ผู้พิทักษญ์แห่งสี่ขุนเขา กับ น้ำตาแห่งสรวงสวรรค์

นานมาแล้ว ณ ที่แห่งหนึ่งที่ไม่มีใครเคยค้นพบ ได้มีการถือกำเนิดขึ้นของโลกสองใบคือ  ‘แดนเทพ’  และ  ‘แดนมนุษย์’  ซึ่งโลกแห่งเทพนั้นลอยอยู่เหนือท้องฟ้าของโลกมนุษย์และทั้งสองดินแดนมีความสัมพันธ์เกื้อหนุนซึ่งกันและกันตลอดมา  โดยแดนเทพได้มอบพลังแห่งชีวิตให้กับแดนมนุษย์เบื้องล่างผ่านทางน้ำตกแองเจิ้ลฟอล  เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่ไหลตกลงสู่ใจกลางแดนมนุษย์และแยกออกเป็นสี่สายกระจายกันไปตามทวีปต่างๆ ทั้งสี่ทวีปเพื่อเป็นสายเลือดที่หล่อเลี้ยงให้ผู้คนดำรงชีวิตอยู่ได้ ส่วนโลกมนุษย์นั้นก็ตอบแทนด้วยการส่งจิตใจที่ดีและบริสุทธิ์พร้อมทั้งความศรัทธาของผู้คนเป็นไอหมอกที่มองไม่เห็นลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าทำให้เหล่าเทพนั้นสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้เช่นกัน

แต่แล้ววันหนึ่งบนดินแดนแห่งเทพนั้นได้ถือกำเนิดเทวดาชายผู้อ่อนแอขึ้นมานามว่าเมนนอส เขานั้นเติมโตขึ้นมาในครอบครัวที่ไม่สู้มีเกียรติเท่าใดนักในโลกของเหล่าเทพ ตั้งแต่เล็กเขาโดนเพื่อนรังแกและกลั่นแกล้งอยู่ตลอดเวลาโดยไม่มีทางต่อสู้ได้เลย  จนกระทั้งโตเป็นชายเต็มวัยเมนนอสก็ยังมิวายถูกผู้คนรุมรังแกและกลั่นแกล้งอยู่ร่ำไป นานเข้าเขาเริ่มมีความคิดที่จะฝึกฝนตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้นเพื่อที่จะสามารถยืนหยัดอยู่บนโลกนี้ได้อย่างลูกผู้ชายคนหนึ่ง  สุดท้ายเขาหนีออกจากหมู่บ้านและเริ่มฝึกฝนตัวเองอย่างเงียบๆ ในป่า แต่กระนั้นก็ยังไม่วายถูกเพื่อนเทวดาพบเข้า  เหล่าเทวดาเกเรที่มองเมนนอสไม่ต่างอะไรไปจากสัตว์เลี้ยงอ่อนแอตัวหนึ่งในหมู่บ้านก็เริ่มรู้สึกโกรธที่สัตว์เลี้ยงของพวกเขากำลังคิดขบถแข็งข้อ  จึงทำการออกล่าเขาเพื่อจับตัวมาไว้ในสายหูสายตาและคอยรองมือรองเท้าตนเองเช่นเดิม  เมนนอสผู้อ่อนแอได้แต่หนีหัวซุกหัวซุนจนถึงหน้าผาและพลัดตกลงไปในความมืดมิดแห่งหลืบเขานั้นเอง เหล่าเทวดาเกเรต่างพากันตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะหามีผู้ใดหวังให้เขาถึงแก่ชีวิตไม่   พวกมันต่างพากันตกลงกันว่าจะปิดเรื่องของเมนนอสไว้เป็นความลับ  แต่ถึงไม่ปิดก็ไม่มีใครสนใจคนไร้ค่าอย่างเขาอยู่ดี

ด้านเมนนอสที่ร่วงหล่นลงสู่พื้นเบื้องล่างอาจเพราะดวงยังไม่ถึงที่ตายเขาร่วงหล่นลงสู่พื้นน้ำจึงเอาชีวิตรอดมาได้ หลังจากรู้สึกตัวขึ้นมาที่ริมฝั่งแม่น้ำเขาไม่พบอะไรนอกจากความมืดที่อยู่รอบกาย นานวันเข้าดวงตาทั้งสองของเขาเริ่มบอดสนิท ความกลัวและเกลียดชังต่อเพื่อนเทวดาเพิ่มพูนขึ้นมาในใจของเขา... หนึ่งปีเต็มที่ความโกรธแค้นเกลียดชังเหล่านั้นถูกสะสมอยู่ในใจจนมันเปิดประตูสู่พลังในกายอีกด้านหนึ่ง ดวงตาสีแดงเพลิงของเมนนอสถูกเปิดขึ้นอีกครั้งด้วยพลังแห่งความมืดและเกลียดชัง

ดั่งโชคชะตาถูกกำหนดไว้ให้เขาเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ ตาคู่ใหม่ของเขากลับมองเห็นและสามารถอ่านอักขระเทพที่สลักไว้ที่หุบเขานั้นออก  มันเป็นอักขระเดียวกันที่ใช้กำเนิด ‘เอเทน่า’ ราชาผู้ปกครองแดนเทพ แต่มันพิเศษตรงที่เมื่อมองด้วยสาตาของเมนนอสอักขระเหล่านี้จะถูกอ่านกลับหลัง!!  ยิ่งเขาอ่านเขายิ่งรู้สึกถึงพลังที่ไหลเวียนเข้าสู่ร่างกาย นี่แหละพลังที่เขาต้องการ! พลังที่จะใช้แก้แค้นเหล่าเพื่อนที่น่ารังเกียจของเขา   พลังที่จะทำให้เขาไม่ต้องยอมจำนนให้ใคร   และพลังที่จะทำให้ทุกคนต้องยอมสยบให้แก่เขาราชาอสูร!!

ความอำมหิตได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ณ จุดนี้ ราชาอสูรเมนนอสที่ได้พลังซึ่งเทียบเท่าราชาสวรรค์ ได้ถือกำเนิดขึ้นและมันได้เริ่มต้นล้างแค้นจากหมู่บ้านเล็กๆ ของมันนั่นเอง  เพียงชั่วข้ามคืนหมู่บ้านที่แสนสงบในแดนเทพถูกเปลี่ยนเป็นเมืองที่พังพินาศเป็นผุยผงเต็มไปด้วยเพลิงนิลลุกโชติช่วงอยู่บนซากปรักหักพัง  เหลือเพียงซุ้มประตูทางเข้าหมู่บ้านเท่านั้นที่ยังคงสภาพไว้เพื่อเป็นที่แขวนซากศพของเหล่าเพื่อนเทวดาที่เคยแกล้งเขา...

เรื่องราวที่เกิดขึ้นหาได้จบลงเพียงแค่นั้น หนึ่งเดือนต่อมาเกือบครึ่งของโลกแห่งเทพนี้ได้ถูกเมนนอสเปลี่ยนให้เป็นดินแดนที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตาย ไม่ว่าปีศาจตนนี้จะย่างกรายไปที่ใด เทวดาที่ขัดขืนมันเป็นต้องจบชีวิตลงทุกรายไป  แต่สิ่งที่แผ่กระจายออกไปได้เร็วยิ่งกว่าการทำลายเมืองของปีศาจนั่นคือ  ‘ข่าวลือ’  ที่แพร่ออกไปทำให้เหล่าเทวดาจำนวนมากต่างพากันเดินทางเข้าสวามิภักดิ์ต่อปีศาจร้ายตนนี้ แต่เทวดาที่ยังมีใจต่อสู้ก็ได้เดินทางเข้าที่ศูนย์กลางของแดนเทพเพื่อรวมกำลังกันต่อต้านเช่นกัน

ด้วยเหตุนี้จังบังเกิดเป็นสงครามแห่งเหล่าเทพ การต่อสู้เป็นไปอย่างสูสี  ดุเดือดและยืดเยื้อ  สุดท้ายองค์ราชาแห่งสวรรค์ได้ตัดสินใจที่จะสละชีพตนเพื่อใช้เวทย์มนต์ผนึกหมื่นจันทราเพื่อผนึกจอมมารเอาไว้  บัดนั้นก่อนที่เวทย์มนต์จะส่งผล  เจ้าปีศาจได้เงื้อดาบของมันขึ้นและฟาดลงไปยังพื้นดินของแดนเทพ พลังอันมหาศาลนั้นสั่นสะเทือนไปทั่ว  เกิดเป็นรอยแยกขยายตัวและความยาวออกไปเรื่อยๆ  และหลังจากที่เวทย์มนต์ของราชาสวรรค์สัมฤทธิ์ผล  โลกแห่งเทพก็ได้ถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน  ครึ่งหนึ่งลอยอยู่ดังเดิม อีกครึ่งที่เต็มไปด้วยความชั่วร้ายและมีร่างที่ถูกผนึกของเมนนอสอยู่ได้ร่วงลงสู่เบื้องล่าง

ในขณะที่มนุษย์ทุกคนกำลังตกอยู่ในอันตรายและบังเกิดความกลัวที่เห็นโลกเบื้องบนที่เคยสวยงามบัดนี้ครึ่งหนึ่งนั้นกำลังร่วงลงมาสู่พื้นดินที่ตัวเองอาศัยอยู่  มันเป็นเหตุการณ์ที่ไม่อาจเอาชีวิตรอดได้เลยไม่ว่าด้วยวิธีไหนๆ แต่แล้วจัตุราชาแห่งโลกมนุษย์ทั้งสี่พระองค์ก็ได้ตัดสินใจที่จะสละชีวิตตนเพื่อใช้เวทย์มนต์ขนาดใหญ่ที่ทำให้โลกนี้มีสภาพล่องหนไปชั่วขณะ เสี้ยวนาทีนั้นเองที่โลกมนุษย์มีสภาพล่องหน  แดนเทพที่ขณะนี้มีสภาพดุจอเวจีก็ได้ร่วงลงทะลุผ่านไปอย่างหวุดหวิดและจมลงใต้พิภพ และกลายมาเป็นโลกที่สามนามว่าโลกอเวจี

และเมื่อสงครามจบลง ความเสียหายต่างๆ ในทั้งสองดินแดนที่พึ่งผ่านพ้นวิกฤติมาหมาดๆ เริ่มได้รับการเยียวยา ไม่มีข่าวคราวจากโลกที่สามเลย  ไม่มีแม้แต่เสี้ยวพลังหนึ่งของความน่ากลัวอันยิ่งใหญ่นั้น การไว้อาลัยแต่เหล่าราชาผู้เสียสละได้เริ่มขึ้น  และจบลงด้วยความเศร้าโศกปนความรู้สึกแสนปิติยินทีที่สามารถผ่านเรื่องราวอันนับว่าวิกฤตินี้ได้ ความสามัคคีและผูกพันของสองดินแดนยิ่งแน่นแฟ้นขึ้นไปอีก  และความสงบสุขกลับมาอีกครั้งหนึ่ง

แต่หามีผู้ใดนึกคิดว่าเมนนอสราชาอสูรผู้ล่วงลับนั้นได้ถอดเอาดวงจิตส่วนหนึ่งออกมาไว้ในดาบก่อนที่มันจะฟาดลงพื้นและแยกดินแดนเทพออกเป็นสอง  เมื่อแดนอเวจีล่วงลงไปสู่พิภพหนึ่งเบื้อล่างที่ไม่มีใครรู้จัก พลังของมันค่อยๆ ตื่นขึ้นอย่างเงียบๆ  ดาบที่ปักอยู่บนพื้นค่อยๆ เปลี่ยนดวงจิตของราชาอสูรเป็นร่างจำแลงของเมนนอสและเริ่มบงการเหล่าภูติอสูรที่ยังเหลือชีวิตรอด คราวนี้ความแค้นและเป้าหมายของมันขยายขึ้นเป็นการครอบครองทั้งสามโลกเพื่อจัดระเบียบเสียใหม่  แต่ก่อนอื่นมันต้องได้ร่างจริงของมันมาก่อน เพราะดวงจิตที่ถอดออกมานั้นมีพลังเพียงหนึ่งในสิบส่วนของพลังที่แท้จริง  แต่เพียงหนึ่งในสิบนี้ก็ยังเหนือกว่าเหล่าภูติอสูรหรือเทวดาที่โดนพลังของมันครอบงำจิตใจจนกลายเป็นอสูรอยู่หายขุมนัก 

เวทย์มนต์ผนึกหมื่นจันทรานั้นเป็นเวทย์มนต์ที่ทำให้มีผลึกน้ำแข็งขึ้นมาแช่แข็งผู้ที่ถูกผนึกเอาไว้  ทุกอย่างภายในนั้นจะอยู่ในสภาพหยุดนิ่งแต่ไม่ใช่การทำให้ตายและไม่มีเวทย์ใดสามารถแก้หรือคลายมนต์นี้ได้ มีเพียงทางเดียวคือต้องใช้หยดน้ำตาแห่งสวรรค์เพื่อที่จะหยดลงบนน้ำแข็งนั้นและลายมันลง แต่มีข้อแม้อยู่ว่า ต้องหยดมันลงไปหลังจากที่เวทย์นี้เกิดผลและมีพระจันทร์เต็มดวงส่องแสงลงมาอาบน้ำแข็งนี้เป็นจำนวนหนึ่งหมื่นครั้งเสียก่อน  เมนนอสเองจึงไม่รีบร้อนนักที่จะแก้แค้นและเริ่มสะสมกำลังพลอย่างใจเย็นเพื่อที่จะกรีฑาเข้าย่ำสองดินแดนที่มันนั้นแสนเกลียดชัง