ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {จบเเล้ว} My baby ถ้าไม่อยากเป็นพี่ต้องทำยังไง [#markbam ft.Bnior]

    ลำดับตอนที่ #4 : charpter4:อะไรกันว่ะ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.13K
      35
      9 เม.ย. 59

           

    สำหรับคนที่อ่าน My Baby อยู่นะคะ ใครที่ต้องการตอนที่ถูกปิด รบกวนเเจ้งตอนมาเลยรนะคะ ช่วงนี้ไรท์กำลังทำการรีไรท์ใหม่






       "เเบมเเบมมมมมมมมมมมมม"

     

     

    เสียงเรียกชื่อผมดังมาจากข้างล่าง มันเป็นเสียงของพี่ชายสุดหล่อของผมเอง คือวันนี้พี่เเกต้องส่งผมไปเรียนภาษาเกาหลีนะครับ จริงอยู่ที่ผมพูดได้ เเต่ก็เเค่พอสื่อสารได้เท่านั้นเเหละครับ เขียนกับอ่านยังไม่ค่อยคล่อง ผมเลยกะว่าจะไปเรียนก่อนเปิดเทอมสักหน่อย

     

     

    "ลงมาเเล้วครับๆๆๆ" ผมรีบขานรับแล้ววิ่งลงบันไดอย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้พี่ทันเอาไม้มาไล่ตีผมซะก่อน

     

    "ช้าจัง" ครับ ก็เร็วได้แค่นี้แหละครับพี่ชาย ขนาดวิ่งลงมายังบอกช้า ถ้าเอาเร็วกว่านี้ คงต้องกระโดดจากชั้นสองแล้วหล่ะจ้ะ

     

    "เเจบอม อย่าดุน้อง" ปรบมือสิครับ รออะไร พี่จินยองนี่แม่พระแสนประเสริฐถูกส่งลงมาโปรดมนุษย์ตัวน้อยๆอย่างผมชัดๆ

     

    "คร้าบบบบ จินยอง" แล้วพี่ชายสุดชิคก็สิโรราบอย่างเคย งี้แหละให้รู้บ้างว่าใคนใหญ่

     

    "เเบมเเบมมาทานข้าวก่อนสิค่อยออกไป" พี่จินยองจะพาผมเข้าไปในครัวเพื่อทานข้าวเช้าที่เขาคงเตรียมไว้แหละมั้ง แต่ไม่เอาดีกว่านี้มันจะสายแล้วอ่ะ

     

    "เอ่อ ผมว่ามันสายเเล้วอ่ะครับ ผมไปเรียนเลยดีกว่า ค่อยกินทีเดียวตอนกลางวันเลยดีกว่าครับ" ผมตอบกลับแบบยิ้มๆ ก็กลัวจะเสียน้ำใจเหมือนกันนะ แต่มันจะสายจริงๆนะ ถ้าผมมัวแต่โอ้เอ้อ่ะ

     

    "เดี๋ยวเสียสุขภาพหมดนะเเบมเเบม มานั่งกินเลย" แล้วพี่เขาก็ดึงผมจนมาถึงเก้าอี้จนได้ เฮ้ออออ สายนิดๆหน่อยๆก็คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง เนอะ

     

    "เเหม ทีกับเขาไม่เห็นจะห่วงเเบบนี้เลยนะจินยอง"

     

    "พูดมาก ไม่เตรียมรถเลยไป"

     

    "คร้าบบบบ ไปก็ได้ครับ"

     

     

    พอผมถูกพี่จินยองลากมานั่งกินข้าวข้างๆ พี่เเกตักนู้น ตักนี่ให้ผม จนข้าวหมด เลี้ยงผมดีจัง เหมือนผมเป็นลูกชายมากกว่าน้องชายเลยอ่ะ ให้คะแนนบวกล้านเลยครับ คุณว่าที่พี่สะใภ้

     

     

    "เออ เเบม วันนี้เเม่เขาไม่อยู่นะ ไปต่างจังหวัดอีกสองวันแม่ถึงจะกลับ ส่วนพี่กับเเจบอมต้องไปทำธุระที่บ้านพี่อ่ะ เเบมอยากไปกับพวกพี่มั้ย" แววตากังวลฉายชัดในดวงตาของพี่ชายหน้าหวานของผม

     

     

    ถ้าถามว่าอยากไปมั้ย ก็.....เฉยๆนะ ผมไม่ได้อยากไปอะไร แต่ถ้าผมไม่ไปผมก็ต้องอยู่ที่นี่คนเดียวน่ะสิ แต่ถ้าผมไปกับพี่จินยองและพี่แจบอม แล้วเรื่องเรียนผมอ่ะ

     

     

    "ไม่ไปดีกว่าครับ" ผมเลือกแล้วแหละ นี่น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับผมแหละ ไม่ไป ก็ไม่ขาดเรียน แค่อยู่บ้านเอง ชิลๆไปดิ่

     

     

    "ทำไมหล่ะ"

     

     

    "ผมไม่อยากหยุดเรียนอ่ะครับ"

     

     

    "เเล้วเเบมจะไปเรียนยังไงหล่ะเนี่ย"

     

     

    "เดี๋ยวผมนั่งรถไปเองก็ได้ครับ" ดูเก่ง ดูภูมิใจเนอะ ว่าเอาชีวิตรอดได้ ตอบแบบมั่นใจเหมือนรู้จักทุกเส้นท่างในโซล แต่เอาจริงๆเถอะนะ ผมไม่รู้จักสักทีเลยครับ

     

    "เเต่เเบมยังเด็กอยู่เลยนะ"

     

     

    "ไม่ต้องห่วงเเบมหรอกครับ ไปทำธุระเถอะนะ" ผมส่งสายตาอ้อนๆไปให้พี่จินยอง ก่อนจะยิ้มหวานจนพี่เเกใจอ่อน ผมรู้ว่าพี่จินยองห่วงผมนะ เเต่ผมก็ไม่อยากหยุดเรียนอ่ะ

     

     

    เอาว่ะ ถ้ามันจะหลง เดี๋ยวพี่ชายสองคนกลับมาบ้านแล้วหาผมไม่เจอ เขาต้องออกตามหา คนเรามันต้องหลงบ้างแหละ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    20 นาทีผ่านไป

     

     

    "ดูเเลตัวเองดีๆนะเเบม พี่จะสไกป์มาหานะ มีอะไรรีบโทรหาพี่กับเเจบอมเลยนะ" พี่จินยองพูดย้ำกับผมจนผมจะท่องได้อยู่เเล้วครับ ต่างจากพี่ชายที่เเสนดีของผม ไม่ได้พูดไรเลย ฮ่าๆๆ ช่วยห่วงน้องเหมือนผมมาเป็นน้องชายพี่หน่อยเถอะครับ สักกะนิดเถอะ แหม

     

     

    "ผมไปเรียนเเล้วนะครับ เดินทางปลอดภัยนะครับ" ผมโบกมือให้พี่ชายทั้งสองคนก่อนจะวิ่งเข้าตึกเรียนไป

     

     

     

     

     

    ห้องที่ผมเรียน อยู่ชั้น 7 เเหนะ ผมมาก่อนเวลาตั้ง 10 นาที เเต่คนก็เต็มหน้าลิฟท์ไปหมด ผมว่าผมเดินขึ้นดีกว่า

     

     

    ชั้น 1

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    ชั้น 2

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    ชั้น 3

     

     

    เเฮ่กๆๆๆๆ ทำไมมันเหนื่อยเยี่ยงนี่ เเค่ชั้น3 ลมเเทบจับเลยครับ ผมว่าตอนอยู่ไทยผมก็ไม่ใช่คนเหนื่อยง่ายนะครับ เเต่ตอนนี้เเบบไม่ไหวเเล้วจะเป็นลม ขอพักเเป๊ป

     

     

    อ่า หายเหนื่อยหล่ะ ผมว่าผมขึ้นไปเรียนดีกว่า

     

     

    "อย่าเงียบสิ มีอะไรจะพูดก็พูดมา" อู้ยยยเสียงใครอ่ะ เสียงคนใช่มั้ย ผมคงไม่เจอเรื่องแบบว่า....แบบ...แบบ...อะไรๆน่ากลัวๆตั้งแต่เช้าใช่ป่ะ

     

    ผมค่อยๆชะโงกหน้าไปดูให้แน่ใจ แม้ว่าข้างในมันจะลุ้นจนสั่นไปหมด

     

     

    ผู้หญิงหน้าตาสวยเเต่งตัวดูดี กำลังผลักผู้ชายคนนึงอยู่ หน้าตาเธอดูเหวี่ยงสุดๆเลยหล่ะตอนนี้ เเต่ผู้ชายอีกคนกลับยืนนิ่งๆ ไม่เเสดงท่าทีใดๆออกมาเลย

     

     

    เย็นชาจังเลยแฮะ

     

     

    "......."

     

    "อยากเลิกนักรึไง"เสียงหวานสั่นๆนั่นมันน่าสงสารจับใจคนฟัง แต่คนตรงหน้าเธอกลับไม่แสดงท่าทีอะไรออกมาเลยด้วยซ้ำ ถึงผมจะไม่รู้เรื่องรู้ราวเกี่ยวกับความรักมากมาย แต่การโดนแบบนี้ นิ่งใส่ เฉยชา เย็นชาเหมือนไม่รู้สึกอะไร มันเจ็บปวดนะ

     

    "......."

     

    "พูดอะไรบ้างสิ โถ่เว้ยยยยย" มือสวยๆของผู้หญิงคนนั้นทุบเข้ากับอกของผู้ชายคนนั้นแบบไม่ออมแรงเลยสักนิด ผมหล่ะกลัวเหลือเกินว่าถ้าเธอหมดแรงเธอจะเจออะไรรึป่าว

     

    "........."

     

    "งั้นเราเลิกกันเถอะ" มือทีพยายามทุบตีค่อยอ่อนลงตามแรง เธอคนนั้นค่อยๆลดมืออันสั่นเทาลงข้างตัวและเอ่ยประโยคที่ยากจะจับความออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

     

    "หึ ขอบใจนะที่ยอมเลิก" อะไรนะ!!!!! นี่เขาต้องการแค่คำนี้จากผู้หญิงหรอกหรอ ใบหน้าเฉยชาถึงได้เปลี่ยนเป็นยิ้มแย้มราวกับว่าสิ่งที่อีกคนพูดเป็นเรื่องที่น่ายินดีนัก ผู้ชายคนนี้ใจร้ายชะมัด

     

     

    ตึก ตึก ตึก

     

     

    ผู้ชายคนนั้นเดินจากไป โดยไม่หันกลับมามองผู้หญิงที่พึ่งบอกเลิกเขาเลยสักนิด ทำไมเขาใจร้ายจัง เขาใจร้ายตั้งเเต่คำพูดของเขาเเล้วนะ

     

     

     

    "ฮือออออออออออออออออออ" เสียงร้องไห้ของผู้หญิงคนนั้นดังขึ้นจนก้องไปทั่วทั้งชั้น ผมว่าผมไม่น่าเดินขึ้นบันไดเลยครับ เเล้วผมควรทำไงดี

     

     

     

     

     

    ก.เดินผ่านไปเฉยๆ

    ข.เดินกลับไปขึ้นลิฟท์

    ค.เดินเข้าไปปลอบพี่เขา

    ง.ยืนเฉยๆ

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    เเละคำตอบนั้นก็คือ

     

     

    ...........

     

     

     

    ...........

     

     

     

    .............

     

     

     

     

    ...............

     

     

     

     

    ...................

     

     

     

    ..................

     

     

     

     

    ..................

     

     

     

     

    .................

     

     

     

    ...................

     

     

     

     

     

     

    "พี่ครับ พี่เป็นไรรึเปล่า" พี่เขาเงยหน้ามองผมเเล้วเช็ดน้ำตาเเก้มตัวเอง ก่อนจะวิ่งขึ้นไป

     

     

    อ้าว นี่ผมทำไรผิดรึเปล่าเนี่ย ผมหล่ะงง

     

     

     

     

     

     

    ผมเดินเข้ามาในห้องก็เห็นว่าห้องเรียนผมเริ่มเต็มเเล้ว ผมเลยต้องไปนั่งข้างหลังเลย เพราะเเถวหน้าคนนั่งเต็มไปหมด

     

     

    "สวัสดีครับ ผมชื่อ เเทยัง นะ ผมจะมาสอนพวกคุณเกี่ยวกับการอ่าน เปิดหน้าเเรกเลยครับ" ผมเปิดหนังสือไปตามที่อาจารย์บอก

     

     

     

    "นี่ๆๆ ยืมปากกาหน่อย" เเรงสะกิดจากข้างๆทำให้ผมหันไป ผมยื่นปากกาให้เขาตามที่เขาขอ ปากกาที่ผมหยิบให้ไม่ได้แพงอะไรมากมายหรอก ถ้าเกิดเขาจะขโมยไป ผมไม่เสียดายหรอก ผมซื้อมาเป็นโหลเลยหล่ะ

     

    "ขอบใจ"

     

     

     

    จึกๆๆๆ

     

     

    "ยืมไม้บรรทัดหน่อยสิ" ผมหยิบไม้บรรทัดเเล้วส่งให้เขา ก่อนจะดึงสมาธิตัวเองกลับมาฟังสิ่งที่อาจารย์กำลังสอนอยู่

     

     

     

    จึกๆๆๆ

     

     

     

    นี่ผมเรียนวิชาอ่านอยู่จริงป่ะเนี่ย ทำไมคนข้างๆขยันยืมข้างยืมของผมจัง อย่างกับเรียนวาดรูปหรือเขียนอยู่อย่างงั้นเเหละ

     

     

    "นี่ๆ" ผมหันไปมองหน้าเขาตรงๆก็พบกับรอยยิ้มกว้างที่ส่งให้

     

     

    "นายชื่อไรอ่ะ"

     

    "ผมหรอ"ผมชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง ถามเขาให้แน่ใจว่าถามผมใช่มั้ย

     

    "อืมๆ" เขาพยักหน้ารัวๆเเล้วยิ้มให้ผมกว้างกว่าเดิมอีก

     

    "ชื่อ เเบมเเบม"

     

    "ชื่อนายน่ารักดีนะ นายมาจากไหนอ่ะ" ดาวอังคารมั้งครับ ผมจะได้เรียนมั้ยเนี่ยวันนี้

     

    "ไทยน่ะ" ผมไม่กล้าเสี่ยงตอบแบบที่ผมคิดกลับไปหรอกนะ จากที่เขาถามดีๆจะกลายเป็นลุกขึ้นมาต่อยผมเอา ผมไม่อยากมีเรื่อง

     

    "ที่นั่นฉันเคยไปมาด้วยเเหละ" หรอครับ บอกผมมั้ย? ผมไม่ได้ถามเขานะ รู้สึก

     

    "นายน่ารักดีนะ อายุเท่าไหร่อ่ะ"

     

    "13 ครับ"

     

    "เฮ้ย จริงดิ ทำไมตัวเล็กจังว่ะ" ใครมันจะไปสูงเหมือนนายหล่ะว่ะ เเม่ง เคืองนะเว้ย พูดเรื่องความสูงเนี่ย

     

    "เเล้วนายมีเพื่อนบ้างยัง"

     

    "ยังไม่มีน่ะ"

     

    "มาเป็นเพื่อนกับฉันมั้ย" ไม่ได้มั้ยอ่ะ

     

    "ชื่อคุณผมยังไม่รู้จักเลย ผมจะเป็นเพื่อนกับคุณได้ไง" และนี่คงเป็นการปฏิเสธออกไปแบบมีมารยาทที่สุดแล้วมั้ง

     

    "ไม่ใช่ปั่ญหา ฉันชือ คิม ยูคยอม ฉันเป็นเกาหลีเนี่ยเเหละ เรียนที่โรงเรียนJYP ที่ฉันมาเรียนภาษาเพราะว่า ฉันว่างเกินนนนนนนนนนนนนน ขี้เกียจนอนอยู่บ้านเลยมาหาไรทำ เเล้วก็......"

     

    "โอเคครับ ผมเป็นเพื่อนกับคุณ" ไม่ใช่ว่าผมใจง่ายนะครับ ที่ผมยอมคบกับเขา เพราะว่าเขาเรียนโรงเรียนที่ผมจะได้เรียนเนี่ยเเหละ เพราะฉะนั้นรู้จักกันไว้คงไม่เสียหายหรอกเนอะ

     

    "เย้ๆๆๆ ดีใจนะที่ได้เป็นเพื่อนกันนายเเบมเเบม" เขาจับไหล่ผมแน่นแล้วเขย่าจนผมนึกว่าตัวเองเป็นขนมหมีสอดไส้ช็อกโกแลต

     

    "ครับๆๆๆ"

     

     

     

     

     

     

     

    "นี่เเบมเเบม ไปกินข้าวกันมั้ย" เพื่อนใหม่ที่เราพึ่งจะรู้จักกันเอ่ยถามขึ้นมาตอนที่อาจารย์ที่สอนหน้าห้องปล่อย อย่าถามว่าเรียนวันนี้ผมได้ความรู้มั้ย บอกเลยว่า ไม่

     

    "ไปครับๆ" ผมเก็บของใส่กระเป๋าตัวเองให้เข้าที่แล้วตอบยูคยอมกลับไป

     

    "นายมาที่นี่ครั้งเเรกป่ะ"

     

    "ป่าวหรอก เราเคยมาเที่ยวเเล้วก็มาเยี่ยมเพื่อนเเม่หลายครั้งอยู่"

     

    "เเล้วครั้งนี่นายมาทำไรอ่ะ"

     

    "มาเรียนอ่ะ เราเรียนโรงเรียนเดียวกับยูคยอมเเหละ"

     

    "เฮ้ย จริงดิ่ อย่างงี้ก็ดีเลย เปิดเทอมเราจะได้ไม่ต้องหารูมเมท เเบมเเบมมาอยู่กับเรานะ"

    "ห้ะ?"

     

    "เอาเป็นว่าตกลงตามนี้เนอะ ไปกินข้าวกัน" หมัดมือชก แบบนี้มันเรียกหมัดมือชกกันชัดๆ เมื่อกี้ทุกคนได้ยินใช่มั้ยว่าผมไม่ได้ตอบตกลงอะไรไปเลยแม้แต่น้อย

     

     

    ยูคยอมกอดคอผมเเล้วพามาหาร้านข้าวใกล้ๆตึกเรียน เขาชวนผมคุยนู้นคุยนี้ไปตลอดทาง จริงๆเขาก็ดูเเปลกๆนะ ในตอนเเรก เเต่ตอนนี้ผมว่าเขาคุยสนุกดีเหมือนกัน

     

     

    "นายกลับบ้านไงอ่ะ ให้เราไปส่งป่ะ เดี๋ยวจะมีคนมารับเราอ่ะ" ดูรวย ดูแพงจังเพื่อนใหม่ผมเนี่ย มีคนขับรถมารับด้วยแฮะ

     

    "เฮ้ย ไม่เป็นไร"

     

    "ไม่ต้องเกรงใจ รอเเป๊ปนึงเดี๋ยวรถก็มา นั่นไงมาพอดี" ยูคยอมลากผมไปที่รถของเขาก่อนจะบอกให้คนขับออกรถ ผมอยากจะขัดขืนอ่ะนะ เเต่สู้เเรงยูคยอมไม่ไหวจริงๆ

     

    "บ้านนายอยู่เเถวไหนอ่ะ"

     

    "อยู่ตรงถนน XXX"

     

    "โอเค พี่ครับไปส่งเพื่อนผมที่ XXX ด้วยครับ"

     

     

     

     

     

     

    "ถึงเเล้ว ขอบใจมากนะยูคยอม" ผมหันไปส่งยิ้มให้เพื่อนใหม่ที่ยิ้มให้ผมอยู่ก่อนแล้ว

     

    "ไม่เป็นไร พรุ่งนี้เจอกันที่โรงเรียนนะ"

     

    "โอเค กลับบ้านดีๆนะ" โบกมือลาเป็นการล่ำลาบนรถเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนผมจะย้ายตัวเองลงไปยืนหน้าประตูบ้าน

     

    "ครับผม" ยูคยอมตอบกลับแล้วปิดประตูรถ ผมมองตามหลังรถยูคยอมที่ขับออกไปเรื่อยๆ แล้วได้แต่ถอนหายใจ แล้วได้แต่คิดว่า ชีวิตผมในวันนี้ มันคืออะไรกันว่ะเนี่ย



    write: 29/03/2558

    rewrite: 9/04/2559 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×