[SF] Dating (BJIN) - [SF] Dating (BJIN) นิยาย [SF] Dating (BJIN) : Dek-D.com - Writer

    [SF] Dating (BJIN)

    คิมฮันบินเลิกทำตัวเป็นเด็กซะทีน่า.. โตได้แล้ว

    ผู้เข้าชมรวม

    2,986

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    2.98K

    ความคิดเห็น


    28

    คนติดตาม


    45
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  27 พ.ค. 57 / 23:35 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น






    [SF] Dating (BJIN)

    เป็น SF ที่ต่อจาก SF ก่อนๆๆๆๆ นะคะ 555
    เพื่ออรรถรสที่ดี แนะนำให้อ่านเรื่องก่อนๆๆด้วยโนะ
    ทุกเรื่องต่อกันหมด แต่ก็จบในตอนเดียว (งงป่ะะ??? 5555)
    แต่อ่านเรื่องนี้อย่างเดียวก็ได้มั้ง 555 รู้เรื่องๆ

     
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      กินอะไรดี?

      คำถามโลกแตกนะว่าป่ะ จะกินข้าวที่คณะคนก็เยอะอย่างกับมด พอชวนพี่บ็อบกับจุนเน่ไปกินข้าวข้างนอกมันก็ไม่ไปด้วย  ผมคิดอะไรไม่ออกเลยตัดสินใจโทรหาตัวเล็ก กะว่าจะชวนออกไปกินข้าวกลางวันด้วยกัน ทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าสิ่งที่ได้กลับมาคือ..


      ไปไม่ได้อ่าฮันบิน.. พี่ขึ้นตรวจคนไข้บ่ายโมง ออกไปไม่ทัน”   มีแฟนเป็นหมอนี่มัน...

      อีกแล้วเหรอครับ..

      มากินด้วยกันดิ โรงอาหารแพทย์

      อาหารไม่เห็นจะอร่อยเลย  แต่..

      เห็นหน้าพี่ก็เจริญอาหารแล้ว คิคิ”  เสียงเล็กนั่นแทรกขึ้นมาพร้อมกับหัวเราะล้อเลียนผมอยู่ปลายสาย คิมจินฮวานเดี๋ยวนี้แสบนะครับ

      “......แย่งผมพูดทำไม

      จะมามั้ยล่ะ ถ้ามาก็จะรอ..

      ไปครับ เจอกันนะตัวเล็ก”  เอาน่า.. มันก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่ เจอหน้าแฟนสักครึ่งชั่วโมงก็ถือว่าคุ้มกัน



      ​ระยะทางจากคณะผมไปถึงคณะแพทย์มันก็ไม่ไกลหรอก ผมเลยเลือกที่จะจอดรถไว้แล้วใช้วิธีเดินเอา เนื่องจากที่จอดรถคณะแพทย์นั้นหายากพอๆกับคนโสดในคณะนั่นแหละ.. หมอกับหมอเค้าเจอกันทุกวันตั้งแต่เช้าถึงเย็น สุดท้ายเค้าก็จีบกันเองครับ ไม่ค่อยเหลือเผื่อแผ่มาให้คนอื่นเท่าไหร่หรอก


      แต่ก็ช่วยไม่ได้
      ในจำนวนหมอเหล่านั้น
      มีคนนึง
      เป็นคนของผม.




      ผมเจ๋งป่ะล่ะ
      .
      .





      ฮันบินทางนี้”  นั่นไงแฟนผม  โบกมือแทบจะสุดแขนก็ยังไม่พ้นหัวคนอื่นเลยครับ ตัวเล็กจริงๆนะนั่น  แต่ผมชอบนะ.. เวลากอดก็ถนัดมือดี

      ผมเดินไปหาพี่จินฮวานที่โต๊ะก็เจอกับเรื่องแปลกใจคือตัวเล็กซื้อข้าวมาไว้ให้ผมแล้ว..
      น่ารักไปมั้งเนี่ย  เดี๋ยวให้แม่ไปขอซะวันนี้เลย

      และอีกเรื่องที่น่าแปลกใจกว่าเรื่องแรกคือ พี่ๆผม น้องผม แฟนของพี่ผม แฟนน้องผม โอ้โห.. อยู่นี่ครบเลย ให้มันได้อย่างนี้สิวะ
      เคยชวนกูป่ะ เคยป่ะ?

      จะมาทำไมไม่ชวน”  ส่งสายตาคาดโทษไปหาจุนเน่

      พวกผมชวนมันไม่น่ามาเท่าพี่จินชวนหรอกน่า ทำเป็นโกรธไปได้ วุ้วว”

      มึงก็น้อยๆหน่อยฮันบิน เล่นหัวตัวเล็กของกูอยู่ได้”  อ่าววว พี่มิโนนอกจากจะมาโผล่บนโต๊ะนี้ได้ไงไม่รู้ ยังปากเสียอีกนะครับ จินฮวานของใครให้โอกาสพูดใหม่อีกที

      นี่แฟนผมนะ พี่เกี่ยวไร? แล้วผมก็ไม่ได้เล่นหัว เค้าเรียกเอ็นดูต่างหากสองมือของผมยังคงยีผมพี่จินฮวานเล่นต่อไป

      ฮันบินไม่เอาน่า.. ผมยุ่งหมดแล้ว”   พี่จินฮวานเอื้อมมือมาจับมือผมบังคับให้หยุด แล้วย้ายมือเล็กนั่นมาดึงมือผมให้โอบรอบคอตัวเองไว้แทน..  และเนื่องจากผมยืนอยู่ด้านหลังเก้าอี้ที่พี่จินฮวานนั่งอยู่ ระดับที่ต่างกันทำให้ผมต้องโน้มตัวลงมาตามแรงดึงจนกลายเป็นว่าคางผมเกยอยู่บนหัวตัวเล็กอีกที..



      เย็นนี้ไปเดทกัน”  อยู่ๆพี่จินฮวานก็หันหน้ามาหาไม่บอกไม่กล่าว หน้าห่างกันไม่ถึงคืบ แล้วก็เอาแต่จ้องตาผมอยู่อย่างนั้น..

      จ้องแบบนี้มันฆ่าคนได้รู้ป่ะ?



      พี่ว่าไงนะเดทเหรอ?

      ว่างแค่วันนี้.. โอเคนะ

      ครับผม”   ผมมันคนว่างครับ จะไปไหนตอนก็ได้ แต่พี่จินฮวานนานๆทีจะว่างนะ.. ถึงไม่ค่อยมีเวลาให้ แต่ยังไงผมก็รักอยู่ดี




      พี่จินปล่อยมือพี่ฮันบิน แล้วมากินข้าวกันได้แล้ว จีบกันอยู่ได้”  ดงฮยอกโพล่งขึ้นมาซะดื้อๆ ... ลืมไปเลยว่าอยู่โรงอาหาร

      พี่ทำอะไร ป่าวเลย

      หวงพี่ฮันบินล่ะสิ..  ทั้งหมอทั้งพยาบาลสาวๆแถวนี้มองตาไม่กระพริบเลย”

      อะไรเล่า...

      ก็พี่ฮันบินหล่อ.. พี่จินต้องทำใจนะ”  น้องดงฮยอกอยากทานอะไรเป็นพิเศษไหมครับ พี่เลี้ยงเลยเอา


      น้อยๆหน่อยคิมดงฮยอก  ใครนั่งอยู่นี่จุนฮเวชี้มือเข้าหาตัวเองแล้วก็โวยวายใหญ่เลย

      นายไง

      แล้วไงต่อ

      ก็แฟนไง โง่เหรอ”  บนโลกนี้มีดงฮยอกคนเดียวครับ ที่ปราบคนแบบจุนฮเวได้ ผมเชื่ออย่างนั้นนะ ขนาดพี่จินที่อายุมากสุดยังทำไม่ได้เลย 

      แล้วชมคนอื่นทำไม

      คนอื่นอะไร นั่นแฟนพี่กูป่ะ ประสาท

      พูดไม่เพราะ แล้วยังจะมาดุอีก.. ทีเมื่อคืนน่ะนะ... ไม่เห็นจะดุงี้เลย...

      “....หยุดนะ

      ยิ่งดึกยิ่งพูดง่าย พูดเพราะเสียงหวานกว่านี้พันเท่า.. บอกให้ทำอะไรก็ทำ... ตัวอย่างเช่น..”

      กูจุนฮเว!!!!!!

      โดนฟาดไปตามระเบียบเพราะปากหาเรื่องตลอดเวลาของกูจุนฮเว  แต่จะว่าไป.. ตั้งแต่มันคบกับใครมา ผมในฐานะพี่คนสนิทก็เห็นว่าดงฮยอกนี่แหละคือคนที่จะคุมเด็กบ้านี่อยู่หมัด เห็นทะเลาะกันแบบนี้เวลาอยู่ด้วยกันสองคนนี่.. อื้อหือ..  อย่าให้พูดเลยครับ เดี๋ยวจะอิจฉาเปล่าๆ





                ​คิมฮันบินเป็นมนุษย์ที่เหมือนจะทำความเข้าใจทุกสิ่งได้โดยง่ายและสามารถทำได้ดีในทุกๆเรื่องจนน่าอิจฉา แต่มันมีอยู่เรื่องนึงที่ฮันบินทำไม่ได้เลยคือ การทำตามที่ผมพูด..  ผมบอกให้กลับไปรอที่ห้อง เดี๋ยวเสร็จงานแล้วจะโทรให้มารับ แต่สิ่งที่ฮันบินทำคือนั่งรอผมอยู่ที่โรงพยาบาลตั้งแต่ตอนบ่ายจนถึงตอนนี้


      บอกให้ไปรอที่ห้อง.. นายนี่จริงๆเลย

      อยากอยู่ด้วยนานๆไง พี่ไม่เข้าใจเหรอ

      โอเคๆ ไม่เถียงแล้ว เด็กดื้ออออ”  จับแก้มฮันบินยืดแรงๆไปหนึ่งที


      ผมเพิ่งรู้ว่าฮันบินไม่ได้เอารถมาจอดที่คณะแพทย์  เราเลยจำเป็นต้องเดินกลับคณะของฮันบิน ระหว่างทางที่เดินฮันบินไม่ปล่อยมือผมซักวินาทีเดียว..

      ตั้งแต่เรากลับมาคบกันอย่างจริงจังผมรู้สึกได้เลยว่าฮันบินหวงผมมาก..
      มากพอๆกับที่ผมหวงเค้านั่นแหละน่า




      วันนี้พี่อยากไปเดทที่ไหนครับ?

      ตามใจนายเลย

      งั้นไปหาอะไรอร่อยๆกิน แล้วไปดูหนังรอบสุดท้ายคืนนี้กันป่ะ”

      เด็กชะมัด

      อ้าว.. พี่อยากทำอะไรผู้ใหญ่ๆก็ไม่บอกผะ..ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นนะ

      “..อะ..อะไร

      อะไรล่ะครับ หึหึ”  คิมฮันบินอย่ามองแบบนี้สิ ไม่เอาน่า..

      งั้นตามนั้นแหละ ป่ะดูหนังกันนะ”  ดูหนังก็ดูหนังสิ โธ่..










                 ผมตั้งใจพาพี่จินฮวานมาดูหนังผี ก็ผมชอบนี่.. และที่สำคัญมันคือรอบสุดท้ายของคืนนี้.. คนในโรงภาพยนตร์ยิ่งน้อยเข้าไปใหญ่ 
      แทบไม่ต้องทำอะไรเลยตัวเล็กก็เข้ามากอดผมเองด้วยความกลัว


      มันเป็นแผนน่า..


      พี่ลืมตาบ้างก็ได้

      ไม่เอา  คราวหลังไม่มาด้วยแล่ว”  หน้าเล็กซุกอยู่ต้นแขนพูดเสียงอู้อี้

      มันไม่ได้หน้ากลัวขนาดนั้น..  นี่ลืมตาก่อน”  สะกิดไหล่ตัวเล็กไปเบาๆสองที  อีกคนจึงค่อยๆหรี่ตาขึ้นมาทีละข้าง ใช้เวลาหลายวินาทีเลยทีเดียวกว่าจะยอมทำตาให้เป็นขนาดปกติ



      คิมจินฮวานยังเป็นเด็กอยู่เลย ในความคิดผม

      น่ารัก.





      ลืมตาแล้วพี่เห็นอะไรครับ

      เห็นฮันบิน...”  แน่สิก็ผมยื่นหน้าเข้าไปบังจอภาพยนตร์ทั้งหมด ทำให้ในสายตาพี่จินฮวานตอนนี้มีแต่ผม

      แล้วกลัวไหม?”

      กลัว..

      กลัวอะไร ก็มองผมสิ ผมบังให้แล้วไง”   ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเสียตังค์เข้ามาดูหนังทำไมตั้งสองชั่วโมง ถ้าพี่จินฮวานจะงอแงขนาดนี้

      เสียงมันยังดังอยู่นี่..

      เดือดร้อนจนผมต้องเอามือทั้งสองข้างของตัวเองไปปิดหูพี่จินฮวานไว้ เลยกลายเป็นว่าตอนนี้มือผมปิดหูพร้อมประครองหน้าพี่จินฮวานให้มองแต่ผม..  จ้องตากันแบบนี้มันก็เขินเป็นเหมือนกันนะครับ


      หายกลัวยัง?”

      อื้อ..”  ตัวเล็กพยักหน้าหงึกหงัก

      คราวหลังมาดูกันอีกนะ

      ไม่เอา..

      โอ๋ๆคนดี ผมล้อเล่น งั้นกลับห้องกันครับ ผมไม่แกล้งแล้ว


                 สีหน้าพี่จินฮวานยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ตั้งแต่นั่งอยู่บนรถจนกลับมาถึงห้อง สงสัยจะกลัวจริงๆแฮะ.. ผมรู้สึกผิดจัง เดทวันนี้พี่จินฮวานดูไม่ค่อยมีความสุขเลยอ่ะ แต่ความจริงคนที่ควรกลัวน่าจะเป็นผมมากกว่านะ พี่จินฮวานเรียนหมอแท้ๆยังจะกลัวผีอีก อะไรของเค้าเนี่ย


      อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิครับ ผมรู้สึกผิดนะ..”  เอามือโอบรอบเอวคนตัวเล็กจากด้านหลังแล้วออกแรงบังคับให้เดินเข้าห้องนอนโดยที่ยังกอดกันแบบนั้น

      อาหารอร่อย แต่หนังไม่โอเคเลย”  พูดไปพลางทำหน้ายู่ไม่พอใจตามแบบฉบับคิมจินฮวานเลยล่ะ

      ผมรู้แล้วน่า

      พาไปดูหนังเป็นเด็กมัธยมไปได้...”

      เอ๊า...

      ทำอะไรไม่รู้จักโตซะที.. คิมฮันบิน

      “.............”

      อยู่ๆคนตัวเล็กที่โดนผมกอดจากด้านหลัง ก็หันหน้ามาแล้วกดจูบที่ปลายจมูกผมเบาๆ แบบไม่ให้ผมตั้งตัวสักนิดเดียว


      "ต้องให้เริ่มก่อนตลอด.."


      เสียงเล็กพูดแค่นั้น แล้วก็เอาแต่ฝังหน้าลงไปกับอกของผม ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมารับผิดชอบในสิ่งตัวเองทำไว้แม้แต่น้อย



      ผู้ใหญ่เค้าเดทกันแบบนี้เหรอครับ?”  ก้มลงไปกระซิบเบาๆข้างหูคนตัวเล็กในอ้อมกอด

      มั้ง..

      พี่ไปรู้มาจากไหนกัน

      “.....ไม่รู้

      “.....”

      แต่มันดีกว่าดูหนังผีแน่ๆ

      “....อะไรดีกว่าดูหนังผีครับ?”

      กะ..ก็อยู่ด้วยกันแบบนี้ไง

      ยืนกอดกันเฉยๆแบบนี้อ่ะนะ
      .

      .






      “........อย่างอื่นด้วยก็ได้.. มั้ง

      คิมจินฮวาน

      "......."

      ทำไมพี่เป็นคนแบบนี้เนี่ย”  ค่อยๆดันไหล่พี่จินฮวานออกจากตัวผม เพื่อจะได้เห็นหน้าคนน่ารักชัดๆ

      ฮันบินอย่าจ้อง...ไม่เอา”   แหนะ มุดเข้าไปอีกละ มุดอะไรนักหนาวะเนี่ยห๊ะ

      พี่ครับ.. เลิกหลบหน้าผมซะที น่ารักจะตาย ขอผมดูนานๆหน่อย

      ฮื้อออออ ไม่เอา”   ตัวเล็กกำลังจะมุดอีกรอบ แต่ผมไม่ยอม เลยรีบเอาสองมือบังคับหน้าเล็กนั่นให้สบตาผม

      .

      .



      "เขินเหรอครับ?"

      "......"


      ถ้าเขินก็หลับตานะ..

      พอพูดแบบนั้นไป เปลือกตาของพี่จินฮวานก็ปิดลงช้าๆ อีกทั้งแก้มใสนั่นก็ขึ้นสีระเรื่อกว่าที่เคยเป็น


      “......”


      “..ไม่ต้องมองหน้าผมก็ได้" เสียงพูดดังชิดริมฝีปากเล็ก


      "........"


      "แค่ตอบรับผมก็พอ...


      .

      .




      น่าเสียดาย

      เสียดายที่ปากผมมันชิดริมฝีปากเล็กไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว..











      "ตัวเล็ก.. โอเคมั้ย?"

      คำถามนี้มันไม่ควรมาถามตอนที่แผ่นหลังของผมแนบอยู่บนเตียง แถมยังมีมือร้อนๆของฮันบินซุกซนอยู่ใต้เสื้อผมแบบนี้


      "ฮะ.. ฮันบิน"

      .

      .

      "จูบนะครับ.."

      "......"  ขอทำบ้าอะไร



      จำไม่ได้ว่าเฉพาะวันนี้นี่คือครั้งที่เท่าไหร่ แต่จูบของคิมฮันบินสามารถดึงพลังงานของผมออกไปจนหมด ถึงฮันบินจะเคยบอกว่าผมจูบเก่งก็เถอะ แต่เทียบไม่ได้เลยกับเจ้าของจูบที่กำลังบดขยี้ริมฝีปากผมอยู่ในตอนนี้


      "อ้ะ.. อื้ออออ..  ฮะ..ฮันบิน พะ.. พอก่อน"  ผมจะขาดใจตายอยู่แล้ว

      ฮันบินยอมผละออกจากผม แต่ก็ยังไม่ยอมถอยหน้าออกไปซะที.. ให้ตาย หน้าผมร้อนจนไม่รู้จะร้อนยังไงแล้ว



      "คนดีไหวมั้ยครับ?"


      "ถามอยู่ได้.."


      "ก็ผมห่วง.."

      "......"

      "แล้วพรุ่งนี้พี่มีเรียนเช้ารึเปล่า.. ถ้ามี.. จะได้เบาๆไง.. ผมกลัวพี่ลุกไม่ไหว.."

      "พูดอะไร ไม่อายเลยรึไง"

      "ตอบผมมาก่อน"

      .

      .



      "ไม่มี...  มีแค่เช็คงานตอนเย็น.."

      "งั้นผม..."

      "ทำตามใจนายเถอะ"





      ...ยอมรับก็ได้ว่าผมเองก็ต้องการฮันบิน


      .

      .



      กิจกรรมดำเนินไปตามที่มันควรจะเป็น.. ถึงเราจะอยู่ด้วยกันทุกวันแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะมีเวลาทำอะไรๆมากนัก.. ต่างคนต่างมีหน้าที่ แล้วยิ่งผมกำลังจะเป็นหมอ เวลาให้ฮันบินยิ่งน้อยลง แต่ฮันบินเข้าใจและใส่ใจผมมาโดยตลอด และทุกๆครั้ง.. ฮันบินอ่อนโยนกับผมมาก.. มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ผมรู้สึกอย่างนั้น



      "พี่ไหวแน่นะครับ?"

      "อ้ะ...  ม.. มันใช่เวลาจะมาถามมั้ย"   บ้าจริง คิมฮันบิน

      "ก็ผม..."

      "ถ้าพี่บอกว่าไม่ไหวแล้วจะหยุดรึไง?" พูดออกไปตรงๆจะได้เลิกถามคำถามไม่ถูกเวล่ำเวลาซะที





      "ไม่ครับ..."

      .

      .






      "งั้นก็ต่อเถอะ"





      END.






      Special : 

      "พี่จินกับพี่ฮันบิน เมื่อวานไปไหนกันมา ผมโทรหาไม่มีคนรับสักคน"  

      อ่า... รู้แล้วน่า ตื่นมาก็เจอมิสคอลประมาณสิบสายจากน้องชายตัวยุ่ง คิมดงฮยอก


      "ไปกินข้าว"

      "แค่นั้น?"

      "ดูหนังต่อด้วย"

      "แล้วไงต่อ"

      "... ไม่แล้วไงต่อ ก็กลับห้อง"

      "เหรอ.. แล้วทำไมไม่รับโทรศัพท์ผมอ่ะ"  ละนี่จะซักไซร้อะไรผมนักหนาวะเนี่ย

      "ทำงานอยู่"

      "งานอะไร พี่ฮันบินต้องช่วยด้วยเหรอ ทำไมโทรเข้าเครื่องพี่ฮันบินก็ไม่รับอ่ะ"

      "....เอ่อ"


      .

      .


      "ดงดงอยากรู้เหรอครับ?  เค้ารู้นะ ป่ะกลับห้องกัน.. เดี๋ยวทำให้ดู"

      "รู้จริงป่ะ อย่ามาโม้นะจุนเน่"

      "เออน่าา.. รู้สิ"

      "ผมไม่ง้อพี่ก็ได้ โธ่วว -.- พวกผมกลับละครับ บ้ายบายนะ" 




      แต่เดี๋ยวนะ..จุนฮเวรู้อะไร?

      .

      .



      "เห้ยยย ดงฮยอกกกก กลับมาาาาา เดี๋ยวพี่บอกเอง ไม่ต้องให้จุนฮเวทำให้ดู ม่ายยยยยยย!!!!"





      END.

      พี่จินเรียกดงฮยอกทันป่ะให้ทาย 55555555555555555 

      คือที่มาของ SF นี้ เกิดจากการที่เราไปอ่าน #ฟิคฮันบินกินเด็ก 
      ทำให้เราหื่นเล็กน้อยถึงปานกลาง #เห้ยยยยยย 555555555
      ไม่มีอะไรแกร๊ อ่านไปเห๊อะ ชิวๆโนะ

      เม้นแต่คนละคือน่ารักมากอ่ะ เหมือนมีคนรักเราอยู่ห่างๆ
      แบบรักนะแต่ไม่แสดงตัว แต่รักมึงนะเว้ย ไรงี้ -3-
      ถึงจะน้อยแต่มีความสุข แอร๊ยยยย 55555555555 

      รักและขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ ^^ ขอบคุณจริงๆ
      และขอบคุณมากขึ้นอีกนิดสำหรับที่มาเม้น เพราะเค้าชอบอ่าน 5555
      และขอบคุณ tag #ฟิคสามหมอ  ในทวิตเตอร์ด้วย น่าร้ากกกก :3

      ปล. หนูเรียนเภสัชเน่อ ไม่ใช่หมอจ้า  
      แต่อยากมีแฟนเป็นหมอ #ไม่เกี่ยววววว #ท่ดๆๆๆๆ 5555555

       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×