ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ยังไม่สาย...ถ้าหากเราจะรักกัน

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 3 ตาม...

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 541
      8
      13 พ.ค. 56




    3

                 
                   นิษฐาเดินเปิดประตูเข้ามาในห้องนอนหลังจากที่ราณีมาส่งที่บ้านและกลับไปแล้ว  ใบหน้าดูอ่อนล้าเนื่องจากเหนื่อยกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น  คิ้วขมวดขึ้นทันทีเมื่อนึกถึงท่าทางกวนประสาทของชายหนุ่มที่เพิ่งได้รู้จักไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้  แต่อยู่ดีๆก็ต้องหายไปเมื่อสายตาหญิงสาวหันไปสะดุดอยู่กับรูปถ่ายใบหนึ่งที่หล่นอยู่ใต้โต๊ะเขียนหนังสือมุมห้อง

                    หน้าต่างห้องที่ถูกเปิดกว้างทำให้ให้ลมถ่ายเทเข้ามาเป็นผลทำให้หน้าหนังสือเล่มบางที่วางอยู่บนโต๊ะที่ตั้งอยู่ชิดริมหน้าต่างปลิวเปิดเอง  รูปภาพใบหนึ่งที่ถูกเสียบไว้ในนั้นจึงจึงถูกปลิวตกลงมาใต้โต๊ะเช่นนี้  นิษฐาคิดอย่างนั้น

                    หญิงสาวเดินไปหยุดที่หน้าโต๊ะ  ก้มลงเก็บรูปถ่ายมาถือไว้ในมือ  พยายามอย่างยิ่งที่จะบังคับมือที่สั่นให้มั่นคงไม่ทำรูปถ่ายใบนั้นหล่นลงบนพื้นอีกรอบ  ดวงตาภายใต้แพขนตาดกหนามีน้ำใสๆเอ่ออยู่เต็มดวงตา  สายตาจับจ้องอยู่ที่รูปถ่ายใบนั้นราวกับต้องการทบทวนความทรงจำเล็กๆที่ถูกเก็บซ่อนอยู่ในใจ  ...เนิ่นนานที่หญิงสาวยังคงยืนนิ่งมองรูปถ่ายในมือจนความทรงจำบางอย่างที่หญิงสาวไม่อยากจะจำและ เปรียบเสมือนเงามือของเธอ เข้ามาแทนที่  นิษฐาชะงักไปเหมือนนึกขึ้นได้  กระพริบตาถี่ๆเพื่อไล่น้ำตาออกจากดวงตา  มือเคลื่อนไปเลื่อนลิ้นชักด้านซ้ายของโต๊ะ  วางรูปถ่ายลงในลิ้นชักที่ว่างเปล่าและปิดล็อกกุญแจทันทีอย่างรวดเร็ว  รีบสาวเท้าไปข้างเตียงและค่อยๆนอนลงอย่างอ่อนล้าไปเสียทุกอย่าง  ก่อนเปลือกตาจะปิดลงอีกครั้งราวกับไม่อยากเผชิญหน้ากับฝันร้ายที่คอยเฝ้าหลอกหลอนเสมอเมื่อยามที่เผลอนึกถึง  พร้อมกับคำถามที่ตั้งค้างไว้ในใจมานานแสนนาน และไม่มีวันหาคำตอบได้เสียที...

                    ...เมื่อไหร่ที่ฉันจะลืมได้เสียที...

     

                    ธนวรรธน์เดินเข้ามาในห้องทำงานในเช้าวันต่อมา  มือแกว่งกุญแจรถในมือและผิวปากเข้ามาอย่างอารมณ์ดี  แต่ทันทีที่เห็นร่างของใครสักคนที่นั่งหันหลังให้ชายหนุ่มอยู่  ร่างสูงก็รีบเก็บกุญแจใส่กระเป๋ากางเกงทันที  บนใบหน้าผุดรอยยิ้มเจ้าเล่ห์  เท้าค่อยๆก้าวย่องเข้าไปอย่างเชื่องช้าและพยายามให้เงียบที่สุดหวังจะเซอร์ไพร์หญิงสาว

                    ว่าไงครับดาร์ลิ้งของผมมานั่งทำอะไรตรงนี้แต่เช้าเอ่ย

                    ประโยคหวานๆหลุดออกจากปากธนวรรธน์ทันทีที่ชายหนุ่มประชิดตัวหญิงสาวจากด้านหลัง  หญิงสาวรีบหันข้างมามองทันทีที่ได้ยิน  แต่ก็เจอกับใบหน้าของชายหนุ่มที่ลอยมาอยู่ข้างๆใบหน้าของเธอรออยู่แล้ว  หญิงสาวตกใจ ยิ้มเขินพลางรีบตอบทันที

                    วินนี่ก็มารอที่รักไงคะ

                    “ รอผม... ? ”  ชายหนุ่มทวนคำพูดอย่างสงสัย

                    ใช่ค่ะ  วันนี้ตอนบ่ายๆคุณว่างรึเปล่า...พอดีวินนี่มีธุระต้องไปทำที่โรงพยาบาลก็เลยอยากจะมาขอที่รักไปเป็นเพื่อนหน่อย

                    หญิงสาวอธิบายพลางลุกขึ้นมายืนหันหน้าใส่ชายหนุ่ม  ใช้มือที่ว่างอยู่คล้องคอชายหนุ่มไว้อย่างออดอ้อน

                    “  นะคะ...วินนี่ไม่มีเพื่อนไปเลย ” 

                    แล้ววินนี่จะไปทำอะไรที่นั่นน่ะครับ  ไม่สบายเหรอ  เป็นอะไรมากรึเปล่า ”  ชายหนุ่มว่าพลางเลื่อนมือขึ้นไปทาบบนหน้าผากของหญิงสาวเหมือนวัดไข้อย่างเอาใจ

                    ก็นิดหน่อยน่ะค่ะ  เจ็บคอแล้วก็ไอมาเป็นอาทิตย์แล้ว แต่ไม่มีเวลาได้ไปหาหมอเลย  ลองซื้อยากินก็ไม่ดีขึ้นเลย เลยว่าจะไปหาหมอที่โรงพยาบาล...โป๊ปไปเป็นเพื่อนวินนี่หน่อยนะคะ  วินนี่ให้คุณพ่อโทรไปล็อกคิวกับคุณหมอตั้งแต่เมื่อวานแล้ว  ที่รักรอไม่นานหรอก...นะคะ...ไปเป็นเพื่อนวินนี่หน่อยนะ ”   

                    หญิงสาวยังคงใช้คำพูดและสายตาอย่างออดอ้อน  ธนวรรธน์มองท่าทางของหญิงสาวยิ้มๆก่อนตอบ

                    ก็ได้ครับ  ไว้เดี๋ยวตอนบ่ายผมพาคุณไปนะ

                    “ ขอบคุณค่ะ  คุณน่ารักกับวินนี่เสมอเลย... ”  หญิงสาวพูดขึ้นพร้อมกับเลื่อนหน้าขึ้นไปหอมแก้มชายหนุ่มเบาๆอย่างเอาใจ  รอยยิ้มกว้างผุดขึ้นบนหน้าของธนวรรธน์อีกครั้งโดยไม่ต้องหาข้อสงสัย...

     

                    ธนวรรธน์และวินนี่มาถึงโรงพยาบาลในเวลาเกือบบ่ายโมง  วินนี่พาชายหนุ่มเดินเข้าไปในตัวตึก  พยายามมองหาป้ายบอกทางที่จะไปยังห้องนัดตรวจ  หญิงสาวที่ไม่ชอบการรอคอยและเฝ้าเดินหาจึงพยายามสอดส่องหาพยาบาลหรือหมอที่อยู่ใกล้ๆบริเวณนั้นเพื่อสอบถาม  พอดีกับสายตาที่หันไปเจอกับหญิงสาวคนหนึ่งที่คาดว่าน่าจะเป็นหมอของที่นี่เนื่องจากชุดกาวน์ที่ใส่อยู่  กำลังก้มหน้าก้มตาเซ็นเอกสารในมือและยื่นให้นางพยาบาลที่ยืนอยู่ข้างกาย  ขณะที่หญิงสาวกำลังจะเดินจากไปอีกทาง  วินนี่ก็เรียกเธอเอาไว้ก่อน

                    เดี๋ยวก่อนค่ะคุณ ! ”

                    นิษฐาหันขวับในทันที  คิ้วขมวดขึ้นอย่างงุนงงและสงสัยไม่แพ้กันเมื่อเห็นชายหนุ่มที่ยืนข้างกายหญิงสาวที่ได้เรียกเธอเอาไว้  ธนวรรธน์นิ่งไป  มองใบหน้าหญิงสาวให้ชัดๆอย่างตกใจว่าเขาตาฝาดรึเปล่า 

                    คุณเป็นหมอหรือเจ้าหน้าที่หรือเปล่าคะ  พอดีฉันอยากสอบถาม

                    วินนี่ถามขึ้นอย่างไม่ทันได้สังเกต  จึงทำให้นิษฐาละสายตาจากชายหนุ่มกลับมามองที่วินนี่ที่รอคำตอบอยู่

                     ค่ะ ฉันเป็นจิตแพทย์อยู่ที่โรงพยาบาลนี้ค่ะ มีเรื่องอะไรอยากจะสอบถามคะ

                    หญิงสาวพูดพลางคลี่ยิ้มอย่างเป็นมิตร  ธนวรรธน์ที่ยืนฟังอยู่ทวนคำพูดจิตแพทย์แบบไม่ออกเสียง กับตนเอง  มองไปที่นิษฐาอย่างไม่เชื่อสายตา

                     คือฉันอยากจะถามทางไปห้องตรวจ 1 คุณหมอธนา  ไม่ทราบว่าต้องเดินไปทางไหน นิษฐาฟังแล้วพยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนจะรีบตอบ

                    มาทางนี้ถูกแล้วค่ะ  แต่เดินตรงไปอีกนิดนะคะจะมีทางแยก  ให้คุณเลี้ยวซ้าย  ห้องอยู่ทางขวามือ ห้องแรกเลยค่ะ

                    นิษฐาอธิบาย  วินนี่ที่ฟังอยู่เอ่ยขอบคุณก่อนจะจูงมือพาธนวรรธน์เดินจากไปตามทางที่หญิงสาวแนะนำ  ธนวรรธน์ยอมเดิมไปแต่โดยดี  แต่ก็ยังไม่วายหันหน้ากลับมายิ้มบางให้จิตแพทย์สาวที่ยืนมองอยู่  นิษฐาชะงักไปรีบเบือนหน้าหนีและรีบเดินเลี่ยงไปอีกทาง...

     

                    เดี๋ยวโป๊ปรอวินนี่สักพักนะคะ  วินนี่ตรวจเสร็จแล้วจะรีบออกมา

                    วินนี่พูดขึ้นทันทีหลังจากที่ทั้งสองเดินมาหยุดที่ห้องตรวจ 1 ธนวรรธน์พยักหน้าอย่างเข้าใจ ยิ้มให้และมองตามร่างของหญิงสาวที่เดินเข้าห้องไป  ธนวรรธน์ถอนหายใจเบาๆอย่างโล่งอกก่อนจะผุดรอยยิ้มเจ้าเล่ห์อีกครั้งบนใบหน้า  หันซ้ายหันขวามองไปตามทางให้แน่ใจก่อนจะเดินจากไปทันที...

     

                   
                     “ คุณหมอ...เอ่อ...คุณหมอมิวอยู่ไหมครับ

                      ธนวรรธน์ที่เดินมาจนถึงเคาเตอร์หน้าห้องตรวจของฝ่ายจิตแพทย์ถามพยาบาลที่ยืนประจำอยู่ขึ้น  ประโยคดูติดขัดๆเนื่องจากไม่แน่ใจว่าชื่อหญิงสาวที่เขาจะมาหานั้นถูกรึเปล่า  ชายหนุ่มจำได้ลางๆว่าเห็นเพื่อนของเธอเรียกว่ามิวเลยลองตัดสินใจเสี่ยงดู... พยาบาลยิ้มให้อย่างเป็นมิตรก่อนจะตอบ

                    อ๋อ...คุณหมอนิษฐา  อยู่ค่ะ  ไม่ทราบว่าคุณเป็นคนไข้ที่คุณหมอนัดไว้มาดูอาการครั้งที่สองรึเปล่าคะ ?   ”

                    “ เปล่าครับๆ  พอดีผมเป็น...เพื่อนคุณหมอน่ะครับ  ผมมีธุระอยากจะคุยกับเขาเสียหน่อย  ” 

                    ธนวรรธน์พูดสีหน้ายิ้มแย้ม  แต่ในใจนึกขอโทษคุณพยาบาลที่ต้องโกหก...พยาบาลที่ว่าฟังแล้วยิ้มบางก่อนบอก

                    อ๋อ  เพื่อนคุณหมอนี่เอง  เชิญด้านในห้องเลยค่ะ  อีกสิบห้านาทีกว่าคุณหมอจะถึงคิวนัดกับคนไข้รายต่อไป  ตอนนี้คุณหมอว่างอยู่ค่ะ ”  พยาบาลเดินไปเปิดประตูห้องให้กว้างขึ้นเพื่อให้ชายหนุ่มเดินเข้าไป  ธนวรรธน์ยิ้มให้แล้วก้มหัวให้เล็กน้อยเป็นเชิงขอบคุณก่อนจะเดินเข้าในห้องไป

                    มาแล้วเหรอคะ  เดี๋ยวขอคนไข้นั่งรอหมอสักครู่  หมอขอหาเอกสารก่อนประกอบอาการที่คุณเป็นให้ก่อนค่ะ

                    นิษฐาที่ยืนหันหลังให้ประตูและกำลังค้นหาแฟ้มเอกสารในกล่องบนโต๊ะด้านหลังบอกขึ้นเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูเข้ามา  ธนวรรธน์ที่เดินเข้ามาได้ยินก็ยืนนิ่งไม่ตอบอะไร  ใช้สายตามองไปยังแผ่นหลังของหญิงสาวที่ยังดูวุ่นวายกับกองเอกสารที่วางอยู่

                    หมอขอโทษด้วยนะคะที่ทำให้คนไข้ต้องเสียเวลา  พอดีหมอไม่นึกว่าคนไข้จะมาเร็วขนาดนี้

                    นิษฐาพูดขึ้นอีกครั้งในขณะที่กำลังไล่อ่านเอกสารในมือเพื่อความแน่ใจ  ธนวรรธน์ยกยิ้มมุมปากก่อนจะตอบขึ้น

                    ไม่เป็นไรครับ  คุณหมอสวยขนาดนี้...ผมให้อภัยอยู่แล้ว

                    ทันทีที่นิษฐาได้ยินเสียงทุ้มที่ตอบมา  หญิงสาวก็รีบหันหลังกลับไปมองทันที  ดวงตาเบิกกว้างอย่างตกใจและคาดไม่ถึง  รู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูกเมื่อเห็นรอยยิ้มที่แสนจะเจ้าเล่ห์บนหน้าของชายหนุ่ม

                    คุณ !! ”

                    “ สวัสดีครับ...คุณหมอนิษฐา ”  ธนวรรธน์ยิ้มเมื่อเห็นท่าทางของหญิงสาวก่อนจะทักตอบอย่างอารมณ์ดี

                    คุณมาได้ยังไง

                    “ ผมมาจากห้องตรวจ 1 เดินตรงมาทางซ้ายเดินมาเรื่อยๆแล้วก็เลี้ยวขวา  พอเจอทางแยกก็เลี้ยวขวาอีกที  แล้วก็...

                    ชายหนุ่มอธิบายพลางทำมือทำไม้ประกอบ  นิษฐาหัวเสียแต่ก็พยายามข่มอารมณ์ไว้ภายใต้ใบหน้าที่นิ่งเฉย  ธนวรรธน์รับรู้ว่าหญิงสาวกำลังหงุดหงิดอยู่เป็นอย่างมากจึงหยุดพูดไว้เพียงเท่านั้น  รีบเบือนหน้าหนีไปกลั้นยิ้มไว้อย่างสุดความสามารถ

                    คุณไม่ใช้คนไข้รายต่อไปที่ฉันนัดไว้   เพราฉะนั้น...เชิญค่ะ  ประตูอยู่ทางด้านหลัง

                    นิษฐาบอกพร้อมกับปรายสายตามองข้ามไหล่ไปยังประตูที่อยู่ด้านหลังของชายหนุ่ม  ธนวรรธน์หันข้างกลับไปเหลือบมองที่ประตูที่ปิดอยู่ยิ้มๆ พลางเอ่ยขึ้น

                    ผมจะไปได้ยังไง  ผมยังคุยธุระของผมไม่เสร็จเลย

                    “ ธุระอะไรของคุณคะ  นี่คุณหรือรึเปล่าว่าคุณกำลังรบกวนการทำงานของเจ้าหน้าที่ ”  นิษฐาถามขึ้นอย่างสงสัย

                    เย็นนี้...ผมอยากจะเลี้ยงข้าวคุณสักมื้อ  เป็นการไถ่โทษกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน

                    “ ขอบคุณค่ะ  แต่ฉันว่ามันไม่จำเป็น  ฉันเคยบอกคุณแล้วว่าฉันไม่ต้องการการเลี้ยงไถ่โทษ ”  หญิงสาวบอกน้ำเสียงนิ่ง  สายตายังคงมองไปที่ชายหนุ่มอย่างไม่เป็นมิตร

                    แต่ผมรู้สึกผิด ”  ธนวรรธน์บอกเสียงอ่อนพลางแกล้งทำหน้ารู้สึกผิดจริงๆ  นิษฐารีบเบือนหน้าหนีทันทีเพราะรู้ทันว่าชายหนุ่มแกล้งทำ

                    ยังไงฉันก็ยืนยันว่าจะไม่ไปทานข้าวกับคุณ  เชิญคุณกลับไปเถอะค่ะ   ชายหนุ่มแกล้งทำเป็นหูทวนลมและรีบตอบกลับมาทันที

                    “ งั้นเย็นนี้เจอกันนะครับ  ผมจะรอคุณอยู่ตรงบันไดทางเข้าโรงพยาบาลนะ ” 

                    “ เอ๊ะ ! นี่คุณ

                      บ๊ายบ่ายครับคุณหมอคนสวย ”  ธนวรรธน์พูดพร้อมโบกมือและเปิดประตูออกจากห้องไปอย่างอารมณ์ดี  ปล่อยให้นิษฐาได้แต่มองตามไปอย่างเหนื่อยใจ...

     

                    เวลาเกือบห้าโมงครึ่ง  นิษฐาที่เพิ่งออกจากเวรและหมดคิวนัดตรวจวันนี้แล้วเดินออกมาจากห้องและเดินไปตามทางออกของโรงพยาบาล  หญิงสาวลืมเรื่องของชายหนุ่มที่บอกว่าจะเลี้ยงไถ่โทษเธอในตอนเย็นไปหมดสิ้น  เพราะด้วยท่าทางทีเล่นทีจริงของชายหนุ่มทำให้นิษฐาอดคิดไปไม่ได้ว่าเขาคงจะพูดเล่น  แต่อยู่ดีๆเท้าที่อยู่บนรองเท้าส้นสูงสีครีมก็ต้องหยุดลงเอาดื้อๆเมื่อสายตาไปสะดุดกับธนวรรธน์ที่ยืนพิงผนังกำแพงอยู่ที่หน้าทางเข้า  ธนวรรธน์ที่หันมาเจอกับนิษฐาที่ยืนมองอยู่พอดี  คลี่ยิ้มกว้าง  ถอดแว่นกันแดดสีดำที่ใส่อยู่บนใบหน้าออกพลางทักขึ้นน้ำเสียงสดใส  จนนิษฐารู้สึกอดหมั่นไส้ไม่ได้

                    อ้าว ! คุณหมอคนสวยของผมมาแล้ว ”  ผู้ป่วย พยาบาล หมอและเจ้าหน้าที่หลายคนที่เดินผ่านบริเวณนั้นโดยรอบได้ยินแล้วหันมามองคุณหมอคนสวยที่เป็นที่รู้จักของหลายๆคนอย่างสนใจ  บ้างก็ส่งยิ้มมาให้นิษฐา   นิษฐาจึงได้แต่ยิ้มเจื่อนๆตอบอย่างทำอะไรไม่ถูก  บ้างก็พากันกระซิบกระซาบอย่างสงสัย  แต่ชายหนุ่มตรงหน้าก็ยังมองตรงมาที่เธอยิ้มหน้าระรื่น  หญิงสาวได้แต่คิดว่า...

    ...เธออยากจะแทรกแผ่นดินหนีหายไปเสียเดี๋ยวนั้นเลย...

                   .............................................................

    ทุกคอมเม้นท์คือกำลังใจ
    นิยายเรื่องนี้แต่งตามจินตนาการ
    ไม่ได้มีเจตนาทำให้ศิลปินหรือนักแสดงเสียหาย
      หากมีตรงไหนผิดพลาด ขออภัยด้วยค่ะ 

     

                   

                    

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×