คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตำราบทที่ 1 : First Impression
“ตอนนี้เราแต่งงานกันแล้วนะ
อื้ม! ฮยอกแจเป็นพ่อคนแล้ว! ทงเฮดูสิ..
นั่นลูกสาวของเราไง! น้องฮยอกเฮ!”
ในเวลาพักเที่ยงในวันที่มีแดดจ้า เด็กหนุ่มสามคนกำลังนั่งติวชีวะก่อนจะถึงคาบบ่าย สิบคะแนนที่โจคยูฮยอนเล็งไว้ ห้ามพลาดแม้แต่ข้อเดียว.. แต่พอหันไปข้างๆ เห็นเพื่อนสนิททั้งสอง..เออ..หนึ่งในนั้นจะเรียกว่าเพื่อนก็ได้หรือจะมากกว่านั้นก็ได้..เอาเป็นว่าที่สำคัญคือพวกมันทั้งสองคนเอาแต่นั่งเล่นหมากรุกดีดหน้าผากกันอยู่โดยที่ไม่สำเหนียกตัวเองเลยว่าอีกไม่ถึงชั่วโมงจะต้องเข้าสอบเก็บคะแนนกันแล้ว
“โอ๊ะ!” ฮยอกแจหลับตาปี๋เมื่อถูกนิ้วเรียวยาวดีดเข้าที่หน้าผาก ร่างสูงหัวเราะลั่นพลางมองรอยสีแดงจางๆ บนหน้าผากอีกคน
“โง่” ซีวอนว่าพลางทำหน้าเยาะเย้ย
“มึงน่ะสิโง่ หันหน้ามาอ่านหนังสือเดี๋ยวนี้ก่อนที่กูจะแปลงร่าง” คยูฮยอนว่าพลางม้วนกระดาษแล้วฟาดเข้าที่หัวคนรักแรงๆ
ซีวอนกุมหัวตัวเองก่อนจะเลิกคิ้วมองใบหน้าคนรักที่กำลังขยับปากบ่นอุบอิบ ร่างสูงขยับเก้าอี้เข้าไปนั่งชิดร่างโปร่งพร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ ฮยอกแจได้แต่ทำหน้าเซ็ง คยูฮยอนดุอีกล่ะ..แล้วนี่เขาจะไปชวนใครเล่นหมากรุกกันล่ะ
“เมื่อกี้น่ะ..หึงเหรอ”
“เหอะ..มึงว่าไงนะ?” คยูฮยอนแค่นเสียงหัวเราะก่อนจะหันไปมองหน้าอีกฝ่ายที่ระยะห่างกันไม่ถึงคืบ
“รู้หรอก ว่าเมื่อกี้น่ะ..มึงหึงกูกับฮยอกแจใช่ไหม..”
“ถุย..กูเนี่ยนะจะหึงมึง หน้าง่อยๆ อย่างไอ้ฮยอกแจหึงไปให้ได้โอเอซิสอะไรขึ้นมาวะ” คยูฮยอนพูดก่อนจะขยับแว่นสายตา
ไอ้นี่กวนส้นตีน..มาขอให้ติวชีวะให้แล้วเสือกทำเป็นเล่น โจคยูฮยอนไม่ใช่คนที่ลอยไปลอยมานะครับ..ต้องจริงจังทุกเรื่อง
“หน้าอย่างเรามันทำไมเหรอคยูฮยอน” ฮยอกแจชี้หน้าตัวเองพลางกระพริบตาปริบๆ รอคำตอบจากเพื่อน
คยูฮยอนหันไปมองเพื่อนตัวบางที่ทำหน้าเอ๋อพลางเอามือดันหน้าไอ้หื่นกามที่กำลังพยายามจะหอมแก้มเขาเอาไว้ นี่กูมีแฟนหรือหมาพันธุ์โกลเด้นวะสัด แม่งเข้ามานัวเนียเฟรนด์ลี่เหนือมนุษย์มนาเกินไปแล้ว
“หน้าอย่างมึง”
“อื้อ” ฮยอกแจยังคงตั้งตารออยู่อย่างนั้น เอาจริงๆ แล้วที่พูดไปก็ไม่ได้มีนัยยะอะไรหรอก ไอ้บื้อนี่ก็ถามจังเลย พ่องเป็นเจ้าหนูจำไมเหรอวะ
“ฮยอกแจ” ซีวอนพูดตัดบท ดวงตากลมโตหันไปมองเพื่อนสนิทอีกคนก่อนจะยิ้มกว้าง
“มึงเคยคิดบ้างไหมว่าตัวเองกำลังทำตัวเป็น ก ข ค”
“เอ๋...”
“กูจะสร้างโลกส่วนตัวกับคยูฮยอน ตามบทแล้วมึงต้องเดินไปที่อื่นนะรู้ไหม” ซีวอนพูดพลางเอาหนังสือมากองทับๆ กันพร้อมกับดันไปตรงหน้าร่างบางเป็นเชิงบ่งบอกว่า “ไสหัวไปได้แล้ว” ฮยอกแจมองกองหนังสือสลับกับใบหน้าเพื่อนตัวสูงไปมาก่อนจะฉายแววตาสงสัย
“ก็สร้างสิ เราไม่ว่าอะไรหรอก” ทำหน้าซื่อบื้อจนคนได้ฟังเอือมระอา ไอ้นี่มันโง่จริง ไม่ต้องแอ๊บให้เมื่อยหน้า
“มึงไม่ว่า แต่กูเนี่ยแหละจะว่า ใช่ไหมจ๊ะคิยู~” ปลายจมูกโด่งฉวยโอกาสหอมแก้มคนข้างๆ ฟอดใหญ่ก่อนจะโดนตบหัวดังป๊าบ
“โอ๊ย!”
เอาวะ! ไม่เป็นไร...แค่นี้ถือว่าคุ้ม!
“เหี้ยนี่เยอะนะ กูหิวน้ำแล้ว ไปซื้อน้ำเปล่ามาให้กูเดี๋ยวนี้” คยูฮยอนพูดพร้อมกับชี้ไปที่ประตูห้องเรียน ซีวอนเบะปากก่อนจะผงะออกอย่างรู้ทันเมื่อคนรักยกขาขึ้นทำท่าตั้งหลักจะถีบ
“รุนแรงแบบนี้ให้ได้นานๆ นะมึง.. เลิกห้าวเมื่อไหร่กูจะ..”
“อะไร มึงจะทำอะไรกู” คยูฮยอนลุกขึ้นพร้อมกับกระชากคอร่างสูงเข้ามาใกล้ ใบหน้ามนลดสายตาลงไปอยู่ที่เน็กไทของคนรักที่เบี้ยวไปอีกข้างก่อนจะเอื้อมมือขึ้นมาจัดให้เป็นระเบียบ ซีวอนอมยิ้มกระดิกขาพร้อมกับก้มหน้ามองร่างโปร่งที่กำลังตั้งใจจัดเสื้อนอกให้กับเขา
ภายใต้แว่นกรอบหนานั้นมีดวงตาคู่สวยที่เขาชอบมอง แววตาที่เฉยชาแต่เวลามองซีวอนกลับดูลึกซึ้งมากกว่าเวลามองคนอื่น ซีวอนกับคยูฮยอนคบกันมาสองปีแล้ว เป็นคู่รักฮาร์ดคอร์ที่ใครๆ ต่างก็กลัว คงมีแต่ฮยอกแจนั่นแหละที่ทนอยู่กับสองคนนี้ได้
“จับมือแม่ค้าแล้วกรุณาล้างมือด้วย” คยูฮยอนย้ำ ซีวอนพยักหน้ารับผลัดๆ ไปก่อนจะหันหลังกลับไปยิ้มขำ คยูฮยอนไม่เคยรู้ตัวเลยว่าตัวเองน่ะขี้หึงแค่ไหน
ลูกชายคุณหมอที่ชอบทำตัวเนี๊ยบอยู่ตลอดเวลา แม้กระทั่ง...ตอนทำเรื่องอย่างว่ายังไล่กูไปอาบน้ำ...ถุงยางยังต้องใช้แบบมีสารฆ่าเชื้อ...กว่าจะได้เอานกเขากูหดไปสามรอบแล้ว นี่ถือว่าบุญหัวแค่ไหนที่มันไม่เอาไฟแบล็คไลค์มาส่องหาเชื้อโรคในถุงยาง - _-
หลังจากใช้ไอ้ตัวเชื้อโรคไปซื้อน้ำเรียบร้อยแล้วคยูฮยอนก็หันกลับมาสนใจกับหนังสือเล่มหนาต่อ ฮยอกแจสะกิดแขนอีกคนก่อนจะฉีกยิ้มกว้าง
“เมื่อกี้ตอนคยูกับซีวอนคุยกันน่ะ..เหมือนว่าไม่มีเราอยู่บนโลกนี้เลยเนอะ” ฮยอกแจว่าเสียงใส เหมือนจะเป็นคำพูดประชด แต่จริงๆ น่ะไร้เดียงสา ไม่สิ..เรียกว่าซื่อบื้อคงเหมาะกว่าที่จะเรียกว่าไร้เดียงสามากกว่านะ
“...อะไร”
“เหมือนเราเป็นส่วนเกินเลย”
มึงพึ่งรู้เหรอ เมื่อกี้ไอ้หอกนั่นมันก็พึ่งพูดเรื่องนี้กับมึงไปนะได้ข่าว -_-
“เวลาโดนซีวอนจูบ คยูรู้สึกยังไงเหรอ” ฮยอกแจเอาคางเท้าโต๊ะก่อนจะจ้องใบหน้าอีกฝ่าย คยูฮยอนหรี่ตามองเพื่อนสนิทก่อนจะขยับแว่น ทำเป็นไม่ได้ยินคำถาม
“รู้สึกดีไหม ซีวอนจูบเก่งรึเปล่า” ฮยอกแจถามซ้ำ ตอนนี้คยูฮยอนรู้สึกได้ว่าเส้นจะกระตุกนิดๆ แล้วล่ะ (ห่าราก ถามอยู่ได้เดี๋ยวกูผลักแม่งขึ้นเวทีมวยเลยสัด)
ถ้าพูดถึงจูบของซีวอนน่ะเหรอ...
จูบรสมินท์..อืม..เพราะแม่งชอบเคี้ยวหมากฝรั่งรสมินท์..
เฮ้ย! ไม่ดิ! จะจูบรสไหนมันใช่เรื่องที่เขาต้องมาพูดในชั่วโมงเร่งรีบแบบนี้เหรอ!
อีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้ก็จะมีสอบเก็บคะแนนแล้ว นี่เขามัวคิดเรื่องอะไรอยู่! (ทึ้งหัวตัวเอง)
“จูบเจิบไรไร้สาระ อยากรู้นักก็ไปถามเมียมึงดิ” คยูฮยอนว่าก่อนจะก้มหน้าก้มตาเอาปากกาเน้นข้อความขีดลากไปตามเนื้อหาในหนังสือ ถึงแม้ว่าในหน้ากระดาษจะเต็มไปด้วยสีสันของปากกาเน้นข้อความอยู่แล้วก็ตามที
“เมียไหน”
“โน่นไงโน่น ไอ้เตี้ยที่กำลังเตะบอลอยู่กลางสนามนั่นน่ะ” คยูฮยอนเอาปากกาชี้ไปในสนามฟุตบอลที่มีเด็กนักเรียนชายนับสิบวิ่งพล่านกันทั่วสนามท่ามกลางแสงแดดจ้า..
ดวงตาเรียวมองไปเห็นคนที่ดูสะดุดตาที่สุดในสนามก่อนจะยิ้มกว้าง ชายหนุ่มในชุดนักเรียนถอดเสื้อวิ่งไปรอบๆ หลังจากทำประตูไปเมื่อครู่
“โอ๊ะนั่น..ทงเฮ~” ฮยอกแจโบกมือให้กับคนที่กำลังเต้นท่าลามกอยู่กับเพื่อนๆ พลางฉีกยิ้มกว้าง เด็กหนุ่มหลายคนที่ยืนเฮฮาอยู่ตรงนั้นเงยหน้าขึ้นมามองบนตึกกันเป็นตาเดียวกัน
เหี้ยล่ะ ฮยอกแจแม่งต้องทำกูขายหน้าอีกแน่เลย -_-
“คุณแม่~~~” ฮยอกแจตะโกนไปไม่ลืมที่จะโบกมือให้อีกฝ่ายด้วย ... อื้อหือ.. ดูท่าทางเข้าสิ.. โบกไม้โบกมือประหนึ่งแขนจะหลุดราวกับกลัวอีกฝ่ายไม่เห็น
ท่ามกลางเสียงหัวเราะของเหล่าเพื่อนพ้อง อีทงเฮยกมือเท้าเอวพลางมองไปยังร่างบางที่ยังคงส่งเสียงเรียกเขาอยู่อย่างนั้น เรื่องตลกที่ฮ็อตฮิตติดชาร์ตโรงเรียนในทุกวันนี้ก็คือ “อีทงเฮ เป็นคุณแม่สุดสวยที่มีลูกสาวชื่อ อีฮยอกเฮ ค่ะ”
แค่นี้ก็ทำให้กูเครียดจนแทบจะเอาไหกิมจิคลุมหัวมาเรียนอยู่แล้ว แต่ดูอีกคนจะภาคภูมิใจกับตำแหน่งคุณพ่อเสียนี่กระไร..ไม่ดูสภาพตัวเองเอาเสียเลย ที่เป็นอยู่นั่นมันยิ่งกว่าคุณแม่อีกเถอะ -_-
“เห้ยมึง ไม่โบกมือตอบคุณสามีหน่อยเหรอวะ” แอมเบอร์ว่าพลางกุมท้องขำ ก่อนจะเรียกเสียงหัวเราะจากกลุ่มเพื่อนได้อีกครั้ง
อีหมวย อีชะนีหลงทิศ เตะบอลด้วยกันดีๆ ไม่ชอบ เดี๋ยวกูจะได้เตะผู้หญิงโชว์เพื่อนก็งานนี้
ทงเฮทำเป็นไม่สนใจคนที่กำลังโบกไม้โบกมือให้พลางหันไปสนใจลูกหนังกลมๆ ต่อ ฮยอกแจหุบยิ้มก่อนจะเอาคางเกยหน้าต่างอย่างผิดหวัง ตั้งแต่เมื่อไหร่แล้วก็ไม่รู้ที่ทงเฮเปลี่ยนไป ไม่ยอมเล่นด้วยกันเหมือนเมื่อก่อน ชอบกลับบ้านดึกด้วย จะปีนข้ามไปหาก็ไม่เคยจะอยู่ห้องสักที
“ไอ้เตี้ยมันไม่สนใจอีกแล้วล่ะสิ”
“บอกแล้วไงว่าอย่าเรียกทงเฮอย่างนั้น ทงเฮอ่ะไม่ได้เตี้ยนะ สูงกว่าเราตั้งหลายเซนต์” ฮยอกแจพยายามแก้ตัวให้น้องชายข้างบ้านก่อนจะเอาหนังสือขึ้นมาเปิดบ้าง เป็นอย่างนี้เสมอ ฮยอกแจชอบมาอ่านหนังสือช่วงวินาทีสุดท้ายก่อนเข้าสอบทุกครั้งนั่นแหละ
“อะไรกัน คุณแม่จะสูงกว่าคุณพ่อได้ไง คนที่สูงกว่าสิจะได้เป็นคุณพ่ออ่ะ” คยูฮยอนพูดกับร่างบางด้วยสีหน้าจริงจัง หากแต่ในใจนั้นกลั้นขำแทบไม่อยู่แล้ว
“...มีด้วยเหรอแบบนั้น” ฮยอกแจคิ้วขมวด ลังเลกับประโยคที่เพื่อนสนิทพูดไปเมื่อครู่ จริงๆ ก็รู้หรอกว่ามันไม่ใช่อย่างที่คยูฮยอนพูดสักหน่อย แต่ดูสีหน้าคยูฮยอนสิ
“มีดิ”
“ไม่เป็นไรหรอก ใครเป็นแม่เป็นพ่อก็ได้ทั้งนั้นแหละ เราไม่ซีเรียสหรอก..อา..น้องคิบอมเค้าดูดีจังเลย” ฮยอกแจว่าพลางมองไปยังสนามฟุตบอลที่ปัจจุบันมีหนุ่มป๊อปประจำสายชั้นมัธยมปลายปีหนึ่งยืนเฉิดฉายอยู่
“ชอบรึไง”
“อื้อชอบ คยูฮยอนคิดว่าไง เค้าเหมาะกับเราไหม” ฮยอกแจหันมาถามความเห็นจากร่างโปร่ง เจ้าตัวชะเง้อหน้ามองหนุ่มแก้มป่องที่จะอมยิ้มทุกครั้งเวลาโปรยเสน่ห์ให้กับสาวๆ คยูฮยอนหันมามองเพื่อนสนิทที่ตั้งหน้าตั้งตารอคำตอบนึกอยากถอนหายใจสักสิบรอบก่อนพูด
“ใฝ่สูง” <- นัดแรก
“=[]=!”
“มึงไม่เหมาะกับเค้าเลยสักนิดฮยอกแจ” <- นัดที่สอง
“ทำไมพูดแบบนั้นเล๊า.. ความไม่เหมาะสมนี่แหละคือจุดเริ่มต้นที่ดีนะ~” ฮยอกแจทำหน้ามุ่งมั่นพลางจ้องเข้าไปในดวงตาคู่สวยทะลุผ่านเลนส์แว่น
“ตรงไหนเหรอที่เรียกว่าดี” คยูฮยอนทำหน้านิ่งก่อนจะหันกลับไปรับขวดน้ำเปล่าที่ซีวอนยื่นให้ ร่างสูงนั่งลงข้างๆ คนรักก่อนจะก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือไม่มีท่าทีขี้เล่นเหมือนในทีแรก
เห็นอย่างนี้ซีวอนก็แบ่งเวลาเป็นนะครับ
“ไม่เคยดูการ์ตูนญี่ปุ่นเหรอ พระเอกที่เป็นหนุ่มฮ๊อตกับนางเอกที่เป็นเด็กผู้หญิงเฉิ่มๆ สุดท้ายแล้วเดี๋ยวพระเอกก็จะหันมาชอบนางเอกเข้าสักวัน” ฮยอกแจพูดพร้อมกับยิ้มกว้าง
“นั่นคือการ์ตูน ส่วนนี่ชีวิตจริง อีกอย่าง..มึงมันเพศผู้ว่ะฮยอกแจ” คยูฮยอนว่าพลางดันหนังสือชีวะเล่มหนาไปไว้ตรงหน้าร่างบาง
ฮยอกแจเบ้ปาก รู้สึกเซ็งนิดๆ ที่เพื่อนสนิทไม่สามารถเข้าถึงโลกแห่งจินตนาการของเขา ไม่เคยได้ยินเหรอ คนเราอยู่ได้ด้วยความหวังนะ แต่ที่คยูฮยอนพูดมันก็ถูกอยู่อย่างนึง..ฮยอกแจดูใฝ่สูงเกินไปจริงๆ นั่นแหละ..แล้วจะต้องทำยังไงดีนะ..ถึงจะพิชิตใจคิบอมได้
ร่างบางเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนทั้งสองที่หันไปติวหนังสือด้วยกันหมดคราบคู่รักฮาร์ดคอร์ไปโดยปริยาย บทจะจริงจังก็เล่นเอาปรับตัวไม่ถูก ฮยอกแจได้แค่ทอดสายตามองออกไปนอกสนามก่อนจะ..
ปิ๊ง!!!
ทงเฮไง! ทงเฮเป็นเพื่อนคิบอมนี่นา..
ทงเฮต้องช่วยฮยอกแจได้แน่ๆ เลย!
.
.
ความวุ่นวายเริ่มก่อตัวขึ้น
เมื่อเริ่มขอความช่วยเหลือจากใครอีกคน
ก๊อกๆ
ก๊อกๆ
คิ้วหนาขมวดพลางหันกลับไปมองที่หน้าต่าง ทงเฮถอนหายใจเบาๆ เมื่อเห็นพี่ชายข้างบ้านยืนเกาะแหมะเป็นตุ๊กแกอยู่ตรงนั้นก่อนจะเดินไปเปิดหน้าต่างให้
“บอกแล้วว่าอย่าปีนข้ามมา เดี๋ยวก็ตกลงไปหรอก” ทงเฮบ่นก่อนจะเดินกลับมานั่งเกากีต้าร์ ฮยอกแจดูมีลับลมคมใน ไม่รู้ซ่อนอะไรไว้อยู่ข้างหลัง ดวงหน้าหวานฉีกยิ้มอยู่ตลอดเวลา ไม่ต้องเดาเลยว่าต้องมีเรื่องมาอ้อนวอนเขาอีกเป็นแน่
“ก็ปีนข้ามมามันเร็วกว่าไปกดกริ่งหน้าบ้านแกนี่นา” ว่าแล้วก็ทิ้งตัวลงบนฟูกสีน้ำตาลก่อนจะนั่งจ้องอีกฝ่าย ทงเฮฮัมเพลงในลำคอเบาๆ ไม่ได้สนใจคนที่นั่งอยู่ข้างๆ เลยแม้แต่น้อย ฮยอกแจนั่งเรียบเรียงคำพูดก่อนจะสะกิดแขนอีกคน
“อะไร” ทงเฮละสายตาจากกีต้าร์ตัวโปรดพลางมองใบหน้ามนที่นั่งทำตาแป๋ว
“คือ..” ร่างบางอ้ำๆ อึ้งๆ ไม่รู้จะพูดยังไงดี เขินก็เขิน แต่ถ้าจะให้บอกว่า ‘แก..ช่วยฉันจีบคิบอมหน่อย’ มันก็จะดูเกินไป..
“มีอะไรก็พูดมา ไม่ต้องอ้อมค้อม ให้เวลาพูดแค่ห้าสิบวินาทีเท่านั้น..เริ่มได้” ทงเฮว่าพลางหยิบนาฬิกาขึ้นมานั่งจับเวลา
“สี่สิบเก้า สี่สิบแปด สี่สิบเจ็ด สี่สิบหก สี่สิบห้า...” ฮยอกแจเบิกตากว้างทำอะไรไม่ถูก แบบนี้มันกดดันกันชัดๆ นะ!! =[]=
“ดะ..เดี๋ยวสิ! เฮ้ยแกอ่ะ อย่าแกล้งกันสิ!! TAT” ฮยอกแจเขย่าแขนคนข้างๆ ที่กำลังจ้องดวงหน้าหวานหากแต่ริมฝีปากกลับนับเลขถอยหลังไม่หยุด
“สามสิบแปด..สามสิบเจ็ด..”
“โอเคๆ เล่าแล้วๆ ฉันชอบคิบอม ชอบมากๆ ไม่รู้จะทำยังไงดีแล้ว..คนนี้ฉันจริงจังมาก อยากคุยด้วย...เอ่อ...อะไรอีกนะ..อยากรู้จัก อยากไปเที่ยว อยากกินข้าวด้วยกัน อยากได้เบอร์โทร อยากแลกพินบีบี อยากเป็นแฟนด้วย!!” ฮยอกแจแรพออกมาเป็นพรืดจนทงเฮหยุดชะงัก ใบหน้าหล่อขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะมองเรือนร่างพี่ชายข้างบ้านก่อนจะหยุดที่ดวงหน้าหวาน
ฮยอกแจก็ไม่ใช่ว่าขี้เหร่นะ..ถึงก้นจะฟีบไปนิด..แต่ยังโชคดีที่เกิดมาขาว ถือว่าลบล้างกันไปได้..แต่มันคงจืดชืดเกินไปสำหรับคิมคิบอมว่ะครับ
“แล้วไง”
“แกต้องช่วยฉันนะ TAT” ฮยอกแจเขย่าแขนน้องชายข้างบ้านที่ทำหน้าเอือมเขาเต็มที
“ช่วยไรวะ ของแบบนี้มันช่วยกันได้ที่ไหน”
“ได้สิ แค่ช่วยแนะนำฉันให้เค้ารู้จักเอง ไม่ยากหรอก”
“การที่พี่จะเข้าไปทักมันก่อนก็ไม่ยากเหมือนกันว่ะครับ” ทงเฮพูด ฮยอกแจเบะปากเล็กน้อยก่อนจะชักไม้ตายออกมา
ร่างบางหันหลังกลับไปก่อนจะหยิบบางอย่างติดมือมา แต่ไอ้บางอย่างที่อยู่ในมือฮยอกแจนี่แหละที่ทำให้ทงเฮต้องอ้าปากหวอ
“เสื้อหงส์แดงลิเวอร์พูลพร้อมลายเซ็นสตีเว่น เจอร์ราร์ด..” ฮยอกแจยิ้มพลางคลี่เสื้อออก ในขณะที่อีกฝ่ายยังคงอึ้งอยู่อย่างนั้น
นี่มันของจริง!! ไม่ใช่ของก๊อบซะด้วย!!
“หมั่บ!”
ถึงกับคว้าเอาอากาศเมื่อเสื้อที่จงใจจะพุ่งเข้าไปแย่งกลับถูกชักกลับไป ฮยอกแจยิ้มกริ่มพร้อมกับมองหน้ารุ่นน้องที่ทำหน้าแหยใส่เขา
“รับปากก่อนว่าจะช่วย~”
“...................” ทงเฮยืนนิ่งหากแต่สายตายังคงกลอกไปตามเสื้อที่ร่างบางชูไปมาอยู่ตรงหน้า เสื้อก็อยากได้..แต่ไอ้ข้อตกลงนี่มันไม่เด็กเกินไปหน่อยเรอะ
“พี่ไปเอามาจากไหน”
“ไม่ต้องรู้หรอกน่า แต่ถ้าแกช่วยฉันนะ ฉันก็จะให้ นี่ตัวนี้ตัวสุดท้ายแล้วด้วย..ถ้าแกไม่เอา..อืมก็ได้นะ..ฉันจะยกให้แทมินมันเอาไปเช็ดเท้าเล่นแล้วกัน” ฮยอกแจทำท่าจะปีนหน้าต่างกลับห้องหากแต่ถูกใครอีกคนรั้งข้อมือไว้
เข้า ทาง
“อะไรเหรอ~”
“.................”
ฮยอกแจยิ้มกว้าง หากแต่อีกฝ่ายกลับทำหน้าลังเล โอย..เสื้อก็อยากได้
“จะให้ช่วยยังไงบอกมา”
.
.
คนเราไม่ควรยึดติดกับสิ่งของ..
เพราะตายไปแล้ว..ก็เอามันไปด้วยไม่ได้..
เสื้อนักฟุตบอลผ้าเนื้อดีถูกพรมจูบแล้วจูบอีก ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นออร่าสีขาวปกคลุมไปทั่วร่างของอีทงเฮ ฮยอกแจนั่งคุกเข่ายิ้มกว้าง นั่งจ้องคนตรงหน้าหวังให้ไอ้เด็กนี่เสพย์สุขให้เสร็จสักที จะได้เริ่มแผนการ
“ให้แล้วห้ามทวงคืนนะเว้ย”
“อื้อ ไม่ทวงหรอก” ฮยอกแจส่ายหัวพรืด ทงเฮวางเสื้อนักฟุตบอลไว้บนเตียงก่อนจะหันหน้าเข้าหาอีกฝ่าย
“จะช่วยก็ได้ แต่มีข้อแม้นะ ว่าจะช่วยแค่สองเดือน”
“อื้อ!”
“ถ้าสองเดือนจีบไอ้คิมกัมปั๊กไม่ติดนี่คือเลิกเถอะจริงๆ” ทงเฮพูด ไอ้คิบอมก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นคนจีบง่าย แต่เวลาสองเดือนบวกกับการที่เขายื่นมือเข้าไปช่วยขนาดนี้ ถ้าไม่ติดก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วล่ะ
“ถ้าไม่สำเร็จ...”
“ไม่สำเร็จก็ไม่ทวงคืนหรอก สองเดือนนะ นับตั้งแต่วันพรุ่งนี้” ฮยอกแจยิ้มกว้างก่อนจะเข้าไปหยิกแก้มอีกฝ่ายทั้งสองข้างอย่างหมั่นเขี้ยว ทงเฮได้แต่มองดวงหน้าหวานที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มก่อนจะลอบถอนหายใจเบาๆ
.
.
1.First Impression “ความประทับใจแรกพบ”
‘พี่รออยู่มุมตึก เดี๋ยวฉันจะแกล้งทำลูกฟุตบอลตกลงไปให้ไอ้คิบอมมันลงไปเก็บ..พอฉันให้สัญญาณพี่ก็เดินออกมาจากมุมตึกได้เลย...พอได้จังหวะก็เป๊ะ! เจอกันจะๆ พอดี..พอถึงตอนนั้นพี่ก็ชวนมันคุยซะ’
ตามคำแนะนำของอีทงเฮ..ฮยอกแจถึงได้มายืนตบยุงอยู่หลังตึกปีหนึ่งแบบนี้..นานเกือบยี่สิบนาทีแล้วป่านนี้ทงเฮยังไม่ส่งสัญญาณมาอีก นี่เขาทั้งยืนทั้งนั่งรอแล้วนะ
“ฮยอกแจ...!!” เสียงตะโกนจากชั้นบนของตึกทำให้ร่างบางเงยหน้าขึ้นมองไปยังชั้นสาม ทงเฮทำสัญญาณมือให้อีกฝ่ายเตรียมตัวก่อนที่ฮยอกแจจะฉีกยิ้มกว้าง
ในที่สุด!!!
ร่างบางเดินเก็บลูกฟุตบอลที่ถูกเตรียมไว้ขึ้นมาก่อนจะวิ่งไปที่มุมตึกอย่างรู้งานพร้อมกับนับถอยหลังตามหลักความจะเป็น
อีกไม่เกินสิบวิคิบอมต้องมาหยุดอยู่ตรงนี้..และถ้าออกไปจังหวะนี้ต้องเดินชนกันแน่ๆ เลยอ่ะ..แล้วถึงตอนนั้นคิบอมก็จะต้องพยุงตัวเราเอาไว้ -///-
ฮยอกแจเดินออกมาจากมุมตึกแล้วก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นใครอีกคนยืนอยู่ตรงหน้า ไม่ห่างมากเกินไป แล้วก็ไม่ใกล้จนมากเกินไป.. ดวงหน้าหวานขึ้นสีระเรื่อหากแต่ยังคงจ้องใบหน้าหล่อของร่างสูงอยู่อย่างนั้น คิมคิบอมยิ้มบางๆ ก่อนจะเดินมารับลูกฟุตบอลเมื่อร่างบางยื่นมาให้ ฮยอกแจเริ่มหน้ามืดเมื่อทนออร่าความหล่อของคนตรงหน้าไม่ไหว.. โอย..เขิน..เขินมากๆ
“ขอบคุณครับ”
ฮื่อออ.... T////A////T
แค่ประโยคเดียวเองนะ แค่ประโยคเดียวเอง.. ทำไมถึงได้ฟินนาเล่ได้ขนาดนี้
ล่องลอยไปแล้วสติสตางค์ T/////T
“อื้อ..ไม่เป...”
ซ่า!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
เสียงน้ำที่สาดลงมาจากชั้นสองแสกลงกลางหัวอีฮยอกแจเข้าเต็มๆ ในขณะที่ร่างบางยังคงยืนค้างอยู่ในท่านั้น คิมคิบอมยืนมองร่างบางที่เปียกโชกไปด้วยน้ำถูพื้นสีดำที่ส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์.. มือข้างที่ว่างยกขึ้นปิดจมูกก่อนจะค่อยๆ ถอยออกมาทีละก้าว..
\(TT////▽////TT)/ ....
คุณ..พระ..ช่วย
“เอ่อ..เดี๋ยวสิครับพี่” คิบอมเรียกรั้งท้ายคนที่กำลังช็อคจนวิ่งหนีไปหากแต่ไม่ได้ผล สงสัยจะอายมาก อา..แย่จริง..เป็นเพราะหยุดเก็บลูกฟุตบอลให้เขาแท้ๆ
ดูจากสีเน็กไทแล้วคงเป็นรุ่นพี่ปีสามสินะ..
ร่างสูงยิ้มขำกับสีหน้าร่างบางตอนที่ถูกน้ำสาดลงมาเมื่อครู่ก่อนจะเดินกลับขึ้นไปบนห้อง.. โดยที่มีใครอีกคนยืนดูเหตุการณ์อยู่ห่างๆ
“ถ้าชีวิตจะซวยเช็ดขนาดนี้น่ะนะฮยอกแจ” ทงเฮพึมพำกับตัวเองก่อนจะรีบวิ่งไปที่ห้องอาบน้ำ เพราะรู้ดีว่าฮยอกแจต้องตรงดิ่งไปที่นั่นแน่นอน
.
.
“เข้าไปนะ” ทงเฮพูดก่อนจะถลกขากางเกงขึ้นจนถึงเข่าพลางพับแขนเสื้อ ในห้องอาบน้ำประจำโรงเรียนที่มีขนาดกว้าง ผอ. จงใจสร้างให้ใหญ่โตเพราะโรงเรียนนี้ดีเด่นเรื่องกีฬา และหลังจากนักเรียนซ้อมเสร็จก็ต้องแห่กันมาอาบน้ำ อย่างที่รู้ๆ คือ..ไม่มีใครอยากรอคิวอาบน้ำหลังจากเสียเหงื่อมานักหรอก
“ทงเฮเหรอ”
“เออดิ เปิดประตูเร็ว” ทงเฮพูดก่อนที่ประตูจะเปิดออก ฮยอกแจในสภาพเปลือยเปล่ากำลังนั่งเอาแปรงขัดตัวเองอยู่อย่างนั้น อีกทั้งบนหัวยังมีฟองแชมพูอยู่เต็มหัวไปหมด แต่เดี๋ยวนะ..แก้ผ้าหมดตัวแบบนี้ไม่คิดจะอายกันบ้างเลยรึไง -_-
“รีบปิดประตูสิ เดี๋ยวมีคนเข้ามาเห็น” ฮยอกแจพูด คนถูกสั่งก็บ้าจี้ทำตามอีกต่างหาก ก่อนที่จะอายคนอื่น ช่วยอายกูก่อนดีไหมครับ
ผมเคยพูดย้ำนักย้ำหนาว่าอีฮยอกแจเป็นคนที่ไม่มีเสน่ห์ ไม่น่ารัก ไม่มีอะไรดีสักอย่าง สรุปคือต่อให้แก้ผ้าต่อหน้านกเขาผมก็ไม่ตื่นหรอก แต่ตอนนี้ผมขอเปลี่ยนความคิดนั้นออกไป
ฮยอกแจ...ทำไมพี่ถึงได้ขาวแบบนี้ว่ะครับ..
ถึงภายนอกจะดูเหมือนคนก้นฟีบ แต่พอมองใกล้ๆ แล้วมันก็น่าเข้าไปลองบีบดูสักครั้งเหมือนกันนะ..
(ทำไมกูลามกแบบนี้ orz)
“หันหลังมา หลับตาด้วย” ทงเฮจับไหล่บางให้หันหลังก่อนจะหยิบฝักบัวขึ้นมาล้างหัวให้อีกคนพลางบีบแชมพูลงบนฝ่ามือ
“แก”
“อืม” ทงเฮละเลงแชมพูลงบนหัวอีกคนพลางมองแผ่นหลังบางที่ขาวเวอร์เกินมนุษย์...สรุปนี่กูเวอร์เองรึเปล่าก็ไม่แน่ใจ แต่มันขาวมากครับท่านผู้ชม
“ฉันหัวเหม็นไหมอ่ะ”
“ไม่ใช่แค่หัว..เหม็นไปทั้งตัวแล้วเนี่ย” ทงเฮพูดก่อนที่อีกฝ่ายจะงอเข่าเข้าหาตัว น้ำตาจะไหลออกมาเป็นสายเลือด T_ T
โอ๊ยยยยยยยยยย เฟิสอิมเพรสชั่นของอีฮยอกแจ
ใครนะช่างขยันมาถูพื้นเอาตอนบ่าย..แถมยังสาดน้ำลงมาได้ใจร้ายสุดๆ
“แล้วคิบอมจะเหม็นฉันไหมอ่ะแก.. T_T” ถามอีก.. ต่อให้คนอื่นจะเหม็นก็ตามแต่ขอแค่คนเดียวเท่านั้น.. orz
เหม็นดิ..กลิ่นนี่ยิ่งกว่ารถดูดส้วมชนกับหุบเขาเอเวอร์เรสอีก..
“....ไม่หรอก”
ต้องตอบให้กำลังใจอีกฝ่ายเข้าไว้ถึงแม้ว่าจะไม่ได้คิดอย่างนั้น อันดับแรก..ต้องสร้างความมั่นใจให้กับฮยอกแจเสียก่อนสินะ
“ฟู่ว..โชคดีจังเลยเนอะ” พอได้ยินคำยืนยันจากปากคนที่ไว้ใจแล้วริมฝีปากแดงก็ยิ้มออกมาอีกครั้ง คำพูดคำจาน่ารักที่พ่นออกมาแต่ละครั้งนี่ทำให้อีทงเฮอดหมั่นไส้ไม่ได้
ก็เป็นซะอย่างนี้ไง ถึงได้ถูกเขาแกล้งอยู่ประจำ
Talk with Writer
มาแล้วนะตอนหนึ่งอ่ะ เป็นยังไงกันบ้าง
พอไหวไหม รู้สึกไม่คุ้นเลย #เสพย์ดราม่ามากเกินไป
ไม่รู้จะพูดอะไรอ่ะ 555555555555555
ฝากฟิคเค้าด้วยนะ อย่าทิ้งกันล่ะตัวเอง *โปรยจูบ*
ความคิดเห็น