คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ที่ห้องพักผู้ป่วย
บท 1
ผมลืมตาชึ้นมาภายในห้องสีขาวซึ่งเต็มไปด้วยของจำเป็นต่างๆครบครันทั้ง ตู้ โต๊ะ โซฟา ..ทุกอย่างดูเข้าชุดกัน..ห้องนี้มันดูหรูเกินไปกว่าจะเป็นห้องพักผู้ป่าวทั่วๆไป..ผ้าม่านตรงหน้าต่างบานใหญ่นั้นถูกปิดไว้อย่างดีแต่ก็มีแสงลอดเข้ามาสะท้อนกับหยดน้ำที่อยู่บนดอกไม้ในแจกัน..สายน้ำเกลือและเครื่องวัดต่างๆระโยงรยางค์..นั่นทำให้ผมต้องนอนนิ่งๆอยู่บนเตียง
ครืดดดดดดดดดด~
เสียงประตูบานเลือนดังขึ้น..ผมคาดว่าคงเป็นลูกน้องผมที่มาเยี่ยมหรือไม่ก็นายจ้างของผม..ผมกะจะส่งเสียงต้องรับออกไป..แต่คนๆนั้นกลับรีบเดินเข้ามาหาผมที่นอนซมอยู่บนเตียง..บุคคลที่คุ้นเคยหญิงสาวผมสีโคล่า..ดวงตาสีน้ำตาลอ่อน..ผิวขาวสะอาด..แต่ดูใบหน้าขอเธอจะเศร้าพิกล
“ซิก..ซิกม่า..”เธอเรียกชื่อผม..เบาๆก่อนที่จะเดินเข้ามาน้ำตาใสๆเริ่มซึ่มออกมาจากดวงตาและใบหน้าอันเหนื่อยหอบเห็นได้ชัดว่าเธอรีบวิ่งมาจนถึงที่นี้..
“มิล..”ผมพยายามแปล่งเสียงอันแหบแห้งเรียกชื่อเธอเบาๆแล้วยกมือเอื้อมไปหยิบแก้วน้ำบนโต๊ะมาดื่มจนหมดแก้วแล้วยกตัวลุกขึ้นนั่งแค่ผมขยับตัวความเจ็บก็แผ่ซ่านเข้ามาที่กระดูกสันหลัง
“อ๊ะ”ผมรองเบาๆแล้วจากนนั้นเพียงไม่กี่วินาทีก็มีมือเล็กๆของเด็กสาวคนนั้นมาพยุงหลังผมเพื่อให้นั่งได้สบายขึ้น..พอผมนั่งได้แล้ว..มิลก็ยกมือขึ้นมาลูบบนหัวผม..
“ผมยุ่งน่าดูเลยนะ”
“แหะๆ”ผมได้แต่หัวเราะแห้งๆกลับไป
.................
...........
.....
..
เราสองคนปล่อยให้ห้องเงียบอยู่นานพอตัวจนผมชักจะทนไม่ไหว..
‘ถ้าห้องมันเงียบแบบนี้..ละก็..ไม่ได้การต้องชวนคุย’
“เออ..คุณมินตราครับ..”ผมพูดแบบตะกุกตะกักออกไป..ผมว่าน้ำเสียงของผมมันดูน่าตลก..น้ำเสียงดูร้อนรนจะตัวเองรู้สึกได้
“ซิก..”มินเรียกชื่อผมห้วนๆอย่างเคย..
“ครับ?”ผมขานรับ”มีอะไรรึเปล่าครับ”
“เรียกแค่ มิน ได้มั้ย?..”
....
ผมเงียบไปขณะหนึ่งก่อนที่จะคิดได้ว่า..เอาก็เอา..อย่าทำให้เธอเศร้ากว่านี้เลย
“ครับ..มิน”ผมตอบ”แล้ววันนี้มินไม่มีเรียนหรอครับ”
“มีตอนบ่ายหน่ะ..ก็ทางโรงพยาบาลโทรมาบอกว่านายฟื้นแล้วฉันเลยมาเยี่ยม”
“งั้นหรอครับ..ขอบคุณนะครับ”
“แล้วนายกินอะไรรึยัง”
“ยังครับ..ผมไม่ค่อยอยากอาหารเท่าไร”
“ไม่ได้!!!!~”เธอตะหวาดผมลั่น”นายต้องกินข้าวเช้านะ..หรือไม่ก็ต้องหาอะไรรองท้องไปก่อน”หน้าแดงก่ำของมินแสดงให้เห็นชัดว่าเธอค่อนข้างจะโมโหผม..ให้ตายสิ..แบบนี้จะให้ผมทำยังไงละ..ใบหน้าแดงก่ำที่กำลังทำปากยู้ยีเหมือนนางพยาบาลใจร้ายแบบนั้น..ฮะฮะ..แต่เอาเข้าจริงๆแล้วเธอในตอนนี้น่ารักมาเลยละนะ..
“เอ่อ..งั้น..ผมจะเรียกพยาบาลให้เอาข้าวมาให้แล้วกันครับ..มินจะกินด้วยรึป่าว”
“ฉันกินมาแล้ว..”เธอพูดห้วนๆแล้วเดินไปนั่งลงบนโซฟาพร้อมๆกับวางกระเป๋าถือที่มีแอปเปิลแดงประมาณ 2-3 ลูกใส่ไว้แล้วเธอก็นั่งเฉยอยู่ตรงนั้น..
“มิน..ทำไมเดี๋ยวนี้เงียบๆนะ..”ผมถาม
“..มันก็แน่อยู่แล้วนิ..นายเองก็เปลี่ยนไปนะ..”เธอตอบ”ไม่เหมือนตอนที่อยู่อเมริกา”
“...”ผมเงียบ..คำถามที่ผมถามไปนั้นมันเป็นการขุดหลุมฝังตัวเองชัดๆ..ถ้าให้พูดตามตรงเลยคือท่านประธานบริษัทพ่อของมินให้เรา 2 คนไปเที่ยวกันตามลำพังที่อเมริกาที่จริงแล้วมินแค่จะไปเยี่ยมเพื่อนเท่านั้น..แต่ท่านประธานก็ส่งผมให้ไปคุ้มกันเธอเพราะที่นั้นเรามีคู่แข่งทางธุรกิจอยู่เยอะพอตัว..ตอนนั้นมินนับถือผมเหมือนพี่ชาย..แต่ระหว่างที่เราไปเที่ยวกันเรื่องต่างๆมันก็เกิดขึ้นมากมาย..มีวันหนึ่งเธอชวนผมไปกินอาหารเย็นที่ร้านค้าโทรมๆข้างถนน..มันดูไม่ค่อยเหมาะกับเธอนักแต่เธอบอกผมว่าอาหารร้านนี้อร่อยมากยังไงก็ต้องไป..ผมซึ่งไปในฐานะผู้คุ้มครองย้อมขัดไม่ได้อยู่แล้ว..วันนี้พวกเราเลยกินข้าวเย็นกันที่ร้านอาหารนั้น..แล้วอยู่ๆเธอก็คึกอะไรไม่รู้สั่งเหล้ามาเหยือกหนึ่ง..
“มิน..สั่งมาทำไมเนี่ย”ผมถาม
“เอาน่าๆ..ยังไงฉันก็อายุถึงแล้วนะ..ไม่เป็นไรหรอก”
“ผมกินไม่ได้นะ..เพราะถ้าผมเมาไปคงแย่”ใช่มันคงแย่สำหรับผู้ที่ทำหน้าที่คุ้มกัน..แต่เหล้าเหยือกเดียวมันไม่ทำให้ผมเมาได้หรอก..ผมก็แค่พูดไปแบบนั้นเอง
“ก็ได้ๆๆๆ..ฉันกินคนเดียวก็ได้~”เธอบอกแล้วจากนั้นก็รินเหล้าจากเหยือกนั้นมาสาแก้วไว้แล้วซดเข้าไปจนหมด..จะว่ายังไงดี..ตอนนั้นผมก็แอบคิดนะว่าคนที่เพิ่งเคยดื่มเป็นครั้งแรกนั้น..กระดกเหล้าเข้าไปหมดแก้วได้โดยไม่พ่นออกมาก่อนก็บุญนักหนาแล้ว
“ฮ่า~..”เธอถอดหายใจยาวออกมา
“มิน..อย่าดื่มมากนะครับ..เดี๋ยวผมไปสั่งอาหารเพิ่มก่อนนะ..”ผมลุกออกจากที่นั่งไป..ต่อคิวเพื่อสังอาหาร..คิวมันยาวพอควรนั่นทำให้ผมมีเวลามากพอกับการหันหลังกลับไปดูมินที่กำลังรินเหล้าจากเหยือกลงในแก้ว..จากที่ผมดูอยู่ตอนนี้เธอกำลังดื่มแก้วที่ 2
“..อะไรเนี่ย..”ผมพึมพำคนเดียวเบาๆ..
“รับอะไรดีครับ”พนักงานถาม
“เอ่อ..ไก่อบทั้งตัวครับ”ผมตอบกลับไปจากนั้นพนักงานก็ส่งกระดาษบางอย่างให้ผมมันคือกระดาษที่ให้ผมเขียนว่าผมนั่งอยู่โต๊ะไหน..ในร้านที่มีโต๊ะเพียง 6 โต๊ะเท่านั้น..ทำไมต้องทำให้ยุ่งยากด้วยนะผมจำไม่ได้ว่าเรานั่งอยู่โต๊ะไหนผมจึงพยายามจะบอกเขาใหม่
“โต๊ะที่มีผู้หญิงนั่งดื่มเหล้าแล้วมีเหยือกเหล้าอยู่บนโต๊ะหน่ะครับ”
“ไหนครับ?”พนักงานทำหน้างแล้วถามกลับ
“ก็นั่นไง..ผู้หญิงผมสีโคล่าคนนั้น”ผมหันหน้าไปชี้ให้พนักงานคนนั้นดูแล้วก็พบว่าเธอกำลังก้มลงอวกอยู่ตรงนั้น
“บ้าเอ้ย..ขอโทษนะครับ..ไม่เอาไก่อบแล้วครับ”ผมบอกพนักงานอีกทีก่อนที่จะรีบวิ่งไปแล้วลากมินออกมาจากโต๊ะพร้อมๆกับควักเงินค่าอาหารวางไว้บนโต๊ะเปื้อนอวก..แล้วเดินออกจากร้านไป
“ซ.ซิก”ผมได้ยินเสียงเล็กพึมพำเบาๆอยู่ข้างๆหู
“ครับ?”ผมขานตอบ
..... ไร้เสียงตอบกลับใดๆ..ผมที่กำลังแบกเธอไว้บนหลังกำลังคิดว่าเธอเป็นพวกเมาแล้วหลับนี่เอง..สงสัยคงเหนือยละมั้งก็วันนี้เธอพาผมเดินทั่วเมือง
“ซิก..”เสียงเล็กกระซิบข้างหูผมอีกครั้งแต่คราวนี้ผมไม่ได้ตอบกลับไปไม่นานก็มีเสียงขึ้นอีก
“ฉัน..ชอบนายนะ..”ผมนิ่งไปขณะท่ามกลางฝูงชนของอเมริกาที่กำลังเดินสวนทางกันอยู่นั้นดูเหมือนว่าผมเป็นจุดเล็กๆเพียงจุดเดียวที่หยุดนิ่ง..แล้วผมก็เดินต่อไปโดยไม่พูดอะไร..
“ซิก..นาย..ปกป้องฉันมาตลอตั้งแต่ที่เจอกัน..”เธอยังพึมพำต่อไปเรื่อยๆในขณะที่ผมนั้นรับฟังอยู่เงียบๆพร้อมๆกับแบกเธอเดินกลับบ้านพัก
“วันแรก..พ่อพาเธอมาที่บ้าน..เด็กผู้ชายตัวเหม็น..ฉันเรียกเธอแบบนั้น..อาทิตย์ต่อมานายก็ปกป้องฉันจากพวกเด็กผู้ชายคนอื่น..ขอบคุณนะ..แล้วนายก็ยังคอยปกป้องฉันมาตลอด..ขอบคุณจริงๆนะ”
“อืม..”ผมตอบกลับไปเบาๆ..ที่บ่าผมดูเหมือนจะเปียกอะไรนิดหน่อย..ผมหันกลับไปดู มินร้องไห้ทั้งๆที่ตาหลับอยู่ใบหน้านั้นช่างน่าหลงใหล..ซะเหลือเกิน..ผมแบกเธอกลับมาที่บ้านพักทั้งแบบนั้นแล้วอุ้มเธอไปวางไว้บนเตียงหนังสีดำแล้วผมก็เช็ดตัวในเธอ..เช็ดแค่ส่วนที่อยู่นอกเสื้อผ้าเท่านั้นแหละ..
...............
.....
แสงแดดยามเช้าส่องเข้ามาในห้อง..ผมที่นอนหลับอยู่บนโซฟาสีดำตัวใหญ่ริมห้องนั้นโดนแสงแดดเต็มๆ
“อ่า..”ผมถอดหายใจออกยาวๆก่อนที่จะเดินลงไปเตรียมอาหารสำหรับมื้อเช้า..ไข่ดาว แฮม เบคอน และขนมปังปิ้ง..อาหารง่ายๆไม่กี่อย่างกูกวางไว้บนโต๊ะ..เหลือแต่เพียงกาแฟที่ผมต้มไว้
“มิม..ผมเตรียมข้าเช้าแล้วนะ..”ผมตะโกนเข้าไปในห้องนอน..แต่ไม่เสียงตอบรับ
“ผมเข้าไปนะ”ผมเปิดประตู..แต่กลับไม่มีใครอยู่ในห้อง..ทันทีที่ผมเดินเข้าห้องไปก็มีแขนเล๊กๆยื่นมาผลักผมล้มลงกับพื้นแล้วยังจะงัดขาผมเล่นอีก
“โอยๆปล่อยนะ..”ผมร้องที่จริงนั้นแค่การแสร้งทำ
“ฮะๆๆๆ”เธอหัวเราะขึ้นแล้วยิ่งยกขาผมขึ้นสูงอีก..ผมก็เลยโต้กลับ..ใช้มือทั้ง 2 ข้างจี้ไปที่เอวของเธอ..ทันใดนั้นเสียงหัวเราะดัง กร๊ากกกๆๆ ดังขึ้นข้าของผมถูกปล่อยแล้วผมก็จี้เอวเธออยู่แบบนั้นจนเธอวิ่งหนีไป..แล้วผมก็วิ่งตามไปว่าจะแกล้งต่อแต่แล้ว
“โอยยยยยยยยยย”เสียงเล็กแหลมร้องออกมาผมวิ่งไปดู..สภาพที่เห็นคือมินนั่งลงกับพื้นเอามือกุมหัวตัวเองไว้แล้วน้ำตาก็ไหลออกมา
“ฮะๆๆ..”ผมหัวเราะ
“ไม่ต้องเลยซิก..”มินตะหวาดผมหน้าแดงก่ำไม่รู้ว่านั้นเพราะเธอโกรธหรืออายผลเลยเดินเข้าไปใกล้ๆแล้วเป่าแผลที่เธอกุมไว้
“หายแล้วนะ..”ผมพูดแล้วเธอก็ผลักผมออก..
พอลองนึกๆดูแล้วผมเองนั่นแหละที่เป็นฝ่ายเปลี่ยนไป..พอกลับมาท่านประธานบริษัทก็มาบอกผมว่ามินมีคู่หมั้นแล้ว..นั้นคงเป็นอะไรที่ผมไม่สามารถห้ามได้..ยังไงผมก็แค่คนคุ้มกันเธอแค่นั้น..
“ผม..ขอโทษ”
“...”เธอเงียบ..ผมไม่รู้ว่าสิ่งที่เธอละเมอออกมาตอนนั้นเธอพูดจริงรึเปล่า..แต่นั้นมันทำให้ผมดีใจเอามากๆ..แค่ความรู้สึกก็พอ..สำหรับคนคุ้มครองมันถือว่าเป็นพระคุณมากพอแล้ว..
“ซิก..มินไม่อยากแต่งงานกับเขา”เธอพูดทั้งน้ำตา
“..”ผมเงียบ
“เขาไม่ได้รักมินเลย..เขามันโหดร้าย”เธอฟูมฟาย..จนผมทนไม่ได้..ผมยกมือขึ้นลูบหัวเธอเบาๆนั่นทำให้เธอหยุดร้องไห้แล้วหันมามองหน้าาผมอีกครั้ง
“ผม..สาบานไว้แล้วว่าจะปกป้องมิน..ถ้าเขาทำอะไรมิน..ผมนี่แหละจะไปช่วยมิน”ผมพูดขึ้น..มันเป็นคำพูดที่ผมรู้ว่าไม่มีทางเป็นไปได้..ถ้ามอนต้องแต่งงานก็หมอนั่น..ผมก็คงจะมีแต่ต้องปล่อยเธอไป..
“อืม..ขอบคุณนะ..ฉันเอาแอปเปิลมา..กินมั้ย?”เธอปาดน้ำตาออกก่อนที่จะหยิบแอปเปิลแดงออกมาจากกระเป๋า
“ครับ”ผมยิ้มให้เธอแล้วหยิบมีดปอกผลไม้ที่วางอยู่ในตู้ลิ้นชักข้างตัวออกมาให้เธอเพื่อปลอกผลไม้..ดูเหมือนว่าเธอตั้งในจะทำเป็นรูปกระต่าย?..ผมคิดว่ามันคงเป็นแบบนั้นพอเธอทำเสร็จชิ้นหนึ่งก็จะยื่นมาให้ผมกิน..ที่จริงแล้วตอนเด็กๆผมไม่ค่อยชอบมันนักหรอก..เพราะเปลือกมันติดฟันนี่สิ..แต่พอโตขึ้นผมก็เริ่มที่จะมองข้ามจุดๆนี้ไป..
“ซิก..จะออกจากโรงพยาบาลได้เมื่อไร”
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน..ไว้ถ้าผมออกจากโรงพยาบาลแล้วผมจะไปหานะ”
“อืม..งั้นมินไปแล้วนะ..”
“ครับ..ระวังด้วยนะครับ..”ผมพูดทิ้งท้ายก่อนที่จะโบกมือให้เธอแล้วเธอก็เดินออกจากห้องไป
ครืด~
ผมนั่งเงียบอยู่ซักพักเพื่อให้น่ใจว่าจะไม่มีใครมายุ่งกับผมอีกซักพัก..จากนั้นผมหยิบอุปกรณืกลมๆสีดำอันเล็กๆขึ้นมากดปุ่มเปิดเครื่องไฟสีแดงส่องสะท้อนออกมาเป็นเส้นเล็กๆรอบอุปกรณ์ชิ้นนั้นเป็นสัญญาณว่ามันกลังทำงานอยู่แล้วผมก็เอามันไปเสียบไว้ที่หูจากนั้นก็ปรับสัญญาณอีกนิดหน่อย
ซ่า~
เสียงคลื่นแทรงส่งเสียงน่ารำคาญอยู่ซักพัก
“นี่ซิกม่า..ตอบด้วย”ผมพูดซ้ำไปมา
“ครับ..”มีสัญญาณตอบกลับมา
“จัดการตามที่ผมบอกรึยัง”
“เรียบร้อยแล้วครับ..พวกมัน 4 คนอยู่กับเราแล้วครับ..แต่ดูเหมือนว่าพวกมันจะไม่ยอมพูดอะไรเลยครับ”
“ก็ถ้าพวกมันไม่พูด..ก็ปิดปากมันไปซะเลย”
“ตามนั้นครับคุณซิก”
ปังๆๆๆ
“เรียบร้อยแล้วครับ..จะจัดการต่อแบบไม่ให้เหลือเลยครับ”
“งั้นก็ดี..ปี๊บ”ผมตัดสายอุปกรณ์สื่อสารนั้นก่อนที่จะถอดมันออกมาบี้จนมันพังคามือผม..ยังไงไอ้อุปกรณ์แบบนี้ผมก็เป็นคนสร้างมันเองอยู่แล้วดังนั้นทำพังไปซักอันก็คงไม่เป็นไร..ส่วนเรื่องเจ้าพวกนั้น..มันสมควรแล้วที่ผมต้องมาติดอยู่ในโรงพยาบาลก็เพราพวกมันพยายามจะลักพาตัว มิน ซึ่งตอนนั้นผมไม่ได้อยู่กับเธอ..เธอเลยถูกพาตัวไปแต่ผมก็ตามไปช่วยไว้ทัน.เราวิ่งหนีกลุ่มชายฉกรรจ์กว่า 20 คนที่เป็นแก๊งลักพาตัว..ผมไม่กล้าสู้เพราะกลัวว่ามินจะโดนลูกหลงก็เลยได้แต่พาเธอวิ่งไปมาๆ และคอยกันกระสุนให้..จนลูกน้องของผมตามมาทัน..มินพาผมไปส่งที่โรงพยาบาล..ผมสั่งให้ลูกน้องผมตามหาตังบงการให้เจอแต่ก็เจอแค่ระดับหัวหน้าหน่วยสาวไปไม่ถึงตัวการใหญ่..แต่อย่างน้อยที่ผมสังฆ่าพวกหัวหน้าหน่วยไปก็คงทำให้ฝ่ายนั้นกังวลกันบ้างละ..
ผมนั่งนิ่งอยู่บนเตียงสีขาวสะอาดมองไปทางหน้าต่างบานใหญ่ที่มีแสงอาทิตย์ลอดเข้ามาในห้องนั่นทำให้ห้องดูสว่างมากขึ้นโดยไม่ต้องเปิดไฟ..ก็แน่ละ..นี่มันตอนกลางวัน..แล้วผมก็เผลอหลับไป
“แดดวันนี้..แรงจังนะ”เสียงแผ่วเบาดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ..ผมตื่นขึ้นและหันไปมองทางต้นเสียงนั้น
“ว่าไง..ซิกมา..รู้สึกดีขึ้นรึเปล่า”เสียงของชายแก่วัย 50 ปลายๆดังขึ้น เขาสวมสูทสีหรูสีดำเข้ากับเน็คไทด์สีน้ำเงินเข้มเป็นอย่างดี..ผมสีขาวของเขานั้นทำให้เขาดูแก่กว่าความเป็นจริงมาก..มือทั้ง 2 ข้างกุมกันบนไม้เท้า ที่นิ้วกลางข้างขวาสวมแหวนทองคำขาวฝังอัญมณีสีแซฟไฟร์บลูเม็ดใหญ่ไว้นี่คงเป็นตัววัดความร่ำรวยของเขาได้ดีทีเดียว..และสุดท้าย..ผมรู้ว่าเขาคือใคร
“ท่านประธาน..”
“อย่าตกใจไปซิกม่า..ฉัน..ไม่ได้มาเพื่อต่อว่าเธอ..”ชายแก่พูดขาดช่วงขาดตอนแล้วเขาก็ลงไปนั่งบนโซฟาสีขาวสะอาดก่อนที่จะเริ่มพูดอีกครั้ง
“ฉันรู้ซิกม่า..ว่าเธอทำทุกอย่างแล้วเพื่อปกป้องลูกสาวฉัน..”
“ครับ..”
“และครั้งนี้เธอก็..ทำได้อย่างเคย..ช่วยชีวิตลูกสาวฉันได้..”
“..”ผมเงียบ..เพราะผมไม่รู้ว่าผมควรจะทำตัวอย่างไรในตอนนี้..มันคงจะดีกว่าถ้าผมยังนอนเงียบไม่ตอบอะไร
“ฉันมีงานให้เธอทำ..ซิกม่า..”ชายแก่พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง.. แหวนวงหนึ่งยื่นให้กับผม..ผมรับมา..มันเป็นแหวนเงินที่ดูธรรมดาเกินกว่าที่มหาเศรษฐีอย่างเขาจะพกติดตัว
“นี่อะไรครับ?”ผมถาม
“..”เขาเงียบ”นี่..หน่ะ..เป็นสมบัติล้ำค่าของฉัน..”
“สมบัติ..แล้วเอามาให้ผมมันจะดีหรอครับ?”
“เธอต้องรักษามันไว้..ไม่ว่ายังไง..”ชายแก่พูดทิ้งท้ายก่อนที่จะเดินออกไปจากห้องโล่งสีขาว
“เอ่อ..ท่านครับ!!”ผมตะโกนไล่หลังไป..เรียกให้เขาหยุดเดิน
“ผมขอออกจากโรงพยาบาลพรุ่งนี้จะได้มั้ยครับ..ผมว่า..ผมนอนมามากพอแล้ว..”
“งั้นหรอ..แล้วนี่หายเจ็บแล้วรึไง”
“ครับ..ผมรู้สึกดีขึ้นมากแล้ว”
“ก็ถ้าเธอว่าแบบนั้น..เดี๋ยวฉันจะทำเรื่องให้แล้วกัน”ชายรับคำพร้อมกับส่งยิ้มให้ก่อนที่จะดินจากไป
ครืด~
เสียงปิดประตูดังขึ้นอีกครั้ง..แล้วก็เงียบไป..ตอนนี้มีแค่ผมคนเดียวที่อยู่ในห้อง..ผมหวังแค่ว่าขอให้พรุ่งนี้ผมได้ออกจาโรงพยาบาล..แล้วผมก็หยิบแหวนที่ท่านประธานให้ไว้มาดูอีกที..เป็นแค่แหวนที่ทำงากเงิน..แต่ผมว่ามันเบาเกินกว่าที่จะเป็นเงินทั้งอัน..แล้วข้างในก็สลักบางอย่างเอาไว้..อักษรบางอย่างที่ผมอ่านไม่ออก..แต่มันมีอะไรที่คล้ายๆกับรอยปานของผมที่ไหล่ซ้าย..รูปดาวสี่แฉก..ผมไม่ได้คิดอะไรมาก..แหวนนี่ก็แค่สิ่งที่ท่านประธานฝากผมไว้ก็แค่นั้น..ผมสวมแหวนไว้บนนิ้วหัวแม่มือข้างขวาแล้วข่มตาหลับลง..นั้นคือวิธีเร่งเวลาที่ผมถนัดที่สุด..รีบๆนอนจะได้ถึงพรุ่งนี้เร็วๆ
.............................
..................
........
.
ความคิดเห็น