ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Unlove_รวมพลคนหมดรัก(Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #27 : ยกที่24 : เปลี่ยนไป

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 324
      24
      27 ธ.ค. 61





    เปลี่ยนไป

     




                    อย่าถามว่าผมฟื้นตอนไหน...ผมพอจะรู้ตัวว่าตัวเองใช้เวลาประมาณห้าถึงหกชั่วโมงในการฟื้นจากอาการเบลออย่างหนัก กว่าผมจะมีสติดีก็พบว่าทั้งห้องเต็มไปด้วยครอบครัวและผองเพื่อนเรียบร้อย

                แม่นั่งอธิบายผมอย่างช้าๆชัดๆว่าผมประสบอุบัติเหตุที่แยกกองบิน เพราะมีคนเป็นลมชักฝ่าไฟแดงมาชน...เหมือนว่าผมเป็นหนึ่งในผู้โชคดีที่รอดมาได้ เพราะมีคนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุครั้งนี้ถึงห้าคน ผมคงโชคดีจริงๆ อาจเป็นเพราะตำแหน่งมอเตอร์ไซค์ของผมมันอยู่ตรงมุม ไม่ได้โดนชนจังๆล่ะมั้ง

                ผมพอจะจำได้อยู่นะ ถึงจะภาพตัดไปหน่อยก็เถอะ ผมจำได้ว่าผมพยายามหาชูก้าไกรเดอร์มูลค่าพันห้าของผมก่อนที่จะวูบไป  อัศจรรย์ใจสัดๆที่มันรอดมาได้ ผมนี่ถึงกับอึ้งตอนที่ไอ้เม่นชูตะกร้าใส่ชูกร้าไกรเดอร์สีชมพูให้ผมดูด้วยหน้าตาที่แป้นแล้นเต็มกำลัง

                “พี่กู้ภัยบอกว่าก่อนสลบมึงเอาแต่บอกให้พี่เขาหาชูก้าไกรเดอร์ให้” แหงดิสัด ตั้งพันห้า! จิตสุดท้ายกูคงอาลัยอาวรเงินที่เสียไปมากพอสมควรอ่ะ

                “แล้วพี่รักษ์รู้เรื่องชูก้าไกรเดอร์รึยังวะ” ผมถาม

                “จะเหลือเหรอ รู้ยันร้านที่มึงไปเอามันมาเลยด้วยซ้ำ” เซอร์ไพรซ์เลยมั้ยล่ะ กลายเป็นกูนี่แหละที่เซอร์ไพรซ์พี่รักษ์แทน ลงทุนเอาหัวกระแทกพื้นเพื่อได้มอบน้องชูก้าให้พี่รักษ์แบบที่พี่รักษ์ต้องจดจำไปอีกนาน ขอโทษว่ะกวาง เธอโดนเราแย่งซีนแล้วแหละ!

                “แล้วพี่รักษ์ล่ะ” ตั้งแต่ผมมีสติ ผมยังไม่เห็นแม้แต่เงาของพี่แกเลย อย่าบอกนะว่าไปแดกข้าวกับสาวไม่มาหาน้องนุ่ง แต่ว่าไม่ได้ครับ เมื่อกี้แม่ผมเพิ่งชมพี่รักษ์ให้ฟังว่ามาเฝ้าผมเป็นเพื่อนแม่ทุกวัน ซื้อข้าวซื้อน้ำมาให้แม่ตลอด แต่ไหงบทผมตื่นขึ้นมาแล้วพี่แกถึงไม่อยู่วะ พี่พลาดช็อตสำคัญแบบนี้ได้ยังไง?!

                “ไอ้รักษ์มันกลับบ้านไปทำธุระ” พี่แมนว่า...อ่อออออ อภัยได้  แต่เมื่อกี้แม่บอกว่าผมสลบไปแปดเก้าวันเลยใช่มั้ย

                “วันนี้วันที่เท่าไหร่นะ”

                4 กันยา มึงสลบไปตั้งแปดวันแน่ะ” เม่นว่า ปากนี่เคี้ยวสาลี่ไม่หยุด อย่าว่าแต่มันเลย ทั้งเพื่อนทั้งพี่ แม่งเหมือนไม่ได้มาเยี่ยมกูอ่ะ เหมือนมานั่งแดกบุฟเฟ่ต์ผลไม้กันมากกว่า

                4 กันยา...วันเกิดพี่รักษ์อ่ะดิ!” ผมว่าตาโต “พี่รักษ์จะกลับมาวันไหนอ่ะพี่” ผมถามพวกพี่แมนที่ยืนปอกแอปเปิ้ลกันอยู่

                “กลับวันนี้แหละ เดี๋ยวลองโทรไปถามมันมั้ยล่ะ” พี่ก้องหันมาบอกผม “เออว่ะ มีใครโทรบอกมันรึยังว่าน้องฟื้นแล้ว”

                “ยังๆ พวกกูกะเซอร์ไพรซ์มัน” ดีครับพี่ธัน เอากูไปเซอร์ไพรซ์เป็นของขวัญให้พี่รักษ์ ไม่ต้องลงทุนดี ไอเดียนี้ผมชอบ

                “เดี๋ยวกูลองโทรถามมันก่อนว่ากลับตอนไหนเดี๋ยวผิดแผน” พี่แมนว่าพลางยกไอโฟนขึ้นมากด เชี่ย! ตื่นเต้นว่ะ!!! ผมมองพี่แมนที่กำลังรอสายด้วยความตื่นเต้น หันไปยิ้มให้แม่ที่นั่งข้างๆเตียงคนไข้ก็เห็นแม่เองก็มองดูอย่างสนุกก็หัวเราะ แม่ผมชอบครับไอ้วางผงวางแผนเซอร์ไพรซ์คนอื่นเนี่ย

                  “มึงอยู่ไหน” พี่แมนที่ได้ยินพี่รักษ์รับสายแล้วพูดพร้อมกับเปิดลำโพงให้พวกเราได้ยิน

               [เพิ่งออกจากบ้านเนี่ย ประมาณชั่วโมงครึ่งน่าจะไปถึง แต่จะแวะไปดูไอ้ปอนด์ที่โรงพยาบาลก่อน] งื้ออออ น่ารักป่ะล่ะ จะแวะมาหาผมก่อนด้วย หื้อออ แกล้งไม่ลงแล้วว่ะ

    “...มึงรีบ” ผมโบกมือให้พี่แมนที่กำลังพูดอยู่ เห็นพี่แกเลิกคิ้วหน่อยๆ

    “เปลี่ยนแผนได้มั้ยพี่” ผมว่าเบาๆ

    “.เอ้อ ได้สิๆ” พี่แมนพูด ตอนนี้พวกเราต่างก็กระซิบคุยกัน “เอายังไงดี”

    “เอาเป็นให้ผมคุยก่อนได้มั้ย”

    “เอ้อ...” พี่แมนเตรียมบอกพี่รักษ์ที่อยู่ในสายผมก็โบกมือห้ามอีกครั้ง

    “ไม่ต้องบอกอะไรพี่เขานะ”

    “จะคุยเหรอ” พี่แมนถามย้ำ ผมพยักหน้ารับ

                [อะไรของพวกมึงวะ เดี๋ยวกูไปถึงแล้วค่อยคุยมั้ย] แหม คนใจร้อน รอกูเตี๊ยมก่อนไม่ได้เลย?

                “......พี่รักษ์......” ผมเรียกอีกฝั่งช้าๆ

                [......] อ้าวเงียบ อย่าบอกนะว่าขับรถเข้ากลางเขาไม่มีสัญญาณไปแล้ว แม่มเอ๊ย!

                “...พี่ได้ยินมั้ย...” ผมถาม ไอ้เหี้ย ถ้าสัญญาณหายไปแล้วกูลงแดงตายคาเตียงคนไข้แน่ๆ โว้ยยยยย!

                [.......นั่นปอนด์เหรอ] หื้อ พี่รักษ์จำเสียงผมได้ด้วย ความรู้สึกตอนได้ยินอีกฝ่ายเรียกชื่อคือล้นใจสัดๆ นี่ผมเป็นอะไร?!!

                ........สุขสันต์วันเกิดนะพี่รักตัวเองว่ะ นอกจากจะมีชีวิตรอดมาเจอหน้าครอบครัวและทุกคนแล้วยังตื่นมาทันวันเกิดพี่รักอีก กูนี่มันเมจิกคิดส์จริงๆ!


                หลังจากพวกเราเฮฮากันอย่างบ้าคลั่งเพราะได้แกล้งคุณรักษ์วิรากร แล้ว จากเวลาที่ประมาณการไว้ว่าอีกชั่วโมงครึ่งพี่รักษ์จะมาถึง กลายเป็นแค่ครึ่งชั่วโมงประตูห้องของผมก็เปิดออกพร้อมการปรากฏตัวของคนโดนแกล้ง

                เหยดเข้ พี่รักษ์แกให้ตำรวจเปิดทางให้ตอนมานี่รึไง ทำไมเร็วปานเดอะแฟรชแบบนี้วะ!

                “ไอ้เหี้ยรักษ์แม่ง...เหยียบคันเร่งมิดจนทะลุท้องรถเลยมั้งเนี่ย” พี่เตอร์ที่นั่งกินแอปเปิ้ลอยู่ข้างๆเตียงคนไข้พึมพำ

                “พ่อกับแม่ล่ะ” พี่รักษ์ถามหอบๆ รู้เลยว่าวิ่งมาจากลานจอดรถแน่ๆ

                “พี่ปานพาออกไปหาอะไรกินเมื่อกี้” อันนี้พี่แมนตอบ “ทำไมถึงเร็วจังวะ”

                “กูเหยียบ 200มา” เวร! อันตรายนะนั่น!

                “ฟื้นเมื่อไหร่” พี่รักษ์เดินมาหยุดข้างเตียง ผมได้แต่มองหน้าพี่แกพร้อมยิ้มแหยๆ เห็นพี่รักษ์หน้านิ่งๆ หรือพี่แกโกรธที่พาเหลืองนวลไปเสยทางเท้ามาวะ

                “ช่วงตีสามได้มั้ง...ครับ” ผมตอบ

                “แล้วเพิ่งบอกพี่?” อื้อหือ สรรพนามที่เปลี่ยนไป แสดงถึงอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลง ผมชี้นิ้วไปทางพวกพี่ๆที่อยู่ตรงมุมห้องทันทีแบบไม่ต้องใช้สมองคิด พอพี่รักษ์หันไป ไอ้พวกพี่ๆแม่งหลบตากันเป็นแถว

                “อยากให้มึงดีใจไง ให้มาเห็นเองเป็นของขวัญวันเกิดอ่ะ” พี่เอ็กซ์ผู้กล้ายืนหนึ่งรีบอธิบาย

                “โทรบอกกู กูก็ดีใจป่ะวะ”

                “อ่ะ แต่ได้ยินเสียงเองแบบนี้ดีใจกว่ามั้ยล่ะ”

                “เออ ดีใจกว่า” เชี่ย! พี่ๆครับ กูนอนหัวโด่อยู่บนเตียงครับพี่! พี่พูดกันแบบเหมือนกูนอนสลบยังไม่ฟื้นเลยนะ

                “พี่กลับบ้านมาเหรอ เป็นไงบ้าง” ผมถาม มือดึงแขนพี่รักษ์ให้หันมาคุย

                “หือ? อืม พี่กลับไปเอารถจากที่บ้านมา”

                “เหลืองนวลพังจนใช้ไม่ได้เลยเหรอ หื้ออออ ผมขอโทษษษ” เชี่ย รู้สึกผิดสัดๆ แอบเอารถพี่แกไปเถลไถลยังไม่พอ ยังพาเหลืองนวลไปสวรรค์อีกต่างหาก

                “เปล่า อย่าคิดงั้นดิเอ๋อ เหลืองนวลไม่ได้เป็นอะไร” พี่รักษ์ตอบยิ้มๆ แล้วหันไปลากเก้าอี้มานั่งข้างๆผม “แต่กูกลับไปเอารถมาใช้เพราะสะดวกกว่า”

                “สะดวกยังไงวะ ที่จอดรถในมหาลัยหายากจะตาย”

                “สะดวกเวลาพามึงไปไหนมาไหนไง” !!!

                “พี่เอารถมาเพื่อใช้รับส่งผมไปมหาลัยอ่ะนะ?!

                “ใช้รับส่งโรงพยาบาลด้วย...เอ้อ เหมือนแม่มึงอยากให้พามึงกลับไปพักที่บ้านบ้าง คงได้ใช้ไปรับไปส่งมึงที่เชียงรายด้วย”

                จังหวะนี้กูอึ้งเลย อึ้งล้วนๆ พี่รักษ์เป็นคนดีเกินไปจริงๆ พี่อย่าดีกับผมมาก ผมไม่อยากคิดไกล และผมก็ไม่อยากให้ไอ้พวกพี่เชี่ยกับเพื่อนเวรที่อยู่ด้านหลังห้องมันคิดไกลไปกว่าผมด้วย ถึงหน้าพวกมันตอนนี้จะแสดงออกมาชัดมากว่าคิดไปไกลกว่าผมเยอะก็เถอะ

                อยากจะถอดเฝือกที่ขาออก แล้วขว้างใส่ไอ้กลุ่มชนกลุ่มน้อยผู้มีรอยยิ้มกรุ้มกริ่มตรงนั้นสัดๆ!!!

                “เชี่ย...ไม่มีใครอัพเดทให้กูฟังเลยวะว่าไอ้รักษ์ขอไอ้ปอนด์จากแม่น้องมันแล้ว” อื้อหือพี่เตอร์ ถ้าไม่ติดว่าแขนขวากูหักแล้วแขนซ้ายกูให้น้ำเกลืออยู่ กูจะหยิบรีโมทข้างหัวเตียงยัดใส่ปากพี่มันแทนแอปเปิ้ลให้ดู

                “ตกข่าวได้ไงว้าเพื่อนเตอร์ มันมีแววตั้งแต่ไปรับไปส่งแม่น้องปอนด์ไปไหนมาไหนเสมือนเตรียมตัวเป็นลูกเขยแม่น้องมันแล้วป่ะ”

                “เห็นแววนานแล้วครับเพื่อนเอ็กซ์  ตั้งแต่เพื่อนรักษ์พาน้องเขาไปกินข้าวด้วยกันทั้งเช้าและเย็น”

                “แถมเขายังซื้อช็อคโกแลตให้กันด้วยนะครับ อย่าลืมครับอย่าลืม”

                “เพื่อนแมนเคยเล่าให้กระผมฟังด้วยนะครับว่าเพื่อนรักษ์ทักไปขู่คนที่จะมาจีบน้องปอนด์ พอถามก็บอกว่าห่วงน้องเฉยๆ...กระผมว่ามันมากกว่านั้นแน่ๆครับ”

                “โอ้โห นี่ข่าวใหม่เลยนะครับเนี่ยเพื่อนก้อง แต่ทำไมเพื่อนแมนถึงไม่เล่าให้พวกเราฟังบ้างล่ะครับ”

                “ช่วงนั้นสอบครับเพื่อนเตอร์ กระผมแค่นึกขึ้นได้ตอนอยู่กับเพื่อนก้องพอดีแต่หลังจากนั้นก็ลืม...แต่ไม่ต้องห่วงครับ ผมมีข่าวใหม่ล่าสุด”

                “แถลงเลยครับเพื่อนแมน อย่าให้พวกเราได้รอนาน”

                แหมมมม เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย! ผมนี่ขำจนปวดไปทั้งหัวตอนเห็นพี่รักษ์เดินไปตบหัวพี่แมนที่เตรียมแถลงข่าวแบบหนักหน่วงจนหัวสะบัด 555555 ไม่ใช่ว่าไม่อยากรู้ข่าวใหม่นะครับ แต่สัมผัสได้ว่าถ้าแถลงออกมาแล้วผมกับพี่รักษ์ต้องอยู่ยากแน่ๆ

                กว่าทุกคนจะกลับได้ก็ทุ่มสองทุ่มนั่นแหละครับ พี่รักษ์ถามย้ำหลายรอบมากว่าจะให้มาอยู่เฝ้าด้วยมั้ย ...แค่ครอบครัวผมก็เต็มห้องแล้วป่ะ พี่ไม่ต้องมาก็ได้ = =

                ผมนอนไถไอจีเล่น เห็นพี่ธันอัพสตอรี่อยู่สี่ห้าอันเลยกดไปดู

                อันแรกก็เป็นคลิปโต๊ะกินข้าว เห็นมีพวกเพื่อนผมไปด้วย คาดไม่ผิดคงแวะกินข้าวก่อนกลับบ้านแน่ๆ เพราะผมได้ยินเขาคุยกันอยู่

                อันที่สองเป็นคลิปพี่แมนแกะปลาให้มีนกับเม่น พร้อมข้อความพาดไว้ว่า พี่ชายยอดเยี่ยมแห่งปี @ManKrispykream’

                อันที่สามเป็นพี่เตอร์ที่กำลังนั่งหัวเราะอย่างสะใจ มีข้อความพาดเป็น โจรโมยกุ้ง!!!!! @TERpucom’ ถ้าเดาไม่พลาด พี่เตอร์ต้องขโมยกุ้งไปจากจานพี่ธันแน่ๆ 55555555

                อันที่เป็นพี่รักษ์ที่กำลังหัวเราะอยู่ พาดข้อความว่า วันนี้รักอารมณ์ดีจังคับ @RukKrispykream’ 55555555 นานๆทีจะเห็นพี่แกขำจนทุบโต๊ะแบบนี้นะเนี่ย

                อันสุดท้าย...โอ๊ยยยยยย

                ผมที่ดูสตอรี่พี่ธันเสร็จได้แต่วางไอโฟนแล้วเอาผ้าห่มคลุมหน้าจนไอ้พี่ปานต้องถามว่าเป็นอะไร ไม่เป็นไรจริงๆ พี่ดูทีวีต่อไปเถอะ รอผมหน้าหายร้อนจะกลับไปดูต่อด้วย แต่แม่งตอนนี้ดูทีวีไม่ไหวจริงๆ อ๊ากกกกกกกกกก!!!

                ผมนึกถึงสตอรี่อันสุดท้ายที่เพิ่งดูแล้วหน้าก็ยิ่งร้อน

                มันเป็นคลิปที่เริ่มแรกพี่ธันพูดว่า ขอคำที่คิดขึ้นมาเป็นสิ่งแรก เตอร์! น้องอั้มสังคม

                ‘ไอ้เหี้ย!’ สาบานได้ว่าพี่เตอร์ไม่ได้คิดกับน้องอั้มสังคมแบบนั้นหรอกครับ น่าจะอุทานตกใจที่พี่ธันพูดถึงน้องเขามากกว่า 55555555555555 พี่ธันแม่งก็ไม่ให้เพื่อนได้แก้ตัวเลย(ผมจะช่วยภาวนาให้น้องไม่มาเห็นสตอรี่นี้นะพี่เตอร์)แพนกล้องไปคนต่อไปทันที ซึ่งคนต่อไปก็คือพี่รักษ์

                รักษ์! น้องปอนด์!’

                ‘ของกู’ !!!!!!!!!!!

                ผมได้ยินเสียงฮือฮาดังมากแล้วคลิปก็ตัดไป ไอ้พี่รักษ์! พรุ่งนี้กูจะมองหน้ามึงกับเพื่อนมึงยังไงดีวะเนี่ยยยยย



                ผมรู้สึกว่าพ่อแม่มีลูกอยู่แค่สองคน...ซึ่งก็คือผมและพี่ปาน

                แต่ล่าสุด ผมและพี่ปานต้องนั่งนับพี่น้องกันใหม่วันละหลายๆรอบ เพราะสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้ามันทำให้เราเริ่มไม่มั่นใจความจริงในข้อนี้ซักเท่าไหร่

                ไอ้พี่รักษ์มันเป็นลูกนอกไส้ของพ่อแม่กูรึไงวะ = =

                ชิบหายเถอะ แม่งเอาใจพ่อแม่กูจนทั้งคู่แทบระทวยคาอกแม่งแล้วมั้งนั้น!

                ล่าสุดยิ่งกว่าคือพี่ปานถึงกับรีบกลับไปดูกิจการที่บ้านด้วยเหตุผลที่ทำเอาผมใจสั่นตามไปด้วย

                มึงจะกลับเชียงรายวันนี้เลยเหรอ

                ‘เออ กลับไปดูที่โรงงานหน่อย

                เห้ยยย น้องป่วยอยู่นะเว้ย ปล่อยโรงงานให้อาเสริฐดูซักสามสี่วันก็ได้มั้งผมพูดถึงอาประเสริฐ ผู้ช่วยเก่าแก่ของพ่อ

                ไม่ได้ๆ กูว่ากูต้องรีบกลับไปดูกิจการที่บ้านจริงๆ

                มีปัญหาเกิดขึ้นเหรอ

                กูต้องกลับไปเมืองหลวงก่อน ตอนนี้กูรู้สึกตำแหน่งรัชทายาทของกูกำลังสั่นคลอน...

                งั้นมึงรีบกลับเลย ตำแหน่งองค์ชายสองกูโดนงาบไปแดกแล้วเรียบร้อย

                = =

                ...

                ..

                .

                ผมนอนพะงาบอยู่ในโรงพยาบาลได้สองอาทิตย์หมอถึงปล่อยกลับบ้าน  พ่อกับแม่ตัดสินใจให้ผมอยู่ที่เชียงใหม่ต่อเพราะว่าดูจากอาการแล้วผมยังไปเรียนไหว และผมก็ไม่อยากเสียเวลากลับมาตามเก็บตัวคณะต่อ ผมเลยดรอปตัวนอกคณะแล้วเหลือแต่ตัวเอกไว้เพื่อลดความหนักลงแทน

                ทั้งนี้ต้องกราบขอบพระคุณไอ้พี่รักษ์งามๆ ที่รับปากกับพ่อแม่ผมไว้ดิบดีว่าจะคอยไปรับไปส่งผมจนกว่าจะหาย ไม่ว่าจะเรียน หาหมอ หรือแม้แต่เที่ยวเล่น = = มึงพูดจนพ่อแม่ต้องหันมามองกูอ่ะคิดดู ถามจริงว่านี่คือมึงอยากดูแลกูจริงๆใช่มั้ยอ่ะ ="=

                “มึงมองหน้าเหมือนแค้นเคืองกูมากอ่ะไอ้เอ๋อ” ผมมองพี่รักษ์ที่พูดพลางเก็บของเข้าหลังรถก่อนขึ้นมานั่งตำแหน่งคนขับ “กูก็แค่พูดให้พ่อกับแม่สบายใจว่าทิ้งมึงไว้เชียงใหม่ได้แบบไม่ต้องเป็นห่วง”

                “ก็เมื่อกี้พี่พูดยังกะปกติผมเที่ยวเล่นชิบหายขนาดนั้นอ่ะ”

                “ไม่เที่ยวเลยดิ ละไอ้ที่แอบกูไปเดินเล่นกาดหลวงวันนั้นคืออะไรอ่ะ”

                “อันนั้นผมไปเอาของขวัญวันเกิดให้พี่ป่ะว้าาาาาาา”

                “วันหลังไม่เอาแล้ว กูไม่ชอบ”

                “ไม่ชอบของขวัญเหรอ?!” เหี้ยยยย จุกสัด! กูอุตส่าห์เสี่ยงตายหอบกลับมาให้ เสือกไม่ชอบ! หรือว่ากูจำผิดจากหนูพุกเป็นชูก้าไกรเดอร์วะ เอาดีๆ! “พี่ไม่ชอบจริงๆเหรอ!

                “กูไม่ได้ไม่ชอบของขวัญ” พี่รักษ์พูด แม่งถอนหายใจเฮือกใหญ่จนผมใจแป้ว “กูไม่ชอบที่มึงไปไหนไม่บอกกู มึงน่าจะดูออกนะว่ากว่ามึงจะฟื้นขึ้นมา กูเครียดหนักขนาดไหน”

                “เรื่องมันผ่านไปแล้วไง ผมก็ฟื้นแล้วป่ะวะพี่”

                “เออ กูรู้สึกเหมือนต้องไปบวชเก็บแต้มบุญใหม่เลยอ่ะคิดดู” ...

                “...งั้นไปบวชพร้อมกันก็ได้ ผมว่าจะไปบวชพอดี แต่น่าจะปีหน้านะ แม่บอกหลวงปูบอกว่าปีหน้าฤกษ์ดี” ผมนึกถึงที่คุยกับแม่เมื่อสามสี่วันก่อน จริงๆกะว่าจะบวชปิดเทอมนี้แหละ แต่หลวงปู่ผมบอกว่าให้รักษาตัวให้หายดีก่อน บวชปีหน้าก็ยังไม่สาย

                “อย่าบวชตรงกันเลย กูบวชก่อนแหละดีแล้ว มึงจะได้ไปถือหมอนให้งานกู”

                “อ่อ เออๆ ได้ๆ” .... เอ๊ะ....เดี๋ยวนะ

                เอ๊ะ...

                เอ๊ะ!

                ...

                ..

                .

                ผมนั่งเหม่อมองดวงดีที่กำลังคว้าทาโร่ในมือไปเคี้ยวอย่างอารมณ์ดีก็นึกถึงคนที่เป็นเจ้าของตัวจริงของมัน  ตอนแรกผมก็จะเอาไอ้ดวงดีนี่ไปไว้ที่บ้านพี่รักษ์(บ้านหลังที่สี่)นั่นแหละครับ แต่พอหันไปมองหน้าไอ้มีนกับไอ้เม่นแล้วผมกับพี่รักษ์ก็ได้แต่สบตากันแล้วตกลงกันในใจว่า โอเค เอาไว้บ้านผมละกัน...

                “มียาอะไรมั้ย” เม่นถามผม มือก็แกะถุงโจ๊กให้ “พวกยาก่อนหรือหลังอาหารอ่ะ จะได้รีบกิน เอามาตั้งไว้บนโต๊ะเลยจะได้ไม่ลืม”

                “ถุงยาปอนด์อยู่ตรงนี้เม่น กูจัดยาแยกก่อนหลังอาหารไว้ให้ละ” มีนถือถุงยาเดินมาวางไว้ให้ผม ทำไมกูได้เพื่อนดีแบบนี้วะ ก่อนหน้านี้ก็ได้หนึ่งกับกุลไปซื้อน้ำมาให้สองแพ็คใหญ่ มันบอกไม่อยากให้ผมกินน้ำที่กรอกจากตู้ พวกมันกลัวไม่สะอาดพอ ไอ้บาสที่ดูไร้สาระไปวันๆนี่ถึงขนาดแว๊นมอไซค์ไปซื้อโจ๊กให้ผมกินอ่ะ

                ซึ้งจนอยากร้องไห้เป็นภาษาบาลี แม่งเอ๊ย!

                “เมื่อกี้เหมือนเหม่อๆนะ ปวดหัวเหรอ ถ้าปวดหัวรีบบอกพวกกูนะ” เม่นถาม มือก็ดันถ้วยโจ๊กให้แล้วหันไปจัดการของตัวเองกับคนอื่นต่อ

                “เปล่า...มึง กูถามหน่อยดิ” ผมว่า เห็นไอ้เม่นแค่เลิกคิ้วหน่อยๆประมาณว่ารอฟังอยู่ก็พูดต่อ “พี่รักษ์มันแกล้งกูเล่นป่ะวะ เหมือนช่วงนี้หยอกกูแบบแปลก”

                “นั่นแถวบ้านมึงเรียกหยอกเหรอ” เม่นถามผมขำๆ

                “จะใช้คำว่าแกล้งก็ดูไม่ตรงประเด็น”

                “พี่เขาจีบมึง” หะ... “พี่เขาจีบมึงค้าบบบบ” เหยดเข้ กูเอาตีนยันหน้าไอ้เม่นตัวเด่นของเรื่องตอนนี้ จะมีคนกดแบนมั้ยวะ ให้ตาย!

                “มั่วแล้ว!” ผมว่า ถึงกูจะแอบคิดหน่อยๆก็เถอะ แต่ไม่น่าจะใช่นะ พี่รักษ์นะเว้ยย พี่รักษ์เลยนะเว้ยยยยยยย!!!

                “ไม่มั่วๆ ตอนไอ้การ์ดจีบกูยังไม่ชัดเจนขนาดนี้เลย” เพิ่มความน่าเชื่อถือด้วยการยกประสบการณ์ส่วนตัวมาเป็นแบบอย่าง ไอ้เม่นโน้มน้าวโคตรเก่ง ใจกูเคลิ้มไปละเจ็ดสิบห้าเปอร์เซ็นต์

                “อะไรวะ? เสือกด้วยคนเดะ” ไอ้หนึ่งที่เดินมาทิ้งตัวลงข้างๆผมถาม

                “ไอ้ปอนด์มันไม่เชื่อว่าพี่รักษ์จีบมัน”

                “กูกำลังจะถามมึงเลยว่าตกลงคบกันรึยัง 55555555555555555” เชี่ยหนึ่ง แม่งงงงงงงงงงงงง “จริงๆนะ  ไอ้กุลกับกูเพิ่งคุยกันเรื่องนี้ตอนไปซื้อน้ำ”

                “ทำไมพวกมึงคิดงั้นวะ” ผมถาม แต่ไอ้เม่น ไอ้มีน และไอ้หนึ่งแค่มองหน้ากันแล้วก้มลงกินโจ๊กโดยไม่ตอบผมซักคำ เพื่อนเวรรรรรรรรรรรร

     

                Pangtip กระทู้ [พี่ที่สนิทจะให้ไปถือหมอนในงานบวช แปลว่าอะไร?] สมาชิกหมายเลข 2346647

                คห.1 เขาอาจจะชอบคุณก็ได้ค่ะ ><

                คห.2 เพราะสนิทรึเปล่าเลยให้ไปถือให้ หลายๆคนก็ให้พี่น้องถือหมอนในงานให้นะคะ

                คห.5 งานผมผมก็ให้น้องสาวถือครับ ตอนน้องชายผมบวชเพื่อนน้องก็มาถือให้ แบบไม่ได้คิดมากอะไรแค่ใครว่างช่วยถือได้ก็ให้ถือ เรื่องแบบนี้อย่าไปยึดติดครับ หลักๆของงานคือการบวชมากกว่า เรื่องพวกนี้มันแค่ความเชื่อ

                คห.14 เขาอาจจะรู้สึกดีกับคุณก็เลยอยากให้คุณมีบทบาทสำคัญในงานของเขาก็ได้ค่ะ แต่งานแฟนเราเราไม่ได้ถือหมอนนะ แม่แฟนท่านไม่ให้ถือ TT

                คห.23 แม่แฟนเราไม่ให้ถือค่ะ ท่านถือ บอกว่าจะทำให้เลิกกัน

                คห.25 เหมือนหลังๆมาตอบผิดประเด็นนะครับ ฮ่าๆๆ  ผมว่าเขาอาจจะเห็นคุณเป็นคนสนิทที่ไว้วางใจให้ทำหน้าที่นี้ได้ก็ได้ครับ เป็นผมผมก็คงถือให้ไม่คิดอะไรมาก ปล. ผมเคยไปถือหมอนในงานของเพื่อนมาแล้ว โดนเรียกว่าลูกสะใภ้ยันมันสึกเลย = = แต่ขำๆครับๆเพราะรู้จักกันหมด สนิทกันตั้งแต่เด็ก บ้านก็อยู่ข้างกัน ...ลืมถามว่าจขกท.เป็นเพศอะไร

                            คห.25-1 เราเป็นผู้หญิงค่ะ ^^

                คห.27 เขาคิดกับคุณมากกว่าพี่น้องชัวร์ไม่มั่วนิ่ม!

                คห.31 จขกท.นะคะ วันนี้เราไปงานบวชพี่คนนั้นมาแล้วค่ะ แล้วเราก็ไปถือหมอนให้ตามที่พี่เขาขอมาค่ะ สรุปแล้วพี่เขาไม่ได้คิดอะไรกับเรานะคะ เขามีแฟนที่เพิ่งคบกันมาได้ไม่ถึงเดือนซึ่งเรามีโอกาสได้เจอในงานนั่นแหละค่ะ แต่ที่บ้านพี่แกถือกันว่าถ้าให้แฟนถือหมอนในงานบวชจะทำให้เลิกกัน แต่พี่ที่เราสนิทไม่มีพี่น้องผู้หญิง พี่เขาเลยมาขอให้เราไปถือให้ ...T T บอกตรงๆว่าน้ำตาตกในเลยค่ะ ฝืนยิ้มตลอดงาน ได้แต่ยินดีให้กับเขาเนอะ เห้อ แต่ขอบคุณทุกคนที่มาตอบนะคะ ^^

                คห. 31-1 เห้ยยยยย ไหงงั้น สู้ๆนะจกท. ซักวันต้องเจอคนที่ดีๆแน่นอน

                คห. 31-2 ทำไมจบเศร้า T^T สู้ๆน้าจขกท. กอดกันๆๆ
                คห. 31-
    5 เราก็เพิ่งอกหักมาค่ะ เข้าใจเลย สู้ๆนะคะ

                ...

                ..

                .

                คห. 31-24 สู้ๆนะคะ วันหนึ่งกาลเวลาจะทำให้เราเจ็บน้อยลงคะ

     

                อีเหี้ย เว็บเหี้ยยยยย  กูไม่น่าเข้ามาอ่านเลย เวรเถอะ!!!! จิตตกสัดๆ สงสารจขกท.ชิบ

                หรือพี่รักษ์มันมีแฟนแล้วไม่อยากให้แฟนถือเลยมาขอให้กูถือให้วะ

                กูจะนอนหลับมั้ยวะเนี่ยคืนนี้

                ไอ้พี่รักษ์แม่งก็เงียบกริ๊บเลย โว้ยยยยย ปกติจะทักไลน์มาบ้างแต่ตั้งแต่มาส่งกูถึงบ้านก็หายไปเลย

                หงุดหงิดๆๆๆๆๆๆ ร้อนโว้ยยยยย ร้อนใจ!!!

                “นอนไม่หลับเหรอวะมึง ปวดหัวรึเปล่า” ผมหันไปมองมีนที่หันหน้ามาถามผม

                “เปล่าๆ มึงตื่นเพราะกูกวนมึงรึเปล่า โทดๆ”

                “เปล่าๆ กูรู้สึกว่ามึงขยับตัว กลัวมึงปวดหัวเฉยๆ” ไอ้มีนตอบก่อนยิ้มร่า แม่ง เข้าใจแฟนมันเลยว่าทำไมถึงหลงมันนักหนา น่ารักเกิ๊น

                “รีบนอนได้แล้วปอนด์ มึงต้องพักผ่อนเยอะๆนะ อย่าเล่นไอโฟนมากด้วย มันจะปวดตาเอา”

                “เคๆ ขออีกสิบนาที”

                “ปอนด์”

                “ครับๆ ห้านาทีก็ได้ เดี๋ยวนอนเลย”

                “ปอนด์...มึงจะหลับดีๆหรือต้องมีอะไรกระแทกหัวอีกทีถึงจะหลับ?

                “เคครับ” ปิดไอโฟนปิดไฟนอนเลยกู แม่ง เข้าใจแฟนมันอีกเหมือนกัน ว่าทำไมถึงกลัวมันนักหนา เมื่อกี้ไอ้มีนน่ากลัวมากเลยครับ T3T


    ช่วงนี้หายไปเพราะมีเพื่อนมาบ้าน ต้องไปเรียนทำอาหารกับขนม

    สนุกดีแต่เหนื่อยกว่าที่คิด ตอนนี้กลับมาอัพได้ปกติแล้ว

    ขอให้อ่านแล้วมีความสุขนาจา

    หื้อออออ เพื่อนมาพ่อก็มาต่อ แล้วพอพ่อกลับแม่ก็มาต่อเลยจ้าาา 

    สรุปคือที่หายนี่คือไม่ว่างนั่นเอง555ขอโทษน้าาา 

    พอเราเดินทางมาถึงกาญก็รีบลงต่อทันทีกลัวจะคิดว่าเราจะหายไป 

    ตอนนี้ว่างลงแบบจริงๆๆๆเลยขอให้อ่านแล้วสนุกนะะะ 


       



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×