[SF] Balloon - JunHyuk - [SF] Balloon - JunHyuk นิยาย [SF] Balloon - JunHyuk : Dek-D.com - Writer

    [SF] Balloon - JunHyuk

    โดย iimm

    ลูกโป่งนั่นก็ไม่มีประโยชน์เลยสักนิด.. ถ้าอีกคนดึงมันลงมา ไม่ยอมให้มันลอยขึ้นไป

    ผู้เข้าชมรวม

    2,219

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    6

    ผู้เข้าชมรวม


    2.21K

    ความคิดเห็น


    32

    คนติดตาม


    30
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  27 ต.ค. 57 / 20:42 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    สำหรับนักอ่านคนใหม่ๆ ทุกเรื่องเป็น SF นะคะ ^_^

    จบในตอน ไม่จำเป็นต้องอ่านทุกตอนก็ได้จ้า

    ** แต่เพื่ออรรถรสที่ดี และถ้ามีเวลา..

    แนะนำให้ไล่อ่านตั้งแต่ตอนแรกเนาะ ฮี่ฮี่ :D
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

                      

      JUNHOE :: DONGHYUK





                   การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินถือเป็นการเดินทางที่ค่อนข้างสะดวกสำหรับใครหลายๆคนเลยทีเดียว แต่มันคงสะดวกกว่านี้ถ้าวันนี้ไม่ใช่วันเสาร์  เพราะตั้งแต่ขึ้นมาบนรถไฟขบวนนี้ผมกับดงฮยอกยังไม่มีโอกาสได้หย่อนก้นลงนั่งเก้าอี้เหลืองๆนี่เลยให้ตาย

       


      “แอ่ก..  ขออากาศหายใจที”  ว่าที่คุณหมอพยายามอย่างมากในการยืดคอขึ้นเพื่อหาอากาศหากพื้นที่แคบๆตรงนี้

       

      “...เตี้ย”

       

      “อะไรนะ?”

       

      “อ๋ออ เพลียยย โหย~ คนเยอะเนอะ ยืนนานจนเพลียละเนี่ย คิก..”    ผมหลุดขำจนอีกคนจับได้  กำปั้นเล็กทุบลงมาบนอกแรงๆหนึ่งที ก่อนจะหันหน้าหนีไป..   หันไปหาอากาศล่ะสิ

       

       

      “จุนเน่อ่า.. บอกแล้วว่าซับเวย์คนเยอะ วันนี้วันเสาร์นะ”

       

      “บ่นไรอีกเนี่ย”  ผมเอื้อมมือไปโยกหัวคนข้างหน้าเบาๆ

       

      “ก็นายมีรถถถถถถถ ทำไมไม่ขับรถมา ให้มายืนเบียดแบบนี้ทำไมอ่ะ”  คิมดงฮยอกปัดมือผมออก แล้วพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ ตามมาด้วยหน้าบูดๆตามสเต็ป

       

      “อยากอยู่ใกล้ๆไง อบอุ่นดีนะ ฮ่าๆๆ”

       

      “ประสาทททททท  ไหนความอบอุ่น?  นี่เรียกแออัดเหอะ”

       

      “เออน่า.. ถึงแล้วเนี่ย”

       

       

      ผมจำเป็นต้องคว้ามือของดงฮยอกมาจับไว้กลัวจะพลัดหลงกันเพราะสถานีนี้คนเยอะเหลือเกิน..  ทางออกหมายเลขห้า สถานีมหาวิทยาลัยฮงอิก หรือที่คนแถวนี้เรียกกันติดปากว่าฮงแด แหล่งการค้าชื่อดังที่มักจะคับคั่งไปด้วยผู้คนมากมายโดยเฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์แบบนี้..   ผมเดินจับมือดงฮยอกไปตามทาง  นานๆจะได้พาอีกคนออกมาพักผ่อน แถมวันนี้อากาศดีอีกต่างหาก เจ๋งชะมัด

       

       

      “ย๊า...  ปล่อยได้แล้ว เดินเองได้”

       

      “ไม่เอา เดี๋ยวนายหายไปทำไง”  ยิ่งอีกคนทำท่าจะสะบัดมือผมออก ผมยิ่งกระชับฝ่ามือให้แน่นขึ้นไปอีก

       

      “ไม่ใช่เด็กแล้วป่ะ  มือถือก็มี-... เห้ยย!!! มือถือ!!”   ดงฮยอกสะบัดมืออกสำเร็จแล้วควานหาโทรศัพท์ไปทั่ว ทั้งกระเป๋ากางเกง กระเป๋าเสื้อ รวมไปถึงกระเป๋าเป้ที่อีกคนแบกมาด้วย

       

      “อย่าบอกนะว่า..”

       

      “แหะๆ ลืมอยู่บนหัวเตียงชัวร์เลย”

       

      “ไอ้หมอขี้ลืมเอ้ยยย”  ดีดหน้ามนๆนั่นไปหนึ่งที ข้อหาขี้ลืมไม่มีสาเหตุ คนยิ่งเยอะๆแบบนี้แล้วด้วย ปกติถ้าหลงกันก็จะโทรบอกให้ไปรอที่รถ แต่วันนี้ไม่มีทั้งมือถือ รถก็ไม่ได้เอามา ผมควรทำยังไงดีเนี่ย..

       

      “โธ่เอ้ย.. ไม่ได้ตั้งใจซะหน่อย  นี่ก็ดีดลงมาได้ มือหนักเป็นบ้า..”  มือเล็กๆนั่นเอื้อมมาลูบหน้าผากตัวเองเบาๆตรงบริเวณที่โดนผมดีด ฮ่าๆ เหมือนเด็กเลย..

       

       

       

      เหมือนเด็กงั้นเหรอ ?

      ใช่แล้ว

      คิมดงฮยอกก็เหมือนเด็ก.

       

      .

       

      .

       

      .

       

       

      “ห้ามแกะออกนะ”  คำสั่งจากคนตัวสูงที่กำลังผูกข้อมือผมด้วยลูกโป่งสวรรค์รูปหัวใจลูกใหญ่สีแดงสด  สายเชือกบางๆของลูกโป่งมันยาวพอที่ลูกโป่งจะอยู่ในที่สูงๆเหนือศีรษะทุกคนในย่านการค้าแห่งนี้

       

       

      นี่เห็นผมเป็นเด็กสามขวบรึไง ?

       

       

      “ไม่ผูกได้มั้ย มันน่าอายจะตายไป”   ผมพยายามเอามืออีกข้างแกะเชือกออกจากข้อมือ แต่ให้ตายมันก็แกะไม่ได้ จุนฮเวเล่นผูกไว้กับข้อต่อนาฬิกาข้อมือของผม ร้าย.. ร้ายจริงๆ

       

      “น่ารักออก ^^” 

       

      “มาลองผูกเองมั้ยล่ะ?”

       

      “เอาดิ คิดว่าไม่กล้าเหรอ?”

       

      “....”   เห้ยยยยย เอาจริงดิ

       

      .

       

      .

       

      “คุณลุงครับ..  เอาลูกโป่งแบบนี้อีกลูกนึงฮะ”   กูจุนฮเวใช้วิธีลากผมมาที่ร้านลูกโป่งร้านเดิม พร้อมทั้งชี้ๆ จะเอาลูกโป่งแบบเดียวกัน

       

      “ไม่ครับๆ  ...นี่..ของนายต้องอันนี้..  ลุงฮะ เอารูปปลาหมึกตัวนั้นแทนฮะ”  

       

      “เห้ยย มันใหญ่ไปมั้งคิมดงฮยอก”

       

      “ป๊อดเหรอ?”   ฮ่าๆๆ  ลูกโป่งนั่นมันใหญ่จริงๆนั่นแหละ แต่ช่างสิ นายแกล้งกันก่อนทำไมอ่ะ

       

      “ป่าวววววววว โธ่เอ้ยยยย~ จะใหญ่แค่ไหนกันเชียว”  จุนฮเวพูดพร้อมกับยักไหล่ให้ผมทีนึง

       

       

      เหอะ

      ขี้คุยชะมัด.

       

       

      แทบจะทุกย่างก้าวของการเดินช็อปปิ้งในย่านการค้าแห่งนี้ รู้สึกได้เลยว่ามีคนมองเราสองคนอยู่ตลอด มีทั้งรอยยิ้มเล็กๆจนไปถึงการหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง  มีครั้งนึง.. เด็กผู้ชายตัวอ้วนๆจากไหนไม่รู้เดินมาหยุดอยู่หน้าจุนฮเวแล้วขำออกมาแบบไม่เกรงใจ พร้อมทั้งชี้ไปที่ลูกโป่งเจ้าปัญหาสลับกับชี้ใบหน้าหล่อๆของคนที่ยืนอยู่ข้างๆนี่ด้วย

       

      เอ่อ...

      เอาจริงมั้ย?

       

      ผมทำได้แค่ภาวนาในใจ..

      ภาวนาขอให้กูจุนฮเวไม่ต่อยเด็ก.

       

       

       

      “เด็กนี่แม่-ง.. กวนตีน”     หลังจากเดินห่างออกมาจากเด็กนั่นแล้ว คำสบถที่ผมไม่ได้ยินมานานพอสมควรเวลาอยู่ด้วยกัน ถูกอีกคนพ่นออกมาแบบไม่ทันได้คิด

       

      “ไม่เอาน่า..”  ผมเอามือข้างนึงลูบต้นแขนของอีกคนเบาๆ พยายามให้ใจเย็นกว่านี้สักหน่อย

       

      “มันเป็นใครวะ มาชี้หน้าละขำอ่ะ โมโหชะมัด”

       

      “จุนฮเวใจเย็นๆ.. นั่นเด็กนะ”  ผมต้องพยายามสรรหาคำพูดอะไรก็ได้ เพื่อให้อีกคนใจเย็นลง มือที่ลูบเพียงต้นแขนในตอนแรก เปลี่ยนมาลูบหลังอีกคนเบาๆ

       

       

      เด็กน่า..  ยังไงคนที่โตกว่าก็ควรให้อภัยนะ.

       

      .

       

      .

       

       

       

      “โอ๊ะ  จุนเน่โอปป้า!

       

      “โอ๊ะ..  น้อง.. เอ่อ..”  

       

      “จางฮันนาค่ะ”    เด็กผู้หญิงมอปลายที่ผมไม่รู้จักกำลังยืนแนะนำตัวกับจุนฮเว  พร้อมทั้งยื่นมือออกมาขอเชคแฮนด์.. จุนฮเวปล่อยมือผมแล้วยื่นไปจับมือน้องมาเชคแฮนด์เบาๆ

       

      “เราเคยเจอกันใช่ไหมครับ?”   อืม.. เคยเจอกันด้วยเหรอ..

       

      “แหงสิคะ.. ก็พี่ๆไปเล่นดนตรีประชาสัมพันธ์คณะศิลปกรรมดนตรีที่โรงเรียนหนูไง หนูอยู่หน้าเวทีเลยนะคะ ^^

       

      “อ๋า.. นึกออกแล้วครับ ละฮันนามากับใครเอ่ย?”   ...แสนดีเหลือเกินพ่อคุณ น้องสาวคนสวยคนนี้คงเป็นแฟนคลับนายสินะ  ทีเมื่อกี้จะต่อยกับเด็กอ้วน เห๊อะ.. นายมันสองมาตรฐานชัดๆกูจุนฮเว

       

      “มาคนเดียวค่ะ แล้วจุนเน่โอปป้ามากับ...”

       

      “อ๋อ พี่มากับดงฮยอก นี่แฟ-..”

       

      “พี่ไม่ได้อยู่คณะศิลปกรรมใช่ไหมคะ? ไม่เห็นขึ้นเวทีวันนั้นเลย” จุนฮเวยังพูดไม่ทันจบ เด็กนี่ก็หันมาทางผมพร้อมถามแทรกขึ้นมา ..เสียมารยาทชะมัดเด็กอะไร

       

      “อ๋อไม่.. พี่เรียนคณะแพ-..”

       

      “งั้นไม่อยากรู้จักแล้วค่ะ”  เห้ยยยยยยยยยยยย เด็กบ้านี่ มารยาทรู้จักมั้ย? ฮะ???

       

      .

       

      .

       

      “ดงฮยอก.. ไปนั่งรอตรงม้านั่งก่อนนะครับ”   จุนฮเวกระซิบเบาๆที่ข้างหูแล้วพยักเพยิดไปทางม้านั่งที่ว่างอยู่

       

       

       

      ..ไล่อีก

      เออออออออออออ งั้นใช้เวลากับแฟนคลับนายไปเลย   ดูนั่นสิ.. มีให้เบอร์กันด้วย ถ้าให้เดาคงเป็นเหตุผลเดิมๆคือ อยากเข้าคณะศิลปกรรมดนตรีค่ะ เดี๋ยวเอาไว้ปรึกษาพี่ๆไงคะเดือดร้อนจนต้องไปเปลี่ยนเบอร์ให้บ่อยๆ คิดดูดิว่าเปลี่ยนบ่อยจนพวกพี่ฮันบินดุเอา  ...จะว่าไปนั่งรอตรงนี้มันไม่เห็นจะดีกว่าการยืนอยู่ตรงนั้นเท่าไหร่เลย ก็แค่ไม่ได้ยิน.. แต่ก็มองเห็นอยู่ดีว่าคุยกันยังไง คุยกันนานแค่ไหน

       

       

      เด็กน่า..  ยังไงคนที่โตกว่าก็ควรให้อภัยนะ    … โทษทีผมขอถอนคำพูดได้ป่ะ?

       

      เห้อ

      ก็คนมันหวงอ่ะ L

       

       

       

       

       

                      ม้านั่งตัวนั้นที่ผมบอกให้ดงฮยอกไปนั่งรอ.. ตอนนี้มันว่างเปล่า  ซึ่งนั่นหมายถึงว่าคิมดงฮยอกไม่ได้สนใจคำพูดของผมเลย ผมรู้... รู้ว่าดงฮยอกเป็นอะไรถึงได้หายไปแบบนั้น แต่เพราะวันนี้มันยากที่จะตามหากัน ผมเลยเสียใจนิดหน่อยที่อีกคนไม่เชื่อฟังผม ...อีกอย่างคือดงฮยอกไม่มีโทรศัพท์ ทางเดียวที่ผมจะหาดงฮยอกเจอ คือผมจำเป็นต้องเดินไปตามถนนที่ทอดยาวเรื่อยๆพลางมองหาลูกโป่งที่ผมเป็นคนผูกให้เองกับมือ

       

      บางที.. ลูกโป่งนั่นก็ไม่มีประโยชน์เลยสักนิด

      ถ้าอีกคนดึงมันลงมา ไม่ยอมให้มันลอยขึ้นไป

      อย่าลืมสิ..

      คิมดงฮยอก ก็คือคิมดงฮยอก.

       

       

       

      ข้าวของพะรุงพะรังในมือทำให้ผมหมดแรงในการตามหาอีกคนเอาง่ายๆเหมือนกัน สุดท้ายผมตัดสินใจพาตัวเองมานั่งพักที่คอฟฟี่ช็อปชื่อดังที่ตอนนี้ขยายไปหลายสาขาเลยทีเดียว ซึ่งสาขาที่ผมนั่งอยู่เป็นสาขาใหญ่สุดของที่ฮงแดเลย อ่า.. คิดถึงดงฮยอกชะมัด นายอยู่ไหนนะ คืนนี้จะหาเจอมั้ยเนี่ย..

       

       

       

      “ลาเต้ปั่นกลับบ้านได้แล้วค่ะ 2200วอน นะคะ”

       

      “เฮ้.. โทษนะครับ ทำไมไม่ได้ส่วนลดอ่ะ? ผมยื่นบัตรสมาชิกให้แล้วนี่...”

       

      “อ๋อ.. พอดีใช้ลดได้เฉพาะแก้วแรกของวันนะคะ”

       

      “นี่ก็แก้วแรก-... เอ๊ะ..  โทษนะครับ อีกแก้วนึงถูกซื้อที่สาขาไหน พอจะเช็คให้ได้มั้ยครับ?”

       

      “สาขาสามค่ะ”

       

      .

       

      .

       

       

      นายยังจำรหัสสมาชิกได้ขึ้นใจสินะ..

       

      คิมดงฮยอก

      รอแป็บนึง กำลังเดินไปหา.

       

       

       

       

      ลูกโป่งรูปหัวใจสีแดงสดไหวตามลมเพียงเบาๆ..  พอลากสายตาลงมาก็จะเจอกับเจ้าของผมสีน้ำตาลอ่อนที่กำลังนั่งไกวชิงช้าอยู่ข้างร้าน พลางยกแก้วกาแฟขึ้นมาดูดอย่างไม่สนใจสิ่งแวดล้อมรอบตัวนัก  ไม่สนใจขนาดที่ว่าผมมายืนอยู่ข้างหลังตั้งนานแล้วแบบนี้..

      .

      .

       

       

      “อ๊ะ...”   ผมเอามือทั้งสองข้างปิดตาของดงฮยอกไว้จากทางด้านหลังแบบไม่ทันให้อีกคนได้ตั้งตัว มือเล็กนั่นก็ตอบสนองโดยการพยายามจะแกะมือของผมออกแทบจะในทันที

       

      “หาเจอซะที คิดถึงชะมัด..”  สองมือยังคงปิดตาของดงฮยอกไว้แนบสนิท พร้อมก้มลงไปกระซิบเบาๆข้างหู

       

      “ช้า...” 

       

      “....”

       

      “รอจนง่วงละเนี่ย...”   ดงฮยอกแกะมือผมออกได้สำเร็จ พลางเงยหน้าขึ้นมาหากระพริบปริบๆเหมือนจะพยายามจะบอกว่าง่วงแล้วจริงๆ  ผมอดไม่ได้ที่จะเอามือประคองใบหน้าเล็กนั่น แล้วกดจูบลงไปบนหน้าผากมน

       

      “ขอโทษ..”

       

      “หาเจอแล้วก็มาแกะลูกโป่งให้ซะทีสิ  อายคนจะแย่”   ผมเดินอ้อมไปหา แล้วนั่งยองๆลงตรงหน้าดงฮยอก อีกคนเห็นแบบนั้นจึงยื่นแขนมาให้อย่างว่าง่าย เพียงไม่กี่นาทีผมก็แกะเชือกที่ผูกติดกับนาฬิกาของอีกคนได้สำเร็จ

       

      “เสร็จละ งั้นปล่อยให้ลอยล่ะนะ”

       

      “อย่านะ! ถือไว้ก่อน แล้วส่งมือข้างที่ผูกลูกโป่งของนายมานี่..” คิมดงฮยอกจัดการแกะลูกโป่งปลาหมึกยักษ์ออกจากข้อมือผมอย่างรวดเร็ว แล้วดึงผมให้ลุกขึ้นไปนั่งบนชิงช้าข้างๆเขาแทน

       

      “....”   หัวกลมๆของดงฮยอกเอนลงมาซบที่ต้นแขนเป็นที่เรียบร้อย..  นี่อ้อน หรือ ง่วง?

       

      “จุนเน่อ่า.. มาปล่อยลูกโป่งพร้อมกันเร็ว”

       

      .

      .

       

      ลูกโป่งลูกใหญ่ทั้งสองลูกถูกปล่อยให้ลอยขึ้นฟ้าพร้อมๆกัน  คนที่ซบอยู่ข้างๆหัวเราะคิกคักกับลูกโป่งปลาหมึกยักษ์ที่พริ้วไหวไปตามลมราวกับว่ามันสามารถขยับได้จริงๆ  มองแบบนี้แล้วรู้สึกว่าอีกคนสดใสชะมัดเลย..

       

      “นี่ๆจุนฮเว มันจะชนเครื่องบินมั้ยอ่ะ?”  เสียงเล็กถามพลางชี้ขึ้นไปข้างบน

       

      “ถามเหมือนเด็กเลยนายอ่ะ...”

       

      “แล้วมันจะแตกเมื่อไหร่ นายรู้ป่ะ...?”

       

      “ไม่รู้ครับ”

       

      “ฮู่ววววว ไม่ได้เรื่องเลย รู้ไรมั่งนายอ่ะ?”

       

      “รู้อย่างนึง..”

       

      “...”

       

       

       

      “แฟนโคตรขี้หึงเลย”   แอบยื่นหน้าไปกระซิบใกล้ๆ พร้อมฝังจมูกลงบนแก้มใสแบบไม่ได้ขอก่อน.. ซึ่งสิ่งที่ตามมาคือการโดนทำร้ายร่างกายจากคนตัวเล็ก

       

      แต่ก็คุ้มครับ

      ถือว่าคุ้ม.

       

       

       

       

       

                      เหตุผลข้ออ้างที่ทำให้คนตัวสูงจับมือผมแน่นขนาดนี้เพราะบอกว่ากลัวผมหายอีก..  ดึกขนาดนี้แล้วใครจะไปเล่นอะไรแบบนั้นเล่า  แล้วนี่ก็ง่วงจนแทบเดินไม่ตรงทางอยู่แล้วเหอะ  ..หนำซ้ำคือตอนนี้มันดึกจนรถไฟฟ้าใต้ดินได้ปิดทำการเป็นที่เรียบร้อย สรุปคือถึงคอนโดโดยเสียเงินค่าแท็กซี่ไปแพงมาก แพงกว่าค่าน้ำมันเวลาขับรถไปเองอีก ให้ตายเหอะ บอกให้เอารถไปก็ไม่เชื่อ

                     

       

      “รู้นะว่าคิดอะไรอยู่.. มันมีเหตุผลที่ไม่ขับรถไปนะรู้ป่ะ..”  อยู่ดีๆอีกคนก็พูดขึ้นมาเหมือนกับว่าอ่านใจผมได้

       

      “อะไร?”

       

      “แค่อยากย้อนกลับไปช่วงที่คบกันใหม่ๆ นายน่ารักดีตอนนั้น...”   จุนฮเวพูดแบบไม่ได้ใส่ใจมากนัก แต่นั่นมันก็ทำให้แก้มผมร้อนขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้.. แล้วมันก็ยิ่งร้อนขึ้นไปอีกเมื่ออีกคนถอดเสื้อยืดแล้วโยนลงตะกร้าแบบไม่เกรงใจผมสักนิด

       

      “....”

       

      “ยอมนั่งซับเวย์ไปเดทด้วยทุกอาทิตย์... ไม่เห็นเคยบ่น”

       

      “....”

       

      “พอมีรถหน่อยนะ...”

       

      “อะไรล่ะ? ทำไมอ่ะ?  อยากสบายไม่ได้รึไง? เอองั้นคราวหลังเดี๋ยวขับเอง นายนั่งเฉยๆไปเลยไป”

       

      “ขี้บ่นแบบนี้... เดี๋ยวก็จับจูบทั้งที่ยังถอดเสื้อแบบนี้ซะหรอก”

       

      “ทะลึ่งงงง  ไปอาบน้ำเลย!!!!!!”    เอาหมอนใบใหญ่บนเตียงขว้างใส่หน้าคนทะลึ่งไปหนึ่งครั้งเต็มๆ จุนฮเววิ่งหนีเข้าห้องน้ำไปเรียบร้อยแล้ว

       

      .

      .

       

       

       

      ครืดดดด ครืดดดดดดด~   เสียงโทรศัพท์ของคนที่อยู่ในห้องน้ำสั่นอย่างต่อเนื่อง ผมเลยถือวิสาสะชะโงกหน้าไปดูว่าใครโทรมาซะดึกดื่นแบบนี้..  เบอร์แปลกอีกต่างหาก

       

      “ฮัลโหล..?”    ขอโทษละกันกูจุนฮเว ไม่ได้ตั้งใจจะเสียมารยาท แต่นายอาบน้ำช้าชะมัด

       

      ( จุนเน่โอปป้า ทำอะไรอยู่เอ่ยย )   เสียงเหมือนจางฮันนา.. เด็กมัธยมที่เจอที่ฮงแดวันนี้สินะ..

       

      “.....กูจุนฮเวอาบน้ำ..”

       

      ( เห?  ละพี่เป็นใครเนี่ย มารับโทรศัพท์จุนเน่โอปป้าได้ไง )

       

                      “ดงฮยอกอ่า... หยิบเสื้อให้หน่อยครับบบบบ~”  เสียงจุนฮเวดังออกมาจากห้องน้ำ คงพอจะทำให้คนในสายได้ยินบ้าง

       

      “แป๊บนึงนะจุนเน่อ่า....”  ผมตะโกนตอบกลับจุนฮเวไป   “พี่ว่า...น้องค่อยโทรมาใหม่พรุ่งนี้แล้วกันนะ”

       

      ( ละพี่เป็นใคร-... )

       

                      “ดงฮยอกอ่า~~~~~~~ เสื้อออออออออออ~”  ยักษ์หลังประตูห้องน้ำยังตะโกนไม่หยุด ไม่ได้รับรู้เลยใช่มั้ยว่านี่ลำบากกับการจัดการแฟนคลับสาวๆของนายอยู่เนี่ย

       

      “ถ้าอยากรู้ว่าพี่เป็นใคร โทรมาพรุ่งนี้ละกัน...”

       

      “ดงฮยอกกกกกกกกกกกกกกกกก~

       

      ( นั่นเสียงจุนเน่โอปป้านี่.. )

       

      “อ่าใช่.. จุนฮเวเรียกละ งั้นพี่ไปใส่เสื้อให้แฟนก่อนนะ ฝันดีละกัน.. ละโทรมาใหม่น้า~”  

       

       

      หึ..

      เห็นป่ะ

      ผมใจดีจะตาย.

       

       

       

      .

      .

       

      “มานอนนี่มา..”   ผมกวักมือเรียกอีกที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จให้เข้ามาหาใกล้ๆ.. จุนฮเวล้มตัวนอนลงบนเตียง เอาหัวหนุนตัก ขายาวๆนั่นแทบจะยาวเลยเตียงออกไปอยู่แล้ว

       

      “ทำไมวันนี้ใจดีแปลกๆ?”  มือของผมที่ลูบไล้แทรกไปมาอยู่บนกลุ่มผมสีดำขลับชะงักเล็กน้อย รอยยิ้มบางๆปรากฏขึ้นโดยที่ผมไม่ทันได้ตั้งตัวเลย

       

      “ป่าว..  ก็ใจดีแบบนี้ตั้งนานแล้ว”

       

      “ไม่จริงอ่ะ มีอะไรบอกมานะ”  จุนฮเวคว้ามือผมที่ลูบอยู่บนหัวเค้า ..ให้เลื่อนลงมาที่แก้มแล้วก็จับมือผมแนบไว้อย่างงั้น

       

      “ก็....”

       

      “....”

       

      “หวง”

       

      “...ฮะ?”

       

      “...เลยลองใจดีขึ้นมานิดนึง นายจะได้ไม่ไปหลงคนอื่น”

       

      “คิดมากชะมัด...” 

       

      “ช่วยไม่ได้นี่ นายเลิกทำตัวฮอตซะที”

       

      “อ๋า.....”

       

      “....”

       

      “ทำไงดีครับคุณหมอ..”

       

      “...”

       

      “ผมเลิกฮอตไม่ได้จริงๆนะ”

       

      .

      .

       

       

      เชื่อ

      แค่ฝ่ามือนายตอนนี้ก็ฮอตเป็นบ้า..

      เอาออกไปเถอะน่า

      เดี๋ยวละลายหมดทั้งร่างพอดี.

       

      END.

       

       

       

      Special:

       

      “อ่ะ  ยาแก้แมลงกัดต่อย”   หลอดยาสีขาวๆถูกโยนลงมาบนหน้าตัก โดยคิมบ็อบบี้

       

      “อะไรพี่? ผมไม่ได้เป็นไร” โยนหลอดยากลับไปให้คนพี่แบบงงๆ

       

      “เอ้า.. ก็คอมึง-...”

       

      “กูว่าโดนหมอกัดต่อยมากกว่าว่ะ ฮ่าๆ”  คิมฮันบินนี่ทำเป็นไม่รู้สักเรื่องได้มั้ยวะ โฮ้ยยยยยยยย

       

      “อ้อ....”  คิมบับฮยองเหล่ตามองผมด้วยสายตาเจ้าเล่ห์สุดๆ

       

      “เงียบไปเลยฮยอง อย่ามาแซว”  ไม่รู้จะเอามือวางไว้ตรงไหน เลยกลายเป็นว่าผมเอามือลูบรอยแดงๆบนต้นคอของตัวเองแทน

       

      “น้องหมอหวงมึงเป็นเหมือนกันเหรอ? ดูปกติเห็นผลักไสไล่ส่ง ฮ่าๆๆๆ”

       

      “....”

       

      “ไม่รู้ดิ.. แต่นี่เปลี่ยนเบอร์ให้อีกแล้ว...”

       

      “มึงว่าไงนะ?”

       

      “เออ.. เปลี่ยนเบอร์แล้วววว เมมใหม่ด้วยนะครับท่านคิม.. ทั้งสองคิมครับ”

       

      “โคตรแม่-ง กุไม่เมมละโว้ยยยยยย มึงรู้ป่ะในเครื่องกูมี จุนฮเว, จุนฮเว2, เชี่ยจุนเน่, จุนฮเวล่าสุด, จุนฮเวล่าสุดกว่า, ....โอ้โหมึงงงงงง ละคราวนี้กูต้องเมมว่าอะไรวะ???”

       

      “เรื่องของพี่ดิ จะเมมไรก็คิดเอาเองดิวะ”

       

      “ไม่โว้ยยยยยย ไม่เมมเชี่ยไรละ ไปบอกคิมบับฮยองโน่นเลย”

       

      .

      .

       

       

      “ฮยองงงงงงง เอามือถือมาดิ๊ เดี๋ยวผมลบเบอร์เก่าแล้วจะเมมเบอร์ใหม่ให้ พี่ฮันบินมันไม่สนใจผมละอ่ะ”

       

      “ไม่ต้องลบอะไรทั้งนั้น...”

       

      “....หื้ม?”

      .

      .

       

      “กูไม่เคยเมมเบอร์มึง”

       

       

       

      END.

      อ่าวคิมบับบบบบ 5555555555555  ทำไมทำกับเน่แบบนี้ล่ะ

      ใครบอกดงฮยอกใจร้าย ไม่มี๊~  รักเน่ขนาดนี้ ใจดีสุดๆ เป็นมิตรกับทุกคนแม้แต่จางฮันนา(?) 5555555

       

      >> วันนี้มาดึกหน่อยโนะ ขอโทษจริงๆจ้า

      แล้วก็ขอบคุณคอมเม้นท์  tag#ฟิคสามหมอ ในทวิตเตอร์ด้วยนะคะ ซาบซึ้งตรึงใจมากขอบอก ^3^

      มันเหมือนมีน้ำหล่อเลี้ยงให้ keep going กับ #ฟิคสามหมอ เดอะซีรีย์ ต่อปายยย (เว๊อเว่ออ 5555)

      รักทุกคนเหมือนเดิมฮะ จุ๊บบบบบบบ :3

      Twitter :  #ฟิคสามหมอ   , @kii_mm  < < ทวงฟิคได้ เราเป็นมิตรกับทุกคนโนะ *ซารางเฮ*

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×