ช่วง 2-3 ปี มานี้ อากาศเปลี่ยนแปลง อย่างมาก ฤดูร้อนกลายเป็นฤดูหนาว ฤดูหนาวกลับกลายเป็นร้อน
วันหนึ่่งบางที่มี3ฤดู เช้าหนาว บ่ายร้อน เย็นฝนตก เอาอะไร แน่นอนไม่ได้เลย สับสนไปหมดแล้ว
ชายชรา 3คน กำลังนั่งคุยกัน อย่างออกรสน้ำลายแตกฟอง ที่ร้านกาแฟประจำหมู่บ้าน
ลุงบุญมี ลุงเหยิน และ ลุงเบี้ยว
"กูว่าโลกมันกำลังจะแตกแล้วนะ"ลุงบุญมีพูด
"เออ ดีๆ ให้มันแตกตายกันให้หมดละดี กูแก่แล้ว อีกไม่นานกูก็ตาย"
ชายชราที่ชื่อลุงเหยินพูด ...จุดเด่นของลุงเหยินคือฟันแกที่เหยินออกมานอกปาก
เวลาแกพูดแต่ละทีฟันมันจะหุบเข้าเหยินออกเป็นจังหวะที่แกพูดออกมา
"ไอ้เหยิน มึง นี่ พูดเหมือนปลงๆไงไม่รู้นะ ไอ้เหยิน คนเรา มันต้องมีความหวังบ้างซิ!ไอ้เหยิน เอ้ย"
ลุงเบี้ยวพูดเสริมขึ้น
"ไอ้บุญมี เมื่อ วาน แม่สมทรงเมีย แกนะ กลับมาบ้านหรือยัง"
ลุงเหยิน พูด
"กูไม่สนใจหรอกไอ้เหยินอีสมทรงมันจะกลับไม่กลับ มันเรื่องของเขา"
ลุงบุญมี พูดเหมือนไม่ใส่ใจ
"ว่า แต่มึงเถอะ ไอ้เหยิน เมียมึงนะยังสวย กูละอายมึงจริงๆที่ได้เมียเด็ก แถมสวยด้วย ฮ่าๆ"
ลุงบุญมีพูดกระเส่าเย้าแหย่ลุงเหยิน
"อะ อะๆ ก็กูมีดีนะดิ ถึงได้เมียสวยคราวลูก ฮ่าๆๆ"
ลุงเหยินยิ่งคุยอวดตัวเองยกใหญ่พร้อมหัวเราะอย่างอารม ดี ฟันเลยหุบเข้าหุบออกตามจังหวะ
"ฮ่า ฮ่า กูไม่อยากพูด เดี่ยวมึงจะอิจฉากู ไอ้บุญมี ไอ้เบี้ยว ฮ่า ฮ่าๆ"
ลุงเหยินหัวเราะพลางเอามือเช็ดน้ำลายที่กำลังจะไหลออกมาจากปากไปพลาง
ชายชรา 3 คน คุย ไปดื่มกาแฟไปหัวเราะกันอย่างสนุกสนานครื้นเครง..
"ไอ้เหยิน ไอ้บุญมี"
ลุงเบี้ยวพูดขัดจังหวะ...
"อะไรของมึงว่ะ ไอ้เบี้ยว" ลุงบุญมีถาม
"กูมีเรื่อง อะไรบางอย่าง จะบอกมึง สองคนว่ะ อันที่จริง กูนะอยาก จะเก็บเรื่องนี่ เป็นความลับ แต่กู คิดว่าก่อนตาย
กูจะต้องบอกใครสักคน กูจะบอกมึง2คน ไอ้บุญมี ไอ้เหยิน"
ลุงบุญมี และ ลุงเหยิน เมื่อได้ยิน ลุงเบี้ยวพูด ก็หูผึ่งตาโตอยากรู้ว่าตาเบี้ยวมีความลับอะไร
"เร็วๆซิ ไอ้เบี้ยวกูอยากรู้ความลับ อะไร ของมึงว่ะ"
ลุงเหยิน พูดสอด ขึ้นมา
"มึงมองไปที่ ภูเขาลูกนั้นนะ ไอ้บุญมี ไอ้เหยิน"
ลุงเบี้ยวพูด พลางหันไปมอง แล้วชี้นิ้วไปที่ภูเขาที่เห็นอยู่ลิบๆ
"ภูเขาชะโดงาม"
ลุงบุญมี และ ลุงเหยิน พูดออกมาเกือบพร้อมๆกัน
"แล้วมันมี อะไร หรือ ไอ้เบี้ยว"
ลุงเหยินและลุงบุญมี พูด เหมือน อยากรู้
"เมื่อ 3 วัน กอ่น กูไปหา ของป่าที่นั้นไปเก็บเห็ด และ หาสมุนไพร ช่วงนั้นฝนตกพรำๆเป็นละออง บรรยากาศมืดครึ้ม
กูเดินลึกเข้าไปในหุบเขา ป่าชะโดงาม เดินวนเวียน จนเหนื่อย แล้ว กูก็ไปนั่งพัก ที่ชะง่อนหินใต้เพิงผาแห่งหนึ่ง
ตอน แรกกูไม่ได้สังเกตุอะไรหรอก แต่มือกูมันบังเอิญไปสัมผัส กับ ผนัง หินที่กูไปเอนกายลงนอนนะ ไอ้บุญมี ไอ้เหยิน"...
..และแล้ว ตาเบี้ยว ก็ หยุดพูด เหมือนกำลังจะ นึกถึง เหตุการณ์ ที่ ผ่านมา
"เออๆ แล้วไง ต่อล่ะ ไอ้เบี้ยว มึงพูดออกมา ทำให้กูอยากรู้"
ลุงบุญมีเร่งรัด ให้ตาเบี้ยว พูด ส่วนลุงเหยินนั่งฟังด้วยความสนใจอย่างตาไม่กระพริบ
"เออๆ เดี่ยวกู ขอ ดื่มกาแฟแก้คอแห้ง ก่อนนะเพื่อน"
ว่าแล้วลุงเบี้ยวก็ ยกแก้วกาแฟดำดื่มลงคอเอื๊อกใหญ่... จนหมดแก้ว
"ต่อ เลยนะ มือ กูไป สัมผัสที่ผนังหิน กู สังเกตุ มันมีอักขระโบราณ สลักอยู่บนผนังหิน.. ช่วง นั้น กูเลยเอามมือ ดึงเถาวัลย์ที่ขึ้น ปกคลุมออกจนหมด.. แล้วสิ่งที่กูเห็น มันคือ ประตูหิน ขนาดใหญ่....
ช่วง นั้นใจกูเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ มันตื่นเต้นนะ ไอ้บุญมี ไอ้เหยิน กูคิด ตอนนั้นอย่างเดียวคือ อยาก เข้าไปดูข้างใน"
ลุงเบี้ยว พูดพลาง ตาเหมอลอยใช้ความคิด เหมือน กำลังจะเรียบเรียงภาพต่างๆที่เห็นให้ออกมาเป็นคำพูด...
"ทางซ้ายของ ประตูหินมันมีรูปปั้นหินแปลกๆตัว หนึ่ง เป็นรูปเด็ก แต่มันแปลกตรงที่รูปร่าง รูปปั้นนั้นมันไม่สมส่วนกัน
หัวมันโต ตากลมเฉียง ไปด้านข้าง จมูก เหมือนจมูกกบ ปากมีนิดเดียว แขนขาลีบเล็ก..
มัน เป็นรูปปั้นหิน ที่กูไม่เคยเห็นทมี่ไหนมาก่อน"
ลุงเบี้ยวพูดพร้อมกับมองหน้าลุงบุญมี และ ลุงเหยิน ไปมา
"กูเข้าไปจับตรงหัวรูปปั้น เท่านั้นละ ...
ไอ้เหยิน ไอ้บุญมี เสียงครื้น โครม มัน ดังลั่นไปหมด เหมือนกลไก อะไรบางอย่างมันกำลังทำงาน
กูตกใจ ถึง กับเดินถอยหลัง ออกมา ดูห่างๆๆ...
และแล้ว ประตูหินขนาดใหญ่มัน ค่อยเลื่อน ๆขึ้นๆไปข้างบน ทีละน้อยๆ โอ้ย!!! กู ตื่นเต้น สุดๆ"
ลุงเบี้ยวพูด พร้อม กับทำท่าทางตื่นเต้น ปากคอมื้อ ไม้สั่นระริก...
........เมื่อประตูค่อยๆเปิดออก.......
กูเดินเข้าไปสำรวจข้างใน สิ่งที่กูเห็น 2 ข้างทางเดิน มันเป็น ผนังกั้นที่ราบเรียบ
มีดวงไฟกระพริบๆ สีแดงสีเขียวตลอดทางเดินทั้งสองฝาก ......
กูตกใจไม่เคยเห็นอะไร อย่างนี่มาก่อน แต่ความอยากรู้อยากเห็นมันจึงทำให้กูแข็งใจเดินต่อไป
ข้างในถ้ำมีห้องเล็กบ้างใหญ่บ้างมากมายเหมือนเขาวงกต.....
********************************************************************************
"บางห้องมีตู้สี่เหลี่ยมมีแผงปุ่มไฟ กระพริบไปกระพริบมาจนกูลายตาไปหมด
ทาง เดินนั้นราบเรียบเงาวาววับ กูเดินลึกเข้าไป... ลึกเข้าไป...
เดินไปเรื่อยๆลึกเข้าไปจนคิดว่ามันคงจะ ถึงใจกลาง ของถ้ำ พิสดาร นี้แล้ว...
กูกวาดสายตามองไปรอบๆ....ภายในถ้ำ ช่วงนี้ มันรายล้อมไปด้วย เสา อะไรไม่รู้สีเงินวาววับ
เมื่อ กระทบ กับแสงไฟบน ยอด เสา มีดวงไฟ กลมโตดวงโหญ่ รายล้อมเป็นวงกลม ช่วงนี้ กูเดิน งกๆเงินๆ
แล้ว ทันใดนั้น ไฟบน ยอด เสาก็เปิด ส่วาง พรึบๆ!
"สิ่งที่กูเห็น มันทำให้กู ตกใจสุดขีด!!!"
"ไอ้เหยิน ไอ้บุญมี"
"อะไร ..ว่ะ ไอ้เบี้ยว มึงเห็นอะไรเร็วๆ กู อยากรู้"
" แล้วยังไง ต่อว่ะไอ้เบี้ยว"
ลุงบุญมี และ ลุงเหยินพูดอุทาน..ออกมา พร้อมกัน
"สิ่งที่กูเห็นร่างๆหนึ่งนอนสงบ นิ่งอยู่บน แท่นโลหะ มันตั้ง อยู่กลาง วงลอ้มเสาที่มีดวงไฟบนยอดเสา นะ
เมื่อไฟ ส่วาง พรึบ มันทำให้ เห็นภาพ นั้นชัดเจน ยิ่งขึ้น
ร่างนั้น มันเหมือนเด็ก ผิวหนังสีเทาๆ หัวโต และ ตาโต ผิดรูปร่าง
แขน และ ขาลีบ เล็ก มีนิ้วมือ 3นิ้ว ส่วนนิ้ว เท้ามี 3นิ้วเหมือนกัน
นอนสงบ นิ่ง โดยมี ฝาแก้ว ครอบ อีกชั้น
รอบๆ บริเวณมีแต่ แสงไฟ กระพริบๆละลานตาไปหมด
ไอ้เหยิน ไอ้บุญมีเอ้ย กู บอก หลายครั้ง เลย ว่า กู ไม่ เคยเห็นอะไรที่แปลกประ หลาดอย่างนี่ มาก่อนเลย
กูตกใจกลัวสุดขีด..พร้อม กับ เดินถอยหลังกลับเพื่อจะออกมาทางเดิม แต่กูก้าว ขาไม่ออกว่ะ.....
กูพยายามจะหนีออกมา เหงื่อกาฬ ไหลออกมาชุ่มโชกเสื้อกูไปหมด...
ในสมอง กูตอนนี้มันมึนงง มัน ได้ยิน แต่ เสียงครื้นๆครื้นๆ แล้ว แสงไฟ ในห้องนั้นมันก็ส่วางจ้ายิ่งขึ้น
"มันสว่างจน กูแสบ ตา เลย"
ลุงเบี้ยว พูดพลางหรี่ตาหยี เหมือนกับว่าแสงสว่างนั้นมันยัง ตามมาหลอกหลอน
กูเดินถอย หลังออกมาได้ 3ก้าว
กูก็ต้องหยุดชะงัก...........
" แล้วร่างที่แปลก ประหลาดที่นอนสงบนิ่งบนแท่นโลหะ กลางห้อง...
ฝาครอบแก้วมันค่อยๆเปิดออก...
ร่า่่่งเล็กๆเหมือนเด็กประหลาดนั้น ค่อยๆลุก ขึ้นนั่ง แล้ว มัน ก็หันมามองทางที่กูยืนอยู่"
ลุงเบี้ยวพูดพลางตาก็เหลือกไปมาด้วย ความหวาดกลัว
"แล้วไงว่ะ ไอ้เบี้ยว มึงทำให้ กูอยากรู้" ลุงบุญมีถาม
มันเหมือนกับกูไม่สามารถขยับเขยื้อนร่างกายได้เลย กูเหมือนต้องมนต์สะกด เมื่อ ไอ้เด็กประหลาดมองจ้องมาทางกู
ฉับพลัน ร่าง ไอ้เด็ก ประหลาดผิวสีเทา หัวโตแขนขาลีบเล็กก็ค่อยๆลอยสูงขึ้นในอากาศ
มันมองมาทางกูพร้อมกับพยายามส่งเสียงสัญญาณอะไรบางอย่าง..ออกมาจากปากมัน..........
มันมองจ้องตากูไม่กระพริบ.. สมองมันมึนงงไปหมด
แล้วแสงสีเงินเจิดจ้าสว่างวาบ...
ช่วงนี้เอง ที่กูหลับตา การสื่อสารระหว่างไอ้มนุษย์ประหลาดก็เกิดขึ้น
เสียงมันก้องกังวาลอยู่ในหัวกูเลยว่ะ..ไอ้บุญมี..ไอ้เหยิน
....มันบอกกูว่า....
"มนุษย์โลก เรามาจาก ดาวเอ็ม 79"
"มนุษย์ โลก เจ้าเป็นคนแรกที่เข้ามาพบเรา มาปลุกให้เราตื่นจากการหลับไหลชั่วนิรันกาล"
"มนุษย์โลก เราขอบใจเจ้าที่เข้ามาต่อวงจรชีวิต ปลุกเราให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมา"
"เสียงไอ้มนุษย์ประหลาดมันแหลมเล็กเหมือนเสียงค้างคาว
มันบอกว่ามันมาจากดาว เอ็ม79"
ช่วงที่ขณะที่ตาเบี้ยวพูดอาการตื่นตระหนกยังไม่หาย แววตาเบิกโพลง
"ไอ้เบี้ยว แล้วมึงพูดตอบโต้ไปอย่างไร กูอยากรู้จริง "
ลุงบุญมีถาม ตาเหลือโพลง..ด้วยความตื่นเต้น
"เออท่าเป็น กูหน่อยไม่ได้ นะไอ้เบี้ยว กูจะขอหวย 2ตัว3ตัว ไอ้มนุษย์ประหลาดนั้นเสียเลย ฮ่า ฮ่าๆ"
ลุงเหยิน พูดเป็นเล่น พร้อมกับหัวเราะ
"เออ..ไอ้เหยิน กูพูดเป็นงานเป็นการ มึงนี่เห็นเป็นเล่นไปหมด"
ลุงเบี้ยวพูดแย้ง เหมือนไม่พอใจ
"แล้วไง ต่อ ว่ะ ไอ้เบี้ยว กูรอ ฟังมึงเล่านี่อย่าไปฟังไอ้เฒ่าเหยินมันเลย"
ลุงบุญมีเร่งเร้า
"ตอนนั้น ร่างกาย กูรู้สึก เบาหวิว สมองมันตื้อๆไงไม่รู้"
แล้วการติดต่อสื่อสาร ก็เกิดขึ้นอีกครั้ง ไอ้มนุษย์ประหลาด มันจ้องมองตากู การสื่อสารก็เกิดขึ้น
โดยที่มันไม่ขยัปปากพูดเลยนะ ไอ้บุญมี ไอ้เหยิน แต่มันแปลกที่กูรับรู้สื่อสาร กับมันได้
......มันบอกกับกูว่า .......
"โลกที่เราอยู่นี่กำลังถึงกาลดับสูญแตกสลาย....
แล้วมนุษย์ประหลาดจะเลือกกูให้ไปดาว เอ็ม79 เพื่อไปศึกษาความรู้จากดาวของพวกมัน
และจะให้กูมากอบกู้โลกเพื่อให้พ้นจากภัยพิบัติครั้งนี้"
พอลุงเบี้ยว พูดมาถึงตอนนี้ ลุงเบี้ยวทำท่ายืด อก พร้อมทั้งยิ้มน้อยๆที่มุมปาก อย่างภาคภูมิใจ....
"ฮ่าๆๆๆๆขนาดนั้นเชี่ยวหรือไอ้เบี้ยว มึงจะไปดาวเอ็ม 150 เอ้ย เอ็ม79 กับไอ้มนุษย์ประหลาด หัวโตแขนขาลีบ อย่างคนเป็น โปลีโอ ...เพื่อเรียนรู้ศึกษาวิชามากอบกู้โลกๆ ฮ่า ฮ่าๆ กูอยากหัวเราะ ให้ฟันเหยินๆออกมานอกปากเลยว่ะ่"
ลุงเหยินพูดพลาง ก็หัวเราะ กรั่ก ๆๆงอก่อ งอขิง กรั่กๆๆๆๆ
"มันเหมือน ลิเกที่กูไปดูมาเลยว่า ไอ้เบี้ยว กรั่กๆๆๆๆ"
ลุงเหยิน ยิ่งพูดยิ่งขำ ฮ่าๆๆๆๆกรั่กๆๆๆๆๆ
"เออ เออ ไอ้เหยิน มึงไม่เชื่อกูก็ตามใจ.. ไอ้สันดาน"
ลุงเบี้ยวพูดเหมือน ประชดประชัน...
"ไอ้เบี้ยว แล้วเมื่อไหร่มึงจะไป ดาวเอ็ม79 กับไอ้มนุษย์หลาดว่ะ..
ว่างๆ มึงน่าชวนมันมากินกาแฟทำความรู้จักกับกูกับไอ้เหยินมันด้วยนะ ฮ่า ฮ่าๆๆๆ"
ลุงบุญมีพูดพลาง หัวเราะพลาง...เหมือนไม่อยากเชื่อเรื่องที่ลุงเบี้ยวพูด...
"เออ เออ ไม่มีใครเชื่อกูสักคน เดี่ยวกูจะแสดงอะไรให้พวกมึงดู"
ว่าพลาง ลุงเบี้ยว ก็ลุกขึ้นยืนตรง แล้ว หันหน้าไปทางภูเขาชะโดงาม
หลับตา พร้อมกับชี้นิ้วไปข้างหน้า ลุงเหยิน และ ลุงบุญมี เฝ้าดู พฏติกรรมของตาเบี้ยว อย่างสนใจ...
"พวกมึง มองไปที่ภูเขาชะโดงาม ซิ!! ไอ้เหยิน ไอ้บุญมี" ลุงเบี้ยวพูด
สายตาของชายชราทั้งคู่มองตรงไป...... ฉับพลันนั้นเอง.......
แสงสีเงินสว่างเจิดจ้า ค่อยๆฉาบฉายเหนือท้องฟ้า ภูเขาชะโดงามแสงมันสว่างจ้า
ทันใดนั้นเอง....มีวัตถุทรงกลมใหญ่สีเงินวาววับ ตัดกับแสงแดดเจิดจ้าสว่างไสว..
มันค่อยๆ ลอยโผล่พ้นยอดเขา ทีละน้อยๆๆ แล้วมันลอยสงบนิ่งเหนือยอดเขา
"ลุงเหยิน และ ลุงบุญมี ถึงกับตาเหลือกลาน ตาค้าง
ด้วยความตกใจสุดขีดเมื่อได้เห็นสิ่งที่ปรากฎอยู่เบื้องหน้าลิบๆๆ"
นั้นอะไรๆๆๆเฮ้ย!!!มันคืออะไร.... ลุงเหยิน ได้แต่ชี้นิ้ว ปากพูดออกมาไม่เป็นภาษา
ส่วนลุงบุญมี ยืนตกตะลึงเดินถอยหลัง ล้มลุกคลุกคลาน...
"อาแปะลิ้ม" กำลังซึ่งกำลังนั่งอยู่ในร้านกาแฟ ถึงวิ่งออกมาดูปรากฏการประหลาด
ถึงกับอ้าปากตาเหลือกค้าง "มันคือ อะไร ....ไอ้เหยิน ...โอ้ยกูจะเป็นลม"
แสงส่วาง พร้อมวัตถุทรงกลมใหญ่ สีเงินยวงวาววับ ค่อยๆ ลอยสูงๆๆขึ้นทีละน้อยๆๆ
ก่อนที่วัตถุทรงกลมประหลาด จะค่อยๆลอยเข้าไปในหมู่เฆมแล้วหายวับไปในทันที
****แล้วร่างของลุงเบี้ยว ก็ค่อยๆจางหายไปต่อหน้าต่อตา****
ลุงเหยิน ลุงบุญมี ถึงตาเหลือกค้าง เมื่อ เห็นร่างของ ตาเบี้ยวหายวับไปต่อหน้า
"อะไร กันว่ะนี่.....ผี หลอกกูหรือว่ามันเป็นเรื่องจริง ไอ้เหยิน ไอ้แปะลิ้ม มึงเห็นอย่างที่กูเห็นหรือเปล่า"
"ไอ้เบี้ยวหายตัวได้ แล้ว ไอ้วงกลมสีเงินที่ลอยนั้นมันคืออะไร"
...............ลุงบุญมีพูดพร้อมอ้าปากค้างน้ำลายไหลย้อยยืดโดยไม่รู้ตัว ...................
ว่า แล้ว ชายชราทั้ง 3คน ลุกขึ้น วิ่ง อย่างไม่คิด ถึงสังขาร ล้มลุกคลุกคลานไปคนละทิศละทาง
"ผี หลอก ...ผีไอ้เบี้ยวหลอก มันหลอกกู ช่วยด้วยๆๆผีหลอก"
ชายชราทั้ง 3คน แปะลิ้ม ลุงเหยิน ลุงบุญมี วิ่งหน้าตั้ง อย่างไม่คิดชีวิตจนฝุ่นตลบ
ปาก ก็ตะโกน ผีหลอกๆๆๆๆๆไปตลอดทาง.......
แสงสว่างที่ปลายฟ้าส่องแสงสีเงินสีทองรำไรๆเสียงนกการ้องกันเซ่งแซ่บินออกหากินเป็นคู่ๆ
เสียงเอะอะโววาย ดังขึ้น.....
"อ้าว ไอ้แก่ มัว แต่นอน คุดคู้ อยู่ได้ .... ดูซิ!ผ้าผ่อนหลุดลุ่ยหมดแล้วไอ้แก่ ....
อ้าว!นกเขาหัวห้อยหัวตก พลุบ..เข้า พลุบ..ออก...งานการไม่คิดอยากทำหรือยังไง
ไอ้ทุย มันหิวหญ้ารีบเอามันไปกินหญ้าได้แล้ว..นี่..ตะวันมันสายโ่ด่งแล้ว ไอ้แก่เอ้ย"
เสียงหญิงชราบ่นๆๆๆ
........ตกใจตื่น........
"อ้าวนี่...กูฝันไปหรือนี่ แล้วกัน..กูนึกว่าจะได้ไปดาวเอ็ม 79แล้วนะ เออ..ที่แท้ก็ฝันไป"
ว่าแล้วลุงเบี้ยวก็รีบ ลุกขึ้นรีบล้างหน้าถูขี้ฟัน
"เร็วไอ้แก่ มัว แต่รำไร อยู่นั้นละ"เสียงหญิงชราบ่นอีก
"รู้แล้ว จ๊ะ เมียจ๋า เดี่ยว พี่เบี้ยวจะเอาควายไปกินหญ้า เดี่ยวนี่ละจ๊ะที่รัก"
เสียดาย กูกำลังจะได้เป็นวีระบุรุษจะมากอบกู้โลก...ไม่น่าเลย...
เอาไอ้ทุยไปหาหญ้ากินดีกว่า ลุงเบี้ยว รีบแต่งตัวแล้วรีบเดินลงมาจูงควายออกไปนาทันที
"เดี่ยวก่อน...ตาเบี้ยว... เอาข้าวนี่ไปกินด้วย"
ว่าพลางเมียสุดที่รักโยนห่อข้าวให้ลุุงเบี้ยว
"เมีย จ๋าๆงวดนี้ อย่าลืมซื้อหวยเลข 79 ด้วยนะที่รัก"
ลุงเบี้ยวพูดพลาง แล้ว หัวเราะ กรั่กๆๆๆๆๆๆอย่า่งอารมดี กรั่ก ๆๆๆๆ
......................จบ..............................
********************************************************************************
อึ้ง! พบศพมนุษย์ต่างดาว หลังข่าวลือจานบินร่วงที่รัสเซีย ชาวรัสเซียถ่ายคลิป พบศพ มนุษย์ต่างดาว นอนตายในกองหิมะ ทางตอนใต้ของไซบีเรีย สอดคล้องกับรายงาน ยูเอฟโอ ตกเมื่อเดือนที่แล้ว...
สำนัก ข่าวต่างประเทศ รายงานเมื่อวันที่ 20 เม.ย. อ้างจากภาพที่ปรากฏว่า กลุ่มชาวรัสเซียพบร่างเสียชีวิตของมนุษย์ต่างดาว หรือ เอเลี่ยน นอนตายในกองหิมะ ที่แคว้นอีร์คุตสค์ ทางตอนใต้ของไซบีเรีย ทั้งนี้ ข่าวประหลาดดังกล่าว สอดคล้องกับรายงานจานผียูเอฟโอ ประสบอุบัติเหตุตกเมื่อเดือนที่แล้วด้วยเช่นกัน
สำหรับร่างของสิ่งมี ชีวิตที่เชื่อว่ามาจากต่างดาวนั้น ได้รับบาดเจ็บค่อนข้างสาหัสแขนขาข้างหนึ่งขาด ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่อ้างว่า เห็นวัตถุเปล่งแสงสีชมพูและฟ้า พุ่งตรงมาทางเมืองอย่างรวดเร็ว ก่อนหน้าการพบร่างเอเลี่ยน
รายงานการพบสุดแสนประหลาดครั้งนี้ ได้รับการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่กระทรวงฉุกเฉินแห่งชาติ แต่ไม่มีระบุว่าพบอากาศยานบินในพื้นที่ รวมถึงทีมค้นหาและทีมกู้ภัย ไม่พบร่องรอยอุบัติเหตุอากาศยานบินตกแต่อย่างใด
นอกจากนี้ คลิปวีดิโอการพบร่างเสียชีวิตของเอเลี่ยนครั้งนี้
กำลังได้รับความนิยมจากเว็บไซต์แบ่งปันวีดิโอ ยูทูบ
********************************************************
โอล่ะพ่อ "ศพเอเลี่ยนรัสเซีย" ที่แท้หนังไก่หุ้มขนมปัง
วันที่ 24 เม.ย. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กรณีชาวรัสเซียพบร่างเสียชีวิตของมนุษย์ต่างดาว หรือ เอเลี่ยน นอน ตายบนกองหิมะ สภาพแขนขาข้างหนึ่งขาด ที่แคว้นอีร์คุตสค์ ทางตอนใต้ของ ไซบีเรีย เมื่อวันที่ 21 เม.ย ที่ผ่านมา โดยมีการเปิดเผยต่อมาว่าเรื่องราวดังกล่าวนั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ทั้งนี้ เรื่องราวดังกล่าวถูกโยงเหตุการณ์ต่าง ๆ เข้าด้วยกันเพื่อความสมเหตุสมผล เช่นชาวบ้านในพื้นที่พบเห็นวัตถุเปล่งแสงสีชมพูและฟ้า พุ่งตรงมาทางเมืองอย่างรวดเร็ว ก่อนหน้าการพบร่างเอเลี่ยน ซึ่งวีดิโอการค้นพบศพเอเลี่ยนที่แพร่ระบาดอยู่ในอินเตอร์เน็ต ถูกถ่ายโดย ติมูร์ ฮิลอลล์ วัย 18 ปี และ คิริลล์ วลาซอฟ วัย 19 ปี และทั้งคู่รับสารภาพว่าทำไปด้วยความคึกคะนอง หลังเจอเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนหนัก
โฆษกกลาโหมรัสเซีย ระบุว่า พบเอเลี่ยนตัวหนึ่งที่บ้านของเด็กนักเรียนหนึ่งในนั้น มัน นอนอยู่บนเตียง และตรวจสอบพบว่าทำจากเศษขนมปังห่อด้วยหนังไก่ เบื้องต้นตอนนี้ยังไม่ได้ตั้งข้อหาใด ๆ กับเด็กหนุ่มทั้ง 2 คน เนื่องจากไม่ใช่การก่ออาชญากรรมร้ายแรง
ด้านผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์วิจัยยูเอฟโอรัสเซีย กล่าวว่า ศพเอเลี่ยนน่าสนใจมากผิวหนังดูคล้ายจริง แต่อย่างไรก็ตามผู้มาจากต่างดาว น่าจะสวมอะไรบางอย่างที่คล้ายกับชุดอวกาศ หรือมีอะไรปกปิดร่างกายบ้างไม่ใช่อยู่ในสภาพที่เปลือยเปล่า
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น