คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ:ก็แค่อยากใช้ชีวิตธรรมดา ทำไมกันนะ??
มหาสงครามของ 3เผ่าพันธ์ุ เซเลนเทียร์,มนุษย์ และ ดีเวียร์ ที่กินเวลากว่า 300 ปีนั้น ได้แบ่งเขตแดนบนโลกนี้ออกเป็น 3 อาณาจักรหลักใหญ่ๆของทั้ง3เผ่าพันธ์ุ
1.สรวงสวรรค์ ประเทศที่ถูกเวทย์มนต์จากโบราณกาลยกให้ลอยสูงเหนือพื้นดิน ที่อาศัยของเผ่าพันธ์ุ เซเลนเทียร์ เผ่าพันธ์ุที่มีลักษณะทางกายภาพเหมือนกับมนุษย์ ทว่ามีปีกและเชี่ยวชาญในด้านเวทย์มนต์
2.ผืนแผ่นดิน ที่อยู่อาศัยของมนุษย์ ทั้งที่ไม่ได้มีร่างกายแข็งแกร่งเหมือนเผ่าดีเวียร์ ไม่ได้เชี่ยวชาญเวทย์มนต์และบินบนฟ้าได้เหมือน เซเลนเทียร์ แต่ก็กลับสามารถมีชีวิตรอดและข้ามผ่านมหาสงคราม300ปีมาได้
3.แดนรกร้าง ดินแดนแห้งแล้งที่อยู่อาศัยของเหล่าดีเวียร์ ที่ิดินแตกระแหง และ ทะเลทราย ภูมิประเทศสุดแสนโหดร้ายนั้น เป็นที่มาของความแข็งแกร่งของเผ่าดีเวียร์ มีลักษณะทางกายภาพใกล้เคียงกับมนุษย์ ทว่าจะมีเขี้ยวเล็บและขนสัตว์งอกตามบางส่วนของร่างกาย มีพละกำลัง และความรวดเร็ว เหนือกว่ามนุษย์อยู่หลายเท่า
หลังจากจากสงครามสิ้นสุดลง เผ่าพันธ์ ทั้ง3 ได้ส่งตัวแทนของตนเองออกมาทำสัญญาสงบศึก ทั่วทั้งโลกได้จับมือกันและได้ร่วมมือกันทำสัญญา บูรณะ โลกที่พังทลาย ขึ้นมาอีกครั้ง
..........................................................................................
ณ เมือง เนฮาเลม เมืองท่าติดทะเล
ผืนทะเลตัดผ่านคู่ขนาดไปกับสีฟ้าครามอันแสนสดใส เรือขนส่งสินค้าล่องลอยอยู่ทั่วท้องฟ้าด้วยเวทย์มนต์ เรือขนส่งสินค้าเป็นเรือที่ขับเคลื่อนด้วยพลังเวทย์มนต์ ด้วยความร่วมมือจากทั้ง 3 เผ่าพันธุ์ ทำให้เจ้าก้อนเหล็กยักษ์หนักกว่าสิบตันนี้สามารถเดินทางไปทั่วทั้ง3ดินแดนได้ เรือบางลำก็กำลังเดินทางออกจากเกาะบ้างบางลำก็กำลังเทียบข้างๆหน้าผา และ ขนส่งสินค้าลงจากเรือ....สินค้าที่ลำเลียงขนส่งมานั้น ส่วนมากจะเป็นผลผลิตจำพวกผลไม้และอาหารจากสรวงสวรรค์ แผ่นดินใหญ่ของ -เผ่าเซเลนเทียร์- แม้จะเป็นเผ่าพันธ์ุที่หัวสูงอยู่บ้าง แต่ผลผลิตต่างๆของสรวงสวรรค์นั้น มีคุณภาพสูงมากจึงเป็นที่นิยมจากทั่วทั้งโลก……………
ครืน....
เสียงของเรือขนส่งลอยฟ้าขนาดใหญ่กำลังเทียบท่าเรือขนส่งที่หน้าผา ทิ้งสมอเรือลง และทอดสะพานขนส่งสินค้า..สมอเรือที่โยนลงมาถูกดึงเข้าหาที่ยึดสมอตรงท่าเรือด้วยแรงแม่เหล็กโดยอัตโนมัติ ผู้คนที่ยืนรอรับสินค้ารอบๆท่าเรือก็ต่างพากันกรูเข้าไปรับสินค้าของตน
"สินค้าของร้าน เบอร์แมน จำนวน 18 ลัง"
"สินค้าร้านของคุณเมย์ร่า จำนวน 34 ลัง ครับ"
"สินค้าของคุณ ....."
การแจกจ่ายสินค้าไปตามออเดอร์เป็นไปอย่างต่อเนื่องและขยันขันแข็ง….
"ต่อไปสิ้นค้าของร้านคุณเวลม่า ลังผลไม้ 3 ลังใหญ่"
"ของทางนี้ครับ"
ชายคนหนึ่งขานรับด้วยเสียงสดใส เขาได้เดินเข้าไปหาพนักงานส่งสินค้าบนเรือพร้อมกับโบกมือทักทาย
"อ่าวไง -ฮาฟ- วันนี้ก็มาคนเดียวเหรอ"
"ก็ช่วยไม่ได้นะครับ ร้านลุงเวลมีลูกจ้างแค่ผมคนเดียวนี่นา ฮ่ะๆ" ชายผมสีดำดวงตาประกายสีน้ำเงินครามราวกับท้องฟ้ายามรัตติกาล หัวเราะอย่างร่าเริง
"ลุงแกนี่ก็จริงๆเลยน้าน่าจะหาคนเพิ่มอีกสักคนก็ยังดี..นี่กล่องของนาย3กล่องอยู่ตรงนี้ ยกไปได้เลย ไหวหรือเปล่า แต่ละกล่องมันหนักเอาเรื่องเลยนะนั่น.."
ชายหนุ่มนามยิ้มให้และเดินเข้าไปยกกล่อง3กล่อง ขนาดกว้างยาว1เมตรที่วางซ้อนกันขึ้นอย่างหน้าตาเฉยและเดินออกมา..
"แค่นี้สบายๆครับ"....
ชายหนุ่มเดินตรงกลับไปที่ตลาดของเมืองเนฮาเลม ตลาดที่ทอดยาวกว่า4กิโลเมตร เป็น1ใน3 ตลาดที่ใหญ่ที่สุดของ -ผืนแผ่นดิน-ทางเดินถูกปูด้วยพื้นหินอ่อนตลอดทาง พร้อมกับ สินค้ามากมาย ไม่ว่าจะเป็น ผลไม้ อาหาร อาวุธ เสื้อผ้า ฯลฯ เรียงรายตลอดทาง และแน่นอน สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยผู้คน
วันนี้ก็เป็นวันปกติของฮาฟอีกวันหนึ่ง เขาทำงานอยู่ที่ร้านผลไม้ของลุง เวลม่า ซึ่งเป็นร้านผลไม้ที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงเนื่องจากสินค้ามีคุณภาพและสดใหม่อยู่เสมอ ทว่าเมื่อ ฮาฟ ได้เดินมาถึงตรงหน้าร้าน
"หงุดหงิดโว้ยยยยยย!!!!!"
โครม!!
สิ้นเสียงตะโกนนั้น ก็มีลังผลไม้ลังหนึ่งกระเด็นออกมานอกร้านจนผลไม้ลูกสวยหลากชนิดกลิ้งกระจัดกระจาย ชายหนุ่มที่เห็นดังนั้นจึงวางลังไม้ที่แบกมาลงและวิ่งเข้าไปดู...
ชายสวมชุดคลุมสีดำสามคน คนนึงกำลังทำลายข้าวของในร้าน อีกสองคนกำลังยืนดู โดยที่มีลุงเวลม่ากำลังทำตัวไม่ถูกอยู่ตรงนั้นด้วย..ท่ามกลางฝูงชนที่ได้แต่มุงดู
"ขอโทษนะครับ! ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรกันครับ! " ชายหนุ่มเดินตรงเข้าไปหาทั้งสาม
"ห่ะ..แกเป็นใคร มายุ่งอะไรด้วยวะ"
สามคนสามไซต์ เล็ก กลาง ใหญ่ คนสวมผ้าคลุมตัวใหญ่ถามเสียงแข็งกลับมา ทำให้อีกสองคนนั้นหันมาหาฮาฟ
"ก็..พอดี ผมทำงานที่นี่น่ะครับ"
"เหรอ..แล้วจะทำไมไอ้ลูกจ้าง มีปัญหาหรือไง"
คนไซต์กลาง ที่ดูท่าจะเป็นหัวหน้ากลุ่มเดินเข้ามาหาฮาฟด้วยท่าทางเอาเรื่องและจับคอเสื้อของเขายกขึ้น
ชายหนุ่มถอนหายใจพลางมองไปยังข้าวของที่กระจัดกระจาย
“อยากให้ช่วยใจเย็นลงหน่อย แล้วค่อยๆคุยกันได้ไหม ครั…”
ผลั๊ก!
ชายหนุ่มโดนชายไซต์กลางชกหมัดขวาเข้าเต็มแรงและกลิ้งลงไปกับพื้น ต่อจากนั้นก็เป็นมหกรรมคนสามคนรุ่มกระทืบคนๆเดียว อยู่นานสองนาน
............................................................................................................................................................................................................
แฮก...แฮก.. "ทำไม..เหมือนกระทืบก้อนหินเลยวะเนี้ย"
ท่ามกลางชายสามคนที่เหนื่อยหอบฮาฟก็ได้ยันตัวลุกขึ้นมากลางเหล่าคนสวมผ้าคลุม ทำให้ทั้งสามเริ่มถอยออกมา
"พอใจแล้วหรือยังครับ"
ฮาฟปัดฝุ่นบนเสื้อไปมา ถึงจะโดนกระทืบอยู่นาน แต่ดูเหมือนว่าเขานั้นจะไม่ได้รับบาดเจ็บเลยสักนิด
"..."
"ถ้าพอใจแล้วผมขอถามอะไรสักอย่างสิ ไปหงุดหงิดมาจากไหนกันถึงมาทำลายข้าวของชาวบ้านแบบนี้เนี้ยครับ เชิญจ่ายค่าเสียหายมาด้วยครับ"
"หุบปาก!!!! คิดว่าฉันกระจอกมากหรือไงกันห่ะะะะ!!! ทั้งแก!! ทั้งไอ้ภาคีนั่น!!คิดว่าเจ๋งมากหรือไงว่ะะะ!!!"
(ภาคีงั้นเหรอภาคีอะไรอะหว่า???) ฮาฟทำหน้ามึนๆ
ชายสวมผ้าคลุมไซต์กลางตะวาดขึ้นพร้อมหยิบ -อาติแฟลค- ทรงไม้คฑาออกมา ลักษณะ ก็เหมือนไม้คฑาทั่วไปแต่องค์ประกอบนั้นเหมือนกับเอาชิ้นส่วนโลหะทรงเลขาคณิตหลายๆชิ้นมาต่อกัน และระหว่างรอยต่อนั้น ก็มีแสงสีแดงเพลิงปรากฏออกมา
จากนั้น ชายสวมผ้าคลุม ก็ได้กางวงเวทย์ สีเพลิงขึ้น...
ฟุม..
"เห้ยๆ...ใจเย็นสิครับ! เดี๋ยวไปโดนคนอื่นนะ พวกเค้าไม่เกี่ยวอะไรด้วยสักหน่อย.." ฮาฟแสดงท่าทีตกใจออกมา
"ก็ช่างมันสิวะะะะะ!!!!" ชายผ้าคลุมไซต์กลางอัดไม้คฑาไปที่วงเวทย์ ส่งลูกไฟขนาดพอๆกับลูกบาสพุ่งเข้าใส่ฮาฟ..
"..โถ่เว้ย.." ฮาฟ สบถ อย่างหัวเสียก่อนจะยกแขนขึ้นมาป้องกันลูกไฟนั้นไว้
ตูม!!!
เมื่อเกิดการปะทะ ลูกไฟก็ระเบิดขึ้นจนเกิดควันคลุ้ง ผู้คนที่มุงดูเริ่มแตกตื่นและพากันวิ่งหนี เพราะกลัวโดนลูกหลง
"บ้าจัง สุดท้ายก็วุ่นวายจนได้"
ฮาฟถอนหายใจพร้อมกับเหวี่ยงแขนหนึ่งครั้งส่งให้กลุ่มควันดำปลิวหายไป แขนเสื้อข้างขวาของเขามีรอยไหม้และขาดจากการยกขึ้นป้องกันลูกไฟนั่น แต่ดูเหมือนชายหนุ่มจะไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย
"แก..เป็นตัวอะไรกันแน่.."
ชายผ้าคลุมกระชับคฑาในมือให้แน่นขึ้น พร้อมกับอีก2คนด้านหลัง ที่ร่ายวงเวทย์ไฟเตรียมไว้เหมือนกัน
"เห้อ"(น่าจะอัดพวกมันให้จบๆตั้งแต่แรก)
"ยิงมันเลยยยยย"
โครม!!
สิ้นเสียงคำสั่งของคนไซต์กลาง รฮาฟได้ถีบตัวพุ่งออกจากจุดที่ยืนอยู่อย่างรวดเร็วและจับศีรษะของคนไซต์เล็กอัดโครมลงบนพื้นจนสลบคามือ ก่อนที่อีกสองคนจะได้ทันตั้งตัว....
"อะ..อะไรวะนั่น" เหงื่อเย็นเริ่มผุดขึ้นมาบนหน้าของทั้งสอง
"เอาล่ะ.. จะจ่ายค่าซ่อมร้านแล้วออกไปดีๆไหม" ฮาฟกล่าวเสียงแข็งพร้อมกับก้าวเข้าไปหาอีก2คนที่เหลือ
"ดูถูกกันงั้นเหรอ!! ไอ่บ้านี่!!! หอกเปลวเพลิง!!"
(อ่า..รู้สึกแทนที่จะทำให้กลัว กลับกลายเป็นว่าทำให้โกรธมากขึ้นไปอีกนะเนี้ย..เวรกรรม)ฮาฟนึกในใจ พร้อมกับสีหน้าเบื่อโลกแบบสุดๆ..
หลังจบคำสั่งที่เหมือนคำร่ายเวทย์หอกเปลวเพลิงนั้น ไม้คฑาของชายไซต์กลางสวมผ้าคลุม ก็แปรสภาพเป็นหอกสีแดงที่ลุกไหม้ เขาควงหอกนั้นและวิ่งตรงเข้าใส่ฮาฟ
ย้ากกก
เคล้ง! ชายสวมผ้าคลุมฟาดหอกลงไปตรงที่ฮาฟ แต่ชายหนุ่มเอี้ยวตัวหลบ ทำให้หอกพลาดเป้ากระแทกพื้น
"หึ่ย!" แต่ชายสวมผ้าคลุมยังไม่ยอมแพ้ เหวี่ยงหอกไปตามแนวราบกวาดไปทางฮาฟ
วูบ!! โครม!
ฮาฟกระโดดถอยฉากออกมา ทำให้หอกเพลิงนั้นพลาดเป้า แต่ก็ไปกระแทกกับแผงใส่ผลไม้ที่วางขายอยู่หน้าร้านซะล้มระเนระนาน คิ้วขวาของฮาฟกระตุกเล็กน้อยอย่างไม่สบอารมณ์ ชายสวมผ้าคลุมยังไม่ลดละ พุ่งหอกตรงเข้ามาหมายจะแทงเข้าที่กลางลำตัว ขณะเดียวกันลูกไฟสนับสนุนจาก ชายสวมผ้าคลุมไซต์ใหญ่อีกคนก็ยิงตามมาอีก 3 ลูก ตรงมาที่เขา
"ให้ตายสิ"
ฮาฟกระโดดถอยหลังเฉียงออกด้านข้างเล็กน้อย ปล่อยให้ปลายหอกแท่งทะลุผ่านช่องว่างแขนไปและใช้แขนนั้นหนีบหอกที่ยังติดไฟนั้นไว้ พร้อมกับใช้มือคว้าคอเสื้อของชายสวมผ้าคลุมไซต์กลางที่พุ่งเข้ามา
"เห้ย! ปล่อยนะเว้ย"
ฮาฟกระชากตัวของชายคนนั้นลอยจากพื้น ขึ้นมาบังลูกไฟสามลูกที่พุ่งเข้ามาหา
ตูมๆๆ!!!
ยิงพวกเดียวกันเอง...
หอกเปลวไฟได้คืนสภาพเป็นไม้คฑาและร่วงลงพื้นพร้อมกับผู้ใช้ที่หมดสติ
"นี่เจ้าอ้วน"
ฮาฟที่หยิบไม้คฑาบนพื้นมาหมุนเล่นบนมือ และพูดกับชายสวมผ้าคลุมตัวอ้วนคนสุดท้าย
"อะ..อะ..อะไร..." ชายคนนั้นตอบกลับด้วยเสียงสั่นๆ
"พวกเราไม่รู้จักกันแท้ๆ ทำไมต้องเล่นกันแรงขนาดนี้ด้วย"
ออร่ากดดันแผ่กระจ่ายออกมาจากฮาฟ จนทำให้ผู้ที่สนทนาด้วยยิ่งกลัวขึ้นไปอีก
"ฉะ..ฉัน ไม่เกี่ยวนะ แค่ลูกพี่ อารมณ์ไม่ดีเพราะสอบภาคีอัศวินไม่ติด เลยหาเรื่องไปทั่วก็แค่นั้นเอง"
"หาาาา?? เหตุผลแค่นี้ถึงกับต้องพังร้านกันเลยเหรอ..??? หึ อย่ามาล้อ..."
"มีเรื่องอะไรกันห่ะ!!"
ก่อนที่ฮาฟจะพูด หรือ ทำอะไรต่อ เสียงทุ้มต่ำตะโกนออกมาจากกลุ่มผู้คนที่เริ่มเข้ามามุงดูกันอีกครั้ง.. อัศวินชุดเกราะสีแดงที่มีลายประดับสีทอง บ่งบอกถึง สถานะ ก้าวออกมาจากฝูงชน และได้เข้ามาควบคุมสถานการณ์ จนสงบลง....
อัศวินคนนั้นกวาดสายตาพิจารณาสถานการณ์ไปรอบๆ
(ล้มผู้ใช้เวทย์สามคนด้วยตัวคนเดียวงั้นเหรอ....)
"นี่พ่อหนุ่ม เห็นทีคงต้องมาด้วยกันแล้วล่ะ."
จากนั้นอัศวินที่แลดูยศสูงก็เดินตรงมาที่ฮาฟ..
(ก็แค่อยากจะอยู่แบบคนปกติแค่นั้นเอง แต่ดันเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นจนได้ให้ตายสิ..)
ความคิดเห็น