ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฮาฟ กับ 12 ชิ้นส่วนแห่งพระเจ้า

    ลำดับตอนที่ #44 : สาวน้อยมังกร

    • อัปเดตล่าสุด 14 พ.ค. 65


    -กายาแห่งบรรพกาล-ฉีกยิ้มออกมา แสงสีม่วงสว่างขึ้นมาจากมือข้างหนึ่งของส่วนกายา ชิ้นส่วนร่างกายของพระเจ้าได้กระแทกหมัดข้างที่ส่องแสงนั้นลงพื้น

    ครืน!!! พื้นดินสั่นสะเทือนเป็นวงกว้าง ปัญญาและการรังสรรค์ยังคงนิ่งมองด้วยความมึนงง  

    "มันทำอะไรของมัน.." 

    เหมือนดังพลุสัญญาณที่ดังขึ้น ร่างของสิ่งมีชีวิตหนึ่งที่หลับไหลอยู่ใต้ทะเลของทวีปแดนรกร้าง เมื่อสิ่งนั้นขยับร่างกาย น้ำทะเลก็เพิ่มระดับทันที เหมือนได้ยินเสียงเรียกของผู้เป็นนาย สิ่งมีชีวิตนั้นเริ่มเคลื่อนที่ออกจากผืนน้ำด้วยความเร็วสูง ด้วยขนาดตัวของมันเมื่อมันเคลื่อนที่ผ่านหมู่เกาะใดคลื่นที่ทะลักออกมาจากทะเลก็จะกลืนกินเกาะนั้นจมหายไป 

    อยู่ๆปัญญาและการรังสรรค์ก็ขนลุกซู่

    …. (เมื่อกี้มันต้องมีอะไรแน่ๆ)……… 

    แต่ก่อนที่จะได้ถามอะไรออกไป ชิ้นส่วนร่างกายของพระเจ้าก็พุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูงมากพร้อมกับซัดหน้าแข้งเน้นๆใส่ปัญญาและการรังสรรค์ ถึงจะสามารถป้องกันและดูดซับแรงกระแทกเอาไว้ได้ แต่ไม่มีโอกาศที่จะได้โจมตีสวนกลับเลย ชิ้นส่วนกายาแห่งบรรพกาลกระหน่ำทั้งหมัดเท้าเข่าศอกเข้ามาอย่างถี่รัว ทุกๆการโจมตีล้วนแต่ทำให้ถึงตายทั้งนั้น แม้จะใช้โล่เล็กที่สร้างขึ้นมาป้องกันและกักเก็บแรงกระแทกเอาไว้ได้แต่การสร้างใหม่เริ่มจะไม่ทันการซะแล้ว ถึงจะทำการเปิดประตูมิติขึ้นมาด้านหลังเพื่อเว้นระยะห่างแต่ชิ้นส่วนกายาที่อยู่ในระยะประชิดกระกระโจนตามเข้ามาอยู่ดี พลังงานที่เก็บเอาไว้จากแรงกระแทกก็ใกล้จะถึงขีดจำกัดแล้ว 

    "มัวแต่ตั้งรับแบบนี้เดี๋ยวก็ตายง่ายๆเอาหรอก การรังสรรค์!!!"

    กายาแห่งบรรพกาลคำรามขึ้นและยังคงรุกไล่โจมตีอย่างถี่รัว 

    (ยุ่งยากขึ้นมานิดนึงซะแล้วสิ..แต่ว่า)

    ถึงแม้จะเหงื่อตกเพราะความกังวลบ้างเล็กน้อย แต่ชิ้นส่วนปัญญาและการรังสรรค์ ก็ได้เผยยิ้มออกมา 

    เปรี้ยง!!!!  

    โล่เล็กชิ้นสุดท้ายได้ถูกทำลาย ในจังหวะเพียงเสี้ยววินาทีนั้นหมัดแห่งความตายได้พุ่งตรงเข้ามาหาชิ้นส่วนปัญญาและการรังสรรค์ 

    "หึ"   

    วิ้ง!!!!!!! 

    ระเบิดแสงลูกหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นในชั่วพริบตาและระเบิดขึ้นทันทีในจังหวะที่โล่ชิ้นสุดท้ายแตก ปัญญาและการรังสรรค์ที่หลับตาและสร้างเครื่องป้องกันไว้แล้วนั้นไม่ได้รับผลกระทบจากระเบิดแสงนั้นเลย ต่างจากชิ้นส่วนกายาที่ตาแทบจะบอด 

    เพื่อไม่ให้จังหวะนี้สูญเปล่า ปัญญาและการรังสรรค์กระแทกหมัดที่กักเก็บแรงกระแทกทั้งหมดจากการกระหน่ำโจมตีเมื่อครู่เอาไว้ 

    ตูม!!!!!!!!!! 

    แรงกระแทกทำให้มวลอากาศรอบๆระเบิดออกมาเป็นวงกว้างกว่าครั้งไหนๆ ชิ้นส่วนกายาแห่งบรรพกาล ปลิวหายไปจากระยะสายตา ด้วยแรงกระแทกนั้นทำเอาชุดเกราะที่ตรงส่วนแขนของปัญญาและการรังสรรค์แตกเป็นชิ้นทันที แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่หลวงอะไรเนื่องจากสามารถสร้างขึ้นมาใหม่ได้ 

    (หมัดเมื่อกี้เหมือนจะได้ผล)

    ชิ้นส่วนแห่งพระเจ้ารู้สึกได้ 

    "จะให้สู้กันแบบนี้เรื่อยๆมันก็ได้อยู่หรอก แต่โจมตีแบบนี้เรื่อยๆไม่รู้เมื่อไหร่มันจะตายสักที คงต้องหาไพ่ตายเพิ่มสักใบนึง..." 

    ปัญญาและการรังสรรค์เงยหน้ามองท้องฟ้า ในจุดที่สูงกว่าหมู่เมฆขึ้นไปอีกเหนือชั้นบรรยากาศ มีสิ่งประดิษฐ์ขนาดยักษ์ชิ้นหนึ่งกำลังค่อยๆถูกประกอบขึ้นอย่างช้าๆ 

    ........................................................................................................................................................................................... 

    อีกฝากของสนามรบ ที่เสียงของโลหะดังกังวาลอย่างไม่หยุดหย่อน  

    ฮาฟกำลังหลบเลี่ยงคมดาบของอาม่อนอย่างเอาเป็นเอาตาย..แผลที่โดนมีดสั้นฟันนั้นเริ่มแสดงอาการ ชายหนุ่มกำลังค่อยๆช้าลงเรื่อยๆ ในสนามรบที่เดินไปทางไหนก็มีอาวุธร่วงอยู่ตามพื้นนั้นการที่ทำลายดาบของอาม่อนไปก็ไม่ได้ช่วยอะไร ฮาฟตอนนี้กำลังถูกไล่ต้อน

    ชิ้ง!!!  

    คมดาบของราชาต่างเผ่าพันธ์ฟาดผ่านใบหน้าของฮาฟ ถึงสายตาจะดูพร่ามั่วจากการเสียเลือดแต่ฮาฟก็ยังเอี้ยวตัวหลบได้แต่การเคลื่อนไหวนั้นก็ทำให้ชายหนุ่มที่อ่อนแรงสะดุดขาตัวเองและล้มกลิ้งไปกับพื้น 

    แฮก...แฮก.. 

    "อะไรกันหมดแรงแล้วเหรอ นึกว่าจะมีดีกว่านี้ซะอีก" 

    อาม่อนก้าวเข้ามาหาฮาฟช้าๆ แม้จะพยายามยันตัวลุกขึ้นมาแต่ก็ทำไม่ได้  เรี่ยวแรงของฮาฟแทบจะไม่เหลือแล้ว  

    "เอาล่ะไอ้หนู ได้เวลาตามอาจารย์ของเจ้าไปแล้วล่ะ" ราชาต่างเผ่าพันธ์เงื้อดาบในมือขึ้น จิตสังหารปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน ก่อนที่คมดาบนั้นจะถูกฟาดลงมาอย่างสุดแรง  

    (จำไว้นะฮาฟ ไม่ว่าจะใคร เผ่าพันธ์ไหน ช่วงเวลาที่มีศัตรูมีช่องว่างมากที่สุด คือช่วงเวลาที่มันคิดว่าชนะและกำลังจะสังหารเจ้า จงใช้ช่วงเวลานั้นคิดและตอบโต้ซะ..) 

    คำสอนของผู้เป็นอาจารย์ดังขึ้นมาในหัว ภาพทุกๆสิ่งรอบตัวดูเหมือนจะเคลื่อนไหวช้าลงไปครู่หนึ่ง ก่อนที่ดาบของอาม่อนจะถึงตัว  ฮาฟใช้จังหวะนั้นพลิกตัวขึ้นมาพร้อมกับแทงดาบคาตานะในมือสวนกลับไปทันที 

    สวบ!! 

    ทว่า---แรงที่แขนของชายหนุ่มมีไม่พอที่จะยกดาบหนักอึ้งนั้นให้ตรงกับจุดตาย...

    ดาบคาตานะของฮาฟแทงเข้าไปที่ต้นขาของอาม่อนแบบไม่ลึกมากเท่านั้น..

    อึก..

    ราชาต่างเผ่าพันธ์ถอยออกมาก้าวหนึ่ง ก่อนจะเหยียบลงไปบนหน้าอกของฮาฟและเสียบดาบเล่มใหญ่ในมือลงไปที่แขนขวาของฮาฟในแนวนอน

    ฉึกก!!!  

    ดาบในมือของราชาต่างเผ่าพันธ์ปักลงไปบนแขนของฮาฟซะเกือบครึ่งเล่ม

    อ๊ากกกกกกกกก!!! 

    "หึๆ ดันประมาทซะได้สิตัวข้า"  

    ฉึก!!!!! 

    อาม่อนควงมีดสั้นขึ้นมาก่อนจะปักลงไปที่ข้อมืออีกข้างของฮาฟจนมิดเล่ม

     อ๊ากกกกกกกกกกก!!

    ฮาฟกรีดร้องอย่างเจ็บปวด ความสิ้นหวังเริ่มกัดกินชายหนุ่มอีกครั้ง หมดทางดิ้นรนสิ้นแรงต่อต้าน 

    ราชาต่างเผ่าพันธ์หยิบดาบบนพื้นขึ้นมาและเงื้อขึ้น

    "คราวนี้แหละ ดูซิเจ้าจะทำยังไง.." 

    ชิ้ง!!!!

    เสียงของความตายที่สะบั้นลงมาทำเอาหัวใจแทบหยุดเต้น แต่แล้วสิ่งที่คาดไม่ถึงก็เกิดขึ้นอีกครั้ง 

    คมดาบของราชาต่างเผ่าพันธ์ถูกหยุดไว้ด้วยกรงเล็บของไวเวิร์นตัวหนึ่งที่มีเด็กสาวนั่งอยู่บนหลัง 

    -เจ้าโซอี้และเฟเลเน่- ที่คอยสังเกตุการณ์สนามรบอยู่ไกลๆจนกระทั่งทั้งสองมองเห็นฮาฟที่กำลังดวลดาบกับอาม่อนจากที่ไกลๆ ทั้งสองจึงพุ่งเข้ามาในสนามรบเพื่อช่วยสนับสนุนด้วยความเร็วสูง ...

    "เจ้า!!!จะดวงดีไปถึงไหนกัน!!!!"  อาม่อนคำรามออกมาด้วยความหงุดหงิด

    "ไปเลยโซอี้!!" 

    หญิงสาวตัวเล็กได้ออกคำสั่ง เจ้าไวเวิร์นแคระก็ได้ใช้ขาอีกข้างคว้าลำตัวของอาม่อนเอาไว้พร้อมกับหมุนตัวและเหวี่ยงออกไปไกลหลายเมตร ราชาต่างเผ่าพันธ์ร่วงกระแทกพื้นและกลิ้งไปอีกหลายตลบ

    เฟเลเน่ กระโดดลงมาจากหลังของไวเวิร์นแคระและตรงเข้าไปหาฮาฟทันที 

    "เป็นไงบ้างเจ้าคะ!!"

    "ยังต้องถามอีกเหรอ...สภาพตอนนี้ดูเป็นยังไงล่ะ"

    แม้สติของฮาฟจะเริ่มเลือนลาง แต่ก็ยังมีแรงกวนประสาท

    เฟเลเน่นิ่วหน้าก่อนจะดึงดาบที่เสียบแขนของฮาฟออก

    ฉึบ!!!

    "โอ้ยยยยยย!!!เบามือหน่อยเซ้!!!"

    เฟเลเน่ดึงมีดที่ปักอยู่บนข้อมือออกด้วยอีกเล่ม

    ฉึบ!..

    “อึก..”

    เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายไม่มีอารมณ์ขันด้วยฮาฟจึงสงบปากสงบคำ บาดแผลของเขาค่อนข้างสาหัส ความเจ็บปวดส่งออกมาตามบาดแผลเป็นระยะๆแถมยังทวีความเจ็บขึ้นเรื่อยๆอีก

    เฟเลเน่ที่รับรู้ได้ว่าถ้าไม่รีบพาฮาฟไปรักษาล่ะก็ได้ตายจริงๆแน่จึงกวักมือเรียกเจ้าโซอี้กลับมาหา สาวน้อยลูบบริเวณต้นคอไวเวิร์นแคระเบาๆ

    “ฝากด้วยนะเจ้าคะโซอี้”

    สิ้นเสียงของเด็กสาวไวเวิร์นแคระได้คาบคอเสื้อของฮาฟและโยนชายหนุ่มขึ้นไปบนหลังก่อนจะออกตัวบินไปยังเมืองหลวงแซงชัวรี่ สายตาของสาวน้อยสีขี้เถ้าจับจ้องไปที่ชายหนุ่มบนหลังไวเวิร์นจนกระทั่งบินไกลออกไป 

    “เป็นใครกัน..เจ้าน่ะ มายืนขวางข้าแบบนี้ไม่กลัวตายหรือไง”

    อาม่อนเอ่ยถามด้วยความขุ่นเคือง 

    ตามปกติแล้วอาม่อนน่าจะเข้าจู่โจมเด็กสาวคนนี้ทันทีบรรยากาศรอบตัวของสาวน้อยคนนี้กลับหนักอึ้งอย่างแปลกประหลาด

    “ข้างั้นเหรอ…นามข้าคือ เฟเลเน่เจ้าค่ะ เด็กสาว..ผู้ที่ดื่มเลือดของมังกร..” 

    แววตาของสาวน้อยตรงหน้าเปลี่ยนไป กลายเป็นสายตาที่ดุดันราวกับสัตว์ร้าย ใช่แล้ว เหมือนดังกับมังกร

    “โห.. เพราะได้ดื่มเลือดของมันจึงได้รับพลังจากคำสาปของมังกรสินะ จึงได้มีรูปลักษณ์เช่นนั้น…อัปลักษณ์”

    -ใช่แล้วล่ะ  ขอโทษที่ข้าโกหกท่านนะ ท่านอัศวิน ที่ข้าเล่าว่าข้าหนีออกมาจากการทดลองนั่นได้ ถามว่าหนีมาอย่างไรงั้นหรือ…ข้าก็สังหารพวกมันยังไงล่ะ เหล่าพวกนักวิจัยของเซเลนเทียร์ ขย้ำคอ ฉีกกระชากเป็นชิ้นๆ ข้าสังหารพวกมันจนสิ้นแล้วก็หนีออกมา เจ้าโซอี้ที่กำลังจะถูกฝูงของมันรุมทึ้ง ถามว่าข้าช่วยมันอย่างไรงั้นหรือ ข้าก็สังหารไวเวิร์นฝูงนั้นจนสิ้นยังไงล่ะ ร่างกายนี้รูปลักษณ์นี้ ข้าได้รับพลังของมังกรมาโดยสมบูรณ์ เพราะอย่างนั้นท่านไม่ต้องห่วงนะ ข้าจะสังหารศัตรูของท่านให้เอง เพราะนี่เป็นเส้นทางที่ข้าได้เลือกยังไงล่ะ เส้นทางที่ข้า อยากจะอยู่เคียงข้างกับท่าน…-

    เกล็ดของมังกรผุดขึ้นมาตามผิวหนังของสาวน้อย กรงเล็บและเขี้ยวก็งอกยาวออกมา..

    อาม่อนแสยะยิ้มออกมา ก่อนที่เฟเลเน่จะกระโจนใส่ราชาแห่งดีเวียร์ผู้แข็งแกร่ง กรงเล็บแหวกผ่านอากาศฟาดฟันตรงไปที่อาม่อนที่ยกดาบในมือมารับไว้ เฟเลเน่กำดาบใหญ่นั้นแน่นก่อนจะใช้มืออีกข้างเหวี่ยงเข้าหาอาม่อน ราชาแห่งดีเวียร์กระโดดถอยฉากแต่ทันทีที่ลงน้ำหนักบาดแผลที่ต้นขาที่โดนฮาฟแทงก็ส่งผล อาม่อนเสียหลักชั่วขณะ แม้จะหลบคมเล็บของเฟเลเน่ได้ แต่ก็ถูกสาวน้อยในร่างมังกรหมุนตัวเหวี่ยงหางฟาดเข้ากลางเกราะส่วนแผ่นอกจนลอยกระเด็น

    อั๊ค..

     ราชาแห่งดีเวียร์ยันตัวลุกขึ้น ทว่าเฟเลเน่ไม่ให้จังหวะตั้งตัวแน่ๆ สาวน้อยมังกรประชิดเข้ามาอย่างรวดเร็วและโจมตีอย่างถี่รัวจนอาม่อนต้องหลบอย่างเอาเป็นเอาตาย ถึงจะอยู่ในระดับราชา แต่การเผชิญหน้ากับมังกรด้วยตัวคนเดียวนั้นไม่ใช่เรื่องที่ฉลาดเอาซะเลย 

    กร๊วม!!  

    และในจังหวะที่อาม่อนสวนหมัดชกใส่เฟเลเน่นั้น ได้ถูกสาวน้อยมังกรที่เอี้ยวตัวหลบกัดขย้ำลงไปจมเขี้ยวที่ท่อนแขน 

    อ๊ากกก!!! 

    อาม่อนใช้มืออีกข้างจิกลงไปที่ผมและกระชากตัวสาวน้อยออกทันที

    เฟเลเน่ ฉีกยิ้มพร้อมกับถุยก้อนเนื้อของราชาแห่งดีเวียร์ลงพื้น 

    “หึๆ ไม่เห็นจะเท่าไหร่เลยหนิเจ้าคะ”

    อาม่อนเริ่มปาดเหงื่อ หากยังเป็นอย่างนี้ต่อไปเขาคงได้เป็นอาหารของสาวน้อยมังกรตรงหน้าแน่ๆ

    ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

      

     


     


     


     


     


     


     


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×