[SF] December 24th - BJIN - [SF] December 24th - BJIN นิยาย [SF] December 24th - BJIN : Dek-D.com - Writer

    [SF] December 24th - BJIN

    โดย iimm

    พี่รู้จักสำนวน Kiss me under the Mistletoe รึเปล่า?

    ผู้เข้าชมรวม

    2,345

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    5

    ผู้เข้าชมรวม


    2.34K

    ความคิดเห็น


    32

    คนติดตาม


    41
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  13 ธ.ค. 57 / 12:20 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    สำหรับนักอ่านคนใหม่ๆ ทุกเรื่องเป็น SF นะคะ ^_^

    จบในตอน ไม่จำเป็นต้องอ่านทุกตอนก็ได้จ้า

    ** แต่เพื่ออรรถรสที่ดี และถ้ามีเวลา..

    แนะนำให้ไล่อ่านตั้งแต่ตอนแรกเนาะ ฮี่ฮี่ :D
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      HANBIN : JINHWAN




      December 24th.

       

       



       

      “ขอโทษนะครับ.. ย้ายไปนั่งด้านในไหม?”

       

      “....”    ส่ายหน้าเบาๆแทนคำตอบ

       

      “อากาศมันเย็นนะครับ ข้างในอุ่นกว่านะ...”

       

      “......” ระบายยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะส่ายหน้ารอบที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ให้กับพนักงานหนุ่มหน้าเด็กคนนั้น  ...จริงอยู่ที่อากาศบริเวณระเบียงด้านนอกของคาเฟ่มันออกจะเย็นไปหน่อย... ไหนจะละอองหิมะอีก คงไม่แปลกที่น้องพนักงานจะดูเป็นห่วง..  คิดพลางกระชับผ้าพันคอเล็กน้อยก่อนจะเอามือซุกกลับเข้าไปในเสื้อโค้ทตัวเดิมที่ไม่รู้ว่าตอนนี้เจ้าของเสื้ออยู่ไหน

       

       

      “งั้นพี่จะรับอะไรเพิ่มไหมครับ? ชอคโกแลตร้อนๆซักแก้วก็ดีนะ”   เด็กนี่... ยังไม่กลับเข้าไปข้างในอีก

       

      “นมร้อนอันเก่ายังไม่หมดเลย”  ยกแก้วเซรามิคสีฟ้าขาวใบหนาขึ้นโชว์ไปพลางๆ

       

      “แล้วนมในแก้วมันยังร้อนอยู่มั้ยล่ะครับ...  อากาศเย็นขนาดนี้อ่ะ”

       

      “ฮ่าๆๆ อายุแค่นี้ทำไมขายของเก่งจังเราอ่ะ”  ผมขำให้กับท่าทางตื๊อไปมาอยู่นั่นของพนักงานเด็กคนนี้ ดูท่าทางน่าจะอยู่มัธยมปลายเองมั้ง

       

       

      “ป่าวซะหน่อย.. ผมจะเลี้ยงต่างหาก”

       

      “หื้ม?”  เลิกคิ้วขึ้นสูงกับประโยคที่บอกว่าจะเลี้ยงชอคโกแลตร้อนของเด็กตรงหน้า แต่ไม่ทันจะได้คำตอบอะไรรายนั้นก็วิ่งหายเข้าไปในร้านซะแล้ว กระจกใสๆนั่นทำให้มองเห็นได้ว่าน้องไม่ลืมที่จะหันกลับมายิ้มกว้างให้อีกครั้งนึง

       

       

       

      เด็กนี่....  ให้ตายดิ

      ทะเล้นเหมือนฮันบินตอนปีหนึ่งไม่มีผิด.

       

      .


      .

       

       

       

      “รอนานมั้ยครับ?”  

       

      เสียงคุ้นเคยที่มาพร้อมกับเสื้อโค้ทๆหนักอีกตัวคลุมลงมาทับอีกชั้นหนึ่ง แขนยาวทั้งสองข้างดึงรั้งให้เข้าไปอยู่ในอ้อมกอดอุ่นๆจากทางด้านหลังพร้อมกับเอาคางเกยไหล่ไว้ แก้มเย็นๆของฮันบินกระทบเข้าเบาๆที่บริเวณข้างแก้ม ผมเลยสะดุ้งตัวเล็กน้อยก่อนที่จะหดคอกลับเข้าไปเพราะความหนาว

       

       

      “นานจนจะหนาวตายอยู่แล้ว...”   หันไปยู่หน้าใส่คนมาสายหนึ่งที ก่อนจะดึงแขนฮันบินให้ลงมานั่งตรงเก้าอี้ข้างๆกัน

       

      “แล้วทำไมไม่เข้าไปนั่งข้างในละครับ หื้ม?”

       

      “ไม่เอาอ่ะ ข้างนอกวิวสวยกว่าตั้งเยอะ.. ละนี่หนาวมากไหม? กินอะไรมารึยัง?”

       

      “หนาวมากครับ แล้วก็หิวจนกินพี่ได้ทั้งตัวเลย...”   เอียงคอหลบจมูกโด่งของฮันบินได้อย่างหวุดหวิด  ฮันบินหลุดขำเล็กน้อยก่อนจะดึงมือผมมาจับไว้ เห็นแบบนั้นเลยเอื้อมมืออีกข้างที่ว่างอยู่ไปถูเบาๆบนมือของฮันบิน เผื่อจะช่วยให้อุ่นขึ้นบ้าง

       

       

       

      ครืดด~ 

      เสียงประตูกระจกบานใสเลื่อนดัง เด็กหนุ่มพนักงานพาร์ทไทม์คนก่อนหน้านี้เดินออกมาพร้อมกับแก้วเซรามิคสองใบบนถาด แล้วเดินตรงมาทางโต๊ะผมพอดี..

       


      ชอคโกแลตร้อนฟรี.

       

       

       

      “อ้าว! ชานอู”

       

      “เห้ยยย ฮันบินฮยอง”

       

       

                     

       

                      “ไม่เจอตั้งนานเลย”  ไอ้เด็กตรงหน้านี่มันน้องชมรมของผมเองครับ สมัยช่วงที่ผมอยู่มอปลายเราค่อนข้างสนิทกันเพราะเจอหน้ากันที่ชมรมทุกวัน จองชานอูเป็นเด็กนิสัยดีมากคนนึงเลยแหละ เออจะว่าไปมันก็นานมาแล้วเหมือนกันแฮะ..

       

      “ฮยองไม่เจอผม ผมก็คงจะได้เจอฮยองหรอกครับ ฮ่าๆๆ”  เอ๊ะไอ้เด็กนี่ วอนซะแล้ว

       

      “แล้วมาทำอะไรที่นี่อ่ะ ทำพาร์ทไทม์เหรอ? บ้านรวยจะตาย หนาวๆแบบนี้ทำไมไม่ไปนอนห่มผ้าอยู่บ้านโน่น”

       

      “...นี่คาเฟ่ของแม่ผม ว่างๆเลยแวะมาช่วยน่ะ”   ผมแทบอ้าปากค้างกับคำตอบที่ได้รับ เพราะที่นี่เปิดมาได้สองปีกว่า ร้านหรูใหญ่และอยู่ในทำเลที่เหมาะมาก ผู้คนพลุกพล่านไปมาไม่ขาดสาย นับว่าธุรกิจเติบโตได้ดีจนน่าอิจฉาเลยทีเดียว

       

      “เออๆ เข้าใจแล้ว ละนั่นจะเสิร์ฟอะไร? ใครสั่งวะ?”

       

      “ป่าว..  ผมแค่จะเลี้ยงพี่คนที่นั่งข้างๆฮยองอ่ะ...”  ชานอูพยักเพยิดไปทางตัวเล็กข้างผมที่ตอนนี้ดูจะงงกับเหตุการณ์ตรงหน้าอยู่เล็กน้อย

       

      “เอามาสองแก้วนี่.. อีกแก้วของกูป่ะ?”

       

      “....ตอนแรกแก้วนี้ของผม..  ก็กะว่าจะมานั่งกินตรงเก้าอี้ที่ฮยองนั่งนั่นแหละ แต่ไหนๆตอนนี้เก้าอี้ตัวนั้นก็ไม่ใช่ของผมแล้ว  งั้นผมยกแก้วนี้ให้ฮยองก็ได้...”   ชอคโกแลตร้อนแก้วแรกถูกยกลงมาวางไว้ตรงหน้าพี่จินฮวาน ส่วนอีกแก้วที่เจ้าตัวบอกว่ายกให้ผมนั้นถูกวางลงตรงหน้าผมเบาๆ

       

      “ขอบคุณ”

       


      “พี่......”      จองชานอูหันไปทางพี่จินฮวานช้าๆ  “.....ทำไมไม่บอกว่ามีเจ้าของแล้ว? ผมถูกฮันบินฮยองฆ่าตายทำไง”

       

      “ว่าไงนะ?”   ตอนนี้สีหน้าพี่จินฮวานก็คงไม่ต่างอะไรจากผมมากนัก จองชานอูมันพูดอะไรของมันเนี่ย

       



      “แล้วก็ฮันบินฮยอง...  ผมขอโทษที่เกือบจะชอบแฟนฮยองไปแล้ว”

       

      “....”

       


      “จริงๆก็ชอบไปแล้วนั่นแหละ... แต่พอรู้ว่าเป็นแฟนฮยอง ผมก็ขอบายอ่ะ”

       

      “....”

       

      “ขอโทษจริงๆ ทานให้อร่อยนะครับฮยอง ...ผมไปละ”  จองชานอูโค้งต่ำให้หนึ่งที ก่อนจะเดินหายเข้าไปในร้านเหมือนเดิม ข้อดีของเด็กนี่คือมันร่าเริงเสมอไม่ว่าจะเจอสถานการณ์แบบไหนก็ตาม รวมถึงตอนนี้ก็ด้วย.. จองชานอูยังยิ้มได้อยู่

       



      ชานอู

      พี่ไม่ได้ตั้งใจให้แกอกหักตั้งแต่ยังไม่ทันได้จีบนะ...

       

      แต่คนนี้.. คือคนของกูจริงๆว่ะ

      ขอโทษด้วย.

       

       

       



      แสงไฟข้างทางดูสว่างไสวกว่าปกติอาจเป็นเพราะคืนนี้เป็นคืนคริสต์มาสอีฟละมั้ง.. น่าเสียดายที่คนตัวเล็กข้างกายไม่ได้กลับไปฉลองวันหยุดกับที่บ้านเนื่องจากมีงานที่โรงพยาบาลที่ยังจัดการไม่เสร็จ... ส่วนตัวผมเองก็ไม่อยากให้พี่จินฮวานอยู่คอนโดคนเดียวเลยโทรบอกแม่ตั้งแต่เช้าแล้วล่ะว่าติดธุระ

       


      “มือนายอุ่นจัง”   เสียงเล็กทักขึ้นเบาๆระหว่างทางเดินกลับคอนโด.. วันนี้อาจจะดูแปลกๆไปหน่อยที่เราเลือกจะเดินกลับกัน แต่ที่ทำแบบนี้เพราะคู่อื่นๆแถวนี้เขาก็เดินกันนี่ครับ..

       

      “..แล้วชอบมั้ยครับ?”  ถามพลางเอียงหน้าเข้าไปใกล้ๆคนเป็นพี่  ...คำตอบที่ได้มากลับไม่ใช่คำพูด แต่กลายเป็นว่าอีกคนสอดประสานนิ้วเล็กๆทั้งห้าเข้ามาแน่นจนผมรู้สึกอุ่นวาบไปทั้งมือ

       



      คิมจินฮวาน...

       

      พอยิ่งรัก

      ก็ยิ่งน่ารัก.

                                                 

       

       

       

                      เราสองคนหยุดนั่งพักที่ม้านั่งข้างทาง... ด้านหลังม้านั่งคือสวนสาธารณะเล็กๆที่เอาไว้ให้คนแถวนี้ได้เอาไว้วิ่งเล่นออกกำลังกายกันในตอนเช้า ด้านหน้าดูเหมือนจะเป็นลานจอดรถที่จอดรถได้ไม่น่าจะถึงสิบคันด้วยซ้ำไป แต่ตอนนี้ไม่มีรถเลยซักคัน.. คนอื่นคงกลับไปฉลองวันหยุดยาวที่บ้านกันสินะ.. เห้อ...

       

      “ฮันบินกลับห้องกันเหอะ.. พี่มีของขวัญคริสต์มาสจะให้นายด้วยนะ”  อีกอย่างเลยคืออากาศตอนนี้หนาวมากจริงๆ

       

      “ลานจอดรถ..”  ฮันบินแทบไม่ได้สนใจที่ผมพูด แถมตาเรียวนั่นก็จ้องมองตรงไปที่ลานจอดรถว่างๆตรงหน้าด้วยสายตาที่ผมอ่านไม่ออก

       

      “หื้ม?”  

       

      “ผมยังจำวันแรกที่บอกชอบพี่ได้อยู่เลย..  ลานจอดรถใช่ป่ะ? ฮ่าๆ ผมนี่ไม่โรแมนติกเลย”

       

      “อยู่ๆมาพูดบ้าอะไรเนี่ย...” 

       

      คิมฮันบินยักไหล่หนึ่งทีอย่างไม่สนใจที่จะต่อบทสนทนาใดๆ  มือใหญ่ปลดเสื้อโค้ทที่สวมอยู่ออกเพียงครึ่งหนึ่ง ก่อนที่จะเกี่ยวเอวผมให้เข้าไปประชิดแล้วเอาเสื้อนั่นคลุมโอบรอบตัวให้อีกชั้น ตอนนี้เลยเหมือนกับว่าผมเข้าไปอยู่ในเสื้อโค้ทของฮันบินทั้งตัวเลย ไหนๆก็ไหนๆแล้ว.. หนาวขนาดนี้ขอเอนหัวซบลงบนอกแกร่งนั่นสักพักก็แล้วกัน

       


      “พี่จินฮวาน..”   มืออุ่นๆของฮันบินลูบไปมาอยู่บนกลุ่มผม

       

      “หื้ม?” 

       

      “....”

       

      “....”

       

      “....”

       

      “นี่... สรุปว่ามีอะไรจะพูดกับพี่รึเปล่า?”    ทนไม่ไหวที่อีกคนเอาแต่เงียบ เลยเงยหน้าขึ้นไปสบตาเจ้าของใบหน้าหล่อพลางเลิกคิ้วถาม

       


      “เอ่อ... ผมขอโทษที่เป็นลานจอดรถอีกแล้ว..”

       

      “....”

       

      “ไม่ได้ตั้งใจให้เป็นตรงนี้ แต่ก็......”

       

      “.....”

       

       

       

       

      “ผมรักพี่นะครับ สุขสันต์วันคริสต์มาส...”

       

      ไม่พูดเปล่า.. ริมฝีปากอุ่นๆของคนที่สูงกว่าก็ประทับลงมาแบบไม่ทันให้ตั้งตัว จูบครั้งนี้ไม่หนักหน่วงแต่มันเนิ่นนาน... นานพอที่จะร่างกายได้สูบฉีดเลือดอุ่นๆมาเลี้ยงบนใบหน้าได้บ้าง ไม่แน่ใจว่าตอนนี้หน้าแดงขนาดไหน แต่ก็ช่างมันเถอะเพราะอย่างน้อยมันก็อุ่นดีเหมือนกัน.. 

       

       

      ฮันบินโรแมนติกเป็นเหมือนกันแฮะ.

       

       

       

      คริสต์มาสอีฟปีนี้อาจจะดูไม่ค่อยสนุกเท่าปีก่อนๆ แต่ก็ยังดีที่มีฮันบินอยู่ด้วย.. แล้วก็นึกว่าจะจบความโรแมนติกไว้แค่ตรงม้านั่งข้างสวนสาธารณะนั่นซะอีก.. ที่ไหนได้ พอกลับห้องมาก็พบกับของตกแต่งและขนมอร่อยๆมากมายที่วางอยู่โต๊ะ ไหนจะช่อมิสเซิลโทหลายช่อที่ผูกติดกับโคมไฟตั้งแต่ทางเข้าเป็นแนวยาวไปจนถึงห้องนอนนั่นอีก... นี่เอาเวลาไหนไปทำเนี่ย

       

      “ผมไปรับพี่ที่คาเฟ่ช้าก็เพราะของพวกนี้แหละครับ...”

       

      “....”  

       

      “ผมเห็นพี่ไม่ได้กลับไปฉลองบ้าน.. ก็เลยจัดของพวกนี้ให้เล็กๆน้อยๆ...”

       

      “..คิมฮันบิน”

       

      “..ชอบใช่มั้ยครับ?”

       

      “คนบ้า...”    ง้างมือกำลังจะทุบลงบนไหล่กว้างแต่ก็ถูกมือหนาคว้าไว้ซะก่อน ข้อมือถูกดันขึ้นเหนือหัวก่อนที่อีกคนจะโน้มเอาจมูกโด่งมาคลอเคลียอยู่บริเวณข้างแก้มแล้วไล้ลงมาจนถึงริมฝีปาก ..สุดท้ายจูบครั้งที่สองของวันในระยะเวลาห่างกันไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ถูกฮันบินช่วงชิงไปจนได้

       

      ...พอข้อมือถูกปล่อยให้เป็นอิสระ ก็เลยเอื้อมมือไปคล้องไว้กับต้นคอของร่างสูงเพราะไม่รู้จะเอามันวางไว้ตรงไหน.. แล้วมีเหรอที่จะยอมให้อีกคนทำตามใจอยู่เพียงฝ่ายเดียว  ..ต้นคอของคิมฮันบินถูกรั้งให้เข้ามาแนบชิดอีกครั้งก่อนที่อีกคนจะผละริมฝีปากออกไป 

       

      แล้วมันก็เป็นแบบนี้สลับไปมาตั้งแต่ทางเข้าที่มีมิสเซิลโทห้อยอยู่.. เรื่อยๆไปจนถึงมิสเซิลโทช่อสุดท้ายที่ห้อยอยู่กับโคมไฟเหนือเตียง...  ที่เห็นมิสเซิลโทชัดเจนขนาดนี้เพราะตอนนี้แผ่นหลังได้แนบสนิทลงบนเตียงกว้างเป็นที่เรียบร้อย แถมตอนนี้คิมฮันบินก็เอาแต่จ้องหน้าไม่ยอมละสายตา มือใหญ่ที่ยันค้ำอยู่บนเตียงนั่นเหมือนกักกันไม่ยอมให้ผมหลุดรอดไปไหน

       



      “พี่รู้ความหมายของสำนวน  kiss me under the Mistletoe มั้ยครับ..?”

       

      “รู้สิ....”

       

      “.....”

       

      “...Endless love ไง..

       


      “แล้วถ้า....”

       

      “.....? ”

       

      “ผมทำอย่างอื่นที่มากกว่าจูบใต้มิสเซิลโทล่ะ...”  ฮันบินพูดพลางแหงนหน้าขึ้นไปมองช่อมิสเซิลโทด้านบน

       

      “....”

       

      “รักของเรามันยังจะเป็นรักนิรันดร์หรือเปล่าครับ?”  สายตาออดอ้อนที่ขอเข้าข้างตัวเองว่าฮันบินมีให้แค่คนเดียว กำลังถูกส่งมาอย่างต่อเนื่อง..  เพิ่งรู้วันนี้นี่แหละว่าเด็กตรงหน้าก็มีความเชื่อเรื่องพวกนี้ด้วยเหมือนกัน

       

       

      .

      .

      “ฮันบินอา....”

       

      “...ครับ”

       

      “ทำตามใจนายเถอะนะ...”

       

      “....”

       

      “ถึงไม่มีมิสเซิลโท... นายก็เป็นรักนิรันดร์ของพี่อยู่แล้ว”

       

      “.....”

       

       

       

      “เพราะงั้น....”

       

      “....”

       

       

      “ช่วยทำอะไรที่ควรทำซะทีเถอะนะ...”

       

       

      “อย่าเพิ่งใจร้อนสิครับ... ผมขอของขวัญก่อน...  ไหนพี่บอกว่ามีอะไรจะให้ผม?”

       


      “ก็เนี่ย..  ให้อยู่นี่ไง”

       

      “.....”

       

       

       

       


      “รับไปสิคนเก่ง รออะไรอยู่ล่ะ....”

       

       

       

      คิมฮันบินเด็กดี

      สุขสันต์วันคริสต์มาสนะ.

       

       

      END.                      



      ไม่ได้-ตั้งใจ-ให้มันหวาน-ปานน้ำเชื่อม-ขนาดเน้  !!!! ถถถถถถถถถถ

      ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ~ พี่จินให้อะไรฮันบินอ่ะแกรรรร -///-

      ชานอูนี่มายังไงไม่รู้ แค่คิดถึงน้องเฉยๆ 5555555

       

      จริงๆนี่ยังสอบไม่เสร็จนะ.. (อ่าวเชี่ยย555)
      แต่อากาศหนาวดี บวกกับได้เครื่องดื่มแก้หนาวมาสองสามแก้ว

      มันก็พอปลุกอารมณ์(?)มาได้นิดโหน่ยยย แฮร่                      

       

      ใครชอบเม้นท์ก็เชิญจัดมาเลยฮะ เราชอบอ่าน  ^______^

      ใครชอบติด tagทวิตเตอร์ ก็เชิญที่ >> #ฟิคสามหมอ  
      เค้าอ่านทุ้กกกกวัน รีดเดอร์ก็แกล้งทู้กกกวัน
      5555555


      ตอนนี้ 04.00 กว่าๆ นอนล้าววววววว -3-

      เยิฟนะ :P

       

       

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×