ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    . Special one ♡ ( chanbaek )

    ลำดับตอนที่ #13 : . 12 .

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.4K
      6
      11 พ.ค. 58

    . 12 .

     


     

         เซฮุนมันคงไม่รู้สินะ ว่าตอนนี้ผมกำลังใช้ความอดทนมากขนาดไหนที่ยั้งมือตัวเองไม่ให้ยื่นออกไปตบหัวทุย ๆ ของมันที่กำลังกวนตีนผมด้วยการตักเศษอาหารที่มันไม่กินมาใส่จานผม กวนตีนไปเถอะจ้า อีกนิดเท้ากูจะลั่นละโอเซ

     

              " ไอฮุน อย่ากวนตีนดิ "


              " กูหวังดีนะ เผื่อมึงกินไง "


              " มันกินได้ที่ไหน "


              " อ้าว กูเห็นมึงกินทุกอย่างอ่ะ "


              " งั้นตักข้าวมึงมาสิ อันนั้นกูกินได้ " นั่น ทีงี้ละรีบเลื่อนจานข้าวเข้าหาตัวเลยนะ สึด


              " เรื่องอะไรกูจะให้ "


              " อย่าเผลอนะเว้ย ข้าวหายไปรู้ตัวแน่ "


              " ตะกละ "


              " มึงเพิ่งรู้หรอเพื่อนรัก "


              " อ้าว นั่นคยองซูหนิ " คนตัวเล็กหันไปมองตามทางที่เพื่อนสนิทกำลังมองอยู่อย่างอัตโนมัติ เมื่อได้ยินชื่อเพื่อนอีกคนที่ไม่ได้เจอกันมานาน


              " คยองซู เฮลโหล " ผมตะโกนเรียกคยองซูที่ยืนอยู่หน้าตู้กดน้ำอย่างไม่อาย เพราะตอนนี้บ่ายโมงจนเกือบจะครึ่งแล้ว นั่นหมายความว่าคนที่มีเรียนในคาบบ่ายเขาขึ้นห้องกันไปหมดแล้วหนะสิ โรงอาหารถึงได้โล่งแบบนี้


              " อ้าว ไอแบค .. หวัดดีเซฮุน "


              " หวัดดีคยองซู "


    " ทำไมยังนั่งกินข้าวกันอยู่วะ บ่ายไม่มีเรียนหรอ "


              " เออ ไม่มีอ่ะดิ "


              " กูก็ไม่มี "


              " อ้าว แล้ว .. เดี๋ยวนะ มึงเป็นอะไรเนี่ย ทำไมหน้าดูเซ็ง ๆ "


              " ก็เซ็งอ่ะดิวะ โคตรซวยเลย " คยองซูบ่นพร้อมกับลากเก้าอี้ออกจากโต๊ะเสียงดัง ก่อนจะนั่งลงไป ไม่รู้อะไรทำให้มันอารมณ์เสียได้ถึงขนาดนี้ สงสัยจะเป็นเรื่องใหญ่แน่ ๆ เพราะปกติคยองซูออกจะนิ่งกับทุกสิ่งทุกอย่างบนโลก


              " วอทแฮปเพ้นวะ มายบอย "


              " อาจารย์อ่ะดิ เค้าให้กูไปช่วยเป็นทีเอคู่กับรุ่นพี่คนนึง .. ซึ่งมันจะไม่เป็นอะไรเลย "


              " … "


              " ถ้ารุ่นพี่คนนั้นไม่ใช่แฟนเก่ากู "


              " อ้าว งี้เหี้ยเลย "


              " ซวยจริง ๆ ด้วยหวะ "


              " เออดิ "


              " แฟนเก่ามึงนี่ใคร ทำไมกูไม่เห็นรู้เรื่องเลยวะ "


              " คบกันไม่นาน เวลาอยู่ในวิทลัยก็ไม่ค่อยอยู่ด้วยกันด้วยอ่ะ "


              " หล่อป่ะวะ "


              " ดำ ! "


              " อุ่ย "


              " แต่ช่างมันเหอะ กูไปก่อนนะ เดี๋ยวจารรอ "


              " เออ สู้สู้ละกันนะมึง "

     

         คนตัวเล็กตรงหน้าผมลุกขึ้นยืน คว้าขวดน้ำเตรียมจะเดินกลับไปที่ห้องครัว แต่พอได้ยินคำว่าสู้สู้จากผมเท่าแหละ มันก็หันกลับมามองด้วยใบหน้าเนือย ๆ ก่อนจะยกมือขึ้นลูบหัวแล้วเดินออกไป จะว่าไปแล้วท่าทางเรื่องนี้จะหนักเอาการอยู่เหมือนกัน เพราะตั้งแต่รู้จักกับคยองซูมา เพิ่งเคยเห็นมันในโหมดนี้เป็นครั้งแรก


    .

    ก๊อก ก๊อก


              " พี่ชานยอลเราเอาแก้วมาคืน มีเค้กด้วย :D " ทันทีที่ประตูสีขาวถูกเปิดออกผมก็พูดพร้อมกับชูถุงพลาสติกในมือให้คนตรงหน้าดู


              " โอโห ซื้อมาสามชิ้นจริงหรอเนี่ย พี่จะกินหมดมั้ย "


              " หมดอยู่แล้วววว "


              " เรารีบไปไหนมั้ย เข้ามาหน่อยสิ "


              " หื้อ พี่ชานยอลมีอะไรหรอ " ผมเลิกคิ้วขึ้นแล้วก้าวขาเข้าไปในห้อง ก่อนจะหันไปถามคนตัวสูงที่กำลังเดินตามมา " โห กลิ่นอะไรอ่ะ หอมมากกกกก ! "


              " คัลบิจิมหนะ ไม่แน่ใจว่าอร่อยหรือยัง .. เราช่วยชิมให้หน่อยสิ "


              " แค่กลิ่นก็รู้แล้วว่าอร่อย ! "


              " ทำเป็นชม อยากได้เค้กชาเขียวกลับห้องล่ะสิ "


              " อุ่ย รู้ด้วยหรอ :D " พี่ชานยอลหัวเราะออกมาเบา ๆ แล้วเดินอ้อมหลังผมไปหยิบช้อน ตักซุปในหม้อขึ้นมาเป่านิดหน่อย แล้วยื่นมาให้ตรงหน้า ผมอ้าปากรับน้ำซุปนั้นเข้าปากก่อนจะทำตาโต เพราะมันอร่อยมากอย่างที่คาดไว้


              " อร่อยจริง ๆ ด้วย "


              " จริงหรอ "


              " อื้อ ๆ "


              " กัดช้อนเป็นเด็กเลยนะ อายุเท่าไหร่แล้วเราเนี่ย "


              " สามขวบครับ "


              " งั้นกินข้าวด้วยกันมั้ยครับ เด็กสามขวบ " คนตัวสูงถามพร้อมกับย่อตัวลง ท้าวแขนไว้ที่เข่าและใช้มืออีกข้างวางลงบนหัวของผม โอโห โดนแอทแทคเข้าไปแบบนั้นผมถึงกับเผลอกัดริมฝีปากล่างของตัวเองเลย หันหน้าหนีแทบไม่ทัน ร้อนกว่าหม้อซุปก็คงเป็นแก้มผมตอนนี้เนี่ยแหละ


              " เรากินจากในครัวมาแล้วอ่ะดิ "


              " กินมาอิ่มเลยหรอ "


              " อื้อ ยังไม่ค่อยหิวด้วยแหละ "


              " อ๋อ "


              " ไว้วันหลังนะ เราไม่พลาดแน่นอน ! "


              " โอเค ได้ "


              " แล้วพี่ชานยอลก็จะกินข้าวคนเดียวหรอ ? "


              " ก็คงแบบนั้น เรากินมาแล้วนี่นา " พี่ชานยอลตอบพร้อมกับเอื้อมมือหยิบชามใบขนาดกลางออกมาจากชั้นวาง แล้วตักซุปใส่เพื่อทานข้าว


              " เหงาป่ะ เดี๋ยวเรานั่งเป็นเพื่อน " ผมเลยถามแล้วถือวิสาสะเลื่อนเก้าอี้โต๊ะกินข้าวฝั่งตรงข้ามกับเขาออก นั่งลงทันที คนตัวสูงหันมามองผมก่อนจะยิ้มออกมานิดหน่อย เลื่อนเก้าอี้ออกแล้วนั่งลงบ้าง


              " เราไปเอาเค้กมากินสิ "


              " แต่เราซื้อมาให้พี่ชานยอลนะ "


              " ตั้งสามอัน พี่กินไม่หมดหรอก .. ถึงจะชอบแต่ถ้ากินเยอะ ๆ มันก็เลี่ยนนะ "


              " พี่ชานยอลขี้เบื่อด้วยอ่ะดิ "


              " ค่อนข้าง "


              " งั้น ถ้าเบื่อที่เรามาวุ่นวายแล้วบอกด้วยนะ J " ไม่แน่ใจว่าพูดออกไปแบบนั้นแล้วอีกคนจะรู้สึกยังไง คนตัวเล็กเลยเลี่ยงด้วยการลุกขึ้นเดินไปหยิบเค้กหลังจากที่พูดจบ ทำให้ไม่ได้ยินประโยคที่อีกคนพูดต่อ


              " หะ เมื่อกี้พูดอะไรกับเราป่ะ "


              " หื้อ " คนตัวสูงส่ายหน้าเป็นคำตอบ เพราะทั้งซุป ทั้งข้าวเต็มปากไปหมดจนแก้มตุ่ย

             

              " อร่อยป่ะ " พี่ชานยอลนั่งมองผมตักเค้กชาเขียวที่ควรจะเป็นของเขาเข้าปาก แล้วถามถึงรสชาติของมันอย่างสนใจ


              " อื้อ อร่อยดีนะ เราไม่เคยกินรสชาเขียวเลยอ่ะ คิดว่ามันจะขม ๆ จืด ๆ ซะอีก "


              " แล้วอร่อยกว่าเค้กวานิลลาสตอเบอรี่หรือเปล่า J "


              " ไม่มีทางงงงงงงงงงง "


              " มันอร่อยขนาดนั้นเลยหรอ "


              " พี่ชานยอลไม่เคยกินหรอ ! "


              " มันเป็นเรื่องน่าตกใจขนาดนั้นเลยหรอ ฮ่า ๆ " ผมไม่แน่ใจว่าเขาหัวเราะเพราะท่าทางโอเว่อร์แอคติ้งของผมหรือเพราะเราเอาแต่ตอบคำถามของอีกฝ่ายด้วยประโยคคำถาม กันแน่ แต่นั่นมันก็ทำให้ผมเผลอหัวเราะออกมาบ้าง


              " พลาดแล้วอ่ะ ขอบอก "


              " ไว้พี่ลองซื้อมาชิมดู "


              " แล้วจะติดใจ จนลืมเค้กชาเขียวไปเลย "


              " ขี้โม้จริง ๆ เลยนะ " คนที่กำลังทานข้าวพูดด้วยความเอ็นดู พร้อมกับใช้ปลายช้อนที่ถืออยู่เคาะลงไปที่หน้าผากของคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเบา ๆ ทำให้คนหน้าหวานตรงหน้ายู่ปากเล็กกลับมาเป็นการตอบแทน


              " พี่ชานยอลนั่นแหละขี้โม้ ไหนบอกจะเอารูปตอนเด็กให้เราดูไงงง "


              " เออนั่นสิ พี่ลืมสนิทเลย "


              " ทำเป็นลืมเปล่าเนี่ย "


              " จริง ๆ แล้วไม่ต้องทำเป็นลืมเราก็ไม่ได้ดูอยู่ดีอ่ะ "


              " ทำไมอ่ะ พี่ชานยอลจะเบี้ยวเราหรอ L "


              " รูปตอนเด็กมันอยู่บ้านหมดหนะสิ ไม่ได้เอามาที่นี่ด้วย "


              " ว้า แบบนี้ก็อดเห็นเลย "


              " ไว้พี่กลับบ้านเมื่อไหร่ จะขนอัลบั้มมาให้ดูเลย "


              " สัญญาป่ะ "


              " แน่นอน "


              " งั้นไว้เราจะเอาอัลบั้มเรามาแลก :D "


              " สัญญาป่ะ "


              " แน่นอนดิ "

     

         นั่งคุยกันไปอีกซักพัก ผมก็ขอตัวกลับห้องถึงแม้ใจจริงอยากจะย้ายมาอยู่กับเขาเลยก็เถอะ อุ่ย แรดไปหรอ แฮะ .. ก็ผมชอบเขานี่ ยิ่งเวลาที่คุยกันแล้วทั้งยิ้ม ทั้งหัวเราะไปพร้อม ๆ กันแบบนั้น มันก็ยิ่งทำให้รู้สึกดียิ่งขึ้นไปอีก ไม่แน่ใจเท่าไหร่ว่าอยู่ด้วยกันแล้วมันจะดีมั้ย แต่อย่างน้อยก็รู้ว่าอยู่ด้วยกันได้ล่ะนะ J


    .


         พอกลับมาถึงห้อง ก็แปลกใจนิดหน่อยที่ไม่เห็นไอเพื่อนตัวแสบกำลังนั่งดูทีวีหรือนอนหลับอยู่เหมือนปกติ ไปไหนของมันวะ เวลานี้ไอฮุนมันไม่น่าจะทำอย่างอื่นนอกจากนอนสิ แต่ไม่อีกกี่นาทีต่อมาก็พบกับความกระจ่าง

     

              " เห้ยโห มึงมาก็ดีเลย "


              " มีไรวะ " เซฮุนเดินออกมาจากห้องน้ำในขณะที่ผมกำลังเดินไปเปิดทีวี เพื่อเปิดหนังที่ดูค้างไว้ แต่ถ้ามันพูดจาแบบนี้ล่ะก็ ต้องมีอะไรมาขัดผมแน่ ๆ


              " โกนหนวดให้หน่อยดิ J "


              " หนวดใคร "


              " หนวดกู "


              " ถ้างั้นก็โกนเองสิวะ " ผมพูดด้วยความหมั่นไส้แล้วใช้มือดันไปที่หน้าผากมันอย่างแรง โอโห เยอะตลอดเวลา จะต้องนู่นต้องนี่ เดี๋ยวกูว่าได้เป็นง่อยพอดี


              " โอ้ย .. ทำไมใจร้ายจังวะ ช่วยหน่อยไม่ได้หรือไงเล่า "


              " มึงแม่.งเยอะอ่ะ "


              " ถ้าเป็นพี่ชานยอลบอกให้ช่วยมึงจะอิดออดอย่างงี้ป่ะ ถามซักคำ "


              " "


              " เออ เนี่ยเห็นป่ะ คนเรา .. อืม กูทำเองก็ได้ ไม่เป็นไร "


              " เออ ๆๆ มานี่เดี๋ยวทำให้ก็ได้ โธ่ ไม่เห็นต้องมาน้อยใจเลยยยยย " คนตัวสูงไม่ยอมตอบ เพียงเดินนำเข้าไปในห้องน้ำแล้วกระโดดขึ้นไปนั่งบนเคาเตอร์หน้ากระจก


              " ขี้งอนมากป่ะ นึกว่าน่ารักหรอวะ หะ " มือเรียวเอื้อมไปบีบปลายคางของเพื่อนสนิทตัวสูงไว้ เซฮุนทำปากเหมือนเป็ดด้วยความไม่พอใจก่อนจะปัดมือคนตรงหน้าออก แล้วหันหนีไปอีกทาง


              " ไม่โกนแล้วใช่ป่ะ ดีเลย จะได้ไปนั่งดูหนังต่อ "


              " ไม่ "


              " เห้ยยยยยย ! " เสียงหวานเปร่งออกมาอย่างตกใจ เพราะตอนที่เขากำลังจะหันหลังเดินออกไปจากห้องน้ำ เซฮุนดันยกขาทั้งสองข้างขึ้นมาเกี่ยวกันกักตัวเขาไว้ ทำให้เซจนเกือบจะล้มไปกอดมันเข้า โชคดีที่มันจับแขนไว้ทันก็เลยทรงตัวขึ้นมาได้


              " อ่ะ ๆ กูนั่งดี ๆ แล้วก็ได้ "


              " ตั้งแต่แรกก็จบ มัวแต่ลีลา .. เอาขาออกได้ยัง "


              " เอาออกทำไมอ่ะ มึงน่าจะสบายออก "


              " สบายยังไง "


              " ลองยืนพิงดิ ไม่เมื่อยเลย "


              " แล้วจะโกนถนัดมั้ย "


              " พูดมากจังวะ โกนซักทีเหอะหน่า " เจ้าของใบหน้าหวานหรี่ตาใส่เพื่อนสนิทแล้วหันไปเอื้อมหยิบครีมพร้อมกับที่โกนหนวดในแก้วใสข้างหลังเซฮุน ก่อนจะหันกลับมาบีบครีมใส่มือแล้วป้ายไปบนคางของคนตรงหน้า ทั้งสองคนปล่อยความเงียบปกคลุมไปพักใหญ่ แบคฮยอนใจจดใจจ่ออยู่กับการโกนหนวด ส่วนเซฮุนก็เอาแต่นั่งมองอีกคนพร้อมรอยยิ้มเบาบาง .. บางทีเขาอาจจะต้องการให้หนวดขึ้นเร็ว ๆ ก็ได้ เพราะมันแทบจะเป็นทางเดียวที่ทำแบคฮยอนจะอยู่ใกล้เขาขนาดนี้


     

              " แบคฮยอน " คนตัวสูงเอ่ยเรียกเสียงเบาราวกับกระซิบ แต่เพราะบรรยากาศรอบข้างเงียบอยู่แล้ว เลยไม่เป็นอุปสรรคต่อการได้ยินของแบคฮยอน


              " อื้อ "


              " กู .. " เซฮุนขยับใบหน้าเข้าไปใกล้คนตัวเล็กอีกนิด


              " ว่าไง "


              " เรา .. " และอีกนิด

     


              Rr rr r.


              " โทรศัพท์มึงอ่ะ " คนที่ไม่ได้สนใจกับความใกล้ชิดที่เพิ่มมากขึ้น หันไปมองโทรศัพท์ของเพื่อนสนิทที่วางอยู่บนเคาเตอร์หน้ากระจก ข้าง ๆ เจ้าของก่อนจะหันกลับมาบอกอีกคนตาแป๋ว คนตัวสูงแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากที่แห้งผากนิดหน่อยก่อนจะหันไปมองหน้าจอโทรศัพท์ที่กำลังแสดงชื่อของคนโทรเข้ามา แต่ก็เมินหน้าหนี ไม่มีท่าทีสนใจจะรับเลยซักนิด


              " ไม่รับหรอ ใครวะ "


              " พี่ลู่ "


              " อ้าว รับดิ "


              " ขี้เกียจ เดี๋ยวค่อยโทรกลับก็ได้ "


              " อะไรของมึงเนี่ย " ผมส่ายหัวให้เซฮุนด้วยความงงงวย คือตอนนี้มันก็นั่งว่าง ๆ อยู่มั้ยล่ะ แค่เอื้ออมือไปหยิบแล้วสไลด์หน้าจอรับเลยมันจะเป็นอะไร ทำไมจะต้องรอโทรกลับ


              " เสร็จยัง "


              " อีกนิดนึง .. เสร็จแล้ว ! "


              " ขอบใจ "


              " แหม พอพี่ลู่โทรมาล่ะรีบเชียวนะ "


              " ไม่เกี่ยวซะหน่อย "


              " หรอ " เซฮุนไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียงกับแบคฮยอนต่อเลยหันตัวเข้าหากระจก ก้มตัวล้างหน้าล้างตา ก่อนจะแอบลอบถอนหายใจตอนที่คนตัวเล็กนั่นเดินออกไปจากห้องน้ำแล้ว .. ครั้งนี้เขาคงต้องขอบคุณพี่รหัสของเขาโทรเข้ามาได้จังหวะพอดี ไม่อย่างนั้นเขาอาจจะเผลอทำอะไรที่มันข้ามเส้นความเป็นเพื่อนสนิทไปแล้ว


    .

     

         เมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนในขณะที่ผมกำลังนอนดูทีวีอยู่ โทรศัพท์ก็ดังขึ้นหน้าจอแสดงชื่อรุ่นพี่คนสนิทที่ไม่ได้เจอกันมานาน ว่าเขาต้องการความช่วยเหลือเกี่ยวกับงานคอมนิดหน่อย เนื่องจากอายุก็ไม่ใช่น้อย ๆ แล้ว การจะใช้คอมทำงานเกินกว่าเบสิกทั่ว ๆ ไปจึงต้องมีผู้ช่วย ผมตอบรับพร้อมกับเสียงหัวเราะแล้วลงมาเจอเขาที่ล็อบบี้ของคอนโด นั่งช่วยตัดต่องานไปซักพักจนถึงขั้นตอนที่เขาสามารถทำได้เองแล้ว ก็เลยถูกขอตำแหน่งคืน

     

              " ไม่เป็นไรชานยอล เดี๋ยวที่เหลือพี่ทำต่อเอง ๆ " พี่มินซอกลุกขึ้นจากที่นั่งฝั่งตรงข้ามผมแล้วมาหยุดยืนรอให้ผมลุกขึ้นบ้าง เพื่อจะทำงานที่เหลือต่อเอง


              " ผมช่วยได้นะพี่ "


              " ไม่เป็นไร ให้พี่ทำเองบ้างเถอะ เดี๋ยวจะไม่เป็นไปซะหมด "


              " โอเคครับ " ผมตัดสินใจนั่งลงที่ฝั่งตรงข้ามกับรุ่นพี่ตัวเล็ก เผื่อว่าทำงานไปแล้วเขาต้องการความช่วยเหลือ จะได้พอช่วยได้บ้าง

     


              " อ้าว พี่ชานยอล :D " คนที่เรียกผมยืนอยู่หน้าลิฟท์ มีกล้องสีดำห้อยอยู่ที่คอและกระเป๋าเป้ใบเล็กสีแดงสะพายอยู่ที่หลัง พอเอ่ยทักผมแล้วแบคฮยอนก็เหลือบไปเห็นพี่มินซอกที่นั่งอยู่อีกฝั่ง เขาโค้งหัวให้นิดหน่อยเมื่อเห็นว่าเป็นคนอาวุโสกว่า


              " ไปไหนมาเนี่ยตัวเล็ก "


              " ไปถ่ายงานมาอ่ะดิ โคตรร้อนเลย เหนื่อยด้วย "


              " นอนเยอะ ๆ ตื่นมากินก็หายแล้ว "


              " ระวังตู้เย็นห้องพี่ชานยอลไว้ละกัน ขนมจะหายไม่รู้ตัวนะ "


              " โจรปล้นขนมตัวเล็กนิดเดียว พี่ไม่กลัวหรอก "


              " ปล้นไปนาน ๆ เดี๋ยวตัวก็ไม่เล็กแล้ว ฮ่า ๆ "


              " ฮ่า ๆ ลิฟท์มาแล้ว .. ตั้งใจทำงานนะ J " พูดพร้อมชี้นิ้วไปทางลิฟท์ที่เขากดไว้


              " ครับ :D "


              " ถ้าทำงานเสร็จมาเอารางวัลได้ ขนมพี่เยอะ "


              " พูดแล้วนะ " แบคฮยอนพูดแล้วยิ้มกว้าง ตาเป็นประกายก่อนจะวิ่งเข้าไปในลิฟท์ โค้งให้พี่มินซอกนิดหน่อยแล้วกดปิดลิฟท์ขึ้นห้องไป

     


              " รุ่นน้องหรอชานยอล " พี่มินซอกละสายตาออกจากหน้าจอคอมแล้วหันมาถามผมด้วยท่าทีที่ดู สนใจ ?


              " ครับ "


              " ชื่ออะไรล่ะ "


              " แบคฮยอนครับ "


              " แบคฮยอน .. ชอบเราหรอ "


              " ครับ ? "


              " ดูเหมือนว่าน้องเขาจะชอบเรานะ รู้อยู่แล้วหรือเปล่า "


              " ทำไมพี่คิดแบบนั้นล่ะ " พี่มินซอกยิ้มขำกับคำถามของผม ก่อนจะตอบกลับด้วยคำถาม ที่ทำให้ผมต้องคิดตาม


              " ชานยอลไม่เคยบอกความรู้สึกกับใครผ่านทางสายตาหรอ "


              " "


              " สายตาแบคฮยอน .. ไม่ใช่เล่น ๆ เลยนะ J "     










     

    _______________

     

    แบคฮยอนชอบทำเนียนตลอดเว

    ขอบคุณทุกคนมากนะที่เข้ามาอ่าน
    รออ่านคอมเม้นอยู่ด้วยแหละ ยักษ์ 

    O W E N TM.
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×