ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    . Special one ♡ ( chanbaek )

    ลำดับตอนที่ #12 : . 11 .

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.54K
      6
      11 พ.ค. 58

    . 11 .

     

     

         ห้องสมุดของวิทยาลัยที่ปกติมีเพียงความเงียบสงบราวกับป่าช้า แม้ว่าจะมีคนเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก แต่ทุกคนก็ล้วนมีมารยาทมากพอที่จะรู้ว่าควรปฏิบัติตัวอย่างไร เมื่อมานั่งอยู่ในห้องนี้ ทุกคน ยกเว้นผู้ชายสองคนตรงหน้าผมเนี่ยแหละ

     

              " มึงก็ไปเอาสิ "


              " กูไม่ไป มึงก็ไปสิวะไอลู่ "


              " เป็นระ กัมจง ทำไมต้องทำตัวมีปัญหาอ่ะ "


              " แล้วทำไมอ่ะ มึงก็ไปสิ ไปสิ ไปปปป " คิมจงอินพูดพร้อมกับใช้ข้อศอกของตัวเองที่ท้าวอยู่บนโต๊ะดันแขนลู่หานให้ตกลงไป


              " ย่าห์ ! มากไปแล้วนะโว้ย ทำไมเป็นคนแบบนี้ "


              " เออ มึงสองคนอ่ะมากไปแล้ว นี่ห้องสมุดนะ "


              " มึงดูไอลู่ดิ แค่ไปหยิบหนังสือตรงนู้นหน่อยก็ไม่ได้อ่ะ "


              " แล้วทำไมมึงไม่ไปเล่า หะ " ลู่หานพูดพร้อมกับจิ้มนิ้วชี้เข้าไปที่หน้าผากของจงอินอย่างแรง


              " ไม่อยากไป "


              " ทำไม "


              " เออ ๆ ไม่ไปก็ไม่ต้องไป กูไปเอง .. เถียงกันอยู่นั่นแหละ "

     

         ผมพูดแล้วลุกออกจากโต๊ะ เดินไปที่ชั้นหนังสือด้วยความหงุดหงิด มีอย่างที่ไหนบอกให้มาช่วยกันทำรายงานแท้ ๆ แต่นอกจากจะไม่ช่วยแล้วยังทำให้ปวดหัวมากกว่าเดิมอีก ขายาวเดินมาจนเกือบถึงชั้นหนังสือที่ต้องการ ตาก็พลันเหลือบไปเห็นสิ่งที่ทำให้หายข้องใจว่าทำไมเพื่อนสนิทของเขาถึงไม่อยากเดินมาหยิบหนังสือบริเวณนี้ .. ก็น้องคยองซูนั่งอยู่นั่นไงล่ะ


         ชานยอลละสายตาออกจากแฟนเก่าของเพื่อนสนิท ก่อนจะส่ายหัวเบา ๆ ด้วยความเอือมระอา แล้วเดินตรงไปยังชั้นหนังสือที่เล็งไว้ คนตัวสูงไล่นิ้วมือไปตามสันหนังสือและหยุดลงที่หนังสืออาหารประจำชาติอิตาลี หยิบออกจากชั้นพร้อมกับปรากฏรอยยิ้มบนใบหน้า

     

              จึ้กจึ้ก


    " อืมมม .. "


              " มาหลับอะไรตรงนี้ " ใช่ ผมไม่ได้ยิ้มเพราะเจอหนังสือหรอก เรื่องนั้นมันไม่ได้น่าดีใจเท่าไหร่ แต่เพราะเห็นคนตัวเล็กนั่งหลับพิงชั้นหนังสืออยู่อีกฝั่งหนึ่งต่างหาก ถึงได้ยิ้มออกมา ผมเดินเข้าไปหาเขา นั่งชันเข่าเอาไว้ข้างหนึ่งแล้วเอื้อมมือไปบีบปลายจมูกเล็กนั่นนิดหน่อยก่อนจะเผลอหัวเราะออกมาเบา ๆ


              " … "


              " แบคฮายอนนนนนนนนนน "


              " ฮื้ออออออออ "


              " ไม่ตื่นหรอ ฟู่วววววว " ผมแกล้งคนขี้เซาที่เรียกยังไงก็ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นด้วยการ เป่าลมเข้าไปในหูเขา คนตรงหน้าเอียงหูหลบพร้อมกับทำหน้ายุ่ง ก่อนจะค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา


              " เห้ย พี่ชานยอล ! "


              " :D "


              " มาได้ไงเนี่ย "


              " เดินมาหนะสิ เราจะให้พี่บินมาหรอ :) "


              " ไม่ใช่สิ เราหมายถึงว่ามาอยู่ตรงนี้ได้ไง .. ฮ้าว เรานอนน้ำลายยืดเปล่าเนี่ย " แบคฮยอนตอบผมก่อนจะบ่นพึมพัมกับตัวเองแล้วใช้หลังมือเช็ดรอบ ๆ ปากไปด้วย


              " อือ น้ำลายไหลเป็นทางเลย แต่ไม่ต้องห่วงนะพี่เช็ดให้เรียบร้อยละ "


              " เว่อร์ ! "


              " ฮ่า ๆ  … แล้วทำไมมานอนอยู่แบบนี้ล่ะ "

    .

     

              " แอบหนีเพื่อนมา อู้งานอ่ะ เราง่วงนอน "


              " ทำไมง่วงล่ะ เมื่อคืนนอนดึกหรอ " พี่ชานยอลถามพร้อมกับเอื้อมมือมาเกลี่ยหน้าม้ายุ่งเหยิงของผมให้เข้าที่ และคงเพราะดวงตากลมโตของคนตรงหน้านั้นอยู่ใกล้กับผมมาก เราสองคนเลยเผลอสบตากันโดยไม่ได้ตั้งใจ .. สายตากับเสียงอ่อนโยนแผ่วเบาที่ผมได้รับนั้น ถึงกับทำให้อวัยวะในอกข้างซ้ายผมเต้นไม่เป็นจังหวะเลยทีเดียว


              " อะ .. อือ "


              " แต่เมื่อคืนเราบอกพี่ว่าจะนอนตั้งแต่สี่ทุ่มนะ "


              " เราเผลอนอนอ่านหนังสือนานอ่ะดิ แฮ่ "


              " เกเรหรอ .. ดีนะ ไม่ใช่วันที่เรียนครัวไม่งั้นเพลียแน่ ๆ "


              " นั่นดิ แล้วพี่ชานยอลมาทำงานหรอ "


              " อือ นั่งอยู่ตรงนู้นอ่ะ ไปหาไอสองคนนั้นมั้ย "


              " ก็ดีนะ รู้สึกว่าตั้งแต่วันอาทิตย์ที่อยู่ ๆ พี่ลู่ก็หายไป ฮุนกับพี่ลู่ยังไม่คุยกันเลยอ่ะ "


              " อ้าว จริงหรอ "


              " อือ งั้นเราไปชวนฮุนด้วยดีกว่าเนอะ "


              " อื้ม พี่นั่งอยู่ตรงโต๊ะที่ถัดจากนี้ไปสามล็อกนะ "


              " โอเค :) "

     

         แบคฮยอนยกมือขึ้นมาลูบหน้า ลูบหัวตัวเองตลอดทางที่เดินกลับโต๊ะ .. เขาจะทำยังไงดี แถวนี้พอมีอะไรให้หยิบมายัดหูได้บ้างมั้ย ไม่อยากฟังเสียงพวกมันบ่นเลยอ่ะ ฮือ หัวคิดไป ขาก็พลางเดินไปด้วยจนเกือบจะถึงโต๊ะ อยู่ ๆ คนตัวเล็กก็ยกมือขึ้นมาปิดตาไว้เพราะเพื่อนทั้งสามคนหันมาจ้องเขาด้วยสายตาเกลียดชังพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย เอาไงดีวะ !

     


              " แฮ่ เพื่อนเพื่อน :D " ผมตัดสินใจลองเอาความแบ้วเข้าสู้ดู แต่ดูท่าแล้วไม่น่าจะรอดแฮะ


              " เขาเป็นใครวะ กูไม่รู้จักคนเตี้ย " จงแด


              " คนสติไม่ดีเปล่า " ซูโฮ


              " กลุ่มกูมีสามคน ชัลคา " และพี่ฮุนของกู


              " โธ่ เค้าขอโทษ .. มันง่วงจริง ๆ นี่หว่า "


              " … "


              " … "


              " … "


              " อ่ะ เดี๋ยวที่เหลือกูทำคนเดียวหมดเลยก็ได้ "


              " จริงอ่ะ "


              " จริง "


              " เยี่ยม ! "


              " มึงเอาไปเลยจ้า "


              " โชคดีเพื่อนรัก " หลังจากที่ตอบว่าจะยอมทำงานที่เหลือคนเดียว เพื่อนทั้งสามคนที่นั่งดึงหน้ากันอยู่นาน ก็พร้อมใจกันรวบงานเคาะกับโต๊ะทั้งปึกแล้ววางลงตรงหน้าผมทันที อือหือ โยนงานเร็วพอ ๆ กับตอนที่ชงเหล้าเลยวะ


              " ไอฮุน ไปเอาหนังสือตรงนู้นด้วยกันหน่อยดิ "


              " ทำไมต้องกูด้วยอ่ะ "


              " ช่วยหน่อยไม่ได้หรอวะ เออ ไปคนเดียวก็ได้ "


              " เห้ย เออไปก็ได้ .. ทำไมกลายเป็นว่ากูง้อมึงวะเนี่ย " เซฮุนตะโกนเบา ๆ แล้วลุกขึ้นทันทีที่ผมเดินหนีออกมา ความจริงแล้วก็ทำเป็นท่าเยอะไปอย่างนั้นเองแหละ ผมรู้ว่ายังไงไอฮุนก็ต้องเดินตามมาอยู่ดี พอใกล้จะถึงโต๊ะของพี่ชานยอล ผมก็ทำเป็นเดินไล่หาหนังสือแล้วค่อย ๆ เขยิบเข้าไปใกล้โต๊ะนั้นเรื่อย ๆ ก่อนจะ ..


              " อ้าว พี่ชานยอล "


              " หื้อ " คนตัวสูงเงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือก่อนจะทำหน้างงกับท่าทางของผม


              " … "


              " อ้าว มาทำงานเหมือนกันหรอ .. นั่งก่อนสิ "


              " ใช่ ๆ หวัดดีพี่ลู่ พี่จงอิน :) "


              " หวัดดีน้องแบค ไม่เจอกันนานเลยนะ " ผมยิ้มให้พี่จงอินนิดหน่อย ก่อนจะหันไปมองเพื่อนสนิทที่เดินมาด้วยกันแต่ไม่ยอมพูดอะไรซักที เอาแต่ยืนนิ่งมองหน้าพี่รหัสตัวเองไม่วางตา พี่ลู่หานก็อีกคน ถ้าตามปกติเขาคงทักผมพร้อมกับโบกมือหยอย ๆ ให้ตั้งแต่เห็นหน้ากันแล้ว แต่นี่กลับนั่งมองเซฮุนนิ่งเป็นรูปปั้น ไม่พูดอะไรซักคำ เกิดอะไรขึ้นกับสองคนนี้กันแน่เนี่ย ?


              " ทำไมกูรู้สึกแปลก ๆ .. หรือกูคิดไปเองวะ " คนผิวแทนมองสลับระหว่างเพื่อนเขาและรุ่นน้องสองคนตรงหน้า ก่อนจะพึมพำออกมาคนเดียวเบา ๆ


              " เอ่อ … "


              " ฮุน "


              " ทำไมอยู่ดี ๆ พี่ก็หายไป ไม่บอกผมซักคำวะ "


              " … "


              " พี่มานี่เลย " เซฮุนพูดพร้อมกับเดินเข้าไปใกล้พี่ลู่หาน ก่อนจะฉุดให้เขาลุกขึ้นแล้วพากันออกไปคุยที่อื่น โดยมีสายตาทั้งหกคู่มองตามไปจนสุดสายตา


              " นี่มันเรื่องบ้าอะไรวะเนี่ย "


              " กูว่ามันแปลก ๆ นะ "


              " เราว่าไม่ได้แปลกธรรมดาด้วย "


              " นั่นสิ "


              " กูต้องทำเป็นลุกไปนั่งที่อื่นมั้ยวะเพื่อน " รุ่นพี่ผิวคล้ำตรงหน้าผมหันไปกระซิบข้างหูเพื่อนสนิทพร้อมกับเหลือบตามามองผมนิดหน่อย เขาคงคิดว่าผมไม่เห็น ไม่ได้ยินมั้ง


              " แล้วแต่มึงดิ จะไปนั่งกับคนตาโต ๆ ที่ทำงานอยู่หน้าคอมตรงนู้นก็ได้นะ "


              " สัด "


              " อย่ากากดิวะ "


              " โว้ว อยู่กับมึงแล้วหงุดหงิด ไปดีกว่า .. โชคดีนะน้องแบคฮยอน "


              " เอ่อ ครับ "


              " มันทำเป็นหงุเหงิดกลบเกลื่อนหนะ จริง ๆ กำลังหาทางคืนดีกับแฟนเก่าอยู่ "


              " หะ พี่จงอินอ่ะนะ ? "


              " อื้อ ทำไมอ่ะ มันดูไม่น่าจะมีแฟนเก่าหรอ ฮ่า ๆ "


              " เปล่านะ แต่ .. ไม่รู้สิ เราว่าเขาดูไม่ค่อยสนใจอะไรใคร "


              " ก็เพราะแบบนั้นนั่นแหละเลยโดนเด็กทิ้ง ไปทำทีเล่นทีจริง เขาก็คิดว่าไม่จริงใจอ่ะดิ "


              " เด็ก ? ปีหนึ่งหรอ "


              " เปล่า รุ่นเดียวกับเรานั่นแหละ "


              " อ๋อ .. แล้วเพื่อนไปกันหมดแบบนี้ ไม่เป็นไรหรอพี่ชานยอล งานก็ไม่ได้ทำหนะสิ "


              " ได้เรามาแทนนี่ไง ไม่เห็นต้องกลัวเลย ใช่ป่ะ :D "


              " ไว้ใจเราหรอ งานตัวเองเรายังหนีไปหลับเลยนะ ฮ่า ๆ "


              " นั่งเป็นเพื่อนเฉย ๆ ก็ช่วยได้แล้ว "


              " .. "


              " เอ้ะ ! "


              " หื้อ "


              " หรือจะนั่งเป็นอย่างอื่นดี :D " โอ้ มายลอร์ด ผมรู้สึกเหมือนโดนยิงเข้าตรงที่ขั้วหัวใจเลยอ่ะ ใครสั่งใครสอนให้เขาพูดจาแบบนั้นพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์กันนะ เดี๋ยวก็โดนหรอกพี่ชานยอล !


              " พี่ชานยอลหมายถึงเป็นน้องหนะหรอ :D "


              " อื้อใช่ พี่หมายถึงให้เรานั่งเป็น น้อง นั่นแหละ :D "

     

     

         ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าไอประโยคที่เราคุยกันนั้นมันพิเศษยังไง ทำไมถึงทำให้เราทั้งสองคนเอาแต่นั่งมองหน้ากันแล้วยิ้มไม่หยุดแบบนี้ สงสัยจะคิดเรื่องงานกันมากจนเสียสติไปแล้วแน่ ๆ .. ใช่ มันต้องเป็นเพราะเหตุผลนั้นแน่ ๆ เลย ว่ามั้ย 


    .

     

              " เหมือนมั้ย :D " นั่งทำงานไป คุยกันไปได้ซักพักแบคฮยอนก็ฟุบหน้าลงกับแขนของตัวเองแล้วเงียบไป ผมเลยเข้าใจว่าเขาหลับไปแล้ว จนกระทั่งคนตัวเล็กใช้ดินสอกดในมือสะกิดผมนั่นแหละ


              " อ้าว พี่นึกว่าเราหลับไปแล้วซะอีก เห็นเงียบไป .. เหมือนใคร นี่คนหรือลิงเนี่ย "


              " เหมือนคนตรงหน้าเรานี่ไง "


              " พี่หน้าตาแย่ขนาดนี้เลยหรอ หูคนอย่างกับหูช้างแหนะ " ผมถามแบคฮยอนพร้อมกับใช้ข้อศอกท้าวลงบนโต๊ะ คิ้วขมวดแล้วเอียงหัวมอง แสดงท่าทีไม่พอใจกับรูปที่เขาวาด


              " หูพี่ชานยอล จะว่าไปก็เหมือนหูดัมโบ้เหมือนกันนะ ฮ่า ๆ "


              " ช้างตัวสีฟ้า ๆ หนะหรอ "


              " อื้อใช่ "


              " ถ้าเราเห็นรูปพี่ตอนเด็ก ๆ นะ เราต้องตกใจแน่ ๆ เลยอ่ะ "


              " ทำไมอ่ะ "


              " เหมือนดัมโบ้มากกว่าตอนนี้อีก ฮ่า ๆ "


              " ฮ่า ๆ จริงหรอ เราอยากดูอ่ะ "


              " ไม่ให้หรอก วาดรูปพี่ไม่หล่อ " ผมทำเป็นลอยหน้าลอยตา ไม่สนใจในสิ่งที่เขาพูดแล้วก้มหน้าจดเมนูอาหารประจำชาติอิตาลีลงสมุดโน้ตต่อ แบคฮยอนเงียบไปแล้วอยู่ ๆ ก็มีโพสอิทสีเหลืองแผ่นหนึ่งมาแปะอยู่บนหลังมือ ผมเอียงหลังมือเข้าหาตัวเพื่ออ่านข้อความในกระดาษก่อนจะยิ้มออกมา

     


    ง้อ ' คนตัวสูงเอื้อมหยิบกระดาษโพสอิทสีฟ้าของตัวเอง ก่อนจะเขียนข้อความลงไปแล้วแปะลงบนหน้าผากของคนตรงหน้า


    ไม่หายงอน '


    ใจร้ายจัง (´`;) '


    ไม่สนใจ ' แปะที่แก้มซ้าย


    ถ้าหายงอน เดี๋ยวซื้อเค้กหน้านิ่มชาเขียวมาฝากเลย '


    สามชิ้นนะ ' แปะที่แก้มขวา


    สามปอนด์ก็ยังได้ ! '


    งั้นหายเลย :) ' และที่คาง

     

    " เย่ส หายงอนแล้วเอารูปตอนเด็กให้เราดูด้วยนะ "


    " มันเกี่ยวกันด้วยหรอ หื้ม "


    " เกี่ยวสิ เราอยากเห็นดัมโบ้ตัวจริง ฮ่า ๆ "


    " อื้ม ก็ได้ " ผมตอบรับคนตรงหน้าที่เอาแต่ยิ้มกว้าง ก่อนจะค่อย ๆ เอื้อมมือไปใกล้กระดาษโพสอิทบนหน้าผากเขาเพื่อเอาออกให้ หลังจากเห็นว่าเรานั่งคุยกันโดยมีกระดาษแปะอยู่บนหน้าเป็นคนบ้ามานานพอแล้ว แบคฮยอนเห็นแบบนั้นก็เอื้อมมือมาเพื่อจะดึงโพสอิทบนหน้าของผมออกให้เช่นกัน แต่ ..


    " เล่นอะไรกันเนี่ย "


    " โอโห สติ " เซฮุนกับลู่หานเดินเข้ามาซะก่อน ผมชักมือกลับก่อนจะหันไปมองสองคนนั้นแล้วหันกลับมาสบตากับคนตรงหน้าอีกครั้ง หัวเราะเบา ๆ แล้วดึงกระดาษออกจากหน้าของตัวเองเหมือนที่คนตัวเล็กทำ


    " งานเสร็จแล้วหรอวะ "


    " ไม่ต้องมาทำเป็นถามเลยไอลู่ "


    " กูขอโทษ เดี๋ยววันนี้ไปค้างห้องมึง จะช่วยทำอย่างเต็มที่เลยเพื่อนรัก ! "


    " เออ ดี "


    " ไอกัมจงอ่ะ " คนหน้าหวานถามพร้อมกับหันซ้ายหันขวาหาเพื่อนสนิทอีกคน


    " ไม่รู้เดินไปไหนแล้ว "


    " มึงถามมันดิ เดี๋ยวกูเก็บของให้ "


    " มึงอ่ะแหละถาม เดี๋ยวกูเก็บของเอง "


    " เออก็ได้ "


    " งั้นเราไปก่อนนะ "


    " ผมด้วย "


    " อื้อ บ้ายบายน้องแบคฮยอน บ้ายบายฮุน "


    " ไว้เจอกัน :) "

     

         ผมบอกลาคนตัวเล็กก่อนจะหันกลับมาเก็บของต่อ ฟีลเปลี่ยนอย่างฉับพลันกันเลนทีเดียว ดูไอกัมจงมันตัดกระดาษเล่นแล้วกองไว้สิ ชีวิตช่วยทำตัวเป็นประโยชน์บ้างได้มั้ยเนี่ยแต่ละคน เศษกระดาษทุกแผ่นบนโต๊ะถูกโยนลงไปอยู่ในถุงพลาสติกด้วยความรำคาญของคนเก็บ .. จะเว้นก็แต่กระดาษโพสอิทสีเหลืองสี่แผ่นนั่นแหละที่ได้รับสิทธิพิเศษ เพราะนอกจากจะไม่ต้องลงไปอยู่ในถุงพลาสติกเหมือนกระดาษแผ่นอื่นแล้ว ยังถูกหยิบใส่กระเป๋ากางเกงอย่างทะนุถนอมอีกด้วย


    .

     

    " มึงกับพี่ลู่ดีกันแล้วหรอวะ " หันไปถามเพื่อนสนิทที่เดินอยู่ข้าง ๆ กัน ระหว่างที่เดินกลับไปโต๊ะตัวเองเพื่อทำงานที่เหลืออยู่


    " ดีอะไรวะ ไม่ได้มีอะไรหนิ "


    " การที่มึงหน้าหงิกมาทั้งอาทิตย์เพราะไม่ได้คุยกับพี่ลู่ พอเจอก็ลากเขาไปคุยที่อื่นนี่มันไม่ได้เรียกว่ามีหรอวะ "


    " … " คนตัวสูงถอนหายใจแล้วหันหน้าหลบสายตาไปทางอื่น แต่พอเห็นว่าผมเงียบไปด้วย มันก็เลยหันกลับมายอมเปิดปากเล่าถึงเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง


    " ก็คุยกันอยู่ดี ๆ แล้วตั้งแต่วันที่นัดกับพี่โบรา เขาก็หายไปเลยอ่ะ "


    " เขาหายแล้วมึงติดต่อเขาไปหรือเปล่า "


    " เปล่า "


    " อ้าว "


    " ก็กูไม่รู้หนิ ปกติเขาติดต่อมาก่อน "


    " ทีกับคนอื่นมึงไม่เห็นจะมานั่งคิดเล็ก คิดน้อยแบบนี้เลย "


    " … "


    " มึงชอบเขาหรอ "


    " บ้า จะไปชอบได้ไงวะ "


    " แล้วทำไมจะชอบไม่ได้วะ "


    " … ช่างมันเหอะ " พอเดินมาถึงโต๊ะ เซฮุนก็บอกปัดไม่สนใจจะพูดเรื่องนั้นต่อด้วยการลากเก้าอี้ที่ตนเคยนั่งออกและนั่งลง ผมเลยต้องปล่อยเลยตามเลย ไม่คาดคั้นอะไรต่อ ถึงเวลามันก็คงอยากจะเล่าเอง คิดได้ดังนั้นแบคฮยอนก็เอื้อมมือไปหยิบกองกระดาษงานที่แปลสภาพจากงานกลุ่มมาเป็นงานของเขาเพียงคนเดียวขึ้นมาทำต่อ ส่วนจงแดกับซูโฮถ้าให้เดา มันน่าจะออกไปจากห้องสมุดตั้งแต่พวกผมลุกไปจากโต๊ะแล้ว ตอนนี้ก็คงไม่พ้นนั่งซัดข้าวอยู่ในโรงอาหารนั่นแหละ แค่นึกถึงข้าวท้องก็ร้องแล้ว แต่ผมคงต้องทนไปก่อน ก็อยากอู้งานไปหลับเองนี่นะ .










     

    _______________

     




    ดัมโบ้กับรูปที่แบคฮยอนวาด ฮ่า
    รูปขวายืมมาจากไรท์ Mr.Rababit

    ขอบคุณทุกคนมากนะที่เข้ามาอ่าน
    รออ่านคอมเม้นอยู่ด้วยแหละ ยักษ์ 


    O W E N TM.

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×