ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Unlove_รวมพลคนหมดรัก(Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #16 : ยกที่14: ไร้ตัวตน...

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 426
      17
      21 ก.ค. 58



    ยกที่14: ไร้ตัวตน...



       คุณเคยรู้สึกเหมือนอยู่กลางอวกาศ อยู่คนเดียวอย่างเดียวดายมั้ยครับ...

       ผมไม่เคยมีความรู้สึกรู้แบบนี้มาก่อน ไม่ว่าผมจะเครียดหรือเศร้าขนาดไหน...ผมมักจะมีเพื่อนและครอบครัวอยู่ข้างๆผมตลอด...

       ยิ่งผมอยู่กับการ์ดมากขึ้นเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งเข้าใจการ์ดมากขึ้นทุกที...เข้าใจว่าทำไมการ์ดถึงไม่ยอมพาผมมาเจอความจริงซักที...

       ผมไม่ได้อ่อนแอเท่าที่ตัวเองคิด แต่ผมโคตรอ่อนแอต่างหาก! ผมอ่อนแอกว่าที่ตัวเองคิดไว้มาก

       ไอการ์ดไม่ได้กลัวว่าผมจะยอมอยู่บ้านเดียวกับมันมั้ย ไม่ได้กลัวว่าจะต้องหาเงินเลี้ยงผมเลี้ยงตัวเองหลังจากโดนบ้านตัวเองตัดขาดหรอกครับ...ดูจากที่มันเตรียมตัวไว้ซะเว่อร์วังจนผมเองยังตกใจก็พอจะรู้ สำหรับคนอายุ20 ทำได้ขนาดนี้ผมก็แทบจะหมอบกราบมันแล้ว...

       ผมว่าที่มันกลัวคงเป็นเรื่องผม...

       เหอะ! น่าสมเพชนะ ว่ามั้ย? ผมนั่งด่านั่งแช่งคนที่แคร์และทำทุกอย่างเพื่อผมมาสี่ปีโดยที่ไม่รู้อะไรเลย...

    “เม่น ไปกินข้าวกัน” การ์ดเรียกผมให้กลับมาสนใจกับเรื่องตรงหน้าอีกครั้ง

       ใช่ว่าการ์ดจะไม่รู้ว่าผมคิดอะไรอยู่ การ์ดบีบมือผมเบาๆ...ผมควรไปร่วมโต๊ะกับบ้านการ์ดจริงๆเหรอ...อ่า ผมว่าผมไม่ได้ฟังผิดหรือฟังพลาดอะไรไป เมื้อกี้ผมได้ยินแม่การ์ดพูดว่า

    กินข้าวเที่ยงด้วยกันกับพ่อแม่นะการ์ด เราสามคนไม่ได้กินข้าวกันภายในครอบครัวมานานแล้ว...

       ถ้าคุณเป็นผม...คุณจะอยากไปนั่งเป็นส่วนเกินมั้ยครับ...

     

    เมื่อประมาณสองชั่วโมงที่แล้ว...

     

       บ้านของการ์ด ผมเพิ่งเข้ามาครั้งแรก...ผมบรรยายไม่ถูกหรอกครับ ว่ามันหรูหราขนาดไหน เอาเป็นว่ามันหรูมากกว่าที่ผมคิดไว้มาก และทำให้พอจะรู้เลยว่าเจ้าของบ้านมีหน้ามีตาและฐานะในสังคมเป็นยังไง

    “วันนี้โชคดี พ่อกับแม่อยู่บ้านกันทั้งคู่เลย” การ์ดพูดยิ้มๆ ไม่ได้มองมาทางผม...ผมมองขมับของการ์ดที่เหงื่อซึมออกมาเล็กน้อย

       การ์ดพาผมเดินเข้าไปที่ห้องรับแขกของบ้าน(ผมไม่รู้หรอกว่าที่บ้านไอการ์ดมันเรียกห้องอะไร เอาเถอะ ผมมองว่ามันคือห้องรับแขก)ผมก็เห็นผู้หญิงสูงวัยท่านหนึ่ง ซึ่งผมจำได้ว่าเคยมารับการ์ดที่โรงเรียนอยู่สองสามครั้งได้(ปกติ คนที่ไปรับการ์ดที่หอเป็นคนขับรถของบ้านไอการ์ดครับ)

    “แม่ครับ การ์ดกลับมาแล้ว” การ์ดยกมือไหว้ ก่อนเดินเข้าไปกอดแม่...ผมมองผู้หญิงที่การ์ดเรียกว่า แม่กอดตอบการ์ดก่อนดึงแก้มลูกชายมาหอมหนักๆอยู่หลายครั้งด้วยความคิดถึง สองแม่ลูกหัวเราะก่อนกอดกันกลม...ในสายตาผมตอนนี้ มันไม่ได้เลวร้ายเท่าที่ผมคิดเลย หรือว่าไอการ์ดจะเล่าเว่อร์เกินไป?

    “แม่ครับ นี่เม่นครับ” การ์ดแนะนำผม ผมสวัสดีแม่ของการ์ดพร้อมยิ้มให้...ยิ้มจากใจผมจริงๆ แม่ของการ์ดดูใจดีกว่าที่ผมคิดไว้มาก อาจเป็นเพราะว่าภาพของการ์ดกับแม่กอดกันเมื่อครู่ทำให้ผมผ่อนความกลัวลงไปบ้าง

       แม่ของการ์ดมองมาทางผม...แต่คุณเชื่อมั้ยครับ...รอยยิ้มที่มีมาแต่เดิมหายไปทันตาเมื่อแม่การ์ดมองหน้าผม...

       คุณๆอาจคิดว่าผมคิดไปเอง...ตอนนั้นผมก็ก็คิดว่าตัวเองคิดไปเองเหมือนกัน...

     

    “พ่อเขาอยู่ข้างบนน่ะลูก เดี๋ยวก็ลงมาแล้วล่ะ” แม่การ์ดยิ้ม ก่อนจะเรียกแม่บ้านให้เอาน้ำมาให้การ์ดด้วย

    “น้ำค่ะคุณหนู” แม่บ้านหรือที่ไอการ์ดเรียกป้าจงเสิร์ฟน้ำให้การ์ด มีน้ำมาแก้วเดียวน่ะครับ...การ์ดเลื่อนแก้วน้ำมาให้ผม แล้วหันไปบอกป้าจง “ป้าจงครับ ช่วยเอาแก้วน้ำมาเพิ่มอีกแก้วได้มั้ยครับ ป้าจงลืมแก้วน้ำของการ์ดน่ะครับ”

    “เอ่อ แม่ครับ คือการ์ดอยากพาเม่นมาแนะนำให้แม่รู้จัก” การ์ดเริ่มเข้าเรื่อง ผมยืดตัวตรง...หน้าของผมเริ่มเมื่อยเพราะยิ้มจริงใจที่กลายเป็นฝืนยิ้มไปตั้งแต่เมื่อไหร่ผมเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน

    “การ์ดไปหาอาอิงอรมาใช่มั้ยลูก ตาอั๋นเป็นยังไงบ้างล่ะ” แม่การ์ดถามกลับ ผมเห็นการ์ดอึ้งหน่อยๆที่โดนเปลี่ยนเรื่อง ดูมันอึดอัดใจเล็กๆแต่ก็ตอบกลับคำถามของแม่

    “สบายดีครับ...เพิ่งออกมาจากเข้ากรมตอนการ์ดไปหาพอดี” การ์ดตอบ “แม่ครับ...”

    “เมื่อไหร่การ์ดจะออกศูนย์ฝึกอีกทีล่ะลูก แม่จะได้นัดวันไปกินข้าวกับคุณนายอารีย์เขาถูก ลูกบ้านโน้นเขาเป็นลูกสาว เราฝ่ายชายจะไปนัดเจอปุบปับไม่ได้ เสียมารยาททางฝ่ายโน้นเขาแย่” ...ถึงตรงนี้ ผมอยากจะเดินออกจากบ้านนี้ไปให้สิ้นๆเรื่องซักทีครับ...

    “แม่ครับ...การ์ดจำได้ว่าการ์ดบอกแม่ไปหลายรอบแล้วว่าการ์ดไม่คิดจะหมั้นหรือดูตัวกับลูกสาวของคุณป้าอารีย์” การ์ดพูดเสียงเอือม “วันนี้ผมเองก็จะมาพูดเรื่องนี้”

    “การ์ดหิวรึยังลูก” ...ผมไม่ได้คิดไปเองใช่มั้ย ว่าแม่ของการ์ดพยายามเปลี่ยนเรื่องคุย...

    “...ยังครับ...เม่นหิวรึยัง” การ์ดหันมาถามผม

    “เฉยๆน่ะ ยังไงก็ได้” ผมตอบการ์ด สังเกตเห็นว่าแม่ของการ์ดมองมาด้วยสายตาที่ไม่ชอบใจหน่อยๆ

    “อ้าวคุณคะ การ์ดกลับมาจากบ้านน้องอรแล้วค่ะ” แม่การ์ดทักพ่อการ์ดที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้อง เรียกให้ผมและการ์ดหันไปสวัสดี

    “อ้าว กลับมาแล้วเหรอ ไปเชียงรายสนุกมั้ยล่ะ” พ่อการ์ดนั่งลงก่อนรับเครื่องดื่มจากป้าจง “เห็นอาอรบอกว่าแกพาแฟนมาด้วย”

    “เอ่อ ใช่ครับ...การ์ดว่าจะคุยเรื่องนี้พอดี” การ์ดพูดก่อนถอนหายใจยาว “พ่อครับ นี่เม่น...เป็นคนรักของการ์ด...”

    “สวัสดีครับ” ผมสวัสดีพ่อของการ์ด ไม่รู้ว่าเพราะเป็นทหารรึเปล่า ทำให้พ่อของการ์ดดูน่าเกรงขามอย่างไม่มีเหตุผล

    “...” พ่อการ์ดมองผมนิ่ง ไม่ได้ยิ้มหรือพูดอะไร...แค่มองแล้วมองผ่านไป...

    “แล้วแกกินอะไรมารึยัง พ่อกับแม่ว่าจะกินข้าวเที่ยงกันพอดี” พ่อการ์ดพูดพลางกางหนังสือพิมพ์ออกอ่าน

    กินข้าวเที่ยงด้วยกันกับพ่อแม่นะการ์ด เราสามคนไม่ได้กินข้าวกันภายในครอบครัวมานานแล้ว” แม่การ์ดพูดต่อ...พูดชวนการ์ดกินข้าว และแน่นอน...ไม่ได้หมายรวมถึงผม...

       ผมหันไปมองการ์ดหน่อยๆ ทำหน้าไม่ถูก ทำตัวไม่ถูก ผมไม่เคยรู้สึกเหมือนกับว่าเป็นส่วนเกินมากขนาดนี้มาก่อน...ผมควรทำยังไงดี...

       การ์ดนิ่ง ไม่ได้พูดตอบหรือว่าทำอะไร แต่ผมสังเกตเห็นว่าสีหน้าของการ์ดเริ่มเครียด มือของการ์ดที่จับผมอยู่เริ่มออกแรงบีบมากขึ้น

    “เม่นหิวรึยัง” การ์ดถามโดยไม่หันมามองหน้าผม

       ผมมองทุกคน แม่ของการ์ดมองนิ่งไปข้างหน้า พ่อของการ์ดยังคงอ่านหนังสือพิมพ์ที่อยู่ตรงหน้าไม่พูดอะไร...ผมทำอะไรไม่ถูก...

    “หะ...หิวแล้ว...” ผมพึมพำตะกุกตะกัก รู้ตัวชัดว่าตอนนี้ถ้าตบว่าไม่หิวหรือไม่รู้ การ์ดต้องไม่ยอมกินข้าวแน่ๆ

    “ป้าจงครับ ช่วยจัดโต๊ะอาหารทีครับ...จัดเพิ่มอีกหนึ่งที่ด้วย” การ์ดหันไปบอกป้าจงเสียงนิ่ง

     

       เป็นมื้อเที่ยงที่ทรมานใจที่สุดตั้งแต่ผมเกิดมา...

       การ์ดตักทุกอย่างให้ผม ดูแลผมอย่างดี...ขอบใจมึงจริงๆ จากใจเลย...

       บทสนทนาบนโต๊ะ...มีแต่ถามวันเวลาที่การ์ดว่าง วันเวลาที่เหมาะจะไปพบลูกสาวคุณป้าอารีย์ คำชมมากมายเกี่ยวกับน้องลูกตาลผู้หญิงที่ผมไม่เคยเห็นหน้า รู้แต่ว่าเป็นคนที่กำลังจะมาเป็นคู่หมั้นการ์ด แม่ของการ์ดชมเธอไม่หยุด เหมือนกับว่าไม่ได้มีผมอยู่บนโต๊ะ

       การ์ดพูดเลี่ยงทุกครั้งที่เลี่ยงได้...ผมแอบโล่งใจหน่อยๆที่การ์ดไม่โผงผางเกินไป

       พ่อของการ์ดยังคงเงียบ...

     

       ผมอยากกลับบ้าน... ผมพึมพำในใจ น้ำตาคลอหน่อยๆ ผมไม่เคยอึดอัดขนาดนี้ ผมควรทำยังไงดี ผมต้องทำยังไง ไม่ว่าผมจะเอ่ยปากพูดอะไร การ์ดชวนพูดอะไร ผมมักจะโดนตัดบทสนทนาเปลี่ยนเรื่องโดยแม่การ์ดตลอดเวลา

       ผมเหนื่อย...รู้สึกเหนื่อยอย่างไม่มีเหตุผมจริงๆ...หนักในอก จนอยากจะปล่อยโฮดังๆซะตรงนี้...

     

       “พ่อครับ แม่ครับ...ฟังการ์ดหน่อยได้มั้ยครับ ฟังการ์ดหน่อย” การ์ดพูดขึ้นกลางโต๊ะอาหารในขณะที่ป้าจงกำลังเก็บจาน พ่อและแม่ของการ์ดหันมามองทางพวกผม การ์ดหันมาสบตากับผมแล้วพูดต่อ “ผมอยากแนะนำให้พ่อแม่รู้จักกับเม่น ได้เจอเม่น และอยากให้พ่อกับแม่ยอมรับเรื่องของพวกเรา”

    “ให้พ่อกับแม่ยอมรับเรื่องที่แกชอบเพศเดียวกันเนี่ยนะ!!!” พ่อการ์ดเริ่มขึ้นเสียง ในขณะที่ผมสะดุ้งหน่อยๆ การ์ดที่จับมือผมไว้กลับสงบนิ่งไม่แสดงออกถึงความหวั่นไหวอะไรเลย

    “ผมไม่ได้ชอบเพศเดียวกันครับ...แต่คนที่ผมรักคือเม่น” การ์ดพูดเสียงนิ่ง

    “ถ้าอย่างนั้นก็ตัดใจแล้วไปหาผู้หญิงดีๆก็ได้นี่ลูก หนูลูกตาลไง แม่แนะนำให้มั้ยลูก” แม่การ์ดถาม การ์ดไม่ได้ตอบอะไรแต่ส่ายหน้าน้อยๆ

    “ไม่ครับ...ผมไม่เข้าใจ ต่อใหรักเพศเดียวกัน ต่อให้ผมเป็นเกย์ มันก็ไม่ได้ต่างอะไรกับผมรักผู้หญิงเลยไม่ใช่เหรอครับ...คนเหมือนกันทั้งนั้น” การ์ดพูดก่อนถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ผมคิดว่าผมไม่ได้ทำอะไรให้พ่อแม่เสื่อมเสียชื่อเสียงในสังคมเลยแม้แต่น้อยนะครับ”

    “ไร้สาระ!!! แค่แกมีแฟนเป็นผู้ชาย พ่อกับแม่ก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหนแล้ว!!!!

       ถึงตรงนี้...

     

       ขอโทษนะการ์ด ที่กูเคยด่ามึง ตัดพ้อน้อยใจมึง เรียกร้องจากมึง ว่ามึงต่างๆนาๆ

       ขอโทษนะการ์ด ที่กูไม่คิดจะฟังมึงในตอนแรก ขอโทษที่หลายๆครั้งทำตัวตามอารมณ์ตามใจตัวเอง

       ขอโทษนะการ์ด...ขอโทษที่กูเพิ่งรู้ตัว ว่ามึงคือคนที่ห่วงกูมากที่สุด...

     

    “หนูก็คงไม่อยากจะให้ชีวิตตัวเองตกต่ำใช่มั้ยลูก ชายรักชายมันไม่ดีหรอกนะ สังคมไม่ยอมรับหรอก” แม่การ์ดหันมาพูดกับผม “เลิกยุ่งกับการ์ดเถอะนะ”

    “แม่!!!!!” การ์ดเหวเสียงดัง ผมดึงข้อมือการ์ดให้หยุด การ์ดหันมามองหน้าผม...

       ขอโทษนะการ์ด...และขอบคุณ...

    “ผม...” ผมกำลังจะพูดอะไร “ผม...ผมคิดว่าชีวิตผมคงตกต่ำได้” คอผมแห้งผาด ทุกๆคำพูดที่ออกมามันทรมาน “แต่ผมไม่คิดว่าชีวิตผมที่มีการ์ดอยู่...มันจะตกต่ำ...” ผมหันไปสบตาการ์ดที่อยู่ข้างๆ “ผมอยากให้คุณลุงกับคุณป้ายอมรับผม ในฐานะคนรักของการ์ดด้วยครับ...”

     

       ขอบคุณ...สำหรับทุกๆสิ่งที่มึงทำให้กู...

       มันยิ่งใหญ่มากๆ ไม่ว่าจะเรื่องบ้านที่มึงพยายามหาไว้ เพื่อเป็นที่อยู่ของพวกเราสองคน เรื่องหุ้นที่มึงเล่น เพื่อหาเงินไว้เป็นฐานชีวิตเราสองคน หรือความเข้มแข็งที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน มึงทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งคำว่า เรา

       ทุกๆสิ่งที่มึงทำ...มันมอบความเข้มแข็งให้กับกู...

     

    “ช่วยกรุณา...ยอมรับให้การ์ดคบกับผมด้วยเถอะนะครับ...” ...คุณเชื่อมั้ย...ผมเดินไปกราบพ่อกับแม่การ์ดทั้งน้ำตา รู้สึกได้ว่าการ์ดเองก็ทรุดตัวลงนั่งกราบอยู่ข้างๆผม...

    “การ์ดทำเพื่อพ่อกับแม่มาทั้งชีวิตที่การ์ดมี การ์ดขอเอาแต่ใจตัวเอง...แค่เรื่องนี้เรื่องเดียว ได้มั้ยครับ...” การ์ดคว้ามือของผมไปจับไว้แน่น...พูดขอร้องออกมาทั้งน้ำตา...

    “ออกไปซะ” พ่อการ์ดพูดเสียงเรียบ “แกไม่ใช่ลูกบ้านนี้”

    “คุณ!!!” แม่ของการ์ดเรียกพ่อของการ์ดเสียงดัง

       ผมบีบมือการ์ดแน่น แค่มองหน้าการ์ดจากด้านข้างก็พอรู้ ว่าคนข้างๆตกใจกับคำพูดของพ่อตัวเองเมื่อครู่ขนาดไหน

       ...ถ้าเปลี่ยนจากพ่อการ์ด มาเป็นพ่อผมพูดกับผมแบบนี้...ผมจะยังมีสติอยู่รึเปล่านะ...

       ...สิ่งที่ผมทำอยู่...สิ่งที่พวกเรากำลังทำอยู่ มันถูกจริงๆรึเปล่า...

    “ออกไปก่อนที่พ่อจะต้องใช้กำลัง” พ่อการ์ดยังคงพูดเสียงเรียบ แต่บรรยากาศรอบตัวแสดงให้เห็นว่ากำลังโมโห

    “ครับ...การ์ดจะกลับมาอีกครั้ง...ตอนที่พ่อใจเย็นลงกว่านี้...” การ์ดพูดเสียงอ่อน ก่อนดึงมือผมให้ลุกขึ้นตาม

       ผมหันกลับไปมอง...ไม่มีใครเดินตามพวกเราออกมาจากบ้าน

       ผมมองบ้านของการ์ดที่เริ่มห่างออกมาทางกระจกข้างของรถ ผมมั่นใจ...ว่าผมจะได้กลับมาอีกครั้ง กลับมาพร้อมๆกับการ์ด...

    “ไม่เป็นไร...รอให้พ่อใจเย็นก่อน...” การ์ดพึมพำแบบนี้ตลอดทาง

       บางทีผมก็ไม่มั่นใจ...ว่าการ์ดพูดเพื่อปลอบใจผม หรือปลอบใจตัวเองกันแน่...

     

       ก่อนกลับ การ์ดพาผมไปจองตั๋วเครื่องบินกลับเชียงใหม่ เพราะมันจะเข้ากรมวันมะรืนผมเลยตีตั๋วกลับเชียงใหม่ตอนเช้าวันพรุ่งนี้...

       การ์ดพาผมไปส่งที่บ้าน ผมเห็นการ์ดกลับมาทำหน้าสบายใจเหมือนเดิมตอนที่พ่อแม่และป้าแมวกับลุงธันชวนมันกินข้าวเย็นและชวนมันนอนค้างที่บ้านด้วยกัน บ้านพวกผม เขาพ่อจะรู้เรื่องของผมกับการ์ดมาตั้งแต่มัธยมแล้วครับ...เพียงแต่พวกท่านไม่พูดเท่านั้น การพาการ์ดมาที่บ้านครั้งนี้เลยถือว่าเป็นการเปิดตัวแฟนหนุ่มอย่างเป็นทางการของผมเลยล่ะครับ ><

     

    “แค่ที่บ้านมึงยอมรับ กูก็ดีใจละ” การ์ดพูดขำๆตอนช่วยผมตากผ้า(ยามค่ำคืน มันไม่มีอะไรจะใส่กลับแล้วจริงๆครับ = =)

    “ถ้าเราไม่ยอมแพ้ ซักวันพวกท่านต้องยอมรับแหละ” ผมตอบยิ้มๆ เห็นการ์ดกลับมาพูดเล่นได้ยิ้มได้ผมก็สบายใจ

    “...เม่น” การ์ดเรียกผมเสียงเบา

    “ว่า?” ผมตอบรับ มือยังคงตากผ้าต่อไม่ได้หันไปมองทางคนพูด

       การ์ดจับหน้าของผมให้หันไปทางมัน ก่อนโน้มลงมาจูบผมเบาๆ ก่อนหอมแก้มและหน้าผากผมเหมือนกับหยอกเล่นจนผมหัวเราะออกมา

    “หัวเราะทำไม นี่เขินนะเนี่ย!” การ์ดพูดงอนๆ

    “ไม่ไง...เห็นว่าเขินนั่นแหละถึงขำ 555555555555 ปกติเห็นไม่กล้าจะแตะตงแตะตัว” ผมว่าแล้วกลับไปตากผ้าต่อ

    “รอก่อนๆ ปิดเทอมหน้าจะต้องพัฒนากว่าขั้นนี้” มึงกำลังพยามและตั้งใจกับเรื่องอะไรอยู่นะการ์ด =”=

     

       ผมไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะเป็นยังไง...

       แต่ผมรู้และมั่นใจ ว่าพวกเราจะไม่แยกจากกันอีก...

       เราจะจับมือและต่อสู้กับปัญหาทุกอย่างไปด้วยกัน...

       แค่นี้...มีกันแค่นี้ผมก็มีความสุขมากพอแล้ว...

      

     

    “ลืมอะไรรึเปล่า” การ์ดถามย้ำผม ขณะที่กำลังรอขึ้นเครื่องอยู่ที่อาคารข้างนอก

    “มึงถามกูจะสิบรอบแล้วการ์ด” ผมพูดขำๆ “กูไปเชียงใหม่ ลืมอะไรก็ส่งไปรษณีย์ได้มะ?

    “ก็มันเป็นห่วง...คิดถึงด้วย” การ์ดพึมพำ

    “อะไรนะ...ดังๆหน่อยดิ” ผมหยอก “บอกทั้งที เอาดังๆให้ได้ยินหน่อยดิ๊”

    “บอก ว่า คิด ถึงงงงง!!!” การ์ดพูดกรอกหูผมดังๆจนผมหัวเราะออกมา หัวเราะได้ไงครับ พอดีดอนเมืองเสียงคนมันดัง ลองมันมาทำแบบนี้ในวัดดิ มีต่อยอ่ะ = =

    “เออ แล้วที่ว่าจะเล่าก่อนกลับเชียงใหม่นี่คือยังไง” ผมพูดขึ้น จำได้ว่าเมื่อคืนไอการ์ดมันออกไปคุยโทรศัพท์อยู่นาน กลับมาก็บอกว่ามีเรื่องจะเล่าให้ฟังก่อนไปเชียงใหม่

    “กำลังจะพูดเลย...เมื่อคืนแม่โทรมา” การ์ดว่า “เห้ย! หน้าเครียดตั้งแต่ยังไม่เล่าเลยวะ”

       ผมนวดหน้าตัวเองเบาๆ ไม่รู้ตัวเลยว่าทำหน้าเครียด =”= ปฏิกิริยาอัตโนมัติพอได้ยินคำว่าแม่ของไอการ์ด?!

    “แม่โทรมา” ไอการ์ดพูดต่อ “บอกว่าให้กลับไปหาบ้าง...เดือนละครั้งก็ยังดี”

    “ดีแล้ว” ผมว่า “มึงควรกลับไปหาพวกท่านบ้าง”

    “แม่บอกว่าพามึงไปกินข้าวด้วยกันบ้างก็ได้” การ์ดยิ้ม “ไม่ต้องห่วง กูรู้นิสัยแม่กูดี ไม่มีผงไม่มีแผนอะไรหรอก”

    “...”

    “แม่บอกว่า...ฝากขอโทษมึงด้วยที่พูดให้มึงรู้สึกไม่ดี เหมือนผู้ใหญ่รังแกเด็ก” การ์ดพูดขำๆ “แม่คงโทรไปคุยกับอาอิงอรมา...เมื่อคืนก็คุยกันหลายอย่าง”

    “...การ์ด ตอนนี้หน้ากูเป็นยังไง...” ผมถามการ์ด รู้สึกได้ว่าขอบตาเริ่มร้อนหน่อยๆ

    “มึงกำลังยิ้ม...หน้าบานแล้วแหนม” การ์ดตอบพลางหยิกแก้มผมเบาๆ

       ผมกอดการ์ดแน่น...ผมเครียด ยอมรับเลยว่าเครียดแทบตาย ถึงบอกพวกคุณว่ามีความสุขแค่มีการ์ดอยู่ แค่ที่บ้านเข้าใจก็เถอะ...

       แต่เหตุการณ์เมื่อวานมันทำให้ผมปวดหัวแทบบ้า!

       รู้อย่างนี้...คืนนี้ผมนอนหลับแล้วครับ...

     

       ขอบใจนะ...ขอบใจที่ไม่ยอมแพ้....



    *******************************************
    หุหุหุ =w=
    สรุปก็ต้องกลับมาตายรังที่ feel good อยู่ดี =w=
    ขอบคุณที่ตามกันมาตลอดนะคะ เม่นการ์ดจะยังโผล่มาเรื่อยๆ
    แต่ตอนหน้าไปอีก4-5ตอนจะเป็นตอนพิเศษของโด้ตี้นะจ๊ะ 5555555
    เม้นก็ดี ไม่เม้นก็ได้ ถ้าเม้นจะดีกว่าแต่ก็ไม่เป็นไร ถ้าอ่านแล้วสุขใจก็ดีก็ดี >w<

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×