คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ยกที่2: คลื่นลูกใหญ่
ยกที่2: คลื่นลูกใหญ่
Men’ Part
“เข้าใจมั้ย?!!!!”
“เข้าใจครับ/ค่ะ”
คุ้นๆมั้ย...
“เสียงมีแค่นี้รึไง?!!!!!”
“เข้าใจครับ/ค่ะ!!!!!!!!!!!”
คุ้นๆใช่มั้ยล่ะครับ...
“ทวนสิ่งที่พี่พูดไปอีกรอบซิ!!!!”
ไม่ต้องกลับไปอ่านตอนที่ผ่านมาหรอกครับ...เพราะมันรูปแบบเดิมเลยจริงๆ เป็นแบบนี้ทุกวัน...
รูปแบบเดิมไม่เปลี่ยนแปลง...มันน่าหลับทั้งยืนจริงๆ วันนี้ก็ไม่มีอะไรต่างไปจากเดิม...
...ข้างหน้าพูดอะไรนะ...ผมไม่ได้ยินเลย...
ผม’เหลือบ’มองปอนด์ที่เริ่มเอนตัวแปลกๆ...นั่นมึงจะดมกลิ่นนัทตี้?!
‘ปอนด์... ปอนด์...ปอนด์! ไอสึดปอนด์!!!’ เสียงทามเรียกปอนด์ดังงุ้งงิ้งอยู่ข้างๆหูผม ‘ตื่น!!!!’
แสดงว่าผมไม่ได้ง่วงคนเดียวสินะ...
“ข้างหลังคุยอะไร!!!!!!”
นี่ก็โดนได้โดนดี โดนทุกวัน...มองผ่านพวกผมซักวันก็ได้นะครับพี่ปั้น!!!
“นั่นใครวะแก” เสียงกลุ่มพี่วินัยผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างหลังพวกผมพูด “หล่ออออออเฟ่อร์”
ฟังจากเสียงพวกพี่แล้วผมล่ะอยากหันไปมองจังเลยครับ 555555
ไม่ได้กรี๊ดผู้ชายนะ แต่ผมว่ามันน่าจะเจริญหูเจริญตากว่ามายืนมองท้ายทอยเพื่อนข้างหน้าว่ะ เอาจริงๆ!
ผมขำหน่อยๆเมื่อได้ยินเสียงปอนด์ที่อยู่ข้างๆพยายามหาวในลำคอ...ทรมานชิบ! ผมเคยลองละ ตอนเข้าภาคนี่แหละ...
‘ไม่ได้ยินเลยว่ะ’ มีนพึมพำ ผมเห็นพวกเพื่อนๆแถวหน้าพวกผมพยักหน้ากันเกือบทั้งแถบ(มีหน้ากระดานละห้าคนครับ)
ผมขอไม่อธิบายแถวได้มั้ย จินตนาการตามใจจะคุณจะคิดเลยครับ...เอาเป็นว่าภาคผมมีกันอยู่ 105 คน เรียงแถวหน้ากระดาน 5 คนต่อกันไปเรื่อยๆ เวลาคนหนึ่งพูดเบาๆ(โดยเฉพาะพวกด้านหลังอย่างพวกผม) ก็จะได้ยินกันเกือบทั้งแถวหน้ากระดานแหละ
ผมยิ้มหน่อยๆ ไอมีนมันบ่นอย่างนี้ทุกวันจริงๆ...
‘มันก็ไม่ได้ยินกันหมดนั่นแหละ’ ผมพูด...มีนขมวดคิ้วหน่อยๆ
ผมยืนเหม่อ มองท้ายทอยของไออ้น...
...เมื่อวานกระจุกผมตรงนี้ของไออ้นมันเยอะกว่านี้ไม่ใช่เหรอวะ...ทำไมวันนี้มันดูเป็นหย่อมๆแปลกๆอย่างงี้อ่ะ
...เดี๋ยวพอเลิกภาคต้องบอกอ้น...
...เขาตอบกันถึงไหนแล้วนะ...
...เผลอเหม่อไปคิดเรื่องอื่นอีกแล้ว......
“เลิกภาคได้!!!”
ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่...ก้มลงนวดขาที่เริ่มตึงเพราะยืนตรงพื้นเอียงนานเกินไป ผมมองมีนที่นั่งลงข้างๆแล้วนวดน่องให้ผม
“ขอบใจว่ะ” ผมพูด เห็นมีนเงยหน้ามายิ้มตาหยีให้ผม
“ไม่เป็นไร ตรงมึงยืนมันพื้นชันกว่าตรงที่กูยืนอ่ะ...ทำไมพี่เขาไม่เปลี่ยนที่เข้าภาควะ” มีนบ่น...
“เพื่อนเป็นอะไรมั้ยคะน้อง?!” เสียงพี่พยาบาลถามมาทางพวกผม
“ไม่เป็นอะไรครับ แค่ตึงขาหน่อยๆ” ผมตอบ
“งั้นมานั่งตรงนี้ก่อนมั้ย?” พี่ปั้นที่ยืนอยู่กับพวกพี่พยาบาลถามผม...นี่เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้พวกผมยอมรับการเข้าภาคครับ...
...พวกพี่ทำไปเพราะประสงค์ดี ถึงจะน่าเบื่อบ้าง น่าหงุดหงิดบ้าง...แต่การเข้าภาคก็ให้สิ่งดีๆแก่พวกเราเสมอ โดยเฉพาะ’เพื่อนและพี่น้อง’
“นั่นใครวะ...” แอทแทคพูดขึ้น “กูเห็นพวกรุ่นพี่กับพวกผู้หญิงยืนกรี๊ดกร๊าดกันมานานละ”
“แฟนไอมีนป่าว...เห็นว่าจะมาไม่ใช่เหรอแฟนมึงอ่ะ” ผมก้มลงไปพูดกับมีนหยอกๆ ยังไม่เห็นหรอกครับ พวกผมยังไม่ได้หันหลังไม่ได้ขยับไปจากจุดเดิมเลย “โอเคแล้วมีน ขอบใจมาก”
“อือ...งั้นไปเอาของป่ะ...ไหนวะคนที่มึงว่าอ่ะแอทแทค?” ผมขำเมื่อเห็นมีนชะเง้อมองตามที่แอทแทคชี้...
“ไหนๆ? คนไหน? กูดูด้วย...” ...
ผมเห็นบาสครับ...บาสที่ยืนอยู่ หน้าตาบาสดูไม่ได้ทะเล้นเหมือนอย่างที่มันเป็นอยู่ตลอด...
บาสยืนอยู่ข้างๆไผ่...ผมยิ้มๆพลางหันไปหยอกมีนหน่อยๆเมื่อเห็นคนที่ยืนอยู่ข้างๆไผ่คือวิช แต่ก็ต้องหุบยิ้มเมื่อหันไปเห็นสีหน้าของคนที่ยืนข้างๆตัวเอง
มีนยังคงมองนิ่ง...ทำไมล่ะ ไม่ดีใจที่วิชมาเหรอ...
...ยังไม่ทันที่ผมจะถาม ผมก็หันไปเจอคำตอบซะก่อน...
...คนที่ไม่ได้เห็นมาเกือบปี จากวันสุดท้ายที่เจอที่สยาม...
...สมองผมยังไม่ทันได้ทำงาน แต่ไขสันหลังก็สั่งงานขึ้นมาอย่างรู้หน้าที่ มันสั่งให้ผมพูดขึ้นมาเสียงดังว่า...
“พวกมึงรีบจับมีนเอาไว้!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
ผมมองแอทแทคกับไนท์และอ้นที่หันมามองผมแว้บเดียวก่อนหันไปจับมีนไว้โดยไม่มีคำถาม...เป็นจังหวะเดียวกับที่มีน...
“ไอเหี้ย!!!!!!!!!!!!!! มึงยังมีหน้ามาให้พวกกูเห็นอีกเหรอการ์ด!!!!!! ไอห่าวิช!!!! มึงพาเพื่อนมึงกลับไปเลยนะ!!!! ถ้ามึงยังพาไอเหี้ยนี่มาให้พวกกูเห็นอีกนะ!!!!!!!” ผมกอดรั้งมีนไว้...ไม่รู้ว่ามันแรงเยอะขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แอทแทคที่ว่าเป็นนักกีฬาฟุตบอลประจำคณะยังหอบหน่อยๆ
“ใจเย็นๆดิ๊!!!” แอทแทคพูด
ผมมองไปรอบๆ...เพื่อนหลายคนหยุดและมาช่วยรั้งมีนไว้ รุ่นพี่ทุกคนตกใจ ไม่มีใครได้ตั้งตัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น...
...รวมทั้งผมด้วย...
ก่อนที่มันจะแย่ไปมากกว่านี้...ก่อนที่แมนจะมารับพวกเราไปกินข้าว!!!
ใช่! วันนี้แมนจะมารับพวกเราไปกินข้าวเพราะแมนรู้ว่าวิชกับไผ่จะมา...แต่แมนไม่รู้ว่าการ์ดจะมา!!!
ผมต้องทำอะไรซักอย่าง!!!
Card Part
ผมยืนมองมีนที่โวยวายอยู่ไม่ไกลจากผมเท่าไหร่...ไม่ต่างจากที่คิดไว้เท่าไหร่ ดีกว่าที่คิดหน่อยๆ
สงสารก็ไอวิชนี่แหละ มันซี้ดปากเสียงดังจนไผ่ขำออกมา
“ไม่ใช่มึงเลยขำได้?” วิชเลิกคิ้วถามไผ่
“เปล่า...กูว่าที่มึงทำใจไว้ มึงต้องคิดไว้แย่กว่านี้” ไผ่พูด
“อือ...ดีกว่าที่คิดไว้เยอะ แต่เสียงนี่ดิ...เป็นแฟนกันมาปีเศษๆยังไม่เคยได้ยินมีนเสียงดังขนาดนี้มาก่อนเลยว่ะ”วิชพูดแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ “กูแอบกลัวนะเนี่ย”
“งั้นมึงก็ได้ยินคราวนี้นี่แหละ...เมียโหดนะมึง หึๆ” ไผ่ยิ้ม...
ผมมองเม่นที่เดินมาทางพวกผม...
...ดู...น่ารักมากขึ้น...จนน่าตกใจ จากวันสุดท้ายที่เห็นที่สยาม
“พวกมึงรีบกลับไปดีกว่า...เดี๋ยวแมนจะมารับพวกกูไปกินข้าว กูจะบอกว่าพวกมึงยังมาไม่ถึง”
“นั่นคือคำทัก?” ผมถาม
“นี่คือดีที่สุดสำหรับมึงแล้วนะการ์ด” เม่นพูด...”หรือว่าอยากอยู่ให้แมนทัก?”
“แลกกันมั้ย...กูไปก็ได้แต่มึงต้องไปกับกู” ผมต่อรอง
“กูไม่ชอบไปไหนกับคนแปลกหน้าว่ะ โทษที” เม่นพูดยิ้มๆ “พ่อแม่กูสอนมาดีพอ”
“งั้นก็รอเจอพี่แมน ถ้ารู้จักพี่ชายก็ไม่ใช่คนแปลกหน้าใช่มั้ย?” ผมพูด...ขำหน่อยๆที่เห็นคนตัวเล็กตรงหน้าแยกเขี้ยวใส่
“พ่องตายรึไงการ์ด มึงถึงได้อยากตายตามไปด้วย” เม่นพึมพำก่อนเดินไปที่ประตูรถฝั่งที่นั่งข้างคนขับ “จะไปมั้ย...ก่อนกูเปลี่ยนใจ”
“...อ่ะ” วิชยื่นกุญแจรถให้ผม “ไปจัดการเรื่องพวกมึงให้เรียบร้อย เพราะกูว่าทางนี้ก็คงยาวเหมือนกัน”
ผมมองวิชที่เดินไปทางมีนยิ้มๆ...ขอโทษว่ะวิช ลำบากมึงแล้วจริงๆ
ผมขึ้นนั่งบนรถ เห็นเม่นนั่งกดโทรศัพท์อยู่ก่อนหันไปมองทางมีน...
“ลืมกระเป๋าว่ะ...”
“ให้กูลงไปเอาให้มั้ย” ผมถาม เห็นคนตรงหน้าส่ายหัวหน่อยๆก็สตาร์ทรถแล้วขับออกมา
“มาถูกได้ไงวะ ทางงงจะตายห่าน กูอยู่มาจะ1ปียังงงๆเลย” เม่นพูดพลางมองออกไปนอกรถ
“มันมีจุดสังเกตไง นี่ก็อยู่ข้างวงเวียนธรณีของภาคธรณี ง่ายจะตาย...หายงอนแล้ว?” ผมถาม
“หึ! แถวบ้านมึงเรียกว่างอน? บ้านกูเรียกรังเกียจว่ะการ์ด...ไม่ได้อยากยุ่งกับมึงนะ แต่ถ้าไม่มากับมึงแล้วมึงเจอแมน ชีวิตกูจะลำบากว่ะบอกตรงๆ ตัดปัญหามากับมึงซะจะดีว่า...ไม่อยากเห็นพี่ตัวเองมีปัญหากับคนประเภทมึงในสถานศึกษาหรอกนะ”
ปากคอ...
“ก็ยังดีนะ รังเกียจแต่ก็คุยด้วย...” ผมพูด “ฟังกูหน่อยได้มั้ยเม่น...”
“อ้อ!!!!! จำชื่อกูได้ด้วย!!!!!!!!! จำชื่อกูได้ด้วยเหรอเนี่ย?!! เหอะ!” ช่างประชดประชัน...
“จะลืมได้ไง...” ผมพึมพำกับตัวเอง...ชื่อที่คิดถึงอยู่ทุกวัน บอกรักอยู่ในใจทุกวัน...กูจะลืมได้ยังไง
“จะพูดอะไรก็รีบพูด ตอนนี้กูยังฟังได้...” เม่นมองหน้าผม “กูมีเหตุผลพอน่ะ”
“...กูขอโทษที่หายไป...พอดีมันมีปัญหานิดหน่อย” ผมพูด ตามองถนนข้างหน้า...เม่นยังคงเงียบไม่ตอบ
“...มีปัญหาก็มาปรึกษากูดิ หายไปทำห่านไรวะ?! มึงรู้ป่ะกูน้อยใจขนาดไหนอ่ะการ์ด?!!”
“แสดงว่ามึงจำไม่ได้...” ผมพูดยิ้มๆ “แนวคิดมีปัญหาแล้วหายนี่กูได้จากมึงเลยนะ”
“กูจำไม่ได้เลยว่ากูเคยมีความคิดเชี่ยๆแบบนั้นเกิดขึ้นในหัวว่ะการ์ด” เม่นพูด “หาเหตุผลที่ดีไม่ได้ถึงขนาดมาโบ้ยคนอื่น? เกินไปหน่อยม้างงงง...”
“...หิวป่ะ กินไปคุยไปดีกว่ามั้ย?” ผมถาม...
“งั้นขอบุฟเฟ่ต์เลยละกัน” เม่นพูด ”...กูอยากกิน...”
‘เม่น ถ้าวันใดวันหนึ่งมึงมีปัญหา...ปัญหาที่มึงปรึกษาใครก็ไม่ได้ และมึงไม่อยากให้กูรู้ มึงจะทำยังไงวะ’
ผมเคยถามเม่นตอนใกล้จบม.3 ตอนที่ผมพอจะรู้ถึงสิ่งที่กำลังจะเกิด...
พ่อกับแม่ผมเกลียดเพศที่สาม...ผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม
...น่าอาย ผิดธรรมชาติ...เคยได้ยินพวกท่านพูดว่างั้น...
พ่อกับแม่คงจะอายคนในแวดวงสังคมของพวกเขาล่ะมั้ง...ผมเองก็ไม่เคยถาม ว่าลูกในสมาคมคุณนายของแม่ไม่มีใครเป็นตุ๊ดเป็นเกย์เป็นทอมเป็นดี้ ซักคนเลยเหรอ...ไม่มีซักคน?
ผมรู้ว่าเม่นจะเสียใจถ้าผมบอกเรื่องนี้...
ผมรู้ว่าเม่นยังไม่แข็งแรงพอจะรับปัญหาทางทิฐิของผู้ใหญ่ โดยเฉพาะพ่อและแม่ของผมได้...
เม่นโตมาในครอบครัวที่อบอุ่นและดี ดีจนผมมั่นใจว่า เม่นคงทนกับแรงกดดันของครอบครัวผมไม่ได้
ผมจะทำยังไงดี...
...ถ้าเม่นตอบมายังไง...ผมจะทำตามวิธีของเม่น...
...ผมมั่นใจว่าความคิดของเม่น...มันจะดีกว่าของผม
...เพราะใจผม ผมอยากจะพาเม่นไปแนะนำให้พ่อแม่ผมรู้จักให้รู้แล้วรู้รอด...
...แต่มันไม่ใช่วิธีที่ดีต่อเด็กอายุ15 ชื่อเม่นที่ยืนหน้าผมในตอนนั้นเลย...
‘ถ้าเป็นกู...กูจะหายไปเลย!’
‘หาย?’ ผมอึ้งในคำตอบของเม่น ‘ไม่มีวิธีอื่นแล้วเหรอ’
‘ก็ถ้าเป็นปัญหาที่ไม่อยากให้มึงรู้ แสดงว่าต้องเป็นปัญหาเกี่ยวกับมึง...งั้นกูก็ต้องแยกตัวออกมาจากมึงก่อน ให้เวลาได้อยู่คนเดียว ให้ได้คิดอ่ะ
...ถ้ามันถึงขนาดปรึกษาใครไม่ได้ แสดงว่ามันต้องเป็นเรื่องใหญ่มาก...งั้นกูจะหายไปนานๆ ถ้าพร้อมเมื่อไหร่กูจะกลับมา’
‘มึงไม่กลัวกูเสียใจเหรอวะ...ฟังแล้วน้อยใจเลยนะเนี่ย’ ผมพูด...พูดตามที่คิด
‘กลัวทำไมอ่ะ? กูมั่นใจอยู่แล้วว่ามึงจะรอกูกลับมาอ่ะ กูเข้าข้างตัวเองเก่งมะ=w=’
‘แล้วถ้ามึงกลับมาไม่ได้อ่ะ...ไม่คิดจะกลับมาบอกเหตุผลกูหน่อยเหรอ...’ ผมถาม
‘อืมมมม...ไม่อ่ะ ไม่กลับหรอก! สู้ให้โดนมึงเกลียดไปเลยจะดีกว่า...แฟนอ่ะ พอเลิกรักกัน ทำใจได้ก็หาใหม่ได้ แต่คนที่เกลียดอ่ะ หาคนมาเกลียดแทนไม่ได้หรอก...กูอยากเป็นที่1 ไม่ว่าจะเป็นที่1ในฐานะอะไรของมึงก็เหอะ กูอยากให้มึงจำกูไปตลอด...คนที่เกลียดอ่ะนะ ถ้าไม่ปลงจริงๆมันก็ลืมไม่ได้หรอกการ์ด ปลงกันก็ตอนแก่โน้นแหละ’
ผมมองเม่นที่ยิ้มให้ผม...เป็นที่1ไม่ว่าจะในฐานะไหน...อยากให้จำได้ไปตลอด
‘แล้วถ้าเปลี่ยนมึงเป็นกู...มึงจะรอกูกลับมามั้ย’ ผมถามเม่น...ในหัวเริ่มนึกอะไรไม่ออก
‘รอสิ...เพราะมั่นใจว่ามึงจะไม่ปล่อยให้กูเกลียดมึงตลอดไปหรอก ใช่อ้ะ?’
...เม่นสดใสเกินไป...สดใสเกินกว่าที่จะต้องมาเจอพายุจากอารมณ์ของคนที่ห่วงแค่หน้าตาในสังคมอย่างพ่อแม่ผม...
...อ่า ผมอายุเท่าไหร่กันนะ...
... 15 ใช่มั้ย...
...อือ ตอนนั้นคือตอนพวกเราอายุ15 ครับ...
*******************************************
สวัสดีปีใหม่ 2558 จ้าาาาาาาาาาาาาาาา!!!!!!!!!!!!!!!!!
ขอให้คนอ่านทุกคนมีความสุข
เจอแต่เรื่องดีๆประสบความสำเร็จทั้งเรื่องเงิน เรื่องงาน เรื่องรัก เรื่องเรียน
นะจ้ะ
การ์ดเม่นเจอกันเเล้วนะ =w=
ฝากคู่นี้ต่อไอด้วยนะตะเอง =3=
รักคนอ่านนะ >3<
เม้นกันเยอะๆนะ ขาดเม้นขาดกำลังใจนะรู้ป่าว???
มันแอบคิดว่าไม่สนุกใช่มั้ยเลยไม่มีคนเม้นอ่ะ T^T
ความคิดเห็น