ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฮาฟ กับ 12 ชิ้นส่วนแห่งพระเจ้า

    ลำดับตอนที่ #40 : มหาสงครามครั้งที่2

    • อัปเดตล่าสุด 2 ส.ค. 64


    ในห้องที่ไม่เข้ากับยุคสมัยห้องหนึ่งของปราสาท

    ชายสองคนกำลังยืนจ้องหน้ากันด้วยบรรยากาศที่ดูหนักอึ้ง

    "เจ้าจะเอายังไง..จะไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยงั้นสินะ.."

    องค์ราชาดรักม่าตรัสถามชิ้นส่วนแห่งเทพบรรพกาลอีกชิ้นตรงหน้า

    "สงครามของพวกเจ้า..เหตุใดข้าต้องเข้าไปยุ่งกัน อาวุธและเทคโนโลยีเวทย์มนต์ทั้งหลายที่เหล่าทหารใช้ ก็ล้วนแต่เป็นผลงานของข้า ในฐานะสหายแล้ว ข้าได้ช่วยเหลือเจ้าไปแล้วนะ ยังจะเอาอะไรอีกหรือ.."

    องค์ราชานิ่งเงียบไปสักพักก่อนจะเอ่ยปากขึ้น

    "ผู้นำของทัพศัตรูเป็นชิ้นส่วนแห่งเทพเจ้าอีกชื้น ส่วนกายาแห่งบรรพกาล..ได้ยินแบบนี้นยังคิดว่าไม่ใช่เรื่องของเจ้าอยู่อีกหรือไม่"

    ปัญญาและการรังสรรค์เลิกคิ้วขึ้นหนึ่งครั้ง

    "งั้นเหรอ.. งั้นข้าจะเฝ้ามองอยู่ห่างๆก็แล้วกัน ถ้าหากส่วน-กายา-นั้นเข้าร่วมในการต่อสู้ล่ะก็ ข้าจะเอาด้วย"

    "อ่า ได้ยินเช่นนั้นค่อยโล่งใจ สิ่งที่ศัตรูจะใช้นั้นได้ยินมาว่ามันคือ แร่คานาช ข้าก็ไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับมันมาก่อน ขอถามเจ้าเกี่ยวกับมันหน่อยสิ"

    "มันก็เป็น มณีนอกรีต ที่โลกใบนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นพลังที่ขัดแย้งกับพลังของเทพเจ้าไงล่ะ หากศัตรูใช้สิ่งนั้นในกองทัพล่ะก็ นั่นก็เป็นเรื่องแย่แล้วล่ะ สินแร่นั้นมีพลังในการสลายหรือไม่ก็ทำให้เวทย์มนต์อ่อนกำลังลงอย่างมาก กับเผ่าพันธ์ที่มีข้อได้เปรียบทางร่างกายอย่างเผ่าดีเวียร์ล่ะก็ถือเป็นอาวุธชั้นยอดเลยล่ะ.."

    เมื่อได้ยินเช่นนั้นองค์ราชาก็เริ่มแสดงสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาอีกครั้ง

    "แล้ว..เจ้ามีวิธีจัดการกับมันเหรือเปล่า"

    ปัญญาและการรังสรรค์ที่ไม่รู้สึกทุกข์ร้อนอะไรทั้งสิ้น แสยะยิ้มออกมา

    ................................................................................................................................................................................

    ในบ้านพักคนงานหลังหนึ่งไม่ไกลจากตลาดใหญ่เมืองเนฮาเลมนัก

    ฮาฟที่นอนไม่หลับ กำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ โดยที่มีอนนะนอนอยู่ข้างๆ หญิงสาวที่รู้สึกได้ว่าคนที่อยู่ข้างๆเธอยังไม่หลับก็ได้ขยับตัวเข้าไปหาพร้อมกับโอบกอดชายหนุ่มเอาไว้ 

    "นอนไม่หลับหรือคะ ฮาฟ.."

    อนนะเอ่ยถามขึ้น

    "อนนะ..เรา หนีไปที่ไกลๆด้วยกันไหม..ถ้าเราหนีไปล่ะก็.."

    อนนะที่ซบอยู่ที่หัวไหล่ส่ายหัวไปมาพร้อมรอยยิ้ม

    "นั่นคือสิ่งที่ต้องการจริงๆงั้นเหรอคะ คำพูดนั้นกลั่นกรองออกมาจากหัวใจจริงๆแล้วใช่ไหมคะ"

    อึก..

    ฮาฟอ้ำอึ้ง

    "หากว่าท่านคิดเช่นนั้นจริงๆตัวข้าก็ไม่คิดติดใจอะไรและติดตามจะติดตามท่านไปอย่างแน่นอน แต่ว่านะฮาฟ นั่นน่ะจะไม่ทำให้ท่านเสียใจภายหลังงั้นหรือ..อัศวินที่ไร้เดียงสาทว่ากลับกล้าหาญพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับทุกอย่างแม้ว่าจะอันตรายแค่ไหนคนนั้นหายไปไหนแล้วงั้นเหรอคะ"

    "นั่นมันก็..  อ่า ขอโทษทีพูดอะไรไร้สาระนะ...

     ฉันก็แค่กลัวขึ้นมาน่ะ..ถ้าเป็นฝั่งศัตรูล่ะก็จะฟาดฟันไปสักกี่ชีวิตก็ไม่ได้รู้สึกติดใจอะไรเลย แต่ว่าฉันไม่ค่อยที่จะได้สูญเสียอะไร เมื่อวานนี้ฉันพึ่งเสียอาจารย์ไป เลยได้เข้าใจว่าการสูญเสียมันน่ากลัวและเจ็บปวดขนาดไหน..ก็เลย.."

    อนนะแตะลงไปบนแผ่นอกของฮาฟราวกับจะปลอบใจ

    "มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ค่ะ ทุกๆชีวิตล้วนแล้วแต่จะต้องตายเท่านั้น ไม่เว้นแม้กระทั่งเทพบรรพกาล"

    "นั่นสินะ ฮ่ะๆ ยังไงสักวันก็ต้องตายอยู่แล้ว แต่ถ้าหากความตายนี้สามารถทำให้ชีวิตอื่นยังดำเนินต่อไปล่ะก็ มันก็เป็นเรื่องที่ดีนะ"

    ชายหนุ่มตัวเราะออกมา

    "ค่ะ แต่จะให้ดีที่สุด จะต้องไม่ตายนะคะ นี่เป็นคำสั่ง ไม่อนุญาติให้ปฏิเสธด้วยค่ะ"

    ฮาฟตัวเราะเบาๆและจุมพิตลงไปบนหน้าผากของหญิงสาวข้างๆ 

    จากนั้นทั้งสองก็หลับไป

    .............................................................................................................................................................................

    รุ่งเช้าของวันถัดมา

    ยานขนส่งนับไปถ้วนถูกใช้ในการลำเลียงอาวุธใหม่ที่จะใช้ในการรบ -ปืนลูกซอง- กระบอกสีดำจำนวนมากถูกแจกจ่ายให้กับเหล่าทหาร พร้อมกับวิธีการใช้งาน ถ้าหากศัตรูมีความสามารถในการต้านทานเวทย์มนต์ล่ะก็แค่ใช้สิ่งที่ไม่ใช่เวทยมนต์จัดการก็พอ อาวุธรุ่นผลิตจำนวนมากที่ถูกสร้างขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน การเตรียมการป้องกันขั้นต้นจบลงเพียงเท่านี้ ชิ้นส่วนของพระเจ้าแต่ละชิ้นนั้นล้วนมีตรรกะของตนเองว่าจะไม่ไปข้องเกี่ยวกับทั้งสามเผ่าพันธ์มากจนเกินไป

    ในเวลา 1 วันนี้ อาวุธใหม่ได้ถูกแจกจ่ายจนทั่วทั้งแนวรบ 

    ..........................

    เวลานี้เป็นเวลาตี5ของเช้าวันใหม่อีกวัน  เสียงเครื่องยนต์อันเป็นเอกลักษณ์ของเรือขนส่งสินค้าดังขึ้น เหล่าทหารยามที่กำลังง่วงนอนตาสว่างขึ้นมาทันที

    เรือขนส่งสินค้านับร้อยๆลำกำลังเคลื่อนที่ตรงเข้ามา เสียงแตรปประกาศว่าพบข้าศึกดังขึ้นแทบจะทันที เป็นไปตามที่คาดการไว้ กองทัพข้าศึกยกทัพบุกเข้ามาทางเมืองเนฮาเลม ทั้งทหาร นักพจญภัย ทั้งอัศวินของภาคีย์ ต่างก็พากันวิ่งไปประจำที่ในแนวรบ แน่นอน ทั้งฮาฟและอนนะก็ด้วย 

    ความรู้สึกหวาดกลัวค่อยๆแล่นเข้าสู่หัวใจของทุกชีวิตบนสถานที่แห่งนี้ ไม่ว่าจะเผ่าดีเวียร์ หรือ มนุษย์ 

    "หน่วยโจมตีระยะไกล!!!!เตรียมพร้อม!!!!!" เสียงประกาศของหัวหน้าหน่วยอัศวินคนหนึ่งดังขึ้น

    ทั้งปืนใหญ่ดินปืน ทั้งเวทย์โจมตีระยะไกล ต่างก็เข้าสู่สถานเตรียมพร้อม วงเวทย์หลากหลายสีสันถูกกางขึ้นทั่วแนวหน้าผาของเมืองเนฮาเลม 

    ยิง!!!!!

    สิ้นเสียงนั้นทั้งกระสุนปืนใหญ่ ทั้งพลังเวทย์ ต่างถูกยิงออกไป เป้าหมายคือกองเรือขนส่งสินค้าตรงหน้า 

    ตูม!!!!!ๆๆๆๆๆ!!!!!

    กระสุนปืนใหญ่ระเบิดเข้าเป้าแต่กระสุนพลังเวทย์กลับศูนย์สลายทันทีที่ได้เข้าปะทะ กองเรือนี้ถูกเสริมด้วยแร่คานาช... 

    "อย่าหยุดยิง!!!รีบบรรจุกระสุน ยิงเข้าไปอย่าหยุด!!!!" 

    เหล่าพลปืนใหญ่เคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่ว 

    .....แต่ถึงปืนใหญ่จะยังพอสร้างความเสียหายให้กับกองเรือขนส่งสิ้นค้าได้บ้าง แต่มันก็ไม่มากพอที่จะจมเรือโลหะลอยฟ้าขนาดยักษ์ที่เป็นผลงานของ

    -ปัญญาและการรังสรรค์ได้- 

    เมื่อเคลื่อนที่เข้ามาใกล้มากขึ้นจนถึงระยะที่เหมาะสม เสียงกู่ร้องอันกึกก้องก็ดังขึ้นมาจากกองเรือขนส่งสินค้านับร้อยลำนั้น 

    "ได้เวลาอันสมควรแล้ว!!!พี่น้องเอ๋ย!!!!!! ได้เวลาแสดงความต่างชั้นให้พวกมนุษย์ได้รับรู้!!!!บุกเข้าไปเลย!!!!!!!!!" 

    สิ้นเสียงประกาศที่ดังออกมาจากด้านหลังกองเรือนั้น 

    เหล่าทหารในชุดเกราะสีดำก็ได้กระโจนลงมาจากเรือขนส่งสินค้าลอยฟ้า ห่าฝนสีดำที่เกิดจากเหล่าทหารนับพันก็ได้สาดเทลงมาใส่แนวหน้าในการรบ

    การปะทะก็ได้เริ่มต้นขึ้น 

    "ตูม!ๆ!!!ๆ!!!ๆ!!!ๆ!!!"  เสียงคำรามของอาวุธใหม่ของเหล่ามนุษย์ได้ดังกังวาลขึ้น เหล่าทหารในชุดเกราะที่ดิ่งทะยานลงมา บางตนก็ถูกกระสุนเจาะเกราะของปืนลูกซองสอยร่วงกลางอากาศ แต่ว่ากระสุนของอาวุธนั้นไม่ได้มีอย่างไม่จำกัด 

    "อ๊ากกกก!!!!!!!!!!!!"  เสียงของการปะทะกันดังขึ้น เหล่าทหารของเผ่าดีเวียร์ส่วนที่ลงมาถึงพื้นได้ ก็ได้กระโจนเข้าไปฉีกกระชากพลปืนใหญ่และเหล่าทหารของเผ่ามนุษย์ แม้ว่าปืนลูกซองนั้น จะมีอนุภาพที่สามารถจัดการทหารเผ่าดีเวียร์ได้ภายในนัดเดียว แต่ว่าเมื่อลงถึงพื้นแม้ว่าจะสวมชุดเกราะหนัก

    แต่ความรวดเร็วของเหล่าดีเวียร์นั้นไม่ได้ลดลงไปเลย ทำให้การที่จะเล็งยิงนั้นทำได้ยากมาก และในขณะที่มัวแต่เล็งอยู่นั้น ก็จะถูกทหารในชุดเกราะสีดำนั้นเข้าประชิดและสังหารทิ้ง 

    กองเลือดและเศษชิ้นเนื้อของทั้งเผ่าดีเวียร์และมนุษย์ก็ได้เพิ่มขึ้นมาแทนทีสิ่งมีชีวิต  กองเรือขนส่งสินค้ายักษ์นั้น ไม่ได้หยุดอยู่แค่เมืองท่าเนฮาเลม กองกำลังที่อยู่ในเมืองเนฮาเล็มนั้นมีเพียงแค่15%เท่านั้น กองเรือรบขณะที่เคลื่อนที่ก็ได้ปล่อยเหล่าทหารในชุดเกราะสีดำนั้นลงไปด้วย เพื่อทำให้ไม่มีพื้นที่ว่างให้ได้วิ่งหนี เหมือนกับการใช้แห กวาดต้อนฝูงปลา ด้วยวิธีนี้แนวหน้าในการรบก็ไร้ความหมาย เมื่อไม่สามารถหยุดการเคลื่อนทัพของศัตรูได้ 

    แต่ทางเผ่าดีเวียร์นั้นไม่รู้ว่าที่แนวหน้าในการรบนั้น มีใครอยู่บ้าง หนึ่งในจำนวนที่จะเป็นตัวแปรสำคัญนั้น คือชายหนุ่มผมสีดำมัดรวบ นัยย์ตาสีท้องฟ้ายามค่ำคืน และสตรีในชุดกิโมโนสีขาวที่กำลังร่ายรำอยู่ท่ามกลางสนามรบ 

    ฮาฟและอนนะกำลังรับมืออยู่กับเหล่าทหารเผ่าดีเวียร์นับสิบ คาตานะเล่มสีดำอันหนักอึ้งได้ฟาดฟันใส่ศัตรูต่างเผ่าพันธ์ การโจมตีต่างๆที่โจมตีเข้ามาถูกปัดป้องด้วยเกราะป้องกันรูปเกล็ดหิมะ ทหารเผ่าดีเวียร์คนหนึ่งกระโจนเข้ามาหาอนนะ หญิงสาวซัดแท่งน้ำแจ็งแหลมพุ่งเข้าใส่ทหารตนนั้นแต่ก่อนที่แท่งน้ำแข็งนั้นจะได้แทงทะลุเป้าาหมายมันกลับแตกสลายไปต่อหน้าต่อตา ฮาฟที่สังเกตุเห็นด้วยหางตา เข้ามารับดาบนั้นก่อนจะเบี่ยงออกและหมุนตัวสะบั้นคอของทหารคนนั้นทิ้ง "ชุดเกราะนั้นถูกเสริมด้วยแร่คานาช มันจะทำให้พลังเวทย์เสื่อมอำนาจน่ะ ระวังตัวให้ดีนะ" ฮาฟพูดขณะกำลังปัดป้องคมดาบที่ตรงเข้ามาใส่เขา (ทหารของเผ่าดีเวียร์มีเยอะมาก..แต่ไม่ได้เยอะเท่าทีควร ถ้าหากรีบจัดการที่ตรงนี้ให้หมดล่ะก็!!)

    ฮาฟที่คิดได้อย่างนั้นก็เดินหน้าบุกทะลวงไปเรื่อยๆโดยที่มีอนนะติดตามอยู่ข้างๆ นอกจากจัดการศัตรูที่กระโจนเข้าหาตัวเองแล้ว ชายหนุ่มและหญิงสาวยังได้เข้าช่วยเหลือกำลังรบของเผ่ามนุษย์คนอื่นๆด้วย 

    ทหารคนนึงกำลังล้มลงและกำลังจะถูกจัดการด้วยดาบของทหารเผ่าดีเวียร์ ฮาฟกระโจนเข้ามารับการโจมตีนั้นไว้ ฟาดฟันดาบในมือของศัตรูจนแตกกระจาย พร้อมกับเสียบคาตานะในมือจนทะลุชุดเกราะหนาและถีบร่างของทหารในชุดเกราะสีดำนั้นออกไป 

    "ยืนไหวไหมครับ"

    ฮาฟดึงแขนนายทหารคนนั้นขึ้นมา 

    "อ่า ขอบใจนะพ่อหนุ่ม" 

    ฟิ้ว!!!!  เปรี้ยง!!!!! 

    ถูกธนูที่ถูกยิงออกมาด้วยความรุนแรงพุ่งเข้ามานายทหารคนนั้น แต่ก่อนจะถึงเป้าหมาย อนนะได้สร้างปราการน้ำแข็งขึ้นมาป้องกันไว้ 

    "อย่าอยู่ห่างจากพวกผมนะครับ" 

    ฮาฟตอนนี้ตั้งใจจะช่วยกองกำลังของเผ่ามนุษย์ให้ได้มากที่สุดพูดดังนั้น  จาก3 เป็น4 เพิ่มเป็น5 แล้วก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ฮาฟรวมกลุ่มกับทหารคนอื่นๆและบุกเข้าช่วยเหลือเหล่าทหารที่กำลังต่อสู้อยู่ เสียงปืนลูกซอง เสียงของมีคมฟาดฟันกันยังดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

    ท่ามกลางเสียงปืนและเรียกกรีดร้อง ขบวนเรือขนส่งสินค้าลำสุดท้ายก็ได้เดินทางผ่านเมืองเนฮาเลมไป ฮาฟที่กำลังต่อสู้อยู่ที่พื้นด้านล่างเงยหน้าขึ้นไปมองคนบนนั้น ... กายาแห่งบรรพกาล กำลังจ้องมองมาที่เขาจากท้ายเรือเหาะลำนั้น ฮาฟกัดฟันแน่นก่อนจะใช้ดาบในมือสังหารทหารเผ่าดีเวียร์ที่กำลังต่อสู้อยู่สิ้นใจไปอีก2คน 

    (เป้าหมายของมันคงจะเป็นเมืองหลวงแซงชัวรี่..ต้องรีบจัดการต้องนี้แล้วไปสมทบ) 

    "ย้าก!!!!!!!!!!!"  

    ฮาฟคำรามออกมาพร้อมกับกระโจนเข้าสู่การต่อสู้ต่อไป หากเป็นเรื่องจำนวนของกำลังรบที่เมืองเนฮาเลมล่ะก็ จำนวนของทางฝั่งมนุษย์มากกว่าอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้จำนวนของผู้รอดชีวิตของทางฝั่งมนุษย์กำลังจะลดลงจนเท่ากับทหารของฝั่งดีเวียร์ แม้ว่าฮาฟจะพยายามช่วยอย่างสุดกำลังก็ตาม

    หลังจากที่ได้เดินหน้าจัดการทหารเผ่าดีเวียร์ไปเรื่อยๆอยู่นั้น ขบวนทหารของฮาฟก็ถูกโจมตี ทหารในชุดเกราะสีดำที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วกระโจนชิดเข้ามาและตวัดเอาทหารนายหนึ่งด้านหลังฮาฟขาดสองท่อน แม้จะมีเสียงกระสุนปืนลูกซองดังไล่หลังก็ตาม แต่กระสุนเหล่านั้นไม่ได้โจมตีโดนทหารของเผ่าดีเวียร์นายนี้เลย 

    "หึๆๆ เผ่ามนุษย์แสนอ่อนแอ"

    ทหารของเผ่าดีเวียร์คนเมื่อครู่กล่าวออกมา ตอนนี้ขบวนของฮาฟที่มีทหารอยู่แค่20คนกำลังถูกล้อมรอบด้านด้วยทหารเผ่าดีเวียร์ ไม่ว่าจะตามหลังคาสิ่งก่อสร้าง หรือบนพื้น ก็ไร้ทางหนี 

    "ข้าคือแม่ทัพของกำลังรบนี้นามว่า -อารุค- จนกว่าชีวิตของเผ่ามนุษย์จะถูกเด็ดทิ้งจนหมดข้าจะไม่หยุดมืออย่างแน่นอน"

    ถ้าหากทหารเหล่านั้นกระโจนเข้ามาพร้อมกันขบวนของฮาฟได้เละอย่างแน่นอนถึงชายหนุ่มจะเอาตัวรอดออกมาได้แต่คนอื่นๆรวมถึงอนนะยังเข้าขั้นอันตราย 

    "แกน่ะ ชื่ออารุคใช่ไหม เป็นแม่ทัพสินะ ฉันมีข้อเสนอ"

    "หืม จะเห่าหอนอะไรเหรอเจ้ามนุษย์ จะร้องขอชีวิตหรือไง"

    อารุค หัวเราะหึๆ

    "แกกับชั้นเรามาประลองกัน อะไรร ถือว่าเป็นการฆ่าเวลาเล่นสนุกๆไง ไหนๆศึกนี้พวกแกก็มั่นใจว่าจะชนะอยู่แล้วนี่"

    แม่ทัพคนนึงของเผ่าดีเวียร์หัวเราะลั่น

    "ฮ่าๆๆๆๆ  ต้องการจะดวลกับข้างั้นเหรอ  เอาสิก็ย่อมได้!!!! ไม่ว่าอย่างไรพวกเจ้าทุกคนก็ต้องตายอยู่แล้ว"

    ฮาฟกระชับดาบในมือแน่นก่อนจะเดินเข้าไปกลางสนามประลองที่ทำขึ้นจากทหารเผ่าดีเวียร์ อนนะจับแขนเสื้อของเขาเอาไว้ ฮาฟดึงเธอเข้ามากอดก่อนจะกระซิบอะไรบางอย่างและเดินตรงเข้าไปประจัญหน้ากับแม่ทัพของศัตรูต่างเผ่าพันธ์!!

    ....................................................................................................................................................................................................

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×