ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [นิยายแปลจีน] Killing The Same Person Every Time

    ลำดับตอนที่ #9 : C. 2.2

    • อัปเดตล่าสุด 25 ส.ค. 62





    หลังจากไล่คนอื่นออกไปแล้ว ปู๋ไป่ก็นำซิงหยานกลับเข้ามาที่ห้องนอน เขาถอดเสื้อผ้าชั้นนอกออกก่อน เผยให้เห็นเพียงชุดชั้นในสีขาวบริสุทธิ์และกระดูกไหปลาร้าที่งดงามของเขา ปู๋ไป่หันไปมองซิงหยาน ผู้ซึ่งไม่ขยับแม้แต่เพียงนิ้วเดียวจากจุดเริ่มต้นและถาม “ซิงหยาน ทำไมเจ้าไม่ถอดเสื้อผ้า?”

     

    สีหน้าของซิงหยานนั้นดูมืดมนเป็นพิเศษ แต่ดูเหมือนว่าปู๋ไป่จะไม่รู้สึกอะไรเลย ในขณะที่เขาก้าวไปข้างหน้าแกะปมเสื้อผ้าชั้นนอกของอีกฝ่าย ปู๋ไป่ช่วยเขาถอดเสื้อผ้าทีละชิ้น สถานการณ์น่าวิตกกังวลเพียงใดนั้น คงขึ้นอยู่กับขอบเขตความใจร้อนของซิงหยาน

     

    เข็มเงินที่อยู่ระหว่างนิ้วของซิงหยานก็เริ่มแผ่กลิ่นอายความตายออกมาแล้ว เขาต้องการเพียงการเคลื่อนไหวเดียวเท่านั้น เขาก็สามารถจบชีวิตวิปริตนี้ได้ ซิงหยานลังเลเล็กน้อย ปรารถนาอย่างยิ่งที่จะเฝ้าดูการกระทำต่อไปของปู๋ไป่ เขาต้องการที่จะดูว่าคนผู้นี้ที่มีการเปลี่ยนแปลงมากมายในวันเดียวคงจะทำให้เขาประหลาดใจอีกครั้ง

     

    ตั้งแต่เริ่มต้น เจตนาของปู๋ไป่นั้นบริสุทธิ์และเปิดเผยอย่างแท้จริง เขาต้องการคนที่จะรับใช้เขาในห้องนอน และเขาก็รู้จักเพียงคนเดียวเท่านั้น นั่นคือซิงหยาน คนที่คุ้นเคยย่อมดีกว่าที่จะพูดคุยด้วย

     

    “ซิงหยาน” เมื่อพวกเขาทั้งสองคนอยู่ใต้ผ้าห่มและเฝ้ารอขั้นตอนต่อไป จู่ๆปู๋ไป่ก็หันหน้าไปทางชายหนุ่ม “ข้าไม่ต้องการให้ใครมารับใช้ข้าบนเตียง”

     

    หลังจากนั้น ในตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ซิงหยานต้องประหลาดใจ ยันศีรษะของเขาขึ้น เขามองลงไปที่ชายหนุ่มที่ดูเหมือนหนุ่มขี้อายและถาม “เพราะเหตุใด?”

     

    “ข้าชอบคนผู้หนึ่ง” เมื่อพูดถึงเกี่ยวกับคนที่เขารัก รูปร่างหน้าตาของชายหนุ่มก็ไม่แตกต่างจากหญิงสาวที่มีความรัก

     

    “มันคือหยานซู?” เมื่อเร็ว ๆนี้ มีเพียงคนผู้นี้เท่านั้นที่ได้รับใช้บิชอป ดังนั้นจึงไม่ยากนักที่ซิงหยานจะเดา

     

    "ใช่แล้ว" บิชอปตัวน้อยพยักหน้าของเขาเล็กน้อย

     

    “ถ้าอย่างนั้น แล้วทำไมท่านถึงขังเขาไว้ในห้องมืด? สถานที่แห่งนั้นสามารถทำให้ตายได้”

     

    ใบหน้าของปู๋ไป่เปลี่ยนเป็นสีขาวซีด การแสดงออกของเขาเผยให้เห็นความตกใจกลัวของเขา เขากำมือของซิงหยานไว้แน่น “ข้าไม่อาจยับยั้งความโกรธของข้าได้ ข้าไม่ได้ต้องการให้เขาไม่ชอบข้า ข้าไม่ได้ต้องการให้เขาตาย” เนื่องจากนี้เป็นครั้งแรกที่บิชอปตัวน้อยประกาศว่าสนใจใครบางคน เขาจึงแสดงความไร้เดียงสาของเขาโดยไม่คาดคิด นี่คือสิ่งที่ซิงหยานไม่เคยคาดการณ์ล่วงหน้ามาก่อน

     

    “ในวันพรุ่งนี้ข้าจะตรวจดูเขา ไม่ต้องกังวล” ซิงหยานตอบ ก่อนที่เกลี้ยกล่อมบิชอปตัวน้อยให้นอน

     

    การได้มองดูเขานอนหลับอย่างสงบ ซิงหยานก็อดไม่ได้ที่จะงุนงง เขาเป็นคนแบบไหนกันแน่? เขาเคยเป็นแบบนี้เสมอ? หรือว่าเขาเป็นแบบนี้เฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับคนผู้นั้น? แล้วทำไมตัวเขาเองถึงอยากรู้เรื่องพวกนี้กัน?

                                         

    “ในที่สุด ก็จัดการมันผ่านไปได้” ปู๋ไป่ถอนหายใจยาว

     

    “ตัวละครของคุณเกือบจะพังแล้ว” เหล่าต้าเคาะหัวของปู๋ไป่ แล้วกล่าว

     

    “ตราบใดที่มันไม่พังก็ไม่เป็นไรหรอก นอกจากนี้ฉันต้องการเหตุผลที่จะปกป้องตัวเอกชาย” ปู๋ไป่ตอบ

     

    เหล่าต้าก็ไม่คิดว่ามันร้ายแรงเกินไปเช่นกัน เขาโบกมือแล้วเตือน “ระวังอย่าทำลายโครงเรื่อง”

     

    "ฉันจะไม่ทำ" ปู๋ไป่ตบหน้าอกเล็กๆของเขา แล้วพูดอย่างมั่นใจ

     

    ความจริงได้พิสูจน์แล้ว: ธงไม่ได้ถูกสุ่มขึ้นมา...

     

    การนอนหลับของปู๋ไป่บอกตรงๆเลยว่าไม่เลว เตียงขนาดใหญ่และนุ่มของบิชอปสนองความต้องการของเขาได้อย่างแท้จริง แต่ว่ามันแย่มากที่เขาไม่เห็นซิงหยานเมื่อเขาตื่นขึ้นมา แม้ว่ามันจะเป็นเพียงแค่วันเดียว แต่มันก็ดูเหมือนว่าเขาจะคุ้นเคยกับคนรับใช้ผู้นี้ของเขาแล้ว และต้องการหาตัวของเขาโดยไม่รู้ตัว

     

    “ท่านอาจารย์ มีบางอย่างเกิดขึ้น” เสื้อผ้าของเขาถูกคลุมไปด้วยน้ำค้างยามเช้าอย่างสมบูรณ์ ดูเหมือนว่าซิงหยานจะลุกไปแต่เช้าตรู่เป็นอย่างมาก เขารีบเดินไปที่ปู๋ไป่และรายงาน “หยานซูกำลังจะตายแล้ว”

     

    เมื่อได้ยิน  ปู๋ไปก็รู้สึกตกตะลึง ตัวเอกชายกำลังจะตาย  เกิดอะไรขึ้นกับรัศมีตัวละครหลักของเขา?! อย่างไรก็ตาม ความเป็นจริงไม่อนุญาตให้เขางงงวยต่อไป ไม่แม้แต่จะคิดสวมรองเท้า ปู๋ไป่ก็ออกตัววิ่งไปที่ห้องมืด ซิงหยานตามติดเป็นเงาด้านอยู่หลังของปู๋ไป่ ตาจ้องมองขาคู่สีขาวที่อยู่บนพื้นอย่างแนวแน่ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมืดมิดที่ไม่อาจระบุได้

     

    สภาพของหยานซูไม่ดีจริงๆ หลังจากได้รับการรักษาอย่างนั้น เขาก็ถูกส่งไปยังสถานที่แห่งนี้ทันที ร่างกายของเขาได้รับความทุกข์ทรมานจากความหนาวเย็นและยังถูกโบยอย่างหนักเช่นนั้น บาดแผลที่เคยได้รับจากการรักษาด้วยยาครั้งก่อนก็อักเสบเช่นกัน แล้วไหนจะอาการบาดเจ็บบนร่างกายของเขาก็ดูค่อนข้างรุนแรง แม้ว่าปู๋ไป่จะเร่งรีบไป เลือดสีแดงยังคงไหลออกมาจากบาดแผล

     

    ปู๋ไป่รู้สึกเสียใจและไม่สบายใจมากยิ่งขึ้น เขาเพียงต้องการสอนบทเรียนนี้ให้กับคนผู้นี้ อย่างไรก็ตาม เขาไม่เคยคาดคิดว่าคนในปกครองของเขาจะมีข้อผิดพลาดในการทำความเข้าใจคำสั่งของเขา และเกือบจะอ้างสิทธิ์ในชีวิตของคนผู้นี้

     

    ด้วยความรอบคอบที่สุด ปู๋ไป่ยกตัวอีกคนขึ้นมาจากเตียงไม้และอุ้มเขาในสไตล์เจ้าหญิง เมื่อไม่ทราบความจริงเกี่ยวกับการที่คนผู้นั้นเต็มไปด้วยเลือด เขาก็รีบไปทางห้องนอนทันที

     

    ซิงหยานได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าเขาเป็นผู้ช่วยที่ดี ในพริบตา เขาก็เตรียมยารักษาบาดแผลพร้อมกับน้ำสะอาด ปู๋ไป่ไม่ได้เรียกให้คนอื่นมาช่วย เขาลงมือเช็ดเลือดของหยานซูด้วยตัวเองและทายาที่มีคุณภาพสูงลงบนบาดแผลให้กับเขา หลังจากนั้น ปู๋ไป่ก็ยืนอยู่ข้างๆ และเฝ้าดูหยานซูอย่างใจจดใจจ่อ

     

    "ท่านอาจารย์ รองเท้า" ในที่สุด ซิงหยานไม่สามารถทนได้และเปล่งเสียงออกมาเพื่อเตือนความทรงจำ

     

    มันเป็นเพียงช่วงเวลานี้ ในที่สุดปู๋ไป่ก็ตระหนักได้ถึงเท้าที่เปลือยเปล่าของเขา และก่อนที่เขาจะเคลื่อนไหว เขาก็ถูกอุ้มขึ้นมาโดยซิงหยานและถูกวางลงบนเก้าอี้ที่ด้านข้าง คนดังกล่าวย่อตัวของเขาลงแล้วจับข้อเท้าของปู๋ไป่ ความรู้สึกเย็นจัดและอ่อนนุ่มภายใต้มือของซิงหยานทำให้รูม่านตาของเขามืดดำลง ในขณะที่เขาเองชะลอการเคลื่อนไหวโดยไม่รู้ตัว

     

    เมื่อรองเท้าของเขาถูกสวม ปู๋ไป่ก็ลุกลี้ลุกลนไปหาหยานซูที่ไม่ได้สติอีกครั้ง และจ้องมองอีกคนอย่างเป็นกังวล

     

    อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริงคนแรกที่ล้มพับแท้จริงแล้วก็คือปู๋ไป่ ดูเหมือนว่าการที่เขารีบร้อนในตอนเช้าจะทำให้เขาเป็นหวัด การดูแลของเขาไม่สามารถทำต่อเนื่องต่อไปได้นาน ไม่ช้าเขาก็รู้สึกถึงความไม่มั่นคงอย่างฉับพลัน และหลังจากนั้น เขาก็อยู่ในความมืด

     

    เมื่อปู๋ไป่ตื่นขึ้นมา เขาก็พบว่าตัวเองนอนพิงกายในอ้อมแขนของซิงหยาน ปู๋ไป่ยังทำแม้กระทั่งลูบหัวของซิงหยานด้วยความรู้สึกค่อนข้างขอบคุณ เขาคิดกับตัวเองว่าคนในปกครองผู้นี้จงรักภักดีจริงๆ อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาอ้าปากสิ่งแรกที่เขาพูดคือ “หยานซูเป็นไงบ้าง?”

     

    “เขายังไม่รู้สึกตัว” ซิงหยานพูดเพียงเท่านั้น

     

    ความหดหู่ของปู๋ไป่พัฒนาขึ้นอย่างเด่นชัด

     

    “อาจารย์น่าจะไปพักก่อน” ซิงหยานแนะนำ ดวงตาดอกท้อคู่นั้นของเขาโค้งเล็กน้อย

     

    “แต่ว่า…” ปู๋ไป่จ้องมองไปที่ชายหนุ่มที่หมดสติอยู่บนเตียง

     

    “ข้าจะดูแลเขาให้เป็นการส่วนตัว” ซิงหยานยิ้มขณะที่เขาพูด การแสดงออกของเขาแปลกประหลาดมาก

     

    ความกังวลของปู๋ไป่ลดลงเล็กน้อย คนที่เขาไว้ใจมากที่สุดก็ไม่น่าจะมีใครเกินกว่าคนในปกครองผู้นี้ ที่อยู่เคียงข้างเขาเสมอมาตั้งแต่ต้น ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม คนผู้นี้ไม่เคยทำให้เขาผิดหวังมาก่อน

     

    ปู๋ไป่ถูกอุ้มออกจากห้องนอน เนื่องจากเขาชื่นชอบความรู้สึกที่ไม่ต้องการเคลื่อนไหว เขาจึงไม่ได้เตือนซิงหยานโดยเฉพาะเรื่องการวางเขาลง ภายในห้องนอนคือหยานซู ดังนั้นปู๋ไป่จึงมีทางเดียวเท่านั้นคือเลือกเฟ้นห้องพักที่ดีที่สุดที่จะเข้าพัก ปู๋ไป่จะพักร่างกายของเขาอย่างเต็มที่เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเผชิญหน้ากับตัวเอกชายในอนาคตอันใกล้

     

    เมื่อหยานชูตื่นขึ้นมาก็เป็นเวลาสองวันแล้วตั้งแต่ปู๋ไป่จากไป เมื่อเขาลืมตาขึ้น สิ่งแรกที่เขาเห็นคือซิงหยานผู้ซึ่งกำลังป้อนยาให้กับเขา เขาถาม “เจ้าเป็นคนที่ช่วยชีวิตข้า?”

     

    “อืมม” โดยไม่รู้ตัวซิงหยานพยักหน้า ในที่สุดเมื่อเขาตอบ คำโกหกก็ได้ถูกกล่าวออกไปแล้ว ด้วยความตกใจกับปรารถนาส่วนตัวของเขา มือของซิงหยานก็หยุดชะงักการป้อนยาให้กับอีกคน

     

    “ข้าจะทำเอง” หยานซูมองดูซิงหยานที่ตะลึงงัน แม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจ แต่เขาก็ไม่ได้อยู่กับมันมากเกินไป เขาหยิบถ้วยยาและดื่มมันด้วยตัวเอง

     

    “เนื่องจากเจ้ารู้สึกตัวแล้ว ข้าก็จะไม่อยู่ที่นี่อีกต่อไป อาหารและน้ำแกงจะถูกส่งให้เจ้า” ไม่แสดงความเห็นอกเห็นใจใดๆ ต่อหยานซูที่เพิ่งฟื้นสติขึ้นมา ซิงหยานก็ส่งมอบเขาให้กับคนรับใช้คนอื่นทันที

     

    หยานซูมองตามร่างของซิงหยานที่ก้าวเดินออกไป โดยยอมรับการกระทำอันมีเมตตาของเขาผู้นี้ไว้ในความทรงจำของเขา ความประทับใจของหยานซูเปลี่ยนไปจากความเกลียดชังเป็นคนดีที่ไม่แสดงออก นี่เป็นความเข้าใจผิดอย่างแท้จริงที่เกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ

     

    ซิงหยานไปหาปู๋ไป่ราวกับว่าอยากรู้อยากเห็นบางอย่าง เมื่อผลักประตูไม้เปิดออก เขาก็สามารถเห็นชายหนุ่มที่กำลังนอนพักอยู่บนเตียงด้วยการมองเพียงครั้งเดียว รอยยิ้มนั้นพุ่งเข้าหาเขาพร้อมกับคำถาม “หยานซูฟื้นขึ้นมาแล้ว?”

     

    ซิงหยานเคร่งขรึมขึ้นทันทีและกลับมาทำตัวอ่อนโยนตามปกติของเขาในขณะที่ตอบ “เขารู้สึกตัวแล้ว ท่านอาจารย์ต้องการจะไปพบเขาหรือไม่?”

     

    ดูเหมือนว่าชายหนุ่มจะก้มศีรษะลงเล็กน้อยก่อนที่เขาจะพูดกับซิงหยาน “พาข้าไป” เขายื่นมือทั้งสองออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยความเร่งรีบ ซิงหยานก็ไปข้างหน้าและอุ้มปู๋ไป่ขึ้นมา เหมือนว่าชายหนุ่มจะเบามาก การอุ้มเขาไม่ต้องใช้แรงอะไรเลย และเมื่อเขาขดตัวในอ้อมแขนของซิงหยาน เขาดูเหมือนลูกแมวขี้เซา

     

    ตลอดการเดินทาง ซิงหยานเงียบสนิท ขณะที่ปู๋ไป่เองก็ค่อนข้างไม่คุ้นเคยกับมัน เขาจึงควบคุมถ้อยคำที่ไม่เหมาะสมออกไป

     

    "ซิงหยาน ข้าได้ก่อเรื่องยุ่งยากให้กับเจ้าหลายวันมานี้”

     

    "ซิงหยาน เจ้ายังคงงดงามเหมือนเดิม"

     

    ซิงหยาน การอุ้มเจ้ามั่นคงจริงๆ"

     

    ราวกับเด็กที่ชอบส่งเสียงดังวุ่นวาย แต่ปู๋ไป่อดไม่ได้ที่จะพูดสิ่งที่อยู่ในใจของเขาต่อคนที่อยู่ใกล้ชิดเขา

     

    ซิงหยานยังคงเก็บรักษาท่าทางของเขาไว้อย่างสงบเสงี่ยม ตลอดการเดินทาง เขาไม่ตอบโต้ต่อคำพูดที่ไร้สาระเหล่านั้น หลังจากที่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับคนผู้นี้มานานมากทีเดียว เขาก็กลายมาเป็นคนใจกล้ามากขึ้น  มันราวกับว่าจิตใจของเขาเข้าใจแล้วว่าชายหนุ่มผู้นี้ ผู้ที่เผชิญหน้ากับเขาด้วยรอยยิ้มเสมอจะไม่ทำอะไรมากเกินไปเกี่ยวกับเขา

     

    หยานซูช่วงเวลาที่ชายหนุ่มเห็นคนที่อยู่ในสุดของหัวใจของเขา เขาก็รีบพุ่งไปทันที ดูราวกับว่าเด็กที่ร้อนรนใจในการอ้อนวอนขอรางวัล

     

    ในท้ายที่สุด หยานชูยังเด็กและไม่รู้วิธีปกปิดอารมณ์ของเขาให้ดี จึงดูเหมือนเขาผลักไสต่อการมีอยู่ของปู๋ไป่

     

    ความตื่นเต้นที่เต็มหัวใจของปู๋ไป่กระจัดกระจายไปสู่ความว่างเปล่า และความสุขบนใบหน้าของเขาก็จมหายไป ภายใต้การแสดงออกที่ดื้อด้านและน้ำเสียงแปรปรวน เขาเลื่อนมือเข้าไปข้างในเสื้อผ้าของหยานซูและพูดยุแหย่คนดังกล่าวตามอำเภอใจ แต่เมื่อได้เห็นภาพลักษณ์ที่อดทนอดกลั้นของอีกฝ่าย เขาก็ปล่อยเสียงอันมีเสน่ห์ออกมา ยิ่งกว่านั้นเขาก็หัวเราะโหดเหี้ยมออกมาด้วยเหมือนกัน “เจ้าไม่ต้องการให้ข้าแตะต้องเจ้า?”

     

    "ข้าไม่กล้า" หยานซูตอบด้วยเสียงที่สั่นเทา

     

    “เจ้าไม่กล้าหรือไม่เต็มใจ?” ดูเหมือนว่าบิชอปตัวน้อยจะโกรธเกรี้ยวจนถึงขนาดกัดริมฝีปากของหยานซูอย่างรุนแรง แม้ว่าคนที่อยู่ต่ำกว่าเขาจะดิ้นรนและหลบเลี่ยงอยู่ตลอดเวลา ปู๋ไป่ก็ไม่สนใจอะไรอย่างเด็ดขาด

     

    หยานซูรู้สึกว่ามีบางอย่างถูกส่งผ่านไปพร้อมกับการจูบของบิชอป มันมีร่องรอยของความหวานอย่างไรก็ตาม เขารับรู้ได้ดีว่าสิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งดีเหมือนเช่นรสชาติของมัน

     

    “ไม่!” ความร้อนแผดเผาพรั่งพรูออกมาจากส่วนลึกของหัวใจของหยานซู เขากระวนกระวายหาบางสิ่งบางอย่างที่จะขับไล่ความร้อนนี้ หยานซูโน้มตัวไปทางปู๋ไป่ ห่อหุ้มร่างกายของเขาทั้งหมดไว้รอบๆคนผู้นี้

     

    ขณะที่ด้านข้างซิงหยานก็รู้เห็นเป็นพยานทุกอย่าง เฝ้ามองชายหนุ่มที่เดิมทีสุภาพและอ่อนโยนเผยกรงเล็บและฟันของเขาแสดงด้านที่โหดร้ายของเขาออกมา

     

    ออกไป” ปู๋ไป่พูดกับซิงหยาน

     

    “เพราะอะไร?” เจ้าไม่เคยไล่ข้าออกไปก่อนเลย? แต่ตอนนี้เป็นเพราะเขา? ด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความโกรธ ซิงหยานมองอย่างเย็นชาไปที่หยานชูผู้ซึ่งตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก อย่างไรก็ตาม เขายังคงเข้าใจบทบาทของเขา ปัจจุบันเขาไม่มีคุณสมบัติใดๆและเขาก็ไม่ได้มีอำนาจที่จะปฏิเสธ

     

    ปู๋ไป่ตอบในใจของเขา เพราะฉันไม่มีนิสัยชอบทำเช่นนั้น ในขณะที่ถูกมองดู แต่ว่าบนผิวหน้าของเขายังคงนิ่งอย่างใจเย็น ขณะที่เขาดูซิงหยานถอยออกไปเงียบๆ

     

    เสี่ยวไป่ คุณต้องการจะทำอะไร?” เหล่าต้ารักษาความห่างเหินของเขาและสอบถาม ถึงแม้ว่าเขาเพิ่งจะเห็นปู๋ไป่อ่อนโยน แต่เสี่ยวเม้ง [1] เอาน้ำยาเสน่ห์ป้อนให้แก่ชายหนุ่ม เขาก็ยังคงสามารถควบคุมการแสดงออกที่สงบได้

     

    “รักษาตัวละครเอาไว้” บุบายตอบ พลางผลักหยานซูออกไปโดยไม่รู้ตัว “ฉันเป็นเฒ่าหัวงูที่วิปริต อุปสรรคนั้นจึงค่อนข้างหนักหนา ดังนั้นฉันอาจจะจดจ่อกับความรักที่วิปริต แต่ไร้ความสามารถต่อไป”

     

    ปากของเหล่าต้าที่คาบซิการ์ กระตุกเล็กน้อย “คุณไม่กลัวว่าตัวเอกชายจะเกลียดคุณ?”

     

    “เขาเกลียดฉันมากเกินพอแล้ว” ดังนั้น ปู๋ไป่จึงไม่กลัวความเกลียดที่จะมากขึ้น

     

     

     

    ******

     

    [1] Meng [萌] น่ารัก (คำสแลงที่ยืมมาจากญี่ปุ่น 萌え moe บรรยายความรักสำหรับตัวละครที่น่ารัก)

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×