ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฮาฟ กับ 12 ชิ้นส่วนแห่งพระเจ้า

    ลำดับตอนที่ #38 : เดินทาง

    • อัปเดตล่าสุด 2 ส.ค. 64


    "เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ แค่พาไปส่งก็พอใช่ไหมเจ้าคะ"  

    เฟเลเน่พูดพร้อมพยายามดันฮาฟที่เข้ามาประชิดตัวออกไป โดยที่มีเจ้าโซอี้ คอยขู่เป็นระยะ 

    ผ่านไปสักพัก...

    "ขึ้นมาสิเจ้าคะ" 

    เฟเลเน่ยืนมือมาทางฮาฟ ก่อนที่เธอจะทำเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ก็ทำหน้าจ๋อยก่อนจะค่อยๆเลื่อนมือกลับไป ฮาฟที่ทำหน้างงก็คว้ามือนั้นเอาไว้ก่อนจะกระโดดขึ้นหลังเจ้า-โซอี้- ไวเวิร์นแคระแสดงท่าทีไม่พอใจครั้งนึงแต่เฟเลเน่ก็ลูบบริเวณคอของมันสักสองสามครั้ง ก่อนที่มันจะนิ่งให้ฮาฟได้นั่ง

    ชายหนุ่มผู้มีคาแร็กเตอร์เดิมทีเป็นคนไม่สนโลก ไม่ได้สังเกตุสาวน้อยที่กำลังหูแดงอยู่ด้านหน้าของเขา 

    "ที่เดิมที่ประจำเลยเจ้าค่ะโซอี้ บินขึ้นไปเลย"

    ไวเวิร์นแคระ สะบัดปีกนำพาทั้งสองขึ้นสู่ท้องฟ้า 

    (อ่าาาา..ทิศทางมันคนละทิศกับที่เราจะไปเลยนี่หว่า..)

    และเราก็ได้รู้ข้อมูลอีกอย่างนึงว่า ฮาฟเป็นพวกหลงทิศ..

    ระหว่างทางฮาฟได้จ้องมองทิวทัศน์ด้านล่าง ถัดจากผืนป่าทึบก็เป็นแผ่นดินที่แห้งแล้งสลับกับป่าที่ดูน่ากลัว ทั่วทั้งทวีปนี้มีแต่ทิวทัศน์เช่นนั่น..

    3ชั่วโมงผ่านไป

    เฟเลเน่ แอบหันมามองฮาฟที่กำลังเหม่อลอยเป็นระยะๆ

    "ก่อนหน้านี้แดนรกร้าง ไม่ได้เงียบเหงาแบบนี้นะเจ้าคะ"

    ฮาฟเงยหน้าขึ้นฟังสาวน้อยตรงหน้า

    "องค์ราชา แห่งทวีปนี้น่ะ พยายามสร้างความสัมพันธ์กับทวีปอื่นๆอยู่เสมอเจ้าค่ะ เรือขนส่งสินค้ามากมายถูกซื้อมาเพื่อให้ธุรกิจระหว่างทวีปได้ขับเคลื่อน แลกเปลี่ยนทรัพยากรต่างๆกับทวีปสรวงสวรรค์ ด้วยแรงกายแรงใจของพระองค์นั้นทำให้เหล่าประชาชนยิ้มได้เจ้าคะ แต่ว่า..ตั้งแต่เดือนก่อน ทุกอย่างก็ดูแย่ลงซะอย่างนั้นเจ้าค่ะรอยยิ้มของประชาชนอยู่ๆก็ค่อยๆหายไป... สงครามใหญ่กำลังจะมาสินะเจ้าคะ..จากที่มนุษย์อย่างท่านหนีเข้ามาในป่าลึกเช่นนี้ กองทหารที่เพิ่มขึ้นจนน่าตกใจ กลิ่นคาวเลือดที่ล่องลอยมาตามสายลม.."

    "อ่า..ใช่แล้วล่ะ"

    ฮาฟ พูดขัดขึ้นมา

    "องค์ราชาองค์ก่อนถูกสังหารไปแล้ว ตอนนี้ไอ้บ้าที่มานั่งบันลังค์แทน กับ หนึ่งในชิ้นส่วนแห่งพระเจ้า กำลังจะก่อมหาสงคราม..."

    วูป!!!

    ในตอนที่ฮาฟกำลังพูดอยู่ ท้องทะเลด้านหน้ากลับเปล่งแสงสีม่วงออกมาจากใต้ผืนน้ำ

    "นั่นมันอะไร.."

     ความรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีแล่นเข้าหาชายหนุ่ม

    "ไม่รู้เหมือนกันเจ้าค่ะ อาจจะเป็นปรากฏการณ์อะไรสักอย่าง แสงแบบเมื่อครู่ เกิดขึ้นหลายครั้งแล้วนะเจ้าคะ แต่พอได้ลองดำน้ำลงไปดูก็ไม่เห็นอะไรผิดปกติเลยเจ้าค่ะ"

    ฮาฟยังคงทำหน้าสงสัย แต่ก็ตัดสินใจปล่อยผ่านไปและแล้วทั้งสองก็เดินทางออกจากเขตทวีปแดนรกร้าง มุ่งหน้าสู่ท้องทะเล

    ....

    และแล้วเวลาก็ผ่านจนถึงช่วงพลบค่ำอย่างรวดเร็ว เฟเลเน่ ได้หยุดพักที่หมู่เกาะหนึ่งที่ระหว่างทาง ระยะทางทั้งหมดอยู่ที่ราวๆ3200กิโลเมตร

    ระยะทางที่เหลืออีกประมาณ1200กิโลเมตรเห็นจะได้ เฟเลเน่ อธิบายอย่างนั้น เกาะแห่งนี้เป็นเกาะที่สาวน้อยใช้เป็นที่พักประจำอยู่แล้ว เฟเลเน่ให้โซอี้ลงจอดที่ชายหาด ก่อนที่ทั้งฮาฟและเฟเลเน่จะก่อไฟตั้งแคมป์และหาเสบียงอาหาร เวลาผ่านเลยไปจนถึงช่วงกลางคืน...

    น้ำทะเลที่ซัดสาดเข้าฟังอยู่ๆก็มีประกายแสงสีน้ำเงินดวงเล็กๆจำนวนนับไม่ถ้วนส่องสว่างขึ้นมาทั่วทั้งชายฝั่ง ฮาฟแสดงท่าทางสนใจเล็กน้อย

    "สวยใช่ไหมล่ะเจ้าคะ นั่นคือสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่ในช่วงกลางคืนจะถูกพัดพามากับน้ำทะเลซึ่งตัวมันส่องแสงในที่มืดได้เจ้าค่ะ"

    "หืมม เธอเนี่ยรู้อะไรหลายอย่างดีนะ"

    "ก็รู้เฉพาะเรื่องที่รู้นั่นแหละเจ้าค่ะ.."

    ฮาฟที่ทำหน้าที่เฝ้ายามจ้องมองบรรยากาศอันงดงามนี้เงียบๆ เฟเลเน่ที่ขอตัวไปพักผ่อนได้เข้าไปนอนที่ลำตัวของเจ้าโซอี้ ไวเวิร์นแคระก็กางปีกคลุมเธอไว้เหมือนดังผ้าห่ม หนึ่งสาวน้อยและสัตว์เลี้ยงของเธอได้หลับไป 

    ฮาฟถอนหายใจเฮือกยาวออกมา ในวันนี้ชายหนุ่มต้องเจออะไรมามาก การที่ต้องทอดทิ้งอาจารย์ของตนเพื่อทำตามคำสั่งนั้นกำลังทำให้ฮาฟรู้สึกผิดในภายหลัง (ถ้าเรากระโดดเข้าไปช่วยอาจารย์ แล้วเข้าปะทะกับชิ้นส่วนแห่งพระเจ้านั่น ผลมันจะออกมาเป็นยังไงกันนะ..อาจารย์ตอนนี้เป็นตายร้ายดีอะไรยังไงก็ไม่รู้..หรือบางทีอาจจะ...)

    ฮาฟกัดฟันแน่นพร้อมกับยกมือขึ้นกุมศีรษะ..

    (ที่ตาลุงนั่นต้องมาตายน่ะมันก็ความผิดแกนั่นแหละ..)น้ำเสียงเย้ยหยั่นอันคุ้นเคยดังขึ้นมาจากข้างในโสตประสาท อีกหนึ่งตัวตนของเขาพูดแทงใจดำ 

    "ยังไม่มีอะไรยืนยันสักหน่อย.."

    (แกรู้แก่ใจดีอยู่แล้วหนิ ความรู้สึกเวลาที่เผชิญหน้ากับชิ้นส่วนแห่งเทพเจ้าน่ะ) ใช่แล้ว ฮาฟนั้นรู้ดี สิ่งนั้นไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถต่อกรได้ รู้ดีอยู่แล้ว...

    (ถ้าหากเป็นข้า อาจจะชนะมันได้ก็ได้นะ ฮ่าๆๆๆๆ อย่างน้อยข้าก็ไม่ได้หนีหัวซุกหัวซุนอย่างเจ้า)

    "หุบปากน่า!!!"

    (แกน่ะพัตนาขึ้นเจ้าฝันกลางวัน..แต่นั่นยังไม่เท่ากับเศษเสี้ยวของข้าด้วยซ้ำ รีบๆตายๆแล้วคืนร่างข้ามาสักทีเถอะน่า!!!!อยู่ต่อไปก็มีแต่จะแสดงความอ่อนแอเจ็บปวด น่าสมเพช เสียเปล่าๆ!!!)

    "ไม่ได้หรอก...ฉันยังมีสิ่งที่ต้องปกป้องอยู่..รอยยิ้มของยัยนั่น" 

    ใบหน้าของอนนะที่กำลังแย้มยิ้มปรากฏขึ้นมา พอที่จะทำให้หัวใจของฮาฟอบอุ่นขึ้นมาเล็กน้อย 

    (หึ...)  อีกหนึ่งตัวตนสบถออกมาเบาๆก่อนจะเงียบหายไป

    ฮาฟที่เริ่มสงบใจได้ก็ล้มตัวลงนอนบนหาดทรายที่กะระยะเวลาน้ำทะเลขึ้นสูงที่สุดไว้แล้ว ว่าจะไม่เปียกอย่างแน่นอนเวลาน้ำขึ้น

    "ตอนนี้จะเป็นยังไงบ้างนะ.. คิดถึงเธอชะมัด...
     

    ........................................................................................................................................................................... 
     

    รุ่งเช้าของอีกวัน 

    เฟเลน่า ค่อยๆลืมตารับแสงอ่อนๆยามเช้า สาวน้อยสีขี้เถ้าปิดปากหาวครั้งหนึ่ง สายตาค่อยๆปรับให้มองเห็นได้ชัด 

    เธอมุดออกมาจากปีกของโซอี้ช้าๆ ไวเวิร์นแคระร้องทักทายกับเธอ จากนั้นสายตาของสาวน้อยก็เหลือบไปเห็นร่างของฮาฟนั่งอยู่ไม่ไกลจากเธอนัก 

    เฟเลเน่ ค่อยๆขยับเข้าไปหาฮาฟ เมื่อได้ยินเสียงของการเคลื่อนไหว ชายหนุ่มลืมตาขึ้นและจ้องไปทางต้นเสียง

    "โย้ว อรุณสวัสดิ์"

    เมื่อเห็นที่มาของเสียงนั้นคือเฟเลเน่ ฮาฟก็กล่าวคำทักทาย 

    "เจ้าค่ะ  นี่เฝ้ายามตรงนี้จนถึงเจ้าเลยหรือเจ้าคะ"

    "ก็นะ แต่ไม่ได้ตื่นตลอดหรอก บางทีก็เผลอหลับไปบ้างน่ะ"

    เฟเลเน่ยิ้มให้ชายหนุ่มก่อนจะเดินกลับไปหาเจ้าโซอี้ 

    "ท้องหิวหรือเปล่าเจ้าคะ หาอะไรทานกันก่อนค่อยออกเดินทางดีไหมเจ้าคะ"

    "ก็ดีนะ งั้นเดี๋ยวฉันไปหาวัตถุดิบก็แล้วกัน"

    ...............................

    หลังจากทานอาหารเช้าแล้วทั้งสองก็ออกเดินทางต่อ 

    .....

    ตัดภาพมาที่เมืองหลวงแซงซัวรี่เมืองหลวงแห่งทวีปผืนแผ่นดิน

    องค์ราชาดรักม่ากำลังนั่งขมวดคิ้วอยู่ในห้องทรงงานของตน

    สัญญาณชีพจากนาฬิกาของวันไดรฟ์หายไป..

    นาฬิกาที่ปัญญาแห่งบรรพกาลสร้างไว้แจกจ่ายให้กับ อัศวินของภาคีย์นั้นติออุปกรณ์วัดสัญญาณชีพไว้ทุกเรือน ในการสอบหรือการฝึกจะมีเวทย์รักษาขั้นสูงใส่ไว้ด้วย แต่ถ้าหากออกไปทำภารกิจเวทย์รักษานี้จะถูกถอดออกไปเพื่อให้อัศวินแห่งภาคีย์ตระหนักไว้เสมอว่า ทุกๆต่างมีแค่ชีวิตเดียว..

    "สูญเสียอัศวินระดับ4ไปอีกคนหรือเนี้ย….

    เรื่องของการสูญเสียไม่ใช่เรื่องใหญ่มากเท่าไหร่แต่เป็นการสูญเสียจากภารกิจที่ไม่น่าจะอันตรายนี่สิแถมเป็นวันไดรฟ์ผู้ใช้เวทย์ธาตุความมืดสายลวงตาอีก..

    "ข้าชักสังหรณ์ใจไม่ดีแล้วสิ"

    .........................................

    ทางฝั่งปราสาทสีดำแห่งทวีปแดนรกร้าง

    "นำกำลังพลทั้งหมดทยอยขึ้นเรือขนส่งซ่ะ"

    บนท้องฟ้ารอบๆปราสาท มีเรือขนส่งสินค้านับร้อยลำบินวนช้าๆอยู่รอบๆปราสาทนั้น

    "หึๆๆ ใช้สิ่งที่มันสร้างขึ้นบุกโจมตีพวกมันเอง คงจะรู้สึกเจ็บปวดหัวใจอย่างมากแน่นอน เหล่าพวกมนุษย์"  

    ...................

    ท้องฟ้าตัดผ่านกับผืนทะเล ทำให้บางครั้งก็สับสนว่าด้านไหนคือท้องฟ้าด้านไหนคือทะเล ฮาฟที่นั่งชมวิวเงียบๆจู่ๆก็รู้สึกขนลุกขึ้นมาอีกครั้ง

    "อะไรน่ะ.."

    ชายหนุ่มสบถออกมา

    หมู่เกาะเล็กๆที่เขาได้บินผ่านได้ให้ความรู้สึกแปลกๆ ความรู้สึกเดียวกันกับเวลาที่ได้เผชิญหน้ากับชิ้นส่วนแห่งพระเจ้า...

    ฮาฟจ้องไปที่เกาะนั้นตาไม่กระพริบ จนเฟเลเน่ต้องทักเขา

    "มีอะไรงั้นเหรอเจ้าคะ.."

    "เธอรู้จักเกาะเล็กๆนั่นหรือเปล่า"  

    ชายหนุ่มชี้นิ้วไปที่เกาะนั้น

    "ขออภัยเจ้าค่ะ ไม่รู้จักเลยเจ้าค่ะ"

    ฮาฟถอนหายใจแต่ก็ปล่อยผ่านไปอีกครั้ง สิ่งที่เขาต้องการตอนนี้ก็แค่ไปแจ้งข้อมูลกับองค์ราชาหลังจากนั้นก็จะกลับบ้านไปหาอนนะ ต้องการแค่นั้น...

    และแล้วเจ้าไวเวิร์นแคระก็ทยานเข้าสู่เขตแดนแห่งทวีปผืนแผ่นดิน

    ...............................................................................................................................................................

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×