[SF] JungJung - BobYun - [SF] JungJung - BobYun นิยาย [SF] JungJung - BobYun : Dek-D.com - Writer

    [SF] JungJung - BobYun

    โดย iimm

    จังจังอา.. มานี่หน่อยย ~

    ผู้เข้าชมรวม

    2,193

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    21

    ผู้เข้าชมรวม


    2.19K

    ความคิดเห็น


    20

    คนติดตาม


    28
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  18 ต.ค. 57 / 16:40 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    สำหรับนักอ่านคนใหม่ๆ ทุกเรื่องเป็น SF นะคะ ^_^

    จบในตอน ไม่จำเป็นต้องอ่านทุกตอนก็ได้จ้า

    ** แต่เพื่ออรรถรสที่ดี และถ้ามีเวลา..

    แนะนำให้ไล่อ่านตั้งแต่ตอนแรกเนาะ ฮี่ฮี่ :D
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

                 

      BOBBY : YUNHYEONG






               การซ้อมเต้นช่วงแรกที่มีเพียงผมกับจุนฮเวซ้อมกันอยู่สองคน มันก็ผ่านไปด้วยดี....  แต่หลังจากซ้อมไปแล้วประมาณหนึ่งชั่วโมงบ็อบบี้ฮยองก็ปรากฏตัวพร้อมกับอะไรบางอย่างที่ทำเอาผมกับจุนฮเวอึ้งไปเลย..

       

       

       

      “เมี๊ยวววววว... ~ ”    

       


      สิ่งมีชีวิตตัวน้อยที่ไม่ควรมาอยู่ในห้องซ้อมเต้นไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม..  มันมีโอกาสสูงมากที่พวกผมจะเผลอไปทำร้ายมันโดยไม่ได้ตั้งใจ ให้ตายคิมบับฮยอง....  ที่นี่ไม่ใช่คอนโดมึงนะครับ ใครให้เอาน้องเหมียวมาวิ่งเล่นแบบนี้ครับเนี่ยยย

       

      “ฮยอง นี่ลูกแมวของใคร?”  สายตาพยักเพยิดไปทางเจ้าเหมียวที่วิ่งเล่นอยู่บนพื้น

       

      “ของยุน..”

       

      “แล้วถ้าเกิดผมเต้นๆอยู่ ละเผลอเหยียบน้องแมวเข้า.. ยุนฮยองจะฆ่าผมมั้ย?”

       

      “กูเนี่ยจะฆ่ามึงก่อน คิมฮันบิน”

       

      “โห๊ะ.. อะไรวะ”

       

      “แล้วฮยองเอามาห้องซ้อมด้วยทำไมวะ.. มันวิ่งไปทั่วละเนี่ยเห็นป่ะ   เห้ยยยย!! ..แกอย่าเข้ามานะเว้ยย  ออกไปเลย ไอ้ตัวเล็กมีขนนน!!”  จุนฮเวผู้ซึ่งไม่เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยงทุกชนิด กำลังโบกมือไล่เจ้าเหมียวตัวเล็กให้ออกห่างๆตัว

       

      “พวกมึงนี่..  สัตว์โลกน่ารักนะ จิตใจเมตตาหน่อยดิวะ”   สัตว์โลกน่ารักในห้องซ้อมเต้นอ่ะนะ?

       

      “ฮยอง.. มึงรู้ป่ะว่าพวกกูเมตตามันขนาดที่ว่ากุละสายตาจากมันได้เลยครับ”

       

      “มันน่ารักใช่มั้ยล่ะ กูบอกแล้ว”

       

      “ ...กลัวเหยียบ”

       

      “ฮ่าๆๆ เอออออออออ กูขอโทษได้ป่ะล่ะ ยุนยังเรียนไม่เสร็จ น้องเอามาฝากเลี้ยง”

       

      “งั้นก็ซ้อมต่อไม่ได้จนกว่าจะมีคนมาดูแลเจ้าตัวเล็กนี่..”

       

      “เออน่า อีกแป๊บนึงเดี๋ยวยุนก็มาแล้ว ..พักก่อนเหอะลีดเดอร์ กุขี้เกียจพอดีเลย ฮ่าๆๆๆ”

       

      -___________-

       

       

      ”จุนเน่มึงไปอุ้มแมวมาดิ๊ มันอยู่ใต้ตู้อ่ะ”

       

      .

       

      .


      ?
      บ็อบบี้ฮยอง  มึงช่วยเช็คสีหน้าจุนฮเวมันหน่อย

      น้องมันโอเคกับสัตว์เลี้ยงของมึงไหม รบกวนช่วยเช็คนิดนึงครับ

       

      และอีกเรื่องที่ฮยองควรคิด ก็คือ

      บางทีแมวของฮยองอาจจะกลัวยักษ์.... (?)

      ฮยองไปอุ้มเองปลอดภัยว่า เชื่อฮันบินนะครับ 555555555555555555555555555555555555

       

       

      “ไม่!! แมวใครก็ไปจัดการเองดิวะ”   นั่นไงล่ะ  บอกแล้วว่าจุนฮเวมันไม่เอาด้วยหรอก

       

      “จุนเน่ กูพี่มึงนะ ใช้นิดใช้หน่อยทำเป็น..  ไปอุ้มมา!

       

      “ไม่เอา”

       

      “มึงกลัวแมวเหรอ..  มึงเนี่ยนะ?”

       

      “กลัวก็เหี้-ยละ ไม่ได้กลัววววว แต่มันมีขนนนน ถึงจะน่ารักแค่ไหนถ้ามีขนก็ไม่เล่นด้วย ไม่เล่นนนนน!!

       

       

      เมี๊ยวววว.... ~      เสียงเล็กๆของสิ่งมีชีวิตที่วิ่งเล่นไปมาร้องขึ้นเหมือนประท้วงประโยคเมื่อกี๊ของจุนฮเว ...เห็นมั้ยจุนเน่ น้องเหมียวไม่รักมึงแล้ว

       

       

      “แล้วแมวไม่มีขนมันน่ารักตรงไหนวะ -_-

       

      “น่ารักกว่าแมวมีขนละกันฮยอง” 

       

       

       

       

      เออ.... รสนิยมมึงนี่แม่ง..

      งั้นเลี้ยงปลาทองมั้ย?  ไม่มีขน

      เดี๋ยวกูซื้อให้.

       

       

       

       

       

                      “จังจังอา..  มานี่หน่อยย ~    ผมเอานิ้วเคาะพื้นเบาๆ ให้จังจังได้ยินเสียง สักพักเจ้าตัวเล็กก็วิ่งเข้ามาหาเอาเท้ามาเขี่ยๆอยู่ที่มือ  ผมเอามือลูบหัวไปสองสามที แล้วให้ขนมเป็นรางวัล

       

       

      “บ็อบบี้ฮยอง  ถ้าไม่ซ้อมก็กลับหอไปเลยไป”   อีกละคิมฮันบิน มึงอย่าท้ากูนะ โธ่เอ้ยยยย

       

      “กูเล่นกับแมวอยู่ แป๊บนึงงง”

       

      “ไม่แป๊บโว้ยยย ลุก!

       

       

      เห๊อะ..  มึงไม่เข้าใจหัวอกคนรักสัตว์แบบกูหรอกคิมฮันบิน มึงอ่ะใจร้าย.. ไม่เมตตาสัตว์โลกน่ารัก ดูก็รู้แล้วว่าจังจังอยากเล่นกับกูแค่ไหน  ก็ได้แต่บ่นใจนั่นแหละ.. สุดท้ายก็ต้องอุ้มเจ้าตัวเล็กออกไปให้ยุนฮยองที่รออยู่ข้างนอกดูแลอยู่ดี

       

      .

      .

       

      “ซ้อมใกล้เสร็จละ  รอได้ใช่มั้ยครับ?”   ถามพลางยื่นจังจังส่งให้ยุนฮยอง

       

      “ผมอ่ะไม่มีปัญหาอยู่แล้ว มีแต่พี่อ่ะแหละ.. อยากเล่นกับจังจังใช่มั้ยล่ะ ฮ่าๆ”   เจ้าตัวยื่นมือมารับจังจังไปอุ้มแล้วหัวเราะกับท่าทีเห่อสัตว์เลี้ยงใหม่ของผม..  เออก็ใช่  ผมอยากกลับคอนโดตอนนี้เลยให้ตาย

       

      “ยุนฮยองอ่า.. ดูแลจังจังดีๆนะ เดี๋ยวพี่มา”

       

      “แน่สิก็ผมซื้อจังจังมา ฮ่าๆๆ พี่ไปซ้อมต่อเถอะครับ ผมรอได้นะ ^^

       

      “เด็กดี”  ผมเอื้อมมือไปขยี้ผมยุนฮยองเบาๆด้วยความเอ็นดู โดยที่ไม่ลืมที่จะเอานิ้วไปหยอกเจ้าหนูจังจังเล่นก่อนเดินเข้าห้องซ้อมไป

       

       

       

       

       

      รู้สึกดีนะ อย่างน้อยจังจังก็ทำให้ผมกับยุนฮยองได้ใช้ความรักดูแลสิ่งๆเดียวกัน...

      มันอบอุ่นแบบบอกไม่ถูกเลยครับ :)

       

       

       

       

                      ผมชักจะสงสัยแล้วสิว่าลูกแมวที่อยู่ในบนตักของคนตรงหน้านี่ใครเป็นคนอยากได้กันแน่.... ตอนแรกห้ามไม่ให้ผมซื้อ บอกว่าเดี๋ยวห้องมีกลิ่น เดี๋ยวซนกัดข้าวของ  แล้วไหงตอนนี้กลายเป็นบ็อบบี้ฮยองนั่นแหละ ที่อุ้มไม่ยอมวางเลย

       

       

       

      “ฮยอง..  ปล่อยจังจังลงมากินข้าวมั่งเหอะครับ”

       

      “ชู่วววว์~   จังจังหลับอยู่”   บ็อบบี้ฮยองเอานิ้วแตะที่ปากส่งสัญญาณบอกให้ผมเงียบ เนื่องจากเจ้าตัวเล็กบนตักกำลังหลับสบายอยู่

       

       

       

       

      ท่าทางจะเป็นเอามากแฮะ..

      ไม่คิดเหมือนกันว่าอีกคนจะมีมุมนี้

      น่ารักเหมือนกันนะเนี่ย..

       

       

       

      “งั้นฮยองนั่นแหละลุกมาทานข้าวได้แล้วครับ”

       

      “ชู่วววว์~   ยุนฮยองอ่า.. เบาๆ..”

       

      “ฮยอง...”

       

      “ชู่วววว์~

       

      “......”

       

      .

       

      .

       

      “นี่ฮยองรักแมวมากกว่าผมแล้วเหรอ?”

       

      “เห้ยไม่ใช่แบบนั้น ... หยุด.. หยุดความคิดที่กำลังจะงอนเลยนะ.. หยุดคิดก่อน ขอเวลาห้านาที”  บ็อบบี้ฮยองรีบเคลื่อนย้ายเจ้าตัวเล็กแบบเบามือที่สุดลงจากตัก แล้วพาไปนอนที่เบาะกลมๆ ซึ่งผมซื้อมาพร้อมกันในวันที่ไปรับจังจังมาที่คอนโด

       

       

       

      “ฮยองดูเห่อจังจังมากกว่าผมอีก”   เริ่มประโยคสนทนาบนโต๊ะอาหารด้วยกันตัดพ้ออีกคนเบาๆ

       

      “เออ.. นั่นดิ มันน่ารักมั้ง แหะๆ ^^

       

      “ผมเริ่มอิจฉาแล้วนะ...”    

       

      “เฮ้... อิจฉาอะไรกัน  พี่รักนาย  นายรักจังจัง พี่ก็เลยรักจังจังด้วย  มันไม่ดีรึไง?”

       

      “ด...ดีครับ”   มาบอกรักกันแบบนี้ได้ไงวะ  ._.

       

      “แล้วอิจฉาอะไร  หื้ม?”   บ็อบบี้ฮยองพูดพลางเอื้อมมือไปตักอาหารโปรดของผม แล้วยื่นช้อนนั้นมาตรงหน้า  นี่มันเท่ากับว่าโดนอีกคนป้อนข้าวแบบไม่ทันตั้งตัวเลยนี่...

       

      “.....”   ส่ายหัวแทนคำตอบ เพราะตอนนี้ข้าวเต็มปากผมเลยฮะ

       

      “ไม่อิจฉาแล้วจริงนะ”

       

      “ไม่จริง...”

       

      “เอ๊า.. ซงยุนฮยองเล่นอะไรเนี่ย พี่ตามเราไม่ทันแล้วนะ”  บ็อบบี้ฮยองรวบช้อนเข้าด้วยกัน เหมือนจะบอกกลายๆว่าอิ่มแล้ว จากนั้นก็จ้องผมไม่วางตาเลย

       

      “ก็.. จังจังมีฮยองป้อนข้าว  ตะกี้ฮยองก็ป้อนแล้ว..  แต่จังจังยังมีคนให้นอนตักด้วยนะ.. ผมไม่เห็นจะได้นอ-...”

       

      “ก็นอนกอดกันทุกวัน”

       

      “อ่า.. เรื่องนั้นไม่นับดิ”    นอนกอด กับ นอนตัก มันไม่เห็นจะเหมือนกันตรงเลยนี่เนอะ

       

      “แล้วต้องนับเรื่องไหน?”

       

      “ทุกเรื่องที่ฮยองทำให้จังจัง ...ฮยองก็ห้ามลืมผมนะ ต้องทำด้วย”

       

      “ไปอิจฉาอะไรแมวตัวเล็กๆเนี่ยยุนฮยอง ฮ่าๆ”

       

      “ไม่รู้อ่ะ  ฮยองต้องรักให้เท่านะ.. ห้ามขี้โกง”

       

      “ก็ได้.. ทุกเรื่องเลยใช่ไหม ?”

       

      “ใช่!

       

      .

       

       

      .

       

       

       

      “โอเค พรุ่งนี้ฮยองว่าจะอาบน้ำให้จังจังซักหน่อย”

       

       

      .

       

      .

       

       

      เห้ย เดี๋ยวดิ...

      มันไม่ใช่แล้วแบบนี้

      ทีงี้ล่ะหัวไวจังเลยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

       

       

       

       
       

       

      “ย๊า!!!  จังจังอยู่นิ่งๆ!”      

       

      เมี๊ยววววววววววว.... ~’     ผมได้ยินเสียงทะเลาะกันของซงยุนฮยองกับจังจัง ดังมาจากทางระเบียงห้องแต่เช้าเลย  สงสัยจังจังถูกยุนฮยองจับอาบน้ำแน่ๆ

       

       

       ก็บอกว่าจะอาบให้จังจังเอง... เอ้ออออ..

       

       

      “ยุน.. เดี๋ยวพี่อาบให้จังจังเองก็ได้”  ผมเดินเข้าไปอาสาจะช่วย  เพราะสภาพการอาบน้ำให้แมวตัวเล็กๆดูจะเป็นงานยากของยุนฮยองอยู่เหมือนกัน

       

      “ไม่เป็นไร ผมทำได้-... ย๊า!!!!!!!!”   จังจังน้อยสะบัดขน แล้ววิ่งหนีกลับไปในห้อง กระโดดขึ้นเบาะ พร้อมเอาตัวซุกเบาะนั้นไว้อย่างรวดเร็ว

       

      “ฮ่าๆๆ มันวิ่งหนีนายแล้วเห็นมั้ย นายชอบดุอ่ะ”

       

      “โธ่เอ้ย ใครจะไปใจดีแบบฮยองล่ะ..  ฮยองช่วยหยิบทิชชู่ให้หน่อยครับ เหมือนจังจังจะสะบัดฟองเข้าตาผม”  ยุนฮยองเงยหน้าขึ้นช้าๆ ก่อนจะกระพริบตาถี่ๆเนื่องจากมีน้ำตาจากการระคายเคืองไหลออกมา

       

      .

       

      .

       

      “เงยหน้าไว้ก่อน เดี๋ยวพี่ดูให้..”   ผมเอื้อมมือเอาทิชชู่ไปเช็ดให้เบาๆ

       

      “....”

       

      “เฮ้.. ตาแดงอ่ะ”

       

      “ก็แสบตาจะแย่อยู่แล้ว”

       

      “งั้นมานี่มา”  ผมจูงมือน้องไปที่อ่างล้างหน้า พร้อมกับเป็นคนล้างทำความสะอาดตาให้อย่างเบามือที่สุด ดูท่าอีกคนจะแสบตามากเลยแฮะ เห็นได้ชัดจากดวงตาที่ตอนนี้มีน้ำตาเต็มไปหมดเลย

       

       

       

      “ฮยอง.. แสบตาอ่ะ”

       

      “อ่า.. รู้แล้ว หลับตาก่อนถ้างั้น” 

       

      “ฮยองไปเอาทิชชู่มาอีก น้ำตาผมไหลไม่หยุดเลย”

       

      “กำลังหยิบเนี่ย หลับตาก่อนไม่ได้รึไง เดี๋ยวก็แสบตาหรอก”

       

      “ก็หลับอยู่~

       

      “ดีมาก”

       

      “..เร็วๆ แสบตา”

       

      .

      .

       

       

      “ไหนเงยหน้าดิ๊..”  อีกคนเงยหน้าตามอย่างว่าง่ายขณะยังหลับตาอยู่

       

      “..เช็ดเบาๆ แสบ..”

       

      “เงยหน้าอีก..”

       

      “.....”

       

      “อีกนิดนึง..”

       

      “จะให้เงยอะไรนักหนา มันปวดคออุ๊บบ......”  

       

       

       

       

      มืออีกข้างที่ไม่ได้ถือทิชชู่ถูกใช้ประโยชน์โดยการประคองท้ายทอยของอีกคนไว้..  ก็กลัวจะปวดคอ.. สัมผัสที่ไม่คุ้นเคยได้เกิดขึ้น.. มันไม่คุ้นเคยเลยสำหรับผม และแน่นอนมันก็คงไม่คุ้นเคยกับอีกคนเช่นกัน  แต่มันก็เกิดขึ้น..  เกิดขึ้นแล้วจริงๆ..

       

       

       

      “ฮ....ฮยอง”     ทันทีที่ผมปล่อยให้ยุนฮยองเป็นอิสระ น้องก็เข้ามากอดผมแบบไม่ทันให้ตั้งตัว ผมรู้สึกได้ถึงหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะแบบชัดเจนของอีกคน

       

      “...ถือว่าเป็น มอร์นิ่งคิสก็แล้วกัน เพราะงั้น.. ห้ามโกรธพี่นะ”  ผมกอดตอบพลางลูบผมอีกคนเบาๆ

       

      “...มอร์นิ่งคิสอะไร  ไม่ใช่ซักหน่อย”

       

      “หื้ม?”

       

      “เฟิร์สคิสต่างหาก....”

       

      “เฟิร์สคิส?  หน้าตาแบบนายอ่ะนะเฟิร์สคิส?? อย่ามาล้อเล่นน่า”  เอาจริงผมไม่สนด้วยซ้ำไปว่าผมจะเฟิร์สคิสของยุนฮยองรึเปล่า  ผมคิดตลอดว่าปัจจุบันเราอยู่กับใคร เราให้ใจไปกับใคร... แค่นั้นมันก็พอแล้ว

       

       

      “จริง....”     แต่พอรู้ว่าตัวเองเป็นเฟิร์สคิส..   มันก็ดีใจนะ

       

      “แล้ว.. ยังไงอ่ะ.. ชอบมั้ย?”

       

      “ก็......”

       

      “.....”

       

      .

       

      .

       

       

      “.... ลืมไปเลยว่าแสบตาอยู่”

       

       

       

       

       

      ?

      แปลว่าอะไรอ่ะคับ.

       

       

       

       

      END

      อ่าวบ็อบบี้  แปลไม่ได้อีก ถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถ

      เขามีเฟิร์สคิสกันแล้วนะแกรรรร  อยู่กันมาตั้งนาน

      บอกแล้วใสใส 5555555555

       

       

       

       
       

      Special

       

       

                      คนเรามักจะฝันแบบชัดเจนที่สุดก่อนจะตื่นใช่มั้ย...  ผมว่าครั้งนี้มันชัดมากเลยนะ มันคือฝันร้าย การฝันว่ามีลูกหมามาเดินย่ำๆอยู่บนตัวขณะหลับอยู่มันคือฝันร้ายของผม

       

      โฮ่ง โฮ่ง~ ....’   นี่อีก เสียงลูกหมาเห่า มันเป็นฝันร้าย มันเป็นฝันร้ายชัดๆ

       

       

      ผมควรตื่น

      ตอนนี้ผมควรลืมตาเพื่อหนีออกจากฝันร้ายบ้าๆนี่.

       

       

       

       

      “เห้ยยยยย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”   ผมลุกพรวดออกจากเตียง แล้วเอาขายาวๆกระโดดข้ามจากเตียงไปหาโซฟาที่ตั้งอยู่ตรงข้ามแบบรวดเร็วที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้  เพื่อรักษาชีวิตของผมไว้

       

       

      “อะไร เสียงดังอะไร”   คิมดงฮยอกยืนเท้าสะเอวถามผมด้วยหน้าตาหาเรื่อง

       

      “เอา-ออก-ไป!”  ผมเอานิ้วชี้ไปยังสิ่งมีชีวิตมีขน ที่เดินดุ๊กดิ๊กไปมาอยู่บนเตียง มันคือตัวเดียวกับที่ผมฝัน มันคือตัวเดียวกันที่เดินย่ำๆอยู่บนตัวผม และมันคือตัวเดียวกันที่เห่าใส่ผมในฝัน

       

      “ไม่! นี่ลูกฉันนะ เพิ่งไปรับมาเมื่อวาน”

       

      “ทำงี้ได้ไงวะ รู้ทั้งรู้ว่าไม่ชอบ”  ผมยังคงยืนอยู่บนโซฟา เอานิ้วเปลี่ยนมาชี้หน้าคุณหมอตัวแสบแทน ผมไม่เคยทำแบบนี้กับดงอยอกเลยนะ แต่ครั้งนี้ผมยอมไม่ได้จริงๆ

       

      “ก็เลือกแบบขนน้อยๆแล้วนี่ไง”

       

      “ชิวาว่าอ่ะนะ!!!!!

       

      “หรือจะเอาชิสุ? ฉันซื้อมาสองตัว  ชิสุฝากแม่เลี้ยงอยู่บ้าน จะเอาไง”

       

      “ไม่เอาไงทั้งนั้นอ่ะ ตัวนี้ก็เอาไปฝากแม่นายเลี้ยงเลย”

       

      “งั้นก็แยกกันอยู่”    เห้ย...   แยกกันอยู่บ้าบออะไรวะ แยกทำไม

       

      “เท่ากับบอกเลิกเลยนะ บ้ารึป่าว คิมดงฮยอก”

       

      “ช่วยไม่ได้กูจุนฮเว  ก็นายไม่รักในสิ่งที่ฉันรัก”

       

      .

       

      .

       

      “แล้วนายอ่ะ.. รักกันบ้างไหม?”

       

       

       

      TBC.

       

       

      SF อะไรมี TBC. วะ!??? 5555555

      ปัญหาสัตว์โลกน่ารักของจุนฮเว  ไม่รู้จะสงสารหรือขำดีอ่ะ 55555555

       

      ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ :D  รักนะรู้ยัง?  -////////-

      ช่วงนี้อัพบ่อย.. ( ถือว่าบ่อยกว่าเมื่ออ่ะนะ 5555 ) เพราะมันเหมือนจะว่างที่สุดแล้ว

      หลังจากนี้อาทิตย์นึงก็จะต้องอ่านหนังสือสอบอีก (อีกแล้วอ่ะแกรรร T___T )

      มีรีดเดอร์หลายคนเลย แบบมาให้กำลังใจอ่านหนังสือไรงี้

      เห้ยยยยย คือรักอ่ะ จริงๆ 55555555 คนอื่นก็รักนะ ห้ามน้อยใจ!!!! -3-

       

       

      Twitter >>   #ฟิคสามหมอ    เหมือนเดิมเนาะ  ^_^

      ไปละ -3-

       

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×