`SF - JACKBAM - `SF - JACKBAM นิยาย `SF - JACKBAM : Dek-D.com - Writer

    `SF - JACKBAM

    เก็บชอร์ตฟิคเท่าที่จะคิดได้

    ผู้เข้าชมรวม

    1,535

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    1.53K

    ความคิดเห็น


    19

    คนติดตาม


    29
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  1 ม.ค. 58 / 21:13 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    only JACKBAM






    #เดี๋ยวว่างมาแต่งเพิ่ม
    @_nxwday
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

                    FAR AWAY





                   ในวันที่อากาศของเกาหลีเริ่มเข้าสู่ช่วงหน้าหนาว มีใครบางคนกำลังโดนอากาศหนาวๆชักพาอารมณ์และความรู้สึกให้กระจัดกระจายไปไกล คนตัวเล็กตื่นขึ้นมาในช่วงเที่ยง มองไปรอบๆ ไม่มีใครอยู่ในห้อง คิม ยูคยอมไม่อยู่...

       

                  คนที่เคยอยู่ข้างกายก็ไม่อยู่..

       

                  มือเรียวคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาเช็คอย่างที่เคยทำเป็นประจำ มีแจ้งเตือนจากยูคยอมที่บอกว่าจะออกไปข้างนอกและของคนอื่นอีกประปราย

       

      แต่คนที่รอทั้งคืนกลับไม่มีแม้แต่ข้อความเดียว

       

      แจ็คสันฮยอง วันนี้จะกลับหอไหมคนตัวเล็กส่งไลน์ไปถามอีกครั้ง แม้ว่าข้อความเดิมแจ็คสันจะทำเพียงแค่อ่านแต่ไม่คิดจะตอบมันก็เถอะ

       

      แล้วก็ทำเพียงแค่อ่าน..

       

      แบมแบมชินแล้วล่ะ ฮยองของเขาเป็นแบบนี้มาสักพักแล้ว แบมแบมเองก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงให้ทุกอย่างมันดีเหมือนตอนแรกๆ บางทีก็เหนื่อยกัวใจอยู่เหมือนกัน..

       

       คนตัวเล็กทำใจและเลิกฟุ้งซ่าน กดเข้าแอพพลิเคชั่นประตัวอย่างอินสตาแกรมเพื่อเช็คความเป็นไปของโลกภายนอก แบมแบม มักจะสอดส่องอยู่เสมอว่ามีแฟนๆแท็กรูปไหนมาให้ดูบ้าง หากรูปไหนที่คนตัวเล็กชอบเจ้าตัวก็จะแจกใจให้ เป็นแบบนี้มาตลอด แบมแบมมีความสุขที่เห็นแฟนๆส่งรูปมาให้ดู แฟนๆเองก็คงมีความสุขที่แบมแบมกดไลค์ให้ เขาเชื่ออย่างนั้น

       

       

                  บางทีมีแฟนคลับนินทาอะไรเขาจะได้รู้ด้วย ฮ่ะๆๆ

       

                 

                  วันนี้ มีแต่รูปแจ็คสันฮยองในรายการรูมเมทอยู่เต็มไปหมดเลย.. นี่มันไอจีเขาหรืไอจีแจ็คสันฮยองกันแน่ รอยยิ้มเล็กๆถูกจุดขึ้นจากริมฝีปากอิ่ม รูปแจ็คสันฮยองวันนี้ตลกจัง ไม่ค่อยมีรูปตัวเองเท่าไหร่คนตัวเล็กเลยกลับไปที่หน้าโปรไฟล์อีกครั้งเพื่อจะเช็คดูคอมเมนท์

       

                  “อ่าว...” นี่มันไอจีของแจ็คสันฮยองจริงๆด้วย.. อาจจะเป็นเพราะเล่นสลับกันไปมา บางทีตอนนี้แอคเคาท์ของแบมแบมอาจจะเข้าค้างไว้ในเครื่องของร่างหนาก็เป็นได้

       

                  เมื่อนึกขึ้นได้ว่าวันนี้มีรายการของฮยองคนสนิทร่างบางที่ว่างอยู่เลยหาลิงก์ดูรายการทันที ถึงแม้จะไม่ชอบรายการนี้จนเข้าขั้นเกลียดแต่เขาก็อยากดู แปลกจริงๆ ทั้งที่ดูแล้วไม่สบายใจ ดูแล้วเสียความรู้สึก ดูแล้วไม่อยากให้แจ็คสันไปออกอีก แต่ก็ยังอยากที่จะดู.. ดูว่าแจ็คสันฮยองจะเอาการกระทำที่เคยทำกับแบมแบมไปทำกับนูน่าคนอื่นถึงเมื่อไหร่..

       

                  “อ่า..” แบมแบมไม่ชอบรายการนี้จริงๆนะ คนตัวเล็กเก็บไอแพดไว้อย่างเดิมแล้วเอาหน้าซุกหมอนข้าง สูดดมเอากลิ่นกายที่คุ้นเคย เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เจ้าของกลิ่นนี้จะกลับมาอีก

       

                  คิดถึงจังเลย..

       

      จะโทรไปก็กลัวเป็นการรบกวน..

       

      หากอีกคนคิดถึงก็คงโทรมาเอง.. แล้วนี่ไม่ได้คุยกันทางโทรศัพท์มานานเท่าไหร่แล้วนะ..

       

       

                  ตื๊อดึง!

       

                  เสียงแจ้งเตือนเรียกให้แบมแบมเงยหน้าขึ้นมาดู พอเห็นว่าเป็นแจ้งเตือนจากคนที่กำลังคิดถึงก็ทำเอาหัวใจเต้นแรงอย่างห้ามไม่ได้

       

       

                  คืนนี้ไม่กลับนะไม่ต้องรอ

       

                ‘ทำไมล่ะฮะ ไม่คิดถึงแบมเหรอ?ร่างเล็กพิมพ์ตอบกลับอย่างรวดเร็ว

       

                        ติดถ่ายรายการ

       

                ‘พรุ่งนี้ล่ะฮะ?

       

                ‘ไม่รู้ คิดดูก่อนอืม...

       

                  ถ้าที่นั่นแอร์เสียให้รีบกลับมาเลยนะฮะ ฮ่าๆแบมแบมแกล้งแซวทั้งที่ในใจรู้สึกอยากร้องไห้จนบอกไม่ถูก

       

                ‘ที่นี่สบายดี

       

                ‘ไปก่อนนะซันนี่เรียก เดี๋ยวว่างจะมาตอบ ไม่ต้องรัวมาก่อนล่ะเข้าใจไหม เดี๋ยวมีคนมาเปิดดู

       

                ‘ฮะก็ไม่รู้ว่าควรจะตอบว่าอะไรแล้ว...

       

                 

                  มือเล็กยกขึ้นมาปาดน้ำตาที่คลอเบ้าอยู่ทิ้งออกไปเหนื่อยๆ ทำไมทุกอย่างมันแย่ไปหมดแบบนี้



                                                      

       

                 

                ยิ่งผมวิ่งตามคุณเท่าไหร่ คุณยิ่งไกลออกไปเท่านั้น เวลาที่ผมวิ่งตามคุณผมทำไม่ได้แม้กระทั่งหยุดพัก แม้ผมจะเหนื่อยแค่ไหนก็หยุดไม่ได้ มีคนบอกผมว่าให้ลองหยุด จะได้รู้ว่าเขาจะหันกลับมามองหรือเปล่า.. ไม่มีประโยชน์หรอก ขนาดผมคิด ผมคาดหวัง มันยิ่งห่างไกล ยิ่งไขว่คว้า ยิ่งตามหา ยิ่งไม่เจอความรักที่เคยมี.. แล้วถ้าผมอยู่เฉยๆ ผมจะได้อะไร...
























       

      talk ;;
      เออ ไม่มีไรมากหรอก เราหน่วง คิดถึงแจ็คแบมเนาะ T_T
      ยิ่งแต่งไรหน่วงๆไม่เป็น บ้าบอ
      ถึงวันนี้มีรูปหน้าตึกแต่ก็มโนเอาละกันเนาะว่าแจ็คมันไม่กลับ ;-;
      #JackBamFarAway แท็กในทวิตอันนี้ สั้นไปหน่อย ไว้เดี๋ยวหน่วงมาแต่งอีก..














































































      Happy New Year


       

      หนาวเหลือเกิน ตอนนี้หิมะกำลังตก เท้าเล็กเหยียบย่ำหิมะฝ่าราตรีออกไปตามคำสั่งของพ่อเลี้ยงขี้เมา วันนี้เป็นวันสิ้นปี ไฟหลากสีถูกประดับประดาขึ้นเต็มถนน ผู้คนเดินขวักไขว่กันเต็มไปหมดเพื่อออกมาจับจ่ายซื้อของขวัญ บ้างก็ออกมาเพื่อนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่ หลายคนเตรียมเริ่มต้นวันใหม่ของปีด้วยความสุข  ผู้คนบนท้องถนนมีใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่หนาจนเด็กน้อยรู้สึกอิจฉา แบมแบม มองดูเสื้อผ้าที่สกปรกและขาดวิ่นของตัวเองพลางถอนหายใจออกมา ด้วยอากาศที่หนาวเย็นบวกกับเสื้อผ้าที่ไม่ได้ให้อบอุ่นสักเท่าไหร่ทำให้กายเล็กสั่นเทา จมูกและใบหูแดง แต่ก็นั่นแหละ เขาต้องขายไม้ขีดไฟให้ได้ตามที่พ่อเลี้ยงขี้เมาสั่ง หากขายไม่ได้ละก็.. ต้องโดนลงโทษแน่ๆ ริมฝีปากอิ่มเม้มเข้าหากันจนเป็นเส้นตรง กัดฟันเดินไปทำหน้าที่ของตัวเอง

       

      “มีใครต้องการไม้ขีดไฟไหมครับ” เสียงใสร้องถามผู้ที่ผ่านไปมา หญิงวัยกลางคนมองอย่างเวทนาแต่ก็ส่ายหน้าให้พร้อมกับเดินจากไป นั่นเพราะไม่ได้มีคนทำอาชีพนี้เพียงคนเดียว บรรดาเด็กขอทานต่างก็เดินขวักไขว่ หากเธอช่วยเด็กคนนี้แน่นนอนว่าอีกหลายคนก็ต้องการความช่วยเหลือเช่นกัน

       

      “คุณลุงครับ ช่วยเมตตาผม ซื้อไม้ขีดไฟหน่อยสิครับ” แบมแบมเอ่ยขอร้องครอบครัวนึงที่ดูแล้วน่าจะใจดีไม่น้อย อาจจะพอช่วยเขาได้บ้าง

       

      “ไม้ขีดไฟที่บ้านลุงมีอยู่เยอะแยะ ใช้ถึงปีหน้าก็ไม่หมดหรอก” เด็กน้อยได้ฟังอย่างนั้นก็รู้สึกหมดเรี่ยวแรง แล้วแบบนี้เขาจะขายได้อย่างไรกัน มือเล็กกำไม้ขีดไฟในมือแน่น กัดริมฝีปากตัวเองไว้เพื่อไม่ให้เผลอเบะปากออกมาแม้น้ำตาจะคลอเบ้า

       

      แบมแบมเดินหนาวสั่นออกมาอยู่ในที่ที่ผู้คนเบาบาง ทิ้งตัวลงบนม้านั่งข้างสะพาน เกล็ดหิมะเกราะกรังอยู่บนผมสีบลอนด์ของเขา แน่นอนว่าเด็กหนุ่มไม่ได้แยแสกับสารร่างของตัวเองเลยแม้แต่นิดเดียว

       

      ยังไม่ได้กินอะไรเลย

       

      เด็กน้อยคิดกับตัวเอง แบมแบมไม่ได้เรียนหนังสือเหมือนเด็กคนอื่น ตั้งแต่แม่ตายไปเขาก็ไม่ได้ชีวิตอย่างเด็กทั่วไป ต้องคอยหาเงินเพื่อให้พ่อเอาไปซื้อเหล้า ไม่วิธีใดก็วิธีหนึ่ง หากวันไหนกลับบ้านโดยที่ไม่มีเงินเขาจะโดนทุบตีเหมือนไม่ใช่ลูก.. ใช่สิ เขาไม่ใช่ลูก แต่มันก็ไม่มีทางเลือกอื่น แบมแบมจำต้องอดมื้อ กินมื้อ มีบ้างที่คุณบ้าข้างบ้านเอากับข้าวที่เหลือมาแบ่งให้แต่ก็ไม่บ่อยนัก

       

      ใครมันจะมาซื้อไม้ขีดไฟกันล่ะ

       

      แบมแบมมีทางเลือกสองทางคือหนึ่ง กลับบ้านตัวเปล่าแล้วยอมให้พ่อเลี้ยงลงมือตบตีซะ เขาพอใจก็คงหยุดเอง และสองเดินหน้าขายไม้ขีดไฟท่ามกลางความหนาวเหน็บต่อจนกว่าจะได้เงิน..

       

      ร่างบางยันกายลุกขึ้น สูดหายใจเข้าเต็มปอด กำลังจะก้าวขาเดินหากแต่มีกลุมวัยรุ่นวิ่งมาชนแบมแบมล้มลงไปกองกับพื้นหิมะซะก่อน พวกนั้นวิ่งจากไปอย่างไม่สนใจใยดีแบมแบมแม้แต่น้อย ด้วยความที่โดนกระแทกแรงทำให้รองเท้าขาดๆที่เกินขนาดเท้าของเด็กน้อยอยู่แล้วกระเด็นตกลงแม่น้ำไปหนึ่งข้าง บ่อน้ำตาของคนตัวเล็กแตกพลั่กทันที นั่นมันรองเท้าของแม่.. ถึงมันจะเก่าแค่ไหนแต่มันก็เป็นของแม่ มันเป็นสิ่งเดียวที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของเขาไว้

       

      ร่างเล็กซบหน้าลงกับม้านั่งแล้วร้องไห้ออกมาอย่างหนัก ความเย็นแผ่ซ่านไปทั่วร่างบางอย่างรวดเร็ว ความเย็นจัดจากหิมะกัดเท้าเล็กจนแดง แต่พอนึกได้ว่าต้องขายไม้ขีดไฟก็จำได้หยัดกายลุกขึ้นเหยียบย่ำได้ตามหิมะ แบมแบมเดินเซเพราะความหิว เขาแทบจะไม่มีแรงเดินด้วยซ้ำ ตอนนี้หิมะแทบจะปลกคลุมตัวเขาอยู่แล้ว

       

      “ช่วย.. ซื้อไม้ขีดไฟหน่อยครับ” แบมแบมไม่ได้อยากทำตัวน่าสงสาร แต่เพราะเหตุการณ์ทุกอย่างในชีวิตมันทำให้เด็กตัวเล็กๆคนนึงรับอะไรแบบนี้ไม่ไหวอีกแล้ว แบมแบมร้องขอพลางสะอื้นไปด้วยน้ำตา

       

      “คุณครับ” มือหนายื่นเข้าพยุงร่างเล็กที่ดูเหมือนกำลังจะลงไปกองกับพื้น

       

      “คุณครับ คุณ” ชายหนุ่มตบแก้มอีกคนเบาเบาเพื่อเรียกสติ แต่ตอนนี้สติของเด็กน้อยไม่ได้อยู่กับเนื้อกับตัวเล็ก มือเล็กคลายออกจนไม้ขีดไฟร่วงหล่นสู่พื้น น้ำหนักตัวทั้งหมดโถมลงที่ตัวร่างหนาจนเขาต้องอุ้มขึ้นมา

       

      ถึงจะไม่ชอบยุ่งกับคนแปลกหน้าแต่ดูจากการแต่งตัวแล้วคงไม่มีพิษมีภัยอะไร อย่างน้อยก็ถือว่าได้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่เขาด้อยกว่าเราก็แล้วกัน

       

      แจ็คสันอุ้มแบมแบมขึ้นเสมออกแล้วพาไปนั่งพิงรถของตัวเอง ชายหนุ่มถอดเสื้อขาดวิ่นที่เปียกไปด้วยหิมะของแบมแบมออก เผยให้เห็นผิวขาวแต่กลับบอบช้ำไปทั้งร่างเหมือนถูกใครทำร้ายร่างกายบ่อยๆ บางจุดก็ยังแดงๆ บางจุดก็มีแผลเป็น แจ็คสันนึกสงสารจับใจก่อนจะเสื้อคลุมของตัวเองให้แบมแบมใส่แทน คนตัวเล็กร่างเย็นเฉียบจนแจ็คสันกลัวว่าคนตรงหน้าจะตายไปเสียก่อน ช่วยไม่ได้ที่เขาต้องกอดเอาไว้แน่นๆแล้วคอยเรียกเป็นระยะ

       

      แจ็คสันเป่ามือตัวเอง ถูไปมาแล้วยกขึ้นไปแนบแก้มเนียน

       

      ทำไมคนน่ารักแบบนี้ต้องมาเป็นแบบนี้ด้วย แจ็คสันคิดแล้วก็ส่ายหน้า โชคชะตามันมักจะเล่นตกกับเราเสมอ

       

       

       

       

      “คุณ..” เสียงใสของแบมแบมเรียกให้แจ็คสันต้องหันไปมอง

       

      “ฟื้นแล้วเหรอ?”

       

      แบมแบมเห็นชายแปลกหน้าก็กระถดตัวไปติดกับหัวเตียงด้วยความกลัว ก้มมองเครื่องแต่งกายตัวเองก็พบว่าเปลี่ยน ไม่มีเสื้อผ้าของเขาอยู่สักชิ้นเลย

       

      “คุณ..”

       

      “ผมชื่อแจ็คสัน” แจ็คสันว่าแล้วเดินถือกล่องปฐมพยาบาลพร้อมกับถ้วยซุปเข้าไปหา

       

      “เอ่อ..”

       

      “คุณหมดสติอยู่ตรงหน้าผม เลยช่วยไม่ได้ที่ต้องพาคุณมาที่นี่ ไม่งั้นล่ะก็คุณต้องตายคากองหิมนะแน่ๆ” แจ็คสันตอบยิ้มๆ

       

      “อ้าปากสิ”

       

      ด้วยความหิวทำให้แบมแบมว่าง่าย ร่างบางงับช้อนซุปของแจ็คสันทันที

       

      “คุณ ไม่คิดจะบอกชื่อผมหน่อยเหรอ?”

       

      “ผมชื่อแบมแบม”

       

      “แบมแบมงั้นเหรอ” แจ็คสันทวนชื่อ “ชื่อน่ารักดีนะ”

       

      “อื้ม..”

       

      “ใบหน้าคุณก็น่ารักมากด้วย” ตอนแรกที่เห็นหน้าตามอมแมมแต่พอแจ็คสันเช็ดไปตามใบหน้ากลับพบว่าเด็กผู้ชายคนนี้มีใบหน้าที่น่ารักมากจริงๆ

       

      “อื้ม..” แบมแบมก้มหน้าลง ตั้งแต่เกิดมา นอกจากแม่ก็ไม่เคยมีใครดีกับเขาแบบนี้มาก่อนเลย

       

      “กินซะสิ เดี๋ยวผมทำแผลให้ ตัวคุณมีแผลเต็มไปหมด ทำไมเป็นแบบนั้นล่ะ” แจ็คสันถามพลางเอาสำลีชุบแอลกอฮอล์ทาวนไปบนหน้าท้องแบนราบ

       

      เพราะห้องนี้อุ่นเกินกว่าที่แบมแบมจะหนาวละมั้งเลยไม่ได้ขัดขืนอะไร

       

      “ทำไมไม่ตอบผมล่ะ” แจ็คสันเงยหน้าขึ้นมอง แบมแบมกระพริบตาปริบๆ.. ถ้าเอาเรื่องของพ่อบอกไป เขาต้องกลายเป็นเด็กอกตัญญูแน่ๆ

       

      ใช่สิ พ่อ พ่อจะรอเขาอยู่รึเปล่า

       

      “พ่อ..”

       

      “พ่อคุณ? ทำไมเหรอ นั่นสิ บ้านคุณอยู่ไหน เดี๋ยวทำแผลเสร็จผมจะไปส่งบ้าน”

       

      “ขอบคุณคุณมากนะครับ” แบมแบมเอ่ยขอบคุณก่อนจะบอกที่ตั้งของบ้านไป ถึงไม่อยากจะกลับไปอีก แต่เขาก็ทิ้งพ่อไว้คนเดียวไม่ได้

       

       

       

      “นี่บ้านคุณเหรอ?” พอเห็นสภาพบ้านแจ็คสันก็มองอย่างไม่เชื่อสายตา สภาพมันแทบไม่เหมือนบ้านสักนิด

       

      “ครับ.. ขอบคุณคุณมากนะ” แม้แบมแบมจะประทับใจในความมีน้ำใจของแจ็คสันแค่ไหนแต่ก็ต้องจำใจก้าวลงจากรถ

       

       

      แต่แจ็คสันยังไม่ไปไหน เขาตกหลุมรักเด็กคนนี้ไปซะแล้วสิ

       

       

       

       

      แจ็คสันนั่งมองแผ่นหลังเล็กอยู่บนรถ เพียงแค่แบมแบมเดินไปถึงประตูก็มีชายวัยกลางคนผลักประตูออกมาก่อน ชายคนนั้นผลักแบมแบมลงกับพื้นหิมะ ค้นทั่วตัวแบมแบมเหมือนหาอะไรบางอย่าง ดูเหมือนจะไม่ได้สิ่งที่ต้องการก็ตบใบหน้าของเด็กหนุ่มเข้าฉาดใหญ่ แจ็คสันทนดูไมได้ไหวจนต้องลลงจากรถมา นี่สินะที่มาของแผลทั้งตัวของแบมแบม

       

      “แกเอาเงินไปซื้อเสื้อผ้าใหม่หมดใช่ไหม ไอ้เด็กเนรคุณ!

       

      “ไม่ใช่นะครับพ่อ” แบมแบมตอบทั้งน้ำตา เด็กหนุ่มถอยหนีจนไปชนเข้ากับบางอย่าง

       

      “คุณแจ็คสัน”

       

      “พอได้แล้วครับ!” แจ็คสันตะโกนห้าม พ่อเลี้ยงขี้เมาหยุดกึก มองการแต่งตัวที่ดูดีของแจ็คสันแล้วยิ้มพราวออกมา

       

      “คุณเองเหรอที่ซื้อให้มัน”

       

      “ครับ ผมเอง หยุดการกระทำของคุณได้แล้ว”

       

      “ไม่ ผมไม่หยุด มันเป็นลูกผม คุณไม่ต้องมายุ่ง”

       

      “ไม่มีพ่อที่ไหนเขาทำกับลูกตัวเองแบบนี้หรอกครับ!

       

      “ถ้าคุณไม่อยากให้ผมยุ่งก็เอาเงินมาสิ ส่งเงินมา” พ่อเลี้ยงขี้เมาว่าแล้วกระชากแบมแบมออกมาจากอ้อมอกแจ็คสัน มือหยาบกร้านหักกิ่งไม้ขึ้นมาจ่อคอแบมแบมแล้วยิ้มเหี้ยม

       

      บ้าจริงๆ เขาไม่เคยเจอพ่อคนไหนที่โหดร้ายกับลูกตัวเองแบบนี้มาก่อน

       

      “ไม่ต้องให้เขานะครับคุณแจ็คสัน คุณกลับไปเถอะ เดี๋ยวผมจัดการเอง” แบมแบมขอร้องทั้งน้ำตา

       

      “ไม่ต้องพูดมาก!” พ่อเลี้ยงตะคอกแล้วกรีดไม้ลงไปบนซอกคอขาวเนียนจนเลือดซิบ แจ็คสันทนดูไม่ได้ มือหนาล้วงกระเป๋าเงินขึ้นมาเปิดมันแล้วยื่นให้พ่อเลี้ยงใจร้ายจำนวนหนึ่ง คนชั่วเห็นเงินก็ปล่อยแบมแบมลงไปกองกับพื้น รับเงินแล้วหันเข้าบ้านสบายใจเฉิบ ทิ้งให้ลูกชายอยู่หน้าบ้านคนเดียวอย่างไมสนใจใยดี

       

      “แบมแบม” แจ็คสันกอดร่างบางเอาไว้ด้วยความสงสารจับใจ  แบมแบมร้องไห้ออกมาอีกครั้ง ชีวิตเขามันโหดร้ายแบบนี้ตั้งแต่จำความได้ เขาไม่ได้รับอ้อมกอดที่อบอุ่นแบบนี้มานานเท่าไหร่แล้วนะ

       

      “คุณแจ็คสัน”

       

      “ไปอยู่กับผมนะ ผมจะดูแลคุณเอง”

       

      “....”

       

      “ไม่ต้องกังวลอะไร ผมจะไม่ทำร้ายคุณเหมือนที่เค้าทำ” แจ็คสันเกลี่ยผมที่ปรกหน้าร่างบางออก พรมจูบลงบนหน้าผากมน

       

      เขาไม่รู้ว่ามันคือความรักหรือเปล่า

       

      แต่ตอนนี้ เขาอยากดูแลแบมแบม แค่นี้จริงๆ..

       

       

      แบมแบมไม่ตอบแต่เชยหน้าขึ้นรับจูบจากแจ็คสันเพื่อแสดงออกว่าตอบรับแทน.. หากแจ็คสันไม่ดูแลเขา ชีวิตมันคไม่มีอะไรย่ำแย่ไปกว่านี้แล้ว ถึแจ็คสันจะพาเขาไปฆ่า เขาก็คงไม่โกรธอะไร เพราะเดิมทีชีวิตมันก็ไร้ค่าอยู่แล้ว

       

       

      แต่จูบที่ลึกซึ้งและอบอุ่นที่แจ็คสันกำลังมอบให้ท่ามกลางหิมะที่กำลังตกหนัก มันกลับทำให้แบมแบมรู้สึกว่าแจ็คสันคือของขวัญปีใหม่จากพระเจ้ามากกว่า

       

      ตอนนี้ความอบอุ่นจากแจ็คสัน ชนะความหนาวจากหิมะซะอีก..



















       

      talk;;
      โอ้ย เผามาก คิดไม่ออก แต่อยากแต่ง
      เค้าเรื่องมาจากเรื่องหนูน้อยขายไม้ขีดไฟ นอกนั้นก็สุมๆใส่กันมั่วๆ T - T
      อยากแต่งปีใหม่น่ารักๆนะ แต่คิดไม่ออก
      ไม่มีหัวคิดสร้างสรรค์ไรละอะ 55555555555555555 T_T
      สวัสดีปีใหม่นะคะรีดเดอร์ สัญญาว่าถ้ามีที่เรียนจะมาอัพฟิคทุกเรื่องเลย
      ฝากแท็ก #แจ็คแบมไม้ขีดไฟ ในทวิตด้วยนะ อยากอ่าน ;-;
      แต้งน้า

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×