คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : C. 2.3
ในความเป็นจริง ปู๋ไป่ไม่อาจจะลงมือทำการใดๆกับตัวเอกชายที่น่ารักในเวลานี้
ยิ่งเมื่อมองไปที่หยานซูที่นอนแผ่หลาอยู่บนเตียง ปู๋ไป่ก็รู้สึกว่ามันค่อนข้างน่าอาย
โชคดีที่เขาไม่ใช่ชายหนุ่มบริสุทธิ์ที่ไม่เคยทำสิ่งนี้มาก่อน
เขามีความสามารถอย่างมากในการถอดเสื้อผ้า หลังจากถอดเสื้อผ้าของหยานซูออก เขาก็เปลื้องผ้าตัวเอง
ประโยชน์เบื้องต้นของยานี้ไม่ใช่เพียงออกฤทธิ์กระตุ้นกำหนัดเท่านั้น
แต่ว่า...มันยังทำให้เกิดภาพหลอน มันจะสร้างภาพลวงตาเพื่อให้หยานซูเชื่อว่าเขากำลังทำสิ่งนั้นอยู่
อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ยังคงไม่เพียงพอ
ปู๋ไป่ขบฟันของเขา ก่อนที่จะก้มลงและสร้างรอยรักที่น่าสงสัยจำนวนมากบนผิวสีขาวราวกับหิมะของหยานซู
เพียงไม่นานจนกระทั่งมีพวกมันอยู่ทุกหนทุกแห่ง เขาถึงได้หยุด
ในขณะที่ปู๋ไป่เองก็รู้สึกว่าเขาไม่ได้คิดจริงจังต่อชายหนุ่มตัวน้อยผู้นี้
เขาก็อธิบายไม่ได้ว่าทำไมเขาถึงไม่สามารถรวบรวมความรู้สึกของตัญหาใดๆได้ ช่างน่าสมเพชจริงๆ
เขาล้มตัวลงนอนที่ด้านข้าง นอนตะแคง จนหลับไปในที่สุด
เมื่อตื่นขึ้นมา ปู๋ไป่ก็เห็นหยานซูซุกตัวอยู่ในมุมๆหนึ่งอย่างน่าเวทนา
ดวงตาของเขาคู่นั้นเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาโดยเฉพาะอย่างยิ่งยามเมื่อพวกมันจ้องมองกลับมา
ผิดกันกับร่างกายของเขาที่เต็มไปด้วยรอยแดง หากมีบางสิ่งที่สามารถวัดค่าความเกลียดชังได้จริง
ปู๋ไป่คิดว่ามันคงเต็มจนหมดเรียบร้อยแล้ว เขารู้สึกเศร้าจนอธิบายไม่ได้
"แท้จริงแล้ว ท่านต้องการอะไร!" หยานซูคำราม
‘ฉันต้องการให้คุณอยู่ในจุดที่สูงสุด
ชายหนุ่ม’ ปู๋ไป่กล่าวประชดอยู่ในใจของเขา
อย่างไรก็ตาม ใบหน้าแท้จริงของเขานั้นกับดูเหมือนกำลังเหยียดหยาม เขาก้าวไปหาหยานซู ผู้ที่ล้มเหลวในการพยายามหดตัวของเขาให้เล็กลงกว่าเดิม
ปู๋ไป่ลูบคลำหน้าอกของชายหนุ่มและจงใจพูดอย่างมีเลศนัย “ข้าชอบเจ้า”
กลับกลายเป็นว่าตัวของหยานซูสั่นเทารุนแรงยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ปู๋ไป่ไม่สามารถทนได้แน่นอนกับการที่เขาจะเห็นการแสดงออกที่ดูตกใจแบบนี้
เขาจูบลงบนริมฝีปากของหยานซูอย่างดุเดือด และเมื่อเห็นสภาพของอีกฝ่ายว่าไม่สามารถหายใจได้ทัน
เขาก็หัวเราะอย่างซุกซน “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ข้าจะวางหัวใจของข้าไว้ที่เจ้าเท่านั้น
ดีหรือไม่?”
ในเมื่อหยานซูไม่ตอบ ปู๋ไป่ก็จะถือว่าเป็นการยินยอมไปโดยปริยาย
เขาโอบกอดคนที่เปลือยกายผู้นั้นอย่างมีความสุข ใบหน้าของเขาแสดงถึงความพึงพอใจจนไม่อาจบรรยายได้
ในความเป็นจริง ซิงหยานนั้นรอคอยรับใช้อยู่ที่ด้านนอกประตูตลอดเวลา
ฟังเสียงร้องไห้ที่ไม่หยุดหย่อนของหยานซู พร้อมๆกับเสียงบีบคั้นที่คลุมเครือ
ราวกับว่าหัวใจของเขานั้นได้สูญเสียสิ่งที่สำคัญ ว่างเปล่าและโดดเดี่ยว มันดำมืดสนิท
นับตั้งแต่เมื่อแสงแดดร้อนแรงจนถึงเมื่อแสงจันทร์ลอยสูงขึ้นเต็มที่ เขายืนอยู่คนเดียว
ในขณะที่หยาดน้ำค้างรวมตัวกันเป็นชั้นๆจนหนาแน่นบนร่างกายของเขา นิ้วทั้งสิบของเขาก็เริ่มแข็งตัว
มันแค่ถึงเที่ยงคืนเท่านั้น เมื่อเสียงที่ทำให้เขาอยู่ในสภาพกระวนกระวายใจเงียบลงในท้ายที่สุด
ซิงหยานก็ขยับแขนที่แข็งๆของเขา ผลักดันประตูที่ปิดไว้อย่างแน่นหนาเบาๆ ก่อนที่เขาจะเดินเข้าไปในห้องนอนที่มืดสลัว
เมื่อปู๋ไป่กระทำเรื่องรักๆใคร่ๆ เขาไม่ชอบที่ให้มีใครอยู่ข้างๆเขา
แต่ทว่าซิงหยานนั้นได้รับการยกเว้นเสมอ อย่างไรก็ตาม ข้อยกเว้นนี้ ตอนนี้ก็เหมือนกับคนอื่น
ๆ
หลังจากเวลาผ่านไปสักพัก ใบหน้าของปู๋ไป่ก็ถูกย้อมด้วยสีที่สวยงามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ริมฝีปากของเขาบวมเล็กน้อย ราวกับว่าส่งคำเชิญชวนเงียบๆ ไปที่ซิงหยาน
มีคนสองคนอยู่บนเตียง แต่ดวงตาของซิงหยานจับจ้องเพียงคนเดียว
เขาดึงหยานซูออกห่างจากอกของปู๋ไป่อย่างหยาบคาย ก่อนที่เขากกกอดใครบางคนที่หลับสนิทราวกับว่าเขากำลังอ้างสิทธิ์ในอาณาเขต
และมุ่งตรงไปที่ริมฝีปากที่ดูเหมือนดอกเชอร์รี่ เขาเริ่มต้นจูบโดยใช้ลิ้นดุลกันในปากของเขาทั้งสอง
แรงของเขาไม่อาจถือได้ว่าอ่อนโยนและคนในอ้อมกอดของเขาเริ่มดิ้นรนอย่างไม่เชื่อฟัง
ราวกับว่าปู๋ไป่กำลังจะตื่นขึ้น อย่างไรก็ตาม ซิงหยานจะไม่ปล่อยให้ปู๋ไป่ได้ทำตามที่เขาต้องการอย่างง่ายดายนัก
ซิงหยานรู้สึกว่ามันยังไม่เพียงพอ สิ่งที่เขาต้องการไม่ใช่แค่สิ่งเหล่านี้เท่านั้น
เหมือนเช่นเดียวกันกับที่ปู๋ไป่ได้ทำกับหยานซู ซิงหยานก็ทำเช่นเดียวกันกับปู๋ไป่
ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวก็คือปู๋ไป่ใช้ยาเสน่ห์ ในขณะที่ซิงหยานนั้นเป็นเพียงตัวแทนที่ไร้ความสามารถ
ในที่สุดคนในอ้อมกอดของเขาก็หยุดการต่อต้านเขา
เมื่อมองไปที่ร่างของปู๋ไป่ที่เต็มไปด้วยรอยสีแดงคลุมเครือ ซิงหยานก็หัวเราะเยาะเย้ยและถอดเสื้อคลุมสีแดงเข้มของตัวเอง
เผยให้เห็นผิวที่เนียนนุ่ม เนื่องจากเขาทนไม่ไหว ทำไมถึงต้องการที่จะอดทน? ทำไมถึงไม่เป็นเขา?
‘เห็นได้ชัดว่าเป็นข้าที่ตกหลุมรักเจ้าก่อน คนที่อยู่เคียงข้างเจ้าก่อนก็เป็นข้าเช่นกัน
เขามีคุณสมบัติอะไรที่ฉกฉวยเจ้าไปจากข้า’
ราวกับการระบายอารมณ์ ซิงหยาบลบรอยสีแดงดั้งเดิมด้วยรอยของเขาเอง
เขาจูบริมฝีปากที่เย้ายวนใจนั้นอย่างโหดเหี้ยมและปล่อยเสียงบดขยี้ที่คลุมเครือออกมาเป็นครั้งคราว
แต่ทว่าคนผู้ที่อยู่ใต้ร่างเขา เขากับไม่อาจทำให้เขาผู้นั้นมีปฏิกิริยาโต้ตอบแม้เพียงอย่างเดียว
ซิงหยานไม่ได้ยินเสียงร้องหวานๆของปู๋ไป่ เขาไม่สามารถรู้สึกถึงความต้องการของปู๋ไป่ได้เลย
และไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ซิงหยานก็ไม่สามารถเก็บกดความอำมหิตภายในใจเขาได้ ‘จะต้องมีสักวันที่ข้าจะหักปีกของเจ้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และทำให้เจ้ามีความสุขอย่างแท้จริงแบบที่อยู่ภายใต้ร่างของข้า
และเป็นผู้ช่วยของข้า’
ซิงหยานจากไปก่อนที่ปู๋ไป่จะตื่นขึ้นมา
เขาต้องการเวลาในการจัดการกับร่างกายของเขาเอง พร้อมกับความรู้สึกที่หลั่งไหลออกมาจากภายในใจของเขา
และในขณะที่ปู๋ไป่นั้นตั้งอกตั้งใจกับดูแลหยานซูผู้เพิ่งที่หมดสติไปนั้น
เขาก็ไม่ได้ตระหนักถึงสิ่งที่แตกต่างจากร่างกายของเขาเอง ครั้นในที่สุดเขาก็สังเกตเห็น
การตอบสนองแรกของเขาคือ: เป็นไปได้ไหมว่ายานั้นแรงเกินไป? แม้แต่ยาแก้พิษก็ไม่สามารถกำจัดฤทธิ์ยาได้อย่างสมบูรณ์และหลังจากที่เขาเข้านอน
เขาได้กระทำกับตัวเอกชายที่น่ารักอีกครั้ง หากเป็นเช่นนั้นจริงๆเขาก็มีความผิด
แต่เมื่อปู๋ไป่เห็นว่าตัวเอกชายยังไม่สามารถดึงตัวเขาเองออกจากการหมกมุ่นอยู่กับความสิ้นหวัง
เขาก็แสดงให้สายตาที่จ้องเขม็งมาได้เห็นเหมือนกับว่า เขาเป็นพ่อที่รักลูกๆ “ข้าจะรับผิดชอบเจ้าอย่างแน่นอน”
ตลอดชีวิตของข้า’ แต่ฉับพลันนั้นเมื่อปู๋ไป่คิดได้ว่า
เขาต้องอยู่กับตัวเอกชายชั่วชีวิต อารมณ์ของปู๋ไป่ก็กลายเป็นเศร้ามากยิ่งขึ้น
เนื่องจากร่างกายของปู๋ไป่มีรอยมากมายหลายแห่ง จึงไม่มีทางที่เขาจะจัดระเบียบตัวเองได้ทันที
ปู๋ไป่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง
ก่อนที่จะตัดสินใจสวมใส่เสื้อผ้าของเขาก่อนเป็นอันดับแรก แต่แล้วเมื่อมองไปยังที่ที่เขาวางไว้
แรกเริ่มเดิมที เสื้อผ้าที่ควรวางบนเตียงนั้นก็หายไป
ในขณะที่เขาสับสน ร่างกายของเขาถูกสัมผัสด้วยมือที่อบอุ่น
เมื่อหันไป เขาก็ได้พบกับสายตาของซิงหยานซึ่งยังคงสงบนิ่งแผ่ไอน้ำร้อนออกมา
เห็นได้ชัดว่าเขาเพิ่งอาบน้ำ โดยไม่รู้ตัวเลยว่าซิงหยาน เทวดาน้อยผู้นี้มีชอบในความสะอาด
“ท่านอาจารย์ ข้ามาช่วยท่านใส่เสื้อผ้า”
การแสดงออกของซิงหยานนั้นเป็นที่น่าเคารพนับถือมาก แต่อย่างไรก็ตาม
ด้วยใจจริงปู๋ไป่กลับได้ยินว่า ‘ข้ามาช่วยท่านถอดเสื้อผ้า’ ความรู้สึกคลุมเครือนี้ อย่างที่คาดคิดไว้ เขายังคงค่อนข้างงุนงงจากการนอนหลับของเขา
ยังไม่เป็นที่ทราบว่าซิงหยานพบเสื้อผ้าเหล่านี้ได้อย่างไร
เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ปู๋ไป่ได้รับการยืนยันความสามารถในการทำงานของซิงหยาน นิ้วของซิงหยานนั้นสวยงามมากและการรอให้คนผู้นี้ใส่เสื้อผ้าให้นั้นปู๋ไป่ก็รู้สึกพึงพอใจมากอย่างยิ่ง
ในขณะที่เขาเพลิดเพลินไปกับมันอย่างเต็มที่ เขาก็ค่อยๆหันสายตาของเขาไปทางหยานซู ปู๋ไป่รู้สึกว่าตัวอักษรที่ปรากฏขึ้นภายในดวงตาที่สดใสและเปล่งประกายของคนผู้นั้น
คือคำขนาดใหญ่ว่า 'หลอกลวง' ทำให้หวนนึกถึงซิงหยานและฐานะของเขา
ดูเหมือนว่าตอนนี้เขาจะเป็นเช่นเดียวกันกับบิชอปผู้วิปริตที่กำลังเพลิดเพลินกับชายหนุ่ม
ปู๋ไป่ถอยตัวออกห่างจากซิงหยาน ตอนนี้เขามีชายหนุ่มที่เขาวางไว้ในใจของเขาแล้ว
เขาไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ขณะที่เขาเองไม่รู้จะทำอย่างไรเพื่อให้มือของเขาสะอาด
เมื่อรับรู้การหมางเมินจากปู๋ไป่ ใบหน้าของซิงหยานก็ยิ่งเข้มขึ้น
คนผู้นี้ชอบที่จะท้าทายขีด จำกัด ของเขาเสมอ ปู๋ไป่มองไปที่หยานซูอย่างอ่อนโยน
กึ่งเด็ดเดี่ยวและกึ่งแทะโลมในขณะที่เขาดึงผ้าห่มออกจากตัวหยานซู นิ้วเรียวยาวสัมผัสเบาๆไปตามร่างกายของหยานซูในขณะที่เขาช่วยคนดังกล่าวสวมใส่เสื้อผ้าแต่ละชิ้น แสดงให้เห็นถึงความพิถีพิถันและอ่อนโยน
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเจ้าเป็นของข้า ข้าจะดูแลเจ้า”
ปู๋ไป่ดึงนิ้วของหยานซูมาจนสุดและเหนี่ยวรั้งมันไว้ในปากของเขา บนใบหน้าเล็กๆ นั้นไม่ได้ถูกลดเกียรติลงอย่างสมบูรณ์มันยังคงรักษาไว้ซึ่งลักษณะอันงดงามอย่างแท้จริง
“ถ้าข้าทำอะไรให้เจ้าผิดหวังในอนาคต เจ้าสามารถลงโทษข้าได้ตามที่เจ้าต้องการ”
“ข้าไม่กล้า” หยานซูไม่เชื่อว่าคนผู้นี้จะมีความรู้สึกที่แท้จริง
เขาเป็นนิรันดร์ด้วยภาพลักษณ์ที่มีเสน่ห์ดึงดูด และถึงแม้ว่าหยานซูจะไม่รู้แน่ว่ามีคนกี่คนที่หลงใหลในภาพลักษณ์ของเขา
แต่ก็ไม่มีใครเลยสักคนที่เขาจะสนใจอย่างแท้จริง หยานซูเห็นชะตากรรมที่เลวร้ายของคนเหล่านั้นหลายครั้งเกินไป
ดังนั้น เขาจะไม่เดินตามรอยเท้าของพวกเขา
บิชอปตัวน้อยดูเหมือนจะค่อนข้างหดหู่ใจ
ม่านตาใสคู่นั้นเต็มไปด้วยความอ้างว้าง เมื่อตอนที่เขามองเข้าไปในดวงตาของหยานซู
และเห็นความเศร้าโศกที่กลืนกินหยานชู
“อย่าเป็นแบบนี้” หยานซูพูด พร้อมทั้งเคลื่อนย้ายการมองเห็นของเขาออกไปจากบิชอปตัวน้อยให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
และพักไปดูสถานที่อื่น
“ซูซูเป็นห่วงข้า?” วินาทีที่รอยยิ้มอันโชติช่วงของปู๋ไป่ก่อตัวขึ้น
มันเหมือนกับว่ารัศมีของฤดูใบไม้ผลิในเดือนที่สามของปีจันทรคติปรากฏขึ้น
หยานซูพูดไม่ออก เขาสามารถเก็บรักษาใบหน้าที่เย็นชาในเรื่องที่เกี่ยวกับบิชอปตัวน้อยผู้โหดเหี้ยมได้
อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่รู้ว่าวิธีจัดการกับสิ่งมีชีวิตที่ดูบริสุทธิ์เหมือนเด็กๆ
นี้อย่างไร ความรักนี้ช่างบริสุทธิ์จนจนน่าประหลาดใจ จนเป็นสาเหตุให้เขาต้องสูญเสีย
ในสายตาของปู๋ไป่ มันเป็น ‘หวั่นไหว แต่ขณะเดียวกันก็ไม่อาจยอมรับ’ ภาพลักษณะโหดร้ายแม้ว่าภายหลังจะเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนนี้ โดยสัมผัสนี้
ปู๋ไป่จูบหยานซู ปากของเขาพูดพึมพำอย่างไม่หยุดหย่อน "ซูซู...ซูซูของข้า" หยานซูจิกนิ้วมือเข้าไปในเนื้อของเขาเอง
และเกือบจะต่อต้านการเหย้าแหย่โดยการผลักคนที่อยู่ด้านบนของเขาออกไป ทว่า เขาไม่สามารถปฏิเสธคนผู้นี้ได้อย่างน้อยตอนนี้เขาก็ทำไม่ได้
ปู๋ไป่ไม่เคยประคบประหงมผู้ใดเลยในอดีตที่ผ่านมา
ใครจะรู้ว่าในช่วงเวลาสั้นๆนี้ จู่ๆเขาจะหลงใหลในตัวใครบางคนอย่างบ้าคลั่งเช่นนี้ สมาชิกในนิกายลัทธิได้เฝ้าดูบิชอปตัวน้อยซึ่งโดยปกติผู้เป็นผู้นำจะใช้ชีวิตที่ถูกตามใจ
กลับมาเรียนรู้วิธีที่จะรอใครสักคนเพื่อคนคนเดียว ทั้งวัน...เขาจะกุลีกุจอเพียงเพื่อได้เห็นใบหน้าที่ยิ้มแย้มของคนผู้นั้น
หรือแม้กระทั่งเพื่อให้ได้รับคำชมจากเขา มันถึงขนาดอยู่ในระดับที่เขาไม่ได้อยู่ในห้องนอนของเขาเองอีกต่อไป
เขาย้ายเข้ามาในห้องรับแขกที่ใกล้ที่สุดด้วยตนเอง ทิ้งความหรูหราทั้งหมดไว้เพียงเพื่อคนผู้นั้น
เหตุผลง่ายๆก็เพียงเพราะว่าคนผู้นั้นอาจไม่ชอบเขาเป็นอย่างมาก
สมาชิกในนิกายลัทธิรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้อง
อย่างไรก็ตาม แม้กระทั่งซิงหยานซึ่งอยู่ใกล้กับบิชอปก็ยังคงนิ่งเงียบ คงจะดีกว่าถ้าหากพวกเขาไม่แสดงความคิดเห็นมากเกินไป
ด้วยท่าทีเช่นนั้นสถานการณ์นี้ดำเนินต่อเนื่องไปอีกสองสามเดือน และในท้ายที่สุดก็มีบางคนที่ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป
คนผู้นั้นขวางทางเดินของปู๋ไป่ผู้ซึ่งอยู่ระหว่างกลางเส้นทางการไปเอาน้ำชามามอบให้หยานซู “ท่านบิชอป คนในปกครองผู้นี้มีบางสิ่งที่เขาต้องการจะพูด
แต่ไม่รู้ว่าเขาควรจะพูดหรือไม่ หยานซูผู้นี้เป็นเพียงชายเก็บ*(ใช้ในแบบเดียวกับ
เมียน้อย เมียเก็บ หรือเมียลับ) ที่คอยปรนนิบัติท่านอยู่ในลัทธิเท่านั้น ดังนั้นเขาไม่คู่ควรกับความเมตตาแบบนี้จากท่าน”
ปู๋ไป่หยุดการก้าวย่างของเขา เขาจ้องไปที่ชายที่กำลังพูดผู้นั้นอย่างเย็นชา
และพูด "เขาไม่ได้เป็นชายเก็บ เขาเป็นคนรักของข้า ข้าหวังว่าเจ้าจะจำสิ่งนี้ได้ในอนาคต
ไม่เช่นนั้น ข้าก็ไม่อาจจะรับประกันได้ว่าข้าจะไม่ทำอะไรเพื่อเตือนเจ้า” ต่อหน้าคนในปกครอง
ปู๋ไป่ยังคงความวิปริตกระหายเลือด มันเป็นเพียงช่วงเวลาที่อยู่ต่อหน้าคนที่นั่งอยู่บนจุดสูงสุดของหัวใจของเขาเท่านั้นที่เขาเก็บกรงเล็บและฟันของเขา
เพื่อแสดงให้เห็นถึงตัวตนที่อบอุ่นและไม่เป็นภัย
หลังจากที่ปู๋ไป่ได้จากไปแล้ว ในที่สุดคนในปกครองผู้นั้นก็ไม่สามารถฝืนทนได้อีกต่อไป
ร่างของเขาทรุดตัวลงนั่งคุกเข่า รอยกรีดนิ้วแนวยาวจางๆก่อตัวขึ้นบนข้อมือของเขาโดยไม่รู้ตัว
ถ้าหากมันลึกลงไปกว่านี้ ชีวิตของเขาก็คงจะถูกยึดไป
ตั้งแต่วันนั้นมา ก็ไม่มีผู้ใดกล้าไปบอกว่าหยานซูไม่ดี...ต่อหน้าปู๋ไป่
หยานซูก็ดูเหมือนจะเชื่อฟังเป็นพิเศษ
ตราบใดที่ไม่ใช่เรื่องที่เหนือกว่าการสัมผัสเกี่ยวกับการสังวาส เขาก็ยังสามารถทำหน้าที่ของเขาในฐานะที่เป็นชายเก็บไว้ได้ดีทีเดียว
ในขณะเดียวกันเขาก็ต้องฝืนทนกับการกบฏของปู๋ไป่อยู่บ่อยๆ อย่างไรก็ตาม บิชอปที่ไม่ทานเนื้อสัตว์ย่อมเป็นบิชอปที่ดีไม่ได้
ในช่วงเวลาเหล่านั้น ปู๋ไป่จะใช้ประโยชน์จากหยานซูและจับตามองเขาไว้ไม่ให้เขารู้ตัวตัวในการแอบใส่ยา
ก่อนที่จะกลืนกินร่างกายของเขา ทุกครั้งที่ปู๋ไป่ตื่นขึ้น เขาจะสามารถรู้สึกได้ถึงความเกลียดชังอย่างรุนแรงที่ชัดเจนมุ่งตรงมาที่เขาจากคนที่ร่วมเตียงเดียวกันกับเขา
อย่างไรก็ตาม ปู๋ไป่มักจะแสร้งทำเป็นว่าเขาไม่รู้ตัวอยู่เสมอ
และยังคงปฏิบัติต่อหยานซูเช่นเดียวกันกับเมื่อก่อน ความเกลียดชังของหยานซูที่มีต่อเขานั้นอาจกล่าวได้ว่าเป็นเหมือนยาพิษเพราะมันกัดกร่อนไปที่สติปัญญาของเขาอย่างไม่หยุดหย่อน
กระตุ้นความเจ็บปวดสุดขีดภายในตัวเขา ปู๋ไป่ก็ยังไม่รู้ด้วยว่าเขาจะสามารถรักษาภาพลักษณ์อันสงบสุขนี้ได้นานแค่ไหน
ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น ซิงหยานก็มีการวางแผนและเตรียมพร้อมสำหรับการหลบหนีของเขาอยู่เสมอ
เขาไม่รู้ว่าจะทนอยู่กับอีกฝ่ายได้นานแค่ไหน นับตั้งแต่ปู๋ไป่ได้ตัวหยานชูผู้นั้นมา
เขาก็ไม่เป็นที่ต้องการ ให้เป็นเพื่อน ของปู๋ไป่อีก ทั้งหัวใจและดวงตาของปู๋ไป่ถูกส่งตรงไปที่ชายอื่นมันเป็นเพียงเวลาที่เขายุ่งวุ่นวายเท่านั้นที่เขาจะมีโอกาสสงบลงได้
และหลังจากที่สงบลง เขาจะวางแผนอนาคตของพวกเขา ไม่เช่นนั้น เขาก็ไม่รู้ว่าเขาอาจจะทำเรื่องไร้เหตุผลเช่นทำให้พวกเขาพินาศไปพร้อมกัน
ความคิดเห็น