[SF] J D -JunHyuk - [SF] J D -JunHyuk นิยาย [SF] J D -JunHyuk : Dek-D.com - Writer

    [SF] J D -JunHyuk

    ผู้เข้าชมรวม

    2,525

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    2.52K

    ความคิดเห็น


    25

    คนติดตาม


    35
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  22 พ.ย. 57 / 00:54 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    สำหรับนักอ่านคนใหม่ๆ ทุกเรื่องเป็น SF นะคะ ^_^

    จบในตอน ไม่จำเป็นต้องอ่านทุกตอนก็ได้จ้า

    ** แต่เพื่ออรรถรสที่ดี และถ้ามีเวลา..

    แนะนำให้ไล่อ่านตั้งแต่ตอนแรกเนาะ ฮี่ฮี่ :D
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ


       

      JUNHOE : DONGHYUK




      “ฮ..ฮะ....ฮัดชิ่ววววววววววววว!!!

       

      ดูเหมือนว่าทิชชู่ม้วนใหญ่ที่วางอยู่บนโต๊ะค่อยๆลดความหนาของตัวเองลง ขณะเดียวกันกองทิชชู่ที่ใช้แล้วก็เพิ่มจำนวนอย่างต่อเนื่อง มันช่วยไม่ได้จริงๆนี่ เพราะตั้งแต่ตื่นมาผมยังหยุดจามไม่ได้เลย พยายามหลายทีที่จะกลั้นเอาไว้ แต่ใครๆก็รู้ว่าเรื่องจามมันเป็นเรื่องที่...

       

      “ฮัดชิ่วววววววววววววววว!!!    นั่นไง ใครมันจะไปกลั้นได้ล่ะ..

       

      “ไหวป่ะเนี่ย? เข้าไปอาบน้ำตั้งนาน นายยังไม่หยุดจามอีก”  ร่างสูงของอีกคนถามพลางเอามือเช็ดผมที่เปียกของตัวเองนั่นไปมา

       

      “ไม่รู้เหมือนกันอ่ะ..  นี่.. หน้ากระจกมีทิชชู่ป่ะ เอามา- ..ฮ.. ฮ..ฮัดชิ่วววววววววววว”  

      .

      .

      ทิชชู่ม้วนใหม่ถูกหยิบมาวางไว้บนโต๊ะอ่านหนังสือ พอเงยหน้าขึ้นไปก็พบกับหน้าดุๆของอีกคนพร้อมกับแววตาเป็นห่วงเล็กๆแฝงอยู่ในดวงตาคมนั่น  ..พอมองใกล้ๆแบบนี้ยิ่งรู้สึกว่าคนอะไรทำไมตาสวยจัง ไหนจะโครงหน้านั่นอีก.. สัดส่วนทุกจุดบนโครงหน้าของจุนฮเวมันดูพอดีกันไปหมด.. ดูดีจนน่าอิจฉา

       

      .....แย่ละ

      นี่เผลอมองไปนานขนาดไหนล่ะเนี่ย

       

       

      “คิมดงฮยอกเล่นมองกันแบบนี้ ผมก็ใจสั่นหมดสิครับ..”

       

      “...” 

       

      “อยากมองใกล้ๆมั้ย? ได้นะ...”  ยังไม่ทันได้ปฏิเสธอะไรออกไป อีกคนก็โน้นตัวลงมาพร้อมเอาสองมือประคองท้ายทอยผมไว้ แล้วดันหน้าผากเข้ามาชนซะดื้อๆ

       

      “ออกไปน่า..”

       

      “ไม่ออก”

       

      “จุนฮเวอ่า.. จมูกนายมันชน... ล..แล้วมัน...ฮ..ฮะ..”

       

      “อะไรนะ?”

       

      “ฮัดเช่ยยยยยยยยยยยยย!!!!!!

       

       

      ไงล่ะ..

      ก็เตือนแล้วใช่ไหม.

       

       

                      ทิชชู่ม้วนใหม่ที่หยิบมาให้ดงฮยอกก่อนหน้านี้ถูกผมแย่งมาเช็ดหน้าเรียบร้อยแล้ว ...วินาทีนั้นผละตัวออกแทบไม่ทัน ใครจะไปนึกว่าหมอจะจามออกมาแบบนั้นเล่า ให้ตายเถอะครับ นี่ผมแทบต้องไปเดินเข้าไปอาบน้ำใหม่

       

      “นายเป็นหมอได้ยังไงเนี่ย มาแพร่เชื้อโรคให้คนอื่น”

       

      “โธ่... ก็เตือนแล้วป่ะ”  ตัวเล็กยู่หน้าใส่ผมหนึ่งที ก่อนจะลุกจากโต๊ะหนังสือแล้วทิ้งตัวนอนกลิ้งไปมาอยู่บนเตียง มันน่าหมั่นไส้จริงๆเลย

       

      “ลุกมานี่เลย หมอตัวแสบ”

       

      ผมจัดการดึงข้อมือเล็กให้ลุกขึ้นก่อนจะพาเดินออกไปที่ห้องนั่งเล่น อีกมือที่ว่างอยู่จัดการเปิดตู้ยาเล็กๆบนผนัง หยิบหน้ากากอนามัยออกมาหนึ่งชิ้น ดึงสายคล้องให้ยืดออกก่อนจะคล้องลงบนหูทั้งสองข้างของคนตรงหน้า แถมด้วยบีบจมูกรั้นๆนั่นไปหนึ่งที

       

      “ใส่ทำบ้าอะไร อึดอัด”  มือซนๆของคิมดงฮยอกทำท่าจะดึงมันออกทันทีที่ผมใส่ให้

       

      “ถ้าถอดออก เดี๋ยวได้ตีมือแน่ๆ”

       

      “อยู่กันแค่สองคนเนี่ย จะใส่ทำไม? ไร้สาระป่ะ”

       

      “ดื้อจังวะ...” 

       

      ส่ายหัวเบาๆให้กับความดื้อของอีกคน พร้อมเอื้อมมือไปคล้องสายหน้ากากอนามัยนั่นอีกครั้ง เพราะดงฮยอกดึงมันออกสำเร็จไปหนึ่งข้าง ก่อนจะตัดสินใจกดจูบลงเบาๆทั้งที่มีหน้ากากบางกั้นอยู่..

       

      ถ้าไม่ทำแบบนี้เดี๋ยวก็ฮัดเช่ยใส่ผมพอดี.

       

       

      “นอนซะให้พอ หายไวๆนะ แล้วเย็นๆเจอกัน”  เอื้อมมือไปลูบหัวคนเป็นหวัดเบาๆ ก่อนจะสะพายกระเป๋าเป้เพื่อเตรียมออกไปซ้อมการแสดงสำหรับค่ำคืนนี้

       

      “ตั้งใจซ้อมล่ะ.. เดี๋ยวไปดู”

       

       

       

       

                  เสื้อสีดำตัวโคร่งที่อยู่บนตัวผมตอนนี้มีคำว่า ‘STAFF’ สีขาวพาดอยู่กลางเสื้อ ด้วยความที่ไปบ่นกับจุนฮเวว่า ถ้าให้ไปต่อแถวเข้างานจะไม่ไป เนื่องจากงานแสดงประจำปีของคณะศิลปะศาสตร์คนล้นทะลักทุกปี อีกคนเลยแก้ปัญหาโดยการไปเอาเสื้อสต๊าฟมาให้ใส่.... แต่เหมือนจะลืมไปว่าไซส์เสื้อนี่มันใหญ่สำหรับผมไปหน่อย แขนเสื้อยาวจนจะถึงศอก เลยจำเป็นต้องพับๆม้วนๆมันขึ้นมา

       

      ให้ตายเถอะกูจุนฮเว คิดว่าคนทั้งโลกเค้าใส่เสื้อไซส์เดียวกับนายรึไงวะ.

       

      เดินทางไปถึงสถานที่จัดงานก่อนหลายชั่วโมงเพราะกะจะไปดูอีกคนรอบซ้อมด้วย ทันทีที่กำลังจะก้าวเข้าบริเวณงาน ก็มีรุ่นน้องปีหนึ่งจากคณะไหนไม่แน่ใจ เดินเข้ามาโค้งหนึ่งทีให้ก่อนจะยื่นกล่องกำมะหยี่เล็กๆสีดำให้

       

      “ขอโทษที่รบกวนนะคะพี่สต๊าฟ”   หึ.. สต๊าฟงั้นเหรอ โอเคครับน้องเชื่อแบบนั้นก็ได้

       

      “ว่าไงครับ?”

       

      “ฝากตุ้มหูสองคู่นี้ให้จุนฮเวโอปป้าได้ไหมคะ? รอบซ้อมหนูเข้าไปไม่ได้... อยากเห็นพี่เขาใส่ขึ้นเวทีจังเลยค่ะ..”

       

      “อ่อ...”

       

      “นะคะ.. รบกวนด้วยนะคะ บอกโอปป้าให้ทีว่าช่วยใส่ตุ้มหูด้วย แล้วก็.. หนูชื่อดาฮยอน เผื่อจุนฮเวโอปป้าถามหาคนให้ พี่ก็ช่วยบอกด้วยนะคะ”

       

      “ครับ.. ก็ได้”

       

       

      พยักหน้ารับปากเด็กสาวปีหนึ่งคนหนึ่งคนนั้นไปอย่างช่วยไม่ได้ สองขาก้าวยาวๆอย่างต่อเนื่องเข้าไปบริเวณที่จัดงาน หัวสมองพลางคิดไปด้วยว่าจุนฮเวนี่เป็นที่รู้จักมากขนาดไหนกันเชียว คนนู้นคนนี้ถึงได้เข้ามาหาตลอด นี่เพิ่งอยู่ปีสองเอง.. แล้วถ้าโตขึ้นไปเรื่อยๆ คนก็ยิ่งรู้จักเยอะดิ แล้วแบบนี้...

       

       

      “โอ้ย..”  รู้สึกเหมือนเดินชนอะไรสักอย่าง

       

      “เดินน่ะหัดดูทางบ้าง”

       

      “จุนฮเว..นาย..”

       

      “ดูดิ๊เนี่ย ของหล่นหมดแล้ว”  ใบหน้าหล่อเหลาของอีกคนที่ผ่านเมคอัพมาเล็กน้อยกำลังก้มเก็บต่างหูสองคู่ที่หล่นกระจัดกระจายอยู่บนพื้น มันจะไม่มีอะไรพิเศษเลย ถ้าต่างหูสองคู่นั้นมันไม่ใช่...

       

      “....”

       

      J กับ D....”

       

      “เอ่อ.. คือว่ามี-..”

       

      “จุนฮเว กับ ดงฮยอก งั้นเหรอ?”     อะไรล่ะ.. จุนฮเวกับดาฮยอนล่ะสิไม่ว่า เด็กนั่นทำไมชื่อต้องขึ้นต้นด้วยอักษรตัวเดียวกันกับผมด้วยเนี่ย

       

      “เอ่อ...”

       

      “ทำไมน่ารักงี้อ่ะ เดี๋ยวใส่ขึ้นคอนเสิร์ตคืนนี้เลยครับ ^^

       

      “จริงๆแล้วคือว่า..”

       

      “ใส่ให้หน่อยนะ”  จุนฮเวหมุนต่างหูสามเหลี่ยมสีดำคู่เดิมออก แล้วย่อตัวลงมาเล็กน้อยตรงหน้าผม รอให้ผมใส่ต่างหูคู่ใหม่ให้

       

       

      ดาฮยอน..

      จุนฮเวยอมใส่แล้ว

      เอาเป็นว่าพี่ทำตามคำขอเรียบร้อยแล้วนะ

       

       

      “..จะใส่คู่ J หรือ คู่D” ถามคำถามที่แสนจะธรรมดาออกไป แต่มันก็ทำให้แก้มผมร้อนขึ้นแทบจะในทันที ถึงแม้ว่า D ในความหมายของเด็กคนนั้นคือ ดาฮยอน.... แต่กับอีกคนมันหมายถึงดงฮยอก.. ดงฮยอกของจุนฮเว

       

      “ใส่ทั้ง J ทั้ง D” คำตอบที่ผมไม่คาดคิด ยิ่งทำให้แก้มผมร้อนไปกันใหญ่ คนบ้าอะไรวะขยันทำให้แต่คนอื่นเขินอยู่เรื่อย

       

      “ตลกละ เจาะหูแค่สองรูไม่ใช่รึไง?”

       

      “ก็ใส่ D ไว้ข้างซ้าย ส่วน J ที่แทนชื่อฉันเอาไว้ด้านขวา”

       

      “...ทำไม?”

       

      “ก็ไม่ทำไมอ่ะ อย่าถามมากดิ รีบๆใส่ให้เร็ว จะเข้าไปสแตนด์บายแล้ว”

       

      จุนฮเวย่อตัวลงเล็กน้อยปล่อยให้ผมใส่ต่างหูให้อย่างเงียบๆ  สักพักมือนั่นก็เริ่มอยู่ไม่สุข.. ต่างหูของผมถูกคนตัวสูงกว่าหมุนออกไปอย่างง่ายดายแล้วแทนที่ด้วยต่างหูอักษร J กับ D ที่ยังเหลืออยู่

       

       

      “อ่ะ.. เสร็จแล้ว”  พูดพลางดึงให้อีกคนยืดตัวขึ้นตามปกติ พลางเอาสองมือลูบลงบนต่างหูทั้งสองข้างบนหูตัวเองไปมา ข้างซ้ายจุนฮเวเอาตัว J ใส่ให้.. ส่วนด้านขวาก็เป็นตัว D

       

       

      “ต้องไปแล้วอ่ะ เจอกันหน้าเวทีนะครับ อย่าไปไหนไกลล่ะ มองลงมาต้องเห็นนาย เข้าใจไหม”

       

      “รู้แล้ว...”

       

      “ก่อนไป..”

       

      “...”

       

      “ขอจุ้บหน่อยเร็ว” หน้าหล่อของจุนฮเวยื่นเข้ามาใกล้จนเกือบจะแตะริมฝีปากอยู่แล้ว ดีที่ผมเอามือห้ามไว้ก่อน ไม่งั้น...

      .

      .

       

       

      “ฮัดชิ่ววววววววววววววว!!    

       

       

                      ฮ่าๆๆ ดีแค่ไหนที่คราวนี้ผมเอี้ยวตัวหลบทัน....  ตอนนี้ตัวแพร่เชื่อหน้าตาน่ารักกำลังยืนกลั้นขำในสิ่งที่ตัวเองทำอยู่ครับ ตลกชะมัด และในเมื่อวันนี้คงจูบไม่ได้ทั้งวันเลยดึงคนตัวเล็กเข้ามากอดแน่นๆแทน

       

      “แอ่ก.. หายใจไม่ออก เดี๋ยวซี่โครงหักพอดี ปล่อยได้แล้ว”

       

      “โอเค.. อยู่ล่างเวที อย่าดื้อนะครับ ห้ามหนีไปไหนด้วย”

       

      “อยู่บนเวทีก็อย่าหล่อให้มันมาก..”

       

      “....”

       

      “ ...หมั่นไส้”

       

       

       

      รู้สึกดีทุกครั้งที่ได้ยืนอยู่บนเวทีแบบนี้.. ขอบคุณที่เลือกเรียนในสิ่งที่ตัวเองชอบ แล้วยังได้มอบความสุขทางดนตรีให้กับใครอีกหลายคน  และก็ขอบคุณคนที่หน้าตาน่ารักๆที่ยืนตรงนั้น... คนนั้นที่คอยมอบความสุขให้ผมตลอดมา

       

      “อ่า... สวัสดีครับ ผมกูจุนฮเว ปีสองครับ”  

       

      กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด~

       

      เสียงกรี๊ดดังกระหึ่มนั้นทำให้ผมอดยิ้มไม่ได้เลยจริงๆ  เวลานี้ก็ได้แต่แจกจ่ายยิ้มกว้างๆไปทั่วบริเวณ พลางสายตาไปสะดุดอยู่ที่คิมดงฮยอกที่ตอนนี้ทำหน้าตาล้อเลียนตลกๆอยู่ด้วย  ฮ่าๆก็บอกแล้วว่าตอนนี้ผมดังไปเกือบทั้งมหาลัยแล้ว เชื่อรึยังล่ะ

       

      “การแสดงของคณะเราก็ได้จบลงไปแล้วนะครับ.. ขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมสนุกกัน...”

      กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด~

       

      “หวังว่าปีหน้าคงได้เจอทุกคนอีกนะครับ ขอบคุณครับบบบบบบบบ^^

       

      กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด~

       

       

      “สุดท้ายนี้....   ขอบคุณเจ้าของต่างหูคู่นี้ด้วยนะครับ...”  

       

       

       

       

       

                      กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด~ แกๆๆ จุนฮเวโอปป้าขอบคุณฉันด้วยยยยย กรี๊ดดดดดดดดดดด~"  ถัดออกไปเพียงไม่เท่าไหร่ น้องดาฮยอนเด็กปีหนึ่งเจ้าของต่างหู กำลังกรี๊ดใส่เพื่อนข้างๆ 

       


      “แกเอาไปให้พี่เขาได้ยังไงน่ะ?”

       

      “ฝากพี่สต๊าฟไป.. อ้ะ นั่นไงงง พี่คะ!!!

       

       

      เชี่ยละไง....

       

       

      น้องกำลังเดินมาทางที่ผมยืนอยู่.. แย่แน่.. ถ้าน้องเห็นต่างหูอยู่บนหูของผมต้องแย่แน่ๆ น้องคงจะเสียความรู้สึกมาก ผมพยายามเอื้อมมือไปหมุนต่างหูด้านนึงออก จำไม่ได้แล้วด้วยว่าข้างไหนเป็นข้างไหน ทำยังไงดี.. ดาฮยอนเดินมาโน่นแล้ว

       

      “พี่สต๊าฟจำหนูได้ใช่ไหมคะ?”    ก็เจ้าของต่างหูบนหูพี่ไงครับ ทำไมจะจำไม่ได้ล่ะ..

       

      “ครับ..”

       

      “ขอบคุณมากจริงๆเรื่องต่างหูนะคะ หนูมีความสุขมากเลย ^_^

       

      “อ๋า.. ไม่เป็นไรๆ นิดหน่อยเอง”

       

      “อ้ะ.. ต่างหูข้างซ้ายเป็นรูปตัว J เหมือนที่หนูให้จุนฮเวโอปป้าเลย..”   ซวยแล้ว... น้องเห็นจนได้

       

      “เอ่อ...”

       

      “ต่างหูรุ่นนี้สวยจริงๆนะ คนซื้อใช้เยอะเลย ว่าแต่พี่ชื่ออะไรเหรอคะ?”

       

      “ดงฮยอก..”

       

      “อ้าว แล้วทำไมใส่ตัว J ล่ะคะ?”

       

      .

      .

       

      “ชื่อแฟนน่ะ....”

       

       

       

       

       

       

      หลังจากจบการแสดงเมื่อคืน อีกคนก็หลับยาวไม่ยอมลุกจนป่านนี้...  ผมนั่งมองใบหน้าคมอยู่สักพักใหญ่ๆแล้วตั้งแต่ตื่นมา สายตาเลื่อนไปเรื่อยๆจนไปหยุดอยู่ที่ต่างหูคู่สวยที่อีกคนยังไม่ได้ถอดออกตั้งแต่เมื่อคืน

       

      ความรู้สึกผิดเล็กๆก่อตัวขึ้นมาในใจ..

       

      ชั่งใจอยู่นานจนสุดท้ายตัดสินใจเอื้อมมือไปถอดต่างหูทั้งสองข้างออกเบาๆกลัวว่าอีกคนจะตื่น อีกทั้งยังถอดต่างหูรูปตัว J ที่ยังค้างอยู่ที่หูข้างซ้ายของตัวเองออกไปด้วย...   ต่างหูทั้งสองคู่ถูกวางไว้ในกล่องกำมะหยี่สีดำกล่องเดิม

       

       

      “แอบมาถอดออกแบบนี้ได้ไง...”    มือที่กำลังจะปิดกล่องเล็กๆนั่นลงถึงกับชะงัก หันกลับไปก็เจออีกคนนอนตะแคงลืมตาอยู่บนเตียง คิ้วขมวดขึ้นเบาๆเชิงไม่พอใจ

       

      “ก็....”

       

      “ไม่อยากใส่คู่กันเหรอ?”

       

      “ไม่ใช่แบบนั้นนะ คือว่าจริงๆแล้วต่างหูนี่ แฟนคลับนายให้มา น้องชื่อดาฮยอน...”

       

      “....”

       

      “ตัว J คงหมายถึงนาย ตัว D คงหมายถึงตัวน้องเอง...”

       

      “....”

       

      “..แต่นายกลับคิดว่าตัว D คือดงฮยอก.. ซึ่งมันไม่ใช่”

       

      “ดงฮยอกก็คือดงฮยอก มันจะไม่ใช่ได้ไง”

       

      “นี่พูดเรื่องเดียวกันอยู่ป่ะเนี่ย???”  

       

      “มานี่ดิ๊...”   เดินกลับไปที่เตียงตามที่อีกคนขอ พลางหย่อนตัวลงนั่งข้างๆ

       

      “....”

       

      “ดงฮยอก ก็คือ ดงฮยอก เข้าใจยากตรงไหน”

       

      “คือตัว D ของตุ้มหู มันหมายถึงดาฮยอนไง ...มันไม่ได้หมายถึงดงฮยอก”

       

      “งั้นก็ช่างเถอะ...  แต่ตอนนี้ดงฮยอกอยู่นี่แล้ว”   ไม่ทันไรผมก็โดนจุนฮเวดึงรั้งข้อมือบังคับให้นอนลงมาบนเตียงโดยที่อีกคนคร่อมอยู่ด้านบน

       

      ..นี่ช่วยสนใจเรื่องที่คุยกันก่อนได้ป่ะ.

       

       

       

      “จะทำอะไร”

       

      “เมื่อวานยังไม่ได้จูบเลย....”

       

      “ก็ได้..  แต่ไม่รับประกันนะว่าจะไม่.. ฮ...ฮะ..ฮัด...”  แค่ปลายจมูกของจุนฮเวสัมผัสโดนปลายจมูกของผม อาการอยากจามก็เกิดขึ้นแทบจะทันที ตอนนี้กำลังสงสัยว่าจุนฮเวคือตัวเชื้อโรครึเปล่า

       

      “....”

       

      “ฮัดชิ้ววววววววววววววววว!!        จนได้....

       

      “ฮ่าๆๆ อะไรอ่ะ เดี๋ยวนี้แพ้จูบกันแบบนี้เลยเหรอ?”

       

      “เออ.. ไม่รู้เป็นไรอ่ะ ต่อไปคงไม่ได้จูบแล้วล่ะ..”

       

      .

      .

       

      “ไม่ยอมหรอก...”

       

      “อย่านะ.. อย่าเข้ามานะ เดี๋ยวจามใส่หน้าหรอก.. ฮ..ฮัด... อุ๊บ...”

       

      “....”

      .

      .

       

       

      “...อ้ะ...อื้อออ.....จุนฮเวอ่า.. เดี๋ยวก่อน.. แป๊บนึงนะ.. ..”

       

       

      “...เร็วๆเลย.. มันค้าง..”

       

       

      “ฮัดชิ่วววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว!!!!

       

       

       

       

      END.

       
      ขอบพระคุณที่อยู่กับความไร้สาระของเราจนจบ 5555
      ไปอ่านหนังสือต่อละ
      อย่าลืมมม #ฟิคสามหมอ ไปเมามันส์กันได้!!! :D

       ปล เม้นเด็กดีห่วยมากกก เม้นไม่ค่อยขึ้น เค้าขอโทษจริงๆถ้าไม่ได้อ่านเม้นของใคร ขออ
      ภัยจริงๆจ้า _/\_

       

       

       

       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×