ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฮาฟ กับ 12 ชิ้นส่วนแห่งพระเจ้า

    ลำดับตอนที่ #45 : คับขัน

    • อัปเดตล่าสุด 19 พ.ย. 65


    ตอนนี้ ทางสถานการณ์ในสนามรบตอนนี้ทางฝั่งมนุษย์ดูไม่ค่อยจะสู้ดีนัก..เมื่อกระสุนปืนในมือหมดลง สงครามก็เริ่มกลายเป็นลานสังหาร ตอนนี้กำลังรบของทางฝังดีเวียร์ลดลงไม่ถึงหมื่นคน ส่วนทางฝั่งมนุษย์กลับล้มตายกันนับแสนแล้ว กำลังรบและชุดเกราะสลายเวทย์มนต์ทำให้ทางฝั่งดีเวียร์นั้นแข็งแกร่งกว่ามาก

    ทางฝั่งราชาดรักม่าที่สังหารศัตรูไปนับสามสิบตนแล้วนั้น ทัพของพระองค์ประมาณ3000คนกำลังอยู่ท่ามกลางวงล้อม..

    “ฝ่าออกไปให้ได้ สมทบกับทัพ อื่นๆของเราให้ได้ แล้วก็ห้ามตาย!!! ฝ่าออกไป!!!!” 

    องค์ราชาประกาศลั่นพลางกวัดแกว่งดาบในมือฟาดฟันศัตรูตรงหน้า แม้แสงแห่งชัยชนะในศึกนี้จะริบหรี่ แต่ด้วยหน้าที่ของราชาแห่งมวลมนุษย์เขาจะไม่มีวันถอดใจและสิ้นหวังเป็นอันขาด ต่อให้ต้องสิ้นแรงและร่วงโรยไปในสนามรบแห่งนี้ก็ตาม ด้วยเรี่ยวแรงและความสามารถที่มีองค์ราชาดรักม่าและกองทัพที่มี บัดนี้ ทัพขององค์ราชาแห่งมวลมนุษย์ก็ได้ตีฝ่าวงล้อมออกมาได้สำเร็จ แต่ภาพตรงหน้าของราชาอัศวินนั้นเริ่มบั่นทอนกำลังใจอันแรงกล้าของเขา ….

    ซากศพของสิ่งมีชีวิตที่ส่วนมากเป็นของเผ่ามนุษย์กองเกลื่อนสุดลูกหูลูกตา ในทิวทัศน์ที่มองเห็นปลายๆสายตาคือกองทัพของเหล่ามนุษย์กำลังค่อยๆถูกกวาดล้างหายไปทีละนิดๆ ความโกรธทำให้เส้นเลือดของราชาของเหล่ามนุษย์ปูดโปน องค์ราชาดรักม่ากำดาบในมือแน่นอย่างโกรธา ก่อนที่จะกระโจนเข้าหาและหายไปในทัพของศัตรู

    …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

    ทางฝั่งทหารรักษาการบนกำแพงเมืองหลวงแซงชัวรี่

    “นั่นมันอะไรน่ะ..ลูกไวเวิร์นอย่างนั้นเหรอ..”

    ทหารยามได้หันไปถามเพื่อนทหารอีกคน พลางชี้นิ้วไปทางไวเวิร์นตัวหนึ่งที่บินออกมาจากทางสนามรบ

    “จะอะไรก็ช่าง ยิงทิ้งไปเลย นั่นมันสัตว์ร้ายนะ” 

    เพื่อนทหารอีกคนตอบปัดๆไปพร้อมกับเดินไปนั่งตรงปืนใหญ่พลังงานที่ติดตั้งอยู่บนกำแพง..

    “อย่าพึ่งยิงนะ ข้าว่ามันแปลกๆ ไวเวิร์นที่ไหนจะออกล่าตัวเดียว ไหนจะบินออกมาจากทางสนามรบอีก..รอดูจนกว่ามันจะเริ่มโจมตีเถอะ”

    ทหารคนแรกที่สังเกตุเห็นปรามไว้…

    “หากผู้คนในเมื่องได้รับอันตรายเจ้าจะรับผิดชอบยังไง เก็บความคิดตื้นเขินแบบนั้นเอาไว้เถอะ”

    สิ้นคำพูดนั้น ปืนใหญ่พลังเวทย์ก็ถูกยิงออกไป 

    ตูม!!!!!

    ลูกกระสุนปืนใหญ่นั้นเข้าเป้าอย่างจัง จนไวเวิร์นแคระบาดเจ็บ.. ร่างของมันค่อยๆดิ่งลงมาจากที่สูง…

    ไวเวิร์นแคระกัดฟันทนความเจ็บก่อนจะใช้สองปีกของมันคว้าตัวของฮาฟมากอดเอาไว้ก่อนที่ร่างของมันจะร่วงกระแทกพื้น ตรงจุดที่ไม่ห่างจากประตูเข้าเมืองมากนัก

    ตึง!!!

    เสียงของวัตถุร่วงลงพื้นดังขึ้น ไวเวิร์นแคระและฮาฟทั้งสองนอนนิ่งอยู่บนพื้น ทั้งสองต่างหายใจอย่างโรยริน…

    …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

    “เห้ย..ที่อยู่กับเจ้าไวเวิร์นนั่นมันคนไม่ใช่เหรอ!!!”

      ทหารคนแรกที่เห็นจากกล้องมองเห็นส่องทางไกลชี้นิ้ว…หลังจากนั้นไม่นาน หน่วยพยาบาลก็ได้เข้ามารับตัวฮาฟ ที่แทบไม่มีสติเหลืออยู่แล้วก็ได้เค้นคำพูดออกมา “รักษา..เจ้านั่นที..”  สิ้นคำพูดนั้นทุกๆสิ่งรอบตัวของชายหนุ่มก็ดำมืดลงไป….

    …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

    ทางฝั่งของชิ้นส่วนพระเจ้าทั้งสอง ความเป็นต่อในการต่อสู้นั้น ทางฝั่งปัญญาและการรังสรรค์เห็นทีจะได้เปรียบ…

    ร่างใหญ่ของกายาแห่งบรรพกาล ค่อยๆยันตัวลุกขึ้นยืนจากพื้นดินที่จมลึกลงไป--- 

    “ใช้ได้นี่หว่า การรังสรรค์!!!!!!!” ร่างใหญ่ของกายาพุ่งตรงมาหาการรังสรรค์ ฝ่ายชิ้นส่วนแห่งปัญญาก็ตั้งเกราะป้องกันรับแรงปะทะนั้นเอาไว้ 

    ตูม!!!! 

    แรงปะทะถูกดูดซับและปล่อยกลับไปดังเช่นทุกที ระบบเคลื่อนไหวอัตโนมัติที่คิดคำนวนการโต้ตอบการเคลื่อนไหวที่โจมตีเข้ามา ทำให้ในตอนนี้ ไม่ว่าจะทำยังไงฝ่ายกายาแห่งบรรพการก็ไม่มีทางชนะได้เลย ถ้าหากยังคงสู้ด้วยกำลังรบเช่นนี้….

    ทว่าความสังหรณ์์ใจแปลกๆนั้น ยังคงก่อตัวขึ้นในใจของปัญญาและการรังสรรค์อยู่ดี---

    ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

    ปัจจุบันผ่านไปได้3ชั่วโมงแล้วหลังจากการต่อสู้ที่เขตเมืองหลวงแซงชัวรี่ได้เริ่มขึ้น ทางชิ้นส่วนแห่งเทพเจ้า ฝั่งมนุษย์กำลังได้เปรียบก็จริง แต่หากเป็นในสนามรบนั้นกลับตรงกันข้าม ตอนนี้ทหารของทางฝั่งมนุษย์เหลือรอดอยู่ประมาณหนึ่งแสนนายเท่านั้น กลับกันทางฝั่งดีเวียร์ที่มีกำลังพลดั้งเดิมน้อยกว่ากลับเหลือรอดกว่าห้าหมื่นชีวิต กองทัพของฝั่งมนุษย์ตอนนี้ได้ถอยร่นกลับไปจนถึงกำแพงทางเข้าของเมืองหลวงแซงชัวร์รี่ เสียงปืนใหญ่บนกำแพงเมืองดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

    กองทัพของฝั่งดีเวียร์เข้าใกล้มาทุกขณะ  

    ทางฝั่งของ อาม่อน ราชาคนใหม่แห่งเผ่าดีเวียร์  ตอนนี้ถูกเฟเลเน่ หญิงสาวผู้ต้องคำสาปเลือดมังกร ใช้กรงเล็บกดลงกับพื้น โดยที่ทางฝั่งอาม่อนใช้ดาบยื้อไว้อยู่เพื่อไม่ให้กรงเล็บนั่นเจาะทะลุหน้าอกของเขา 

    “จบกันแค่นี้แหละ!!!”  

    เฟเลเน่ง้างแขนอีกข้างเพื่อโจมตีปิดฉากราชาแห่งดีเวียร์ที่ตอนนี้กัดฟันแน่น…

    ฉึกก!!!

    “อึก…” 

    ศรธนูสีดำพุ่งเข้าเสียบทะลุหัวไหล่ของเฟเลเน่จนร่างของสาวน้อยลอยกระเด็น…  ราชาแห่งดีเวียร์หลุดออกจากพันธนาการของสาวน้อย เฟเลเน่กัดฟันแน่นถอนลูกธนูดอกนั้นออกมาพร้อมกับแยกเขี้ยวหันไปทางที่ศรได้พุ่งเข้ามา… 

    กองทหารของเผ่าดีเวียร์ที่ได้จัดการกับเหล่ามนุษย์แถวนั้นจนหมดแล้วได้มารวมตัวกัน…ตอนนี้สาวน้อยผู้ต้องคำสาปมังกรได้ถูกล้อมเสียแล้ว--- 

    “หึๆๆๆ แสบนักนะยัยมังกรน้อย ฆ่ามัน!!!” 

    ราชาแห่งเผ่าดีเวียร์ออกคำสั่ง เหล่าทหารในชุดเกราะสีดำนับร้อยได้กรูเข้าใส่เฟเลเน่ แน่นอนว่าทางฝั่งสาวน้อยมังกรไม่ยอมอยู่นิ่งให้ฆ่าทิ้งง่ายๆแน่นอน เฟเล่เน่เอี้ยวตัวหลบคมดาบที่ฟาดฟันเข้ามาพร้อมกับใช้กรงเล็บแทงทะลุผ่านชุดเกราะอย่างง่ายดาย 

    ฉึก!! 

    “อึก…”

    ลูกธนูสีดำอีกดอกหนึ่งพุ่งเข้าปักที่กลางหลังของเฟเลเน่ สาวน้อยเสียหลักเล็กน้อยแต่ก็สามารถทรงตัวไม่ได้ล้มลง ก่อนจะฉีกกระชากทหารเผ่าดีเวียร์ที่เข้ามาโจมตีตายลงตรงนั้นอีกรายนึง คนแล้วคนเล่าคนแล้วคนเล่า ฟาดฟันด้วยกรงเล็บ กัดกระชากด้วยคมเขี้ยว ศพแล้วศพเล่า ด้วยความคล่องแคล่วและพละกำลังจากคำสาปเลือดมังกร เฟเลเน่สามารถหลบหลีกลูกธนูไปพร้อมๆกับการลดจำนวนศัตรูไปด้วย

    อาม่อนที่นั่งมองเหล่าทหารของคนที่วิ่งเข้าไปเอาชีวิตไปทิ้งเรื่อยๆได้กัดฟันแน่น ทว่าก็มองเห็น---

    “ส่งธนูมา!!” 

    ราชาแห่งดีเวียร์ตวาดลั่นก่อนจะคว้าเอาธนูดำของทหารข้างมา ขึ้นคันศร 

    ฟิ้ว!! 

    ลูกดอกที่ปล่อยออกไปด้วยกำลังแรงของราชาแห่งเผ่าดีเวียร์ พุ่งเข้าเสียบที่กลางอกของสาวน้อยมังกรอย่างแม่นยำ 

    แค่ก…  

    เฟเลเน่ที่เสียจังหวะการเคลื่อนไหวได้กระอักก้องโลหิตออกมา เหล่าทหารแห่งดีเวียร์ก็ได้ใช้จังหวะนั้นเข้าโจมตี เฟเลเน่ที่บาดเจ็บ

    ฉั๊วะ!  

    คมดาบฟาดฟันลงไปที่หลังจากมุมอับ หยาดเลือดของสาวน้อยสาดกระเซ็น เฟเลเน่ ทรุดลงกับพื้น….

    “แฮก….แฮก…”

    สาวน้อยมังกรหอบหายใจพยายามจะนำพาอากาศเข้าสู่ร่างกายอย่างยากลำบาก 

    “ตายซะเถอะยัยสัตว์ประหลาด!!” 

    คมดาบแห่งความดาบแทงตรงมาจากด้านหน้าโดยทหารนายหนึ่ง ……

    (สัตว์ประหลาด..อย่างนั้นเหรอ….)  ภาพของฮาฟที่อยู่ข้างๆเธอโดยที่ไม่แสดงอาการเกรงกลัวใดๆออกมาเลย ไม่มีแม้กระทั่งสายตาที่มองว่าเธอเป็นสัตว์ประหลาด ก็ได้ผุดเข้ามาในหัวของสาวน้อยอีกครั้ง

    (อ่า…อยากจะอยู่เคียงข้าง…เค้าคนนั้นจังเลยนะเจ้าคะ)

    คิดได้เช่นนั้น   สาวน้อยหมุนตัวหลบคมดาบที่แทงเข้ามา! พร้อมกับถีบตัวขึ้นงับไปที่ต้นคอของทหารคนเมื่อครู่อย่างสุดแรง เฟเลเน่กระชับกรามแน่นก่อนจะกระชากเอาชิ้นเนื้อออกมา 

     ทหารคนนั้นสิิ้นใจลงทันที

     ฉึก!!  

    “อึ้ก!!!” 

    ทว่ายังมีลูกธนูอีก1ดอก พุ่งเข้าเสียบที่กลางหลังของสาวน้อยอีกครั้ง…

    “ยังหรอกน่าาาาา!!!!!!!” เฟเลเน่ คำรามลั่น!!!!  

    แม้เรี่ยวแรงจะแทบไม่มีแล้วก็ตาม สาวน้อยสีขี้เถ้า ก็ยังคงกวัดแกว่งเขี้ยวเล็บของต้นท่ามกลางวงล้อมของเหล่าศัตรูที่ค่อยๆเพิ่มขึ้นต่อไป..

    …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

    ไวเวิร์นแคระที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เล็ก เจ้าโซอี้ สัมผัสได้ว่าผู้เป็นนายของตนกำลังต้องการความช่วยเหลือ เจ้าไวเวิร์นแคระลืมตาตื่นขึ้น ตอนนี้มันกำลังได้รับการรักษาโดยหน่วยพยาบาลของเมืองหลวงแซงชัวรี่ โดยที่มีฮาฟนอนแน่นิ่งอยู่ข้างๆ เจ้าโซอี้ที่ได้สติก็ได้พรวดพราดเข้าไปหาฮาฟ จนเหล่าทหารยกหอกจ่อไปที่มัน เจ้าโซอี้เลียไปที่หน้าของฮาฟเบาๆพอให้ชายหนุ่มได้สติ ชายหนุ่มที่สภาพร่างกายฟื้นฟูอย่างรวดเร็วจนน่าตกใจ ได้ลืมตาตื่นขึ้น ฮาฟใช้มือสัมผัสกับเจ้าโซอี้

    “อ่า… เข้าใจแล้วล่ะ.. ไปช่วยยัยนั่นกันเถอะ”

    …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×