คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #110 : บทที่106: ตลาดมืด
บทที่106 ตลาดมืด
“น้ำค้างใบกล้วย รากบัวดอกฟ้า กระดูกมังกร อะไรเนี่ย!?” คริมซั่นตกใจเมื่อเห็นรายการวัตถุดิบของยานอนหลับ
“ฮุฮุ แค่ภารกิจระดับเอสไงล่ะ” โรสแซวขึ้นมาเมื่อเห็นว่าคริมซั่นเคยพูดดูถูกว่าภารกิจนี้มันง่ายแสนง่าย
“ภารกิจระดับเอส ให้ไปดวลกับมังกรเลยเหรอเนี่ย” คริมซั่นไม่เข้าใจว่าภารกิจที่มีความยากระดับขั้นรองบ๊วยทำไมมันถึงได้โหดขนาดนี้
“บางทีเราอาจจะหาซื้อได้ก็ได้นะ พวกวัตถุดิบเนี่ย” อาเชอร์ลองเสนอทางเลือกที่น่าจะง่ายกว่าการไปดวลกับมังกร
“หรือไม่ก็หาลูกมังกรมาแทน” โรสเสนอบ้าง
“ทั้งไอ้เจ้าปุกปุยกับมังกร ถ้าจับได้เองมันจะมีค่ามากกว่าของรางวัลสำหรับภารกิจรึเปล่าเนี่ย” คริมซั่นชักจะสงสัยว่า ถ้าถึงขั้นฆ่ามังกรหรือจับเสือขนาดสองเมตรได้ แต่ต้องเอามาแลกกับไข่แมวฟองเดียวมันคุ้มกันหรือ
“ถือว่าเป็นวิทยาทานนะฮ้าคริมซั่น พวกเราจะได้รู้เอาไว้ว่าภารกิจระดับเอสมันยากแค่ไหน แล้วมันคุ้มมั้ย” มาเจนต้าพูดขึ้นมาเมื่อเห็นท่าทางหงุดหงิดของคริมซั่น
“งั้นเดี๋ยวตอนกลางคืนลองมาเดินในเมืองมั้ยล่ะ” ราตรีเสนอขึ้นมา
“ทำไมเหรอครับพี่ราตรี” อาเชอร์สงสัย ทำไมถึงต้องมาเดินในเมืองตอนกลางคืนที่ร้านค้ามันไม่เปิด
“พอดีเมื่อวันก่อนอยากจะมาหาข้อมูลในเมือง แล้วดันเจอตลาดมืดเข้าน่ะสิ” ราตรีตอบ
ราตรีกับเมโลดี้เมื่อมาถึงเมืองพอร์ตทาวน์ครั้งแรก ทั้งคู่นึกว่าร้านค้าจะเปิดตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงเหมือนเกาะเริ่มต้น จึงออกมาเดินหาซื้อของกันตอนกลางคืน แต่ร้านค้ากลับไม่เปิด แต่เมื่อเดินไปเรื่อย ๆ ก็พบว่า ร้านบางร้านที่ตอนกลางวันไม่เปิด กลับเปิดตอนกลางคืนแทน
“เผื่อว่าจะมีวัตถุดิบที่เราต้องการขายไงล่ะคะ” เมโลดี้เสริม
“อืม ก็ดีค่ะ งั้นตอนนี้เราจะทำอะไรดีล่ะคะ” โรสถามขึ้นมา ถ้าไม่คิดจะรวบรวมวัตถุดิบตอนนี้แล้วจะให้ทำอะไร
“เราไปรับอาวุธที่สั่งทำเอาไว้ก่อนดีกว่า นี่ก็ครบกำหนดแล้วไม่ใช่เหรอ” ราตรีทักขึ้นมา ซึ่งทุกคนก็เกือบจะลืมกันไปแล้วด้วยว่าสั่งอาวุธกันเอาไว้ตั้งแต่เมื่อสองวันก่อน
ดังนั้นทั้งหกคนจึงไปรับอาวุธกันที่ร้านตีเหล็ก ซึ่งแต่ละคนก็พอใจกับอาวุธที่ตนเองสั่งทำเอาไว้ คริมซั่นเป็นหอกซึ่งมีด้ามยาวแค่เมตรครึ่งและมีใบหอกตรงหนาอีกครึ่งเมตรที่มีผลึกธาตุไฟฝังอยู่ อาเชอร์เป็นลูกตุ้มเหล็กร้อยโซ่ซึ่งลูกตุ้มมีขนาดเล็กกว่าเดิมมาก จากที่ของเดิมมีเส้นผ่าศูนย์กลางกว่าสามสิบเซนติเมตร เหลือเพียงแค่สิบห้าเซนติเมตรเท่านั้นซึ่งพอจะถือได้อย่างสะดวกด้วยมือข้างเดียว โดยที่น้ำหนักลูกตุ้มยังหนักเหมือนเดิมเหมาะแก่การขว้างปามากขึ้น โซ่เบาลงเส้นเล็กลงเพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการเคลื่อนไหวด้วย แถมความแข็งแรงยังมีมากกว่าเดิมเสียอีก มาเจนต้าเป็นชุดมีดปาร้อยเล่มพร้อมกระเป๋าเก็บมีดโดยเฉพาะทำให้ไม่เปลืองที่เก็บมีดแถมไม่เพิ่มน้ำหนักด้วย กับมีดคู่ทรงโค้งซึ่งเน้นการแทงเป็นหลักเหมาะแก่การเลาะกระดูก ของโรสเป็นดาบสั้นที่มีศูนย์ถ่วงอยู่ที่ปลายดาบเพื่อเพิ่มแรงเหวี่ยงได้ง่ายตอนใช้ท่าไม้ตายและฝังผลึกไฟกับสายฟ้าลงไปเพื่อเพิ่มพลังธาตุตอนใช้คู่กับเวทด้วย ของราตรีเป็นดาบเรเพียร์แบบมาตรฐาน แต่ที่พิเศษคือตรงกั่นดาบเป็นช่องว่างเหมือนกับจะให้ใส่ลูกแก้วได้ ส่วนของเมโลดี้เป็นมีดโค้ง ซึ่งใบมีดมีขนาดใหญ่และยาวถึงหนึ่งเมตร กับปลอกแขนที่มีใบดาบคู่หนึ่งสำหรับแองเจล่า
ซึ่งอาวุธแต่ละชิ้นมีค่าสั่งทำไม่ต่ำกว่าชิ้นละแสนโกลด์ แต่พวกโซล่าร์ซิสฯ และเมโลดี้กับราตรีต่างได้รับเงินจากการล่าค่าหัวคนเป็นร้อยคน ทำให้มีเงินเหลือเฟือที่จะใช้จ่ายได้
“แล้วจะทำอะไรต่อดีคะ” โรสถามความเห็นขึ้นมาอีกหลังจากที่ได้รับอาวุธใหม่กันถ้วนหน้าแล้ว
“ก็ลองแยกย้ายกันเดินเที่ยวแล้วกัน ตั้งแต่มาถึงทวีปใหญ่นี่ยังไม่ได้เที่ยวเล่นเลยใช่มั้ยล่ะ” ราตรีเห็นว่าตั้งแต่ขึ้นฝั่งมาก็เอาแต่ล่าผู้เล่นชื่อแดง เสร็จแล้วก็มาทำภารกิจต่ออีก เมืองก็ออกจะใหญ่โต ยังไม่ได้เดินดูให้ทั่ว ๆ เลย เอาแต่เคร่งเครียด ไม่หัดหาความสำราญตอนเล่นเกมซะบ้างจะเสียเที่ยวเสียเปล่า ๆ
“ก็ดีนะฮ้า เดี๊ยนยังไม่เคยเดินเล่นตอนกลางวันแบบนี้เลย ส่วนใหญ่จะว่างกันตอนเย็น ๆ บรรยากาศมันไม่เหมือนกัน” มาเจนต้าเห็นด้วย เพราะปกติจะมีเวลาอิสระตอนเย็นเสมอ ลองเปลี่ยนบรรยากาศบ้างก็ไม่เลว
“งั้นนัดเจอกันอีกทีตอนประมาณทุ่มนึงละกันนะ กินข้าวกันมาให้เรียบร้อยล่ะ” ราตรีนัดเวลาทันที
แล้วทุกคนก็แยกย้ายกันไปเดินเล่นเป็นการส่วนตัว
เมโลดี้ไปเดินเล่นกับราตรี มาเจนต้ากับโรสแยกไปเดินเล่นคนเดียว คริมซั่นกับอาเชอร์ไปเดินเล่นกันตามประสาผู้ชาย
เพราะฉะนั้นคนที่ตกเป็นเป้าหมายในการโจมตีก่อน ย่อมเป็น...
ฟิ้ว ฟิ้ว
โรสกระโดดหลบง้าวที่ถูกฟาดออกมาได้อย่างฉิวเฉียดเมื่อเธอเดินอยู่ในซอยเปลี่ยวแห่งหนึ่งในเมือง
“น้องสาวเดินคนเดียวกะจะมาอ่อยเหยื่อให้พวกพี่เหรอจ๊ะ” ชายคนหนึ่งพูดขึ้นมาจากทางด้านหลัง
แล้วผู้คนกว่าสิบคนก็รุมปิดทางเดินของซอยแห่งนี้เอาไว้ทั้งสองด้าน
โรสย่อมตกเป็นเป้าหมายแรก เพราะเธอเป็นหญิงสาวที่ดูท่าทางอ่อนแอที่สุดในกลุ่ม แถมยังเดินคนเดียวด้วย
“งื้อ! ทำยังไงดีเนี่ย” โรสสำรวจเหล่าผู้คนที่มาล้อมเธอเอาไว้ ซึ่งมีทั้งพวกชื่อแดงและชื่อไม่แดง
“ก็ตายซะสิ!” ชายคนหนึ่งตะโกนพร้อมเงื้อดาบฟันเข้าใส่โรสทันที
โรสหมุนตัวไปทางขวาเพื่อหลบดาบพร้อมก้าวประชิดร่างของชายคนนั้นทันที
“กุหลาบแย้ม!” โรสตะโกนพร้อมกับกระแทกไหล่ซ้ายเข้าที่แขนและลำตัวของชายคนนั้นเต็ม ๆ
ตูมม! อ๊ากก!
ร่างของชายที่ถือดาบกระเด็นออกไปพร้อมกับแขนที่หักเพราะแรงกระแทก และเนื่องจากชายคนนั้นเป็นคนที่ไม่มีค่าหัว โรสจึงไม่ได้ตามไปซ้ำ
ฟิ้ว! เชียะ!
แต่ทันใดนั้นคนที่ล้อมอยู่อีกด้านหนึ่งก็ฟาดง้าวอันยาวเข้าใส่โรสจากทางด้านหลัง หญิงสาวยังกระโดดหลบให้พ้นจากความตายมาได้ แต่ปลายมีดนั้นก็ยังเฉี่ยวถูกร่างของเธอจนเห็นเป็นรอยกรีดบาง ๆ ที่แขนขวา
‘อยู่ในซอยข้างร้านเสริมสวย’ โรสส่งข้อความออกไปทันที คนที่รู้ดีว่าร้านเสริมสวยอยู่ที่ไหนมีแค่มาเจนต้าเท่านั้น คนอื่น ๆ ในทีมคงจะไม่รู้
ฟิ้ว! ฟิ้ว! เคร้ง!
จะว่าโชคดีหรือโชคร้ายก็ไม่รู้ เมื่อคนกว่าสิบคนนั้นไม่สามารถรุมหญิงสาวสีชมพูได้พร้อม ๆ กัน เนื่องจากความคับแคบของซอยทำให้โรสยังมีที่ทางพอจะหลบหลีกอาวุธและโต้กลับได้
ฟิ้ว! ฉึก!
“อ๊ายย!!”
แล้วหอกเล่มหนึ่งพุ่งเข้ามาแทงโดนท้องของโรสในที่สุด แต่เธอก็ยังสามารถใช้ปราณน้ำแข็งคลุมปลายหอกเอาไว้ไม่ให้มันแทงทะลุร่างของเธอไปได้ พร้อมกับใช้มือจับปลายหอกเอาไว้
ฉัวะ! ฉัวะ! อ๊ากก!
โรสใช้ดาบของเธอแล้วใส่พลังเวทลงไปทำให้ดาบเกิดพลังธาตุสายฟ้าและไฟขึ้นมาทันที แล้วตวัดมันตัดด้ามหอกออกไปแล้วโจมตีต่อเนื่องตวัดเข้าสะพายแล่งของชายหอกหักทันทีจนร่างของมันสลายไป
“อือ ...ไม่สนแล้ว ใครเข้ามาก็ตายทั้งหมดล่ะ” โรสพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่แสดงความอ่อนแรงเนื่องจากโดนหอกปักเข้าท้องอยู่ และชายคนที่เธอเพิ่งจะฟันตายไปเป็นคนที่ไม่มีค่าหัวด้วย
กลุ่มคนที่รุมล้อมเห็นดังนั้นก็เพิ่มความระวังขึ้น จากที่พวกมันคิดว่าโรสคงจะไม่ฆ่าคนที่ไม่มีค่าหัว แต่ตอนนี้สถานการณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว ถ้าหญิงสาวสีชมพูฆ่าคนที่ไม่มีค่าหัวไป ก็หมายความว่าเธอคงจะฟันใส่ทุกคนแบบไม่ลังเลอีกแล้ว
พรืด! วูม!
โรสดึงปลายหอกออกจากท้องของเธอแล้วใช้ปราณน้ำแข็งหยุดเลือดเอาไว้ไม่ให้มันไหล ระหว่างนั้นน้ำยาฟื้นพลังที่อยู่ในเข็มขัดก็ค่อย ๆ ฟื้นพลังให้เธออย่างช้า ๆ
“แฮก แฮก” โรสหอบออกมาอย่างเห็นได้ชัดทั้ง ๆ ที่สู้ไปได้ไม่กี่นาทีเท่านั้นเอง
“ฮึ ๆ ๆ” กลุ่มคนที่ล้อมโรสอยู่หัวเราะออกมา
โรสรู้ตัวว่าเสียท่าเข้าให้แล้ว เธอคงจะโดนพิษอะไรเข้าไปเป็นแน่ บางทีอาจจะเกิดจากอาวุธที่เฉี่ยวเธอไปครั้งแรก หรือไม่ก็จากหอกที่เธอโดนเข้าไป หรือไม่ก็ทั้งหมดนั่นแหละที่มีพิษ
‘แย่ล่ะสิ’ โรสคิดขึ้นมาพร้อม ๆ กับขาที่ค่อย ๆ อ่อนแรงลง สายตาก็เริ่มพร่าเลือน
“เสร็จล่ะนังหนู ตายซะคนแรกละกัน แล้วพวกเราจะส่งเพื่อน ๆ ของเธอตามไปเรื่อย ๆ” ชายคนหนึ่งที่ล้อมอยู่พูด
ฉัวะ! ฉัวะ! อ๊ากก! อ๊ากก!
แต่แล้วคนที่โดนล้อมอยู่สองคนกลับโดนอาวุธบางอย่างโจมตีจนสลายไป
“ใครน่ะ!”
ฉัวะ! พรึบ! อ๊ากก!
ผู้ที่ตะโกนถามออกมาหันไป แต่ไม่ทันได้รับคำตอบกลับโดนคมมีดกรีดเข้าที่หน้าหนึ่งทีแล้วเกิดมีไฟลุกขึ้นมาจากแผล ก่อนที่จะล้มลงไปร้องโหยหวนแล้วสลายร่างไปอีกคน
ตูมม! ตูมม! อ๊ากก!
แล้วเสียงต่อยหนัก ๆ สองทีก็ดังขึ้นมาก่อนที่อีกร่างหนึ่งจะสลายไป
ในสติอันเลือนรางของโรส เธอเห็นชายคนหนึ่ง เขาลงมือรวดเร็ว รุนแรง และไม่มีลังเล ช่างคล้ายเหลือเกิน
“พี่มา..ตาร์” โรสครางออกมาคำหนึ่งก่อนจะหมดสติไป
“...โรส”
“อืม” โรสได้ยินเสียงอะไรเบา ๆ และสัมผัสบนใบหน้า
“...โรส” เสียงนั้นดังขึ้นอีก
“อืม...” โรสเริ่มรู้สึกตัว แต่เธอก็ยังเบลอ ๆ อยู่
“หนูโรสฮ้า!” เสียงมาเจนต้าดังขึ้นพร้อมกับมือที่ตบหน้าเธอไปมาเบา ๆ เพื่อเรียกสติ
“หืม? ...มาเจนต้า?” โรสลืมตาขึ้นในที่สุด บาดแผลเธอหายไปแล้ว คงเพราะน้ำยาฟื้นพลังที่ทำหน้าที่ของมันอย่างช้า ๆ ช่วยชีวิตเธอเอาไว้
“เป็นยังไงบ้างฮ้า” มาเจนต้าถามหญิงสาวหลังจากที่เห็นว่าเธอได้สติ
พรึบ!
“พี่มาตาร์!” โรสลุกพรวดขึ้นทันที ทำเอามาเจนต้าตกใจ
“หนูโรส!” มาเจนต้าอุทานออกมาพร้อมกับมองหน้าของโรสอย่างสงสัย
“มาเจนต้า พี่มาตาร์ล่ะ?” โรสถามหาชายหนุ่มที่เธอกำลังตามหาอยู่ทันที
“พี่มาตาร์อะไรฮ้า เดี๊ยนมาถึงก็เห็นหนูโรสนอนสลบไสลอยู่คนเดียวนี่แหละ” มาเจนต้าเล่าเหตุการณ์ตอนที่เธอมาเจอโรสในซอยนี้
“ไม่มีคนอื่นอยู่อีกเลยเหรอ?” โรสยังไม่หายข้องใจ
“ไม่มีฮ่า เดี๊ยนเห็นหนูโรสนอนอยู่คนเดียว เกิดอะไรขึ้นฮ้า” มาเจนต้าถามด้วยความเป็นห่วง
แล้วโรสก็เล่าเหตุการณ์ที่เธอโดนล้อมและโดนพิษให้มาเจนต้าฟัง กับเหตุการณ์สุดท้ายก่อนเธอจะสลบไปว่ามีชายคนหนึ่งมาช่วยเธอเอาไว้ ซึ่งเธอคิดว่าชายคนนั้นต้องเป็นมาตาร์แน่ ๆ
“แล้วโรสเห็นหน้าเค้ารึเปล่าฮ้า” มาเจนต้าถาม
“ก็ไม่เห็นหรอก” โรสตอบ
“แล้วทำไมถึงคิดว่าเป็นพี่มาตาร์ล่ะฮ้า” มาเจนต้าถามอีก
“ก็ลงมือแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยแบบนั้น พวกที่ล้อมอยู่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวซักคน มันน่าจะใช่นี่นา” โรสเล่าถึงวิธีลงมือของชายคนนั้นให้มาเจนต้าฟัง
มาเจนต้าก็พอจะเข้าใจว่าการลงมือแบบนั้นเป็นอย่างไร ประเภทใช้วิธีลอบกัดและเล่นทีเผลอแบบนี้ พอจะทำใจเชื่อได้บ้างว่าเป็นมาตาร์ แต่ก็ยังปักใจเชื่อแบบนั้นไม่ได้เสียทีเดียว เพราะวิธีลงมือแบบนี้ไม่ได้เป็นวิธีที่แปลกประหลาดอะไร ใคร ๆ ก็ลงมือได้ เผลอ ๆ วิธีลงมือแบบนี้จะใช้กันอย่างแพร่หลายอยู่แล้วด้วยซ้ำ
“เดี๊ยนว่าพักเรื่องนี้เอาไว้ก่อน แต่ช่วงนี้เวลาไปไหนมาไหนไปกันอย่างน้อยสองคนดีกว่านะฮ้า เกิดโดนรุมอีกทีจะได้ไม่มีปัญหาเหมือนคราวนี้” มาเจนต้าเสนอขึ้นมา ซึ่งโรสก็ยอมรับแต่โดยดี
แล้วช่วงพักที่เหลือมาเจนต้ากับโรสก็เดินเล่นในเมืองด้วยกัน โดยโรสคอยมองผู้คนรอบ ๆ อยู่ตลอดเวลาเพราะหวังว่าอาจจะเจอคนที่เธอตามหาก็ได้
“หนูโรสจะไปล้างค่าหัวก่อนมั้ยฮ้า เดี๋ยวก็โดนพวกล่าค่าหัวดักฆ่าเอาจนได้” มาเจนต้าถามโรสขึ้นมาขณะเดินเล่นไปถึงบริเวณอาคารประจำเมือง
“อือ เอาสิ” โรสลองเปิดกระดานเช็กค่าหัวดูก็เห็นว่าเธอมีค่าหัวไม่มากนัก เพราะฆ่าคนที่ไม่มีค่าหัวไปแค่คนเดียวเท่านั้นเอง
“อ๊ะ!” แต่แล้วเหมือนโรสจะคิดอะไรได้จึงอุทานออกมาคำหนึ่ง แล้วเปิดกระดานค่าหัวแล้วหาชื่อคนที่เธอต้องการทันที
มาเจนต้าซึ่งเห็นพฤติกรรมที่เดิน ๆ อยู่แล้วอุทานออกมาของโรสก็สงสัยขึ้นมา
“เป็นอะไรเหรอหนูโรส” กะเทยบานเย็นถามด้วยความสงสัย
“เจอแล้ว!” หญิงสาวสีชมพูอุทานออกมาอย่างตื่นเต้น
“อะไรฮ้า?” มาเจนต้ายิ่งสงสัยเข้าไปอีก
“มาเจนต้าเปิดกระดานค่าหัวเร็ว” โรสบอกมาเจนต้าทันที ซึ่งแม่กะเทยบานเย็นก็ทำตามอย่างรวดเร็ว
พวกโซล่าร์ซิสฯ และเมโลดี้กับราตรีได้อัพเกรดกระดานข่าวสารเพื่อเช็กค่าหัวกันทุกคนตามคำแนะนำของซารีน่าเพราะการมีข้อมูลค่าหัวก็ช่วยให้เลือกเป้าหมายหาเงินได้สะดวกขึ้น ดูว่าค่าหัวคนที่จะล่าคุ้มค่ากับเงินที่ได้รับไหม
“ลองใส่ชื่อมาตาร์ลงไปสิ” โรสบอกมาเจนต้าอีก แล้วมาเจนต้าก็เข้าใจทันทีว่าเมื่อสักครู่โรสอุทานออกมาทำไม
ชื่อผู้เล่นมาตาร์ที่มีค่าหัวเรียงกันเป็นพืด มาเจนต้าลองกะด้วยสายตาดูแล้วไม่น่าจะต่ำกว่าสามสิบคน ข้าง ๆ ชื่อก็มีรูปของผู้เล่นอยู่ด้วยว่าหน้าตาเป็นอย่างไร
“อ๋า!” แล้วมาเจนต้าก็อุทานออกมาเมื่อเห็นผู้เล่นมาตาร์คนหนึ่งที่หน้าตาคุ้น ๆ
“เจอแล้วใช่มั้ย?” โรสถามกะเทยสาว
“อะไรเนี่ย? สามสิบล้านโกลด์ พี่มาตาร์ไปทำอะไรให้ค่าหัวขึ้นขนาดนี้เนี่ย” มาเจนต้าร้องออกมาอย่างแปลกใจเมื่อเห็นว่าชื่อมาตาร์ที่มีค่าหัวสูงที่สุดคือมาตาร์คนที่เธอรู้จัก
“อย่างน้อย ๆ ตอนช่วยโรสก็ฆ่าคนไม่มีค่าหัวไปหลายคนล่ะ” โรสยังไม่ตัดใจ เธอปักใจเชื่อว่าคนที่มาช่วยเธอคือมาตาร์แน่นอน และนั่นเป็นเหตุผลที่เธอนึกถึงกระดานค่าหัวขึ้นมา เพราะมาตาร์จะต้องมีค่าหัวแน่นอนจากการช่วยเธอเอาไว้
หลังจากที่โรสจ่ายเงินเพื่อล้างค่าหัวเรียบร้อย เธอก็ส่งข้อความเรียกทุกคนมาเพื่อที่จะเล่าเรื่องที่เธอถูกช่วยเอาไว้ให้ทุกคนฟัง พร้อมกับให้ทุกคนเปิดดูค่าหัวของมาตาร์
“อืม สามสิบล้านเหรอ ล่าได้แล้วเอามาแบ่งกันนะ” ราตรีพูดขึ้นมาด้วยอารมณ์หมั่นไส้หลังจากที่เห็นหน้าชายหนุ่มผมแดงในรายชื่อค่าหัว
“งื้อ รัตอ้ะ เดี๋ยวพี่มาตาร์ก็หนีไปอีกหรอก” เมโลดี้เตือนเพื่อนสาว
“ชั้นไม่ลืมให้ตานั่นบันทึกจุดเกิดที่อยู่ใกล้ไว้ก่อนหรอกย่ะ พอฟื้นขึ้นมาแล้วจะได้หาเจอทันที” ราตรีตอบกลับ ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่เมโลดี้กังวลสักหน่อย
พวกโซล่าร์ซิสฯ แอบขำในใจถึงท่าทางโกรธของราตรี ซึ่งก็รู้ดีว่าราตรีไม่มีทางฆ่ามาตาร์หรอก เผลอ ๆ จะร้องไห้ตอนเจอหน้าด้วยซ้ำ ส่วนเมโลดี้ก็ยิ้มแห้ง ๆ ให้กับพฤติกรรมของเพื่อนสาว
หลังจากนั้นทั้งหมดจึงหาที่กินอาหารร่วมกันเสียเลย ไหน ๆ ก็มารวมกันแล้ว จนกระทั่งได้เวลาหนึ่งทุ่ม ทุกคนจึงยกขบวนไปที่ตลาดมืดที่ราตรีเคยเห็นในเมือง
ในเมืองยังมีตรอกซอยบางแห่ง ที่ยิ่งเดินลึกเข้าไปก็จะยิ่งพบกับความครึกครื้น มีตลาดขนาดย่อม ๆ ที่ผู้เล่นหลายคนมาตั้งแผงขายของ
พวกราตรีทั้งหกคนเดินเข้าตรอกมาถึงพื้นที่โล่งท่ามกลางสิ่งก่อสร้างในเมือง ผู้คนเป็นร้อยตั้งแผงขายของตามพื้น มีทั้งน้ำยา อาวุธ เครื่องประดับ วัตถุดิบหายากหลายชนิด
“ไม่เห็นจะเข้าใจเลย ว่าเปิดร้านขายของมันสนุกตรงไหน” โรสพูดออกมาอย่างไม่เข้าใจ เพราะเธอเป็นคนหนึ่งที่ไม่คิดจะมาตั้งร้านหรือหาเงินด้วยวิธีนี้ เพราะการนั่งเฉย ๆ มันน่าเบื่อ เธอชอบการออกไปล่าสัตว์อสูรเก็บเงินมากกว่า
“บางคนฆ่าสัตว์อสูรหายากแล้วได้วัตถุดิบดี ๆ มา แต่เค้าไม่ต้องการ ถ้าเป็นหนูโรส หนูโรสจะทำยังไงล่ะฮ้า” มาเจนต้าแนะโรสให้มองอีกมุมหนึ่ง
“อ้อ ...อย่างนี้นี่เอง” โรสเข้าใจในที่สุด ถ้าเธอล่ามังกรได้ แล้วได้เกล็ดมังกรมา แต่ไม่อยากได้มัน จะทิ้งเอาไว้ก็เสียดาย ทางเลือกที่ดีที่สุดก็คือเอามันมาขายนั่นเอง
“เรามาเดินดูวัตถุดิบที่เราต้องการกันดีกว่านะ” เมโลดี้พูดขึ้นมา
แล้วทั้งหมดก็จับคู่กันเดินไปทั่ว ๆ พื้นที่ตลาดขายของยามค่ำคืนนี้
“อ๊ะ! นั่น” โรสเหลือบไปเห็นแผงลอยร้านหนึ่งขายแต่วัตถุดิบแปลก ๆ เธอจึงเดินเข้าไปดูว่ามีสิ่งที่เธอต้องการหรือไม่
โรสหยิบของขึ้นมาชิ้นหนึ่งแล้วใช้คำสั่งสำรวจ
อุปกรณ์ | ความต้องการ | คุณสมบัติ |
กระดูกมังกรดิน | - | วัตถุดิบ |
“เจอแล้ว! กระดูกมังกร” โรสอุทานออกมาอย่างดีใจที่เธอหาวัตถุดิบที่ต้องการได้ในที่สุด
“ถ้าอยากได้ก็เขียนราคาและชื่อเอาไว้เลยครับ” พ่อค้าประจำแผงบอก
“หา?” โรสไม่เข้าใจว่าพ่อค้าหมายความว่าอย่างไร
“อ้อ มือใหม่สินะ” พ่อค้าเห็นท่าทางของโรสก็เข้าใจได้ในบัดดล “ร้านของผมเป็นร้านขายของแบบประมูลครับ กระดูกมังกรนั่นก็มีแค่ชิ้นเดียว ผมจะขายให้กับคนที่ให้ราคาสูงที่สุด”
“กำหนดเวลาถึงเมื่อไหร่ฮ้า” มาเจนต้าแทรกขึ้นมาทันที ดูเหมือนกะเทยบานเย็นพอจะมีความรู้อยู่บ้าง
“เที่ยงคืนจ้ะน้องสาว” พ่อค้าพูดพร้อมกับขยิบตาให้มาเจนต้า
เมื่อมาเจนต้ารู้ระบบแล้ว เธอก็รับปากกาจากพ่อค้าแล้วเขียนราคาลงไปทันที
50,000 G มาเจนต้า
“แล้วกลับมาดูใหม่นะน้องสาว” พ่อค้ารับปากกาคืนมาแล้วขยิบตาให้กะเทยสาวอีกที
“มันคืออะไรเหรอมาเจนต้า” โรสถามมาเจนต้าทันทีที่เดินออกจากแผงประมูลแล้ว
“มันก็คือร้านประมูลแบกะดินไงล่ะฮ้า ใครที่เขียนราคาสูงกว่าก็จะได้ของที่ต้องการไป” มาเจนต้าบอกกับหญิงสาวสีชมพู
“อ้าว ถ้าอย่างนั้นก็จะมีคนเสนอราคาสูงขึ้นได้เรื่อย ๆ ไม่จบไม่สิ้นเลยน่ะสิ” โรสยังไม่เข้าใจว่ามันจะขายของกันยังไงถ้าต้องเสนอราคาสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ
“ถึงได้กำหนดเวลาไงล่ะฮ้า อย่างร้านนั้นถึงเวลาเที่ยงคืนเค้าก็จะขายกระดูกมังกรให้กับคนที่ให้ราคาสูงที่สุด” มาเจนต้ากล่าว
“อ้าว แต่ถ้ามีคนซื้อไปก่อนล่ะ ถ้าเกิดมีคนให้ราคาสูงมาก ๆ ๆ จนพ่อค้ายอมขายทันที” โรสยังสงสัยอยู่
“ถึงต้องกลับไปดูเรื่อย ๆ ไงล่ะฮ้า ว่าราคาของที่เราต้องการมันสูงถึงขนาดไหนแล้ว ถ้าเกิดพ่อค้าถูกใจราคาที่ลูกค้าเสนอไป บางครั้งเค้าก็ไม่รอให้ถึงเวลาเหมือนกัน” มาเจนต้ากล่าว
โรสเข้าใจถึงคำพูดของพ่อค้ากับมาเจนต้าที่โต้ตอบกันในท้ายที่สุด ที่บอกว่า ‘แล้วกลับมาดูใหม่นะ’
ระหว่างนั้นคู่ของคริมซั่นกับอาเชอร์ก็หาน้ำค้างใบกล้วยเจอแล้วสามารถซื้อมันมาได้ทันที
“ไชโย ได้มาหนึ่งอย่างแล้ว” คริมซั่นร้องขึ้นมาอย่างดีใจพร้อมกับเก็บขวดของเหลวขนาดหนึ่งลิตรเข้าไปที่เข็มขัด
“มาเจนต้าบอกว่ากำลังอยู่ในช่วงประมูลกระดูกมังกรอยู่” อาเชอร์หันมาบอกคริมซั่นถึงข้อความที่มาเจนต้าส่งมาหาเขา
“ถ้างั้นก็เหลือรากบัวดอกฟ้าอย่างเดียวสินะ” คริมซั่นเอ่ยขึ้นมา
“อะไรยะ ชั้นเจอก่อนนะ มันต้องเป็นของชั้นสิ” เสียงราตรีแหวออกมา
“อะไรของหล่อน ชั้นมาก่อนเห็น ๆ ต้นบัวฟ้านี้มันต้องเป็นของชั้น” หญิงสาวอีกคนก็ไม่ยอมแพ้ เธอเป็นหญิงสาวผิวขาวผมยาวสีแดงซึ่งถักเป็นเปียเอาไว้ มีดาบเล่มโตพาดอยู่กลางหลัง
“ตกลงจะขายให้ใคร/จะขายให้ใคร” สองสาวประสานเสียงกันแล้วหันมาทางพ่อค้าประจำแผง
“...เอ้อ” พ่อค้าท่าทางอ้ำอึ้งที่เห็นสาวสองคนอยากได้ของชิ้นเดียวกัน ซึ่งของก็มีอยู่ชิ้นเดียว แถมทั้งคู่ยังไม่ยอมให้กันด้วย
“ถ้างั้นใครตายก็อดได้ละกันนะ” หญิงสาวผมเปียใจร้อนกว่า เธอพูดออกมาพร้อมส่งสัญญาณท้าสู้ไปที่ราตรีทันที
“ได้เสียสิยะ อย่างนี้ก็ง่ายชั้นเลยสิ” ราตรียิ้มเหี้ยมเกรียมออกมาทันทีที่หญิงสาวตรงหน้าท้าสู้
แล้วศึกระหว่างสองสาวที่อยากจะได้ต้นบัวฟ้าก็เริ่มต้นขึ้น โดยมีผู้คนในตลาดมืดพากันมามุงดูอย่างสนใจ พร้อมกับเริ่มเดิมพันกันทันที
มาตาร์จะอยู่แถวนี้รึเปล่าน้า
Rewrite tag: แก้บทบรรยาย
ความคิดเห็น