คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 3 ตาม...
3
นิษฐาเดินเปิดประตูเข้ามาในห้องนอนหลังจากที่ราณีมาส่งที่บ้านและกลับไปแล้ว ใบหน้าดูอ่อนล้าเนื่องจากเหนื่อยกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น คิ้วขมวดขึ้นทันทีเมื่อนึกถึงท่าทางกวนประสาทของชายหนุ่มที่เพิ่งได้รู้จักไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ แต่อยู่ดีๆก็ต้องหายไปเมื่อสายตาหญิงสาวหันไปสะดุดอยู่กับรูปถ่ายใบหนึ่งที่หล่นอยู่ใต้โต๊ะเขียนหนังสือมุมห้อง
หน้าต่างห้องที่ถูกเปิดกว้างทำให้ให้ลมถ่ายเทเข้ามาเป็นผลทำให้หน้าหนังสือเล่มบางที่วางอยู่บนโต๊ะที่ตั้งอยู่ชิดริมหน้าต่างปลิวเปิดเอง รูปภาพใบหนึ่งที่ถูกเสียบไว้ในนั้นจึงจึงถูกปลิวตกลงมาใต้โต๊ะเช่นนี้ นิษฐาคิดอย่างนั้น
หญิงสาวเดินไปหยุดที่หน้าโต๊ะ ก้มลงเก็บรูปถ่ายมาถือไว้ในมือ พยายามอย่างยิ่งที่จะบังคับมือที่สั่นให้มั่นคงไม่ทำรูปถ่ายใบนั้นหล่นลงบนพื้นอีกรอบ ดวงตาภายใต้แพขนตาดกหนามีน้ำใสๆเอ่ออยู่เต็มดวงตา สายตาจับจ้องอยู่ที่รูปถ่ายใบนั้นราวกับต้องการทบทวนความทรงจำเล็กๆที่ถูกเก็บซ่อนอยู่ในใจ ...เนิ่นนานที่หญิงสาวยังคงยืนนิ่งมองรูปถ่ายในมือจนความทรงจำบางอย่างที่หญิงสาวไม่อยากจะจำและ เปรียบเสมือนเงามือของเธอ เข้ามาแทนที่ นิษฐาชะงักไปเหมือนนึกขึ้นได้ กระพริบตาถี่ๆเพื่อไล่น้ำตาออกจากดวงตา มือเคลื่อนไปเลื่อนลิ้นชักด้านซ้ายของโต๊ะ วางรูปถ่ายลงในลิ้นชักที่ว่างเปล่าและปิดล็อกกุญแจทันทีอย่างรวดเร็ว รีบสาวเท้าไปข้างเตียงและค่อยๆนอนลงอย่างอ่อนล้าไปเสียทุกอย่าง ก่อนเปลือกตาจะปิดลงอีกครั้งราวกับไม่อยากเผชิญหน้ากับฝันร้ายที่คอยเฝ้าหลอกหลอนเสมอเมื่อยามที่เผลอนึกถึง พร้อมกับคำถามที่ตั้งค้างไว้ในใจมานานแสนนาน และไม่มีวันหาคำตอบได้เสียที...
...เมื่อไหร่ที่ฉันจะลืมได้เสียที...
ธนวรรธน์เดินเข้ามาในห้องทำงานในเช้าวันต่อมา มือแกว่งกุญแจรถในมือและผิวปากเข้ามาอย่างอารมณ์ดี แต่ทันทีที่เห็นร่างของใครสักคนที่นั่งหันหลังให้ชายหนุ่มอยู่ ร่างสูงก็รีบเก็บกุญแจใส่กระเป๋ากางเกงทันที บนใบหน้าผุดรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เท้าค่อยๆก้าวย่องเข้าไปอย่างเชื่องช้าและพยายามให้เงียบที่สุดหวังจะเซอร์ไพร์หญิงสาว
“ ว่าไงครับดาร์ลิ้งของผมมานั่งทำอะไรตรงนี้แต่เช้าเอ่ย ”
ประโยคหวานๆหลุดออกจากปากธนวรรธน์ทันทีที่ชายหนุ่มประชิดตัวหญิงสาวจากด้านหลัง หญิงสาวรีบหันข้างมามองทันทีที่ได้ยิน แต่ก็เจอกับใบหน้าของชายหนุ่มที่ลอยมาอยู่ข้างๆใบหน้าของเธอรออยู่แล้ว หญิงสาวตกใจ ยิ้มเขินพลางรีบตอบทันที
“ วินนี่ก็มารอที่รักไงคะ ”
“ รอผม... ? ” ชายหนุ่มทวนคำพูดอย่างสงสัย
“ ใช่ค่ะ วันนี้ตอนบ่ายๆคุณว่างรึเปล่า...พอดีวินนี่มีธุระต้องไปทำที่โรงพยาบาลก็เลยอยากจะมาขอที่รักไปเป็นเพื่อนหน่อย ”
หญิงสาวอธิบายพลางลุกขึ้นมายืนหันหน้าใส่ชายหนุ่ม ใช้มือที่ว่างอยู่คล้องคอชายหนุ่มไว้อย่างออดอ้อน
“ นะคะ...วินนี่ไม่มีเพื่อนไปเลย ”
“ แล้ววินนี่จะไปทำอะไรที่นั่นน่ะครับ ไม่สบายเหรอ เป็นอะไรมากรึเปล่า ” ชายหนุ่มว่าพลางเลื่อนมือขึ้นไปทาบบนหน้าผากของหญิงสาวเหมือนวัดไข้อย่างเอาใจ
“ ก็นิดหน่อยน่ะค่ะ เจ็บคอแล้วก็ไอมาเป็นอาทิตย์แล้ว แต่ไม่มีเวลาได้ไปหาหมอเลย ลองซื้อยากินก็ไม่ดีขึ้นเลย เลยว่าจะไปหาหมอที่โรงพยาบาล...โป๊ปไปเป็นเพื่อนวินนี่หน่อยนะคะ วินนี่ให้คุณพ่อโทรไปล็อกคิวกับคุณหมอตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ที่รักรอไม่นานหรอก...นะคะ...ไปเป็นเพื่อนวินนี่หน่อยนะ ”
หญิงสาวยังคงใช้คำพูดและสายตาอย่างออดอ้อน ธนวรรธน์มองท่าทางของหญิงสาวยิ้มๆก่อนตอบ
“ ก็ได้ครับ ไว้เดี๋ยวตอนบ่ายผมพาคุณไปนะ ”
“ ขอบคุณค่ะ คุณน่ารักกับวินนี่เสมอเลย... ” หญิงสาวพูดขึ้นพร้อมกับเลื่อนหน้าขึ้นไปหอมแก้มชายหนุ่มเบาๆอย่างเอาใจ รอยยิ้มกว้างผุดขึ้นบนหน้าของธนวรรธน์อีกครั้งโดยไม่ต้องหาข้อสงสัย...
ธนวรรธน์และวินนี่มาถึงโรงพยาบาลในเวลาเกือบบ่ายโมง วินนี่พาชายหนุ่มเดินเข้าไปในตัวตึก พยายามมองหาป้ายบอกทางที่จะไปยังห้องนัดตรวจ หญิงสาวที่ไม่ชอบการรอคอยและเฝ้าเดินหาจึงพยายามสอดส่องหาพยาบาลหรือหมอที่อยู่ใกล้ๆบริเวณนั้นเพื่อสอบถาม พอดีกับสายตาที่หันไปเจอกับหญิงสาวคนหนึ่งที่คาดว่าน่าจะเป็นหมอของที่นี่เนื่องจากชุดกาวน์ที่ใส่อยู่ กำลังก้มหน้าก้มตาเซ็นเอกสารในมือและยื่นให้นางพยาบาลที่ยืนอยู่ข้างกาย ขณะที่หญิงสาวกำลังจะเดินจากไปอีกทาง วินนี่ก็เรียกเธอเอาไว้ก่อน
“ เดี๋ยวก่อนค่ะคุณ ! ”
นิษฐาหันขวับในทันที คิ้วขมวดขึ้นอย่างงุนงงและสงสัยไม่แพ้กันเมื่อเห็นชายหนุ่มที่ยืนข้างกายหญิงสาวที่ได้เรียกเธอเอาไว้ ธนวรรธน์นิ่งไป มองใบหน้าหญิงสาวให้ชัดๆอย่างตกใจว่าเขาตาฝาดรึเปล่า
“ คุณเป็นหมอหรือเจ้าหน้าที่หรือเปล่าคะ พอดีฉันอยากสอบถาม ”
วินนี่ถามขึ้นอย่างไม่ทันได้สังเกต จึงทำให้นิษฐาละสายตาจากชายหนุ่มกลับมามองที่วินนี่ที่รอคำตอบอยู่
“ ค่ะ ฉันเป็นจิตแพทย์อยู่ที่โรงพยาบาลนี้ค่ะ มีเรื่องอะไรอยากจะสอบถามคะ ”
หญิงสาวพูดพลางคลี่ยิ้มอย่างเป็นมิตร ธนวรรธน์ที่ยืนฟังอยู่ทวนคำพูดจิตแพทย์แบบไม่ออกเสียง กับตนเอง มองไปที่นิษฐาอย่างไม่เชื่อสายตา
“ คือฉันอยากจะถามทางไปห้องตรวจ 1 คุณหมอธนา ไม่ทราบว่าต้องเดินไปทางไหน ” นิษฐาฟังแล้วพยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนจะรีบตอบ
“ มาทางนี้ถูกแล้วค่ะ แต่เดินตรงไปอีกนิดนะคะจะมีทางแยก ให้คุณเลี้ยวซ้าย ห้องอยู่ทางขวามือ ห้องแรกเลยค่ะ ”
นิษฐาอธิบาย วินนี่ที่ฟังอยู่เอ่ยขอบคุณก่อนจะจูงมือพาธนวรรธน์เดินจากไปตามทางที่หญิงสาวแนะนำ ธนวรรธน์ยอมเดิมไปแต่โดยดี แต่ก็ยังไม่วายหันหน้ากลับมายิ้มบางให้จิตแพทย์สาวที่ยืนมองอยู่ นิษฐาชะงักไปรีบเบือนหน้าหนีและรีบเดินเลี่ยงไปอีกทาง...
“ เดี๋ยวโป๊ปรอวินนี่สักพักนะคะ วินนี่ตรวจเสร็จแล้วจะรีบออกมา ”
วินนี่พูดขึ้นทันทีหลังจากที่ทั้งสองเดินมาหยุดที่ห้องตรวจ 1 ธนวรรธน์พยักหน้าอย่างเข้าใจ ยิ้มให้และมองตามร่างของหญิงสาวที่เดินเข้าห้องไป ธนวรรธน์ถอนหายใจเบาๆอย่างโล่งอกก่อนจะผุดรอยยิ้มเจ้าเล่ห์อีกครั้งบนใบหน้า หันซ้ายหันขวามองไปตามทางให้แน่ใจก่อนจะเดินจากไปทันที...
“ คุณหมอ...เอ่อ...คุณหมอมิวอยู่ไหมครับ ”
ธนวรรธน์ที่เดินมาจนถึงเคาเตอร์หน้าห้องตรวจของฝ่ายจิตแพทย์ถามพยาบาลที่ยืนประจำอยู่ขึ้น ประโยคดูติดขัดๆเนื่องจากไม่แน่ใจว่าชื่อหญิงสาวที่เขาจะมาหานั้นถูกรึเปล่า ชายหนุ่มจำได้ลางๆว่าเห็นเพื่อนของเธอเรียกว่ามิวเลยลองตัดสินใจเสี่ยงดู... พยาบาลยิ้มให้อย่างเป็นมิตรก่อนจะตอบ
“ อ๋อ...คุณหมอนิษฐา อยู่ค่ะ ไม่ทราบว่าคุณเป็นคนไข้ที่คุณหมอนัดไว้มาดูอาการครั้งที่สองรึเปล่าคะ ? ”
“ เปล่าครับๆ พอดีผมเป็น...เพื่อนคุณหมอน่ะครับ ผมมีธุระอยากจะคุยกับเขาเสียหน่อย ”
ธนวรรธน์พูดสีหน้ายิ้มแย้ม แต่ในใจนึกขอโทษคุณพยาบาลที่ต้องโกหก...พยาบาลที่ว่าฟังแล้วยิ้มบางก่อนบอก
“ อ๋อ เพื่อนคุณหมอนี่เอง เชิญด้านในห้องเลยค่ะ อีกสิบห้านาทีกว่าคุณหมอจะถึงคิวนัดกับคนไข้รายต่อไป ตอนนี้คุณหมอว่างอยู่ค่ะ ” พยาบาลเดินไปเปิดประตูห้องให้กว้างขึ้นเพื่อให้ชายหนุ่มเดินเข้าไป ธนวรรธน์ยิ้มให้แล้วก้มหัวให้เล็กน้อยเป็นเชิงขอบคุณก่อนจะเดินเข้าในห้องไป
“ มาแล้วเหรอคะ เดี๋ยวขอคนไข้นั่งรอหมอสักครู่ หมอขอหาเอกสารก่อนประกอบอาการที่คุณเป็นให้ก่อนค่ะ ”
นิษฐาที่ยืนหันหลังให้ประตูและกำลังค้นหาแฟ้มเอกสารในกล่องบนโต๊ะด้านหลังบอกขึ้นเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูเข้ามา ธนวรรธน์ที่เดินเข้ามาได้ยินก็ยืนนิ่งไม่ตอบอะไร ใช้สายตามองไปยังแผ่นหลังของหญิงสาวที่ยังดูวุ่นวายกับกองเอกสารที่วางอยู่
“ หมอขอโทษด้วยนะคะที่ทำให้คนไข้ต้องเสียเวลา พอดีหมอไม่นึกว่าคนไข้จะมาเร็วขนาดนี้ ”
นิษฐาพูดขึ้นอีกครั้งในขณะที่กำลังไล่อ่านเอกสารในมือเพื่อความแน่ใจ ธนวรรธน์ยกยิ้มมุมปากก่อนจะตอบขึ้น
“ ไม่เป็นไรครับ คุณหมอสวยขนาดนี้...ผมให้อภัยอยู่แล้ว ”
ทันทีที่นิษฐาได้ยินเสียงทุ้มที่ตอบมา หญิงสาวก็รีบหันหลังกลับไปมองทันที ดวงตาเบิกกว้างอย่างตกใจและคาดไม่ถึง รู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูกเมื่อเห็นรอยยิ้มที่แสนจะเจ้าเล่ห์บนหน้าของชายหนุ่ม
“ คุณ !! ”
“ สวัสดีครับ...คุณหมอนิษฐา ” ธนวรรธน์ยิ้มเมื่อเห็นท่าทางของหญิงสาวก่อนจะทักตอบอย่างอารมณ์ดี
“ คุณมาได้ยังไง ”
“ ผมมาจากห้องตรวจ 1 เดินตรงมาทางซ้ายเดินมาเรื่อยๆแล้วก็เลี้ยวขวา พอเจอทางแยกก็เลี้ยวขวาอีกที แล้วก็... ”
ชายหนุ่มอธิบายพลางทำมือทำไม้ประกอบ นิษฐาหัวเสียแต่ก็พยายามข่มอารมณ์ไว้ภายใต้ใบหน้าที่นิ่งเฉย ธนวรรธน์รับรู้ว่าหญิงสาวกำลังหงุดหงิดอยู่เป็นอย่างมากจึงหยุดพูดไว้เพียงเท่านั้น รีบเบือนหน้าหนีไปกลั้นยิ้มไว้อย่างสุดความสามารถ
“ คุณไม่ใช้คนไข้รายต่อไปที่ฉันนัดไว้ เพราฉะนั้น...เชิญค่ะ ประตูอยู่ทางด้านหลัง ”
นิษฐาบอกพร้อมกับปรายสายตามองข้ามไหล่ไปยังประตูที่อยู่ด้านหลังของชายหนุ่ม ธนวรรธน์หันข้างกลับไปเหลือบมองที่ประตูที่ปิดอยู่ยิ้มๆ พลางเอ่ยขึ้น
“ ผมจะไปได้ยังไง ผมยังคุยธุระของผมไม่เสร็จเลย ”
“ ธุระอะไรของคุณคะ นี่คุณหรือรึเปล่าว่าคุณกำลังรบกวนการทำงานของเจ้าหน้าที่ ” นิษฐาถามขึ้นอย่างสงสัย
“ เย็นนี้...ผมอยากจะเลี้ยงข้าวคุณสักมื้อ เป็นการไถ่โทษกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ”
“ ขอบคุณค่ะ แต่ฉันว่ามันไม่จำเป็น ฉันเคยบอกคุณแล้วว่าฉันไม่ต้องการการเลี้ยงไถ่โทษ ” หญิงสาวบอกน้ำเสียงนิ่ง สายตายังคงมองไปที่ชายหนุ่มอย่างไม่เป็นมิตร
“ แต่ผมรู้สึกผิด ” ธนวรรธน์บอกเสียงอ่อนพลางแกล้งทำหน้ารู้สึกผิดจริงๆ นิษฐารีบเบือนหน้าหนีทันทีเพราะรู้ทันว่าชายหนุ่มแกล้งทำ
“ ยังไงฉันก็ยืนยันว่าจะไม่ไปทานข้าวกับคุณ เชิญคุณกลับไปเถอะค่ะ ” ชายหนุ่มแกล้งทำเป็นหูทวนลมและรีบตอบกลับมาทันที
“ งั้นเย็นนี้เจอกันนะครับ ผมจะรอคุณอยู่ตรงบันไดทางเข้าโรงพยาบาลนะ ”
“ เอ๊ะ ! นี่คุณ ”
“ บ๊ายบ่ายครับคุณหมอคนสวย ” ธนวรรธน์พูดพร้อมโบกมือและเปิดประตูออกจากห้องไปอย่างอารมณ์ดี ปล่อยให้นิษฐาได้แต่มองตามไปอย่างเหนื่อยใจ...
เวลาเกือบห้าโมงครึ่ง นิษฐาที่เพิ่งออกจากเวรและหมดคิวนัดตรวจวันนี้แล้วเดินออกมาจากห้องและเดินไปตามทางออกของโรงพยาบาล หญิงสาวลืมเรื่องของชายหนุ่มที่บอกว่าจะเลี้ยงไถ่โทษเธอในตอนเย็นไปหมดสิ้น เพราะด้วยท่าทางทีเล่นทีจริงของชายหนุ่มทำให้นิษฐาอดคิดไปไม่ได้ว่าเขาคงจะพูดเล่น แต่อยู่ดีๆเท้าที่อยู่บนรองเท้าส้นสูงสีครีมก็ต้องหยุดลงเอาดื้อๆเมื่อสายตาไปสะดุดกับธนวรรธน์ที่ยืนพิงผนังกำแพงอยู่ที่หน้าทางเข้า ธนวรรธน์ที่หันมาเจอกับนิษฐาที่ยืนมองอยู่พอดี คลี่ยิ้มกว้าง ถอดแว่นกันแดดสีดำที่ใส่อยู่บนใบหน้าออกพลางทักขึ้นน้ำเสียงสดใส จนนิษฐารู้สึกอดหมั่นไส้ไม่ได้
“ อ้าว ! คุณหมอคนสวยของผมมาแล้ว ” ผู้ป่วย พยาบาล หมอและเจ้าหน้าที่หลายคนที่เดินผ่านบริเวณนั้นโดยรอบได้ยินแล้วหันมามองคุณหมอคนสวยที่เป็นที่รู้จักของหลายๆคนอย่างสนใจ บ้างก็ส่งยิ้มมาให้นิษฐา นิษฐาจึงได้แต่ยิ้มเจื่อนๆตอบอย่างทำอะไรไม่ถูก บ้างก็พากันกระซิบกระซาบอย่างสงสัย แต่ชายหนุ่มตรงหน้าก็ยังมองตรงมาที่เธอยิ้มหน้าระรื่น หญิงสาวได้แต่คิดว่า...
...เธออยากจะแทรกแผ่นดินหนีหายไปเสียเดี๋ยวนั้นเลย...
.............................................................
ทุกคอมเม้นท์คือกำลังใจ
นิยายเรื่องนี้แต่งตามจินตนาการ
ไม่ได้มีเจตนาทำให้ศิลปินหรือนักแสดงเสียหาย
หากมีตรงไหนผิดพลาด ขออภัยด้วยค่ะ
ความคิดเห็น