คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : . 11 .
. 11 .
ห้องสมุดของวิทยาลัยที่ปกติมีเพียงความเงียบสงบราวกับป่าช้า แม้ว่าจะมีคนเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก แต่ทุกคนก็ล้วนมีมารยาทมากพอที่จะรู้ว่าควรปฏิบัติตัวอย่างไร เมื่อมานั่งอยู่ในห้องนี้ ทุกคน ยกเว้นผู้ชายสองคนตรงหน้าผมเนี่ยแหละ
" มึงก็ไปเอาสิ "
" กูไม่ไป มึงก็ไปสิวะไอลู่ "
" เป็นระ กัมจง ทำไมต้องทำตัวมีปัญหาอ่ะ "
" แล้วทำไมอ่ะ มึงก็ไปสิ ไปสิ ไปปปป " คิมจงอินพูดพร้อมกับใช้ข้อศอกของตัวเองที่ท้าวอยู่บนโต๊ะดันแขนลู่หานให้ตกลงไป
" ย่าห์ ! มากไปแล้วนะโว้ย ทำไมเป็นคนแบบนี้ "
" เออ มึงสองคนอ่ะมากไปแล้ว นี่ห้องสมุดนะ "
" มึงดูไอลู่ดิ แค่ไปหยิบหนังสือตรงนู้นหน่อยก็ไม่ได้อ่ะ "
" แล้วทำไมมึงไม่ไปเล่า หะ " ลู่หานพูดพร้อมกับจิ้มนิ้วชี้เข้าไปที่หน้าผากของจงอินอย่างแรง
" ไม่อยากไป "
" ทำไม "
" เออ ๆ ไม่ไปก็ไม่ต้องไป กูไปเอง .. เถียงกันอยู่นั่นแหละ "
ผมพูดแล้วลุกออกจากโต๊ะ เดินไปที่ชั้นหนังสือด้วยความหงุดหงิด มีอย่างที่ไหนบอกให้มาช่วยกันทำรายงานแท้ ๆ แต่นอกจากจะไม่ช่วยแล้วยังทำให้ปวดหัวมากกว่าเดิมอีก ขายาวเดินมาจนเกือบถึงชั้นหนังสือที่ต้องการ ตาก็พลันเหลือบไปเห็นสิ่งที่ทำให้หายข้องใจว่าทำไมเพื่อนสนิทของเขาถึงไม่อยากเดินมาหยิบหนังสือบริเวณนี้ .. ก็น้องคยองซูนั่งอยู่นั่นไงล่ะ
ชานยอลละสายตาออกจากแฟนเก่าของเพื่อนสนิท ก่อนจะส่ายหัวเบา ๆ ด้วยความเอือมระอา แล้วเดินตรงไปยังชั้นหนังสือที่เล็งไว้ คนตัวสูงไล่นิ้วมือไปตามสันหนังสือและหยุดลงที่หนังสืออาหารประจำชาติอิตาลี หยิบออกจากชั้นพร้อมกับปรากฏรอยยิ้มบนใบหน้า
จึ้กจึ้ก
" อืมมม .. "
" มาหลับอะไรตรงนี้ " ใช่ ผมไม่ได้ยิ้มเพราะเจอหนังสือหรอก เรื่องนั้นมันไม่ได้น่าดีใจเท่าไหร่ แต่เพราะเห็นคนตัวเล็กนั่งหลับพิงชั้นหนังสืออยู่อีกฝั่งหนึ่งต่างหาก ถึงได้ยิ้มออกมา ผมเดินเข้าไปหาเขา นั่งชันเข่าเอาไว้ข้างหนึ่งแล้วเอื้อมมือไปบีบปลายจมูกเล็กนั่นนิดหน่อยก่อนจะเผลอหัวเราะออกมาเบา ๆ
" … "
" แบคฮายอนนนนนนนนนน "
" ฮื้ออออออออ "
" ไม่ตื่นหรอ ฟู่วววววว " ผมแกล้งคนขี้เซาที่เรียกยังไงก็ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นด้วยการ เป่าลมเข้าไปในหูเขา คนตรงหน้าเอียงหูหลบพร้อมกับทำหน้ายุ่ง ก่อนจะค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา
" เห้ย พี่ชานยอล ! "
" :D "
" มาได้ไงเนี่ย "
" เดินมาหนะสิ เราจะให้พี่บินมาหรอ :) "
" ไม่ใช่สิ เราหมายถึงว่ามาอยู่ตรงนี้ได้ไง .. ฮ้าว เรานอนน้ำลายยืดเปล่าเนี่ย " แบคฮยอนตอบผมก่อนจะบ่นพึมพัมกับตัวเองแล้วใช้หลังมือเช็ดรอบ ๆ ปากไปด้วย
" อือ น้ำลายไหลเป็นทางเลย แต่ไม่ต้องห่วงนะพี่เช็ดให้เรียบร้อยละ "
" เว่อร์ ! "
" ฮ่า ๆ … แล้วทำไมมานอนอยู่แบบนี้ล่ะ "
.
" แอบหนีเพื่อนมา อู้งานอ่ะ เราง่วงนอน "
" ทำไมง่วงล่ะ เมื่อคืนนอนดึกหรอ " พี่ชานยอลถามพร้อมกับเอื้อมมือมาเกลี่ยหน้าม้ายุ่งเหยิงของผมให้เข้าที่ และคงเพราะดวงตากลมโตของคนตรงหน้านั้นอยู่ใกล้กับผมมาก เราสองคนเลยเผลอสบตากันโดยไม่ได้ตั้งใจ .. สายตากับเสียงอ่อนโยนแผ่วเบาที่ผมได้รับนั้น ถึงกับทำให้อวัยวะในอกข้างซ้ายผมเต้นไม่เป็นจังหวะเลยทีเดียว
" อะ .. อือ "
" แต่เมื่อคืนเราบอกพี่ว่าจะนอนตั้งแต่สี่ทุ่มนะ "
" เราเผลอนอนอ่านหนังสือนานอ่ะดิ แฮ่ "
" เกเรหรอ .. ดีนะ ไม่ใช่วันที่เรียนครัวไม่งั้นเพลียแน่ ๆ "
" นั่นดิ แล้วพี่ชานยอลมาทำงานหรอ "
" อือ นั่งอยู่ตรงนู้นอ่ะ ไปหาไอสองคนนั้นมั้ย "
" ก็ดีนะ รู้สึกว่าตั้งแต่วันอาทิตย์ที่อยู่ ๆ พี่ลู่ก็หายไป ฮุนกับพี่ลู่ยังไม่คุยกันเลยอ่ะ "
" อ้าว จริงหรอ "
" อือ งั้นเราไปชวนฮุนด้วยดีกว่าเนอะ "
" อื้ม พี่นั่งอยู่ตรงโต๊ะที่ถัดจากนี้ไปสามล็อกนะ "
" โอเค :) "
แบคฮยอนยกมือขึ้นมาลูบหน้า ลูบหัวตัวเองตลอดทางที่เดินกลับโต๊ะ .. เขาจะทำยังไงดี แถวนี้พอมีอะไรให้หยิบมายัดหูได้บ้างมั้ย ไม่อยากฟังเสียงพวกมันบ่นเลยอ่ะ ฮือ หัวคิดไป ขาก็พลางเดินไปด้วยจนเกือบจะถึงโต๊ะ อยู่ ๆ คนตัวเล็กก็ยกมือขึ้นมาปิดตาไว้เพราะเพื่อนทั้งสามคนหันมาจ้องเขาด้วยสายตาเกลียดชังพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย เอาไงดีวะ !
" แฮ่ เพื่อนเพื่อน :D " ผมตัดสินใจลองเอาความแบ้วเข้าสู้ดู แต่ดูท่าแล้วไม่น่าจะรอดแฮะ
" เขาเป็นใครวะ กูไม่รู้จักคนเตี้ย " จงแด
" คนสติไม่ดีเปล่า " ซูโฮ
" กลุ่มกูมีสามคน ชัลคา " และพี่ฮุนของกู
" โธ่ เค้าขอโทษ .. มันง่วงจริง ๆ นี่หว่า "
" … "
" … "
" … "
" อ่ะ เดี๋ยวที่เหลือกูทำคนเดียวหมดเลยก็ได้ "
" จริงอ่ะ "
" จริง "
" เยี่ยม ! "
" มึงเอาไปเลยจ้า "
" โชคดีเพื่อนรัก " หลังจากที่ตอบว่าจะยอมทำงานที่เหลือคนเดียว เพื่อนทั้งสามคนที่นั่งดึงหน้ากันอยู่นาน ก็พร้อมใจกันรวบงานเคาะกับโต๊ะทั้งปึกแล้ววางลงตรงหน้าผมทันที อือหือ โยนงานเร็วพอ ๆ กับตอนที่ชงเหล้าเลยวะ
" ไอฮุน ไปเอาหนังสือตรงนู้นด้วยกันหน่อยดิ "
" ทำไมต้องกูด้วยอ่ะ "
" ช่วยหน่อยไม่ได้หรอวะ เออ ไปคนเดียวก็ได้ "
" เห้ย เออไปก็ได้ .. ทำไมกลายเป็นว่ากูง้อมึงวะเนี่ย " เซฮุนตะโกนเบา ๆ แล้วลุกขึ้นทันทีที่ผมเดินหนีออกมา ความจริงแล้วก็ทำเป็นท่าเยอะไปอย่างนั้นเองแหละ ผมรู้ว่ายังไงไอฮุนก็ต้องเดินตามมาอยู่ดี พอใกล้จะถึงโต๊ะของพี่ชานยอล ผมก็ทำเป็นเดินไล่หาหนังสือแล้วค่อย ๆ เขยิบเข้าไปใกล้โต๊ะนั้นเรื่อย ๆ ก่อนจะ ..
" อ้าว พี่ชานยอล "
" หื้อ " คนตัวสูงเงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือก่อนจะทำหน้างงกับท่าทางของผม
" … "
" อ้าว มาทำงานเหมือนกันหรอ .. นั่งก่อนสิ "
" ใช่ ๆ หวัดดีพี่ลู่ พี่จงอิน :) "
" หวัดดีน้องแบค ไม่เจอกันนานเลยนะ " ผมยิ้มให้พี่จงอินนิดหน่อย ก่อนจะหันไปมองเพื่อนสนิทที่เดินมาด้วยกันแต่ไม่ยอมพูดอะไรซักที เอาแต่ยืนนิ่งมองหน้าพี่รหัสตัวเองไม่วางตา พี่ลู่หานก็อีกคน ถ้าตามปกติเขาคงทักผมพร้อมกับโบกมือหยอย ๆ ให้ตั้งแต่เห็นหน้ากันแล้ว แต่นี่กลับนั่งมองเซฮุนนิ่งเป็นรูปปั้น ไม่พูดอะไรซักคำ เกิดอะไรขึ้นกับสองคนนี้กันแน่เนี่ย ?
" ทำไมกูรู้สึกแปลก ๆ .. หรือกูคิดไปเองวะ " คนผิวแทนมองสลับระหว่างเพื่อนเขาและรุ่นน้องสองคนตรงหน้า ก่อนจะพึมพำออกมาคนเดียวเบา ๆ
" เอ่อ … "
" ฮุน "
" ทำไมอยู่ดี ๆ พี่ก็หายไป ไม่บอกผมซักคำวะ "
" … "
" พี่มานี่เลย " เซฮุนพูดพร้อมกับเดินเข้าไปใกล้พี่ลู่หาน ก่อนจะฉุดให้เขาลุกขึ้นแล้วพากันออกไปคุยที่อื่น โดยมีสายตาทั้งหกคู่มองตามไปจนสุดสายตา
" นี่มันเรื่องบ้าอะไรวะเนี่ย "
" กูว่ามันแปลก ๆ นะ "
" เราว่าไม่ได้แปลกธรรมดาด้วย "
" นั่นสิ "
" กูต้องทำเป็นลุกไปนั่งที่อื่นมั้ยวะเพื่อน " รุ่นพี่ผิวคล้ำตรงหน้าผมหันไปกระซิบข้างหูเพื่อนสนิทพร้อมกับเหลือบตามามองผมนิดหน่อย เขาคงคิดว่าผมไม่เห็น ไม่ได้ยินมั้ง
" แล้วแต่มึงดิ จะไปนั่งกับคนตาโต ๆ ที่ทำงานอยู่หน้าคอมตรงนู้นก็ได้นะ "
" สัด "
" อย่ากากดิวะ "
" โว้ว อยู่กับมึงแล้วหงุดหงิด ไปดีกว่า .. โชคดีนะน้องแบคฮยอน "
" เอ่อ ครับ "
" มันทำเป็นหงุเหงิดกลบเกลื่อนหนะ จริง ๆ กำลังหาทางคืนดีกับแฟนเก่าอยู่ "
" หะ พี่จงอินอ่ะนะ ? "
" อื้อ ทำไมอ่ะ มันดูไม่น่าจะมีแฟนเก่าหรอ ฮ่า ๆ "
" เปล่านะ แต่ .. ไม่รู้สิ เราว่าเขาดูไม่ค่อยสนใจอะไรใคร "
" ก็เพราะแบบนั้นนั่นแหละเลยโดนเด็กทิ้ง ไปทำทีเล่นทีจริง เขาก็คิดว่าไม่จริงใจอ่ะดิ "
" เด็ก ? ปีหนึ่งหรอ "
" เปล่า รุ่นเดียวกับเรานั่นแหละ "
" อ๋อ .. แล้วเพื่อนไปกันหมดแบบนี้ ไม่เป็นไรหรอพี่ชานยอล งานก็ไม่ได้ทำหนะสิ "
" ได้เรามาแทนนี่ไง ไม่เห็นต้องกลัวเลย ใช่ป่ะ :D "
" ไว้ใจเราหรอ งานตัวเองเรายังหนีไปหลับเลยนะ ฮ่า ๆ "
" นั่งเป็นเพื่อนเฉย ๆ ก็ช่วยได้แล้ว "
" .. "
" เอ้ะ ! "
" หื้อ "
" หรือจะนั่งเป็นอย่างอื่นดี :D " โอ้ มายลอร์ด ผมรู้สึกเหมือนโดนยิงเข้าตรงที่ขั้วหัวใจเลยอ่ะ ใครสั่งใครสอนให้เขาพูดจาแบบนั้นพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์กันนะ เดี๋ยวก็โดนหรอกพี่ชานยอล !
" พี่ชานยอลหมายถึงเป็นน้องหนะหรอ :D "
" อื้อใช่ พี่หมายถึงให้เรานั่งเป็น น้อง นั่นแหละ :D "
ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าไอประโยคที่เราคุยกันนั้นมันพิเศษยังไง ทำไมถึงทำให้เราทั้งสองคนเอาแต่นั่งมองหน้ากันแล้วยิ้มไม่หยุดแบบนี้ สงสัยจะคิดเรื่องงานกันมากจนเสียสติไปแล้วแน่ ๆ .. ใช่ มันต้องเป็นเพราะเหตุผลนั้นแน่ ๆ เลย ว่ามั้ย
.
" เหมือนมั้ย :D " นั่งทำงานไป คุยกันไปได้ซักพักแบคฮยอนก็ฟุบหน้าลงกับแขนของตัวเองแล้วเงียบไป ผมเลยเข้าใจว่าเขาหลับไปแล้ว จนกระทั่งคนตัวเล็กใช้ดินสอกดในมือสะกิดผมนั่นแหละ
" อ้าว พี่นึกว่าเราหลับไปแล้วซะอีก เห็นเงียบไป .. เหมือนใคร นี่คนหรือลิงเนี่ย "
" เหมือนคนตรงหน้าเรานี่ไง "
" พี่หน้าตาแย่ขนาดนี้เลยหรอ หูคนอย่างกับหูช้างแหนะ " ผมถามแบคฮยอนพร้อมกับใช้ข้อศอกท้าวลงบนโต๊ะ คิ้วขมวดแล้วเอียงหัวมอง แสดงท่าทีไม่พอใจกับรูปที่เขาวาด
" หูพี่ชานยอล จะว่าไปก็เหมือนหูดัมโบ้เหมือนกันนะ ฮ่า ๆ "
" ช้างตัวสีฟ้า ๆ หนะหรอ "
" อื้อใช่ "
" ถ้าเราเห็นรูปพี่ตอนเด็ก ๆ นะ เราต้องตกใจแน่ ๆ เลยอ่ะ "
" ทำไมอ่ะ "
" เหมือนดัมโบ้มากกว่าตอนนี้อีก ฮ่า ๆ "
" ฮ่า ๆ จริงหรอ เราอยากดูอ่ะ "
" ไม่ให้หรอก วาดรูปพี่ไม่หล่อ " ผมทำเป็นลอยหน้าลอยตา ไม่สนใจในสิ่งที่เขาพูดแล้วก้มหน้าจดเมนูอาหารประจำชาติอิตาลีลงสมุดโน้ตต่อ แบคฮยอนเงียบไปแล้วอยู่ ๆ ก็มีโพสอิทสีเหลืองแผ่นหนึ่งมาแปะอยู่บนหลังมือ ผมเอียงหลังมือเข้าหาตัวเพื่ออ่านข้อความในกระดาษก่อนจะยิ้มออกมา
' ง้อ ' คนตัวสูงเอื้อมหยิบกระดาษโพสอิทสีฟ้าของตัวเอง ก่อนจะเขียนข้อความลงไปแล้วแปะลงบนหน้าผากของคนตรงหน้า
' ไม่หายงอน '
' ใจร้ายจัง (´ヘ`;) '
' ไม่สนใจ ' แปะที่แก้มซ้าย
' ถ้าหายงอน เดี๋ยวซื้อเค้กหน้านิ่มชาเขียวมาฝากเลย '
' สามชิ้นนะ ' แปะที่แก้มขวา
' สามปอนด์ก็ยังได้ ! '
' งั้นหายเลย :) ' และที่คาง
" เย่ส หายงอนแล้วเอารูปตอนเด็กให้เราดูด้วยนะ "
" มันเกี่ยวกันด้วยหรอ หื้ม "
" เกี่ยวสิ เราอยากเห็นดัมโบ้ตัวจริง ฮ่า ๆ "
" อื้ม ก็ได้ " ผมตอบรับคนตรงหน้าที่เอาแต่ยิ้มกว้าง ก่อนจะค่อย ๆ เอื้อมมือไปใกล้กระดาษโพสอิทบนหน้าผากเขาเพื่อเอาออกให้ หลังจากเห็นว่าเรานั่งคุยกันโดยมีกระดาษแปะอยู่บนหน้าเป็นคนบ้ามานานพอแล้ว แบคฮยอนเห็นแบบนั้นก็เอื้อมมือมาเพื่อจะดึงโพสอิทบนหน้าของผมออกให้เช่นกัน แต่ ..
" เล่นอะไรกันเนี่ย "
" โอโห สติ " เซฮุนกับลู่หานเดินเข้ามาซะก่อน ผมชักมือกลับก่อนจะหันไปมองสองคนนั้นแล้วหันกลับมาสบตากับคนตรงหน้าอีกครั้ง หัวเราะเบา ๆ แล้วดึงกระดาษออกจากหน้าของตัวเองเหมือนที่คนตัวเล็กทำ
" งานเสร็จแล้วหรอวะ "
" ไม่ต้องมาทำเป็นถามเลยไอลู่ "
" กูขอโทษ เดี๋ยววันนี้ไปค้างห้องมึง จะช่วยทำอย่างเต็มที่เลยเพื่อนรัก ! "
" เออ ดี "
" ไอกัมจงอ่ะ " คนหน้าหวานถามพร้อมกับหันซ้ายหันขวาหาเพื่อนสนิทอีกคน
" ไม่รู้เดินไปไหนแล้ว "
" มึงถามมันดิ เดี๋ยวกูเก็บของให้ "
" มึงอ่ะแหละถาม เดี๋ยวกูเก็บของเอง "
" เออก็ได้ "
" งั้นเราไปก่อนนะ "
" ผมด้วย "
" อื้อ บ้ายบายน้องแบคฮยอน บ้ายบายฮุน "
" ไว้เจอกัน :) "
ผมบอกลาคนตัวเล็กก่อนจะหันกลับมาเก็บของต่อ ฟีลเปลี่ยนอย่างฉับพลันกันเลนทีเดียว ดูไอกัมจงมันตัดกระดาษเล่นแล้วกองไว้สิ ชีวิตช่วยทำตัวเป็นประโยชน์บ้างได้มั้ยเนี่ยแต่ละคน เศษกระดาษทุกแผ่นบนโต๊ะถูกโยนลงไปอยู่ในถุงพลาสติกด้วยความรำคาญของคนเก็บ .. จะเว้นก็แต่กระดาษโพสอิทสีเหลืองสี่แผ่นนั่นแหละที่ได้รับสิทธิพิเศษ เพราะนอกจากจะไม่ต้องลงไปอยู่ในถุงพลาสติกเหมือนกระดาษแผ่นอื่นแล้ว ยังถูกหยิบใส่กระเป๋ากางเกงอย่างทะนุถนอมอีกด้วย
.
" มึงกับพี่ลู่ดีกันแล้วหรอวะ " หันไปถามเพื่อนสนิทที่เดินอยู่ข้าง ๆ กัน ระหว่างที่เดินกลับไปโต๊ะตัวเองเพื่อทำงานที่เหลืออยู่
" ดีอะไรวะ ไม่ได้มีอะไรหนิ "
" การที่มึงหน้าหงิกมาทั้งอาทิตย์เพราะไม่ได้คุยกับพี่ลู่ พอเจอก็ลากเขาไปคุยที่อื่นนี่มันไม่ได้เรียกว่ามีหรอวะ "
" … " คนตัวสูงถอนหายใจแล้วหันหน้าหลบสายตาไปทางอื่น แต่พอเห็นว่าผมเงียบไปด้วย มันก็เลยหันกลับมายอมเปิดปากเล่าถึงเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง
" ก็คุยกันอยู่ดี ๆ แล้วตั้งแต่วันที่นัดกับพี่โบรา เขาก็หายไปเลยอ่ะ "
" เขาหายแล้วมึงติดต่อเขาไปหรือเปล่า "
" เปล่า "
" อ้าว "
" ก็กูไม่รู้หนิ ปกติเขาติดต่อมาก่อน "
" ทีกับคนอื่นมึงไม่เห็นจะมานั่งคิดเล็ก คิดน้อยแบบนี้เลย "
" … "
" มึงชอบเขาหรอ "
" บ้า จะไปชอบได้ไงวะ "
" แล้วทำไมจะชอบไม่ได้วะ "
" … ช่างมันเหอะ " พอเดินมาถึงโต๊ะ เซฮุนก็บอกปัดไม่สนใจจะพูดเรื่องนั้นต่อด้วยการลากเก้าอี้ที่ตนเคยนั่งออกและนั่งลง ผมเลยต้องปล่อยเลยตามเลย ไม่คาดคั้นอะไรต่อ ถึงเวลามันก็คงอยากจะเล่าเอง คิดได้ดังนั้นแบคฮยอนก็เอื้อมมือไปหยิบกองกระดาษงานที่แปลสภาพจากงานกลุ่มมาเป็นงานของเขาเพียงคนเดียวขึ้นมาทำต่อ ส่วนจงแดกับซูโฮถ้าให้เดา มันน่าจะออกไปจากห้องสมุดตั้งแต่พวกผมลุกไปจากโต๊ะแล้ว ตอนนี้ก็คงไม่พ้นนั่งซัดข้าวอยู่ในโรงอาหารนั่นแหละ แค่นึกถึงข้าวท้องก็ร้องแล้ว แต่ผมคงต้องทนไปก่อน ก็อยากอู้งานไปหลับเองนี่นะ .
_______________
ดัมโบ้กับรูปที่แบคฮยอนวาด ฮ่า
รูปขวายืมมาจากไรท์ Mr.Rababit
ขอบคุณทุกคนมากนะที่เข้ามาอ่าน
รออ่านคอมเม้นอยู่ด้วยแหละ ยักษ์ ♡
O W E N TM.
ความคิดเห็น