ตอนที่ 7 : Mad Dog : Chapter 6
“ว่าแต่คุณหนูเถอะ รู้สึกอย่างไรบ้างล่ะที่ได้กลิ่นทรูอัลฟ่าอยู่ตอนนี้”
หลังจากที่เจ้าของผิวน้ำนมได้ยินทรูอัลฟ่าเอ่ยถามออกมาเช่นนั้น ก็ทำให้เจ้าตัวก็ยืนนิ่งไม่ขยับเสียจนเหมือนกับตุ๊กตาซึ่งไร้ชีวิต แต่ความรู้สึกร้อนวาบจากลมหายใจร้อนที่ยังรินรดหลังคอในตอนนี้ คงเป็นเครื่องยืนยันเพียงอย่างเดียวว่าคุณหนูเยลเวอร์ตันยังมีความรู้สึก
และการที่ แมดส์ ไทเลอร์ ถามเช่นนี้ออกมา นั่นมันไม่ได้หมายความว่าอีกฝ่ายเองก็รู้เรื่องที่เธียร์กำลังคิดไม่ตกมาตลอดหลายวันเช่นกันอย่างนั้นหรือ
เรื่องคู่แห่งโชคชะตา.. เรื่องนี้มันไม่ควรเป็นไปได้ด้วยซ้ำ
เธียร์ เยลเวอร์ตัน ไม่สามารถคิดหาเหตุผลที่จะมาลบล้างคำพูดที่เชื่อมโยงของ แมดส์ ไทเลอร์ ได้ ทุกอย่างมันกำลังชี้ชัด จนทำให้เพียวโอเมก้านั้นอยากจะร่ำไห้ออกมาเสียตรงนั้นให้มันรู้แล้วรู้รอด มือขาวที่ยกขึ้นจับปลอกคอซึ่งแมดส์เป็นคนสวมใส่ให้เมื่อครู่ เผลอกำเข้าหาปลอกคอแน่นโดยที่เจ้าตัวนั้นไม่อาจรู้ตัวได้ว่าผลจากความคิดที่กำลังตีรวนอยู่ในหัว จะส่งผลออกมาเป็นการกระทำที่แสนชัดเจน และตกอยู่ในสายตาของทรูอัลฟ่าผิวเข้มทั้งหมด
ดวงตาใสที่มักจะมีประกายน่ามองยามเมื่อได้สบตากลับหลุบต่ำมองเท้าของตัวเองนิ่ง เสียงน่าฟังที่เคยพูดคุยก่อนหน้านี้กลับเงียบหายไปเสียนานทำให้ภายในห้องนั้นเงียบสงบ จนได้ยินแม้กระทั่งเสียงของลมซึ่งพัดกระทบต้นไม้ทางด้านนอก ระยะห่างที่อยู่ใกล้กันเพียงแค่ปลายจมูก ย่อมทำให้แมดส์สามารถมองเห็นคุณหนูเยลเวอร์ตันชัดเจนไม่แพ้ครั้งไหน
กลิ่นหอมหวานอันหอมกรุ่นเป็นเอกลักษณ์ของคนผิวขาว ชวนให้นึกถึงดอกแม็กโนเลียดอกสวยและละมุนตาไม่ต่างจากเจ้าของกลิ่น ทางด้านเพียวโอเมก้าผิวน้ำนมเองก็ยังคงปล่อยกลิ่นหอมให้ทรูอัลฟ่าหนุ่มได้ดอมดมอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว แรงดึงดูดที่พานให้ความพิเศษบางอย่างในร่างกายนั้นไม่สามารถควบคุมได้ ย่อมมีผลทำให้แมดส์เผลอสูดดมเอาความหอมเข้าไปเสียจนเต็มปอด
ยิ่งใกล้ก็ยิ่งหอม..
หากใกล้กว่านี้จะไม่ยิ่งหอมหรอกหรือ..
“นะ นาย..”
เสียงน่าฟังของคุณหนูเยลเวอร์ตันเอ่ยออกมาด้วยความตระหนกตกใจ เมื่อริมฝีปากร้อนผ่าวของแมดส์นั้นทาบทับลงบนหลังคอขาวอย่างเนิบนาบ จนทำให้เกิดความรู้สึกร้อนวาบบริเวณที่ทรูอัลฟ่าหนุ่มประทับจูบ ร่างกายนุ่มนิ่มของคุณหนูเยลเวอร์ตันเองก็ตอบสนองการกระทำนั้นด้วยการก้าวขยับถอยหนี แต่นั่นก็ดูจะไม่ได้ช่วยให้เจ้าตัวรอดพ้นจากเจ้าของสายตาคมเลยสักนิด เพราะเมื่อก้าวเท้าหมายจะหนี มันก็กลับกลายเป็นว่า เธียร์ เยลเวอร์ตัน ถอยหลังชนกับแผ่นอกของอีกฝ่าย กล้ามเนื้อแข็งแรงที่แม้จะมีเสื้อผ้าบดบัง แต่กลับไม่สามารถปกปิดความแข็งแรงพวกนั้นได้แม้แต่สักนิด
“จะดีใจหรือว่าเสียใจกันดีล่ะคุณหนู”
แมดส์ ไทเลอร์ เอ่ยถามคุณหนูตัวขาวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่เนื้อความในประโยคก็กลับกวนใจคนที่รับฟังอยู่ไม่น้อย กระต่ายตัวขาวเคยตื่นกลัวหมาป่าเช่นไร ตอนนี้ก็ยังเป็นเช่นนั้น อดคิดไม่ได้เลยจริง ๆ ว่าถ้าหากมากกว่านี้ เจ้ากระต่ายขาวจะไม่หัวใจวายตายไปก่อนหรือ
“นะ นายรู้?” เธียร์แทบหาเสียงของตัวเองไม่เจอเมื่อยามที่ต้องเอื้อนเอ่ยคำถามนั้นออกมา สมองที่กำลังตื้อจนไม่อาจจะสั่งการให้คุณหนูเยลเวอร์ตันคิดอะไรออก ดูจะเป็นผลลบที่ไม่น่าอภัยสำหรับสถานการณ์ในตอนนี้เหลือเกิน
“ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ..”
การพบกันครั้งแรกที่ไม่น่าประทับใจ และเต็มไปด้วยเรื่องราวที่ทำให้เธียร์ไม่มีวันลืม ดวงตาที่เต็มไปด้วยความกระหายบางอย่าง ซึ่งเยลเวอร์ตันก็ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ทรูอัลฟ่านั้นกระหายอยากได้นั้นคืออะไร
จะเป็นชีวิตคนหรือจะเป็น….
“….”
“จำไม่ได้หรือ ว่าวันนั้นฉันทำอะไรกับนายไปบ้าง”
ร่างกายของคนทั้งคู่ที่กอดซ้อนทับในท่าทางน่าอาย คลับคล้ายพวกสัตว์เดรัจฉานซึ่งกำลังสมสู่..
วงแขนแข็งแรงซึ่งโอบรัดรอบเอวผอมของร่างขาว และจับยึดไว้แน่นยามที่สะโพกสอบขยับบดเบียดเข้าหาก้นกลมราวกับ….
จังหวะขยับโยกของร่างกายสั่นคลอนไปพร้อม ๆ กับเสียงโซ่ที่เคยเป็นตัวกักขังคุณหนูเยลเวอร์ตัน
ใบหน้าติดเฉยชาของทรูอัลฟ่าหนุ่มยังคงเรียบนิ่ง ราวกับน้ำทะเลลึกที่ยังคงสงบ กลับชวนให้หวาดผวาทุกครั้งเมื่อจ้องมอง แม้ แมดส์ ไทเลอร์ จะยืนอยู่เฉยโดยไม่ได้แตะต้องเนื้อตัวของเธียร์ แต่นั่นก็สามารถทำให้เพียวโอเมก้านั้นอยู่ภายใต้การควบคุมของตัวเองได้
กลิ่นเปลือกไม้ของไม้ลึกลับเมื่อยามเผาไหม้ยังคงอบอวลไปทั่วห้อง คงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้เพียวโอเมก้าผิวน้ำนมไม่สามารถที่จะก้าวขาออกไปไหนได้
“เราจะบอกเรื่องนี้กับพี่”
ยังไงเสีย ดีแลนด์ เยลเวอร์ตัน ก็ควรต้องรับรู้เรื่องพวกนี้
“ก็ดี..”
“….”
“เพราะถ้าเป็นแบบนั้นแล้ว ฉันเองก็ไม่มีความจำเป็นต้องทำงานให้พี่ชายนายอีก”
ตัวคนผิวเข้มเองนั้นไม่ได้เดือดร้อนสักนิดกับเรื่องพวกนี้ เพราะท่าทางแล้วคนที่เดือดร้อนมากที่สุด มันก็คงไม่พ้นคุณหนูเยลเวอร์ตัน…
เพราะตัวของ แมดส์ ไทเลอร์ ก็ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับเยลเวอร์ตันตั้งแต่แรก
และหาก ดีแลนด์ เยลเวอร์ตัน รู้เรื่องนี้ขึ้นมา ทรูอัลฟ่าหนุ่มก็มั่นใจได้เลยว่าเจ้าตัวนั้นคงจะต้องได้ถูกคนของคุณชายเยลเวอร์ตันไล่ล่าตัวเป็นแน่ เรื่องถูกไล่ล่านั้นแมดส์เองก็ไม่ได้มีความทุกข์ร้อนกับมันนัก เพราะมันก็เรื่องคุ้นเคยสำหรับตัวแมดส์จนกลายเป็นความชินชา และที่สำคัญไปกว่านั้นมันก็เท่ากับว่าแผนหลบหนีในการส่งตัวของคุณหนูเยลเวอร์ตัน ก็ย่อมต้องเป็นอันจบลงเช่นกัน
ทุกอย่างจะกลับมาเป็นดั่งเช่นที่มันควรจะเป็นเมื่อไร้ตัวช่วย
เพียวโอเมก้าจากฮาร์เดนเจอร์จะต้องถูกส่งตัวไปที่นั่นอย่างไม่มีทางเลือก..
“เรื่องพวกนี้มันไม่ควรเกิดขึ้นกับเราสักนิด..” เสียงนุ่มพึมพำกับตัวเอง ในขณะที่ขอบตาสวยนั้นร้อนผ่าวไปหมด “ยิ่งเป็นนาย มันก็ยิ่ง…”
“รู้แบบนี้แล้ว ยังคิดจะหนีอีกไหมล่ะคุณหนู…”
“….”
“เผลอ ๆ การแต่งงานกับอัลฟ่านั่น มันอาจจะดีกว่าการหนีก็ว่าได้”
แล้ว เธียร์ เยลเวอร์ตัน มีทางเลือกที่ดีให้ตัวเองงั้นหรือ?
หากเลือกที่จะยอมแต่งงานกับอัลฟ่าที่ตัวเองไม่เคยแม้แต่จะรู้จักและเคยเห็นหน้า มันจะไม่ต่างจากนรกทั้งเป็นหรืออย่างไร ยังไงอัลฟ่าซึ่งไร้ศีลธรรมก็คงปฏิบัติกับเขาไม่ต่างจากแค่แม่พันธุ์ตัวหนึ่งอยู่ดี แต่หากต้องหลบหนีไปกับ แมดส์ ไทเลอร์ มันอาจจะยิ่งทำให้เรื่องคู่แห่งโชคชะตานั้นมีโอกาสเป็นจริงไปมากกว่าเดิม แรงดึงดูดที่ไม่สามารถหักห้ามได้มันน่ากลัวมากแค่ไหน เขาเองก็ไม่สามารถจินตนาการได้
ชีวิตที่มีเพียงเพื่ออยู่หายใจไปในวันหนึ่ง มันมากเกินไปแล้วหรือเปล่าสำหรับชีวิตของ เธียร์ เยลเวอร์ตัน
หลายครั้งที่ความว่างเปล่าพวกนั้นเกิดขึ้นในใจของคุณหนูเยลเวอร์ตัน จนทำให้เศษเสี้ยวความคิดที่ไร้ค่านั้นผุดขึ้นมาในหัวอย่างเลี่ยงไม่ได้
ไม่ว่าจะกี่ครั้งที่ได้ทอดมองผืนน้ำในทะเลสาบซึ่งเงียบสงบ มันก็ยิ่งทำให้เธียร์หวนนึกถึงความทรมานของมันในครั้งนั้นไม่ได้
ฝ่าเท้าที่สัมผัสถึงความเย็นเยียบและความว่างเปล่าจนไม่อาจทรงตัว เมื่อตัดสินใจก้าวออกไปแล้วก็ย่อมดำดิ่งตกลงไปในห้วงความลึกที่ไม่อาจประมาณได้
เสียงของผืนน้ำซึ่งแตกกระจายเป็นวงรอบเพราะของหนักที่ตกกระทบกับพื้นผิว
ความทรมานแรกที่เริ่มกัดกิน เมื่อยามที่ไร้ซึ่งอากาศให้ได้หายใจ… ร่างกายที่จมดิ่งลึกลงไปมากเรื่อย ๆ แม้จะตะเกียกตะกายสักแค่ไหนก็ไม่อาจต้านทานสภาพแวดล้อมโดยรอบ ฟองอากาศที่เกิดจากการสำลักน้ำมีแต่จะสร้างความทรมานที่มากขึ้นเรื่อย ๆ
ช่องว่างของความว่างเปล่าภายในใจที่สะสมมานานมันยากเกินกว่าที่จะเริ่มต้นใหม่ได้.. กับความรู้สึกที่พังซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนแหลกละเอียดไม่ต่างจากเศษฝุ่นลอยลม
แต่แล้วความทรมานพวกนั้นก็ถูกฉุดกระชากกลับขึ้นมาเพราะการตัดสินใจของคนอื่นที่ไม่ใช่ตัวเขา..
เขาในตอนนั้นที่รู้สึกว่าตัวเองไร้ค่าเกินกว่าจะมีชีวิตอยู่บนโลกนี้
เขาที่คิดว่ามีเพียงแค่ตัวเองที่แบกรับทุกอย่างไว้
คำสัญญาของ ดีแลนด์ เยลเวอร์ตัน ในวันนั้นคงเป็นสิ่งเดียวที่พอจะหลงเหลือเป็นเหตุผลในการมีชีวิตอยู่ของ เธียร์ เยลเวอร์ตัน
‘น้องไม่จำเป็นต้องอยู่เพื่อใครทั้งนั้น… แต่พี่อยากให้น้องใช้ชีวิตที่เหลือเพื่อตัวเอง’
เป็นครั้งแรกที่เธียร์เห็นน้ำตาของพี่ชายตัวเอง มือที่เคยลูบหัวเขาในตอนเด็กยังคงโอบกอดร่างกายของเขาไว้แน่น ราวกับกลัวว่าเขาจะหายไป
“ไม่มีสักทางที่เราเลือกได้..”
คำตอบที่ทั้งแมดส์และเธียร์ต่างคนต่างก็รู้อยู่แก่ใจดีว่ามันไม่อาจฝืนได้.. เพราะต่อให้ฝืนมากเท่าไหร่มันก็ยิ่งจะสะท้อนกลับมาในทางตรงข้ามเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น
การกระทำของ แมดส์ ไทเลอร์ ที่ผ่านมาแม้มันจะสร้างความปลอดภัยให้กับเธียร์ แต่นั่นมันก็ไม่ได้หมายความว่าจะเรียกว่ารักได้
พระเจ้าจะใจร้ายกับเขาไปถึงไหน.. เรื่องตลกร้ายพวกนี้ควรหยุดเกิดในชีวิตของเขาเสียที
เขาไม่ได้ต้องการความรักที่มาจากสัญชาตญาณ ไม่เคยคิดต้องการเรื่องโชคชะตาในการพบคู่ของตัวเอง
“คุณหนูนี่เจ้าน้ำตาจริง ๆ นะ” แมดส์เอ่ยดุคนที่หยดน้ำตาร่วงเผาะออกจากดวงตาจนชุ่มแพขนตาสวย มือใหญ่จับไหล่คนตัวเล็กให้หันหน้ากลับมาก่อนที่จะจ้องมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาของอีกฝ่ายนิ่ง “คิดผิดหรือคิดถูกกันที่ยอมบอกเรื่องนี้”
เพราะอย่างน้อย แมดส์ ไทเลอร์ ก็คิดว่าการให้อีกฝ่ายได้รู้ตัวก่อนนั้นมันคงเป็นเรื่องที่สมควร หลังจากลอบสังเกตปฏิกิริยาที่นับวันยิ่งชัดเจน มันก็ยิ่งทำให้แมดส์มั่นใจมากขึ้นเรื่อย ๆ
“เราไม่มีสิทธิ์ร้องไห้หรือไง” คนตาสวยเอ่ยถามในขณะที่ยังคงร้องไห้ไม่ยอมหยุด “ใครกันจะอยากมีคู่ชีวิตที่ใจร้ายแบบนาย”
คุณหนูเยลเวอร์ตันเอ่ยอย่างไม่คิดปิดบังความรู้สึกของตนเอง วาจาร้ายกาจของแมดส์นั้นมันทำร้ายความรู้สึกของเธียร์อยู่แทบทุกครั้ง ยิ่งการกระทำที่เฉยชาพวกนั้นก็ยิ่งตอกย้ำว่ามันเป็นไปได้ยากเหลือเกินที่แมดส์จะเข้าใจความรู้สึกของคนอื่นได้
“แล้วคุณหนูคิดว่าตัวเองเหมาะกับน้ำตาหรือ..”
เป็นอีกครั้งที่เธียร์ทำได้แค่เพียงกลืนก้อนความหน่วงที่จุกบริเวณลำคอของตัวเองลงไป และก้มลองมองเท้าของตัวเอง ถึงแม้ใครหลายคนจะบอกว่าเขานั้นเหมาะกับรอยยิ้มมากแค่ไหน แต่สุดท้ายแล้วรอยยิ้มพวกนั้นมันก็ต้องถูกลบเลือนไปด้วยน้ำตาที่มักจะเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง
หากเลือกได้เขาเองก็อยากจะยิ้มให้ได้มากกว่านี้ มีความสุขให้ได้มากกว่านี้ ถึงแม้จะเป็นเพียงความสุขที่เล็กน้อยและฉาบฉวยมากแค่ไหนก็ตาม
ความรู้สึกบางอย่างต่อให้มันผ่านเข้ามา และผ่านออกไป สุดท้ายมันก็ยังหลงเหลือความรู้สึกติดค้างที่ไม่สามารถจัดการได้
“ไม่มีอะไรที่เหมาะกับเราหรอกไทเลอร์..”
เพียวโอเมก้าได้แต่ยิ้มขมขื่นในยามที่ต้องการปลอบประโลมตัวเอง มันเหมือนกับวัฏจักรที่วนไปมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าซึ่งไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
“มั่นใจเสียเถอะว่าเรื่องคู่แห่งโชคชะตาของเราทั้งคู่ มันไม่มีวันเป็นไปได้หรอกคุณหนู”
ลองฝืนโชคชะตาดูเสียหน่อยก็คงไม่แย่สักเท่าไหร่..
“เป็นไปไม่ได้เพราะนายรังเกียจเราหรือสงสารเรากัน..”
“ไม่ใช่เพราะรังเกียจหรือเพราะความสงสาร”
“…”
“แต่เพราะไม่มีใครเหมาะสมที่จะยืนอยู่ข้างคนอย่างฉัน”
หินก้อนใหญ่ที่มีแต่จะกลิ้งไปด้านหน้าอยู่เสมอ ย่อมไม่ปลอดภัยสำหรับใครที่เข้าใกล้ และคิดจะเข้าไปขวางกั้น
อันตรายที่ใครต่างหลีกเลี่ยง มันก็ถูกแล้วไม่ใช่หรือที่คนจะส่ายหน้าหนี
“ไม่ใช่ว่ารักใครไม่เป็นหรอกหรือ?”
เจ้าของใบหน้าน่ารักเงยหน้าขึ้นมาถามคนที่ยังมองหน้าตัวเองด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง และนั่นก็ทำให้แมดส์กระตุกยิ้มมุมปากอย่างช่วยไม่ได้ กับคำถามที่แสนจะจี้ใจของคุณหนูตัวขาว
“แล้วฉันต้องรักใคร?”
ประโยคยียวนของแมดส์ทำให้เธียร์เผลอส่งค้อนวงโตให้อีกฝ่ายอย่างช่วยไม่ได้
“หรือว่าคนอย่างนายรักแค่ตัวเองเป็น”
ใครจะคิดกันว่าคุณหนูเยลเวอร์ตันบทจะพูดจาแดกดันนั้นจะทำให้แมดส์หน้าตึงยิ่งกว่าเดิม ราวกับว่าคำพูดของคุณหนูเยลเวอร์ตันนั้นไปจี้ใจเข้าจัง ๆ
“แล้วมันแปลกตรงไหนที่คนเราจะรักตัวเอง ก่อนที่จะรักคนอื่น”
“….”
“รักตัวเองให้มาก ๆ ให้สมกับที่มันอยู่กับเราในทุกช่วงเวลาของชีวิต”
“….”
“แต่ก็คงจะจริงอย่างที่ว่า.. เพราะยังไงเสียคนเห็นแก่ตัวแบบฉัน มันก็คงรักใครไม่ได้”
“ใครเป็นคนส่งชุดพวกนี้มากัน” เธียร์ เยลเวอร์ตัน เอ่ยถามโอเมก้าคนสนิทของตัวเองในทันที เมื่อเห็นว่าสาวเจ้านั้นเดินหอบหิ้วเอาชุดที่แปลกตานั้นเข้ามาในห้อง
“ท่านพ่อคุณหนูเป็นคนส่งมา” คิ้วสวยขมวดเข้าหากันไม่น้อยเมื่อได้ยินเช่นนั้นนานเท่าไหร่กันแล้วที่เธียร์ไม่เคยได้รับของจากผู้เป็นพ่อ ยิ่งเดินเข้าไปใกล้จนเห็นชุดที่ถูกส่งมาก็ยิ่งทำให้เพียวโอเมก้ารู้สึกชาวาบไปทั้งตัว
เธียร์ เยลเวอร์ตันควรจะเพราะดีใจที่ได้อยู่ในสายตาคนเป็นพ่อ หรือจะเสียใจที่คนเป็นพ่อพึ่งนึกถึงตัวเองตอนนี้กันดี
“ให้เราทำไม..”
เสื้อผ้าเนื้อดีพวกนี้ไม่ต้องให้ใครบอก เธียร์ก็พอจะรู้ว่ามันถูกสั่งทำขึ้นมาเพื่อตัวเองโดยเฉพาะ ทั้งเนื้อผ้าที่เลือกมาก็เป็นผ้าเดียวกันกับที่คนเป็นพี่เลือกให้ สีดิ้นที่ประดับตกแต่งลวดลายซึ่งเข้ากันดีกับตัวสีผ้าจนเป็นเอกลักษณ์ หาใช่สีประจำตระกูลไม่
ในความใจดีที่หยิบยื่นมาให้ก็กลับเป็นเหมือนมีดแหลมที่คอยทิ่มแทง และตอกย้ำเช่นกันว่าหัวหน้าตระกูลเยลเวอร์ตันนั้นไม่ได้นับลูกชายคนเล็กของตัวเองเป็นคนในตระกูล
เพราะแม้ขนาดแค่เพียงสีประจำตระกูลซึ่งสมควรอยู่บนเสื้อผ้า ก็กลับไม่ปรากฏบนเสื้อผ้าชุดนี้ที่ถูกส่งมา
“เอาชุดไปเก็บเถอะ” เธียร์ปล่อยมือที่จับเสื้อผ้าออก ก่อนจะส่งยิ้มเล็ก ๆ ให้แม่บ้านคนสนิทที่ลอบสังเกตตัวเองอยู่เงียบ ๆ
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่าชุดที่ถูกส่งมานั้นเหมาะสมกับ เธียร์ เยลเวอร์ตัน มากแค่ไหน ผิวสีขาวอมชมพูเมื่อได้สวมใส่เสื้อผ้าสีอ่อนหรือที่จะไม่ขับผิวสีสวยให้ดูน่ามองยิ่งขึ้นกว่าเดิม
นับตั้งแต่ที่เพียวโอเมก้าได้พูดคุยกับทรูอัลฟ่าหนุ่มในวันนั้น ก็ดูจะเป็นการสนทนาครั้งสุดท้ายที่ทั้งคู่ได้พูดคุย แม้จะเจอหน้ากันบ้างแต่ก็ไม่เธียร์ที่มักจะหลบสายตา และเลี่ยงที่จะอยู่บริเวณนั้นอยู่เสมอ การกระทำที่ฝืนโชคชะตาและแรงดึงดูด ถึงแม้จะทำให้ไม่สบายใจอยู่บ้าง แต่มันก็คงจะเหมาะที่สุดแล้วสำหรับเรื่องที่ต่างฝ่ายต่างก็รู้ดีอยู่แก่ใจ
“คุณหนูมีปัญหาอะไรกับไทเลอร์หรือเปล่าคะ” เอนยาเอ่ยถามอย่างอดไม่ได้ เมื่อเจ้าหล่อนสังเกตท่าทางแปลก ๆ ของเจ้านายตัวเองมาพักใหญ่
“ทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะ..”
“คุณหนูเอาแต่หลบหน้าไทเลอร์..” เอนยากล่าวตามความจริง “ทั้งที่ก่อนหน้านี้ คุณหนูเองก็ดูอยากจะมีเพื่อน..”
“มันคงไม่เหมาะหรอกที่เราจะไปอยู่ใกล้ทรูอัลฟ่า” เธียร์ตอบด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ ตามเหตุผล “อีกอย่างมันก็ดีแล้วไม่ใช่หรือที่เราระวังตัวไว้”
ปลอกคอที่ได้รับมาจาก แมดส์ ไทเลอร์ ในวันนั้น คุณหนูเยลเวอร์ตันเองก็ยังสวมใส่อยู่ทุกวัน ราวกับเป็นเครื่องตอกย้ำให้ตัวเองได้รับรู้ถึงสถานะของตัวเอง
“อย่าโกหกเอนยาเลยค่ะคุณหนู..” สาวเจ้าเอื้อมมือมาจับมือนิ่มของคนตัวขาวที่ยังนั่งทำตาใสใส่ตัวเอง “เอนยาเลี้ยงคุณหนูมา ทำไมจะไม่รู้กันว่าเรื่องไหนคุณหนูพูดจริง หรือเรื่องไหนโกหก”
เธียร์ช้อนตาใสมองแม่บ้านสาวอย่างรู้สึกผิด เมื่อการโกหกของตัวเองในครั้งนี้ดูจะไม่สามารถตบตาคนตรงหน้าได้สักนิด
“ถ้าเราบอกเอนยาไป เอนยาจะโกรธเราไหม?” ความสับสนและกังวลที่ฉายในดวงตาคู่สวย ย่อมทำให้แม่บ้านคนสนิทรู้สึกว่ามันต้องมีเรื่องอะไรสักอย่างที่ทำให้คุณหนูของเธอเป็นกังวลมากแน่ ๆ
“ไม่มีเหตุผลที่เอนยาต้องโกรธคุณหนูเลยค่ะ..”
ถึงจะเอ่ยออกไปแบบนั้น แต่ก็ใช้เวลาครู่ใหญ่กว่าที่เธียร์จะยอมเอ่ยตอบคำถามนั้นออกมา และนั่นก็ทำให้แม่บ้านคนสนิทถึงกับบีบมือคุณหนูเยลเวอร์ตันแน่นด้วยความลืมตัว
“แมดส์ ไทเลอร์ เป็นคู่แห่งโชคชะตาของเรา”
น้ำเสียงแผ่วเบาที่เอื้อนเอ่ยชัดเจนในหูของเอนยาเสียจนเธอเองอดตกใจไม่ได้
“คุณหนูมั่นใจได้อย่างไรว่ามันคือเรื่องจริง”
“ทุกอย่าง..”
เพียวโอเมก้าตัวขาวเอ่ยเล่าถึงความรู้สึกที่เกิดขึ้นของตัวเอง เวลาที่อยู่กับทรูอัลฟ่าหนุ่มให้เอนยาได้รับฟังด้วยความกังวลที่ยังวิตกไม่แพ้กัน
“ไทเลอร์เองก็รู้?”
“ถ้าไม่รู้สิแปลก..”
แรงดึงดูดของคู่แห่งโชคชะตามันใช่น้อยเสียเมื่อไหร่กัน
“แบบนี้มันไม่ปลอดภัยกับคุณหนูเลยสักนิด.. เอนยาว่าเราควรบอกเรื่องนี้ให้คุณชายได้รู้”
“ถ้าบอกพี่ไป.. แล้วใครจะพาเราหนีออกจากที่นี่” เธียร์แย้ง “ถ้าหากพี่รู้ขึ้นมาจะไม่ยิ่งทำให้พี่เป็นศัตรูกับไทเลอร์หรอกหรือ”
และนั่นก็คงไม่ใช่เรื่องดีแน่สำหรับการเป็นปรปักษ์กับ แมดส์ ไทเลอร์ ที่ใครก็ไม่สามารถคาดเดาความคิดได้
“คุณหนู…”
“อย่างน้อยเราก็ต้องพึ่งไทเลอร์ เพื่อให้เขาพาเราออกไปจากที่นี่”
หากออกไปจากที่นี่ได้แล้ว จะเป็นอย่างไรต่อไปก็คงต้องแล้วแต่สถานการณ์ในตอนนั้นแล้วจริง ๆ
“เอนยาไม่ได้กลัวว่าคุณหนูจะออกไปจากที่นี่ไม่ได้..”
“….”
“เอนยากลัว.. กลัวว่าสักวันหนึ่งคุณหนูจะรู้สึกกับทรูอัลฟ่านั่นไปมากกว่านี้..”
และวันนั้นก็คงเป็นวันที่คุณหนูของเธออาจจะต้องเสียใจมากที่สุดก็เป็นได้
“เราไม่มีทางรักเขา..”
“….”
“เหมือนที่เขาเองก็คงไม่มีทางรักเรา”
แค่ความรักจาก คนเป็นแม่ ทั้ง ดีแลนด์ เยลเวอร์ตัน และเอนยา มันก็คงเป็นความรักที่เพียงพอแล้วสำหรับคุณหนูเยลเวอร์ตัน
รักบริสุทธิ์ที่ไม่มีเรื่องอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องให้ต้องเจ็บปวดเหมือนดั่งความรักของหนุ่มสาว..
คงเป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับได้จริง ๆ หาก เธียร์ เยลเวอร์ตัน จะต้องเจ็บปวดกับความรักพวกนั้น
“ที่พูดมาแบบนี้ คุณหนูมั่นใจแล้วหรือว่าไม่ได้เคยรู้สึกหวั่นไหวกับไทเลอร์..”
ความเงียบที่เป็นคำตอบนั้นมันช่างสร้างความเจ็บปวดให้กับคนรอคำตอบเสียเหลือเกิน แม้ไม่พูดมันออกมาแต่ทว่าสายตาของคุณหนูเยลเวอร์ตันเองก็ไม่เคยที่จะโกหก
“เราพยายามแล้วเอนยา..”
เธียร์ เยลเวอร์ตัน พยายามแล้วที่จะฝืนโชคชะตาและสัญชาตญาณพวกนั้น
HASTAG : #maddogmn
Talk : คุณหนูของพี่พยายามแล้วจริงๆค่ะ T-T
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ขอบคุณสำหรับฟิคนะคะ ไรท์สู้ๆน๊าาาาา
คุณหนูของบ่าว สงสารจับใจเลยค่ะ
โถ่ทูนหัวของพี่