ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฮาฟ กับ 12 ชิ้นส่วนแห่งพระเจ้า

    ลำดับตอนที่ #29 : สัญญาณแห่งมหาสงคราม

    • อัปเดตล่าสุด 19 ส.ค. 65


    ....ริดแวน.... หนึ่งในหัวหน้าทีมวิจัยเวทย์มนต์อันสูงส่งของเผ่าเซเลนเทียร์ ค่อยๆขยับร่างกายช้าๆ เขายันตัวลุกขึ้นมานั่งอย่างยากลำบาก มือขวาจับไปที่คางและลูบไปมาเพื่อสำรวจความเสียหาย (นี่ข้า...ยังไม่ตายเหรอเนี่ย..) ก่อนจะร่างเวทย์มนต์รักษาขั้นสูง เพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกาย จนหายเป็นปลิดทิ้ง

    เซเลนเทียร์หนุ่มเหลือไปเห็นก้อนน้ำแข็งทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าใกล้ๆกับตน มีข้อความสลักเอาไว้อยู่ว่า

    -ข้าตั้งใจที่จะไม่เอาชีวิตเจ้า เจ้าคงเป็นกำลังหลักของเผ่าพันธ์ุ เป็นบุคคลสำคัญของฝั่งนั้น ข้าไม่อาจรับผิดชอบต่อผลเสียที่จะตามมาได้ 

    และอีกเหตุผล ข้าไว้ชีวิตเจ้า เพราะข้าอยากจะขอร้อง ได้โปรดปล่อยข้ากับอัศวินเผ่ามนุษย์คนนั้นด้วย หวังว่าเจ้าจะตกลง-

    หึ... 

    เปล้ง!  ริดแวนแสยะยิ้มและทำลายก้อนน้ำแข็งนั้นทิ้ง

    "หึๆ ยื่นข้อตกลงกับข้างั้นเหรอ ก็ย่อมได้ ข้าจะเลิกคิดถึงการไล่ล่าพวกเจ้าไปสักระยะ"

    ริดแวนสยายปีกออกและออกตัวบินกลับ -สรวงสวรรค์-  "แค่สักระยะ น่ะนะ เตรียมใจไว้ได้เลย..เหล่ามนุษย์.."

    ...................................................................................................................

    ณ พระราชวังของดินแดนมอดไหม้ ท่ามกลางซากศพของเหล่าทหารมากมาย ยังมีเสียงคมดาบฟาดฟันกัน ดังขึ้นเป็นระยะ

    -แอสทารอส-  ลูกชายของกษัตริย์เผ่าดีเวียร์ กำลังต่อสู้อยู่กับ ชายผมยาวเส้นผมสีแดงใบหูยาวแหลม นามว่า -อาม่อน-

    รอบกายของทั้งคู่มีเหล่าทหารเผ่าดีเวียร์รายล้อมอยู่  ณ ข้างล่างบัลลังก์ มีซากศพของกษัตริย์ผู้เป็นพ่อของแอสทารอสนอนนิ่งจมกองเลือดอยู่

    ที่กลางลำตัวมีบาดแผลวงกลมคล้ายกับโดนแทงทะลุเป็นรูอยู่ 

    บนบัลลังก์นั้น มีชายอีกคนที่มีนัยย์ตาเป็นดังสัตว์ร้าย คล้ายกับอีกตัวตนของฮาฟ ร่างกายใหญ่โตและเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ ออร่ารอบตัวที่แผ่ออกมาแทบจะทำให้ผู้ที่สบตาเข่าอ่อน ผู้ที่เป็น 1 ใน 12 ชิ้นส่วนแห่งพระเจ้า -กายาแห่งบรรพกาล-  ชิ้นส่วนของพระเจ้านั้นกำลังจ้องมองการต่อสู้ของแอสทารอสกับอาม่อนอย่างเบื่อหน่าย  

    "นี่..รีบทำให้จบๆสักทีสิ ข้าแทบจะหลับอยู่แล้ว...." 

    ชิ้นส่วนแห่งเทพนั้นออกคำสั่ง 

    อาม่อนเมื่อได้ยินดังนั้น ก็เร่งฝีดาบให้เร็วขึ้น และในที่สุด ดาบนั้นก็ได้แทงทะลุหน้าอกของแอสทารอส ตรงกลางหัวใจพอดิบพอดี

    แต่องค์ชายที่ถูกครอบงำด้วยความโกรธแค้นหลังจากที่เห็นพ่อของตนถูกชิ้นส่วนแห่งพระเจ้าฆ่าตายต่อหน้าต่อตาบาดแผลที่แทงทะลุหัวใจไปเมื่อครู่ไม่อาจหยุดยั้งความโกรธแค้นได้ แอสทารอส จับข้อมือของอาม่อนแน่น หมายจะเสียบดาบ เคลย์มอร์ของตนสังหารศัตรูตรงหน้าให้ตายตกตามตนไปด้วย

    ฉั๊วะ!!!

    แต่ทว่า แขนข้างที่ใช้จับอาม่อนไว้นั้นอยู่ๆก็ถูกสะบั้นจนขาดกระเด็น 

    อาม่อนใช้มือข้างที่เหลือหยิบมีดสั้นคมกริบออกมาจากกระเป๋ามีดที่ด้านหลังของตน

    จากนั้นก็ใช้มีดนั้น สับลงมาที่แขนของของแอสทารอส เมื่อพ้นพันธนาการ การโจมตีของแอสทารอสก็ไร้ความหมาย อาม่อนหลบดาบที่แทงเข้ามาได้อย่างง่ายดาย แอสทารอสที่เสียหลักจากการพุ่งแทงอากาศถูกมีดสั้นของอาม่อนเสียบเข้าไปที่กลางลำตัวซ้ำอีกครั้ง คราวนี้ร่างขององค์ชายทรุดลงกับพื้น

    "แหม่ๆ คิดว่าวิชาต่อสู้ที่เจ้ามีนั้นใครเป็นคนสอนเจ้ากัน แอสทารอส..."

    อาม่อนพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยั่น 

    "ทำไม..ทำไมท่านต้องทำ..เช่นนี้..ทำไม!!!!!"

    แอสทารอสตวาดลั่น อาม่อนกางมือทั้งสองข้างขึ้นมา 
     

    "ก็เพื่อเผ่าพันธ์ุของพวกเรายังไงล่ะ..ทั้งๆที่เราแข็งแกร่งยิ่งกว่ามนุษย์ สง่างามยิ่งกว่าเหล่าเซเลนเทียร์ แล้วทำไม ดินแดนที่เราอยู่ถึงได้เป็นดินแดนมอดไหม้แห่งนี้ สถานที่ที่แสนแห้งแล้ง ไร้พืชพันธุ์ใดๆงอกงาม เพราะองค์ราชาไร้น้ำยา ที่ตั้งใจแต่เพียงจะผูกมิตรกับทุกเผ่าพันธ์ุ เพื่อหวังเพียงช่องทางการค้าขายและส่วนแบ่งผลผลิตเล็กๆน้อยจากเผ่าพันธ์ุอื่น ข้า คือตัวแทนของความโกรธเกรี้ยวของเผ่าพันธุ์เรา เจ้าลองมองดูแววตาของเหล่าทหารพวกนี้สิ

    เผ่าพันธ์ุเราคือนักสู้ คือสัตว์ร้ายที่กระหายสงคราม พวกเราจะยึดครองผืนแผ่นดินอันร่มเย็ม จะยึดครองสรวงสวรรค์ที่อุดมสมบูรณ์ พวกเราะเป็นผู้ปกครองโลกใบนี้ เหล่าเพื่อนพ้องของเราที่โลกภายนอกนั้น ถูกพวกมนุษย์ ถูกพวกเซเลนเทียร์ จับตัวไปใช้แรงงาน พวกมันเห็นเราเป็นแค่ทาส นี่แหละคือเหตุผล

    สันติไม่ใช่แนวทางของเผ่าพันธ์ุอันแข็งแกร่งเช่นเรา และความต้องการของพวกเรา ก็ตรงกับ ประสงค์ของท่านเทพบรรพกาล ชิ้นส่วนแห่งความแข็งแกร่งและร่างกายที่ไม่มีอาวุธใดๆสร้างความเสียหายให้ได้ ด้วยพลังนั้น พวกเราจะยึดครองทุกเผ่าพันธุ์ และพวกเราจะครองโลก!!!"

    เสียงเหล่าทหารที่รายล้อมไปทั่วทั้งพระราชวังโห่ร้อง และ กายาแห่งบรรพกาลก็ได้แสยะยิ้ม เมื่อองค์ราชาและองค์ชายแห่งอาณาจักรไม่อยู่ที่พระราชวัง

    อาม่อน ได้ส่งกลุ่มนักฆ่าตรงไปสังหาร-แคทซิโอเปีย-องค์หญิงแห่งมวลมนุษย์ เวลานั้นเองอาม่ินและชิ้นส่วนแห่งเทพบรรพกาล ได้ปลุกระดมกำลังทหาร และสำหรับใครที่ไม่คิดจะเข้าร่วม ก็จะทำการสังหารทิ้ง องค์ราชินีที่เป็นผู้ดูแลพระราชวังนั้นถูกกระชากลงมาจากบัลลังก์และถูกใช้เป็นที่ระบายอารมณ์อย่างโหดร้าย อาม่อนที่ใช้พลังของชิ้นส่วนพระเจ้า ยึดครอง ทวีปดินแดนมอดไหม้ได้อย่างรวดเร็ว และทันทีที่องค์ราชากลับมาและทรงทอดพระเนตรเห็นหายนะนี้ ก็ถูก กายาแห่งบรรพกาลสังหารทิ้ง แอสทารอส เมื่อเห็นดังนั้นจึงได้โจมตีกายาแห่งบรรพกาล อาม่อนจึงเข้ามาขวางไว้ก่อนที่ทั้งสองจะปะทะกัน

    แอสทารอสที่สูญเสียความเยือกเย็นไปแล้ว ทำให้ไม่อาจต่อกรกับอาม่อนได้ จึงเป็นดั่งภาพในปัจจุบัน...
     

    "ที่..ดินแดน..แห่งนี้..เสื่อมโทรมน่ะ..มันเป็นเพราะความไม่รู้จักพอของพวกเรา..เผ่าดีเวียร์ตางหาก..ท่านพ่อ..จึงตั้งใจ..จะสอนถึงคุณงามความดีการอยู่อย่างสันติ..ความรู้จักพอ..ท่านไม่ได้..ทำอะไร..ผิดเลยแท้ๆ!!!!! ข้า!!! ขอสาบแช่งเจ้า!! ขอสาบแช่งอาณาจักรแห่งนี้!!! ขอให้พวกเจ้า!!!ล่มสลาย!!!พบเจอแต่เพียงความตาย!!!!และหายนะ!!!!!"

    ฉับ!..

    คลุกๆ..

    "อืม น่าจะฆ่าทิ้งตั้งแต่แรก จะได้ไม่ต้องมาเห่าอะไรไร้สาระ"

    อาม่อนสะบัดเลือดที่เปรอะดาบของตน พร้อมกับเตะหัวของแอสทารอสที่พึ่งหลุดออกจากบ่า......

    "ทหารทุกนาย เตรียมตัวให้พร้อม..."

    อาม่อนออกคำสั่ง..

    "อีก2สัปดาห์..เราจะประกาศ มหาสงครามอีกครั้ง"

    ....................................................................

    ..........................................................................................
     

    ณ ป่าที่อยู่ใจกลางโลก ป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์ที่เป็นดังพื้นที่แห่งชีวิตที่หล่อเลี้ยงทุกเผ่าพันธ์ุ พืชสมุนไพร อันมีค่าต่างๆสามารถหาได้จากป่าแห่งนี้

    ทว่า แม้จะเป็นพื้นที่แห่งชีวิต แต่ป่าแห่งนี้กลับเต็มไปด้วยสัตว์ร้าย ซึ่งจากรายงานการพบเจอครั้งสุดท้าย ก่อนที่ป่าแห่งนี้จะเป็นเขตห้ามเข้า 
     

    รายงานนั้นมีข้อความ การพบเจอสัตว์ร้ายระดับ 7 ระดับสูงที่สุดที่ทุกเผ่าพันธ์ุเคยพบเจอ..

     ณ ใจกลางป่าแห่งนี้ มีสตรีผู้หนึ่งกำลังลืมตาตื่นขึ้น เส้นผมสีเขียวอ่อนที่แต่งแต้มไปด้วยต้นไม้และเถาวัลย์ ชุดเดรสที่สร้างขึ้นมาจากเถาวัลย์และดอกไม้ ดวงตาเขียวมรกตค่อยๆทอประกายออกมา มารดาผู้ได้ชื่อว่าเป็นต้นกำเนิดแห่งชีวิต.. หนึ่งในชิ้นส่วนแห่งเทพเจ้า -ชีวิต แห่งบรรพกาล- 

    ใครกัน...ที่สังหารหนึ่งในบุตรแห่งข้า..ที่ภูเขาน้ำแข็งนั่น.. 
     

    ...............

    ........................
     

    ...............................................................
     


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×