ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฮาฟ กับ 12 ชิ้นส่วนแห่งพระเจ้า

    ลำดับตอนที่ #25 : ไม่คาดคิด

    • อัปเดตล่าสุด 19 ส.ค. 65


    "ทำไมกันนะ ทำไมโลกใบนี้มันถึงได้โหดร้ายนัก" อนนะร่ำไห้ทว่าไร้ซึ่งน้ำตาและวิ่งออกไปอย่างไร้จุดหมาย

    เธอรู้ดีอยู่แล้วว่าตัวเธอนั้นเป็นอะไร แต่ในใจก้ยังคงแอบหวังอยู่บ้างว่าจะอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ แต่ว่าความหวังนั้นพึ่งจะพังลงไปเมื่อครู่ ตอนนี้ผู้คนในหมู่บ้าน -นามิตะ- นั้น

    ได้รับรู้แล้วว่าตัวเธอนั้นคืออะไร เป็นตัวอะไร..

    ขณะที่เธอกำลังจมอยู่ในหมู่มวนห้วงความคิดนั้น สันหลังที่เย็นเยือกของเธอกลับรู้สึกเสียววูบขึ้นมา .... (อะไรกัน เมื่อกี้...)

    พรึบ!! เสียงของปีกนกที่อยู่ๆก็กระพือพรึบดังขึ้นมาจากด้านหลังของอนนะจนเธอสะดุ้งโหย่ง

    "โอ้ย่าาาาา---หา เจอ แล้ว ร่างพลังเวทย์อันน่าพิศวง"

    เสียงชายแหลมสูงกล่าวทักทาย ชายผมสีทองในชุดที่คล้ายกับนักบวช พร้อมปีกบนหลังอีก2คู่ กำลังส่งยิ้มมาที่อนนะทว่ารอยยิ้มนั้นมันกลับไม่ได้ทำให้รู้สึกเป็นมิตรเลยสักนิด

    (ร่างกายที่ดูสง่างามพร้อมกับปีกเช่นนั้น..เผ่าเซเลนเทียร์เหรอ..)

    "มีอะไรงั้นหรือ"

    "อ่อ ข้าน่ะไม่มีธุระอะไรกับเจ้าหรอกแต่ข้ามีะธุระกับหัวใจของเจ้าตางหาก"

    เซเลนเทียร์หนุ่มแสยะยิ้มก่อนจะโฉบลงมาใช้มือข้างนึงบีบเข้าที่คอของอนนะและยกเธอลอยขึ้นกลางอากาศ

    "ค๊อก!! อั๊ค! มะ มือ ของเจ้า..มันร้อน..ปล่อยข้า.."

    "ร่างกายของเจ้าน่ะมันจะเป็นยังไงข้าไม่สนใจหรอก ก็บอกแล้วไงที่ข้าต้องการน่ะคือหัวใจดวงนั้นของเจ้าตางหาก หึๆๆ หัวใจที่เยือกแข็งและหยุดนิ่งไปเพราะไม่สามารถ

    ควบคุมเวทย์มนต์ธาตุน้ำแข็งในตัวที่ตื่นขึ้นมาได้ แทนที่จะตายแต่กลับทำให้ร่างกายแปรสภาพเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าจะมองมุมไหนๆ มันก็ช่างน่าสนใจจริงๆ ช่างเหมาะกับการเป็นหนึ่งในงานวิจัยของข้าจริง"

    อนนะพยายามดิ้นขัดขืนแต่แขนขาของเธอตอนนี้ถูกล็อคเอาไว้ด้วยเวทย์มนต์ธาตุแสงที่ไม่รู้ว่าร่ายขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่

    "อ่าาาา ไม่ต้องดิ้นรนไปหรอก อีกนิดเดียวก็จบแล้ว" เซเลนเทียร์หนุ่มง้างมืออีกข้างตั้งท่าจะทลวงเข้าที่กลางอกของอนนะ

    (อะไรกัน..ทำลายความหวังข้า..ถัดมาก็ให้ข้าต้องมาตายงั้นเหรอ..ไม่ยุติธรรม โชคชะตาบัดซบ ทำไมเรื่องแบบนี้..มันต้องเกิดกับข้า ทำไม..ข้าทำอะไรผิดงั้นเหรอโชคชะตา คำว่าความสุขนั้นข้าจะไม่อาจได้สัมผัสเลยงั้นเหรอ..ข้ายังไม่อยากตาย..ช่วยข้าด้วย...)

    แม้แต่จะร่ำไห้กับโชคชะตาของตนยังไม่อาจทำได้ ฝ่ามือของชายเผ่าเซเลนเทียร์พุ่งตรงเข้ามาหาที่หัวใจเธอ

    ทุกอย่างที่มี ลมหายใจ ความรู้สึก ราวกับถูกตัดขาดไปช่วงหนึ่ง

    ฉึก!!!!!

    ฝ่ามือของเผ่าเซเลนเทียร์คนนั้นกระแทกเข้ากับแผ่นน้ำแข็งหน้ารูปทรงเกล็ดหิมะที่ปรากฏขึ้น 

    "อะไรกัน!!!"

    "-โหมดเคลื่อนที่!!!-" 

    ตูม!!! ด้วยความเร็วระเบิดจากไอพ่นฮาฟพุ่งตัวผ่านวงเวทย์น้ำแข็งอย่างรวดเร็วและพุ่งเข้าหาเผ่าเซเลนเทียร์คนนั้น

    เพล้ง!! 

    เสียงดังราวกับแก้วที่แตก ฮาฟหวดมือทำลายเวทย์กักขังของเซเลนเทียร์หนุ่มพร้อมกับรับตัวอนนะที่หลุดออกจากพันธนาการเข้ามามาไว้ในอ้อมแขน 

    "แหม่ๆเสียมารยาทกันจังเลยนะครับ" 

    เซเลนเทียร์คนนั้นปัดๆแขนเสื้อ

    ความรู้สึกอบอุ่นทำให้สตรีหิมะในอ้อมกอดค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆ เพราะพึ่งพุ่งผ่านวงเวทย์น้ำแข็งทำให้ร่างกายของฮาฟเย็นลงอย่างรวดเร็วด้วยเหตุนั้นชายหนุ่มจึงสามารถสัมผัสกับเธอได้  

    "แกเป็นใครต้องการอะไรวะ!!"

    ฮาฟตวาดลั่น 

    "อ่า ข้ายังมิได้แนะนำตัวสินะ ข้ามีนามว่า -ริดแวน- เป็นหัวหน้านักวิจัยด้านพลังเวทย์แห่งเผ่าเซเลนเทียร์ที่ยิ่งใหญ่ อันที่จริงข้าก็ไม่อยากลงมายุ่งกับทวีปผืนแผ่นดินนักหรอก ทว่าภูเขาใหญ่ลูกนี้มันเป็นเส้นแบ่งเขตแดนทวีป ข้าเลยลองข้ามมาสังเกตุการดู ไม่คิดว่าจะเจอสิ่งที่น่าสนใจเช่นร่างพลังเวทย์ที่อยู่กับเจ้านั่นล่ะ ไหนจะเป็นเวทย์หายากอย่างธาตุน้ำแข็งเสียด้วย

    ข้าไม่อยากมีปัญหากับเผ่ามนุษย์ชั้นต่ำหรอก ส่งสิ่งนั้นมาให้ข้าได้แล้วแล้วกลับไปซะ"

    "บ่นบ้าอะไรของแก ละเมอเหรอ"

    ฮาฟตั้งใจจะหาเรื่อง

    และดูเหมือนจะได้ผล ริดแวน ชักสีหน้าอย่างเสียอารมณ์และกางวงเวทย์ออกมา แทนที่วงเวทย์จะเกิดขึ้นเพียงวงเดียวและเป็นสีเดียวของธาตุนั้นๆ วงเวทย์ของริดแวนนั้น กลับเป็นสีรุ้งและมีหลายวงเวทย์ซ้อนทับกัน และดูสวยงามและอันตราย 

    "ข้าขอเตือนครั้งสุดท้าย ถ้าไม่อยากตายส่งนางมาซะ ข้าคือแนวหน้าด้านเวทย์มนต์ของเผ่าพันธ์ ไร้ประโยชน์ถ้าคิดจะต่อกร"

    "ไม่ลองมันก็ไม่รู้!!!ฉันขอท้าดวลกับแก..ถ้าฉันชนะแกต้องห้ามยุ่งกับเธออีก!"

    "โอ้ดูเจ้าเด็กน้อยนี่สิ งั้นแล้วถ้าข้าชนะ ข้าจะควักหัวใจนางออกมาต่อหน้าเจ้าและสะบั้นศีรษะนางเสียบประจารไว้ตรงหน้าเจ้าขณะที่เจ้าโดนตัดแขนตัดขาออกจนหมดก็แล้วกัน"

    ฮาฟกัดฟันแน่น ชายหนุ่มค่อยๆร่อนลงกับพื้นและวางอนนะลงอย่างเบามือ

    "เจ้า..ทำไมต้องเอาชีวิตมาเสี่ยงเพื่อข้าด้วยกัน เจ้ากับข้าแทบไม่รู้จักกันเลยแท้ๆ"

    สตรีหิมะถามด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ สติของเธอตอนนี้กำลังเลือนลาง

    ฮาฟถอนหายใจออกมา ก่อนจะยิ้มและตอบกลับเธอไป

    "หลงรักไปแล้วยังไงล่ะ"

    อนนะที่ได้ยินดังนั้นแสดงรอยยิ้มออกมาครั้งหนึงก่อนจะหลับลงไป

    ฮาฟร่าย-ปราการน้ำแข็ง-ป้องกันเธอเผื่อเอาไว้ก่อนจะหันหลังและบินขึ้นเข้าประจันษ์หน้ากับ ริดแวน  ฮาฟง้างหมัดขวาตรงเข้าหาริดแวนพร้อมกันกับที่ริดแวนกางวงเวทย์ออกมาเป็นวงเวทย์ที่แปลกประหลาดนอกจากจะกางออกมาพร้อมกัยสามวงรอบตัวแล้ว วงเวทย์นั้นยังหมุนรอบตัวผู้ใช้และแทนที่สีของวงเวทย์จะเป็นไปตามธาตุที่ใช้งาน แต่ของริดแวนนั้น 

    กลับเป็นวงเวทย์สีรุ้ง

    ตึง!! ฮาฟซัดหมัดขวาใส่ริดแวน ทว่ากำปั้นนั้นถูกขวางเอาไว้ด้วยเกราะป้องกันโปร่งใส 

    (เวทย์ป้องกันเหมือนในสนามประลอง!!??) ฮาฟแสดงสีหน้าตื่นตระหนกออกมา 

    ฟึบ!  คมดาบเล่มหนึ่งฟาดลงมาใส่ฮาฟทำให้ชายหนุ่มต้องถอยร่นออกมา ดาบที่สร้างจากเวทย์แห่งแสงลอยอยู่ข้างๆกับริดแวน เพียงแค่ชายหนุ่มเผ่าเซเลนเทียร์วาดมืดไปตามอากาศ

    ดาบเล่มนั้นก็กวัดแกว่งตามด้วย ริดแวนโบกมือไปมาอย่าถี่รัว คอมดาบเล่มนั้นก็ไล่ฟันฟาดใส่ฮาฟอย่างบ้าคลั่ง และแล้วคมดาบนั้นก็ไล่ฮาฟจนทัน ดาบที่ฟันเข้ามาในแนวราบนั้น

    ฮาฟไม่สามารถหลบพ้นได้ 

    ฉั๊วะ!! และดาบนั้นก็เรียกเลือดออกมาจากแผ่นอกของชายหนุ่ม

    "อั๊ก!! "

    "หึๆ นี่เจ้ามนุษย์ชั้นต่ำ สำหรับเผ่าเซเลนเทียร์น่ะ นักวิจัยพลังเวทย์คือผู้ที่แข่งแกร่งที่สุดเหมือนแม่ทัพนั้นแหละ อย่าเอาชีวิตมาทิ้งเลยส่งนางมาให้ข้าซะ"

    "ละเมออยู่หรือไง"

    ตูม!!!

    วงเวทย์เปลวเพลิงเข้มข้นปรากฏขึ้นที่ใต้เท้าของริดแวน ก่อนที่เสาเปลวเพลิงจะพวยพุ่งขึ้นมากลืนกินริดแวนเข้าไป 

    "หึๆ คิดว่าเกราะเวทย์มนต์ระดับสูงนี้จะพังเพราะเวทย์กระจอกๆแบบนี้หรือไง"

    พรึบ!  เสาเปลวเพลิงสูญสลายไปทันทีที่ริดแวนพูด ทว่าเมื่อเปลวเพลิงนั้นหายไป ร่างของฮาฟก็ปรากฏขึ้นมาพร้อมกับดาบในมือตรงหน้าของริดแวน

    "-คมเขี้ยววายุ-" 

    เพล้ง! 

    ด้วยการใช้กระบวนท่านั้นในระยะประชิด ทำให้เกราะป้องกันของริดแวนนั้นแตกลง

    "ความคิดตื้นๆ" ริดแวนแสยะยิ้ม

    คมดาบของฮาฟไม่สามารถเข้าถึงตัวเขา มีเกราะป้องกันเวทย์มนต์อีกชั้นนึงซ้อนทับชั้นแรกอยู่ 

    ฉั๊วะะ! 

    "อึก!"  คมดาบที่ลอยอย่างอิสระตวัดเข้าฟันที่ต้นแขนของฮาฟจนเลือดกระเซน ฮาฟสะบัดปีกเปลวเพลิงที่กางขึ้นแทน -โหมดเคลื่อนที่-ที่กลายเป็นดาบประคองตัวเองไว้กลางอากาศ

    (โชคยังดีที่ไม่แข็งเท่าเกราะของสนามประลอง แต่มันดันมีอีกชั้นนึซ้อนไว้นี่สิ) หนำซ้ำเพียงทำลายไปแค่ไม่กี่วินาที เกราะชั้นที่พึ่งแตกไปของริดแวนก็ถูกสร้างขึ้นมาใหม่อีกครั้ง

    "จะทำยังไง.."

    ตึกตึก...

    (ปล่อยข้าออกมาซะสิ)

    เสียงที่ดังกังวาลขึ้นมาในหัวทำเอาฮาฟหน้าซีดเผือก ตัวเขาอีกคนกำลังแสยะยิ้มท่ามกลางความมืดมิด 

    "ไม่ แกน่ะอยู่นิ่งๆไปแบบนั้นแหละ..ร่างกายเดียวกัน อะไรที่แกทำได้ฉันก็ต้องทำได้"

    ฮาฟบ่นพึมพำกับตัวเอง 

    วูป!  วงเวทย์แสงถูกฮาฟกางขึ้นมา ดาบเวทย์มนต์แบบเดียวกับริดแวนถูกสร้างขึ้นมาและลอยอยู่ข้างกายฮาฟ ตอนนี้บรรยากาศรอบๆตัวของชายหนุ่มได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

    "???หื้ม???เวทย์มนต์ธาตุแสง ไฟ ก่อนหน้านี้ก็ธาตุน้ำแข็ง มนุษย์ไม่มีทางใช้เวทย์ได้แบบพวกเราแน่นอน อ่าาา ดูเหมือนข้าจะเจอของที่น่าสนใจเขาอีกชิ้นซะแล้วสิ"

    ริดแวน แสยะยิ้ม พร้อมกับหัวเราะด้วยเสียงแหลมสูง ฮาฟสะบัดปีกเพลิงพุ่งเข้าใส่ริดแวนอีกครั้ง คมดาบของเผ่าเซเลนเทียร์ตอบสนองโดยทันที มันฟาดลงมาที่ฮาฟ ชายหนุ่มใช้ดาบเวทย์ที่ควบคุมด้วยมือซ้ายเหวี่ยงรับไว้ จากนั้นก็เหวี่ยงคาตานะในมือขวาฟาดใส่ริดแวน

    เปรี้ยง! 

    ประกายแสงจากการปะทะแตกกระจาย 

    เปรี้ยง!เปรี้ยง!เปรี้ยง! 

    พอเริ่มจับจังหวะการโจมตีของริดแวนได้ ฮาฟสลับการรับดาบเวทย์และโจมตีไปเรื่อยๆ จนฮาฟเริ่มรู้สึกถึงความร้าวของเกราะชั้นแรก

    (ชนะได้แน่! ถ้าเป็นแบบนี้เรื่อยๆล่ะก็!!)

    ฮาฟเริ่มรู้สึกถึงเปอร์เซ็นต์ที่จะชนะ ทว่า..

    "เยี่ยมยอด" 

    ริดแวนกางวงเวทย์ขึ้นมาตรงหน้าฮาฟ "นี่คิดจริงๆเหรอว่าที่ข้าใช้ได้จะมีแค่ดาบนี้น่ะ"

    ตูม!!!! 

    เปลวเพลิงคำสาปสีดำถูกซัดเข้ามาตรงหน้าฮาฟอย่างจัง ฮาฟใช้ปีกเพลิงของเขายกขึ้นมาบังไว้ได้ทัน ยังไม่หมดเท่านั้น วงเวทย์อีกวงถูกกางขึ้นด้านหลังฮาฟ ลูกศรเวทย์แสงหลายดอกถูกยิงเข้ามา ฮาฟควบคุมดาบเวทย์มนต์ปัดทิ้งไปได้แต่ไม่ได้ทั้งหมด 

    ฉึก!  อั๊ค..

    ลูกศรดอกหนึ่งที่ฮาฟปัดได้ไม่หมดเสียบเข้ามาที่หัวไหล่ของชายหนุ่ม ก่อนจะสลายไปทิ้งไว้แต่บาดแผล ริดแวนไม่คิดจะปล่อยให้ฮาฟได้หยุดพัก

    วงเวทย์อีก2วง ถูกร่ายขึ้นประกบด้านข้างฮาฟ ก่อนจะปล่อยคลื่นเปลวเพลิงออกมาทำให้ฮาฟต้องสะบัดปีกถอย ทว่าถอยก็ถอยไปเจอคมดาบเวทย์

    ของริดแวนที่ฟาดลงมา เรียกเลือดออกจากแผ่นหลังของฮาฟ ต่อด้วยวงเวทย์อีกวงที่ถูกสร้างขึ้นในระยะประชิดที่ปล่อยสายลมคมกริบสร้างรอยบาด

    หลายรอยให้กับฮาฟและพัดให้เขาลอยกลับไปทางริดแวนที่กางวงเวทย์รอไว้ราวกับคำนวนไว้แล้ว ซัดเปลวเพลิงคำสาปเข้ากลางอกของฮาฟอย่างจัง

    ทำให้ฮาฟ ปลิวร่วงลงไปบนพื้นหิมะจนควันฟุ้ง 

    แฮก..แฮก..อั๊ค (แย่ล่ะ...เวทย์ของมัน..มองไม่ทัน..) ฮาฟกระอั๊คเอาลิ่มเลือดออกมาจากลำคอ ร่างกายของชายหนุ่มที่โดนเพลิงคำสาปซัดไปหมาดๆ

    หนักอึ้งจนขยับไปไหนไม่ได้ 

    (เน่ๆ รีบๆปล่อยข้าสักทีเซ่!! จะตายเอาแล้วไม่ใช่เหรอ!!!)เสียงในหัวของฮาฟดังขึ้นอีกครั้ง เสียงโซ่ตรวนถูกกระชากดังขึ้นอย่างรุนแรงพอๆกับอาการปวดหัวของฮาฟที่อยู่ๆก็แล่นขึ้นมา 

    "ไม่ แกน่ะ..อยู่เฉยๆไปเถอะ"

    (ถ้าข้ายังถูกพันธนาการอยู่ ตอนเจ้าตายข้าก็ช่วยอะไรไม่ได้นะ ฮ่าๆๆๆๆ ถ้าเจ้าตายเจ้าก็ปกป้องอะไรไม่ได้ สตรีคนนั้นก็ด้วย)

    "เออ..หุบปากไปเถอะ..ตอนนี้ฉันกำลังคิดอยู่..ว่าจะรอดจากไอ้ที่อยู่บนฟ้านั้นยังไงดี"

    ฮาฟพูดกับอีกตัวตนของเขา บนท้องฟ้าตอนนี้ วงเวทย์นับร้อยไม่สินับพันถูกกางขึ้นเต็มฝืนฟ้าบริเวณนั้น นี่คือ เวทย์มนต์ต้นตำหรับของริดแวน

    -นภาร่วงหล่น- โดยมีริดแวนที่เป็นผู้ร่ายลอยอยู่เหนือวงเวทย์เหล่านั้น ก่อนที่วงเวทย์ทั้งหมด จะปลดปล่อยพลังเวทย์หลากหลายสีสันร่วงหล่นลงมา

    ดั่งสายฝน........

    ...............................................................................................................................................................................................


     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×