"ฉันจะไม่ยอมเสียเขาไปง่ายๆ แกเข้าใจไหม ฮือๆๆๆๆๆๆ" เสียงที่แผดลั่นออกมาทางสายโทรศัพท์ระวางการสนธนา มันเป็นเสียงของกมลชนก เด็กสาวอายุ 20 ปี ที่กำลังร้องไห้ด้วยความเสียใจและความแค้น
"แล้วแกจะทำยังไงต่อไปยังยัยมล เขาทำกับแกขนาดนี้ แกยังไม่เลิกบ้าเขาอีกรึไง" เสียงของหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกันปลอบเพื่อนอย่าท้อใจ ก่อนจะตัดบทไปเพราะต้องรีบเข้าเรียน
กมลชนกวางสายโทรศัพท์ลงแต่น้ำตายังคงไหลริน เธอนั่งกอดเข่าสะอื้นตัวสั่นอยู่ข้างโทรศัพท์ผ่านในบ้านของตัวเอง แล้วนึกย้อนกลับไปถึงอดีตเมื่อวัยเยาว์
ตอนนั้นกมลชนก หรือมลมีอายุเพียง 13 ปี เธอเพิ่งเข้าเรียนชั้นมัธยมต้นได้เพียง 1 ภาคการศึกษาเท่านั้น ช่วงก่อนปิดภาคเรียนทางโณงเรียนได้เสนอกิจกรรมให้เด็กได้พัฒนาตัวเองหลายด้าน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือดนตรีสากลซึ่งมลเคยมีความฝันที่อยากจะเรียนตั้งแต่อยู่ชั้นประถม
มลไม่เคยคิดเลยว่าการเลือกเป็นนักเรียนดนตรีสากลในครั้งนี้ จะส่งผลให้ชีวิตของเธอต้องมาพบเจอกับช่วงชีวิตที่เลวร้ายขนาดนี้
เธอเลือกเล่นเครื่องดนตรีที่เด็กสาวทั่วไปชื่นชอบ นั่นก็คือฟลุท เพราะมันทำให้เด็กสาวดูเหมือนนางฟ้าตัวน้อยๆ แต่เมื่อผ่านไปเพียงไม่กี่วันเธอก็เปลี่ยความชอบของตัวเองมาเล่นทรัมเป็ต แต่นั้นเพราะเธอชื่นชอบในเคร่ืองดนตรีตันนั้น แต่เพราะความถูกชะตาในตัวผู้สอนนั้นเอง
ชัชชัย หนึ่งในครูฝึกสอนวัยเพียง 20 ปี รูปร่างสูงโปร่ง และแม้ว่าหน้าตาไม่ได้หล่อเหลาเอาการมากนัก แต่เพราะคารมที่หยอกย้อน มุขขำขันและการเล่นหัวกับลูกศิษย์ของเขาที่เป็นเสน่ห์และต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดนี้ แต่ถึงอย่าไรเขาก็ยังวางตัวดีในเรื่องชู้สาวแบบนี้
และด้วยความที่มลกับชัชชัยต้องเรียนและสอนด้วยกันทุกวัน ทำให้ทั้งคู่สนิทกันจนครูฝึกสอนและเพื่อนนักเรียนในวงรู้กันดี แต่ทั้งคู่ก็ยังสามารถวางตัวเองอยู่ในขนบประเพณีได้อย่างไม่บกพร่อง จนถึงวันที่ครูฝึกสอนต้องยุติบทบาท ชัชชัยได้มอบที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ของเขาให้กับมล เด็กสาวรับมาด้วยใจเต้นตูมตามตามประสาเด็ก แล้วทั้งคู่ก็ได้แยกจากกันไปโดยไม่ได้พบเจอกันอีก มีเพียงการโทรศัพท์เพียงครั้งเดียวจากมล แต่ภายหลังจากที่ฟัน้ำเสียงของชัชชัยแล้ว เธอก็ตัดสินใจจะไม่โทรหาเขาอีก เพราะเขาไดพูดกับเธอว่า "ครูไม่สะดวกคุย เพราะที่ห้องครูมีเพื่อนอยู่ด้วยหลายคน"
จนเวลาล่วงเลยไป 7 ปี ตอนนี้มลโตเป็นเด็กสาววัย 20 ปี เรียนอยู่มหาวิทยาลัยปีที่ 2 รูปร่างหน้าตาน่ารัก ปากนิด จมูกหน่อย ผลสีน้ำตาลเข้ม ผิวพรรณขาวนวลด้วยมีเชื้อจีน มีเพื่อนชายที่กำลังคบหาดูใจกันอยู่เขาชื่ออัศวิน ซึ่งเพื่อนต่างมองว่าเขาและเธอช่างเหมาะสมกันและรักกันมายาวนานและเมื่อเรียนจนทั้งคู้คงจะได้แต่งงานกัน แต่จะมีใครรู้บ้างหรือไม่ว่าหายนะของชีวิตมลกำลังจะเริ่มต้นขึ้น
เย็นวันหนึ่งหลังกลับจากมหาวิทยาลัย มลกดโทรศัพท์มือถือหาเพื่อนตั้งแต่สมัยมัธยม
"จูน เราว่าจัดงานรวมรุ่นเพื่อนที่เรียนดนตรีกันดีไหม ไม่ได้เจอกันนานมากแล้ว นัดมากินข้าวกันดีไหม" มลยิ้มสดใสร่าเริงพลางเปิดคอมพิวเตอร์ที่บ้าน
"เอาสิ ชวนเพื่อนมาเยอะๆนะ ครบทุกคนได้ก็ดีนะ จัดที่ไหนดีละ" จูนถามเพื่อนด้วยจินตนาการถึงความสุขที่จะได้เจอหน้าเพื่อน
"อืม เรามีเบอร์โทรศัพท์เพื่อนเกือบครบทุกคนนะ ส่วนเรื่องร้านจูนช่วยเราดูหน่อยนะ เราไม่ค่อยได้ไปเที่ยวไม่รู้ร้านอาหารอร่อยบรรยากาศดี" มลดีใจที่เพื่อนเห็นด้วยกับโครงการนี้
"นี่ๆๆ เชิญอาจารย์มาด้วยนะ จะได้ครบเลยไง" จูนเสนอความคิดเห็น พลันให้มลนึกถึงอาจารย์ชัชชัยขึ้นมาทันที พลางหวั่นวิตก
"อืม ก็ดีนะ แต่เราไม่รู้จะเชิญยังไง เราไม่มีเบอร์อาจารย์คนไหนเลย แถมไม่ได้คุยกันตั้งนานแล้วด้วย แต่จะลองดูก็แล้วกันนะ" ก่อนที่มลจะคิดอะไรออก จูนขอตัววางสายไปเสียก่อน พลันสายตาของมลก็หันมาเห็นข้อความคำวา "ค้นหา" ที่หน้าเว็บกูเกิ้ล ในใจของเธอคิด "ลองดูละกันเผื่อ
เจอ" จากนั้นมลบรรจงพิมพ์ชื่อและนามสกุลของอาจารย์ชัชชัยลงไป "นายชัชชัย วชิรชัยกุล"
เพียงอึดใจ สิ่งที่สานตาของมลไม่คาดถึงก็ปรากฎขึ้น เมื่อชื่อ ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ของคนที่เธอตามหาได้ปรากฎตรงหน้าเธอ มลรีบคว้ากระดาษและปากกามาจดข้อความตรงหน้า เหมือนกลัวว่ามันจะลบหายไป ตตาเบิกกว้าง มือสั่นไหว ใจเต้นระรัว เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าการตามหาเขามันจะง่ายถึงเพียงนี้
มลนั่งมองเบอร์โทรศัพท์ตรงหน้าอย่างงุนงง เธอตัดสินใจไม่ถูกว่าจะทำอย่างไรดี ความรู้สึกเก่าๆตีกลับมาอย่างรวดเร็ว คนที่เธอเคยเฝ้าฝันเมื่อวัยเด็ก คนที่เธอเคยเฝ้นหวังว่าสักวันคงจะได้มีโอกาศเจอกัน ตอนนี้หนทางที่จะติดต่อเขามาอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว เธอตอบไม่ถูกว่าเธอรู้สึกอย่างไร ประหม่า อึดอัด มันแน่นไปหมด ในวินาทีนั้นมลไม่ได้นึกถึงอัศวินเลยแม้แต่น้อย ในหัวสมองของเธอมีแต่ชื่และเบอร์ที่อยู่ตรงหน้า
สุดท้ายมลตัดสินใจว่า ถ้าเธอไม่โทรไปก็จะไม่ได้เชิญอาจารย์ทั้ง 4 ท่านมาร่วมงานและเพื่อนๆก็คงจะโกรธเธอไม่น้อย ทั้งที่ลึกๆภายในใจ ณ วินาทีนี้เหตุผลที่เธอจะโทรหาเขาไม่ใช่เพราะเรื่องงานเลี้ยงอีกต่อไป มลหวังเพียงว่าขอให้ได้ยินเสียงของชัชชัยในฐานะอาจารย์อีกสักครั้ง แม้จะแอบเสียใจอยู่ลึกๆว่าตอนนี้ชัชชัยน่าจะมีครอบครัวแล้วก็ตาม
"ตู๊ด ๆๆๆๆๆๆๆ" เสียงโทรศัพท์ดังจนจวนจะขาดสายไป พลัดก็มีเสียงผู้หญิงรับสาย
"สวัสดีคะ" ปลายสายน้ำเสียงสดใส ฟังแล้วน่าจะอายุประมาณ 20 ปลายๆ
"ขอสาย อาจารย์ชัชชัย วชิรชัยกุลคะ" มลพูดกลับไปด้วยน้ำเสียที่ประหม่าระคนตื่นเต้น
"คุณคะ โทรศัพท์คุณคะ แหมเรียกชื่อเต็มเลย" เสียหญิงคนดังกล่าววางโทรศัพท์ลงก่อนที่จะมีชายอีกคนมารับ
"สวัสดีครับ" ชัชชัยนั่นเอง มลนึก เธอจำเสียงเขาได้
"สวัสดีคะอาจารย์ หนูมลเองคะ อาจารย์จำได้ไหมคะ" มลทั้งื่นเต้น ทั้งดีใจ ทั้งประหม่าอาย
"จำได้ ว่ายังไงละ" ปลายสายน้ำเสียงนุ่มนวลและยังขี้เล่นเหมือนเดิม
"เมื่อสักครู่ภรรยาอาจารย์หรือคะ เสียงน่ารักเชียว" มลถามด้วยไม่รู้จะเริ่มต้นบทสนทนาอย่างไร จึงเริ่มด้วยเรื่องของชัชชัยก่อน นัยหนึ่งก็อยากรู้ว่าเขาแต่งงานแล้วหรือยัง
"ไม่ใช่หรอก ว่าที่แฟนนะ ตอนนี้ยังไม่ใช่" ชัชชัยตอบกลับด้วยเสียงที่แผ่วเบา ปนเคร่งครีม
"อ๋อ คะ คือหนุจะจัดงานเลี้ยงรวมรุ่นนะคะ อยากจะเชิญอาจารย์ทั้ง 4 คนมาด้วย อาจารย์สะดวกไหมคะ" มลเริ่มธุระ ก่อนที่จะเป็นการเสียมารยาท
"อืมเอาสิ ไว้เดี๋ยวทิ้งเบอร์ กับอีเมล์ไว้ให้อาจารย์นะ แล้วเดี๋ยวอาจารย์ติดต่อกลับ วันนี้กำลังยุ่งๆนะ มีหลานจากต่างจังหวัดย้ายมาอยู่ด้วย แล้วยังไงอาจารย์จะติดต่อกลับไปอีกทีนะ"
สิ้นบทสนทนาและการแลกเบอร์ มลกลับมานั่งอมยิ้มดีใจเสียยกใหญ่ รีบโทรหาเพื่อนสนิทเพื่อเล่าเรื่องที่เธอรู้สึกว่าโชคดีที่สุดในวันนี้ให้เพื่อนได้ฟัง โดยที่เธอไม่เคยรู้ตัวเลยว่า ชัชชัยคนที่เธอทั้งเคารพ ทั้งคิดถึงคนนี้กำลังคิดอะไรกับเธออยู
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น