ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ยังไม่สาย...ถ้าหากเราจะรักกัน

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 2 กลายเป็นเรื่อง...

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 523
      9
      10 พ.ค. 56





    2

                    ปัง !!!

                    เวรเอ้ย !

                    ธนวรรธน์สบถออกมาเสียงดังอย่างคาดไม่ถึงพลางคว้าข้อมือนิษฐาที่อยู่อยู่ใกล้ๆทำท่าจะวิ่งไป แต่เสียงของนิษฐาก็ขัดขึ้นมาก่อน

                    คุณจะพาฉันไปไหน  ปล่อยมือฉันเดี๋ยวนี้นะ

                    “ คุณอย่าเพิ่งพูดอะไรตอนนี้ หนีก่อนดีกว่า  ไม่งั้นตัวเราพรุนไปด้วยลูกกระสุนแน่ ! ”  ธนวรรธน์พูดพร้อมกับพานิษฐาวิ่งไปอีกทาง  ปล่อยให้ชายหนุ่มคู่กรณีตั้งแต่แรกได้แต่คำรามออกมาเสียงดังท่ามกลางบรรยากาศที่แสนวุ่นวายเนื่องจากผู้คนในร้านที่พากันวิ่งออกจากร้านและหลบกันให้วุ่น

                    ออกมาสิมึง ปากดีนัก ไม่กลัวไม่ใช่รึไง !! ”

     

                    ธนวรรธน์พานิษฐาวิ่งหลบออกมาตามทางออกของหลังร้านจนเกือบจะถึงทางออก  ธนวรรธน์หยุดวิ่งพลางหันไปมองรอบๆ  หันไปพูดกับนิษฐา

                    ผมว่าเราหลบที่ตรงมุมนั้นก่อนดีกว่า

                    “ หลบ... ? ”  นิษฐาพูดพลางปลายตามองไปยังตรงมุมมืดๆมุมหนึ่งที่เหมือนเป็นที่เก็บของย่อมๆเพราะมีลังวางกองตั้งสูงเกือบจดเพดานอยู่ด้านใน   หลบทำไม  อีกนิดเดียวเราก็ถึงทางออกแล้วนะ

                    “ ออกไปตอนนี้คุณไม่กลัวถูกยิงตายรึไง...มันเห็นอยู่ว่าเราวิ่งหลบมาทางหลังร้าน  มันต้องไปดักรอเราตรงทางออกแน่ๆ   ธนวรรธน์พยายามอธิบาย

                    แล้วอย่างนี้เราจะมีวิธีออกไปจากร้านนี้ได้ยังไง

                    “ คุณตามผมมาล่ะกันน่ะ  ผมไม่พาคุณไปให้ไอพวกนั้นยิงทิ้งฟรีๆแน่

                    ธนวรรธน์พูดตัดบทก่อนจะจับมือพาหญิงสาวเดินเข้าไปหลบที่มุมๆหนึ่งที่มองไว้ตั้งแต่แรก  นิษฐายอมเดินตามไปแต่โดยดีเพราะไม่รู้จะขัดยังไง  แต่ทันทีที่ทั้งสองนั่งลงจนคิดว่าพอจะหลบได้  คำถามๆหนึ่งที่หญิงสาวตั้งไว้ตั้งแต่เขาพาวิ่งหนีออกมาก็ถูกถามขึ้น

                    ไหนคุณบอกว่าคุณไม่กลัวเขาไงคะ ” 

                    ธนวรรธน์ฟังแล้วนิ่งไปหน้าเจื่อนลง  ก่อนจะค่อยๆเบือนหน้าหนีอย่างใช้ความคิด

                    ผมถอยมาตั้งหลัก ”  ชายหนุ่มหันมาตอบหน้านิ่งเหมือนแก้ตัว  นิษฐาฟังแล้วยกยิ้มอย่างแสดงออกว่าไม่เชื่อคำพูดของชายหนุ่มข้างตัวแม้แต่น้อย  ธนวรรธน์ไม่ได้ใส่ใจว่านิษฐาจะเชื่อหรือไม่แต่กลับมองไปยังใบหน้าที่เปื้อนยิ้มบางของหญิงสาวนั้นอย่างถูกใจ

                    คุณยิ้มน่ารักดี คำพูดของเขาทำเอานิษฐาต้องรีบหุบยิ้มในทันทีและพูดขัดขึ้น

                    ตามหลักคุณกำลังแก้ตัวและเฉไฉไปเรื่องอื่น

                    ธนวรรธน์มองใบหน้าที่เชิ่ดขึ้นพูดอย่างไม่ได้ถือสาแต่กลับอมยิ้มอย่างชอบใจ

                    แต่ตามหลักของผมคุณกำลังเขินและเฉไฉไปเรื่องอื่นเหมือนกัน

                    ธนวรรธน์พูดแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์  นิษฐานิ่วหน้าอย่างไม่พอใจรีบตอบกลับทันที

                    ฉันเปล่า ! ” 

                    ธนวรรธน์ไม่ได้พูดอะไรได้แต่อมยิ้มแทนคำตอบ  กลับยิ่งทำให้นิษฐายิ่งหงุดหงิดขึ้นไปอีกและทำท่าจะลุกออกไปจากมุมตรงนั้นแต่ชายหนุ่มก็คว้าข้อมือเอาไว้ทัน

                    คุณจะไปไหน

                    “ ฉันจะออกไปแล้ว  ฉันอยากกลับบ้าน

                    นิษฐาหันไปตอบแต่ก็เห็นใบหน้าของชายหนุ่มนิ่งไปจึงรู้สึกแปลกใจ  ยังไม่ทันได้ตั้งตัวธนวรรธน์ก็รีบดึงมือหญิงสาวจนตัวปลิวให้กลับมานั่งลงตามเดิมและโอบไหล่หญิงสาวให้เบียดชิดเข้ามาอีก  นิษฐาตกใจกับการกระทำนั้นรีบยกมือขึ้นตีและพยายามดึงมือของชายหนุ่มออกทันที

                    นี่ ! คุณจะทำอะไร ”  

                    ธนวรรธน์รีบใช้มือใหญ่ปิดปากหญิงสาวทันที  นิษฐาเบิกตากว้างอย่างตกใจ  แต่ก็เริ่มเข้าใจเหตุการณ์เมื่อชายหนุ่มกระซิบคำพูดที่ข้างหู

                    มันกำลังเดินเข้ามาจากทางหลังร้านตรงมาทางนี้  คุณอย่าเพิ่งโวยวาย...

                    นิษฐาเหล่ตามองอย่างไม่ไว้ใจ ดึงมือของชายหนุ่มออกจากใบหน้าหน้าของตนและยอมสงบปากสงบคำแต่โดยดี  ชั่วอึดใจหนึ่งที่ทั้งสองคนเหมือนได้ยินเสียงฝีเท้าหนักๆเดินเข้ามาใกล้  นิษฐานั่งนิ่งราวกับตัวแข็งไปในบันดล  ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาเบาๆเมื่อได้ยินเหมือนเสียงฝีเท้าที่เดินไกลจากไปทางหน้าร้านแล้ว

                    ไปครับ   มันออกไปทางหน้าแล้ว  เดี๋ยวเรารีบออกไปทางหลังร้านกัน

                    ธนวรรธน์รีบพูดขึ้นพลางทำท่าจะคว้าที่ข้อมือของหญิงสาว  แต่นิษฐารีบชิงชักมือหลบก่อน

                    ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเดินเองได้ ”  นิษฐาบอกอย่างถือตัว  ธนวรรธน์ยักไหล่ตอบอย่างไม่ได้ว่าอะไร  ได้แต่อมยิ้มกับท่าทีของหญิงสาว  แล้วรีบเดินตามหญิงสาวออกจากร้านไป

                   

                    มิว !! แกออกมาแล้ว  หายไปไหนมา  ฉันเป็นห่วงแกแทบแย่รู้รึเปล่า

                    เสียงของราณีดังขึ้นทันทีเมื่อเห็นเพื่อนของตนเดินออกมายังบริเวณที่จอดรถที่แทบจะไม่มีรถจอดอยู่แล้ว  นิษฐารีบเดินเข้าไปกอดเพื่อนสาวที่ยืนน้ำตาคลออยู่  ส่วนธนวรรธน์ยักคิ้วพลางยิ้มให้จิรายุที่ยืนอยู่ใกล้ๆกันอย่างยืนยันว่าตนเองไม่ได้เป็นอะไร 

                    กลับกันเถอะ ฉันอยากกลับบ้านแล้ว

                    นิษฐาบอก ราณีพยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนจะมองเลยไปยังธนวรรธน์ที่ยืนอยู่ด้านหลังด้วยแววตาซึ้งในน้ำใจ

                    ขอบคุณนะคะที่ช่วยฉันและเพื่อนฉันไว้  แล้วก็กลับออกมาอย่างปลอดภัย

                    “ ไม่เป็นไรครับ  ผมมากกว่าที่ต้องขอโทษคุณทั้งสองคนที่ทำให้เรื่องมันวุ่นแล้วก็ต้องลำบากไปด้วย  

    ธนวรรธน์บอกยิ้มๆ  ราณียังคงมองด้วยแววตาที่ชื่นชมจนทำเอานิษฐาที่ยืนอยู่ข้างๆมองอย่างอดหงุดหงิดไม่ได้  ได้แต่เถียงอยู่ในใจว่าไม่เห็นมีตรงไหนในตัวชายหนุ่มน่าชื่นชมเลยแม้แต่น้อย  เพราะเขาเป็นคนทำให้เรื่องเล็กๆเลยเถิดจนกลายเป็นเรื่องใหญ่

                    ถ้าคุณ... ”  ธนวรรธน์ทักขึ้นพลางหยุดตรงชื่อของหญิงสาวอย่างมีชั้นเชิง

                    เบลล่าค่ะ  ราณีเต็มใจตอบด้วยใบหน้าที่เป็นมิตร

                    ครับ ถ้าคุณเบลล่าไม่รังเกียจ  ผมอยากจะขอเบอร์โทรคุณไว้  โอกาสหน้า...ผมอยากจะขอเลี้ยงไถ่โทษ

                    “ ไม่ให้ ! ”

                    นิษฐาเถียงขึ้นมาทันที  ธนวรรธน์แกล้งทำท่าทางสงสัยพลางเลื่อนสายตาไปมองหน้าหญิงสาวยิ้มๆ

                    แต่ผมขอเบอร์เพื่อนคุณนะครับ     

                    “ จะใครก็ไม่ได้ค่ะ  เราสองคนไม่ต้องการการเลี้ยงไถ่โทษ  ขอบคุณด้วยค่ะสำหรับความหวังดี  

                    นิษฐาตอบเสียงแข็ง  ธนวรรธน์มองหญิงสาวตรงหน้าแล้วอมยิ้มอย่างชั่งใจว่าเห็นนิ่งๆเงียบๆแสนเย็นชาแต่ก็ปากร้ายไม่เบา  แต่ก็ไม่ได้ตอบกลับอะไรไป  และเลื่อนสายตากลับไปมองยังราณีเช่นเดิม

                    ถ้าเพื่อนคุณยืนยันว่าจะไม่ให้เบอร์โทรศัพท์ติดต่อผมก็ไม่เป็นไร... ชายหนุ่มหยุดพูดเดินเข้าไปหยุดตรงหน้าราณี  อมยิ้มและเหล่มองไปยังนิษฐาที่ยืนอยู่ข้างกัน  พลางเอื้อมมือไปหยิบอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเสื้อยื่นให้ราณี แต่นี่นามบัตรผม...แล้วเจอกันนะครับ

                    ธนวรรธน์บอกพร้อมด้วยสายตาหวานเชื่อมที่สื่อออกมาอย่างโจ่งแจ้งจนทำให้ราณีได้แต่ยืนมองยิ้มๆและยื่นมือไปรับนามบัตรนั้นแต่โดยดี  นิษฐาเชิดหน้ามองชายหนุ่มด้วยสายตานิ่งๆแต่แฝงไปด้วยความไม่ค่อยพอใจ  ก่อนจะรีบจ้ำอ้าวเดินนำขึ้นไปนั่งรอที่รถ  ราณีหันมาขอโทษกับท่าทีของเพื่อนและบอกลาชายหนุ่มก่อนจะเดินกลับไปขึ้นรถและขับออกไป  จิรายุที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่ตลอดเดินมาสมทบหยุดยืนอยู่ข้างๆ เอ่ยขึ้น

                    เป็นไง...เกือบเอาตัวเองไม่รอดแล้วไหมล่ะ  เกือบจะต้องไปนอนที่โรงพยาบาลแทนบ้านตัวเองแล้ว

                    ธนวรรธน์ฟังแล้วอมยิ้ม  มือสองข้างท้าวอยู่ที่เอวด้วยท่าทีสบายๆ  สายตายังคงจับจ้องไปที่รถที่เพิ่งถูกขับออกไปและกำลังแล่นอยู่บนท้องถนนจนแทบจะลับสายตาไปแล้ว...

                    แต่ก็คุ้มนี่หว่า...ฝันดีล่ะวะคืนนี้ ชายหนุ่มหัวเราะออกมาอย่างชอบใจในความคิดของตนเอง

    ............................................................

    ทุกคอมเม้นท์คือกำลังใจ
    นิยายเรื่องนี้แต่งตามจินตนาการ
    ไม่ได้มีเจตนาทำให้ศิลปินหรือนักแสดงเสียหาย
      หากมีตรงไหนผิดพลาด ขออภัยด้วยค่ะ 

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×