คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : . 05 .
. 05 .
เมื่อวานหลังจากที่ผมคุยกับพี่ชานยอลแล้วเข้านอน ก็ทำให้ฝันดีจนไม่อยากตื่นมาเจอความจริงว่าวันนี้จะต้องสอบเลย พร้อมมั้ย มันก็พร้อมอะนะ แต่ไม่สอบน่าจะดีกว่า นี่ยังดีนะที่ผมบ่นแค่ในใจแต่ไอคนตัวสูงข้าง ๆ ผมนี่สิ ทั้งบ่นเสียงดัง ทั้งหน้าบูด ทำอย่างกับวันนี้เป็นวันหมดอายุของตัวเองอย่างนั้นแหละ
" ไอเหี้ยเอ้ย ไม่พร้อมเลยหวะ เหมือนไม่มีอะไรอยู่ในหัว "
" กูพร้อมมากมั้ง สัด "
" เมื่อวานกูน่าจะติวกับมึง ไม่น่าติวกับไอพวกนั้นเลย "
" สมน้ำหน้า " เซฮุนส่งมือมาผลักหัวผมแรง ๆ ก่อนจะเดินเข้าไปรวมกลุ่มกับเพื่อน ๆ ที่กำลังเร่งติวหนังสือกันอยู่ที่หน้าห้องสอบ เนื่องจากวิชานี้ได้สอบห้องใหญ่ เลยทำให้ได้สอบห้องเดียวกันทั้งคลาส ตามปกติแล้วผมจะถูกแยกออกไปสอบห้องอื่นเพราะรหัสอยู่แรก ๆ ไม่เหมือนไอฮุนที่รหัสดันอยู่ซะเกือบสุดท้าย
" พี่แบค มาติวให้ผมหน่อยครับ "
" ด่วนเลยครับ เมื่อวานมึงก็หนีไปอ่านคนเดียวครับ "
" เลวมากครับ "
" เห่ย ๆ อะไร ก็พวกมึงวุ่นวายอ่ะ ใครจะไปอ่านด้วย "
" เดี๋ยวกูตบกะโหลกแตก ช่วยกูหน่อยเร็วววววว ! "
" เออ เอาหนังสือมานี่ "
จงแดรีบส่งหนังสือมาให้ผมจนเกือบหล่น ที่มันรีบขนาดนี้เพราะอีกแค่สิบห้านาทีก็จะถึงเวลาเข้าห้องสอบ ตามกฎแล้วนักศึกษาสามารถเข้าห้องสอบช้าได้ครึ่งชั่วโมง แต่ผมไม่มีทางยืนติวอยู่หน้าห้องตั้งครึ่งชั่วโมงหรอก ถึงจะได้อ่านเพิ่มแต่มันก็เสี่ยงที่จะทำข้อสอบไม่ทัน
.
" ช้าอีกแล้วนะมึง "
" เต็มล่ะสิ "
" เต็มก็ดีดิวะ ข้อสอบอะไรเนี่ย งงสัด " ผมหันไปโวยวายใส่เซฮุนกับซูโฮที่ตะโกนแซวผมตั้งแต่ก้าวขาออกมาจากห้องสอบ ทั้ง ๆ ที่ประตูยังปิดไม่สนิทด้วยซ้ำ
" นั่นดิ กูมั่วยับเลย "
" กูด้วย "
" ช่างแม่งเหอะหวะ กลับกันมึง อยากนอน "
" ความคิดที่จะเอาเวลาไปอ่านวิชาที่ต้องสอบพรุ่งนี้นี่ไม่ได้ผุดขึ้นมาในหัวมึงบ้างเลยใช่ปะ โอเซฮุน "
" ไม่เคยผุดขึ้นมาเลยครับ ในหัวมีแต่คำว่า นอน นอน นอน ทั้งนั้นเลยครับคุณบยอนแบคฮยอน "
" ขอให้เจริญนะ "
" ขอบคุณมากเพื่อนรัก "
ซูโฮถอนหายใจพร้อมกับส่ายหัวให้ทั้งผู้ชายสองคนตรงหน้าด้วยความเหนื่อยใจ ก่อนจะยกมือขึ้นโบกให้มันรีบ ๆ กลับกันไปสักที เพราะถ้ายังยืนกวนตีนกันอยู่ตรงนี้ กูคงปวดหัวตายก่อนแค่เจอข้อสอบก็แทบจะบ้าอยู่แล้ว พอเห็นท่าทางเพื่อนไล่ด้วยความจริงใจขนาดนั้น ทั้งสองคนก็เลยต้องยอมโบกมือลาแล้วเดินกลับคอนโด
.
แบคฮยอนนี่ : พี่ชานยอล
แบคฮยอนนี่ : สอบเป็นยังไงบ้าง ? :)
ชานยอล : ก็ดีนะ 555
ชานยอล : เราล่ะ
แบคฮยอนนี่ : ไม่ค่อยได้นะ อะไรไม่รู้งง
แบคฮยอนนี่ : เซ็งเลย 5555
ชานยอล : อย่าไปคิดมากเลย มันผ่านไปแล้ว
แบคฮยอนนี่ : นั่นสิ ไปสู้วิชาต่อไปดีกว่าเนอะ
ชานยอล : ช่ายยยยยย
ชานยอล : พรุ่งนี้เราสอบอะไรล่ะ ?
แบคฮยอนนี่ : Business English 1 อ่ะ
แบคฮยอนนี่ : พี่ชานยอลล่ะ
ชานยอล : อ้าว สอบวิชาเดียวกันเลยหนิ
ชานยอล : เก่งนะเนี่ย
แบคฮยอนนี่ : พี่ชานยอลไม่ได้ต้องสอบ Business English 2 หรอ
ชานยอล : เปล่า ๆ เทอมที่แล้วมันเต็ม พี่เลยเพิ่งได้เรียน
แบคฮยอนนี่ : อ๋ออออออออ
ชานยอล : สู้สู้นะ พี่ไม่ค่อยชอบภาษาอังกฤษเท่าไหร่ 555
แบคฮยอนี่ : เราก็ไม่ค่อยชอบ ยากอ่ะ 555
ชานยอล : ช่าย แต่มันจำเป็นนะ
ชานยอล : อ่านเผื่อพี่ด้วยละกัน 555
แบคฮยอนนี่ : ได้เลย เดี๋ยวเราอ่านเยอะ ๆ แล้วแบ่ง
แบคฮยอนนี่ :
ชานยอล : ดีมาก
คนที่แอบชอบใครนี่ตลกดีเหมือนกันนะ มีความสุขกับอะไรง่าย ๆ แต่ก็ทุกข์กับอะไรง่าย ๆ เหมือนกัน ผมนอนยิ้มกว้างแค่เพียงเพราะพี่เขาบอกว่า ' อ่านเผื่อพี่ด้วยละกัน ' แค่นั้น แต่มันก็ทำให้ผมเขินได้ คนพิมพ์ก็พิมพ์ไปเถอะไม่ได้คิดอะไรหรอก ส่วนคนอ่านอย่างผม ถ้ามันไม่มากไปก็ขอเขินหน่อยละกันนะ ฮิฮิ
.
เดินมาถึงหน้าห้องสอบ ยังไม่ทันได้นั่ง เพื่อนสองคนที่ผมมีก็รีบวิ่งเข้ามากวนตีนทันทีตั้งแต่เช้า พอก้าวขาเข้า ขยับตัวนั่งลงที่เก้าอี้ ไอลู่ก็กำมือยื่นมาจ่อตรงปากผมพร้อมกับไอจงอินที่ทำท่าเหมือนถือกล้องล่องหน ส่องเข้ามาใกล้จนเกือบติดหน้า
" ขอสัมภาษณ์หน่อยครับ ๆ "
" อะไรของพวกมึงเนี่ย "
" คุณปาร์คชานยอล เตรียมมาได้คะแนนท็อปตั้งแต่ยังไม่สอบเลยหรือเปล่าครับ "
" อ่านมาแน่นเลยใช่มั้ยครับ "
" ที่บอกทำไม่ได้นี่ตัดกำลังคู่ต่อสู้ใช่มั้ยครับ "
" ตอบสิครับ ๆ "
" โอยยยยย ไอพวกบ้า " ผมโวยวายออกไปทันที หลังจากที่พยายามนั่งนิ่ง ๆ แล้วแต่พวกมันก็ยังไม่เลิกเล่นกันสักที ยิงคำถามใส่อยู่นั่นแหละ บ้าหรือเปล่าวะ อ่านหนังสือมั้ยล่ะเพื่อน หลังจากผมโวยวายไป พวกมันก็เอาแต่หัวเราะกันอย่างสะใจ เหมือนอีกสิบห้านาทีข้างหน้าไม่ได้มีสอบวิชาที่บ่นกันนักหนาว่า ทำไม่ได้แน่ ๆ ถ้าไม่อ่าน
" เล่นเหี้ยไรวะ อ่านหนังสือมาแล้วหรือไง "
" อ่านมาแล้วสิครับ ดูด้วยนี่ใคร "
" ใครวะ "
" คนหล่อเขาคุยกัน ดำไม่เกี่ยวนะ "
" เหี้ยลู่ มึงนี่วอนตีนกูทุกวันเลยนะครับ "
" โทษ ๆ มาจุ้บทีที่รักกกกกกก "
" ไปไกล ๆ เถอะสัด "
ยิ่งใกล้เวลาสอบมากเท่าไหร่ คนก็ยิ่งเริ่มทยอยเดินมานั่งหน้าห้องกันมากขึ้นทั้งนักศึกษาปีสองและปีสามปะปนกันไป เนื่องจากเทอมที่แล้ววิชา Business English 1 มีปัญหา อาจารย์ที่ปกติก็มีสอนแทบจะไม่พออยู่แล้ว ดันมาลาออกพร้อมกันหลายคนอีก เลยทำให้เทอมที่แล้วมีเปิดให้ลงอยู่แค่ไม่กี่ตัว นักศึกษาปีสามส่วนใหญ่จึงได้มาเรียนกันในเทอมนี้
" พี่ลู่หาน " ไอลู่ที่ตั้งหน้าตั้งตาเถียงกับไอกัมจงอย่างเอาเป็นเอาตายเรื่องไร้สาระ ทั้ง ๆ ที่กางหนังสือภาษาอังกฤษไว้ตรงหน้า หันมาตามเสียงเข้มที่เอ่ยเรียกชื่อของตัวเองก่อนจะยิ้มแล้วทักกลับ
" อ้าว เซฮุนนนนนน "
" ใครวะ ไอลู่ "
" ไม่ต้องยุ่งซักเรื่องได้มั้ยครับคุณคิม "
" ใครวะไอยอล " เมื่อไม่ได้คำตอบจากเพื่อนหน้าหวาน คิมจงอินก็เลยต้องหันมาพึ่งเพื่อนตัวสูงที่กำลังนั่งมองหน้าคนที่เข้ามาทักไอลู่ด้วยความสงสัย
" น้องเขา … เป็นเพื่อนน้องตัวเล็กไม่ใช่หรอ "
" หะ น้องเขาอะไรนะมึง "
" น้องเขาเป็นน้องรหัสกูเองเพื่อนดำ ขี้เสือกจังโลย "
" ทำไมต้องด่าวะไอลู่ กูงอน " คนผิวเข้มพูดแล้วปิดหนังสือก่อนจะทำเป็นเดินสะบัดไปหาเพื่อนอีกกลุ่มที่นั่งอยู่หน้าห้องแทน ลู่หานที่โดนเพื่อนสนิททำท่าแบบนั้นใส่ก็ได้แต่ส่ายหัวแล้วหันมาคุยกับน้องรหัสตัวสูงต่อ
" เราก็สอบบัสอิ้งวันหรอ "
" ใช่ครับ แล้วทำไมพี่ลู่สอบตัวนี้ล่ะ พี่ลู่ต้องเรียนบัสอิ้งทูแล้วไม่ใช่หรอ "
" เทอมที่แล้วมันมีปัญหา พี่ลงไม่ทันอ่ะ เพิ่งได้มาเรียนเทอมนี้ "
" อ๋อ ๆ … ว่าแต่ เพื่อนพี่ลู่มองผมทำไมอ่ะ " คนตัวสูงถามลู่หานด้วยเสียงเบา ๆ ข้างหู ก่อนที่คนตัวเล็กจะหันไปมองตามสายตาของรุ่นน้องตรงหน้า ก็เห็นว่าเพื่อนสนิทอีกคนที่ยังนั่งอยู่ กำลังมองจ้องเซฮุนอยู่จริง ๆ
" เห่ย ไอยอล เป็นอะไรเนี่ย มีอะไรวะ "
" หะ … อ๋อ เปล่า " ถึงจะตอบไปว่าเปล่าแต่ในสมองของชานยอลไม่ได้ว่างเปล่าไปด้วยเลย มีแต่คำถามกับเครื่องหมายเควชเช่นมาร์กเต็มไปหมด … ใช่หรือเปล่าวะ เพื่อนตัวเล็กหรือเปล่า จำหน้าไม่ได้ด้วยแฮะ เคยเห็นแต่ผ่าน ๆ ไม่ได้สังเกตซักที คุ้นว่าสูง ๆ จมูกโด่ง ๆ นะ
คุยกันได้ไม่นานก็ถึงเวลาที่ต้องเข้าห้องสอบ เซฮุนที่สอบห้องฝั่งตรงข้ามกับพี่รหัสของตัวเองเลยต้องบอกลา แยกย้ายกันเพื่อเข้าห้องไปสอบ ระหว่างที่เซฮุนเดินกลับไปที่หน้าห้อง หยิบของเตรียมตัวจะสอบ ลู่หานก็หันไปเห็นว่าเพื่อนสนิทตัวสูงของเขาเอาแต่มองตาม จนเขาอดความสงสัยไว้ไม่อยู่ ต้องถามออกไป
" มึงเป็นอะไร ชอบน้องรหัสกูหรือไงมองอยู่นั่น "
" บ้าหรอวะ "
" มึงดิบ้า มองหาใครเนี่ย " คนตัวเล็กพูดพร้อมกับใช้มือข้างหนึ่งกดไหล่ของชานยอลไว้แล้วสอดส่องสายตาไปตามเพื่อน
" ไม่ได้มองหาใครซะหน่อย เข้าห้องได้แล้ว เดี๋ยวก็สอบไม่ทันหรอก "
" เข้าช้า เข้าเร็ว ผลสอบกูก็เหมือนเดิมอยู่ดีแหละ ฮือ "
ชานยอลเห็นท่าทางของเพื่อนแบบนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปเพราะในหัวเขามีแต่คำว่า ' สมน้ำหน้าหวะไอลู่ มัวแต่เล่นอยู่นั่นแหละ ' เต็มไปหมด จะพูดออกไปก็เกรงใจ เห็นแก่ความเป็นเพื่อนที่เรามีให้กันมาอย่างยาวนาน แต่จริง ๆ แล้วเกรงใจตัวเองมากกว่า มีเพื่อนอยู่แค่สองคน ปากหมามาก ๆ เพื่อนทนไม่ไหว อาจจะกลายเป็นตัวคนเดียวโดยอัตโนมัติได้
.
แบคฮยอนเดินออกมาจากห้องสอบ หยิบหนังสือแล้วเดินไปนั่งรอเพื่อนสนิทตัวสูงที่หน้าห้องสอบอีกห้อง เพราะรหัสนักศึกษาของเขากับเซฮุนห่างกันคนละโยด ก็เลยโดนแยกห้องสอบกันแบบนี้เป็นเรื่องปกติ คนตัวเล็กได้แต่นั่งเลื่อนหน้าจอโทรศัพท์ดูอะไรไปเรื่อยเปื่อย ถ้านับตั้งแต่เข้าห้องสอบมาจนถึงตอนนี้ก็ผ่านไปแค่ชั่วโมงกว่า ๆ เลยทำให้ข้างนอกค่อนข้างเงียบ ไม่มีใครเขาออกมาตอนนี้หรอก นอกจากบยอนแบคฮยอนเนี่ยแหละ
นั่งคิดเรื่องสอบวนไปวนมา จนนึกขึ้นได้ว่าพี่ชานยอลของเขา ( ในอนาคต ) ก็สอบวิชานี้ด้วยเหมือนกัน ไม่รู้ว่าจะออกมาจากห้องสอบหรือยัง … เอ๊ะ ! สอบวิชาเดียวกัน ก็ต้องสอบห้องใดห้องหนึ่งในชั้นนี้หนะสิ สอบห้องเดียวกับไอฮุนเปล่าวะ ลุกไปส่องหน้าต่างได้มั้ย อาจารย์จะหาว่าทุจริตหรือเปล่า
" ไอแบค "
" เห้ย ไอฮุนนนนนนนนน "
" ทำไมออกมาเร็วจังวะ กูว่ากูเร็วแล้วนะเนี่ย "
" ทำไม่ได้อ่ะดิวะ ไม่รู้จะนั่งทำไมเลยรีบมั่วรีบออก "
" ไองั่งเอ้ย "
" เออ ก็พูดได้ดิ มึงเก่งอังกฤษอ่ะ ! "
" พี่ชานยอลมึงสอบอยู่ห้องตรงข้ามอ่ะ "
" หะ ตรงข้ามไหน ข้างหลังกูเนี่ยนะ "
" เออสิ "
" จริงดิ อยากเจอหวะ รอได้มั้ยยยยยยย "
" มึงกลัวเขาไม่รู้หรือไง นั่งรอเขาเนี่ย "
" เออหวะ มันจะน่าเกลียดไปเนอะ "
" น่าเกลียด "
" ฮือ กลับก็ได้ ไว้ค่อยทักไปคุยในไลน์ "
" เออดี ปะ กลับไปนอนเหอะ "
คนตัวสูงพูดแล้วยกแขนขึ้นมาพาดไหล่เพื่อนตัวเล็ก ออกแรงลากนิดหน่อยให้เดินเพื่อจะได้กลับห้อง แบคฮยอนยอมเดินตามแรงดันของเซฮุน แต่ก็หันไปจ้องประตูห้องสอบฝั่งตรงข้ามไม่วางตา พร้อมกับปากเล็ก ๆ ที่ยื่นออกมาด้วยความเสียดาย
.
" นี่ กัมจงหน้าตาคนที่เขาได้เต็มต้องเป็นแบบนี้ ! "
" ไหน ๆ "
" แบบพี่ชานกูนี่ไง เป็นไงล่ะ ท่าเดินยังเท่ "
" ทำได้เหี้ยไรวะ มั่วสัด "
" พูดงี้อีกละ กูไม่เชื่อหรอก เกลียดมึง "
" กูก็ไม่เชื่อมึงหรอกโว้ยยยยยยย ! "
" เรื่องของพวกมึง " หลังจากเข้าห้องสอบไปได้ไม่นาน ลู่หานก็เดินออกมา ตามมาด้วยจงอิน วิชาภาษาอังกฤษหรอ เฮลโหล ให้ผมสองคนนั่งนาน ๆ ไปก็เท่านั้น ออกไปนั่งเล่นนอกห้องสอบน่าจะดีซะกว่า แต่ลู่หานกับจงอินนั่งเล่นก็แล้ว นอนเล่นก็แล้ว เถียงกันจนเบื่อแต่เพื่อนอีกคนก็ยังไม่ออกมาซักที จนในที่สุดหันไปมองตามเสียงประตูเปิด เห็นว่าเป็นใบหน้าหล่อ ๆ ของเพื่อนเขาซักที ด้วยความดีใจมากไปหน่อยหมาในปากมันก็เลยทำหน้าที่ตะโกนแซวเพื่อนไปแบบนั้น
" เพื่อนชานหาอะไรครับ บอกมาเลย เดี๋ยวกูช่วย "
" เออ มือหยิบหนังสือใส่กระเป๋า แต่ตามึงไม่ได้อยู่ที่กระเป๋าเลยนะ "
" เปล่า "
" เปล่าพ่อง ก็เห็นอยู่ "
" ใช่ เปล่าพ่อง เพราะกูก็เห็น "
" น้องรหัสมึงเรียนบัสอิ้งวันเหมือนเราใช่ปะวะไอลู่ ? "
" เย่สเซ่อ "
" แล้วน้องเขาสอบห้องนั้นหรอ ? " เจ้าของใบหน้าหล่อถามพร้อมกับพยักหน้าไปทางห้องฝั่งตรงข้าม
" ถูกต้องครับเพื่อน "
" แล้วเขาออกมายัง "
" ไม่เห็นเลยหวะ แต่ฮุนก็ดูขยันอยู่นะ น่าจะออกมาช้า "
" มึงชอบน้องเขาหรือไงไอยอล "
" ก็เหี้ยแล้ว กูแค่สงสัยอะไรเฉย ๆ "
" สงสัยอะไร ไหนพูด "
" ช่างมัน ไม่มีอะไรหรอก กลับเหอะ กูอยากนอน "
" สาด อย่ามาเปลี่ยนเรื่องดิ "
" มึงไม่ง่วงหรือไงกัมจง "
" ง่วง แต่ … "
" แต่มึงอยากเสือ.กมากกว่า ? มีเพื่อนดำ ๆ นิสัยแบบมึงบางทีกูก็ลำบากใจนะ พูดตรง ๆ "
" เชี้ยลู่ "
" อ้าก ไอยอล ช่วยด้วยยยยยยยยยย "
คนโดนเรียกชื่อด้วยเสียงดัง ๆ ได้แต่ส่ายหัวให้กับเพื่อนทั้งสองคนที่โตแต่ตัว สมงสมองพวกมึงไม่ได้ขยายตามตัวเลยใช่มั้ย ดีนะที่กูเข้าใจ ไม่เป็นไรปล่อยให้มันวิ่งไล่กันไปนั่นแหละดีอยู่แล้ว จะได้ไม่ต้องมายุ่งกับความคิดเขามากนัก … ก็น่าจะสอบห้องนี้หนิ แต่ทำไมไม่เห็นเจอตัวเล็กเลยล่ะ
.
แบคฮยอนนี่ : ฮัลโหลลล
ชานยอล : ว่าไงงงงง
แบคฮยอนนี่ : สอบอังกฤษเป็นไงบ้าง ยากอ่ะ เรามั่วไปเต็มเลย
ชานยอล : พอกันเลย พี่ก็มั่ว ๆ ไป 5555
แบคฮยอนนี่ : อ๋อออ 5555
ชานยอล : วันนี้เราสอบห้อง 2306 หรือเปล่า
แบคฮยอนนี่ : เปล่านะ เราสอบ 2302 อ่ะ
ชานยอล : อ๋อ ไม่น่าล่ะ
ชานยอล : เหมือนพี่จะเจอเพื่อนเรา แต่ไม่เห็นเรา เลยถามดู
แบคฮยอนนี่ : เซฮุนหรอ ? สอบกันคนละห้องอ่ะ รหัสเราอยู่แรก ๆ
ชานยอล : อ๋อ ๆ
นั่งพิมพ์ไป ยิ้มให้โทรศัพท์ไปจนเพื่อนตัวสูงที่เพิ่งตื่น เดินออกมายืนพิงประตูมองอยู่ตั้งนานแล้ว คนตัวเล็กก็ยังไม่เห็นซักที ไม่ใช่ว่าเซฮุนไม่รู้ว่าเพื่อนของเขาคุยอยู่กับใคร ถึงได้เอาแต่ยิ้มหน้าบานแบบนั้น แต่อยากรู้ว่าคุยอะไรเลยเดินเข้าไปนั่งเนียนข้าง ๆ แล้วลองถามดู
" คุยกับใครวะ พี่ชานยอลหรอ "
" อื้อ :D "
" แหม มองกูบ้างก็ได้มั้ง มองแต่โทรศัพท์ "
" อะไรเล่า "
" ไหนดูดิ้ คุยอะไรบ้าง ทำไมต้องยิ้มขนาดนั้น " คนหัวยุ่งเพราะเพิ่งตื่นนอนพูดพร้อมกับเอื้อมมือเข้าไปคว้าโทรศัพท์ของเพื่อนตัวเล็กที่นั่งอยู่บนโซฟาข้าง ๆ มาดู
" มึง ๆ เขาถามแบบนี้ แปลว่าเขามองหากูอ่ะดิ ใช่ปะ ๆ "
" น้อย ๆ หน่อย " แบคฮยอนถามพร้อมกับยิ้มหน้าบาน ใช้หัวไถไปกับต้นแขนแกร่งของเพื่อนสนิท ทำหน้าเพ้อฝันราวกับสิ่งที่ตัวเองสันนิษฐานเป็นความจริง เซฮุนเลยต้องห้ามความมโนของคนตัวเล็กแล้วผลักหัวทุย ๆ นั้นออกจากไหล่
" หู่ยยยยยยยยยยย "
" แต่ตอนกูเข้าไปทักพี่ลู่ พี่ชานยอลเขาก็จ้องกูนะ ตอนกูแยกกับพี่ลู่เขาก็มองตาม กูหันไปมองเขาแว้บนึงก็เห็นเหมือนมองหาใครอยู่ "
" จริงอ่ะ ! "
" กูบอกว่ามองหาใครอยู่ ไม่ได้บอกว่า มองหาบยอนแบคฮยอน อยู่ซักหน่อย "
" :( "
" แต่ก็คงมองหามึงแหละ ถ้าในแชทเขามาพูดแบบนี้ "
" เนอะ ๆ :D "
" สบายใจแล้วใช่ปะ ต้มรามยอนให้กินหน่อย หิว "
" ทั้งหมดที่พูดมานี่เอาใจกูเฉย ๆ ใช่ปะ "
" เปล่า พูดตามที่เห็นและการคาดเดา "
" … "
" เร็ว ๆ หิววววววววววว ! "
" เออออออออ " แบคฮยอนยอมลุกขึ้นเพราะโดนเพื่อนสนิทจับไหล่ทั้งสองข้างดันให้เดินไปที่เตา ก่อนจะได้รับการอำนวยความสะดวกจากคนตัวสูงด้วยการหยิบผ้ากันเปื้อนมาคล้องคอแล้วผูกให้ที่ด้านหลัง
" แค่ต้มรามยอนไม่ต้องใส่ก็ได้มั้ง "
" น่ารักดีออก นาน ๆ ทีใส่ไปเถอะ "
แบคฮยอนตอบเพื่อนด้วยการยักไหล่ให้นิดหน่อย ไหน ๆ ก็ใส่ไปแล้วคนตัวเล็กก็เลยยอม ๆ ไม่เอาออก ตามที่เพื่อนฮุนต้องการแล้วหันหน้ากลับไปที่เตาหยิบรามยอนมาต้มสองห่อ และเพราะมัวแต่ยุ่งอยู่กับการทำอาหาร แบคฮยอนเลยไม่ได้เห็นว่าตอนนี้เซฮุนเอาแต่นั่งมองตนด้วยสายตาแบบไหนอยู่.
_______________
ขอบคุณทุกคนมากนะที่เข้ามาอ่าน
รออ่านคอมเม้นอยู่ด้วยแหละ ยักษ์ ♡
ความคิดเห็น