตัวต่างหาก เธอเคยพยายามจะเรียกคนอื่นแล้ว แต่ก็ไม่กล้า พอเห็นมาตาร์ที่ดูไร้พิษภัยเพราะตัวเปล่าเปลือยอยู่กับสัตว์เลี้ยงเล็กๆ ที่ทั้งเมืองเริ่มต้นไม่มีใครเขามีกัน เธอจึงคิดว่า ‘คนรักสัตว์คงจะใจดี’ ก็เลยรวบรวมความกล้าเรียกเขาเอาไว้
มาตาร์เดินนำเมโลดี้ไปที่อาคารนักล่า หลังจากรับค่าหัวส่วนหนึ่งแล้วเขาก็ไปซื้อเสื้อผ้าเข็มขัด ถุงทราย และผนึกที่ร้านเสื้อผ้าและร้านสัตว์เลี้ยงตามลำดับ
ที่มาตาร์ไม่รับค่าหัวมาทั้งหมด เพราะกลัวว่าอาจจะบังเอิญติดชื่อแดงได้อีกแล้วจะตายอีกแล้วจะเสียเงินไปเปล่าๆ การมีเงินค่าหัวที่ยังไม่ได้รับเสมือนมีเงินฉุกเฉิน ที่แม้แต่ระบบก็ไม่สามารถแย่งชิงไปได้แม้เขาจะมีชื่อแดงก็ตาม
“ไปป่าแมวเปลี่ยวละกันนะเมโลดี้ พี่ว่าที่นั่นเหมาะกับระดับของเธอพอดี มีพี่คอยช่วยอยู่ไม่ต้องกลัว” มาตาร์มั่นใจว่าเขาสามารถปกป้องสาวน้อยที่มีระดับเพียงแค่หนึ่งจากเหล่าแมวในป่าแมวเปลี่ยวได้
แต่แล้วที่ทางออกจากเมือง ทั้งคู่กลับพบกลุ่มนักล่าผู้เล่นมือใหม่ ซึ่งประตูทิศตะวันตกนี้เป็นสถานที่ที่มักจะมีพวกโจรล่าผู้เล่น มาไล่ล่ามือใหม่อยู่เป็นระยะ ตัวของมาตาร์เองก็เคยตายเพราะพวกโจรล่าผู้เล่นมาครั้งหนึ่ง
มาตาร์สำรวจพวกกลุ่มโจรนั่นและพบว่าชื่อทุกคนเป็นตัวแดงกันหมดเลย ‘โอ้ว หวานล่ะทีนี้ จะได้ลองวิชาใหม่’
ขณะที่พวกโจรกำลังรุมฆ่าผู้เล่นคนหนึ่งอยู่นั้น
ฟุ่บ! ผัวะ!
“อ๊าคค!!”
ร่างของโจรคนหนึ่งถูกมาตาร์ที่อยู่ดีๆก็โผล่ออกมาต่อยเข้าไปหนึ่งที แล้วร่างนั้นก็สลายเป็นแสงไปในเวลาต่อมา
“เฮ่ย!! อะไรน่ะแก” โจรคนหนึ่งร้องตะโกนขึ้นมา
แต่มาตาร์ก็ไม่ตอบโต้ด้วยคำพูดใดใด แต่ตอบโต้ด้วยหมัดแทน
ผัวะ! ผัวะ! ผัวะ!
โจรคนต่อมาโดนมาตาร์เข้าประชิดตัวอย่างรวดเร็วแล้วต่อยต่อเนื่องไปสามหมัด ก่อนที่จะชะงักไป
‘อืม คนแรกต่อยแรงไปเปลืองพลังวิญญาณกับปราณมากเกินไป ส่วนอันนี้ก็ใส่พลังน้อยไปแฮะ’ มาตาร์คิดขึ้นมาขณะเห็นผลลัพธ์ของการทดลองใช้พลังในระดับต่างๆ
“ให้หนูช่วยด้วยคนนะคะ” หญิงสาวนัยน์ตาสีมรกตพูดจบก็กระโจนเข้าไปหาโจรทันที
‘อ้าวเฮ่ย ไม่เปรี้ยวไปเหรอน้อง ระดับแค่หนึ่งจะไปสู้กับโจรเนี่ยนะ’ มาตาร์ตระหนกขณะที่เห็นแล้วว่าหญิงสาวที่มีระดับแค่หนึ่งกำลังจะถูกโจรทำร้าย
พลัก! พลัก! พลัก!
แต่แล้วหวกโจรที่เข้าไปหาหญิงสาวกลับตีลังกาล้มไม่เป็นท่า ถึงขั้นมีบางร่างกลายเป็นแสงหายไปเลยด้วยซ้ำ
‘เกิดอะไรขึ้น!?’ มาตาร์งงสุดชีวิต ในเมื่อคิดค่าสถานะทางร่างกายของตัวละครและระดับที่ต่างกันแล้ว ตัวละครใหม่ระดับ1ก็ไม่น่าจะสังหารตัวละครระดับยี่สิบได้ง่ายๆแน่นอน
ผัวะ! พลัก! พลัก! ผัวะ!
พวกโจรเห็นท่าไม่ดี ไปทางเจ้าผู้ชายก็โดนอัด ไปทางนังผู้หญิงก็โดนทำอะไรก็ไม่รู้ล้มกันไปเป็นแถบ ทางสุดท้าย
“งั้นตายๆกันไปให้หมดนี่แหละโว้ยย!!!” โจรคนหนึ่งพูดขึ้นพร้อมกับควักลูกระเบิดขึ้นมาถอดสลักทันที
ตรู้~มม!!!
แรงจากลูกระเบิดสาดกระจายไปทั่วบริเวณทั่วรัศมีกว่าสิบเมตร พื้นดินยุบไปเป็นหลุมขนาดใหญ่ ผู้คนที่อยู่ในรัศมีทั้งหมดกลายเป็นแสงหายไปทั้งสิ้น
...แต่ทว่า
ฟุบ!! พลัก!!
ร่างของมาตาร์ที่อุ้มหญิงสาวผมยาวปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะพากันล้มลงกระเด้งกระดอนไปทั้งคู่ ในระยะห่างจากรัศมีระเบิดไป3เมตรเท่านั้น
“อ๊อค!!” เสียงชายหนุ่มร้องออกมา
“เป็นยังไงบ้างคะพี่มาตาร์ เจ็บมากมั้ย” หญิงสาวที่เพิ่งตั้งตัวขึ้นมาได้รีบลุกขึ้นมาดูอาการบาดเจ็บของชายหนุ่มที่นอนคว่ำหน้าอยู่
ร่างกายของมาตาร์เต็มไปด้วยบาดแผลจากสะเก็ดระเบิด โดยเฉพาะที่หลัง สาหัสมาก เพราะเขาอุ้มเอาตัวเมโลดี้เอาไว้แล้วบังระเบิดให้ หญิงสาวนัยน์ตาสีมรกตมีสีหน้าวิตก เพราะเธอไม่รู้จะทำยังไงดี
“น้ำย..า..ฟื้..น..” มาตาร์รวบรวมสติพูดออกมา หญิงสาวผมยาวจับใจความได้รีบหยิบน้ำยาที่ตัวเองมีออกมาทันทีด้วยท่าทีที่ร้อนรน
มาตาร์ตกอยู่ในอันตรายขึ้นทุกที พิษจากบาดแผลกัดกร่อนพลังชีวิตของเขาให้น้อยลงทุกขณะ ถ้าฟื้นพลังไม่ทันล่ะก็ เขาตายแน่
“นี่ค่ะ! พี่มาตาร์” หญิงสาวหยิบน้ำยาได้ขวดหนึ่ง ยื่นส่งให้มาตาร์อย่างร้อนรน แต่ทว่ามาตาร์ไม่มีสติรับรู้อีกแล้ว
หญิงสาวเริ่มวิตกมากขึ้นเรื่อยๆ น้ำใสใสเริ่มไหลออกจากตา ในใจร่ำร้องอย่างบ้าคลั่ง ‘อย่าตายนะคะ!!’
เมโลดี้เพิ่งเคยเข้ามาเล่นเกมเป็นครั้งแรกในชีวิต ทัศนคติต่อโลกของเธอแทบจะเหมือนเด็กไร้เดียงสา สังเกตได้จากการที่จู่ๆเธอก็เข้ามาทำความรู้จักกับมาตาร์ แล้วชายคนนี้ก็ตอบรับคำขอของเธอแบบไม่มีเงื่อนไข เพื่อนคนแรกที่เธอรู้จักที่นี่ กำลังจะตาย เธอไม่รู้หรอกว่าตายแล้วมันเป็นอย่างไร รู้แต่ว่ายังไงก็ขอให้เขารอด
หญิงสาวจับร่างของชายหนุ่มพลิกขึ้นแล้วเอาหัวของเขามาวางบนตักของเธอ มือของเธอจับไปตามร่างกายของเขาเต็มไปด้วยเลือดสีแดงเข้ม น้ำตาของเธอยังไหลไม่หยุด แต่ยังพยายามฝืนเอาไว้ หยิบเอาน้ำยากรอกปากมาตาร์ แต่ มาตาร์ก็ไม่มีสติจะกลืนมันลงไปแล้ว น้ำยาที่ล่วงเข้าไปในปากกลับไหลนองออกมาทั้งหมด
‘ฮื~~อ ทำยังไงดี พี่มาตาร์ไม่มีสติแล้ว’ เมโลดี้ยิ่งร้อนรน เธอเริ่มสะอึกสะอื้น มันเกินจะกลั้นแล้ว
สุดท้ายแล้วเธอตัดสินใจเอาน้ำยากรอกปากตัวเองแล้วก้มหน้าลงไปหาชายหนุ่ม
มาตาร์หลับตาไม่ได้สติ แต่วูบสุดท้ายที่เขารู้สึกคือ มีอะไรที่นุ่มๆมาสัมผัสกับปากของเขา ‘อือ ...นุ่มดีแฮะ’
และแล้วร่างของมาตาร์ก็สลายกลายเป็นแสงไปท่ามกลางหยาดน้ำตาและเสียงร่ำไห้ของเมโลดี้
ชายหนุ่มผมแดงฟื้นขึ้นมาบนโซฟาในห้องสีขาวพร้อมกับสัตว์เลี้ยงทั้งสาม เขามีสีหน้างงๆ
‘เอ๋อ? ตาย?’ มาตาร์จำช่วงเวลาก่อนตายไม่ได้เลย เพราะเป็นครั้งแรกที่ตายแบบไม่มีสติ ‘จำได้ว่ากำลังซัดโจรอยู่นี่หว่า แล้วทำไมตาย?’
แต่มาตาร์ก็เลิกใส่ใจแล้วคิดว่าคงเป็นเพราะโดนโจรมันลอบกัดล่ะมั้ง
“กลับมาเร็วจังนะครับ ยังไม่ถึงสองชั่วโมงเลย อยากดื่มอะไรก่อนมั้ยครับ” เสียงนุ่มๆของพ่อบ้านดังขึ้น
มาตาร์หันหน้าไปมองพ่อบ้านแบบยิ้มๆอายๆ ที่บอกลากันว่าจะไม่เจอกันอีก แต่รู้สึกเหมือนเจอกันถี่มากกว่า
“เอาสิครับโฆเซ่ ขออะไรแรงๆหน่อยละกัน” มาตาร์ตอบรับคำเสนอของพ่อบ้าน
พ่อบ้านแสนสะดวกยิ้มรับแล้วหยิบขวดเครื่องดื่มหลายชนิดที่เคาน์เตอร์เครื่องดื่มมารินใส่กระบอกเขย่า ใส่เกล็ดน้ำแข็งลงไปเล็กน้อย แล้วเริ่มเขย่าให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน ก่อนที่จะเทใส่แก้วทรงสูงแล้วนำมายื่นให้มาตาร์
มาตาร์รับเครื่องดื่มสีชมพูอ่อนมากระดกจนหมดแล้วทำท่าขนลุกชูชัน
“โอ้ว!! แรงได้ใจมากโฆเซ่ ไปฝึกกันเถอะ” มาตาร์เสียงสดใสขึ้นมาทันที
รอบนี้มาตาร์ฝึกเท้าไร้เงาของเขาให้ชำนาญขึ้นเท่านั้นเอง ถึงแม้สถานะจะลดลงมาอีก แต่ก็แทบไม่มีผลมากมายอะไรที่แมนชั่นแห่งความตายนี้
หลังจากนั้นเขาจึงลองฝึกแบบลดพลังให้เหมือนกับในเกม ผนึกปราณใส่ในจังหวะที่จะใช้ท่าเท่านั้นเพื่อลดการสูญเสียปราณอย่างเปล่าประโยชน์ อย่างเช่นเท้าไร้เงาของเขา ตอนแรกจะใช้ปราณคลุมตลอดเวลา ก็เปลี่ยนมาเป็นใช้เฉพาะจังหวะสัมผัสเป้าหมายเท่านั้น แต่มันก็ยังยากกว่าที่คิด
จนในที่สุดก็ครบชั่วโมง มาตาร์ก็ยังจับจังหวะการถ่ายพลังปราณไม่ได้ แต่เขาก็ออกจากแมนชั่นแล้วกลับสู่เกมโดยไม่สนใจจะใช้ข้อได้เปรียบในแมนชั่นให้นานกว่านี้ เพราะเขาชอบเข้าไปเล่นในเกมมากกว่า
“เรื่องจับจังหวะคงต้องอาศัยระยะเวลาและประสบการณ์ครับ ที่แมนชั่นแห่งความตายคงช่วยเรื่องนี้ไม่ได้มากเท่าไหร่ อย่าลืมที่จะฝึกใช้มันบ่อยๆนะครับ แล้วอย่าลืมไปรับภารกิจเสริมพลังจิต มันจะช่วยคุณมาตาร์ได้อีกเยอะมาก” พ่อบ้านหน้ายิ้มพูดก่อนมาตาร์จะบอกลาอีกครั้ง
“หวังว่าคราวหน้าคงไม่กลับมาเร็วแบบนี้นะครับ” พ่อบ้านยิ้มส่ง
“แฮะๆๆ หวังว่าอย่างนั้นครับ” มาตาร์เริ่มไม่แน่ใจแล้ว ไม่กล้าพูดว่าจะไม่ได้เจอกันอีก แล้วมาตาร์ก็เดินเข้าประตูไป
แว้บ!!
ร่างของมาตาร์มาปรากฏที่ลานกลางเมืองพร้อมกับสัตว์เลี้ยงทั้งสาม
พลัก!!
“เฮ้ย!! อะไร” มาตาร์ตกใจมากที่จู่ๆเขาก็ถูกกระแทกเข้าที่กลางหลังอย่างแรง
“พี่มาตาร์ ฮื~~อ” เสียงหญิงสาวเอ่ยขึ้นมาจากด้านหลังของมาตาร์
หญิงสาวกอดมาตาร์เอาไว้แน่นจากด้านหลัง
“หนูขอโทษ หนูช่วย ..ฮึก..พี่ไม่ได้ หนูเสียใจ ..ฮึก.. มากเลย” หญิงสาวพูดไปก็สะอึกสะอื้นไปด้วย
“เอ้อ ...เมโลดี้ พี่ไม่เป็นไรแล้วไม่ต้องกังวล” มาตาร์เกือบจะนึกชื่อของเธอไม่ออก
มาตาร์แกะเมโลดี้ออกจากหลังแล้วหันมามองหน้าเธอ จมูกของเธอแดง ตาดูบวมๆ คงร้องไห้มาตลอดหนึ่งชั่วโมงนี่
มาตาร์มองแล้วก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ
“เฮ่อ~ เมโลดี้ฟังนะ นี่น่ะมันเกม ไม่ได้ตายจริงๆ เพราะฉะนั้นไม่ต้องไปเสียใจหรอก” มาตาร์พูดเตือนสติหญิงสาว เขาไม่ใช่ผู้เล่นประเภท ‘ตายไม่ได้’ หรือ ‘ห้ามตาย’ ที่มีอยู่เกลื่อนกลาดทั่วไป
หลังจากที่มาตาร์หยิบผ้าคลุมยาจกมาห่มตัวแล้ว เมโลดี้ก็ยื่นเงินจำนวนหนึ่งและของมาให้มาตาร์
ชายหนุ่มมองดูอย่างไม่เข้าใจ
“อะไรเหรอ?” มาตาร์ถาม เพราะสงสัยว่าหญิงสาวยื่นอะไรมาให้
“ของที่ติดตัวพี่มาตาร์กับเงินที่ช่วยกันฆ่าพวกโจรค่ะ” เมโลดี้คนซื่อพูดขึ้นก้มหน้า แก้มแดงซ่าน ไม่กล้ามองมาตาร์ตรงๆ เธอนึกถึงเมื่อชั่วโมงที่แล้วก่อนที่พี่ชายคนนี้จะสลายไปต่อหน้าเธอ
ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ มาตาร์รับเอาไว้ด้วยความยินดี พร้อมกับสายตางงๆให้กับอาการของหญิงสาวคนนี้
“เอ้อ เมโลดี้ พี่มีธุระต้องไปทำก่อนน่ะ คงไปล่าด้วยกันตอนนี้ไม่ได้ล่ะนะ” มาตาร์นึกขึ้นได้ถึงสิ่งที่ต้องทำก่อนเพราะพ่อบ้านของเขาย้ำให้ฟังถึงสองรอบ ทำเอาหญิงสาวหน้าเสียขึ้นมา
“หนูทำอะไรผิดรึเปล่าคะ” หญิงสาวกลัวว่าเธออาจจะเป็นภาระให้ชายหนุ่มจึงร้อนใจ
“ปล่าวนี่ทำไมคิดอย่างนั้นล่ะ พี่แค่จะไปขอทำภารกิจเสริมพลังจิตเท่านั้นเอง” มาตาร์เองก็ยังงงๆกับสาวคนนี้อยู่ อะไรจะคิดมากขนาดนั้น ‘หน้าตาก็น่ารักดีไม่น่าเป็นคนคิดมากเลย’
“งั้นหนูไปด้วยได้มั้ยคะ” เมโลดี้พูดอย่างมีกังวล ‘เค้าจะรำคาญเรารึเปล่านะ’
“ก็ได้นี่ ไปสิ ว่าแต่เมโลดี้อยากเป็นเทพเหมือนกันเหรอ” มาตาร์ถามพร้อมแต่งตัวไปด้วย ของที่เมโลดี้คืนให้ยังมีกางเกงและรองเท้าที่ไม่ได้เสียหายอะไรมากมาย
เมโลดี้ทำหน้างง เธอไม่รู้เรื่องเผ่าพันธุ์หรือธาตุอะไรเลย ไม่ต่างกับมาตาร์ช่วงวันแรกๆ
“งั้นไปด้วยกันก็ได้ แต่เมโลดี้ต้องไปที่อาคารรับรองนะ ถ้าตัดสินใจได้ว่าจะเลือกเทพหรือจะเป็นมนุษย์ค่อยไปทำภารกิจด้วยกันก็ได้” มาตาร์เดินนำพาหญิงสาวมุ่งหน้าไปที่ถนนทางเลือก
ระหว่างทางที่เดินทั้งคู่แลกชื่อเป็นเพื่อนกันเอาไว้ และหลังจากที่มาตาร์มาส่งเมโลดี้ที่ถนนทางเลือกแล้ว เขาก็ไปซื้อข้าวของที่เสียหายไป เงินที่เมโลดี้ให้มามีถึงสามหมื่นโกลด์ ดูท่าว่าเธอจะไปรูดทรัพย์จากศพโจรมาหมดเลย
หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง เมโลดี้ก็เดินตาโหลออกมาจากอาคารรับรอง ดูท่าว่าเธอคงจะได้ผู้รับรองเป็นนาตาลีเหมือนกัน ถึงได้ดูอ่อนเพลียขนาดนั้น
“หนูจะเป็นเทพค่ะ ไปรับภารกิจเสริมจิตกันได้เลย” เป็นคำยืนยันจากเมโลดี้
ดังนั้นทั้งคู่จึงเดินไปที่สนามฝึกจิต เพื่อรับภารกิจเสริมจิตกันเลย
“เงินหนึ่งหมื่นกับทักษะอาวุธระดับสามจ้ะ” หญิงชราหน้าตาใจดีบอกเงื่อนไขในการฝึกพลังจิต
“ระดับสามเลยเหรอครับ!!” มาตาร์ตกใจที่รับรู้เงื่อนไขของการฝึกจิต
“ใช่จ้ะ เพราะพลังจิตเป็นพลังที่เผ่าเทพใช้ได้เท่านั้นในสามเผ่า ...ไม่นับมนุษย์นะจ๊ะ” หญิงชรากล่าว
“อืม เข้าใจล่ะ ดังนั้นผู้ที่คู่ควรเท่านั้นจึงจะใช้ได้สินะครับ” มาตาร์เคยรู้มาจากคำบอกของซารีน่าแล้วว่าภารกิจของเผ่าเทพมันจะยากที่สุดเพราะต้องการกันไม่ให้ผู้เล่นมืออ่อนทำสำเร็จง่ายๆ พลังจิตนี่ก็คงเป็นไปในแนวนั้น
“แต่ถ้าเวทมนตร์นี่ไม่ต้องใช้ทักษะอะไรเลยนะจ๊ะ ถ้าคิดจะมารับทักษะเสริมพลังจิต ทำไมไม่ไปรับทักษะเสริมเวทก่อนล่ะจ๊ะ” หญิงชราแนะนำ เพราะผู้ที่จะมาฝึกจิตคงคิดจะเป็นเผ่าเทพไม่ก็มนุษย์ซึ่งใช้เวทมนตร์ได้ด้วยกันทั้งสองเผ่าอยู่แล้ว
แน่นอนว่าเกมจ็อคออนไลน์นี้ เผ่าพันธุ์ที่มีคนเลือกเยอะที่สุดคือเผ่ามาร เพราะการรับภารกิจที่ง่ายกว่าและความหลากหลายของเวทที่มีให้เลือกมากมาย
ดังนั้นทั้งสองคนจึงเปลี่ยนไปรับภารกิจเสริมพลังเวทก่อน
“สองหมื่นโกลด์ต่อคนค่ะ” หญิงสาวใส่หมวกทรงสูงกับชุดยาวคลุมถึงเท้าบอกเงื่อนไขของการรับภารกิจ
“อืม ...มีเงินเหลือเกินสองหมื่นพอดีเลย โชคดีจัง” มาตาร์เอ่ยออกมาอย่างโล่งอกเมื่อเห็นว่าเขายังเหลือเงินหลังจากการซื้อของเกินสองหมื่นโกลด์ ‘ดีนะที่ยังไม่ได้เอาไปถลุงซะหมด’
หลังจากนั้นทั้งสองคนจ่ายเงินให้แม่มดสาวเจ้าของภารกิจ
“ตามมาหลังประตูนี้เลยค่ะ” แม่มดสาวเดินนำเข้าไปหลังอาคารที่มีประตูอยู่เหมือนๆกับตอนรับภารกิจเสริมปราณ
“ไปพร้อมกันทั้งคู่ก็ได้เหรอครับ” มาตาร์สงสัยเพราะคิดว่าคงมีอะไรยากเย็นที่ต้องแยกกันทำเหมือนตอนฝึกปราณ
“ได้ค่ะไม่มีปัญหา” แม่มดสาวตอบพร้อมกับเดินนำเข้าไปหลังประตู
หลังจากทั้งคู่เดินตามเข้ามาแล้วก็ต้องตกตะลึงกับบรรยากาศภายในห้องที่กว้างขวางราวกับอยู่ในโกดังที่แต่งเป็นป่า แถมยังมีลำธารอยู่ด้วย เหมือนกับหลุดมาอีกมิติหนึ่ง และในห้องนั้นก็ยังมีคนนั่งอยู่บนพื้นอยู่อีกหลายคน
“เชิญนั่งค่ะ” แม่มดสาวบอก
“นั่งตรงไหนครับ?” มาตาร์ถามไม่แน่ใจ เมโลดี้ก็มีสีหน้าสงสัยพอกัน
“ตรงไหนก็ได้ค่ะ ไม่จำกัดเวลา นั่งจนกว่าจะรู้สึกถึงพลังเวท แต่ถ้าออกจากห้องนี้ไปถือว่าจบภารกิจนะคะ ถ้าอยากจะรับภารกิจใหม่อีกรอบก็นำเงินมาจ่ายอีกรอบได้ค่ะ” แม่มดสาวพูดเสร็จก็หันหน้าเดินออกจากห้องไปทันที
มาตาร์กับเมโลดี้ยืนอึ้ง ไม่เข้าใจว่านั่งเฉยๆแล้วจะรู้สึกถึงพลังเวทได้ยังไง แต่หลังจากที่เขามองไปยังคนอื่นๆที่นั่งอยู่ในห้องอยู่ก่อน ก็เลิกคิดมาก ‘คนอื่นเค้ายังลองทำกันเลย จะเสียเวลาทำไม’
“งั้นพี่ไปนั่งตรงนั้นนะ” มาตาร์ชี้ไปบริเวณที่ใกล้กับลำธาร
“อ๊ะ!..ค่ะ งั้นหนูไปนั่งตรงนั้น” เมโลดี้ตกใจที่จู่ๆมาตาร์ก็เดินไป ตอนแรกเธอกะจะไปนั่งใกล้ๆ แต่ก็กลัวว่าจะรบกวนการฝึกที่เธอก็ไม่รู้ว่าทำยังไง จึงตัดสินใจนั่งห่างจากมาตาร์อีกเล็กน้อย
มาตาร์เดินมานั่งที่ริมลำธารแล้วก็เอาขาจุ่มน้ำวนไปวนมา ‘หรือจะให้เราฝึกเพ่งกสิณเนี่ย’
แล้วมาตาร์ก็นั่งเหม่อมองน้ำไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมาย
Rewrite tag: แก้คำผิดเล็กน้อย
ความคิดเห็น