คนรัก One-PiecE - คนรัก One-PiecE นิยาย คนรัก One-PiecE : Dek-D.com - Writer

    คนรัก One-PiecE

    โดย YeS!!!!!!!!

    ตัวละคร ที่มาต่างๆ cRedit : thaibuzz

    ผู้เข้าชมรวม

    384

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    384

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    1
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  27 ก.ย. 49 / 23:25 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ






      เนื้อเรื่องโดยย่อ

       


      ในเรื่องพูดถึงยุคทองของโจรสลัด เมื่อเจ้าแห่งโจรสลัด โกลด์ โรเจอร์ ถูกประหาร มหาสมบัติวันพีซในตำนานก็ไร้เจ้าของ ทำให้โจรสลัดทั่วโลกต่างพากันแย่งชิงมหาสมบัตินี้

      มังกี้ ดี ลูฟี่ ผู้ซึ่งวัยเด็กได้มีโอกาสรู้จักกับหนึ่งในโจรสลัดผู้ยิ่งใหญ่ แชงคูส "ผมแดง" มีความใฝ่ฝันที่จะก้าวข้ามแชงคูสไปเป็นเจ้าแห่งโจรสลัด ลูฟี่ได้กินผลปีศาจ เข้าไปทำให้ร่างกายมีลักษณะพิเศษคือมีคุณสมบัติเป็นยาง ซึ่งลูฟี่ได้อาศัยพลังของผลปีศาจนี้ฝึกฝนวิชาการต่อสู้กับสัตว์ร้ายในทะเล เมื่อโตลูฟี่ได้ออกเดินทางตามลำพัง โดยหาทางผจญภัยไปยังแกรนด์ไลน์ สถานที่ที่เชื่อว่ามีวันพีซซ่อนอยู่ เพื่อหาหนทางไปสู่การเป็นจ้าวแห่งโจรสลัด ระหว่างทางลูฟี่ต้องเจอศัตรูที่ร้ายกาจและมีพลังของผลปีศาจมากมาย แต่เค้าก็ได้สหายร่วมเป็นร่วมตายมามากมายไม่ว่าจะเป็น โรโรโนอา โซโล ผู้ซึ่งมีความฝันที่จะเป็นนักดาบที่เก่งที่สุดในโลก นามิ สาวน้อยน่ารักผู้มีพรสวรรค์ในการเป็นต้นหนเรือ อุซป จอมโกหกแต่เป็นคนที่รักเพื่อนยิ่งนัก ซันจิ กุ๊กผู้มีวิชาเพลงเตะที่ร้ายกาจและบ้าผู้หญิง โทนี่ โทนี่ ช็อปเปอร์กวางเรนเดียร์ผู้ซึ่งสามารถพูดภาษามนุษย์ได้รวมทั้งยังเป็นหมอที่เก่งกาจ นิโค โรบิน สาวนักโบราณคดีผู้ลึกลับ รวมทั้งเพื่อนคนอื่นๆ ที่ต้องเจอในอนาคต




      ตัวละคร

      โจรสลัดหมวกฟาง
      มังกี้ ดี ลูฟี่ - หัวหน้ากลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง
      โรโรโนอา โซโล - นักดาบ 3 ดาบ เคยเป็นนักล่าโจรสลัดมาก่อนที่จะร่วมกับลูฟี่
      นามิ - สาวต้นหนประจำเรือ
      อุซป - นักแม่นปืนประจำเรือ ฝีมือยิงปืนสูงพอๆกับฝึมือการโกหก
      ซันจิ - พ่อครัวประจำเรือ มีฝีมือเตะที่เก่งกาจ
      โทนี่ โทนี่ ช็อปเปอร์ - หมอประจำเรือ เป็นครึ่งคนครึ่งกวาง
      นิโค โรบิน - สาวนักโบราณคดี ผู้ซึ่งได้กินผลปีศาจเข้าไป
      ไซเฟอร์ โพล


      ชื่อเฉพาะในเรื่อง


      วันพีซ สมบัติในตำนานโดยเชื่อว่าซ่อนอยู่ในส่วนที่ลึกสุดของแกรนด์ไลน์ โดยจ้าวแห่งโจรสลัด โกลด์ โรเจอร์ โดยวันพีซไม่มีใครรู้ว่าหน้าตาและรูปร่างเป็นอย่างไร
      โพนีกลิฟ แผ่นหินที่สลักตัวอักษรโบราณ (คล้ายกับ เฮียโรกลิฟของอียิปต์)ไว้เกี่ยวกับเรื่องราวของอาวุธโบราณ พูลตัน และ โพเซดอนโดยมีความเชื่อว่า ริโอโพนีกลิฟ ที่เก็บรวบรวมประวัติศาสตร์ทั้งหมดอยู่ที่เกาะรัฟเทลซึ่งเป็นจุดสุดทางของแกรนด์ไลน์ และเป็นจุดมุ่งหมายของ นิโค โรบิน
      แกรนด์ไลน์ (คะตะคานะ:
      มังกี้ ดี ลูฟี่ เป็นตัวละครหลักของการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่อง วันพีซ เขาคือกัปตันแห่งกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง

      ประวัติ
      ในวัยเด็กลูฟี่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านฟูเชีย ต่อมาเมื่อมีกลุ่มโจรสลัดกลุ่มหนึ่งได้เข้ามาในหมู่บ้าน ลูฟี่จึงได้พบกับกลุ่มโจรสลัดที่มีชื่อว่า กลุ่มโจรสลัดผมแดง ลูฟี่เป็นเพื่อนกับเหล่าบรรดาโจรสลัดกลุ่มผมแดง และอีกทั้งยังอยากจะขอเข้าร่วมกลุ่มโจรสลัดผมแดงอีกด้วย แต่ แชงคูส หัวหน้ากลุ่มโจรสลัดผมแดงไม่ต้องการให้ลูฟี่เข้าร่วม

      ช่วงระหว่างนี้เองลูฟี่ได้กินผลปีศาจ ที่ชื่อว่าผลโกมุโกมุ เข้าไป ทำให้ร่างกายมีลักษณะพิเศษคือ มีคุณสมบัติเป็นยาง ต่อมามีกลุ่มโจรภูเขาได้เข้ามาในหมู่บ้านและได้ไปมีเรื่องกับ กลุ่มโจรสลัดผมแดง แต่ว่าำ พวกแชงคูสไม่ตอบโต้คืน ซึ่งทำให้ลูฟี่ไม่พอใจมาก

      หลังจากนั้นลูฟี่จึงไปแก้แค้นให้พวกแชงคูส แต่ว่าถูกกลุ่มโจรภูเขาจับตัวไป พวกแชงคูสจึงเข้าไปช่วย กลุ่มโจรภูเขาไม่สามารถสู้ได้ จึงจับตัวลูฟี่ไปเป้นตัวประกันเพื่อหนีออกทางทะเล แชงคูสได้ตามไปช่วยลูฟี่ออกมาได้แต่ตัวแชงคูสนั้นถูกสัตว์ร้ายในทะเลกัดแขนขาดไปข้างหนึ่ง

      หลังจากนั้นไม่นาน กลุ่มโจรสลัดผมแดง ก็ได้เดินทางไปที่อื่นต่อและแชงคูสได้มอบหมวกฟางที่เขาใส่อยู่เป็นประจำให้ลูฟี่ และลูฟี่ก็ได้สัญญากับแชงคูสว่าจะก้าวข้ามแชงคูสไปอีกและจะเป็นเจ้าแห่งโจรสลัด

      ต่อมาลูฟี่ได้อาศัยพลังของผลปีศาจนี้ฝึกฝนวิชาเพื่อให้แข็งแกร่งขึ้น เมื่อลูฟี่เติบโตเป็นหนุ่มได้ต่อสู้กับสัตว์ร้ายในทะเลและได้ออกเดินทางตามลำพัง เพื่อหาทางเข้าสู่ แกรนด์ไลน์ สถานที่ที่เชื่อกันว่ามีวันพีซซ่อนอยู่

      IPB Image


      โรโรโนอา โซโล

      เป็นนักล่าค่าหัวผู้มีความเชี่ยวชาญในการใช้ดาบเป็นอาวุธ โดยมีดาบ 3 เล่มเป็นอาวุธประจำตัว
      ความใฝ่ฝัน : เป็นนักดาบที่เก่งที่สุดในโลก ตามที่ให้สัญญาไว้กับ คุอินะ เพื่อนสมัยเด็กที่เสียไป
      อุปนิสัย : เป็นคนจริงจัง ขี้เซา หลงทางบ่อย ปากไม่ค่อยดีมักจะเถียงกับซันจิเป็นประจำ แต่ก็รักเพื่อน



      นามิ

      ตัวละครการ์ตูนจากเรื่องวันพีซ ต้นหนเรือของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางลูฟี่

      นามิเมื่อก่อนเคยเป็นขโมยโจรมืออาชีพเพราะต้องการซื้อหมู่บ้านคืนจาก อาร์ลองโจรสลัดคนครึ่งปลาจนได้มาพบกับลูฟี่ และลูฟี่ก็ช่วยหมู่บ้านของนามิโดยการต่อสู้กับอาลองและชนะในที่สุดจนนามิยอมมาเป็นพวก



      อุซป

      ตัวละครการ์ตูนจากเรื่อง วันพีซ อุซปเป็นนักโกหกประจำหมู่บ้านไซรัป โดยชื่อของอุซปอาจจะดัดแปลงมาจาก อีสป โดยในภาษาญี่ปุ่นคำว่า "โกหก" ออกเสียงว่า "อุโซะ" โดยเล่นคำรวมกับคำว่า อีสป เป็น อุซป ซึ่งหมายถึงผู้เล่าเรื่อง และนักโกหก อุซปยังมีลักษณะจมูกที่ยาวเหมือนกับพิน็อคคิโอ (ตุ๊กตาไม้ที่จมูกยาวเวลาโกหก)

      อุซปมีความสามารถพิเศษคือการใช้อาวุธเกี่ยวกับการยิงได้แม่นยำ รวมถึง หนังสติ๊ก หรือ ปืนใหญ่ ลักษณะนิสัยเป็นคนโกหก และขี้ขลาด ถึงแม้ว่าอุซปจะมีพละกำลังน้อยกว่าคนอื่นในเรือ อุซปได้เข้าร่วมการต่อสู้ทุกครั้ง โดยหลายๆ ครั้งได้รับบาดเจ็บกลับมา

      Usopp ผู้ที่มีความในการยิงปืน ในการวาดรูป และการผลิตสิ่งของจริงๆหรือแหกตามาก อุซปเป็นคนขี้กลัวแต่ก็ตลกมาก ซึ่งอุซปเป็นคนออกกลอุบาย มากมายในกับพวกลูฟี่ ซึ่งนอกนามิที่ออกกลอุบายแล้วก็มี อุซปนี้แหละที่คิดแผนดีมาก ซึ่งอุซปนั้นจะชอบหัวเราะกับการที่ลูฟี่ เลียนแบบโซโล ซันจิและช็อปเปอร์มาก และอุซปว่างๆจะชอบหลอกช็อปเปอร์ ให้ทึ่งเล่นๆ


      ซันจิ

      ตัวละครโจรสลัดและพ่อครัวจากการ์ตูนจากเรื่องวันพีซ พ่อครัวประจำเรือโจรสลัดโกอิ้งเมอร์รีของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง ซันจิมีความสามารถในการต่อสู้สูงโดยเฉพาะอย่างยิ่งพลังเตะและเทคนิคการเตะ โดยเหตุผลหลักคือไม่ต้องการให้มือที่ใช้ในการทำอาหารบาดเจ็บ ซันจิเป็นพ่อครัวที่มีฝีมืออันดับสองในเรื่องวันพีซรองลงมาจาก "เซฟ โจรสลัดขาแดง" ผู้ที่ฝึกซันจิและเจ้าของภัตตาคารลอยน้ำ "บาราติเอ" ซันจิเป็นคนมีเสน่ห์(และหลงตัวเองว่ามีเสน่ห์) เขาจีบผู้หญิงทุกคนที่ได้เจอและพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ใจสาวเหล่านั้น จุดนี้เป็นจุดหนึ่งที่แสดงถึงความแข็งแกร่งและความอ่อนหวานของซันจิ


      ประวัติตัวละคร
      ระวังเสียอรรถรส ข้อความด้านล่างนี้ มีการกล่าวถึง เนื้อเรื่อง หรือฉากจบ
      ซันจิเป็นพ่อครัวมือเอกรองจาก"เซฟ"ในภัตตาคารบาราติเอ โดยทั้งคู่มีความหลังร่วมกัน โดยเมื่อ 9 ปีก่อน เซฟ(ซึ่งขณะนั้นเป็นหัวหน้าโจรสลัดขาแดง ผู้มีวิชาเตะเป็นหนึ่ง) ได้โจมตีเรือเดินทะเลซึ่งซันจิได้ทำงานเป็นพ่อครัวฝึกหัดขณะนั้น ในขณะที่กำลังบุกปล้น ปรากฏว่ามีพายุพัดเข้ามาทำให้ซันจิตกเรือไป โดยเซฟได้กระโดดลงน้ำตามไปช่วยซันจิ ถึงแม้ว่าทั้งสองคนจะรอดจากการจมน้ำมาได้ แต่ทั้งคู่ได้ขึ้นมาติดชะง่อนหินด้วยกันกลางทะเล ไม่มีสัตว์ ไม่มีผัก ไม่มีอาหาร และยังคงเป็นหินที่สูงจากระดับน้ำทะมากเกินกว่าที่จะตกปลามากินได้ โชคยังดีที่เซฟได้หยิบอาหารติดมาสองถุง โดยตกลงว่าจะแบ่งอาหารกันกิน ซันจิได้ถุงเล็กและเซฟได้ถุงใหญ่ไป เซฟยังคงสั่งให้ซันจินั่งอยู่ตรงข้ามของเกาะเพื่อสังเกตเผื่อมีเรือผ่านมา วันคืนผ่านไปหลายวันไม่มีทีท่าว่าจะมีเรือผ่านมา อาหารของซันจิเริ่มร่อยหรอลง เมื่ออาหารของซันจิได้หมดลง ซันจิจึงวางแผนจะฆ่าเซฟแล้วแย่งอาหารมาเมื่อสังเกตเห็นเห็นว่าถุงอาหารของเซฟยังคงเต็มอยู่ ซันจิได้เข้าไปแย่งอาหารแล้วได้รู้ว่าถุงอาหารของเซฟทั้งหมดมีแต่ทรัพย์สมบัติ ไม่มีอาหารเลยซักนิดเดียว ซันจิจึงรู้ไดว่าเซฟได้แบ่งอาหารที่มีทั้งหมดไว้ให้ซันจิคนเดียว มากไปกว่านั้นเมื่อซันจิได้เห็นขาของเซฟแล้วรู้ว่าเซฟตัดขาดตัวเองกิน (ในฉบับหนังการ์ตูน เซฟสูญเสียขาตอนที่ช่วยซันจิจากการจมน้ำ) หลังจากนั้นซันจิได้สาบานกับตัวเองว่าจะช่วยเซฟเปิดร้านอาหารบนทะเลแห่งนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ไม่ต้องการให้มีผู้คนที่ต้องทนหิวกลางทะเลอีกต่อไป หลายวันต่อมาได้มีเรือผ่านมาและได้ช่วยเหลือทั้งคู่จากความตาย

      ในภัตตาคารบาราติเอ เซฟและซันจิได้ทะเลาะกันตลอดเวลา โดยเซฟเรียกซันจิว่าเด็กน้อย ขณะที่ซันจิเรียกเซฟว่าไอ้เฒ่า เซฟบอกซันจิตลอดเวลาว่าฝึมือทำอาหารของซันจิห่วยไม่เข้าขั้นมาตลอด ถึงแม้ว่าจะทะเลาะกันหนักแค่ไหน ซันจิสัญญากับตัวเองว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น จะช่วยเซฟเปิดร้านอาหารตลอดชีวิต จนกระทั่งวันหนึ่ง ดอนครีกและกลุ่มโจรสลัดปรากฎตัวขึ้นและประกาศจะยึดครองบาราติเอ ซันจิและพ่อครัวคนอื่นได้ต่อสู้ป้องกันบาราติเอ โดยในขณะนั้น ลูฟี จากกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางได้อยู่ที่ภัตตาคารพอดี และได้ช่วยขับไล่ดอนครีกไป ลูฟีชักชวนให้ซันจิขึ้นเรือเป็นพ่อครัวประจำเรือและไปตามหา "ออลบลู" (ซึ่งเป็นความฝันอันยิ่งใหญ่ของซันจิและของเซฟ เป็นชื่อทะเลที่มีปลาอยู่ทุกประเภท) แต่ซันจิตัดสินใจหนักแน่นว่าจะไม่ทิ้งเซฟและบาราติเอไป เซฟเห็นดังนั้นจึงวางแผนกับพ่อครัวทุกคนในบาราติเอทำท่าโกรธซันจิอย่างแรง ซันจิโมโหมากที่เห็นว่าทุกคนเทอาหารของเขาทิ้งและหาว่าอาหารไม่อร่อย แต่เมื่อซันจิมารู้แผนของเซฟทีหลังและได้เข้าใจถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงที่อยากให้ซันจิตามความฝันไป ซันจิได้ก้มกราบขอบคุณเซฟและทุกคนด้วยน้ำตา และได้ลงเรือไปกับลูฟีไป

      ค่าหัว 40 ล้านเบรี หลังกำจัด CP9


      นิโค โรบิน
      ตัวละครนักประวัติศาสตร์จากการ์ตูนเรื่องวันพีซ
      นิโค โรบิน สมาชิกเก่าขององค์กรบารอคเวิร์คผู้เป็นถึงรองประธานภายใต้โค้ดเนม Miss Allsunday ที่มีความฝันในการตามหาประวัติศาสตร์ที่แท้จริงที่ถูกบันทึกผ่าน โพเนกลีฟ อักษรโบราณที่ไม่มีใครอ่านได้นอกจากเธอ เธอคนนี้ถูกรัฐบาลตามล่ามาถึง20ปี นับตั้งแต่เธอมีค่าหัวถึง79ล้านด้วยอายุเพียง8ปี มีโรบินลอบขึ้นเรือหลังจากลูฟี่ช่วยเธอไว้จากการต่อสู้ในอลาบาสตา และได้เข้าเป็นสมาชิกโดยการยินยอมของลูฟี่ ที่กล่าวว่า "แม่นี่ไม่ใช่คนเลว" แม้ว่าสมาชิกคนอื่นๆจะยังเคลือบแคลงอยู่ก็ตาม จนกระทั่งการต่อสู้บนเกาะแห่งท้องฟ้า สกายเปีย จึงทำให้ทุกคนเชื่อใจเธอ แต่อดีตอันลึกลับของโรบินก็ตามมาอีกครั้ง เมื่อพวกเขาได้พบกับอาโอคิยิ จอมพลแห่งกองทัพที่ต้องการตัวโรบิน และเมื่อพวกเขาหนีรอดและเดินทางมาถึงเกาะวอเตอร์เซเว่น เกาะแห่งช่างต่อเรือ เธอก็หายตัวไป พร้อมปรากฏตัวอีกทีด้วยคำลา และทำตัวเป็นศัตรูกับพวกลูฟี่อีกครั้ง โดยการร่วมมือกับกลุ่ม CP9แห่งรัฐบาลโลก ในการลอบสังหารไอซ์เบิร์ก นายกเทศมนตรีของเมือง เพื่อชิงแบบแปลน "พูลตัน" อาวุธร้ายในตำนานที่สามารถทำลายล้างโลกได้ และป้ายความผิดให้โจรสลัดหมวกฟาง ความจริงของเจตนาปรากฏขึ้นเมื่อไอซ์เบิร์กผู้รอดตายจากการถูกลอบสังหารบอกนามิว่า แท้จริงแล้วโรบินทำไปเพราะต้องการให้เพื่อนของเธอปลอดภัย เพราะ CP9 มีอำนาจในการเรียก"บัสเตอร์คอล"ที่ร้ายกาจ

      การผจญภัยครั้งต่อไปจึงเป็นการติดตามCP9 ไป เพื่อช่วยเหลือโรบินให้กลับมาเป็นหนึ่งในกลุ่มหมวกฟางอีกครั้ง อดีตที่เร้นลับของโรบินยังไม่เปิดเผยในฉบับรวมเล่มภาษาไทย แต่มีบางจุด เช่นว่า เธอเป็นคนของเกาะโอฮารา ที่ล่มสลายเหลือเพียงเธอคนเดียวจากการทำลายของบัสเตอร์คอลเมื่อ 20ปีที่แล้ว และเธอเป็นเพียงคนเดียวเท่าที่รู้ในตอนนี้ ที่สามารถอ่านโพเนกลีฟ ที่จะนำไปสู่ประวัติศาสตร์ที่หายไป และอาวุธในตำนานได้




      ไซเฟอร์ โพล (Cipher Pol, CP)

      คือ หน่วยงานในองค์กรรัฐบาลโลกในโลกของวันพีซ CP ย่อมาจาก ไซเฟอร์ โพลิซ ซึ่งหน่วยไซเฟอร์ โพล จะมีหมายเลขตั้งแต่ 1-8 แต่ก็ยังมีหน่วยที่ 9 ซึ่งเป็นหน่วยลับอยู่เหมือนกัน "ไซเฟอร์" หมายความว่าถึงตัวเลขในการเข้ารหัส "โพล" ย่อมาจากคำว่า โพลิซ หรือตำรวจนั่นเอง ดังนั้นความหมายของไซเฟอร์ โพลน่าจะหมายความว่า "ตำรวจหมายเลข" ซึ่งมีความหมายตรงตามหน่วยทหารที่มีหมายเลข 1-9 และดูเหมือนว่าพฤติกรรมหรือภาพลักษณ์ของสมาชิกของหน่วย CP9 จะดูคล้ายกับสัตว์เลือดเย็นที่ไม่รรมดา

      CP9 เป็นองค์กร "ลับเฉพาะ" ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มกันของบุคคลที่สามารถใช้ "รูปแบบทั้งหก" ท่าอันทรงพลังทั้งหกที่รู้กันเฉพาะหน่วย CP9 เท่านั้น CP9 ยังได้สิทธิพิเศษนอกเหนือจากกอง CP ธรรมดาคืออำนาจในการสังหารบุคคลใด ๆ ก็ตามที่มีพฤติกรรมคุกคามต่อความมั่นคงของโลก เมื่อไม่นานมานี้ CP9 ถูกส่งให้ไปอยู่ใต้บังคับบัญชาของพลเรือเอกอาโอคิยิผู้ที่สามารถสั่งการ "บัสเตอร์คอล" เรือรบอันทรงพลังทั้งสิบ เพื่อจัดการถล่มกลุ่มอาชญากรใด ๆ ที่โชคร้ายพอที่จะตกเป็นเป้าหมาย ต่อไปนี้คือสมาชิกทั้งเก้าของ CP9 ในปัจจุบัน

      เจ้าหน้าที่ทั้ง 4 คนของ CP9 ได้ใช้เวลาช่วง 5 ปีสุดท้ายในเส้นเวลาของโลกวันพีซ แฝงตัวเป็นช่างต่อเรือให้กับ ไอซ์เบิร์ก นายกเทศมนตรีของวอเตอร์เซเว่น ทั้งสี่ค้นหาแบบแปลนของ พูลตัน อาวุธโบราณที่มีอานุภาพร้ายแรง (ลำเดียวที่เอ่ยถึงในโพเนกลิฟของอลาบาสต้าซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของครอกโคดายล์) ในคำสั่งเพื่อนำจุดจบมาสู่ "ยุคทองของโจรสลัด" ซึ่งจุดประกายมาจากการตายของ โกล ดี โรเจอร์ เนื่องจากพลังที่ร้ายกาจของพวกเขา พวกเขาจึงมีท่าทางหยิ่งและขี้โอ่

      สแปนดัม

      สแปนดัม แห่ง CP9นักพากษ์: โอโนซากะ มาซายะ

      เขาคือผู้ตรวจสอบของ CP9 สแปนดัมเคยเป็นหัวหน้าของ CP5 และเป็นคนแรกที่ไล่ตามแย่งพิมพ์เขียวพูลตันของมนุษย์เงือก ทอม เมื่อทอมไม่ให้ สแปนดัมก็ใส่ร้ายเขาโดยใช้เรือรบของ แฟรงกี้ โจมตีใส่เรือของผู้พิพากษา ให้ดูเหมือนว่าเป็นฝีมือของลูกศิษย์ของทอม (คัตตี้ แฟลม (แฟรงกี้) และ ไอซ์เบิร์ก แต่ในสุดท้ายถึงแม้ว่าสแปนดัมจะถูกหลอก (ขณะที่ทอมซ่อนแบบแปลนไว้อย่างปลอดภัย) และได้มาเพียงแค่แผลน่าเกลียดน่ากลัวที่หน้าจากเรื่องที่ก่อไว้ (จากหมัดของคัตตี้ แฟลม) แต่ตอนนี้สแปนดัมกลับมาพร้อมกับหน้ากากเหล็กเพื่อที่จะทำแผนการในอดีตของเขาให้สำเร็จอีกครั้ง

      สแปนดัมเป็นคนที่อ่อนแอที่สุดในหน่วยโดยมีค่า "โดริคิ" เพียงแค่ 9 เท่านั้น (ตามปกติ ทหารเรือติดอาวุธหนึ่งนายมีค่าโดริคิเท่ากับ 10) ดังนั้น สแปนดัมจึงอยู่อย่างสุขสบายบนความสามารถในการหลอกลวงและเจ้าเล่ห์ เนื่องจากหลีกเลี่ยงการต่อสู้จริง ๆ ทุกครั้ง

      เพราะว่าร่างกายที่อ่อนแอของเขา สแปนดัมจะแสดงความขี้ขลาดออกมาให้เห็นบ่อย ๆ แต่เขาไม่ลังเลที่จะใช้ยศของเขาควบคุมผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งหลาย เขาทำได้แม้กระทั่งฆ่าคนเพื่อให้งานของเขาลุล่วงไปด้วยดีด้วย

      สแปนดัมซุ่มซ่ามมาก (ทำกาแฟหกบ่อย ๆ) แถมยังอารมณ์เสียง่ายอีกต่างหาก และยังมีไหวพริบพิเศษในทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชื่อของเขา แฟรงกี้ตั้งชื่อเล่นให้ว่า "สแปนด้า" เนื่องจากรอยคล้ำใต้ตาเหมือนแพนด้าของเขา ซึ่งทำให้เขาหัวเสียบ่อย ๆ สแปนดัมปรากฏตัวส่วนมากในมาดตัวร้ายตลก ๆ เหมือนกับ บากี้ โจรสลัดตัวตลก แม้ว่าเขาแสดงความมุ่งร้ายที่แท้จริงออกมาบ่อย ๆ เมื่อมองนักโทษของเขา เหมือนในขณะที่เขากลับคำสัญญาเรื่องความปลอดภัยของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางและทำร้ายนักโทษของเขา (นิโค โรบิน และ แฟรงกี้

      เขาทึกทักเอาว่าเป็นลูกชายของสแปนไดน์ ผู้บัญชาการ CP9 ใน 20 ปีก่อน ผู้ใช้บัสเตอร์คอลกับโอฮารา บ้านเกิดของนิโค โรบิน

      สแปนดัมมีดาบอยู่เล่มหนึ่ง ชื่อว่า "ฟังค์ ฟรีด" ที่ดูดซับ ผลปิศาจ ชื่อว่า "ผลโซโซ" (ゾウゾウの実 ผลช้างช้าง) เข้าไป ความสามารถของผลนี้คือสามารถแปลงเป็นช้างได้ ปรากฎการณ์นี้เคยเกิดขึ้นมาครั้งหนึ่งแล้วในอดีตก่อนหน้านี้กับ ลาซซู ปืนหมาของ มิสเตอร์ 4

      ในตอนที่ 408 ลุฟฟี่ตามสแปนดัม ลุคชี่ และโรบินไปได้ทัน ลุคชี่จึงบอกให้พาโรบินไปที่ประตูแห่งความยุติธรรม ส่วนตนจะอยู่สู้กับลุฟฟี่อยู่ที่นี่



      ร็อบ ลุชชี่ และ ฮัตโตริ

      ร็อบ ลุชชี่ และ ฮัตโตริ แห่ง CP9นักพากษ์: เซกิ โทโมกาสึ


      เมื่อลุชชี่ปรากฏตัวครั้งแรกในฐานะช่างต่อเรือที่บริษัทต่อเรือกัลเลย์ลา เขาเป็นนักแปลงเสียงโดยพูดผ่านอัตโตรินกพิราบของเขา และลุชชี่ก็แสดงความสามารถในการต่อสู้ที่น่าประทับใจเมื่อสู้กับพาวลี่และลุฟฟี่ด้วย อย่างไรก็ตามเขาก็แสดงตัวว่าเป็นหัวหน้าหน่วย CP9 แห่งวอเตอร์เซเว่นในไม่นานมานี้ โดยสังกัดกับบริษัทกัลเลย์ลา คอมปานี ลุชชี่กินผลเนโกะเนโกะสายเสือดาว (ネコネコの実、モデル:レオパルド, ผลแมวแมว สายเสือดาว) ซึ่งสามารถทำให้เขากลายร่างเป็นมนุษย์เสือดาวร่างยักษ์ ควบคู่ไปกับศิลปะการต่อสู้ด้วย รูปแบบทั้งหก ของหัวหน้าของเขา ทำให้เขากลายเป็นศัตรูที่ร้ายกาจและถูกจัดอันดับให้เป็นเจ้าหน้าที่ที่แข็งแกร่งที่สุดของ CP9 อีกด้วย

      ดูเหมือนว่าเขาจะพึงพอใจกับการสร้างความเจ็บปวดให้แก่คนอื่นเป็นอย่างมาก ในฉากที่อยู่ในการต่อสู้ที่เขาคาดหวังไว้ เพียงแค่แสยะยิ้มเท่านั้นก็สร้างความรู้สึกซาดิสต์ให้กับบุคลิกของเขา ต่อมาในเรื่อง เขาก็เผยธาตุแท้ออกมาว่าที่เขาเข้าร่วมกับรัฐบาลก็เพื่อที่จะฆ่าคนได้อย่างถูกกฏหมายเท่านั้น ตัวอย่างของความกระหายการต่อสู้อย่างรุนแรงของลุชชี่คือเมื่อเขายอมลดหย่อนภารกิจที่จะนำ นิโค โรบิน ไปที่ประตูแห่งความยุติธรรมโดยให้ลุฟฟี่ต่อสู้กับเขาเพียงเพื่อความต้องการอยากจะสู้เท่านั้น

      ไม่มีข้อมูลอะไรกล่าวถึงฮัตโตริ นกพิราบที่เกาะอยู่ที่ไหล่ของลุชชี่ตลอดเวลามากนัก เป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นสัตว์ที่กิน ผลปิศาจ(悪魔の実) เข้าไปและได้รับความสามารถพิเศษ (เหมือนกับโทนี่ โทนี่ ชอปเปอร์ถ้าฮัตโตริเผยความสามารถออกมากรณีนี้ก็น่าจะเป็นจริง) ชื่อของฮัตโตริเป็นไปได้ว่ามาจากการผสมคำภาษาญี่ปุ่นคือ ฮะโตะ (鳩)ซึ่งมีความหมายว่าพิราบ และ โทริ (鳥)ซึ่งมีความหมายว่านก

      ในตอนที่ 400 ลุฟฟี่ไล่ตามลุชชี่ไปเพื่อที่จะสู้กับเขา ตั้งแต่รู้ว่าลุชชี่เป็นศัตรูที่แข็งแกร่งที่สุดลุฟฟี่ก็เริ่มพยายามที่จะล้มเขาให้ได้ซึ่งเป็นการต่อสู้ท
      ี่หินเอาการทีเดียว ในตอนที่ 408 ลุฟฟี่ก็ตามไปจนพบลุชชี่ สแปนดัม และโรบิน ดูเหมือนว่าการต่อสู้ระหว่างลุฟฟี่และลุชชี่กำลังจะเริ่มขึ้นในไม่ช้า

      แคลิเฟอร์

      แคลิเฟอร์ แห่ง CP9นักพากษ์: ชินโด นาโอมิ

      พบครั้งแรกในคราบของเลขาสาวสวยของไอซ์เบิร์กแคลิเฟอร์ดูเหมือนจะเอาใจใส่เขามากจนถึงขั้นที่โจมตีทุกคนที่
      ดูถูกไอซ์เบิร์กด้วยลูกเตะที่รวดเร็วและหนักหน่วง (ลุฟฟี่เลยหาทางทำหยาบคายกับไอซ์เบิร์กได้ยาก) เมื่อเธอแสดงตัวออกมาว่าเป็นหนึ่งใน CP9 แคลิเฟอร์ยังแสดงออกมาว่าเธอสามารถใช้แส้หนามควบคู่กับรูปแบบทั้งหกได้อย่างดีอีกด้วย ในการมาถึงของพวกเขาบนเอนิเอส ล็อบบี้ แคลิเฟอร์และคาคุก็ได้รับผลปิศาจมาจากสแปนดัม และพวกเขาก็กินมันเข้าไปภายใต้การยุยงจากสมาชิก CP9 คนอื่น (โดยเฉพาะลุชชี่) ก่อนที่เธอจะกินผลปิศาจเธอเคยเป็นสมาชิกที่อ่อนแอที่สุดของ CP9 แต่เมื่อกินผลปิศาจเข้าไปแล้วก็ยังไม่รู้ตัวเลยว่าตนล้ำหน้ากว่าสองสมาชิกอันดับรองสุดท้ายเสียอีก

      แคลิเฟอร์ยังเป็นผู้สนับสนุนสิทธิสตรีอย่างเปิดเผย และพิจารณาคำพูดของผู้ชาย ท่าทาง การมีชีวิตอยู่ และการล่วงละเมิดทางเพศ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งสแปนดัม)

      ถึงแม้ว่าช่วงแรก ๆ เธอจะได้ต่อสู้กับซันจิซึ่งถูกเธอจัดการลงอย่างง่ายดายเพราะว่าความเชื่อของเขาที่ให้ตายยังดีกว่าทำร้ายผ
      ู้หญิง แคลิเฟอร์เปลี่ยนเขาให้กลายเป็นหุ่นลื่น ๆ ด้วยพลังของผลอาวะอาวะ(アワアワの実 ผลฟองสบู่ฟองสบู่) ซึ่งเปลี่ยนเธอกลายเป็นนุษย์สบู่ ฟองของเธอไม่เพียงแต่ชะล้างคราบสกปรกเท่านั้น แต่ยัง "ชะล้าง" พลังได้ด้วย โดยการดูดพลังงานของศัตรูแล้วปล่อยไว้ในสภาพสะอาดเป็นมันวาวเหมือนกับที่เธอทำกับซันจิและกำลังทำให้กับนา
      มิ และเธอยังสามารถตรึงคู่ต่อสู้ให้อยู่กับที่ด้วยสบู่อีกด้วย นามิกำลังท้าแคลิเฟอร์ต่อสู้เพราะว่าซันจิคงสู้ต่อไม่ได้ ได้รับการยืนยันมาจากแฟรงกี้ว่าแคลิเฟอร์มีกุญแจหมายเลข 2 ที่สามารถช่วยโซโลและโซเงคิงได้ เหมือนกับกุญแจหมายเลข 4 ของฟุคุโร่ และกุญแจหมายเลข 3 ของคุมาโดริ

      บลูโน่

      บลูโน่ แห่ง CP9นักพากษ์: ซาซากิ เซย์จิ

      บลูโน่ปรากฏตัวออกมาครั้งแรกในคราบเจ้าของร้านเหล้าในวอเตอร์เซเว่นและดูเหมือนว่าจะสนิทสนมกับแฟรงกี้และ
      พาวลีย์มากทีเดียว แต่ถึงยังไงก็ตาม เขาก็เผยธาตุแท้ออกมาพร้อมกับสมาชิก CP9 ส่วนที่เหลือเข้าโจมตีพาวลีย์และไอซ์เบิร์กเพื่อแย่งชิงพิมพ์เขียวของพูลตัน เขาเป็นเจ้าหน้าที่คนที่โรบินวิ่งชนบนถนนในวอเตอร์เซเว่น ตอนเธอเดินอยู่กับชอปเปอร์

      บลูโน่กินผลโดอาโดอา (ドアドアの実 ผลประตูประตู) เข้าไป ทำให้เขาสามารถสร้างประตูขึ้นมาจากอะไรก็ได้ รวมทั้ง "แอร์ ดอร์" ประตูบนอากาศที่ดูเหมือนจะนำไปสู่มิติอื่นอีกด้วย บลูโน่ยังสามารถสร้างประตูบนร่างกายคนได้อีกด้วยเหมือนกับที่ทำให้หน้าของลุฟฟี่หมุนไปมาเหมือนประตูหมุน

      "กายาเหล็ก" ของบลูโน่ดูเหมือนว่าจะทรงพลังที่สุดในกลุ่ม อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะได้เปรียบในข้อนี้ แต่ลุฟฟี่ก็สามารถใช้เกียร์ 2 ซึ่งเป็นท่าใหม่สยบเขาในการต่อสู้ที่เอนิเอส ล็อบบี้

      คาคุ

      คาคุ แห่ง CP9นักพากษ์: โอคิอายุ เรียวทาโร่

      คาคุปรากฏตัวครั้งแรกในคราบของหนึ่งในห้าหัวหน้าคนงานกัลเลย์ลาคอมปานี่ ชื่อของคาคุมาจากคำญี่ปุ่นคือ คาคุ (角 มุม) ซึ่งมาจากจมูกรูปสี่เหลี่ยมของเขา คาคุเป็นคนตรวจสอบ โกอิ้ง เมอร์รี่ และบอกให้กลุ่มโจรสลัดหมวกฟางทราบว่ามันไม่สามารถซ่อมได้อีกแล้ว เขาสามารถเคลื่อนที่ได้เร็วอย่างไม่น่าเชื่อและกระโดดข้ามตึกจากความสูงและระยะทางที่น่าตกใจโดยปราศจากรอ
      ยขีดข่วน ตัวละครหลายตัวมักจะเข้าใจผิดระหว่างเขากับอุซปตั้งแต่ที่รูว่าเขาจมูกยาวด้วยเหมือนกัน ระหว่างการปลอมตัวเป็นช่างต่อเรือของเขา คาคุใช้ตะไบและสิ่วอันหลากหลายเป็นเหมือนอาวุธจรวด (ใช้สยบลุฟฟี่ในด็อก 1) หลังจากตัวจริงของเขาถูกเปิดเผย เขาสู้กับโซโลโดยใช้สิ่วยักษ์เป็นดาบในห้องของไอซ์เบิร์ก คาคุยังรับผิดชอบเรื่องที่ทำนายการตายของโกอิ้งเมอร์รี่ถ้ายังจะออกเรือต่อไปอีกด้วย

      หลายครั้งที่คาคุแสร้งว่าเป็นเจ้าหน้าที่ CP9 แห่งวอเตอร์เซเว่นที่ไร้ความรู้สึก แต่ก็มีบางครั้งที่เขาเผยธาตุแท้ออกมาเพียงเล็กน้อย ตัวอย่างเช่นเขาพูดดูถูกคู่ต่อสู้ระหว่างการต่อสู้เสมอ,กินผลปิศาจเพื่อความสนุก,และตะโกนอย่างสะใจขณะสู้
      อย่างเอาเป็นเอาตายกับโซโล ดูเหมือนว่าเขายังจะทำให้ศัตรูหมดทางเลือกแล้วต่อสู้กับเขาเพื่อบรรลุภารกิจของเขาอีกด้วย เมื่อโซโลและโซเงคิงถูกใส่กุญแจมือไว้ด้วยกันคาคุปรารถนาจะช่วยพวกเขา ดังนั้นเขาจึงไม่อยากฝืนแบ่งเป้าหมายของเขากับจาบรา เมื่อเจ้าหน้าที่ทั้งสองไม่มีกุญแจ ทั้งสองจึงตกลงกันว่าจะคว้าเหยื่อของพวกเขาให้อยู่หมัด

      ในเรื่องไม่นานมานี้ สแปนดัมได้มอบผลปิศาจให้กับเขาและแคลิเฟอร์ และจากการยุยงของลุชชี่ เขาก็กินมันเข้าไป ผลของคาคุคือผลอุชิอุชิสายยีราฟ (ウシウシの実、モデル:ジラフผลวัววัว สายยีราฟ)ซึ่งสามารถทำให้เขากลายร่างเป็นยีราฟ เขาพึ่งจะควบคุมพลังของเขาได้ดังนั้นเวลาต่อสู้จึงมีปัญหาเกิดขึ้นเล็กน้อย ถึงแม้ว่าเขาพึ่งจะเผชิญหน้ากับโซโลไปได้ขั้นหนึ่ง เขาทำให้มันสิ้นสุดโดยทำให้พื้นเป็นรูจากการแปลงร่างเป็นร่างยีราฟเต็มตัวแทนที่จะแปลงร่างเป็นมนุษย์ยีรา
      ฟ ทั้งสองตกลงมาในห้องที่โซเงคิงและจาบรากำลังสู้กันอยู่ ทำให้ทั้งสี่ต้องมาพัวพันกัน โซเงคิงกำลังหัวเราะเยาะในสารรูปของคาคุทำให้เผลอใส่กุญแจมือให้ตัวเองและโซโลแทนที่จะใส่ให้คาคุและจาบรา
      โดยบังเอิญ ทำให้ทั้งสองต้องวิ่งหนีเจ้าหน้าที่ CP9 ทั้งสอง โดยพยายามที่จะหากุญแจมาไขที่มือของพวกเขา

      ตั้งแต่คาคุได้รับพลังของเขา จาบราก็แหย่เขาเรื่องโชคร้ายมาตลอด และถึงแม้ว่าคาคุจะบอกซ้ำ ๆ ซาก ๆ ว่าเขาชอบยีราฟ แต่คำเยาะเย้ยของจาบรา โซเงคิงและโซโลก็ทำให้เขาหัวเสีย ถึงจะไม่ใส่ใจในคำเยาะเย้ยแต่คาคุก็ใช้ร่างกายอันใหญ่โตผ่าครึ่งหอคอยแห่งความยุติธรรมเป็นสองซีก แบบเดียวกับที่ลุชชี่ในร่างเสือดาวทำกับสำนักงานใหญ่กัลเลย์ลาคอมปานี

      เนโร

      เนโร แห่ง CP9นักพากษ์: คิอุจิ ฮิเดโนบุ

      เนโรเป็นสมาชิกที่เพิ่งเข้ามาใหม่ของ CP9 รู้จักกันในนามของ "แมวน้ำทะเล" เขาปรากฏตัวครั้งแรกบนพัฟฟิ่งทอม ในขณะที่เขามาช่วยทำหน้าที่คุ้มกันการส่งตัวนิโค โรบินไปเอนิเอส ล็อบบี้ อย่างไรก็ตามด้วยความที่เนโรเป็นเจ้าหน้าที่ใหม่เขาจึงเป็นแค่ ผู้ใช้รูปแบบทั้งสี่(四式使い) เท่านั้น แทนที่จะเป็น ผู้ใช้รูปแบบทั้งหก (六式使い) รูปแบบทั้งหกที่เนโรฝึกจนสำเร็จจึงมีแค่ โซล,เดินชมจันทร์,กายากระดาษ,เท้าวายุ แต่ยังใช้ กายาเหล็ก และ ดัชนีพิฆาต ไม่ได้ อย่างไรก็ตามเขาก็ทดแทน ดัชนีพิฆาต ที่ขาดไปด้วยการพกปืนคู่ติดตัวแทน และทดแทน กายาเหล็ก ด้วยการหลีกเลี่ยงการปะทะด้วยความระมัดระวังแทน

      เนโรพยายามที่จะหยุดแฟรงกี้จากการชิงตัวโรบินแต่กลับถูกต่อยทะลุเพดานพัฟฟิ่ง ทอมลงมาในห้องของ CP9 เสียเอง แต่เนโรยังยืนยันที่จะสู้กับแฟรงกี้และยังยืนยันว่าจะฆ่าเขาด้วย แต่ว่าลุชชี่ไม่อนุญาตเพราะว่าพวกเขาก็สามารถจับแฟรงกี้ได้อย่างง่ายดายอยู่แล้ว ลุชชี่ให้เวลาเนโรสามวินาทีเพื่อที่จะหนี เนโรใช้ โกนหนวด หนีออกไปข้างนอก แต่ลุชชี่ตามออกไปทันและจัดการเขาด้วย ดัชนีพิฆาต ไม่มีใครรู้ว่าเนโรจะมีชีวิตรอดหรือไม่ (การตายหาได้ยากในเรื่องวันพีซ) แต่ด้วยความสามารถของลุชชี่ซึ่งสามารถฆ่าคนตายด้วยนิ้วเดียวเท่านั้นและร่างของเนโรตกลงไปในทะเลช่วงที่กำ
      ลังเกิดคลื่นยักษ์อควอลากูนนาอยู่ด้วย จึงเป็นไปได้ว่าเขาตายแล้ว

      ฟุคุโร่

      ฟุคุโร่ แห่ง CP9ฟุคุโร่เป็นมนุษย์ที่มีรูปร่างกลมอย่างประหลาด แถมยังมีซิปอยู่ที่ปากอีกด้วย ซึ่งสามารถรูดซิปออกเมื่อยามที่ต้องการจะพูด ถึงแม้ว่ามีความสามารถที่จะ "รูดซิป" ปากของเขา แต่เขาก็มักจะโพล่งออกมาโดยไม่สนใจความรู้สึกของคนอื่นอยู่เสมอ ในขณะที่การโจมตีของกองกำลังพวกหมวกฟางเริ่มขึ้นที่เอนิเอส ล็อบบี้ ฟุคุโร่พูดอย่างไร้สติถึงความโง่ของจาบราและความไม่เอาไหนของสแปนดัม น่าแปลกที่เขาเรียกตัวเขาเองว่า "ฟุคุโร่ผู้เงียบงัน ผู้ชื่นชอบในข่าวลือ" พลังของเขาเท่าที่รู้ในตอนนี้คือ (พลังที่แม้แต่สมาชิก CP9 คนอื่นก็ไม่มี) พลังในการวัดพลังของ CP9 คนอื่น ๆ โดยการให้โจมตีเข้ามาแล้วเค้าจะวัดค่าพลังให้ด้วยความซื่อสัตย์ (ทำให้มีปัญหากับจาบรา เพราะว่าวัดออกมาแล้วคาคุกับลุชชี่ได้มากกว่าเขา)

      หลังจากที่กลุ่มหมวกฟางลุกขึ้นสู้กับ CP9 แฟรงกี้วิ่งไปเจอฟุคุโร่และสู้กับเขา แต่โคล่าของเขาหมดเลยสู้ได้ไม่เต็มที่ เมื่อชอปเปอร์โผล่มาโดยที่กำลังสู้กับคุมาโดริ แฟรงกี้ก็บอกให้เอาโคล่ามาให้ เมื่อได้โคล่าแล้วก็สามารถสู้ได้ด้วยพลังเต็มเปี่ยม แต่อย่างไรก็ตาม ฟุคุโร่มีความเร็วและพละกำลังเป็นเลิศ การต่อสู้ยืดเยื้อไปไม่เท่าไหร่ แฟรงกี้ก็สอยฟุคุโร่ลงได้ด้วยหมัดของเขา

      สไตล์การต่อสู้ของฟุคุโร่ส่วนมากจะวนอยู่ในการปล่อยหมัดที่ฝึกจนแข็งแกร่ง (เทคนิค จูกง) และโครงสร้างพื้นฐานของเขาดูเหมือนว่าจะช่วยทำให้เขาใช้ท่าบางท่าของรูปแบบทั้งหกแตกต่างกว่า CP9 คนอื่น ๆ อยู่เล็กน้อย ตัวอย่างเช่น ดูเหมือนว่าเขาสามารถใช้ท่าเท้าวายุโดยไม่ต้องใช้ขาที่ด้วนและสั้นของเขาเลย

      ฟุคุโร่เรียกตัวเองว่าเป็นสุดยอดฝีมือของท่า โซล และเป็น CP9 คนแรกที่ใช้วิธีการเคลื่อนที่ที่แตกต่างออกไป ด้วยท่า โซล ของเขาทำให้เขาสามารถเคลื่อนที่ได้ไวมากเสียจนไม่สามารถมองด้วยตาได้ ฟุคุโร่บอกว่านั่นทำให้เขาดูเหมือนนกฮูกที่จับเหยื่อโดยที่กว่าเหยื่อจะรู้สึกตัวก็สายเกินไป ช่างบังเอิญเสียจริงที่ ฟุคุโร่ (梟) หมายถึงนกฮูกในภาษาญี่ปุ่น น่าจะเดาได้ว่าชื่อของเขามาจากไหน

      จาบรา

      จาบรา แห่ง CP9จาบราซี้ซั้วขึ้นมาเองว่าเขาเป็นหัวหน้าทีม และไม่ชอบฟุคุโร่ที่สุด ชอบโกหกและทำตัวลึกลับอยู่เสมอ แฟนคลับหลายคนบอกมาว่าหน้าเขาเหมือนกับตัวละครในดราก้อนบอลที่ชื่อ เถา ไป ไป อยู่เหมือนกัน ความสามารถของเขาถูกปิดไว้จนถึงตอนที่ 401 ผลปิศาจของเขาก็แสดงฤทธิ์ออกมาเป็น ผลอินุอินุ สายหมาป่า (イヌイヌの実、モデル:ウルフ ผลหมาหมา สายหมาป่า) ซึ่งสามารถทำให้เขากลายร่างได้ทั้งหมาป่าเต็มตัวและมนุษย์หมาป่า

      จาบราเชื่อว่าตัวเองเป็นคู่แข่งที่ร้ายกาจของลุชชี่ ถึงแม้ว่าลุชชี่จะไม่ได้สนใจอะไรก็ตาม นี่อาจเป็นเพราะเนื่องจากความแตกต่างของพลัง ลุชชี่อาจจะไม่สนใจแต่จาบราก็ยังอยากที่จะแข่งขันอยู่และยังถูกทำให้โมโหเรื่องที่ลุชชี่และคาคุแข็งแกร่ง
      กว่าเขาทั้งคู่เลยเพราะก่อนที่กลุ่มของลุชชี่จะไปที่วอเตอร์เซเว่น คาคุยังอ่อนแอกว่าจาบรา และระดับของลุชชี่ก็ยังอยู่ใกล้ ๆ กับจาบราอยู่เท่านั้น จาบราอารมร์เสียง่ายมาก รวมกับความเชื่องมงายของเขา (เชื่อว่าข้างในผลปิศาจมีปิศาจอาศัยอยู่) และพยายามไม่ให้คาคุแข็งแกร่งขึ้น (ด้วยการกินผลปิศาจ) บุคลิกของเขาจะมาในแนวตลกอยู่บ่อย ๆ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×